ชีวิตของผมจะมีคนยุ่งมากไปแล้วนะ
8.0
เขียนโดย ionization
วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.45 น.
7 ตอน
1 วิจารณ์
6,853 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2563 15.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ...กับมือที่ล้ำค่า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"นี่เธอ....คนไม่รู้จักตอนนั้นนิ"
เจ้าหญิงหิมะ หันมาพูดกับเนรุด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เนรุเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เขาได้ช่วยเหลือในตอนนั้นจะเป็นคนที่สุดยอดขนาดนั้น
"อ่า....อืม..."
"เนรุคุงรู้จักกับเจ้าหญิงหิมะด้วยหรอ"
ด้วยความสงสัยของมิสึ จึงเอ่ยถามเนรุออกไป
"ก็ไม่ได้รู้จักกันหรอก พอดีว่า___"
"เรื่องเมื่อตอนนั้นขอบคุณมากเลย"
ยังไม่ทันที่เนรุจะตอบคำถามของมิสึ เจ้าหญิงหิมะ ก็ได้เอ่ยปากพูดขอบคุณเนรุในเรื่องที่เนรุเคยช่วยไว้
"อ่อ..ไม่เป็น__"
"ถึงจะรุนแรงไปหน่อย แต่นั้นก็เป็นครั้งแรกของชั้น"
"......??"
"......!!!!!!???"
ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่กับสิ่งที่เจ้าหญิงหิมะได้พูดออกมา นั่นรวมถึงเนรุเองก็ด้วย สีหน้าที่เรียบเฉยใสซื่อของเจ้าหญิงหิมะ
ไม่ได้ดูตอบสนอองกับที่ทุกคนตกใจกับสิ่งที่เธอพูดออกมาเลยแม้แต่น้อย
"ทะ...เธอพูดอะไรออกมาเนี่ยย"
"เนรุคุง!!!...ไปทำอะไรกับเธอมาเนี่ย!!เจ้าบ้า!!โรคจิต!!"
"ซาราดะคุง ชั้นก็พอรู้นะว่านายน่ะเป็นคนไม่เอาไหน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้นะเนี่ย!!"
"เข้าใจผิดแล้วโว้ยย!! ชั้นก็แค่ช่วย.."
"เขาช่วยชั้น ทำให้ชั้นไปนั่งทับเขาน่ะ"
เสียงที่พูดขึ้นแทรกของเจ้าหญิงหิมะได้แช่แข็งเนรุไปซะแล้ว เนรุรู้สึกเหมือนน้ำแข็งกำลังแตกสลาย
ดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่ไม่ระวังในการใช้คำพูดซักเท่าไหร่นัก ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดที่ใสซื่อนั้นจะทำให้คนที่อยู่ในงาน ต่างตกใจกับสิ่งที่เธอได้พูด
มิสึกิได้ถึงกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรแจ้งความกับตำรวจ และมิสึเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน ได้แต่ยืนตั่วสั่นหน้าแดงอยู่เท่านั้น
"สวัสดีค่ะ สำนักงานตำรวจใช่มั้ยคะ ค่ะ พอดีว่าที่นี่มีโรคจิตค่ะ"
"จะ..จะ..เจ้าบ้า!!ทำเรื่องอะไรแบบนั้นได้ยังไง ไอ้เจ้าโรคจิตเอ้ยย!!"
สิ้นเสียงคำต่อว่าของมิสึ หมัดขวาของมิสึก็ได้ชกเข้าใบหน้าของเนรุอย่างเต็มแรง ทำให้ร่างกายของเนรุกระเด็นไปถึงขั้นชนติดกับกำแพงเลยทีเดียว
เจ้าหญิงหิมะเดินไปหาเนรุที่กำลังติดกับกำแพง แล้วนั่งคุยกับเขา
"ไม่เป็นไรนะ"
"เธอน่ะ อย่าพูดอะไรกำกวมแบบนั้นสิ!!"
หลังจากนั้น เนรุในสภาพปางตายก็ได้อธิบายกับทุกคนว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้ทุกคนต่างก็เข้าใจ ปัญหาต่างๆจึงได้คลี่คลาย
งานแสดงศิลปะจบลง ทุกคนกลับไปเรียน ด้วยร่างกายของเนรุที่ถ้าให้ไปเรียนตอนนี้คงจะต้องไปโรงพยาบาลก่อนเป็นแน่
จึงทำให้เนรุต้องนั่งให้มิสึทำแผลที่ถูกมิสึชก และมิสึกิก็ได้ใช้อำนาจของประธานนักเรียนโทรศัพท์ไปบอกอาจารย์ประจำคาบนั้นเรียบร้อยแล้ว
"แหมม ก็น่าจะพูดให้เร็วกว่านี้หน่อยนะะ"
"ก็เธอนั้นแหละที่ไม่ฟัง!! ชกชั้นก่อนที่ชั้นจะได้พูด ยัยบ้า!"
"เป็นคนไม่เอาไหนอย่างเดียวสินะ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่เป็นอาชญากรสินะ เป็นโรคจิตที่ยังไม่ถึงกับขั้นกู่ไม่กลับสินะ"
"เห็นชั้นเป็นอย่างงั้นหรอ!! แล้วไอ้โรคจิตที่ยังไม่ถึงกับขั้นกู่ไม่กลับเนี่ย มันคืออะไรกันห๊ะ!!
"ต้องขอโทษด้วย คนไม่รู้จักคุง ชั้นเป็นคนใช้คำพูดไม่เก่งน่ะ"
"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ รุ่นพี่"
"รุ่นพี่?"
ทุกคนต่างทำหน้าฉงนกับสิ่งที่เนรุพูดออกมา
"นี่ ซาราะดะคุง คนนี้ไม่ใช่รุ่นพี่หรอกนะ"
"..? เอ๋??"
"คนนี้คือคุณ ฟุรุคาวะ ยูกิ นักเรียนห้องA ศิลปะ ชั้นม.5 น่ะ ถึงหน้าตาและร่างกายเธอจะดูเหมือนเด็กม.6ก็เถอะนะ"
"...!?"
เนรุได้ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินพลางหันไปที่ยูกิ ด้วยทาที่ที่แปลกใจ ยูกิเองก็มองตอบรับเนรุพร้อมกับเอียงคอทำท่าทางงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ราวกับจะถามเนรุว่า รุ่นพี่ที่ว่าเนี่ยใครหรอ ด้วยท่าทีของยูกิ เนรุจึงหันกลับ พร้อมกับหลับตาแล้วถินหายใจ
"เห้อ....ช่างมันละกัน"
"นี่ๆ คุณฟุรุคาวะ เอ่อ ยาวจังเลยย งั้นชั้นขอเรียก ยูกิจัง ได้หรือปล่าวเอ่ยย"
"เอ๋?...ได้สิ แต่ชั้นยังไม่รู้จักคุณเลย"
"เอ๋..งั้นก็ ชั้นชื่อ คาวะอิ มิสึ ส่วนตานี่ชื่อ ซาราะดะ เนรุ เป็นเพื่อนที่ไม่เอาไหนของชั้นน่ะ"
"เห้ย!! ที่ว่าไม่เอาไหนเนี่ยหมายความว่าไงห๊ะ!!"
"คนไม่รู้จักคุง ชื่อเนรุนี่เอง...งั้นชั้นเรียกเนรุคุงได้มั้ย"
"อ่า...อื่มจะเรียกอะไรก็เรียกเถอะนะ"
"เอ๋ จะเรียกอะไรก็เรียกสินะ ตาคนวิตถาร"
มิสึกิยิ้มหัวเราะพลางพูดหยอกล้อกับเนรุด้วยท่าทีที่กวนประสาท
"ชั้นไม่ได้หมายความว่าให้เธอเรียกชั้นอย่างนั้นนะ!! แล้ววิตถารเนี่ยมันยังไงกันแน่"
"อ่ะ..คนนั้น ประธานนักเรียน"
ยูกิมองไปที่มิสึกิพร้อมกับเอ่ยเรียก สมแล้วที่เป็นประธานนักเรียน ไม่มีใครคนไหนในโรงเรียนนี้ที่ไม่รุ้จักเธอจริงๆ นอกจากเนรุ
"อ่อ..อ่า..อืม งั้นขอแนะนำตัวนะ ฮานาโกะ มิสึกิ ประธานนักเรียน ชั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผู้หญิงบ้าพลังคนนี้ และกับตาวิตถารคนนั้นชั้นคือผู้ดูแล"
"บ้าพลังหรอยะะ!!!! แล้วที่บอกว่าดูแลเนรุคุงนี่หมายความว่าไง!!"
"โอ้ย!! อย่ากดแผลชั้นสิ!! แล้วสรุปทุกคนมองว่าชั้นเป็นตาวิตถารไปแล้วหรอเนี่ย!!"
"วิตถาร เนรุคุง วิตถารหรอ?"
"อย่าไปเชื่ออะไรแบบนั้นเชียวนะ!!"
"อ่า...อืม ถ้าเนรุคุงพูดอย่างนั้น ชั้นก็จะเชื่อ"
ยูกิเริ่มเดินไปเก็บอุปกรณ์ของเธอ เนรุเองก็เริ่มที่จะหายแล้วเช่นกัน และมิสึกับมิสึกิเองก็เลิกที่จะทะเลาะกันแล้วเริ่มช่วยยูกิเก็บของ
"เอ๋? ทำไมทุกคนถึงช่วยล่ะ"
"ของเยอะแบบนี้น่ะ เธอเก็บคนเดียวก็ไม่หมดหรอกนะ ให้พวกเราช่วยคงจะเก็บไวกว่าน่ะ"
"แต่เนรุคุงบาดเจ็บอยู่นิ"
"ชั้นโดนอย่างนี้มาจนชินแล้วล่ะ แค่ครั้งนี้ยัยนั่นชกชั้นแรงกว่าทุกครั้งแค่นั้นเอง แต่แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกสบายมาก"
ยูกิรู้สึกดีใจแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าของเธอต่างไปจากปกติเท่าไหร่นัก ทั้งสี่คนเริ่มเก็บของในงานนิทรรศการศิลปะใกล้จะเสร็จแล้ว เหลือเพียงศิลปะที่
เป็นแก้วแจกันเพียงอันเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้เก็บ
"อ่ะ อันนั้นเดี๋ยวชั้นเก็บเอง อ่ะ..."
เพล้งงงง!!!!! เสียงแจกันที่แตกได้ดังลั่น แจกันที่ยูกิจะไปหยิบนั้นได้ล้มลงมากับพื้นแล้วแตก เธอสะดุดขาตัวเองล้ม
ถึงแม้เธอจะดูเป็นผู้ใหญ่เพียงใด นั่นก้แค่ภายนอก เธอเป็นคนซุ่มซ่าม ชนิดว่าหาใครเปรียบได้ยาก
"โอ้ย พลาดซะแล้วเรา"
ยูกิได้ลุกขึ้นพร้อมกับหยิบเศษแจกันที่แตกนั่นขึ้นมา แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของเธอเองอีกครั้งที่ทำให้ครั้งนี้ เศษแก้วจากแจกันก็ได้บาดฝ่ามือข้างขวา
ของเธอ เป็นรอยแผลเพียงเล็กน้อย ยูกิจ้องมองบาดแผลนั้น
"เธอเป็นอะไรมั้ยนั่นน่ะ ให้ตายสิ ซุ่มซ่ามได้ตลอดเวลาเลยนะ"
"ยูกิจัง!!! เป็นอะไรหรือปล่าวน่ะ!! เดี๋ยวชั้นทำแผลให้นะ!!"
"อ่ะ อืมขอบคุณนะ"
หลังจากที่เก็บกวาดเศษแก้วและปฐมพยาบาลเสร็จแล้ว ก็เป็นเวลาที่เลิกเรียนพอดี ห้องสมุดกำลังจะปิด ทั้งสี่คนได้ออกมาจากห้องสมุด
พร้อมกับอุปกรณ์บางส่วน ยูกิมองที่ผ้าพันแผลที่มือขวาของตนเอง ราวกับว่าเป็นเรื่องแปลก
"เป็นไรมั้ยยูกิจัง ชั้นปฐมพยาบาลไว้แล้ว คงไม่เป็นไรแล้วล่ะจ่ะ"
"อ่อ..อืม ขอบคุณนะ มิสึจัง"
"แล้วพวกศิลปะของเธอล่ะ เธอไม่ได้เอาออกมาเลยนะ"
"อ่อ พวกนั้น คนในห้องจะมาเก็บไปทีหลังน่ะ ต้องเช็คอะไรหลายอย่างเลย"
"....งั้น วันนี้ชั้นขอตัวล่ะ ได้ข้อมูลมาแล้ว ซาราดะคุง ชั้นจะจับตาดูนายอีก แล้วก็จะเริ่มการดัดนิสัยของนายในอาทิตย์หน้า ไว้เจอกันนะคุณฟุรุคาวะ"
"อ่า..อืม ไว้เจอกัน"
"....แล้วเธอกลับบ้านยังไงหรอ"
"อ่อ คนที่บ้านชั้นมารับน่ะ พวกเธอรีบไปเถอะนะ"
"...งั้นพวกชั้นไปก่อนละกัน ชั้นมีเกมที่ต้องเคลียน่ะ"
"ไปก่อนน้าา ยูกิจังงงง"
หลังจากร่ำลากันเสร็จ ทุกคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน ระหว่างที่เนรุกับมิสึกำลังกลับบ้าน มิสึได้รู้สึกกังวลใจกับเรื่องของยูกิเล็กน้อย จึงเริ่มเอ่ยถามเนรุ
"นี่ เนรุคุง คิดว่ายูกิจังจะเป็นอะไรมั้ย"
"เรื่องอะไรล่ะ? ถ้าเรื่องที่เธอชอบพูดให้เข้าใจผิดน่ะ ชั้นคิดว่าเดี๋ยวโตไปก้แก้ได้เองแหละ"
"ไม่ใช่เรื่องนั้นซักหน่อยตาบ้า ชั้นหมายถึงเรื่องที่ยูกิจังมีแผลกลับบ้านน่ะ เธอดุจะกังวลกับแผลนั้นมากๆเลยนะ"
"...คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง สงสัยเธอทำแผลไม่ดีล่ะสิเขาเลยกังวลน่ะ"
"เห้อ ถามอะไรนายเนี่ย ไม่เคยได้ความคิดเห็นแบบจริงจังเลยซักที ชั้นล่ะเบื่อนายจัง"
"หือ? ชั้นพูดอะไรผิดงั้นหรอ"
"ช่างมันเถอะย่ะ.."
ณ บ้านของฟุรุคาวะ
"ยูกิ ลูกรู้ใช่มั้ยว่ามือของลูกน่ะ มีค่ามากแค่ไหน ทำไมถือปล่อยให้มันมีแผลได้ล่ะ"
"ขอโทษค่ะ หนูไม่ระวังเอง"
"นั่นไม่ใช่สิ่งที่พ่ออยากได้ยิน คำแก้ตัวแบบนั้นน่ะ พ่อไม่อยากได้ยินหรอกนะ เกิดเรื่องที่โรงเรียนสินะ ผลงานของลูกถ้าเสียหายไป ใครจะรับผิดชอบ"
"เรื่องนั้น__"
"ให้คนอื่นช่วยงั้นหรอ พ่อบอกแล้วไง ผลงานของลูกน่ะ พ่อจะให้คนดูแลของพ่อไปเก็บเอง"
"เอ่อ นายท่านครับ ผลงานของคุณหนูเสียหายหนึ่งชิ้นครับ เป็นแจกัน ที่มีชื่อผลงานว่า ความฝันครับ"
"ว่ายังไงนะ!! ผลงานเสียหายงั้นหรอ!!"
"...ขอโทษค่ะ"
"พอแล้ว พ่อเบื่อจะฟังคำขอโทษจากลูกแล้ว ไปซะ....พ่อยังไม่อยากเห็นหน้าลูก"
"......ค่ะ.....คุณพ่อ"
เช้าวันรุ่งขึ้น
"คุณฟุรุคาวะ เป็นอะไรหรือปล่าวคะ!! มือนั่นไปทำอะไรมาคะ!!"
"ยังไงดีเนี่ย! มือคุณฟุรุคาวะที่แสนจะมีค่านี้มีแผล!! รีบเรียกรถพยาบาลเร็ว!!"
"มือเจ้าหญิงหิมะเป็นแผล แล้วอย่างนี้จะวาดรูปได้หรือปล่าวครับเนี่ย"
คำถามหลายคำถามเกี่ยวกับมือของยูกิได้ถาโถมเข้ามาใส่ยูกิ ยูกิอยู่ในสภาวะกดดัน ทั้งที่มีคนอยุ่มากมาย กลับไม่ได้เห็นความกดดันของเธอเลย
มีเพียงแต่คำถามเกี่ยวกับบาดแผลที่มือของเธอเพียงเท่านั้น ยูกิที่ทนรับแรงกดดันไม่ไหว ได้วิ่งออกจากห้องเรียนของเธอไป วิ่งผ่านเนรุที่กำลังจะไป
ห้องเรียนของตน เนรุหันไปมองตาม แล้วได้แต่สงสัย
"เมื่อกี้นี้....ฟุรุคาวะ...ร้องไห้หรอ..".
เจ้าหญิงหิมะ หันมาพูดกับเนรุด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เนรุเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เขาได้ช่วยเหลือในตอนนั้นจะเป็นคนที่สุดยอดขนาดนั้น
"อ่า....อืม..."
"เนรุคุงรู้จักกับเจ้าหญิงหิมะด้วยหรอ"
ด้วยความสงสัยของมิสึ จึงเอ่ยถามเนรุออกไป
"ก็ไม่ได้รู้จักกันหรอก พอดีว่า___"
"เรื่องเมื่อตอนนั้นขอบคุณมากเลย"
ยังไม่ทันที่เนรุจะตอบคำถามของมิสึ เจ้าหญิงหิมะ ก็ได้เอ่ยปากพูดขอบคุณเนรุในเรื่องที่เนรุเคยช่วยไว้
"อ่อ..ไม่เป็น__"
"ถึงจะรุนแรงไปหน่อย แต่นั้นก็เป็นครั้งแรกของชั้น"
"......??"
"......!!!!!!???"
ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่กับสิ่งที่เจ้าหญิงหิมะได้พูดออกมา นั่นรวมถึงเนรุเองก็ด้วย สีหน้าที่เรียบเฉยใสซื่อของเจ้าหญิงหิมะ
ไม่ได้ดูตอบสนอองกับที่ทุกคนตกใจกับสิ่งที่เธอพูดออกมาเลยแม้แต่น้อย
"ทะ...เธอพูดอะไรออกมาเนี่ยย"
"เนรุคุง!!!...ไปทำอะไรกับเธอมาเนี่ย!!เจ้าบ้า!!โรคจิต!!"
"ซาราดะคุง ชั้นก็พอรู้นะว่านายน่ะเป็นคนไม่เอาไหน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้นะเนี่ย!!"
"เข้าใจผิดแล้วโว้ยย!! ชั้นก็แค่ช่วย.."
"เขาช่วยชั้น ทำให้ชั้นไปนั่งทับเขาน่ะ"
เสียงที่พูดขึ้นแทรกของเจ้าหญิงหิมะได้แช่แข็งเนรุไปซะแล้ว เนรุรู้สึกเหมือนน้ำแข็งกำลังแตกสลาย
ดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่ไม่ระวังในการใช้คำพูดซักเท่าไหร่นัก ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดที่ใสซื่อนั้นจะทำให้คนที่อยู่ในงาน ต่างตกใจกับสิ่งที่เธอได้พูด
มิสึกิได้ถึงกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรแจ้งความกับตำรวจ และมิสึเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน ได้แต่ยืนตั่วสั่นหน้าแดงอยู่เท่านั้น
"สวัสดีค่ะ สำนักงานตำรวจใช่มั้ยคะ ค่ะ พอดีว่าที่นี่มีโรคจิตค่ะ"
"จะ..จะ..เจ้าบ้า!!ทำเรื่องอะไรแบบนั้นได้ยังไง ไอ้เจ้าโรคจิตเอ้ยย!!"
สิ้นเสียงคำต่อว่าของมิสึ หมัดขวาของมิสึก็ได้ชกเข้าใบหน้าของเนรุอย่างเต็มแรง ทำให้ร่างกายของเนรุกระเด็นไปถึงขั้นชนติดกับกำแพงเลยทีเดียว
เจ้าหญิงหิมะเดินไปหาเนรุที่กำลังติดกับกำแพง แล้วนั่งคุยกับเขา
"ไม่เป็นไรนะ"
"เธอน่ะ อย่าพูดอะไรกำกวมแบบนั้นสิ!!"
หลังจากนั้น เนรุในสภาพปางตายก็ได้อธิบายกับทุกคนว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้ทุกคนต่างก็เข้าใจ ปัญหาต่างๆจึงได้คลี่คลาย
งานแสดงศิลปะจบลง ทุกคนกลับไปเรียน ด้วยร่างกายของเนรุที่ถ้าให้ไปเรียนตอนนี้คงจะต้องไปโรงพยาบาลก่อนเป็นแน่
จึงทำให้เนรุต้องนั่งให้มิสึทำแผลที่ถูกมิสึชก และมิสึกิก็ได้ใช้อำนาจของประธานนักเรียนโทรศัพท์ไปบอกอาจารย์ประจำคาบนั้นเรียบร้อยแล้ว
"แหมม ก็น่าจะพูดให้เร็วกว่านี้หน่อยนะะ"
"ก็เธอนั้นแหละที่ไม่ฟัง!! ชกชั้นก่อนที่ชั้นจะได้พูด ยัยบ้า!"
"เป็นคนไม่เอาไหนอย่างเดียวสินะ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่เป็นอาชญากรสินะ เป็นโรคจิตที่ยังไม่ถึงกับขั้นกู่ไม่กลับสินะ"
"เห็นชั้นเป็นอย่างงั้นหรอ!! แล้วไอ้โรคจิตที่ยังไม่ถึงกับขั้นกู่ไม่กลับเนี่ย มันคืออะไรกันห๊ะ!!
"ต้องขอโทษด้วย คนไม่รู้จักคุง ชั้นเป็นคนใช้คำพูดไม่เก่งน่ะ"
"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ รุ่นพี่"
"รุ่นพี่?"
ทุกคนต่างทำหน้าฉงนกับสิ่งที่เนรุพูดออกมา
"นี่ ซาราะดะคุง คนนี้ไม่ใช่รุ่นพี่หรอกนะ"
"..? เอ๋??"
"คนนี้คือคุณ ฟุรุคาวะ ยูกิ นักเรียนห้องA ศิลปะ ชั้นม.5 น่ะ ถึงหน้าตาและร่างกายเธอจะดูเหมือนเด็กม.6ก็เถอะนะ"
"...!?"
เนรุได้ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินพลางหันไปที่ยูกิ ด้วยทาที่ที่แปลกใจ ยูกิเองก็มองตอบรับเนรุพร้อมกับเอียงคอทำท่าทางงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ราวกับจะถามเนรุว่า รุ่นพี่ที่ว่าเนี่ยใครหรอ ด้วยท่าทีของยูกิ เนรุจึงหันกลับ พร้อมกับหลับตาแล้วถินหายใจ
"เห้อ....ช่างมันละกัน"
"นี่ๆ คุณฟุรุคาวะ เอ่อ ยาวจังเลยย งั้นชั้นขอเรียก ยูกิจัง ได้หรือปล่าวเอ่ยย"
"เอ๋?...ได้สิ แต่ชั้นยังไม่รู้จักคุณเลย"
"เอ๋..งั้นก็ ชั้นชื่อ คาวะอิ มิสึ ส่วนตานี่ชื่อ ซาราะดะ เนรุ เป็นเพื่อนที่ไม่เอาไหนของชั้นน่ะ"
"เห้ย!! ที่ว่าไม่เอาไหนเนี่ยหมายความว่าไงห๊ะ!!"
"คนไม่รู้จักคุง ชื่อเนรุนี่เอง...งั้นชั้นเรียกเนรุคุงได้มั้ย"
"อ่า...อื่มจะเรียกอะไรก็เรียกเถอะนะ"
"เอ๋ จะเรียกอะไรก็เรียกสินะ ตาคนวิตถาร"
มิสึกิยิ้มหัวเราะพลางพูดหยอกล้อกับเนรุด้วยท่าทีที่กวนประสาท
"ชั้นไม่ได้หมายความว่าให้เธอเรียกชั้นอย่างนั้นนะ!! แล้ววิตถารเนี่ยมันยังไงกันแน่"
"อ่ะ..คนนั้น ประธานนักเรียน"
ยูกิมองไปที่มิสึกิพร้อมกับเอ่ยเรียก สมแล้วที่เป็นประธานนักเรียน ไม่มีใครคนไหนในโรงเรียนนี้ที่ไม่รุ้จักเธอจริงๆ นอกจากเนรุ
"อ่อ..อ่า..อืม งั้นขอแนะนำตัวนะ ฮานาโกะ มิสึกิ ประธานนักเรียน ชั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผู้หญิงบ้าพลังคนนี้ และกับตาวิตถารคนนั้นชั้นคือผู้ดูแล"
"บ้าพลังหรอยะะ!!!! แล้วที่บอกว่าดูแลเนรุคุงนี่หมายความว่าไง!!"
"โอ้ย!! อย่ากดแผลชั้นสิ!! แล้วสรุปทุกคนมองว่าชั้นเป็นตาวิตถารไปแล้วหรอเนี่ย!!"
"วิตถาร เนรุคุง วิตถารหรอ?"
"อย่าไปเชื่ออะไรแบบนั้นเชียวนะ!!"
"อ่า...อืม ถ้าเนรุคุงพูดอย่างนั้น ชั้นก็จะเชื่อ"
ยูกิเริ่มเดินไปเก็บอุปกรณ์ของเธอ เนรุเองก็เริ่มที่จะหายแล้วเช่นกัน และมิสึกับมิสึกิเองก็เลิกที่จะทะเลาะกันแล้วเริ่มช่วยยูกิเก็บของ
"เอ๋? ทำไมทุกคนถึงช่วยล่ะ"
"ของเยอะแบบนี้น่ะ เธอเก็บคนเดียวก็ไม่หมดหรอกนะ ให้พวกเราช่วยคงจะเก็บไวกว่าน่ะ"
"แต่เนรุคุงบาดเจ็บอยู่นิ"
"ชั้นโดนอย่างนี้มาจนชินแล้วล่ะ แค่ครั้งนี้ยัยนั่นชกชั้นแรงกว่าทุกครั้งแค่นั้นเอง แต่แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกสบายมาก"
ยูกิรู้สึกดีใจแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าของเธอต่างไปจากปกติเท่าไหร่นัก ทั้งสี่คนเริ่มเก็บของในงานนิทรรศการศิลปะใกล้จะเสร็จแล้ว เหลือเพียงศิลปะที่
เป็นแก้วแจกันเพียงอันเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้เก็บ
"อ่ะ อันนั้นเดี๋ยวชั้นเก็บเอง อ่ะ..."
เพล้งงงง!!!!! เสียงแจกันที่แตกได้ดังลั่น แจกันที่ยูกิจะไปหยิบนั้นได้ล้มลงมากับพื้นแล้วแตก เธอสะดุดขาตัวเองล้ม
ถึงแม้เธอจะดูเป็นผู้ใหญ่เพียงใด นั่นก้แค่ภายนอก เธอเป็นคนซุ่มซ่าม ชนิดว่าหาใครเปรียบได้ยาก
"โอ้ย พลาดซะแล้วเรา"
ยูกิได้ลุกขึ้นพร้อมกับหยิบเศษแจกันที่แตกนั่นขึ้นมา แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของเธอเองอีกครั้งที่ทำให้ครั้งนี้ เศษแก้วจากแจกันก็ได้บาดฝ่ามือข้างขวา
ของเธอ เป็นรอยแผลเพียงเล็กน้อย ยูกิจ้องมองบาดแผลนั้น
"เธอเป็นอะไรมั้ยนั่นน่ะ ให้ตายสิ ซุ่มซ่ามได้ตลอดเวลาเลยนะ"
"ยูกิจัง!!! เป็นอะไรหรือปล่าวน่ะ!! เดี๋ยวชั้นทำแผลให้นะ!!"
"อ่ะ อืมขอบคุณนะ"
หลังจากที่เก็บกวาดเศษแก้วและปฐมพยาบาลเสร็จแล้ว ก็เป็นเวลาที่เลิกเรียนพอดี ห้องสมุดกำลังจะปิด ทั้งสี่คนได้ออกมาจากห้องสมุด
พร้อมกับอุปกรณ์บางส่วน ยูกิมองที่ผ้าพันแผลที่มือขวาของตนเอง ราวกับว่าเป็นเรื่องแปลก
"เป็นไรมั้ยยูกิจัง ชั้นปฐมพยาบาลไว้แล้ว คงไม่เป็นไรแล้วล่ะจ่ะ"
"อ่อ..อืม ขอบคุณนะ มิสึจัง"
"แล้วพวกศิลปะของเธอล่ะ เธอไม่ได้เอาออกมาเลยนะ"
"อ่อ พวกนั้น คนในห้องจะมาเก็บไปทีหลังน่ะ ต้องเช็คอะไรหลายอย่างเลย"
"....งั้น วันนี้ชั้นขอตัวล่ะ ได้ข้อมูลมาแล้ว ซาราดะคุง ชั้นจะจับตาดูนายอีก แล้วก็จะเริ่มการดัดนิสัยของนายในอาทิตย์หน้า ไว้เจอกันนะคุณฟุรุคาวะ"
"อ่า..อืม ไว้เจอกัน"
"....แล้วเธอกลับบ้านยังไงหรอ"
"อ่อ คนที่บ้านชั้นมารับน่ะ พวกเธอรีบไปเถอะนะ"
"...งั้นพวกชั้นไปก่อนละกัน ชั้นมีเกมที่ต้องเคลียน่ะ"
"ไปก่อนน้าา ยูกิจังงงง"
หลังจากร่ำลากันเสร็จ ทุกคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน ระหว่างที่เนรุกับมิสึกำลังกลับบ้าน มิสึได้รู้สึกกังวลใจกับเรื่องของยูกิเล็กน้อย จึงเริ่มเอ่ยถามเนรุ
"นี่ เนรุคุง คิดว่ายูกิจังจะเป็นอะไรมั้ย"
"เรื่องอะไรล่ะ? ถ้าเรื่องที่เธอชอบพูดให้เข้าใจผิดน่ะ ชั้นคิดว่าเดี๋ยวโตไปก้แก้ได้เองแหละ"
"ไม่ใช่เรื่องนั้นซักหน่อยตาบ้า ชั้นหมายถึงเรื่องที่ยูกิจังมีแผลกลับบ้านน่ะ เธอดุจะกังวลกับแผลนั้นมากๆเลยนะ"
"...คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง สงสัยเธอทำแผลไม่ดีล่ะสิเขาเลยกังวลน่ะ"
"เห้อ ถามอะไรนายเนี่ย ไม่เคยได้ความคิดเห็นแบบจริงจังเลยซักที ชั้นล่ะเบื่อนายจัง"
"หือ? ชั้นพูดอะไรผิดงั้นหรอ"
"ช่างมันเถอะย่ะ.."
ณ บ้านของฟุรุคาวะ
"ยูกิ ลูกรู้ใช่มั้ยว่ามือของลูกน่ะ มีค่ามากแค่ไหน ทำไมถือปล่อยให้มันมีแผลได้ล่ะ"
"ขอโทษค่ะ หนูไม่ระวังเอง"
"นั่นไม่ใช่สิ่งที่พ่ออยากได้ยิน คำแก้ตัวแบบนั้นน่ะ พ่อไม่อยากได้ยินหรอกนะ เกิดเรื่องที่โรงเรียนสินะ ผลงานของลูกถ้าเสียหายไป ใครจะรับผิดชอบ"
"เรื่องนั้น__"
"ให้คนอื่นช่วยงั้นหรอ พ่อบอกแล้วไง ผลงานของลูกน่ะ พ่อจะให้คนดูแลของพ่อไปเก็บเอง"
"เอ่อ นายท่านครับ ผลงานของคุณหนูเสียหายหนึ่งชิ้นครับ เป็นแจกัน ที่มีชื่อผลงานว่า ความฝันครับ"
"ว่ายังไงนะ!! ผลงานเสียหายงั้นหรอ!!"
"...ขอโทษค่ะ"
"พอแล้ว พ่อเบื่อจะฟังคำขอโทษจากลูกแล้ว ไปซะ....พ่อยังไม่อยากเห็นหน้าลูก"
"......ค่ะ.....คุณพ่อ"
เช้าวันรุ่งขึ้น
"คุณฟุรุคาวะ เป็นอะไรหรือปล่าวคะ!! มือนั่นไปทำอะไรมาคะ!!"
"ยังไงดีเนี่ย! มือคุณฟุรุคาวะที่แสนจะมีค่านี้มีแผล!! รีบเรียกรถพยาบาลเร็ว!!"
"มือเจ้าหญิงหิมะเป็นแผล แล้วอย่างนี้จะวาดรูปได้หรือปล่าวครับเนี่ย"
คำถามหลายคำถามเกี่ยวกับมือของยูกิได้ถาโถมเข้ามาใส่ยูกิ ยูกิอยู่ในสภาวะกดดัน ทั้งที่มีคนอยุ่มากมาย กลับไม่ได้เห็นความกดดันของเธอเลย
มีเพียงแต่คำถามเกี่ยวกับบาดแผลที่มือของเธอเพียงเท่านั้น ยูกิที่ทนรับแรงกดดันไม่ไหว ได้วิ่งออกจากห้องเรียนของเธอไป วิ่งผ่านเนรุที่กำลังจะไป
ห้องเรียนของตน เนรุหันไปมองตาม แล้วได้แต่สงสัย
"เมื่อกี้นี้....ฟุรุคาวะ...ร้องไห้หรอ..".
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ