นรกบนดิน(yuri)
เขียนโดย themockingjay
วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.
แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
29) มัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผ่านไป3วัน เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ ตอนนี้เธอติดยาเรียบร้อยแล้ว จนตอนนี้ผ่านมาเกือบ2อาทิตย์พวกมันเอาแต่ฉีดยาและช็อตไฟฟ้าอยู่อย่างนั้นและพูดกรองหูเธอซ้ำๆ ว่าเธอเป็นของมัว อ่าใช่เธอเป็นของมัวเรียบร้อยและเธอรู้สึกอยากยาอีกแล้ว ตอนนี้เธอจำอะไรไม่ได้แล้ว เธอรู้สึกมึนหัวมาก ตอนนี้เธออยู่บนเก้าอี้ไฟฟ้าอย่างเดิมสภาพแย่มาก หน้าผอมซีด หัวรุงรัง เธอพูดอะไรก็ฟังไม่ได้ศัพท์
“แกร็ก” เสียงเปิดประตูเข้ามาและก็เป็นอย่างทุกครั้งแหละเธอว่า
“การ์ดเอาตัวไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย ดูแลอย่างดีล่ะ คนนี้ของฉัน”
“มัว มัว มัว” เธอร้องเรียกมัวอยู่อย่างนั้น
“ไม่เป็นไรนะคะที่รัก รอให้เธอมีแรงก่อนแล้วค่อยมาคุยกันนะคะ”
“มัว มัว” เธอเพ้อหาเหมือนกับคนหนึ่งที่เธอรักแต่ตอนนี้เธอจำไม่ได้แล้วว่าใคร เธอโดนลากตัวไปขัดตัวอาบน้ำจนผ่อง ได้กินน้ำกินปลาจนสดใสขึ้น
ผ่านไปอีก1อาทิตย์สำหรับการฟื้นตัวและบำบัดอาการติดยาจนเธอหายจากอาการอยากยา
ตอนนี้เธอกำลังเล่นกับหมั่นโถวอยู่ที่ห้องพักของตัวเอง
“แกร็ก” เสียงประตูเปิดขึ้นมา มัวเดินมากอดเธออย่างคิดถึง
“อื้มมม ตัวหอมขึ้นเยอะเลยที่รักของเค้า”
“บ้าเหรอที่รัก ทำแบบนี้ต่อหน้าหมั่นโถวได้ยังไงคะ” เธอหันกลับไปกอดคืน
“มัวอยากให้รินมานอนที่ห้องของมัวได้ไหมคะ”
“จริงเหรอ มัวพูดไม่ผิดแน่นะ”
“แน่สิมาอยู่ด้วยกันนะคะ อื้มมมม”เธอเข้าไปจูบมัวก่อนจะพละออกมาเมื่อลืมไปว่าไม่ได้อยู่แค่พวกเธอ2คน
“งั้นเดี๋ยวมัวช่วยเก็บของ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอเข้าไปจุ๊ปก่อนที่จะกระพริบตาให้หมั่นโถว
“ขอพาหมั่นโถวไปได้ไหมคะ” เธอทำตาอ้อนวอนสุดชีวิตและมัวก็ให้อย่างจำยอม
“น่ารักที่สุดเลยแฟนใครเนี่ย” เธอจุ๊ปแก้มไปอีก1ที เธอและมัวต่างช่วยกันเก็บของและย้ายของออกไปโดยจูงหมั่นโถวไปด้วย พวกเธอเดินมาถึงห้องแล้วก็เก็บของให้เป็นที่เป็นทาง เธอเดินจูงหมั่นโถวไปฝนห้องน้ำ แต่ก่อนเธอจะออกไปเธอไปกระซิบหมั่นโถวว่าทำตามแผนนะ ก่อนจะไปประตูและเดินไปยังเตียงนอน
“ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ”
“ตอนนี้4ทุ่มแล้วค่ะ”
“รินอาบน้ำยัง”
“อาบเเล้ว มัวอาบยัง”
“อาบแล้วเหมือนกัน”เธอมองหน้ามัวก่อนจะลุกขึ้นไปปิดไฟและมานอนกอดมัวอย่างเดิม
“รู้เลยนะคะ”มัวยิ้ม
“รู้อะไร บ้าเหรอ”
“มัวยังไม่ได้พูดอะไรเล…” เธอขึ้นคร่อมมัวก่อนจะเข้าไปจูบที่ริมฝีปากบาง มือเธอเลื่อนลงไปใต้เอวบาง ค่อยๆ สอดมือเข้าไปในกางเกงในและลูบวงเบาๆ
“อ่าาาาาาห์ รินเข้าไปเลย” เธอเอานิ้วเข้าไปในร่างกายก่อนจะขยับเข้าออกแรงเรื่อยๆ
“ซื้ดดด อ่าาาห์ริน” เธอก้มหน้าลงไปดูดยอดอกและเร่งเร็วขึ้น
“อื้อออ อ๊าาา รินมัวจะเสร็จแล้ว อื้อแรงอีกสิคะ อ๊าาาาา”ร่างกายมัวกระตุกเกรงเป็นสัญญาณว่ามัวไปถึงฝันแล้ว
“อื้มมม รินคะทำไมทำเร็วจังคะ”
“หื้มม เร็วเหรอคะ มัว รินไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”เธอยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ อาการปวดหัวชอบเข้ามาตอนเธอมีอะไรกันกับมัวตลอด ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกเจ็บปวดข้างในเหมือนสิ่งที่เธอทำมันผิด แต่เธอไม่รู้ว่ามันผิดอะไร เธอยืนอยู่หน้ากระจกมองตัวเองที่ตอนนี้รู้สึกปวดหัวแทบตาย ก่อนจะสังเกตเห็นนาฬิกาข้อมือและแหวนที่สวมอยู่บนนิ้วเธอ เธอได้แหวนกับนาฬิกามายังไงนะ ทำไมมันถึงมาอยู่กับเธอได้ ตอนแรกเธอก็นึกว่ามัวให้นาฬิกากับแหวนมาเพราะเธอเป็นแฟนกัน แต่ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่มัวมาชมว่านาฬิกาสวยและถามว่าได้มาจากไหน เธอเองก็ตอบไม่ได้เพราะจำอะไรไม่ได้เลยแล้วก็ภารกิจอะไรไม่รู้ที่อยู่ในหัวเธอตอนนี้เหมือนจะสั่งให้เธอทำอะไรสักอย่าง แต่ทำไมเธอถึงจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ เธอจำได้แค่ว่าเธออยู่กับมัวแล้ว และมัวก็บอกเธอว่าเธอกับมัวเป็นแฟนกันและอยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว แต่จู่ๆ เธอล้มหัวฟาดพื้นเลยสูญเสียความทรงจำ มันยังไงกันแน่เนี่ย เธอเอาน้ำล้างหน้า หมั่นโถวจู่ๆ ก็เอาขามาเขี่ยๆ เท้าเธอ มันร้องแต่เธอไม่รู้ว่ามันร้องทำไม หมั่นโถวเธอได้มันมาตอนไปสู้กันและได้มันมา ต่อจากนั้นเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอสลัดเรื่องนี้ออกจากหัวก่อนจะเปิดประตูให้หมั่นโถวออกมาเพราะเธอทำเสร็จแล้ว เธอขึ้นไปกอดมัวที่นอนยิ้มให้เธอที่เตียง
“เป็นอะไรคะ ปวดหัวอีกแล้วเหรอ”
“ใช่ค่ะ รินไม่รู้ว่าทำไมถึงปวดหัวทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน”
“อย่าไปคิดเลยค่ะ เดี๋ยวก็หาย พรุ่งนี้ค่อยต่อก็ได้ค่ะวันนี้หลับก่อนเนอะ”
“คงแบบนั้นแหละค่ะ รินขอกอดหน่อยนะคะ”
“ขี้อ้อนจริงๆ เลย” มัวจับแขนเธอเข้ามากอดก่อนพวกเธอจะหลับไป
“อื้มใช่ ดูเหมือนจะเป็นผลข้างเคียงที่ฉันทำไปน่ะ”
“อืม ไว้ใจได้น่ะ รินน่าจะเสียความทรงจำไปเลย อย่างน้อยความสามารถของมันก็เป็นประโยชน์ให้เราได้นะ”
“อืมเคๆ เดี๋ยวตอนบ่ายฉันจะพาไปละกัน อืมขอบใจมาก แค่นี้” มัววางสายเสร็จก่อนจะกลับมานอนกอดเธอเช่นเดิม ใช่เธอได้ยินทุกอย่าง มันคืออะไร ความสามารถของเราเหรอ เราทำอะไรได้ล่ะ ผลข้างเคียงคืออะไร เธอนอนคิดตลอดทั้งคืนก่อนนาฬิกาปลุกข้างเตียงจะดังขึ้น
‘นี่เราคิดทั้งคืนเหรอเหรอเนี่ย’
เธอลุกขึ้นมาอาบน้ำและพาหมั่นโถวออกไปวิ่งเช่นเคย พอกลับจากฟิสเนสก็ขึ้นห้องไปปลุกแฟนเธอและสั่งอาหารมากินด้วยกัน
“รินเดี๋ยวมัวต้องไปทำงานก่อนนะ”
“อ๋อได้ๆ ให้รินช่วยไรไหม”
“ได้เหรอ อื้มมเดี๋ยวตอนบ่ายเราจะมารับนะ ตอนเช้าเธอก็ไปเดินเล่นก่อนก็ได้”
“อ๋อได้ๆ ตั้งใจทำงานนะ”
“ค่ะ” มัวกินข้าวเสร็จก็ออกไป ตอนนี้เธอเริ่มอยากรู้แล้วมันเป็นมายังไง เธอแต่งตัวและบอกหมั่นโถวให้อยู่ที่นี่ เธอเดินขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น79 ชั้นนี้มียาขายกันทั่ว และเป็นแหล่งเสพกามกันส่วนใหญ่ เธอเดินเข้ามาง่ายหน่อยเพราะเป็นคนของมัว ไม่นานมานี้เธอก็พึ่งรู้ว่ามัวเป็นเจ้าของที่นี่ เก่งไม่เบาเหมือนกันนะแฟนเธอเนี่ย
เธอเดินเข้าผับมามองหาเป้าหมายก่อนเพราะเธออยากรู้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ เธอเดินไปนัวเนียกับผู้หญิงที่แต่งตัวแซ่บๆ เดรสรัดอกขาสั้น ทาปากแดง ผมยาวที่ผมมาพาดไว้ที่บ่า แต่งขนาดนี้ยั่วกันจริงๆ เธอคนนั้นรู้ตัวว่าเธอมานัวเนียด้วยก็มาเต้นใกล้เธอ
“อะไรคะเนี่ย แฟนท่านมัวจะมานัวเนียฉันไม่ได้นะ” ผู้หญิพูดเสียงกระเซ่าข้างหูเธอ
“ก็มาตอนที่ไม่รู้สิคะ” เธอเริ่มไซร้คอผู้หญิงคนนี้ มือก็เธอสัมผัสไปทั่วเพื่อเพิ่มอารมณ์ให้ผู้หญิงคนนี้
“คุณไปห้องฉันดีกว่า”
“อื้มไม่ต้องหรอกค่ะ ไปห้องน้ำดีกว่า”เธอไม่สนว่าผู้หญิงจะว่ายังไง เธอเดินจูงมือไปห้องน้ำระหว่างทางไปห้องน้ำเธอก็ไซร้คอไปด้วย มองหาทางหนีไฟไปด้วย มีการ์ด2คนเฝ้าอยู่ ชิ สงสัยเธอต้องเสร็จกิจก่อนค่อยคิดละกัน เธอพาผู้หญิงเข้าไปในห้องน้ำจัดการล็อกประตูห้องน้ำด้านใน เธอถอดเสื้อผู้หญิงคนนี้ออกและจัดการอย่างรวดเร็วจนเสร็จกิจอย่างว่า
“เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”เธอถามตอนที่กำลังแต่งตัว
“หื้ม ทำไมถามแปลกๆ ล่ะ เธอก็เป็นแฟนท่านมัวไง ตอนแรกฉันเห็นเธอยืนบนเวทีหน้ามึนๆ อยู่ เพราะว่าเธอเป็นเด็กใหม่ใช่ไหมล่ะ ฉันล่ะขำหน้าเธอตอนนั้นจริงๆ ”
“ห้ะเหรอ แล้วทำไมฉันถึงไปยืนหน้าเวทีได้ล่ะ”
“ฉันนึกว่าเธอรู้ตั้งนานแล้วนะ ท่านมัวไม่ได้บอกอะไรเธอเลยเหรอ”
“ไม่ค่อยน่ะ”
“ปกติเวลามีเด็กใหม่มาดีเจเขาจะประกาศว่ามีสมาชิกใหม่มาให้ขึ้นบนเวทีและไปจับคู่กับคนที่มาในงานนี่แหละ พอได้เสร็จแล้วก็ไปสนุกกันที่ห้องแล้วหลังจากนั้นก็ให้คนที่อยู่ก่อนบอกว่าที่เป็นยังไง อะไรแบบนี้น่ะ”
“อ๋อออ”
“แต่ฉันงงว่าทำไมตอนนั้นเธอขึ้นไปแล้วทำหน้าตกใจท่านมัวขนาดนั้น เหมือนเห็นผีแหนะ”
“เหมือนเห็นผีเหรอ”
“ใช่ตอนแรกเธอเดินขึ้นไปแบบหน้างงมากเลยนะ พอประกาศแล้วท่านมัวขึ้นมาเธอก็ทำหน้าตกใจมาก แต่ท่านมัวยิ้มให้เธอนะ ก็งงว่าทำไมเธอไม่ยิ้มตอบมัวแต่ตกใจอะไรไม่รู้”
“แล้วที่ฉันเป็นเด็กใหม่นี่ตอนไหนเหรอ”
“ตอนเดือนที่แล้วเธอพึ่งมาเองหลังจากนั้นก็หายไปเลย พึ่งมาเห็นเธอช่วงอาทิตย์นี้เอง”
“อ๋อเหรอ ของใจมาก” เธอแต่งตัวเสร็จก็เตรียมตัวออกไป
“เดี๋ยวแค่เหรอ”
“หื้ม อยากได้อีกรอบเหรอ”
“ฉันยังไม่สุดเลยนะ” ผู้หญิงดึงเธอเข้าไปจูบก่อนที่จะจัดกันอีกรอบ เธอเดินออกมาจากห้องน้ำตอนนี้ก็10โมงแล้ว ที่นี่เป็นผับเปิด24ชั่วโมงเลยไม่ต้องกังวลว่าจะปิดเมื่อไร งั้นแสดงว่าภารกิจที่อยู่ในหัวเธอก็เป็นความจริงเพราะเธอพึ่งมาเดือนที่แล้ว แล้วทำไมมัวต้องโกหกเธอด้วยว่าอยู่มานานแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอกันแน่
เธอเดินมาใกล้ๆ โต๊ะแก้วก่อนจะเต้นแล้วเนียนๆ ขยับโต๊ะกะแรงให้ดีๆ ก่อนจะผลักมันให้ล้มลง
“เพล้งงงงง”เธอเดินแยกตัวออกมาเพราะคนเริ่มมามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้นการ์ดที่เฝ้าหน้าประตูเดินมาดู เป็นโอกาสที่เธอเดินขึ้นไปชั้นที่80 เธอเดินขึ้นมาเปิดประตูหนีไฟดูไปรอบๆ ว่ามีคนไหม ก่อนจะเดินออกมาชั้นนี้ต่างจากชั้นที่เธอเดินสำรวจมาชัดเจนชั้นนี้เป็นชั้นเธอเดินออกจากประตูหนีไฟจะเป็นห้องทั้งซ้ายและขวาตรงกลางเป็นทางเดินเหมือนแบบโรงแรม ชั้นนี้ดูเหมือนว่าแต่ละห้องจะถูกสร้างขึ้นมาเป็นห้องประชุม เธอเดินมาตามทางเดินฟังเสียงไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดที่ห้องๆ หนึ่งเพราะได้ยินเสียงแฟนเธอกำลังพูดคุยอยู่แต่เธอฟังไม่ชัด
“ผมบอกแล้วว่าลงทุนแบบนี้ดีกว่าคุณก็ไม่เอา”
“ก็โครงการของคุณมันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงนี่…..” เสียงคนเดินมาจากทางลิฟต์
‘งานเข้าไหมล่ะ’
เธอรีบหาที่ซ้อนแต่ไม่มี แต่เจอห้องข้างๆ ที่เป็นห้องทำความสะอาดแม่บ้านเธอเปิดประตูเข้าไปซ้อนตัวอยู่ในนั้นได้ทันก่อนที่คนจะเดินมาพบเห็น
‘โห้ ถ้าเห็นนี่ซวยแน่’ เธอปาดเหงื่อที่ผุดออกมา ฟังเสียงคนข้างนอกดูเหมือนจะเงียบไปแล้วก่อนจะงมหาสวิตช์เปิดไฟ ห้องนี้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์เหมือนอุปกรณ์เยอะน่าดู เธอเปิดสวิตช์ไฟได้แล้วมองไปรอบๆ ห้องเก็บอุปกรณ์นี้ค่อนข้างรกก่อนจะมองไปแถวๆ ผนังที่ติดกับห้องประชุม เธอเห็นปั๊กไฟติดผนังก่อนจะเอาหูไปฟังใกล้ๆ เพราะสวิตช์จะเป็นส่วนที่โปร่งที่สุดและสามารถแอบดักฟังได้ง่าย
“ท่านมัวแน่ใจเหรอครับว่าจะให้รินมาช่วยงานจริงๆ ”
“ตอนที่ฉันแฝงตัวเข้าไปรินเป็นคนที่สู้กับเจ้าระยะ4ได้ ฝีมือต้องไม่ใช่น้อยๆ อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“ครับท่าน แต่ว่ารินมันเป็นสายสืบให้หน่วยอินทรีนะครับ”
“เราทรมานไปขนาดนั้น เธอคิดเหรอว่ารินจะไม่สับสนข้อมูลที่ป้อนให้ไป”
“ครับ”
“รินคนนี้มีความสามารถในการยิงปืน การต่อสู้ระยะประชิด มีเทคนิคการต่อสู้ที่แพรวพราว ฉันมั่นใจเลยว่าฝีมือเก่งกว่าการ์ดของพวกเธอที่ส่งมาอีก”
“ครับ แล้วจากนี้จะให้รินทำอะไรล่ะครับท่าน”
“ก็ให้นั่งผลิตกระสุนเราไปละกัน งานง่ายสุดแล้ว”
“ครับท่าน แล้วอีกเรื่องหนึ่งล่ะครับ”
“อ๋อ เดี๋ยวไม่กี่วันฉันจะให้เธอคัดเลือกการ์ดมาสู้กับรินละกัน เพราะฉันจะให้รินอยู่แนวหน้าของแผนการ”
“จะดีเหรอท่านมัว”
“ก็รอดูตอนวันคัดละกันว่าฉันอวยหรือพูดจริง”
“ครับ”
“ต่อไปเป็นเรื่องที่เราจะไปบุกฐานอินทรีนะ ทั้งคนและอาวุธเราพร้อมแล้ว เหลือแค่แผนผังข้างในที่เราขุดไม่ได้”
“ท่านมัวคะ ถ้ารินเป็นสายสืบงั้นรินก็ต้องรู้แผนผังของที่หน่วยสิคะ”
“เธอแน่ว่ารินคนนั้นมันเชื่อถือได้น่ะ”
“ไม่เป็นไร ฉันเคยเข้าไปสอดแนมอยู่สักพัก พอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าหากรินให้ข้อมูลเท็จเราก็ทรมานมันเหมือนเดิมนี่แหละ”
“ค่ะท่าน”
“เราได้มือทองของหน่วยมา ทำไมไม่รีบคว้าล่ะจริงไหม โอเคนะงั้นเรามาพูดเรื่องของ…..” เธอฟังอยู่สักพักก็ออกมาดูทางก่อนที่จะไปขึ้นลิฟต์และลงมาชั้น1 ก่อนกลับจะมายังห้องของมัว เธอเดินเข้าห้องไปและกระโดดลงเตียงอย่างเหนื่อยล้า
‘ตกลงเราเป็นอะไรกันแน่ ทำไมเราถึงโดนทรมาน ภารกิจเราคือการมาสืบเรื่องนี้เหรอ แล้วทำไมเราถึงมาสืบได้ล่ะ เราอยู่หน่วยอินทรีและยังฝีมือดีขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ตกลงเราเป็นสายสืบให้หน่วยอินทรีเหรอ งั้นแสดงว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดที่ผ่านมาคือเรื่องโกหกงั้นเหรอ’
“เหนื่อยจริงๆ ” ก่อนจะฟุบหลับไปให้เหลือแค่หยดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มเนียนๆ ของเธอจนหยุดไปเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ