Trap Evil กับดักร้อน กับดักร้าย

-

เขียนโดย Piano_sp

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 08.34 น.

  20 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 08.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) Trap Evil : 09

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
 
09
 
 
‘ส่วนมึง อย่ายุ่งกับน้องกูอีก’
น้องเหรอ แสดงว่าที่ผ่านมาผมเข้าใจผิดว่าบุหลันเป็นแฟนของไอ้พันแสงอะไรนั่นหรอกเหรอ หึ คิดแล้วสมเพชตัวเองชะมัดที่เอาแต่หงุดหงิดที่รู้ว่ายัยนั่นอยู่กับไอ้พันแสง บุหลันเหรอ ชื่อนี้ผมจำขึ้นใจเลยละ หลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้าเธอมาเป็นอาทิตย์ ซึ่งปกติแล้วผมจำผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมไม่ค่อยจะได้หรอก แต่ผมยอมรับตามนิสัยของผู้ชายว่าต้องมีบ้างเรื่องผู้หญิง ถึงผมจะมีมากกว่าผู้ชายปกติทั่วไปอะนะ
แต่สำหรับบุหลัน ผู้หญิงคนนี้ทำให้ผมลืมไม่ลงว่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเอ๋อของเธอหรือว่าอะไรที่มันทำให้ผมยากที่จะลืม ชอบหรอ คำนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับคนอย่างผมแน่นอน ผมแค่รู้สึกสนใจและอยู่ด้วยแล้วสบายใจแปลกๆก็แค่นั้นเอง
“หึ”
ผมยิ้มอย่างนึกสมเพชตัวเอง ก่อนที่จะเอื้อมมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากตัวเองเบาๆ รสชาติหวานๆยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นอยู่เลย ยัยนี่เป็นสิ่งเสพติดหรือไงถึงทำให้ผมรู้สึกกระหายอย่างไม่เคยเป็นแบบนี้ และที่ผมบอกว่าไม่อยากเห็นหน้าเธอเพราะว่าผมหงุดหงิดหัวใจตัวเองที่เต้นผิดจังหวะอยู่ตลอด ทั้งที่ตอนนั้นก็เข้าใจผิดว่าบุหลันเป็นแฟนของไอ้พันแสง ผมไม่ชอบคนที่มีเจ้าของแต่หัวสมองผมตอนนั้นคิดแต่วิธีที่จะแย่งผู้หญิงคนนั้นมาเป็นของผมให้ได้ 
แต่แล้วความรู้สึกดีใจไม่รู้ว่ามาจากไหนก็ถาโถมเข้ามาหลังจากที่รู้ว่าไอ้พันแสงเป็นแค่พี่ เอาล่ะ ต่อไปผมจะใช้วิธีไหนดีที่จะแยกยัยนั่นออกจากไอ้พันแสงได้
บุหลัน Talk
“ไอ้เหี้ย นั่นมันเป็นใคร”
พันแสงยังคงซักถามหาคำตอบไม่หยุด ทั้งๆที่เรื่องพวกนั้นมมันก็ผ่านไปได้สักพักแล้ว แต่ดูเหมือนว่าหมอนี่จะยังอยากไม่ยอมจบกับเรื่องนี้ง่ายๆ เฮ้อ ให้ตายสิ พันแสงนี่ก็อยากรู้ไปซะทุกเรื่องจริงๆเลย
“จะใครมันก็เรื่องของฉัน”
ฉันตอบกลับเสียงห้วนเพราะยังรู้สึกเคืองคนข้างๆอยู่ และตอนนี้เรากำลังเดินกลับไปที่โต๊ะประจำของฉันเพื่อที่จะได้ไปเอาของที่ฉันวางไว้อยู่บนโต๊ะโดยมีมิลานั่งเฝ้าอยู่
“ชิ นี่จะงอนยันชาติหน้าหรือไง”
พันแสงตัดพ้อเสียงเบา ขอบอกเลยเวลาฉันโกธรนะ ฉันหายโกรธยากนะบอกเลย ถึงฉันจะเอ๋อก็เถอะ
“บุหลัน จะงอนฉันไปถึงไหน”
เสียงของพันแสงก็ยังคงตามหลอกหลอนฉันอยู่ไม่จางหาย ส่วนฉันก็เอาแต่เงียบเพราะขี้เกียจจะคุยกับเขา แต่เอาจริงๆตอนนี้ฉันงอนเขาอยู่ เคนะ
“เฮ้อ คนเขาอุตส่าห์ใจดีมารับที่มหาลัย กะว่าจะพาแวะซื้อน้องหมาเสียหน่อย”
พรึง!
คำว่าน้องหมาเมื่อกี้ทำเอาฉันหูผึงทันที ก่อนที่ฉันจะหันไปมองหน้าพี่ชายตัวเองอย่างไม่เชื่อหูกับเรื่องที่เขาพึ่งเอ่ยขึ้นมาเมื่อกี้
“จริงนะ”
ฉันรีบไปเกาะแขนพันแสงทันทีพร้อมกับทำหน้าแบบดีใจสุดๆ ก็ช่วงนี้ฉันบ่นว่าอย่างได้น้องหมามาเลี้ยง แต่พันแสงก็ขัดฉันตลอดไม่คิดเลยว่าวันนี้ของฉันจะมาถึง
“หายงอนยัง”
“หายแล้ว”
ฉันรีบตอบทันที ก็ฉันไม่ได้งอนอะไรมากเลย แต่ถ้าหายเร็วมันก็ผิดปกติสิจริงไหม
“ยัยบื่อเอ๊ย”
พันแสงยิ้มออกมาแล้วก็ขยี้หัวฉันด้วยความหมั่นไส้จนหัวฉันยุ่งหมดเลย ตอนนี้ให้อภัยเพราะตอนนี้เรื่องของน้องหมาสำคัญสุด
“รักนายก็วันนี้แหละ”
“ไม่ต้องมาอ้อน ยังไงก็ซื้อให้อยู่แล้วแหละ”
นี่แหละเนอะพี่น้องกัน ไม่ควรทะเลาะกัน
“อ้าว บุหลันกลับมาแล้วเหรอ”
เสียงของมิลากล่าวทักหลังจากที่เห็นฉันเดินมาถึงโต๊ะประจำ มิลาเลยเลิกสนใจโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของตัวเองแล้วหันมามองหน้าของพันแสงแทน หน้าของมิลาแสดงเครื่องหมายคำถามอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นบุคคลทีี่เดินมากับฉัน
“นี่ พันแสง”
ฉันกล่าวแนะนำพันแสงให้มิลาได้รู้จัก
“หวัดดีค่ะ มิลาค่ะเพื่อนสนิทของบุหลัน”
มิลาพูดขึ้นด้วยความประหม่าเล็กน้อย พร้อมกับเอื้อมมือมาดึงแขนฉันแล้วกระซิบมาว่า
“ไม่เห็นแกเคยบอกฉันเลยว่ามีพี่ชายหล่อขนาดนี้”
มิลากระซิบพร้อมกับมองหน้าพันแสงแล้วก็ยิ้มนิดๆอย่างอายๆ
“มิลาเหรอ คนนี้นี่เอง”
พันแสงพูดแล้วก็ส่งยิ้มให้มิลาแต่ฉันรู้ว่าพันแสงกำลังคิดอะไรอยู่ในหัวของเขา คนอย่าพันแสงคงไม่คิดอะไรไปไกลนอกจากเรื่องที่จะเอาคืนแฟนของมิราที่ทำเรื่องแบบนั้นกับฉันหรอก พันแสงนะเป้นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้นนะ
“พันแสง ไม่”
ฉันเลยเอ่ยปากห้ามไว้ก่อนฉันรู้นิสัยของคนเป็นพี่ดีว่าเขาร้ายแค่ไหน และตัวของฉันเองก็ไม่อยากให้ใครต้องมีเรื่องเพราะฉัน
“นิดเดียวเอง บุหลัน”
พันแสงกล่าวแล้วยิ้มออกมาเหมือนว่ามันเป็นเรื่องสนุก รอยยิ้มที่แสนร้ายกาจนั่นมีแค่ฉันคนเดียวสินะที่มองออกว่ามันมีความหมายยังไง ส่วนมิลาก็เอาแต่ทำหน้างงว่าพวกเราสองคนกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ แล้วจู่ๆฉันก็เห็นบุคคลที่ฉันไม่เห็นมานานเดินมาทางที่พวกเรานั่งอยู่ เตชินณ์ ยังไงละ
“มาแล้วเหรอเต”
มิลาหันไปทักทายแฟนตัวเองเสียงหวาน ส่วนฉันก็หันไปมองหน้าเตชินณ์ทันที แต่เตชินณ์กลับหลบตาฉัน พร้อมกับทำท่าทางลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่เป็นสุข ส่วนพันแสงกำลังยิ้มเย็นอยู่ตอนนี้แต่ใครจะรู้ละว่าเขาพร้อมที่จะเปิดคึกอยู่ตลอกเวลาแล้ว ฉันจะทำไงดีละทีนี้
“อะ อืม”
เตชินณ์ตอบพร้อมกับยิ้มให้กับมิลา
“ไม่เจอนานน่ะเตชินณ์”
ฉันกล่าวคำทักทายเพื่อไม่ให้เตชินณ์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้
“หวัดดี บุหลันสบายดีไหม”
“สบายมากเลยละ”
ไม่ใช่ฉันหรอกที่ตอบ แต่เป็นพี่ชายตัวดีของฉันไงที่ตอบแทน เตชินณ์หันมามองหน้าของพันแสงหลังจากที่พันแสงพูดจบ ทันทีที่เขาเห็นหน้าของพันแสงหน้าของเตชินณ์ก็ซีดลงทันที
“พันแสง”
“รู้จักฉันด้วยแฮะ”
ใช่ รู้จักพันแสงได้ไง
“ระ รู้สินายดังจะตาย”
เตชินณ์ตอบเสียงตะกุกตะกักแล้วก็หลบหน้าพันแสงพันวัน
“รู้จักฉันแล้วน่าจะรู้น่ะว่าไม่ควรยุ่งกับน้องสาวฉัน”
พันแสงกล่าวเสียงเย็นแล้วจ้องหน้าเตชินณ์เขม่ง ส่วนมิลาได้แต่นั่นเงียบเพราะเธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“น้องสาว”
เตชินณ์พึมพำแล้วก็เลือนสายตามามองหน้าฉัน แล้วก็เบิกตาโพรงเพราะความตกใจในเรื่องที่พึ่งรู้ไปเมื่อซักครู่นี้ เตชินณ์เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฉันสักอย่างเลย คงเป็นเพราะเหตุผลนี้มั้งเขาเลยกล้าที่จะทำแบบนั้น
“ฉันไม่รู้ว่าเป็นน้องสาวนาย”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน พวกนายพูดเรื่องอะไรกัน”
มิลากล่าวขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
“ไม่มีอะไรหรอก เล่นๆกันนะ กลับกันเถอะพัน”
ฉันหันไปบอกกับมิลาพร้อมกับดึงแขนของพันแสงให้ออกมาจากบริเวณนั้นทันที ฉันไม่อยากให้มิลากับเตชินณ์ต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ ฉันมีเพื่อนคนเดียวนะและฉันก็รักมิลามากด้วยอ่ะ
“ขอโทษนะบุหลัน ฉันผิดเองแหละ”
เตชินณ์กล่าวกับฉันพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูเหมือนจะเสียใจในเรื่องที่ทำจริงๆ ส่วนตัวฉันเองไม่ได้โกรธอะไรเขาเลยด้วยซ้ำ
“อือ ไม่เป็นไร”
ฉันกล่าวพร้อมกับยิ้มให้เตชินณ์เพื่อให้เขาสบายใจขึ้นมาบ้าง
“ได้ไง บุหลัน”
“กลับ”
พันแสงยังคงไม่ยอม ฉันเลยลากเขาออกมา ต่อไปคงเป็นน่าที่ของเตชินณ์ที่จะต้องอธิบายให้มิลาเข้าใจแล้วแหละ ไม่รู้ว่ามันว่าผลจะออกมาดีหรือเปล่าแต่ฉันก็จะเอาใจช่วยให้พวกเขาคุยกันดีๆ เพราะฉันรู้ดีว่ามิลาเป็นคนอารมณ์ร้อน
หลายวันต่อมา
หลังจากที่เรื่องอะไรต่อมิอะไรได้จบลงไป มิลาที่พึ่งรู้เรื่องก็รีบมาขอโทษฉันแทนแฟนของเธอทันที ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรอยู่แล้ว เราเลยหลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง สถานการณ์ตอนนี้เลยสงบสุขแปลกๆ และที่น่าดีใจที่สุดคือพันแสงไม่อยู่ บินไปเที่ยวกับเพื่อนที่เชียงใหม่อาทิตย์หนึ่ง อิสรภาพมาเยือนฉันแล้ว
“ออกไปไหนดีน้า”
ฉันบ่นพึมพำคนเดียวที่ห้องนั่งเล่นในคอนโดของตัวเอง ฉันแยกอยู่กับพันแสงเพราะว่าเราเรียนคนละมหาลัย เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่ากับที่พันแสงมีเพื่อนเยอะและเพื่อนของเขามีแต่คนเจ้าชู้ๆทั้งนั่น และทุกคนก็รู้ดีว่าพันแสงขี้ห่วงขนาดไหนกลุ่มพวกเขาชอบมาปาร์ตี้ห้องของพันแสงบ่อยและเขาก็ห่วงความปลอดภัยของฉันเวลาเพื่อนของเขาเมา นั่นแหละเลยเป็นสาเหตุที่เราแยกกันอยู่ แต่เขาก็มาหาฉันแทบจะเกือบทุกวันอยู่ดีนั่นแหละ
และตอนนี้ฉันก็ไม่ได้อยู่คนเดียวยังมีน้องหมาพันธุ์เฟรนบูลด็อกตัวผู้สีขาวด่างดำ ที่พันแสงสัญญาว่าจะซื้อให้นั่งเป็นเพื่อนอยู่ มันชื่อว่า เจ้ายักษ์ น่ารักใช่ไหมล่ะ
“ไปเดินเล่นดีกว่า”
ฉันตัดสินใจอย่างนั้นได้ก็ลุกขึ้นแต่งตัวไปข้างนอกทันที
ห้าง XXX
ฉันไม่ได้มาเที่ยวห้างคนเดียวนานแค่ไหนแล้วน่ะจำไม่ได้เพราะที่ผ่านมาก็มีคนมาด้วยตลอด เดินคนเดียวมันสงบอย่างนี้นี่เอง ขณะที่ฉันกำลังมองดูของเพลินๆสายตาของฉันก็พบเข้ากับเจ้าของร่างสูงที่มีผู้หญิงนมโตเกาะแขนเป็นชะนีห้อยต้นไม้อยู่ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครหรอก ภูเบศ ยังไงล่ะ
เราอยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่เลยทำให้คนที่ฉันมองอยู่เมื่อกี้หันมองมาทางนี้พร้อมกับมองมาอย่างไม่ล่ะสายตาไปไหนเลย
“เขามองอะไรน่ะ”
ฉันพึมพำพร้อมกับหันไปมองด้านหลังตัวเองว่ามีใครอยู่ด้านหลังหรือเปล่า ก็ไม่เห็นมี เขามองฉันเหรอ ตอนนี้ฉันได้แต่ทำหน้างงว่าคนที่อยู่ไม่ห่างฉันเท่าไหร่กำลังมองอะไร แล้วริมฝีปากสีสดก็พึมพำอะไรออกมา ฉันอ่านปากเขาได้ว่า
‘ฉันมองเธอยัยบื่อ’
พร้อมกับส่งสายตาที่เหมือนถ้าฆ่าฉันได้ด้วยสายตาฉันคงตายไปนานแล้ว ใครมันจะไปรู้ว่าเขามองมาที่ฉัน เฮ้อ ฉันทำอะไรมันก็ผิดไปหมดทุกอย่างเลยสินะ 
 
 
 
 
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา