นรกบนดิน(yuri)
-
เขียนโดย themockingjay
วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.
29 ตอน
0 วิจารณ์
23.44K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) ไข่หวาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“.......”
‘อย่าเงียบสิเพื่อนฉันพูดไม่ออก’
“ฉะ..ฉันไม่ได้ดูปฏิทินเลยแฮะ วันนี้วันโกหกเหรอ”
“รินฉันจริงจัง ที่ฉันพูดทั้งหมดคือเรื่องจริง”
“ฉันอิ่มแล้ว รู้สึกจะปวดท้องด้วยต้องเข้าห้องน้ำ”
“เดี๋ยวรินฟังฉันก่อน”เพื่อนเธอรีบลุกขึ้นมาฉุดเธอให้นั่งลง
“ฟังอะไร!! ฉันยังต้องฟังอะไรอีก ที่ผ่านมามันยังไม่พอเหรอ!!! ” เสียงรินดังไปทั่วชั้นอาหารทำให้ผู้คนที่อยู่รอบนั่นมองเธอเป็นตาเดียว
“เอ่อ ขอโทษค่ะๆๆ ”เธอเอ่ยขอโทษคนที่อยู่รอบๆ ก่อนจะเดินออกไป
“โถ่เอ้ยแบบนี้ไข่หวานจะรอดไหมเนี่ย”เธอวิ่งตามรินไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดที่ชั้นที่พักของพวกเธอสองคน
“เดี๋ยวรินแกจะไปไหน”
“มันเรื่องของฉัน”รินเก็บของใส่กระเป๋าสะพายของเธอก่อนที่จะลุกออกไปแต่แพรวฉุดรินไว้ก่อน
“แกมีเหตุผลหน่อยดิวะ!! ”
“ให้มีอะไรวะ แกจะบอกว่าไข่หวานฟื้นขึ้นมาเองงี้เหรอ แกต่างหากที่อย่าไร้สาระ!! ”
“ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ต้องมาทะเลาะกันปะวะ”
“แล้วใครวะที่พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา ก็แกไม่ใช่เหรอ”
“เออฉันผิดเอง!! ถ้าตอนนี้แกไม่รีบส่งไข่หวานไปโรงพยาบาลที่ฐานเราละก็ แกคงจะเจอไข่หวานที่ยมโลกอย่างเดียวแหละ!! ”
“หมายความว่าไงวะแพรว มันใช่เรื่องที่สมควรพูดเหรอวะ ห้ะ!! ”เธอเดินเข้าไปจะต่อยแต่มีเจ้าหน้าที่มาห้ามทัน
“อยู่ชั้นปฐมพยาบาล ห้อง304 แกไปดูเอาเองละกัน ฉันเป็นเพื่อนกับแกมาฉันรู้ว่าอะไรควรไม่ควรพูด ถ้าแกมีสมองคิดสักนิดจะรู้ว่าฉันพูดเล่นรึเปล่า” เพื่อนเธอจัดเสื้อว่าที่ยับอยู่ตรงปกคอก่อนจะเดินจากเธอไปและไทยมุงก็สลายไปให้เหลือแค่เธอคนเดียวที่อยู่
“ฮึกๆ ฮืออๆ ฉันไม่รู้ว่ะ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น” เธอร้องไห้ได้สักพัก สติเริ่มกลับมาทำให้เธอรีบเช็ดน้ำตาก่อนจะวิ่งให้เร็วที่สุดไปชั้นปฐมพยาบาล เธอวิ่งขึ้นทางบันไดฉุกเฉินจนมาถึงชั้นที่เธอต้องการ
“แฮ่กๆ เหนื่อยใช่เล่นแฮะ”เธอเดินตรงไปที่ห้อง304ก่อนจะส่องกระจกดู จู่ๆ น้ำตาเธอก็ไหลออกมา เธอเอามือปิดปากแน่นกั้นไม่ให้เสียงร้องออกมาเท่าที่จะทำได้ ขาเธอเริ่มไม่มีแรงจนต้องหาที่ยึดเอาไว้ ภาพที่เธอเห็นคือไข่หวานจริงๆ แต่มันแตกต่างเป็นคนละคน ไข่หวานที่เธอเห็นตอนนี้คือคนที่ผอมมาก ผอมจนน่ากลัว เนื้อหนังติดกระดูกตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคนที่เธอรักที่สุดต้องเจออะไรบ้าง
“เดี๋ยวฉันพาแกเข้าไป”แพรวที่นำอาหารอ่อนมาให้ไข่แหวนทานเจอเธอที่กำลังช็อกอยู่หน้าประตูก็เข้าใจเพราะตอนแรกเธอก็ไม่ต่างอะไรกับรินเหมือนกัน
“ฮึกๆ ตะ..แต่..”
“ไข่หวานตาบอดน่ะ แกเข้าไปไข่หวานก็ไม่รู้หรอก” เธอเดินจูงมือเพื่อนเข้าไปในห้องผู้ป่วยอย่างช้าๆ ก่อนจะวางอาหารไว้ตรงโต๊ะทานอาหารของผู้ป่วย
“ไข่หวาน ตื่นยังเราเอาข้าวมาให้แล้วนะ”
“อื้มม ขอบคุณนะแพรว วันนี้เป็นอะไรเหรอ”
“ไข่ตุ๋นกับข้าวสวยน่ะ ของโปรดแกเลยนะ”
“ว้าวจริงอะ ไม่ได้กินนานเลย”ไข่หวานพยายามควานหาโต๊ะทานอาหารของผู้ป่วย รินพยายามช่วยพลักโต๊ะกินข้าวไปให้แบบมือสั่นๆ
“โอ้ะ ขอบคุณนะแพรว เราขอช้อนหน่อยได้ไหม”เธอหยิบช้อนไปให้ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธออยากจะเข้าไปกอดสุดหัวใจของเธอแต่ก็ทำไม่ได้กลัวกระดูกแฟนเธอหัก
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างเหรอ รินเป็นยังไงบ้าง”
“เอ่อช่วงนี้ก็ปกติแหละ รินมันก็สบายดี”เธอหันไปพูดแบบไม่ออกเสียงกับแพรวว่าทำไมไข่หวานรู้เรื่องเธอได้
“ดีแล้วตอนนี้อย่าให้รินมาเห็นสภาพเราในตอนนี้เลย เป็นเราเราก็ทำใจไม่ได้” เธอรู้สึกเจ็บปวดและโกธรแค้นกับคนที่มันทำแบบนี้กับไข่หวานมาก เป็นไปได้เธออยากไปลากหัวมันมาขอโทษไข่หวานซะให้รู้แล้วรู้รอด
แพรวก็คุยสัพเพเหระกับไข่หวานไปเรื่อยๆ เธอก็นั่งอยู่เฉยๆ มองไข่หวานไปนึกเรื่องในอดีตไปพลางอยู่สักพักจนเธอเริ่มรับมือกับความรู้สึกตัวเองได้และยอมรับกับเรื่องทั้งหมดก่อนจะเรียกแพรวไปคุยนอกห้องว่าเธอพร้อมจะคุยกับไข่หวานแล้ว
“แกแน่ใจนะ สติแกไม่แตกแน่นะ”
“เฮ้อ เออฉันรู้แล้วน่า”
“พร้อมนะ” แพรวมองเธออีกครั้งก่อนเธอจะพยักหน้าและเดินเข้าห้องไป แพรวเดินมานั่งที่เดิมและรินก็ไปนั่งอีกด้านหนึ่ง เธอมองตาแพรวอย่างจริงจังว่าเธอพร้อมแล้วจริง
“ไข่หวานเรามีคนมาแนะนำให้แกรู้จักอะ”
“หื้มใครเหรอ” เธอเอื้อมมือไปจับมือไข่หวาน มือที่เธอแสนคุ้นเคยแต่ตอนนี้ผอมแห้งจนไม่เหลือเคล้าดีเลย
“ไข่หวาน” เธอเอ่ยเรียกแฟนของเธออย่างนุ่มนวลก่อนจะจับมือไข่หวานให้มาแนบกับแก้มของเธออย่างอ่อนโยน น้ำตาเธอไหลมาอีกครั้ง
“ริน….” ไข่หวานเอามือปิดปากตัวเองก่อนน้ำตาจะไหลลงอาบน้ำที่ซูบผอม
“ใช่ เค้าเอง” แพรวที่เห็นดังนั้นก็อดที่จะน้ำตาคลอไม่ได้ คนที่เป็นคนที่เธอรักที่สุดไม่ได้เจอกันมาตั้ง5ปีและยังรอคอยเวลาที่จะได้เจอกันอีกครั้งจนในที่สุดทั้งสองก็มาเจอกัน มันเป็นภาพที่เธอรู้สึกมีความสุขที่สุดจริงๆ ก่อนจะขอตัวออกมานั่งรอข้างนอกเพราะอยากให้เพื่อนเธอทั้งสองคนได้ปรัความเข้าใจกัน
“ใช่รินจริงๆ ด้วย ฮึก ฮืออออๆ ”เธอลุกเข้าไปปลอบไข่หวานที่ร้องไห้หนัก เธอเองก็ไม่ต่างกัน ต่างคนต่างร้องไห้ไปได้สักพักก่อนจะรู้สึกดีขึ้น
“หวานเป็นยังไงบ้าง”
“อื้มเค้ารู้สึกดีขึ้นเยอะเลย”เธอจูบที่มือไข่หวานก่อนครั้งหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นไปกอดไข่หวานให้หายคิดถึง
“อื้มม รินน”
“คะ หวานมีอะไรเหรอ”
“เปล่าา ก็รินกอดเค้าบ่อยแล้ว”
“แค่สองครั้งเอง” ก่อนเธอจะกลับมานั่ง เธอไม่เคยรู้สึกมีความสุขอะไรมากขนาดนี้มาก่อน ใจเธอที่กั้นกำแพงสูงชันเริ่มทลายลงมาก่อนจะมีความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่เธอเองก็ยากจะอธิบายว่ามันรู้สึกดีขนาดไหน
“จริงๆ เค้าไม่อยากให้รินมาเห็นเค้าในสภาพนี้เลย ฮึกๆ ”
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะ แค่นี้เค้าก็มีความสุขมากพอแล้ว หวานแค่พักผ่อนและบำรุงร่างกายเดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วนะคะ”
“อื้มมม เค้าคิดถึงรินมากเลย เค้าคิดว่าจะไม่ได้เจอรินอีกแล้ว”
“เค้าก็คิดถึงหวานมาตลอดเลยนะ ไม่เป็นไรนะคะเราเจอกันแล้วนะ”ก่อนเธอจะจูบที่มือไข่หวานอีกรอบ
“รินเดี๋ยวเค้าเล่าให้ฟังนะว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่เป็นไรค่ะ อย่าพึ่งเล่าเลย หวานพักให้หายดีก่อนค่อยเล่าให้เค้าฟังก็ได้ค่ะ”
“แต่ว่า…”
“ขอแค่หวานอยู่ตรงนี้เค้าก็ดีใจมากแล้ว นี่เดี๋ยวหวานก็หลับได้เเล้วนะคะเดี๋ยวเค้าจะเฝ้าหวานจนหลับไปเลยนะ”
“อื้ม รินอย่าพึ่งไปไหนนะ”
“ค่ะ รินไม่ไปไหนหรอก ไม่มีทางไปแน่นอนค่ะ”
“เค้ารักรินนะ”
“เค้าก็รักหวาน หลับนะคะคนดี” เธอลุกขึ้นไปจุมพิษหน้าผากของไข่หวานก่อนจะรอเฝ้าให้ไข่หวานหลับสนิทไปสักพักค่อยลุกออกมาและเจอแพรวนั่งรออยู่หน้าห้อง
“ฉันจะต้องทำยังไงวะแพรว”
“รีบพาแพรวกลับฐานให้เร็วที่สุดเพราะที่นี่ไม่มีสารอาหารเพียงพอในการรักษาแพรวให้อาหารกลับมาดีขึ้นเลยเว้ย”
“ฉันจะลองไปคุยกับหัวหน้าให้ละกัน”
“ฝากด้วยล่ะ”
“อ่า”
“แล้วเจ้าระยะ4แกเป็นไงบ้างอะ ตอนนี้ลือกันให้แซดเลยว่าแกจะเอาระยะ4มาเลี้ยง”
“ก็ฉันเลี้ยงจริงๆ นิ อยู่บ้านหลังตรงข้ามกับฐานนี่เอง แกจะไปดูปะ”
“พูดเป็นเล่นเถอะ ให้เจอระยะ4ฉันไม่เอาด้วยหรอก”
“555งั้นฉันไปก่อนนะตอนนี้เกือบ11โมงแล้วฉันลืมไปเลยว่าต้องให้อาหารหมาด้วย”
“ห้ะเดี๋ยวแกมีหมาด้วยเหรอ”
“ใช่ เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันมาเล่าให้แกอีกที ฝากไข่หวานแทนฉันหน่อยนะ”
“ได้ๆ เดี๋ยวทางนี้ดูแลเอง”
“แต้งกิ้วมาก” เธอพูดกับแพรวเรียบร้อยก่อนจะขึ้นลิฟต์ลงมาชั้นล่างเพื่อไปหาสหายของเธอ
“ไงงง สั่นหางดุ๊กดิ๊กเลยนะ” เธอปีนข้ามรั้วประตูมายังด้านในก่อนจะเอ่ยทักทาย ทั้งหมั่นโถวและดำกับแดงวิ่งมาหาเธอจนชนเข้าอย่างจังให้เธอล้มไปกับพื้นก่อนที่จะลุมกันเลียหน้าเธอจนเปียกไปหมด
“5555พอแล้วๆ เดี๋ยวแม่เทข้าวให้นะ”
‘เอ้ะแม่เหรอ’
เธอเดินเข้ามาในบ้านมาตรวจดูสภาพในบ้านแล้วยังปกติดีไม่มีอะไรเลอะ ส่วนอุนจิของสุนัขเธอก็ถ่ายลงตรงถาดที่เธอเตรียมไว้ให้ ไม่รู้ว่าเป็นโชคของเธอหรืออะไรที่สุนัขแต่ละตัวของเธอฉลาด บอกอะไรก็ทำ ทำให้เธอไม่ต้องมาเก็บกวาดอะไรมาก ส่วนหมั่นโถวของเธอเวลากินอาหารก็จะกินข้างนอกหรือกินที่มันออกล่าเลยทำให้เธอไม่ต้องมาปวดหัวเวลามันเอาอาหารมากินข้างใน ก่อนเธอจะหยิบถุงอาหารเม็ดและตักใส่ถ้วยของแต่ละตัวจนครบ ซึ่งเธอมีฝึกอะไรนิดหน่อยให้มันทำพอเสร็จจากฝึกแล้วก็อนุญาตให้กินได้ เธอนั่งมองสุนัขของเธออย่างมีความสุข วันนี้เป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุดในโลกจริงๆ แต่ถ้าหากเธอกลับไปแล้วทั้งสุนัขเธอและหมั่นโถวจะทำอย่างไรเธอก็คิดไม่ออกจริงๆ จะทิ้งไว้ก็ไม่ได้ จะเอาไปด้วยก็ไม่ได้
‘นั่นสิจะทำยังไงดี’
หลังจากที่สุนัขของพวกเธอทานกันหมดเรียบร้อยแล้วเธอก็พามันออกมาเล่นในสวนหลังบ้าน แต่มันก็ทำให้เธอนึกออกว่ายังไม่ได้เคลียร์รอบๆ บ้านเลย
“จริงด้วยแฮะ ลืมไปเลยนะเนี่ย”เธอมองสภาพสวนหลังบ้านแล้วไม่ต่างอะไรจากป่าดงดิบเลยก่อนจะสั่งให้สุนัขและเจ้าหมั่นโถวอยู่เฉยๆ จากนั้นเธอก็ไปหยิบไม้กวาดดอกหญ้ามากวาดเศษใบไม้แห้งรอบบ้านสักพักก็เสร็จแต่ติดตรงที่ว่าจะเอาใบไม้ไปทิ้งยังไงดี เธอนึกไม่ออกก็เลยไปทำอย่างอื่นต่อโดยที่ปล่อยให้กองเศษไม้กองใหญ่ทิ้งไว้อยู่แบบนั้น ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่ามีสายตาจ้องมองมายังกองเศษไม้ของเธอตาเป็นมัน
“เฮ้อเสร็จสักที”ตอนนี้บ้านหลังนี้ก็ได้พร้อมสำหรับการพักอาศัยเรียบร้อยแล้ว เธอมองบ้านหลังนี้ก็ออกจะภูมิใจนิดหน่อยที่เธอทำให้มันสะอาดได้ด้วยมือเธอ เธอเดินไปยังประตูหลังก่อนจะเปิดประตูเข้าบ้านไปพักเหนื่อยสักหน่อยแต่จู่ๆ ก็มีตัวอะไรไม่รู้หลายตัวชนเธอจนล้มกลิ้งไม่เป็นท่าก่อนจะปรับตัวให้ลุกขึ้นมานั่งได้และมองไปยังเสียงที่เหมือนจะตะกุยตะกายในกองเศษไม้
“หนอยย รอเวลานี้อยู่เลยสิท่า”ทั้งสุนัขและหมั่นโถวก็ต่างตะกุยตะกายอยู่ในกองเศษไม้อย่างสนุกสนานโดยไม่ได้ดูสารรูปเจ้าของเลยแม้แต่น้อยที่ตอนนี้มีแต่เศษใบไม้กองอยู่เต็มหัวเธอ
“หยุด! เดี๋ยวนี้นะมันเลอะไปหมดแล้วเนี่ย”เธอวิ่งไล่จับสุนัขแต่ละตัวเข้าบ้านแต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น พวกมันวิ่งหนีเธอรอบบ้านและเธอก็ต้องวิ่งไล่จับมันรอบบ้านด้วยเหมือนกันกว่าจะจับได้หมดก็เล่นเอาทั้งสุนัข หมั่นโถวและเธอเกือบสลบกันไป
“แฮ่กๆๆ ” เธอที่นั่งหมดแรงอยู่ในตัวบ้านพาสุนัขทั้งหลายของเธอเข้านอนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปบอกหมั่นโถวว่าเดี๋ยวมาใหม่นะอย่าลืมพาน้องๆ มากินข้าวด้วย เธอบอกแบบนี้ทีไรหน้ามันหงอยๆ แต่ก็ต้องเข้าใจล่ะนะ เธอไม่ว่างขนาดนั้นเพราะตอนวันนี้ตอนกะดึกเธอต้องเข้าเวนกับแพรวเลยทำให้ต้องไปเร็ว เธออดสงสารไม่ได้แต่เธอคงได้แต่ลูบหัวและกอดปลอบมัน หลังจากนั้นเธอก็เดินออกมาใส่อาหารมื้อเย็นให้ครบทุกตัวรวมถึงหมั่นโถวด้วยวางเป็นระเบียบและจากนั้นย้ำให้หมั่นโถวอีกรอบก่อนจะโบกมือลาและเดินออกไปยังฐานของเธอ
“เฮ้อทันเวลากินข้าวพอดีเลยแฮะ”เธอเดินมายังชั้นอาหารก่อนจะโทรตามแพรวให้มากินข้าวด้วยกัน จากนั้นเธอก็ไปเลือกเดินดูอาหารที่ต้องการจะทานและเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับอาหารของเธอ
“เฮ้ยเดี๋ยวฉันมานะ”แพรวเดินเข้ามาทักเธอก่อนจะเดินไปอย่างรวดเร็วจนเธอขานรับไม่ทัน
“อะ อ่า รีบไปไหนของมันแฮะ”
“มาแล้วๆ ”
“วันนี้เราเวนกะดึกนะ ไม่ต้องรีบ”
“แกสิที่ต้องรีบ เพราะเดี๋ยวต้องไปป้อมข้าวไข่หวานอีกนะ”
“ฉันทันอยู่แล้วล่ะน่า”
“จ้าา ตั้งแต่เจอไข่หวานนี่ออร่าความสุขพุ่งเลยเนอะ อะนี่ฉันเอาข้าวของไข่หวานมาให้เเล้วนะ”
“แต้งมากเพื่อน”
“จ้าาาา แต่ไม่รีบขนาดนั้นก็ได้นะฉันว่า”
“อั้นไออ้ะ (ฉันไปละ) ”
“เออเครๆ มาให้ทันด้วยละกัน ก่อนเข้าไปหาไข่หวานทำความสะอาดตัวเองนิดนึงนะ” เธอชูนิ้วโป้งให้ก่อนจะรีบวิ่งไปอาบน้ำอาบท่าและขึ้นเอาอาหารไปให้ไข่หวาน เธอเปิดประตูเข้าไปเห็นไข่หวานกำลังอ่านหนังสืออยู่ก่อนจะค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ๆ และเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่
“อื้มมม รินน”
“กำลังอ่านอะไรอยู่เหรอคะ”
“อ่านนิยายอยู่ค่ะ รินคะจู่ๆ อย่าเข้ามาหอมแก้มแบบนี้สิคะ เค้าตกใจหมดเลย”
“5555ก็เห็นหวานกำลังตั้งใจอ่านอยู่มันก็อดไม่ได้อะค่ะ”เธอเข้าไปนั่งข้างๆ เตียงผู้ป่วยก่อนจะจัดแจงอาหารให้เรียบร้อย
“เค้าน่าแกล้งขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“น่ารักต่างหากค่ะเลยอยากแกล้ง”เธอจับมือไข่หวานขึ้นมาจูบและเอาแนบกับหน้าของเธอ
“ปากหวานเหมือนเดิมเลยนะคะ”
“แน่นอนค่ะ สงสัยต้องให้รางวัลแล้วนะคะ”
“อยากได้อะไรคะ”
“อยู่กับเค้าไปนานๆ นะคะ”ไข่หวานยิ้มออกมาทำให้เธอเผลอยิ้มตามอย่างอดไม่ได้ รอยยิ้มนี้ทำไมเวลาเธอเห็นมันหัวใจของเธอมันรู้สึกอบอุ่นขึ้นทุกครั้งที่เห็น
“สัญญาค่ะ รินก็สัญญาด้วยนะคะ”
“สัญญาอยู่แล้วค่ะ”ไข่หวานเอามืออีกด้านหนึ่งมาสัมผัสหน้าเธอทำให้เธอจับมือไข่หวานทั้งสองข้างมาแนบกับใบหน้าของเธอ
“อุ่ยลืม รินเอาอาหารมาให้แล้วนะคะ มาค่ะเดี๋ยวรินป้อน”
“ขอบคุณนะคะ”
“อ้ามค่ะ”
“โถ่รินก็ เค้าไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ”
“55555555 จริงเหรอคะเค้าอยากรู้จังเลยว่าโตจริงรึเปล่า”
“ริน คิดลึกนะคะ”
“หยอกเล่นค่ะ5555”เธอป้อนข้าวไข่หวานจนหมดก่อนที่จะดูเวลาแล้วยังเหลืออีกนิดหน่อยเลยเก็บกล่องข้าวไปทิ้งและทำความสะอาดอะไรให้เรียบร้อย
“หวานไปเรียนอักษรเบลมาตั้งแต่เมื่อไรเหรอคะก็เรียนมาได้สักพักแล้วค่ะ เห็นเค้าอย่างงี้เค้าก็อ่านอะไรได้หมดแล้วน่า”
“เค้ายังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย จริงด้วยหวานคะเดี๋ยวอีกแปบเค้าต้องไปอยู่เฝ้าเวนกะดึกนะคะ เดี๋ยวพอเค้าเฝ้าเสร็จเดี๋ยวมานอนด้วยนะคะ”
“ค่ะสู้ๆ นะคะ ตั้งใจทำงานนะ”
“รับทราบค่ะหัวหน้า รินคนนี้จะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ! ” เธอทำท่าวันทยาหัตถ์ถึงแม้ไข่หวานจะมองเธอไม่เห็นแต่ไข่หวานก็สัมผัสได้ว่าเธอทำอะไร
“5555ตั้งใจนะคะเจ้าหน้าที่ริน”
“รับทราบค่ะ”เธอเข้าไปหอมแก้มไข่หวานก่อนจะบอกลาอีกครั้งและออกจากห้องไปเตรียมอุปกรณ์และลงไปชั้นล่างที่เธอคิดว่าแพรวน่าจะไปรออยู่ก่อนแล้ว
“นึกว่าจะสายแฮะ”
“โถ่อย่างฉันแล้ว ตรงเวลาตลอดแหละ”ก่อนเธอจะเฝ้าไปจนเปลี่ยนกะเธอก็เข้าไปที่ห้องไข่หวานไปนอนเฝ้าคนน่ารักที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอ
‘อย่าเงียบสิเพื่อนฉันพูดไม่ออก’
“ฉะ..ฉันไม่ได้ดูปฏิทินเลยแฮะ วันนี้วันโกหกเหรอ”
“รินฉันจริงจัง ที่ฉันพูดทั้งหมดคือเรื่องจริง”
“ฉันอิ่มแล้ว รู้สึกจะปวดท้องด้วยต้องเข้าห้องน้ำ”
“เดี๋ยวรินฟังฉันก่อน”เพื่อนเธอรีบลุกขึ้นมาฉุดเธอให้นั่งลง
“ฟังอะไร!! ฉันยังต้องฟังอะไรอีก ที่ผ่านมามันยังไม่พอเหรอ!!! ” เสียงรินดังไปทั่วชั้นอาหารทำให้ผู้คนที่อยู่รอบนั่นมองเธอเป็นตาเดียว
“เอ่อ ขอโทษค่ะๆๆ ”เธอเอ่ยขอโทษคนที่อยู่รอบๆ ก่อนจะเดินออกไป
“โถ่เอ้ยแบบนี้ไข่หวานจะรอดไหมเนี่ย”เธอวิ่งตามรินไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดที่ชั้นที่พักของพวกเธอสองคน
“เดี๋ยวรินแกจะไปไหน”
“มันเรื่องของฉัน”รินเก็บของใส่กระเป๋าสะพายของเธอก่อนที่จะลุกออกไปแต่แพรวฉุดรินไว้ก่อน
“แกมีเหตุผลหน่อยดิวะ!! ”
“ให้มีอะไรวะ แกจะบอกว่าไข่หวานฟื้นขึ้นมาเองงี้เหรอ แกต่างหากที่อย่าไร้สาระ!! ”
“ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ต้องมาทะเลาะกันปะวะ”
“แล้วใครวะที่พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา ก็แกไม่ใช่เหรอ”
“เออฉันผิดเอง!! ถ้าตอนนี้แกไม่รีบส่งไข่หวานไปโรงพยาบาลที่ฐานเราละก็ แกคงจะเจอไข่หวานที่ยมโลกอย่างเดียวแหละ!! ”
“หมายความว่าไงวะแพรว มันใช่เรื่องที่สมควรพูดเหรอวะ ห้ะ!! ”เธอเดินเข้าไปจะต่อยแต่มีเจ้าหน้าที่มาห้ามทัน
“อยู่ชั้นปฐมพยาบาล ห้อง304 แกไปดูเอาเองละกัน ฉันเป็นเพื่อนกับแกมาฉันรู้ว่าอะไรควรไม่ควรพูด ถ้าแกมีสมองคิดสักนิดจะรู้ว่าฉันพูดเล่นรึเปล่า” เพื่อนเธอจัดเสื้อว่าที่ยับอยู่ตรงปกคอก่อนจะเดินจากเธอไปและไทยมุงก็สลายไปให้เหลือแค่เธอคนเดียวที่อยู่
“ฮึกๆ ฮืออๆ ฉันไม่รู้ว่ะ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น” เธอร้องไห้ได้สักพัก สติเริ่มกลับมาทำให้เธอรีบเช็ดน้ำตาก่อนจะวิ่งให้เร็วที่สุดไปชั้นปฐมพยาบาล เธอวิ่งขึ้นทางบันไดฉุกเฉินจนมาถึงชั้นที่เธอต้องการ
“แฮ่กๆ เหนื่อยใช่เล่นแฮะ”เธอเดินตรงไปที่ห้อง304ก่อนจะส่องกระจกดู จู่ๆ น้ำตาเธอก็ไหลออกมา เธอเอามือปิดปากแน่นกั้นไม่ให้เสียงร้องออกมาเท่าที่จะทำได้ ขาเธอเริ่มไม่มีแรงจนต้องหาที่ยึดเอาไว้ ภาพที่เธอเห็นคือไข่หวานจริงๆ แต่มันแตกต่างเป็นคนละคน ไข่หวานที่เธอเห็นตอนนี้คือคนที่ผอมมาก ผอมจนน่ากลัว เนื้อหนังติดกระดูกตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคนที่เธอรักที่สุดต้องเจออะไรบ้าง
“เดี๋ยวฉันพาแกเข้าไป”แพรวที่นำอาหารอ่อนมาให้ไข่แหวนทานเจอเธอที่กำลังช็อกอยู่หน้าประตูก็เข้าใจเพราะตอนแรกเธอก็ไม่ต่างอะไรกับรินเหมือนกัน
“ฮึกๆ ตะ..แต่..”
“ไข่หวานตาบอดน่ะ แกเข้าไปไข่หวานก็ไม่รู้หรอก” เธอเดินจูงมือเพื่อนเข้าไปในห้องผู้ป่วยอย่างช้าๆ ก่อนจะวางอาหารไว้ตรงโต๊ะทานอาหารของผู้ป่วย
“ไข่หวาน ตื่นยังเราเอาข้าวมาให้แล้วนะ”
“อื้มม ขอบคุณนะแพรว วันนี้เป็นอะไรเหรอ”
“ไข่ตุ๋นกับข้าวสวยน่ะ ของโปรดแกเลยนะ”
“ว้าวจริงอะ ไม่ได้กินนานเลย”ไข่หวานพยายามควานหาโต๊ะทานอาหารของผู้ป่วย รินพยายามช่วยพลักโต๊ะกินข้าวไปให้แบบมือสั่นๆ
“โอ้ะ ขอบคุณนะแพรว เราขอช้อนหน่อยได้ไหม”เธอหยิบช้อนไปให้ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธออยากจะเข้าไปกอดสุดหัวใจของเธอแต่ก็ทำไม่ได้กลัวกระดูกแฟนเธอหัก
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างเหรอ รินเป็นยังไงบ้าง”
“เอ่อช่วงนี้ก็ปกติแหละ รินมันก็สบายดี”เธอหันไปพูดแบบไม่ออกเสียงกับแพรวว่าทำไมไข่หวานรู้เรื่องเธอได้
“ดีแล้วตอนนี้อย่าให้รินมาเห็นสภาพเราในตอนนี้เลย เป็นเราเราก็ทำใจไม่ได้” เธอรู้สึกเจ็บปวดและโกธรแค้นกับคนที่มันทำแบบนี้กับไข่หวานมาก เป็นไปได้เธออยากไปลากหัวมันมาขอโทษไข่หวานซะให้รู้แล้วรู้รอด
แพรวก็คุยสัพเพเหระกับไข่หวานไปเรื่อยๆ เธอก็นั่งอยู่เฉยๆ มองไข่หวานไปนึกเรื่องในอดีตไปพลางอยู่สักพักจนเธอเริ่มรับมือกับความรู้สึกตัวเองได้และยอมรับกับเรื่องทั้งหมดก่อนจะเรียกแพรวไปคุยนอกห้องว่าเธอพร้อมจะคุยกับไข่หวานแล้ว
“แกแน่ใจนะ สติแกไม่แตกแน่นะ”
“เฮ้อ เออฉันรู้แล้วน่า”
“พร้อมนะ” แพรวมองเธออีกครั้งก่อนเธอจะพยักหน้าและเดินเข้าห้องไป แพรวเดินมานั่งที่เดิมและรินก็ไปนั่งอีกด้านหนึ่ง เธอมองตาแพรวอย่างจริงจังว่าเธอพร้อมแล้วจริง
“ไข่หวานเรามีคนมาแนะนำให้แกรู้จักอะ”
“หื้มใครเหรอ” เธอเอื้อมมือไปจับมือไข่หวาน มือที่เธอแสนคุ้นเคยแต่ตอนนี้ผอมแห้งจนไม่เหลือเคล้าดีเลย
“ไข่หวาน” เธอเอ่ยเรียกแฟนของเธออย่างนุ่มนวลก่อนจะจับมือไข่หวานให้มาแนบกับแก้มของเธออย่างอ่อนโยน น้ำตาเธอไหลมาอีกครั้ง
“ริน….” ไข่หวานเอามือปิดปากตัวเองก่อนน้ำตาจะไหลลงอาบน้ำที่ซูบผอม
“ใช่ เค้าเอง” แพรวที่เห็นดังนั้นก็อดที่จะน้ำตาคลอไม่ได้ คนที่เป็นคนที่เธอรักที่สุดไม่ได้เจอกันมาตั้ง5ปีและยังรอคอยเวลาที่จะได้เจอกันอีกครั้งจนในที่สุดทั้งสองก็มาเจอกัน มันเป็นภาพที่เธอรู้สึกมีความสุขที่สุดจริงๆ ก่อนจะขอตัวออกมานั่งรอข้างนอกเพราะอยากให้เพื่อนเธอทั้งสองคนได้ปรัความเข้าใจกัน
“ใช่รินจริงๆ ด้วย ฮึก ฮืออออๆ ”เธอลุกเข้าไปปลอบไข่หวานที่ร้องไห้หนัก เธอเองก็ไม่ต่างกัน ต่างคนต่างร้องไห้ไปได้สักพักก่อนจะรู้สึกดีขึ้น
“หวานเป็นยังไงบ้าง”
“อื้มเค้ารู้สึกดีขึ้นเยอะเลย”เธอจูบที่มือไข่หวานก่อนครั้งหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นไปกอดไข่หวานให้หายคิดถึง
“อื้มม รินน”
“คะ หวานมีอะไรเหรอ”
“เปล่าา ก็รินกอดเค้าบ่อยแล้ว”
“แค่สองครั้งเอง” ก่อนเธอจะกลับมานั่ง เธอไม่เคยรู้สึกมีความสุขอะไรมากขนาดนี้มาก่อน ใจเธอที่กั้นกำแพงสูงชันเริ่มทลายลงมาก่อนจะมีความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่เธอเองก็ยากจะอธิบายว่ามันรู้สึกดีขนาดไหน
“จริงๆ เค้าไม่อยากให้รินมาเห็นเค้าในสภาพนี้เลย ฮึกๆ ”
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะ แค่นี้เค้าก็มีความสุขมากพอแล้ว หวานแค่พักผ่อนและบำรุงร่างกายเดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วนะคะ”
“อื้มมม เค้าคิดถึงรินมากเลย เค้าคิดว่าจะไม่ได้เจอรินอีกแล้ว”
“เค้าก็คิดถึงหวานมาตลอดเลยนะ ไม่เป็นไรนะคะเราเจอกันแล้วนะ”ก่อนเธอจะจูบที่มือไข่หวานอีกรอบ
“รินเดี๋ยวเค้าเล่าให้ฟังนะว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่เป็นไรค่ะ อย่าพึ่งเล่าเลย หวานพักให้หายดีก่อนค่อยเล่าให้เค้าฟังก็ได้ค่ะ”
“แต่ว่า…”
“ขอแค่หวานอยู่ตรงนี้เค้าก็ดีใจมากแล้ว นี่เดี๋ยวหวานก็หลับได้เเล้วนะคะเดี๋ยวเค้าจะเฝ้าหวานจนหลับไปเลยนะ”
“อื้ม รินอย่าพึ่งไปไหนนะ”
“ค่ะ รินไม่ไปไหนหรอก ไม่มีทางไปแน่นอนค่ะ”
“เค้ารักรินนะ”
“เค้าก็รักหวาน หลับนะคะคนดี” เธอลุกขึ้นไปจุมพิษหน้าผากของไข่หวานก่อนจะรอเฝ้าให้ไข่หวานหลับสนิทไปสักพักค่อยลุกออกมาและเจอแพรวนั่งรออยู่หน้าห้อง
“ฉันจะต้องทำยังไงวะแพรว”
“รีบพาแพรวกลับฐานให้เร็วที่สุดเพราะที่นี่ไม่มีสารอาหารเพียงพอในการรักษาแพรวให้อาหารกลับมาดีขึ้นเลยเว้ย”
“ฉันจะลองไปคุยกับหัวหน้าให้ละกัน”
“ฝากด้วยล่ะ”
“อ่า”
“แล้วเจ้าระยะ4แกเป็นไงบ้างอะ ตอนนี้ลือกันให้แซดเลยว่าแกจะเอาระยะ4มาเลี้ยง”
“ก็ฉันเลี้ยงจริงๆ นิ อยู่บ้านหลังตรงข้ามกับฐานนี่เอง แกจะไปดูปะ”
“พูดเป็นเล่นเถอะ ให้เจอระยะ4ฉันไม่เอาด้วยหรอก”
“555งั้นฉันไปก่อนนะตอนนี้เกือบ11โมงแล้วฉันลืมไปเลยว่าต้องให้อาหารหมาด้วย”
“ห้ะเดี๋ยวแกมีหมาด้วยเหรอ”
“ใช่ เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันมาเล่าให้แกอีกที ฝากไข่หวานแทนฉันหน่อยนะ”
“ได้ๆ เดี๋ยวทางนี้ดูแลเอง”
“แต้งกิ้วมาก” เธอพูดกับแพรวเรียบร้อยก่อนจะขึ้นลิฟต์ลงมาชั้นล่างเพื่อไปหาสหายของเธอ
“ไงงง สั่นหางดุ๊กดิ๊กเลยนะ” เธอปีนข้ามรั้วประตูมายังด้านในก่อนจะเอ่ยทักทาย ทั้งหมั่นโถวและดำกับแดงวิ่งมาหาเธอจนชนเข้าอย่างจังให้เธอล้มไปกับพื้นก่อนที่จะลุมกันเลียหน้าเธอจนเปียกไปหมด
“5555พอแล้วๆ เดี๋ยวแม่เทข้าวให้นะ”
‘เอ้ะแม่เหรอ’
เธอเดินเข้ามาในบ้านมาตรวจดูสภาพในบ้านแล้วยังปกติดีไม่มีอะไรเลอะ ส่วนอุนจิของสุนัขเธอก็ถ่ายลงตรงถาดที่เธอเตรียมไว้ให้ ไม่รู้ว่าเป็นโชคของเธอหรืออะไรที่สุนัขแต่ละตัวของเธอฉลาด บอกอะไรก็ทำ ทำให้เธอไม่ต้องมาเก็บกวาดอะไรมาก ส่วนหมั่นโถวของเธอเวลากินอาหารก็จะกินข้างนอกหรือกินที่มันออกล่าเลยทำให้เธอไม่ต้องมาปวดหัวเวลามันเอาอาหารมากินข้างใน ก่อนเธอจะหยิบถุงอาหารเม็ดและตักใส่ถ้วยของแต่ละตัวจนครบ ซึ่งเธอมีฝึกอะไรนิดหน่อยให้มันทำพอเสร็จจากฝึกแล้วก็อนุญาตให้กินได้ เธอนั่งมองสุนัขของเธออย่างมีความสุข วันนี้เป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุดในโลกจริงๆ แต่ถ้าหากเธอกลับไปแล้วทั้งสุนัขเธอและหมั่นโถวจะทำอย่างไรเธอก็คิดไม่ออกจริงๆ จะทิ้งไว้ก็ไม่ได้ จะเอาไปด้วยก็ไม่ได้
‘นั่นสิจะทำยังไงดี’
หลังจากที่สุนัขของพวกเธอทานกันหมดเรียบร้อยแล้วเธอก็พามันออกมาเล่นในสวนหลังบ้าน แต่มันก็ทำให้เธอนึกออกว่ายังไม่ได้เคลียร์รอบๆ บ้านเลย
“จริงด้วยแฮะ ลืมไปเลยนะเนี่ย”เธอมองสภาพสวนหลังบ้านแล้วไม่ต่างอะไรจากป่าดงดิบเลยก่อนจะสั่งให้สุนัขและเจ้าหมั่นโถวอยู่เฉยๆ จากนั้นเธอก็ไปหยิบไม้กวาดดอกหญ้ามากวาดเศษใบไม้แห้งรอบบ้านสักพักก็เสร็จแต่ติดตรงที่ว่าจะเอาใบไม้ไปทิ้งยังไงดี เธอนึกไม่ออกก็เลยไปทำอย่างอื่นต่อโดยที่ปล่อยให้กองเศษไม้กองใหญ่ทิ้งไว้อยู่แบบนั้น ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่ามีสายตาจ้องมองมายังกองเศษไม้ของเธอตาเป็นมัน
“เฮ้อเสร็จสักที”ตอนนี้บ้านหลังนี้ก็ได้พร้อมสำหรับการพักอาศัยเรียบร้อยแล้ว เธอมองบ้านหลังนี้ก็ออกจะภูมิใจนิดหน่อยที่เธอทำให้มันสะอาดได้ด้วยมือเธอ เธอเดินไปยังประตูหลังก่อนจะเปิดประตูเข้าบ้านไปพักเหนื่อยสักหน่อยแต่จู่ๆ ก็มีตัวอะไรไม่รู้หลายตัวชนเธอจนล้มกลิ้งไม่เป็นท่าก่อนจะปรับตัวให้ลุกขึ้นมานั่งได้และมองไปยังเสียงที่เหมือนจะตะกุยตะกายในกองเศษไม้
“หนอยย รอเวลานี้อยู่เลยสิท่า”ทั้งสุนัขและหมั่นโถวก็ต่างตะกุยตะกายอยู่ในกองเศษไม้อย่างสนุกสนานโดยไม่ได้ดูสารรูปเจ้าของเลยแม้แต่น้อยที่ตอนนี้มีแต่เศษใบไม้กองอยู่เต็มหัวเธอ
“หยุด! เดี๋ยวนี้นะมันเลอะไปหมดแล้วเนี่ย”เธอวิ่งไล่จับสุนัขแต่ละตัวเข้าบ้านแต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น พวกมันวิ่งหนีเธอรอบบ้านและเธอก็ต้องวิ่งไล่จับมันรอบบ้านด้วยเหมือนกันกว่าจะจับได้หมดก็เล่นเอาทั้งสุนัข หมั่นโถวและเธอเกือบสลบกันไป
“แฮ่กๆๆ ” เธอที่นั่งหมดแรงอยู่ในตัวบ้านพาสุนัขทั้งหลายของเธอเข้านอนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปบอกหมั่นโถวว่าเดี๋ยวมาใหม่นะอย่าลืมพาน้องๆ มากินข้าวด้วย เธอบอกแบบนี้ทีไรหน้ามันหงอยๆ แต่ก็ต้องเข้าใจล่ะนะ เธอไม่ว่างขนาดนั้นเพราะตอนวันนี้ตอนกะดึกเธอต้องเข้าเวนกับแพรวเลยทำให้ต้องไปเร็ว เธออดสงสารไม่ได้แต่เธอคงได้แต่ลูบหัวและกอดปลอบมัน หลังจากนั้นเธอก็เดินออกมาใส่อาหารมื้อเย็นให้ครบทุกตัวรวมถึงหมั่นโถวด้วยวางเป็นระเบียบและจากนั้นย้ำให้หมั่นโถวอีกรอบก่อนจะโบกมือลาและเดินออกไปยังฐานของเธอ
“เฮ้อทันเวลากินข้าวพอดีเลยแฮะ”เธอเดินมายังชั้นอาหารก่อนจะโทรตามแพรวให้มากินข้าวด้วยกัน จากนั้นเธอก็ไปเลือกเดินดูอาหารที่ต้องการจะทานและเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับอาหารของเธอ
“เฮ้ยเดี๋ยวฉันมานะ”แพรวเดินเข้ามาทักเธอก่อนจะเดินไปอย่างรวดเร็วจนเธอขานรับไม่ทัน
“อะ อ่า รีบไปไหนของมันแฮะ”
“มาแล้วๆ ”
“วันนี้เราเวนกะดึกนะ ไม่ต้องรีบ”
“แกสิที่ต้องรีบ เพราะเดี๋ยวต้องไปป้อมข้าวไข่หวานอีกนะ”
“ฉันทันอยู่แล้วล่ะน่า”
“จ้าา ตั้งแต่เจอไข่หวานนี่ออร่าความสุขพุ่งเลยเนอะ อะนี่ฉันเอาข้าวของไข่หวานมาให้เเล้วนะ”
“แต้งมากเพื่อน”
“จ้าาาา แต่ไม่รีบขนาดนั้นก็ได้นะฉันว่า”
“อั้นไออ้ะ (ฉันไปละ) ”
“เออเครๆ มาให้ทันด้วยละกัน ก่อนเข้าไปหาไข่หวานทำความสะอาดตัวเองนิดนึงนะ” เธอชูนิ้วโป้งให้ก่อนจะรีบวิ่งไปอาบน้ำอาบท่าและขึ้นเอาอาหารไปให้ไข่หวาน เธอเปิดประตูเข้าไปเห็นไข่หวานกำลังอ่านหนังสืออยู่ก่อนจะค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ๆ และเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่
“อื้มมม รินน”
“กำลังอ่านอะไรอยู่เหรอคะ”
“อ่านนิยายอยู่ค่ะ รินคะจู่ๆ อย่าเข้ามาหอมแก้มแบบนี้สิคะ เค้าตกใจหมดเลย”
“5555ก็เห็นหวานกำลังตั้งใจอ่านอยู่มันก็อดไม่ได้อะค่ะ”เธอเข้าไปนั่งข้างๆ เตียงผู้ป่วยก่อนจะจัดแจงอาหารให้เรียบร้อย
“เค้าน่าแกล้งขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“น่ารักต่างหากค่ะเลยอยากแกล้ง”เธอจับมือไข่หวานขึ้นมาจูบและเอาแนบกับหน้าของเธอ
“ปากหวานเหมือนเดิมเลยนะคะ”
“แน่นอนค่ะ สงสัยต้องให้รางวัลแล้วนะคะ”
“อยากได้อะไรคะ”
“อยู่กับเค้าไปนานๆ นะคะ”ไข่หวานยิ้มออกมาทำให้เธอเผลอยิ้มตามอย่างอดไม่ได้ รอยยิ้มนี้ทำไมเวลาเธอเห็นมันหัวใจของเธอมันรู้สึกอบอุ่นขึ้นทุกครั้งที่เห็น
“สัญญาค่ะ รินก็สัญญาด้วยนะคะ”
“สัญญาอยู่แล้วค่ะ”ไข่หวานเอามืออีกด้านหนึ่งมาสัมผัสหน้าเธอทำให้เธอจับมือไข่หวานทั้งสองข้างมาแนบกับใบหน้าของเธอ
“อุ่ยลืม รินเอาอาหารมาให้แล้วนะคะ มาค่ะเดี๋ยวรินป้อน”
“ขอบคุณนะคะ”
“อ้ามค่ะ”
“โถ่รินก็ เค้าไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ”
“55555555 จริงเหรอคะเค้าอยากรู้จังเลยว่าโตจริงรึเปล่า”
“ริน คิดลึกนะคะ”
“หยอกเล่นค่ะ5555”เธอป้อนข้าวไข่หวานจนหมดก่อนที่จะดูเวลาแล้วยังเหลืออีกนิดหน่อยเลยเก็บกล่องข้าวไปทิ้งและทำความสะอาดอะไรให้เรียบร้อย
“หวานไปเรียนอักษรเบลมาตั้งแต่เมื่อไรเหรอคะก็เรียนมาได้สักพักแล้วค่ะ เห็นเค้าอย่างงี้เค้าก็อ่านอะไรได้หมดแล้วน่า”
“เค้ายังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย จริงด้วยหวานคะเดี๋ยวอีกแปบเค้าต้องไปอยู่เฝ้าเวนกะดึกนะคะ เดี๋ยวพอเค้าเฝ้าเสร็จเดี๋ยวมานอนด้วยนะคะ”
“ค่ะสู้ๆ นะคะ ตั้งใจทำงานนะ”
“รับทราบค่ะหัวหน้า รินคนนี้จะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ! ” เธอทำท่าวันทยาหัตถ์ถึงแม้ไข่หวานจะมองเธอไม่เห็นแต่ไข่หวานก็สัมผัสได้ว่าเธอทำอะไร
“5555ตั้งใจนะคะเจ้าหน้าที่ริน”
“รับทราบค่ะ”เธอเข้าไปหอมแก้มไข่หวานก่อนจะบอกลาอีกครั้งและออกจากห้องไปเตรียมอุปกรณ์และลงไปชั้นล่างที่เธอคิดว่าแพรวน่าจะไปรออยู่ก่อนแล้ว
“นึกว่าจะสายแฮะ”
“โถ่อย่างฉันแล้ว ตรงเวลาตลอดแหละ”ก่อนเธอจะเฝ้าไปจนเปลี่ยนกะเธอก็เข้าไปที่ห้องไข่หวานไปนอนเฝ้าคนน่ารักที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ