นรกบนดิน(yuri)

-

เขียนโดย themockingjay

วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.

  29 ตอน
  0 วิจารณ์
  23.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) ไข่หวาน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“.......”
‘อย่าเงียบสิเพื่อนฉันพูดไม่ออก’
“ฉะ..ฉันไม่ได้ดูปฏิทินเลยแฮะ วันนี้วันโกหกเหรอ”
“รินฉันจริงจัง ที่ฉันพูดทั้งหมดคือเรื่องจริง”
“ฉันอิ่มแล้ว รู้สึกจะปวดท้องด้วยต้องเข้าห้องน้ำ”
“เดี๋ยวรินฟังฉันก่อน”เพื่อนเธอรีบลุกขึ้นมาฉุดเธอให้นั่งลง
“ฟังอะไร!! ฉันยังต้องฟังอะไรอีก ที่ผ่านมามันยังไม่พอเหรอ!!! ” เสียงรินดังไปทั่วชั้นอาหารทำให้ผู้คนที่อยู่รอบนั่นมองเธอเป็นตาเดียว
“เอ่อ ขอโทษค่ะๆๆ ”เธอเอ่ยขอโทษคนที่อยู่รอบๆ ก่อนจะเดินออกไป
“โถ่เอ้ยแบบนี้ไข่หวานจะรอดไหมเนี่ย”เธอวิ่งตามรินไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดที่ชั้นที่พักของพวกเธอสองคน
“เดี๋ยวรินแกจะไปไหน”
“มันเรื่องของฉัน”รินเก็บของใส่กระเป๋าสะพายของเธอก่อนที่จะลุกออกไปแต่แพรวฉุดรินไว้ก่อน
“แกมีเหตุผลหน่อยดิวะ!! ”
“ให้มีอะไรวะ แกจะบอกว่าไข่หวานฟื้นขึ้นมาเองงี้เหรอ แกต่างหากที่อย่าไร้สาระ!! ”
“ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ต้องมาทะเลาะกันปะวะ”
“แล้วใครวะที่พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา ก็แกไม่ใช่เหรอ”
“เออฉันผิดเอง!! ถ้าตอนนี้แกไม่รีบส่งไข่หวานไปโรงพยาบาลที่ฐานเราละก็ แกคงจะเจอไข่หวานที่ยมโลกอย่างเดียวแหละ!! ”
“หมายความว่าไงวะแพรว มันใช่เรื่องที่สมควรพูดเหรอวะ ห้ะ!! ”เธอเดินเข้าไปจะต่อยแต่มีเจ้าหน้าที่มาห้ามทัน
“อยู่ชั้นปฐมพยาบาล ห้อง304 แกไปดูเอาเองละกัน ฉันเป็นเพื่อนกับแกมาฉันรู้ว่าอะไรควรไม่ควรพูด ถ้าแกมีสมองคิดสักนิดจะรู้ว่าฉันพูดเล่นรึเปล่า” เพื่อนเธอจัดเสื้อว่าที่ยับอยู่ตรงปกคอก่อนจะเดินจากเธอไปและไทยมุงก็สลายไปให้เหลือแค่เธอคนเดียวที่อยู่
“ฮึกๆ ฮืออๆ ฉันไม่รู้ว่ะ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น” เธอร้องไห้ได้สักพัก สติเริ่มกลับมาทำให้เธอรีบเช็ดน้ำตาก่อนจะวิ่งให้เร็วที่สุดไปชั้นปฐมพยาบาล เธอวิ่งขึ้นทางบันไดฉุกเฉินจนมาถึงชั้นที่เธอต้องการ
“แฮ่กๆ เหนื่อยใช่เล่นแฮะ”เธอเดินตรงไปที่ห้อง304ก่อนจะส่องกระจกดู จู่ๆ น้ำตาเธอก็ไหลออกมา เธอเอามือปิดปากแน่นกั้นไม่ให้เสียงร้องออกมาเท่าที่จะทำได้ ขาเธอเริ่มไม่มีแรงจนต้องหาที่ยึดเอาไว้ ภาพที่เธอเห็นคือไข่หวานจริงๆ แต่มันแตกต่างเป็นคนละคน ไข่หวานที่เธอเห็นตอนนี้คือคนที่ผอมมาก ผอมจนน่ากลัว เนื้อหนังติดกระดูกตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคนที่เธอรักที่สุดต้องเจออะไรบ้าง
“เดี๋ยวฉันพาแกเข้าไป”แพรวที่นำอาหารอ่อนมาให้ไข่แหวนทานเจอเธอที่กำลังช็อกอยู่หน้าประตูก็เข้าใจเพราะตอนแรกเธอก็ไม่ต่างอะไรกับรินเหมือนกัน
“ฮึกๆ ตะ..แต่..”
“ไข่หวานตาบอดน่ะ แกเข้าไปไข่หวานก็ไม่รู้หรอก” เธอเดินจูงมือเพื่อนเข้าไปในห้องผู้ป่วยอย่างช้าๆ ก่อนจะวางอาหารไว้ตรงโต๊ะทานอาหารของผู้ป่วย
“ไข่หวาน ตื่นยังเราเอาข้าวมาให้แล้วนะ”
“อื้มม ขอบคุณนะแพรว วันนี้เป็นอะไรเหรอ”
“ไข่ตุ๋นกับข้าวสวยน่ะ ของโปรดแกเลยนะ”
“ว้าวจริงอะ ไม่ได้กินนานเลย”ไข่หวานพยายามควานหาโต๊ะทานอาหารของผู้ป่วย รินพยายามช่วยพลักโต๊ะกินข้าวไปให้แบบมือสั่นๆ
“โอ้ะ ขอบคุณนะแพรว เราขอช้อนหน่อยได้ไหม”เธอหยิบช้อนไปให้ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธออยากจะเข้าไปกอดสุดหัวใจของเธอแต่ก็ทำไม่ได้กลัวกระดูกแฟนเธอหัก
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างเหรอ รินเป็นยังไงบ้าง”
“เอ่อช่วงนี้ก็ปกติแหละ รินมันก็สบายดี”เธอหันไปพูดแบบไม่ออกเสียงกับแพรวว่าทำไมไข่หวานรู้เรื่องเธอได้
“ดีแล้วตอนนี้อย่าให้รินมาเห็นสภาพเราในตอนนี้เลย เป็นเราเราก็ทำใจไม่ได้” เธอรู้สึกเจ็บปวดและโกธรแค้นกับคนที่มันทำแบบนี้กับไข่หวานมาก เป็นไปได้เธออยากไปลากหัวมันมาขอโทษไข่หวานซะให้รู้แล้วรู้รอด
แพรวก็คุยสัพเพเหระกับไข่หวานไปเรื่อยๆ เธอก็นั่งอยู่เฉยๆ มองไข่หวานไปนึกเรื่องในอดีตไปพลางอยู่สักพักจนเธอเริ่มรับมือกับความรู้สึกตัวเองได้และยอมรับกับเรื่องทั้งหมดก่อนจะเรียกแพรวไปคุยนอกห้องว่าเธอพร้อมจะคุยกับไข่หวานแล้ว
“แกแน่ใจนะ สติแกไม่แตกแน่นะ”
“เฮ้อ เออฉันรู้แล้วน่า”
“พร้อมนะ” แพรวมองเธออีกครั้งก่อนเธอจะพยักหน้าและเดินเข้าห้องไป แพรวเดินมานั่งที่เดิมและรินก็ไปนั่งอีกด้านหนึ่ง เธอมองตาแพรวอย่างจริงจังว่าเธอพร้อมแล้วจริง
“ไข่หวานเรามีคนมาแนะนำให้แกรู้จักอะ”
“หื้มใครเหรอ” เธอเอื้อมมือไปจับมือไข่หวาน มือที่เธอแสนคุ้นเคยแต่ตอนนี้ผอมแห้งจนไม่เหลือเคล้าดีเลย
“ไข่หวาน” เธอเอ่ยเรียกแฟนของเธออย่างนุ่มนวลก่อนจะจับมือไข่หวานให้มาแนบกับแก้มของเธออย่างอ่อนโยน น้ำตาเธอไหลมาอีกครั้ง
“ริน….” ไข่หวานเอามือปิดปากตัวเองก่อนน้ำตาจะไหลลงอาบน้ำที่ซูบผอม
“ใช่ เค้าเอง” แพรวที่เห็นดังนั้นก็อดที่จะน้ำตาคลอไม่ได้ คนที่เป็นคนที่เธอรักที่สุดไม่ได้เจอกันมาตั้ง5ปีและยังรอคอยเวลาที่จะได้เจอกันอีกครั้งจนในที่สุดทั้งสองก็มาเจอกัน มันเป็นภาพที่เธอรู้สึกมีความสุขที่สุดจริงๆ ก่อนจะขอตัวออกมานั่งรอข้างนอกเพราะอยากให้เพื่อนเธอทั้งสองคนได้ปรัความเข้าใจกัน
 
 
“ใช่รินจริงๆ ด้วย ฮึก ฮืออออๆ ”เธอลุกเข้าไปปลอบไข่หวานที่ร้องไห้หนัก เธอเองก็ไม่ต่างกัน ต่างคนต่างร้องไห้ไปได้สักพักก่อนจะรู้สึกดีขึ้น
“หวานเป็นยังไงบ้าง”
“อื้มเค้ารู้สึกดีขึ้นเยอะเลย”เธอจูบที่มือไข่หวานก่อนครั้งหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นไปกอดไข่หวานให้หายคิดถึง
“อื้มม รินน”
“คะ หวานมีอะไรเหรอ”
“เปล่าา ก็รินกอดเค้าบ่อยแล้ว”
“แค่สองครั้งเอง” ก่อนเธอจะกลับมานั่ง เธอไม่เคยรู้สึกมีความสุขอะไรมากขนาดนี้มาก่อน ใจเธอที่กั้นกำแพงสูงชันเริ่มทลายลงมาก่อนจะมีความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่เธอเองก็ยากจะอธิบายว่ามันรู้สึกดีขนาดไหน
“จริงๆ เค้าไม่อยากให้รินมาเห็นเค้าในสภาพนี้เลย ฮึกๆ ”
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะ แค่นี้เค้าก็มีความสุขมากพอแล้ว หวานแค่พักผ่อนและบำรุงร่างกายเดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วนะคะ”
“อื้มมม เค้าคิดถึงรินมากเลย เค้าคิดว่าจะไม่ได้เจอรินอีกแล้ว”
“เค้าก็คิดถึงหวานมาตลอดเลยนะ ไม่เป็นไรนะคะเราเจอกันแล้วนะ”ก่อนเธอจะจูบที่มือไข่หวานอีกรอบ
“รินเดี๋ยวเค้าเล่าให้ฟังนะว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่เป็นไรค่ะ อย่าพึ่งเล่าเลย หวานพักให้หายดีก่อนค่อยเล่าให้เค้าฟังก็ได้ค่ะ”
“แต่ว่า…”
“ขอแค่หวานอยู่ตรงนี้เค้าก็ดีใจมากแล้ว นี่เดี๋ยวหวานก็หลับได้เเล้วนะคะเดี๋ยวเค้าจะเฝ้าหวานจนหลับไปเลยนะ”
“อื้ม รินอย่าพึ่งไปไหนนะ”
“ค่ะ รินไม่ไปไหนหรอก ไม่มีทางไปแน่นอนค่ะ”
“เค้ารักรินนะ”
“เค้าก็รักหวาน หลับนะคะคนดี” เธอลุกขึ้นไปจุมพิษหน้าผากของไข่หวานก่อนจะรอเฝ้าให้ไข่หวานหลับสนิทไปสักพักค่อยลุกออกมาและเจอแพรวนั่งรออยู่หน้าห้อง
“ฉันจะต้องทำยังไงวะแพรว”
“รีบพาแพรวกลับฐานให้เร็วที่สุดเพราะที่นี่ไม่มีสารอาหารเพียงพอในการรักษาแพรวให้อาหารกลับมาดีขึ้นเลยเว้ย”
“ฉันจะลองไปคุยกับหัวหน้าให้ละกัน”
“ฝากด้วยล่ะ”
“อ่า”
“แล้วเจ้าระยะ4แกเป็นไงบ้างอะ ตอนนี้ลือกันให้แซดเลยว่าแกจะเอาระยะ4มาเลี้ยง”
“ก็ฉันเลี้ยงจริงๆ นิ อยู่บ้านหลังตรงข้ามกับฐานนี่เอง แกจะไปดูปะ”
“พูดเป็นเล่นเถอะ ให้เจอระยะ4ฉันไม่เอาด้วยหรอก”
“555งั้นฉันไปก่อนนะตอนนี้เกือบ11โมงแล้วฉันลืมไปเลยว่าต้องให้อาหารหมาด้วย”
“ห้ะเดี๋ยวแกมีหมาด้วยเหรอ”
“ใช่ เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันมาเล่าให้แกอีกที ฝากไข่หวานแทนฉันหน่อยนะ”
“ได้ๆ เดี๋ยวทางนี้ดูแลเอง”
“แต้งกิ้วมาก” เธอพูดกับแพรวเรียบร้อยก่อนจะขึ้นลิฟต์ลงมาชั้นล่างเพื่อไปหาสหายของเธอ
 
 
“ไงงง สั่นหางดุ๊กดิ๊กเลยนะ” เธอปีนข้ามรั้วประตูมายังด้านในก่อนจะเอ่ยทักทาย ทั้งหมั่นโถวและดำกับแดงวิ่งมาหาเธอจนชนเข้าอย่างจังให้เธอล้มไปกับพื้นก่อนที่จะลุมกันเลียหน้าเธอจนเปียกไปหมด
“5555พอแล้วๆ เดี๋ยวแม่เทข้าวให้นะ”
‘เอ้ะแม่เหรอ’
เธอเดินเข้ามาในบ้านมาตรวจดูสภาพในบ้านแล้วยังปกติดีไม่มีอะไรเลอะ ส่วนอุนจิของสุนัขเธอก็ถ่ายลงตรงถาดที่เธอเตรียมไว้ให้ ไม่รู้ว่าเป็นโชคของเธอหรืออะไรที่สุนัขแต่ละตัวของเธอฉลาด บอกอะไรก็ทำ ทำให้เธอไม่ต้องมาเก็บกวาดอะไรมาก ส่วนหมั่นโถวของเธอเวลากินอาหารก็จะกินข้างนอกหรือกินที่มันออกล่าเลยทำให้เธอไม่ต้องมาปวดหัวเวลามันเอาอาหารมากินข้างใน ก่อนเธอจะหยิบถุงอาหารเม็ดและตักใส่ถ้วยของแต่ละตัวจนครบ ซึ่งเธอมีฝึกอะไรนิดหน่อยให้มันทำพอเสร็จจากฝึกแล้วก็อนุญาตให้กินได้ เธอนั่งมองสุนัขของเธออย่างมีความสุข วันนี้เป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุดในโลกจริงๆ แต่ถ้าหากเธอกลับไปแล้วทั้งสุนัขเธอและหมั่นโถวจะทำอย่างไรเธอก็คิดไม่ออกจริงๆ จะทิ้งไว้ก็ไม่ได้ จะเอาไปด้วยก็ไม่ได้
‘นั่นสิจะทำยังไงดี’
 
 
หลังจากที่สุนัขของพวกเธอทานกันหมดเรียบร้อยแล้วเธอก็พามันออกมาเล่นในสวนหลังบ้าน แต่มันก็ทำให้เธอนึกออกว่ายังไม่ได้เคลียร์รอบๆ บ้านเลย
“จริงด้วยแฮะ ลืมไปเลยนะเนี่ย”เธอมองสภาพสวนหลังบ้านแล้วไม่ต่างอะไรจากป่าดงดิบเลยก่อนจะสั่งให้สุนัขและเจ้าหมั่นโถวอยู่เฉยๆ จากนั้นเธอก็ไปหยิบไม้กวาดดอกหญ้ามากวาดเศษใบไม้แห้งรอบบ้านสักพักก็เสร็จแต่ติดตรงที่ว่าจะเอาใบไม้ไปทิ้งยังไงดี เธอนึกไม่ออกก็เลยไปทำอย่างอื่นต่อโดยที่ปล่อยให้กองเศษไม้กองใหญ่ทิ้งไว้อยู่แบบนั้น ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่ามีสายตาจ้องมองมายังกองเศษไม้ของเธอตาเป็นมัน
 
 
“เฮ้อเสร็จสักที”ตอนนี้บ้านหลังนี้ก็ได้พร้อมสำหรับการพักอาศัยเรียบร้อยแล้ว เธอมองบ้านหลังนี้ก็ออกจะภูมิใจนิดหน่อยที่เธอทำให้มันสะอาดได้ด้วยมือเธอ เธอเดินไปยังประตูหลังก่อนจะเปิดประตูเข้าบ้านไปพักเหนื่อยสักหน่อยแต่จู่ๆ ก็มีตัวอะไรไม่รู้หลายตัวชนเธอจนล้มกลิ้งไม่เป็นท่าก่อนจะปรับตัวให้ลุกขึ้นมานั่งได้และมองไปยังเสียงที่เหมือนจะตะกุยตะกายในกองเศษไม้
“หนอยย รอเวลานี้อยู่เลยสิท่า”ทั้งสุนัขและหมั่นโถวก็ต่างตะกุยตะกายอยู่ในกองเศษไม้อย่างสนุกสนานโดยไม่ได้ดูสารรูปเจ้าของเลยแม้แต่น้อยที่ตอนนี้มีแต่เศษใบไม้กองอยู่เต็มหัวเธอ
“หยุด! เดี๋ยวนี้นะมันเลอะไปหมดแล้วเนี่ย”เธอวิ่งไล่จับสุนัขแต่ละตัวเข้าบ้านแต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น พวกมันวิ่งหนีเธอรอบบ้านและเธอก็ต้องวิ่งไล่จับมันรอบบ้านด้วยเหมือนกันกว่าจะจับได้หมดก็เล่นเอาทั้งสุนัข หมั่นโถวและเธอเกือบสลบกันไป
“แฮ่กๆๆ ” เธอที่นั่งหมดแรงอยู่ในตัวบ้านพาสุนัขทั้งหลายของเธอเข้านอนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปบอกหมั่นโถวว่าเดี๋ยวมาใหม่นะอย่าลืมพาน้องๆ มากินข้าวด้วย เธอบอกแบบนี้ทีไรหน้ามันหงอยๆ แต่ก็ต้องเข้าใจล่ะนะ เธอไม่ว่างขนาดนั้นเพราะตอนวันนี้ตอนกะดึกเธอต้องเข้าเวนกับแพรวเลยทำให้ต้องไปเร็ว เธออดสงสารไม่ได้แต่เธอคงได้แต่ลูบหัวและกอดปลอบมัน หลังจากนั้นเธอก็เดินออกมาใส่อาหารมื้อเย็นให้ครบทุกตัวรวมถึงหมั่นโถวด้วยวางเป็นระเบียบและจากนั้นย้ำให้หมั่นโถวอีกรอบก่อนจะโบกมือลาและเดินออกไปยังฐานของเธอ
 
 
“เฮ้อทันเวลากินข้าวพอดีเลยแฮะ”เธอเดินมายังชั้นอาหารก่อนจะโทรตามแพรวให้มากินข้าวด้วยกัน จากนั้นเธอก็ไปเลือกเดินดูอาหารที่ต้องการจะทานและเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับอาหารของเธอ
“เฮ้ยเดี๋ยวฉันมานะ”แพรวเดินเข้ามาทักเธอก่อนจะเดินไปอย่างรวดเร็วจนเธอขานรับไม่ทัน
“อะ อ่า รีบไปไหนของมันแฮะ”
“มาแล้วๆ ”
“วันนี้เราเวนกะดึกนะ ไม่ต้องรีบ”
“แกสิที่ต้องรีบ เพราะเดี๋ยวต้องไปป้อมข้าวไข่หวานอีกนะ”
“ฉันทันอยู่แล้วล่ะน่า”
“จ้าา ตั้งแต่เจอไข่หวานนี่ออร่าความสุขพุ่งเลยเนอะ อะนี่ฉันเอาข้าวของไข่หวานมาให้เเล้วนะ”
“แต้งมากเพื่อน”
“จ้าาาา แต่ไม่รีบขนาดนั้นก็ได้นะฉันว่า”
“อั้นไออ้ะ (ฉันไปละ) ”
“เออเครๆ มาให้ทันด้วยละกัน ก่อนเข้าไปหาไข่หวานทำความสะอาดตัวเองนิดนึงนะ” เธอชูนิ้วโป้งให้ก่อนจะรีบวิ่งไปอาบน้ำอาบท่าและขึ้นเอาอาหารไปให้ไข่หวาน เธอเปิดประตูเข้าไปเห็นไข่หวานกำลังอ่านหนังสืออยู่ก่อนจะค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ๆ และเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่
“อื้มมม รินน”
“กำลังอ่านอะไรอยู่เหรอคะ”
“อ่านนิยายอยู่ค่ะ รินคะจู่ๆ อย่าเข้ามาหอมแก้มแบบนี้สิคะ เค้าตกใจหมดเลย”
“5555ก็เห็นหวานกำลังตั้งใจอ่านอยู่มันก็อดไม่ได้อะค่ะ”เธอเข้าไปนั่งข้างๆ เตียงผู้ป่วยก่อนจะจัดแจงอาหารให้เรียบร้อย
“เค้าน่าแกล้งขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“น่ารักต่างหากค่ะเลยอยากแกล้ง”เธอจับมือไข่หวานขึ้นมาจูบและเอาแนบกับหน้าของเธอ
“ปากหวานเหมือนเดิมเลยนะคะ”
“แน่นอนค่ะ สงสัยต้องให้รางวัลแล้วนะคะ”
“อยากได้อะไรคะ”
“อยู่กับเค้าไปนานๆ นะคะ”ไข่หวานยิ้มออกมาทำให้เธอเผลอยิ้มตามอย่างอดไม่ได้ รอยยิ้มนี้ทำไมเวลาเธอเห็นมันหัวใจของเธอมันรู้สึกอบอุ่นขึ้นทุกครั้งที่เห็น
“สัญญาค่ะ รินก็สัญญาด้วยนะคะ”
“สัญญาอยู่แล้วค่ะ”ไข่หวานเอามืออีกด้านหนึ่งมาสัมผัสหน้าเธอทำให้เธอจับมือไข่หวานทั้งสองข้างมาแนบกับใบหน้าของเธอ
“อุ่ยลืม รินเอาอาหารมาให้แล้วนะคะ มาค่ะเดี๋ยวรินป้อน”
“ขอบคุณนะคะ”
“อ้ามค่ะ”
“โถ่รินก็ เค้าไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ”
“55555555 จริงเหรอคะเค้าอยากรู้จังเลยว่าโตจริงรึเปล่า”
“ริน คิดลึกนะคะ”
“หยอกเล่นค่ะ5555”เธอป้อนข้าวไข่หวานจนหมดก่อนที่จะดูเวลาแล้วยังเหลืออีกนิดหน่อยเลยเก็บกล่องข้าวไปทิ้งและทำความสะอาดอะไรให้เรียบร้อย
“หวานไปเรียนอักษรเบลมาตั้งแต่เมื่อไรเหรอคะก็เรียนมาได้สักพักแล้วค่ะ เห็นเค้าอย่างงี้เค้าก็อ่านอะไรได้หมดแล้วน่า”
“เค้ายังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย จริงด้วยหวานคะเดี๋ยวอีกแปบเค้าต้องไปอยู่เฝ้าเวนกะดึกนะคะ เดี๋ยวพอเค้าเฝ้าเสร็จเดี๋ยวมานอนด้วยนะคะ”
“ค่ะสู้ๆ นะคะ ตั้งใจทำงานนะ”
“รับทราบค่ะหัวหน้า รินคนนี้จะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ! ” เธอทำท่าวันทยาหัตถ์ถึงแม้ไข่หวานจะมองเธอไม่เห็นแต่ไข่หวานก็สัมผัสได้ว่าเธอทำอะไร
“5555ตั้งใจนะคะเจ้าหน้าที่ริน”
“รับทราบค่ะ”เธอเข้าไปหอมแก้มไข่หวานก่อนจะบอกลาอีกครั้งและออกจากห้องไปเตรียมอุปกรณ์และลงไปชั้นล่างที่เธอคิดว่าแพรวน่าจะไปรออยู่ก่อนแล้ว
“นึกว่าจะสายแฮะ”
“โถ่อย่างฉันแล้ว ตรงเวลาตลอดแหละ”ก่อนเธอจะเฝ้าไปจนเปลี่ยนกะเธอก็เข้าไปที่ห้องไข่หวานไปนอนเฝ้าคนน่ารักที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอ
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา