Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ
-
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.24 น.
40 ตอน
0 วิจารณ์
34.18K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) บทที่3 เขาชอบเธอ (3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่3 เขาชอบเธอ (3)
เช้าตรู่หิมะตกลงในเมือง B อย่างช้าๆ ไม่เหมือนเมืองA ที่ถูกหิมะปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ เกล็ดหิมะนำมาซึ่งความรู้สึกโรแมนติกและเด็ดเดี่ยว อีกทั้งยังทำให้ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว หิมะสีขาวอันเล็กๆ ร่วงลงมาจากฟากฟ้า
“ทำไมถึงเป็นพี่ล่ะพี่เจี้ย” อี้เป่ยซีมองไปที่ด้านหลังของเขา คิดว่าบางทีร่างที่คุ้นเคยอาจจะปรากฏสู่สายตาในวินาทีต่อมา มือน้อยๆ ที่กำไว้แน่นมีเหงื่อซึมบางๆ
“ไม่อยากให้เป็นพี่เหรอ?” เจี้ยรับกระเป๋าเดินทางของเธอมา ทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันไป
เธอดึงสายตาตัวเองกลับ ส่ายศีรษะอย่างผิดหวังเล็กน้อย “เปล่านี่”
“เป่ยซี ปากเธอเป็นอะไร”
อี้เป่ยซีกัดปากตัวเอง ทำเป็นพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า“ไม่มีอะไร แค่อากาศแห้งไปหน่อย”
เจี้ยพยักหน้า จัดวางกระเป๋าอย่างว่องไว ลูบๆ หัวเธอด้วยความเอ็นดู “โตขนาดนี้แล้วยังไม่รู้จักดูแลตัวเองดีๆ อีก”
“พี่เป่ยเฉินไม่มาจริงเหรอ?”
“เมื่อวานทำให้เขาโกรธขนาดนั้น ยังอยากจะให้เขามารับเธออีกเหรอ?”
“ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่…”อี้เป่ยซีกัดปากตัวเองอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ดวงตาที่แจ่มชัดเจือความเศร้าโศกที่ต่างออกไป กลิ่นอายของความทุกข์ใจแผ่ออกมาเจือจาง แม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็ยังบีบหัวใจคน
บางทีความโศกเศร้าที่หลงเหลือผ่านกาลเวลาเช่นนี้ต่างหากคือสิ่งที่ทำให้คนเราทุกข์ใจที่สุด แม้จะเบาบางและปรากฏตัวเป็นบางครั้ง ก็ยังคงวนเวียนในหัวใจไม่จากไปไหน และค่อยๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเรา ในขณะที่เรากำลังยิ้มหรือกำลังครุ่นคิด มันจะลงมือในฉับพลัน หมดหนทางหลบซ่อน…
“เป่ยซี พอแล้ว อย่าคิดเลย” มือของเจี้ยโบกไปมาด้านหน้าเธอ ทำให้เธอดึงความคิดกลับมา อี้เป่ยซีพยักหน้าอย่างเหม่อลอย
“ฉันรู้น่าพี่เจี้ย” รอยยิ้มบางเผยบนใบหน้าของเธอ ราวกับพระอาทิตย์ในฤดูหนาว ส่องสว่างได้ทั่วทั้งท้องฟ้าแต่กลับไม่มีความอบอุ่นใดๆ เธอสูดหายใจลึก เหมือนกับว่าได้ตัดสินใจบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ จากนั้นก้าวเข้าไปในรถ
อี้เป่ยซีหันหน้ามองนอกหน้าต่าง ถนนที่ผู้คนบางตาดูเย็นเยือกเป็นพิเศษ เกล็ดหิมะถูกลมพัดหมุนอยู่กลางอากาศ รถทำให้อาคารเบื้องหน้าเคลื่อนที่ไปข้างหลังอย่างรวดเร็วและมั่นคง มันผ่านไปแล้วอี้เป่ยซี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่กลับมาอีกแล้ว เธอหัวเราะเยาะตัวเอง พิงอยู่ข้างหน้าต่างอย่างอ่อนล้า รู้สึกเหนื่อยอยู่บ้างจริงๆ
เจี้ยมองดูท่าทางของอี้เป่ยซีจากกระจกมองหลัง รู้สึกปวดใจเล็กน้อย จึงเปิดเพลงโปรดของเธอในอดีต ทำนองคลาสสิกเรียบง่ายดังขึ้นภายในรถ น้ำเสียงผ่อนคลายของนักร้องบรรเทาความเศร้าโศกเมื่อครู่ทีละน้อยๆ อี้เป่ยซีหลับตาลง สะลึมสะลือเข้าสู่ความฝัน
รถขับมาด้วยความเร็วสูง มาหยุดอยู่ในวิลล่าของเขตชานเมือง
“หลับไปแล้ว” ชายหนุ่มที่สวมชุดลำลองคนหนึ่งเดินออกมา ก้าวเท้าอย่างรีบเร่ง เขาอุ้มเธอออกมาอย่างระมัดระวัง ใบหน้ามีความสุขราวได้ของที่หายไปกลับคืน
“นายไม่ได้ไป เขาไม่มีความสุขเอาซะเลย” เจี้ยยิ้มเอ่ย
“เขาไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ยังวางใจไม่ได้เท่าไร” เจี้ยนึกถึงความเศร้าโศกในดวงตาคู่สวยพลางพูดเบาๆ อี้เป่ยเฉินเงียบไป มือออกแรงมากกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัวจนคนในอ้อมแขนขยับกาย
“พี่” เสียงที่ยังงัวเงียดังเข้าหูของอี้เป่ยเฉิน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ยินเธอเรียกเขาแบบนี้ มุมปากเขายกยิ้มน้อยๆ“อือ พี่อยู่นี่”
“งั้นฉันไม่รบกวนพวกนายแล้ว ฉันกลับก่อนนะ”
อี้เป่ยเฉินพยักหน้าให้ เจี้ยบอกลาพวกเขาสองคนเสร็จก็ขับรถจากไปแล้ว
“เป่ยซี” อี้เป่ยเฉินวางเธอลงบนโซฟา ยกมือขึ้นสัมผัสบาดแผลบนปากเธอเบาๆ อี้เป่ยซีรู้สึกเพียงแค่มีกระแสไฟฟ้าไหลมา สติที่สับสนแจ่มชัดในฉับพลัน หูแดงระเรื่อเล็กน้อย
หลังจากผ่านไปนาน อี้เป่ยเฉินจึงค่อยดึงมือตัวเองกลับ “กินโจ๊กหน่อยเถอะ แล้วเดี๋ยวค่อยไปนอนต่อในห้อง” เขาหันกลับมามองปลายนิ้วตัวเองด้วยความมึนงงเล็กน้อย รอยยิ้มกว้างกว่าเดิม
อี้เป่ยซีคว้าหมอนอิงด้านข้างมากอดไว้ สงบลมหายใจที่ข่มเอาไว้สุดกำลังเมื่อครู่ ริมฝีปากดูเหมือนยังคงมีกลิ่นอายสดชื่นจากตัวเขา อี้เป่ยซี...เธอนี่ช่างไม่สงบเสงี่ยมเอาซะเลย
เธอรู้สึกหงุดหงิดใจ ไม่ได้เรื่องจริงๆ แค่เขาโดนตัวนิดเดียวหน้าก็ร้อนผ่าวขนาดนี้…อี้เป่ยซีนอนแผ่อยู่บนโซฟาอย่างหมดท่าเหมือนแมวขี้เกียจตัวหนึ่ง
เมื่อกลิ่นหอมจางๆ จากห้องครัวลอยวนเวียนอยู่ในอากาศ อี้เป่ยซีถึงรู้สึกว่าในท้องว่างเปล่า เธอลุกขึ้นนั่งอย่างอึดอัด มองคนที่เดินเข้ามาด้วยอาการน้อยใจ
“เสร็จแล้ว ระวังร้อนนะ”
อี้เป่ยซีรับถ้วยมา กินโจ๊กที่หอมหวานอย่างจริงจังทีละคำๆ จนหมด และแอบมองอีเป่ยเฉินที่ทำงานอยู่ข้างตัวเองเป็นครั้งคราว แสงพลบค่ำอ่อนจางสาดส่องบนตัวเขา ทำให้เกิดแสงรัศมีเบาบาง ใบหน้าละเอียดอ่อนที่อยู่ใต้แสงอาทิตย์ยิ่งดูอบอุ่นกว่าเดิม แขนเสื้อถูกดึงขึ้นเล็กน้อยตอนทำอาหารเมื่อครู่ เส้นเลือดสีเขียวปรากฏให้เห็นจางๆ
อี้เป่ยเฉินรู้สึกได้ถึงสายตาของเธอ ทำงานในมือต่อไปอย่างอารมณ์ดี รู้สึกว่าทั้งโลกถูกเติมเต็มอีกครั้ง เขาชอบเธอ และรู้ตัวมาโดยตลอด…
------------
เช้าตรู่หิมะตกลงในเมือง B อย่างช้าๆ ไม่เหมือนเมืองA ที่ถูกหิมะปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ เกล็ดหิมะนำมาซึ่งความรู้สึกโรแมนติกและเด็ดเดี่ยว อีกทั้งยังทำให้ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว หิมะสีขาวอันเล็กๆ ร่วงลงมาจากฟากฟ้า
“ทำไมถึงเป็นพี่ล่ะพี่เจี้ย” อี้เป่ยซีมองไปที่ด้านหลังของเขา คิดว่าบางทีร่างที่คุ้นเคยอาจจะปรากฏสู่สายตาในวินาทีต่อมา มือน้อยๆ ที่กำไว้แน่นมีเหงื่อซึมบางๆ
“ไม่อยากให้เป็นพี่เหรอ?” เจี้ยรับกระเป๋าเดินทางของเธอมา ทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันไป
เธอดึงสายตาตัวเองกลับ ส่ายศีรษะอย่างผิดหวังเล็กน้อย “เปล่านี่”
“เป่ยซี ปากเธอเป็นอะไร”
อี้เป่ยซีกัดปากตัวเอง ทำเป็นพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า“ไม่มีอะไร แค่อากาศแห้งไปหน่อย”
เจี้ยพยักหน้า จัดวางกระเป๋าอย่างว่องไว ลูบๆ หัวเธอด้วยความเอ็นดู “โตขนาดนี้แล้วยังไม่รู้จักดูแลตัวเองดีๆ อีก”
“พี่เป่ยเฉินไม่มาจริงเหรอ?”
“เมื่อวานทำให้เขาโกรธขนาดนั้น ยังอยากจะให้เขามารับเธออีกเหรอ?”
“ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่…”อี้เป่ยซีกัดปากตัวเองอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ดวงตาที่แจ่มชัดเจือความเศร้าโศกที่ต่างออกไป กลิ่นอายของความทุกข์ใจแผ่ออกมาเจือจาง แม้เพียงเล็กน้อยแต่ก็ยังบีบหัวใจคน
บางทีความโศกเศร้าที่หลงเหลือผ่านกาลเวลาเช่นนี้ต่างหากคือสิ่งที่ทำให้คนเราทุกข์ใจที่สุด แม้จะเบาบางและปรากฏตัวเป็นบางครั้ง ก็ยังคงวนเวียนในหัวใจไม่จากไปไหน และค่อยๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเรา ในขณะที่เรากำลังยิ้มหรือกำลังครุ่นคิด มันจะลงมือในฉับพลัน หมดหนทางหลบซ่อน…
“เป่ยซี พอแล้ว อย่าคิดเลย” มือของเจี้ยโบกไปมาด้านหน้าเธอ ทำให้เธอดึงความคิดกลับมา อี้เป่ยซีพยักหน้าอย่างเหม่อลอย
“ฉันรู้น่าพี่เจี้ย” รอยยิ้มบางเผยบนใบหน้าของเธอ ราวกับพระอาทิตย์ในฤดูหนาว ส่องสว่างได้ทั่วทั้งท้องฟ้าแต่กลับไม่มีความอบอุ่นใดๆ เธอสูดหายใจลึก เหมือนกับว่าได้ตัดสินใจบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ จากนั้นก้าวเข้าไปในรถ
อี้เป่ยซีหันหน้ามองนอกหน้าต่าง ถนนที่ผู้คนบางตาดูเย็นเยือกเป็นพิเศษ เกล็ดหิมะถูกลมพัดหมุนอยู่กลางอากาศ รถทำให้อาคารเบื้องหน้าเคลื่อนที่ไปข้างหลังอย่างรวดเร็วและมั่นคง มันผ่านไปแล้วอี้เป่ยซี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่กลับมาอีกแล้ว เธอหัวเราะเยาะตัวเอง พิงอยู่ข้างหน้าต่างอย่างอ่อนล้า รู้สึกเหนื่อยอยู่บ้างจริงๆ
เจี้ยมองดูท่าทางของอี้เป่ยซีจากกระจกมองหลัง รู้สึกปวดใจเล็กน้อย จึงเปิดเพลงโปรดของเธอในอดีต ทำนองคลาสสิกเรียบง่ายดังขึ้นภายในรถ น้ำเสียงผ่อนคลายของนักร้องบรรเทาความเศร้าโศกเมื่อครู่ทีละน้อยๆ อี้เป่ยซีหลับตาลง สะลึมสะลือเข้าสู่ความฝัน
รถขับมาด้วยความเร็วสูง มาหยุดอยู่ในวิลล่าของเขตชานเมือง
“หลับไปแล้ว” ชายหนุ่มที่สวมชุดลำลองคนหนึ่งเดินออกมา ก้าวเท้าอย่างรีบเร่ง เขาอุ้มเธอออกมาอย่างระมัดระวัง ใบหน้ามีความสุขราวได้ของที่หายไปกลับคืน
“นายไม่ได้ไป เขาไม่มีความสุขเอาซะเลย” เจี้ยยิ้มเอ่ย
“เขาไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ยังวางใจไม่ได้เท่าไร” เจี้ยนึกถึงความเศร้าโศกในดวงตาคู่สวยพลางพูดเบาๆ อี้เป่ยเฉินเงียบไป มือออกแรงมากกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัวจนคนในอ้อมแขนขยับกาย
“พี่” เสียงที่ยังงัวเงียดังเข้าหูของอี้เป่ยเฉิน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ยินเธอเรียกเขาแบบนี้ มุมปากเขายกยิ้มน้อยๆ“อือ พี่อยู่นี่”
“งั้นฉันไม่รบกวนพวกนายแล้ว ฉันกลับก่อนนะ”
อี้เป่ยเฉินพยักหน้าให้ เจี้ยบอกลาพวกเขาสองคนเสร็จก็ขับรถจากไปแล้ว
“เป่ยซี” อี้เป่ยเฉินวางเธอลงบนโซฟา ยกมือขึ้นสัมผัสบาดแผลบนปากเธอเบาๆ อี้เป่ยซีรู้สึกเพียงแค่มีกระแสไฟฟ้าไหลมา สติที่สับสนแจ่มชัดในฉับพลัน หูแดงระเรื่อเล็กน้อย
หลังจากผ่านไปนาน อี้เป่ยเฉินจึงค่อยดึงมือตัวเองกลับ “กินโจ๊กหน่อยเถอะ แล้วเดี๋ยวค่อยไปนอนต่อในห้อง” เขาหันกลับมามองปลายนิ้วตัวเองด้วยความมึนงงเล็กน้อย รอยยิ้มกว้างกว่าเดิม
อี้เป่ยซีคว้าหมอนอิงด้านข้างมากอดไว้ สงบลมหายใจที่ข่มเอาไว้สุดกำลังเมื่อครู่ ริมฝีปากดูเหมือนยังคงมีกลิ่นอายสดชื่นจากตัวเขา อี้เป่ยซี...เธอนี่ช่างไม่สงบเสงี่ยมเอาซะเลย
เธอรู้สึกหงุดหงิดใจ ไม่ได้เรื่องจริงๆ แค่เขาโดนตัวนิดเดียวหน้าก็ร้อนผ่าวขนาดนี้…อี้เป่ยซีนอนแผ่อยู่บนโซฟาอย่างหมดท่าเหมือนแมวขี้เกียจตัวหนึ่ง
เมื่อกลิ่นหอมจางๆ จากห้องครัวลอยวนเวียนอยู่ในอากาศ อี้เป่ยซีถึงรู้สึกว่าในท้องว่างเปล่า เธอลุกขึ้นนั่งอย่างอึดอัด มองคนที่เดินเข้ามาด้วยอาการน้อยใจ
“เสร็จแล้ว ระวังร้อนนะ”
อี้เป่ยซีรับถ้วยมา กินโจ๊กที่หอมหวานอย่างจริงจังทีละคำๆ จนหมด และแอบมองอีเป่ยเฉินที่ทำงานอยู่ข้างตัวเองเป็นครั้งคราว แสงพลบค่ำอ่อนจางสาดส่องบนตัวเขา ทำให้เกิดแสงรัศมีเบาบาง ใบหน้าละเอียดอ่อนที่อยู่ใต้แสงอาทิตย์ยิ่งดูอบอุ่นกว่าเดิม แขนเสื้อถูกดึงขึ้นเล็กน้อยตอนทำอาหารเมื่อครู่ เส้นเลือดสีเขียวปรากฏให้เห็นจางๆ
อี้เป่ยเฉินรู้สึกได้ถึงสายตาของเธอ ทำงานในมือต่อไปอย่างอารมณ์ดี รู้สึกว่าทั้งโลกถูกเติมเต็มอีกครั้ง เขาชอบเธอ และรู้ตัวมาโดยตลอด…
------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ