นรกบนดิน(yuri)

-

เขียนโดย themockingjay

วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.

  29 ตอน
  0 วิจารณ์
  23.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) เจ้าหมั่นโถว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“โฮ่ง โฮ่งๆ ”
“เฮ้ยนั่นมันหมานี่” เธออุทานออกมา อ๋อ มิน่าทำไมมันถึงมีอาการแบบนี้ การต่อสู้ของพวกเธอเมื่อกี้ทำให้ซอมบี้จากทิศทางต่างๆ พากันยกโขยงเข้ามาทั้งตัวที่อยู่รอบๆ บ้านและนอกบ้าน ทำให้เธอต้องยิงสกัดไม่ให้มาโจมตีเจ้าระยะ4และเธอ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เหลือก็ยิงสกัดซอมบี้ทางด้านประตูเข้าออก
‘บ้าจริงเจ้าซอมบี้พวกนี้มาขัดจังหวะตอนฉันกำลังสู้กับเจ้าซอมบี้หมาจนได้’ เธอเรียกมันว่างั้นเพราะท่าทางคล้ายๆ กันและดูเหมือนว่าเจ้าซอมบี้หมาตัวนี้จะเลี้ยงหมาไว้อีกด้วยเพราะเธอได้ยินเสียงเห่ามาจากดาดฟ้า ถึงว่าทำไมมันถึงมีลักษณะคล้ายกัน เจ้าซอมบี้ตัวนี้คงพัฒนามาถึงขนาดคิดเองเเละเลียนแบบสิ่งแวดล้อมได้เเล้วสินะ แต่ถึงมันจะมีท่าทางแบบนั้นเธอก็ยังวางใจไม่ได้ว่ามันจะไม่กินเนื้อมนุษย์ เธอที่เคลียร์ซอมบี้ทางฝั่งเธอได้เเล้ว และเธอสังเกตเห็นว่ามันก็สังเกตเธอเหมือนกันมันทำท่าทางสงสัยเอียงคอมายังเธอ เดี๋ยวนะเธอจะเอ็นดูไม่ได้นี่มันซอมบี้นะ ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรเกี่ยวกับมันทางฝั่งรุ่นพี่เธอเหมือนจะรับกับจำนวนซอมบี้ที่ยกโขยงกันเข้ามาไม่ไหวเพราะกระสุนปืนเริ่มหมดเธอจำเป็นต้องละจากเจ้าซอมบี้หมา แต่ก่อนไป เธอบอกกับมันว่า ให้อยู่ตรงนี้ ก่อนเธอจะวิ่งไปช่วยเพื่อนของเธอโดยปล่อยให้เจ้าระยะ4ยืนงงอยู่อย่างนั้น
“บ้าจริงกระสุนฉันหมดเเล้วมันอยู่เข้ามาไม่หมดเลย”
“ฉันก็จะหมดแล้วเหมือนกันทำไงดีเนี่ย” เธอที่เข้ามาสมทบกับรุ่นพี่ของเธอ เธอตั้งสไนเปอร์ที่พื้นก่อนจะใส่แม็กให้เรียบร้อยและยิงอย่างแม่นยำ สไนเปอร์อันนี้เเรงมากสามารถยิงทะลุซอมบี้ได้ประมาณ3ตัวต่อ1นัด ทำให้ประหยัดกระสุนเธอไปอีก รุ่นพี่ที่เห็นว่าซอมบี้ค่อยๆ ลดจำนวนอย่างรวดเร็วจึงสังเกตวิถีกระสุนจนเห็นรินที่นอนราบอยู่บนพื้นและกำลังสอยเจ้าซอมบี้อย่างเมามันส์
“เฮ้นรินมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง”
“งั้นแสดงว่าเจ้าระยะ4นั้น!! ”
“รินบอกให้มันนั่งอยู่ค่ะ” รุ่นพี่เธอหันไปมองเจ้าระยะ4อย่างรวดเร็วและจริงอย่างที่เธอว่ามันนั่งอยู่จริงๆ
“เฮ้ยน้องทำได้ไงอะ!! ”
“รินก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รินบอกไปอย่างนั้นแล้วมันก็นั่งจริงๆ ค่ะ” ซอมบี้มากันเยอะมากถ้ายังมากันอีกไม่หยุดขนาดนี้กระสุนเธอคงไม่เหลือเหมือนกันและวิธีเดียวที่จะทำคือต้องสู้ระยะประชิด รุ่นพี่ในตอนนี้มีแต่ถนัดปืนทั้งนั้นถ้าเกิดว่ามาเปลี่ยนเชิงการต่อสู้แล้วมีหวังติดเชื้อไปแน่ๆ มันจะมีไม่กี่คนที่ถนัดแบบเดียวกันกับเธอแต่คงไม่ไหวแน่ หมดแรงกันไปซะก่อนถ้าแบบนั้นก็มีแต่ตายสถานเดียว
“บ้าเอ้ย ทำไงดี!!! ” เธอสบถออกมา
“แกร็กๆ บ้าเอ้ยกระสุนหมดทุกคนถอยเข้…..”
“กรรรรร”
“ซวบบบบ กรรรร”เสียงซอมบี้ที่เข้ามาต่างร้องเสียงหลงว่าตัวเองถูกเฉือนเป็นชิ้นๆ ซอมบี้ที่กรู่กันเข้ามาเกือบร้อยตัวตายเรียบในไม่กี่นาที เจ้าหน้าที่ทุกคนรวมถึงตัวเธอด้วยต่างตกตะลึงในความสามารถของเจ้าซอมบี้หมาตัวนี้ แต่ทำไมมันถึงโจมตีพวกเดียวกันเองคงเป็นคำถามที่พวกเราต่างต้องเก็บไว้ในใจ ตอนนี้ซอมบี้ทุกตัวต่างตายกันหมดเหลือแต่เจ้าซอมบี้หมาที่กำลังนั่งกินอาหารของมันอย่างเอร็ดอร่อย พอตกใจกันได้สักพักเธอที่ตั้งสติได้ก่อนจึงเดินไปหาซอมบี้หมาตัวนี้ มันที่เห็นคนเดินมาก็ตั้งท่าเตรียมจะต่อสู้แต่ก็ต้องงงกับท่าทางของเธออีกครั้งซึ่งไม่ต่างจากเจ้าหน้าที่คนอื่นเลยเพราะเธอโค้งคำนับให้มัน
“แต้งกิ้วมากนะ ที่ช่วยพวกเราเอาไว้” เธอรู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่ซอมบี้ตัวนี้เข้ามาช่วยพวกเธอเอาไว้ถ้ามันไม่มาช่วยพวกเธอไว้พวกเธอคงไม่รอดแน่ๆ
“ฉันติดหนีชีวิตแกแล้วนะ ฉันจะเฉือนเนื้อให้แกได้กินสบายๆ ละกัน” เธอพูดอย่างนั้นก่อนที่จะชักดาบออกมาและฟันแขนขาให้มันกิน ตอนแรกมันก็ระแวงเธออยู่เหมือนกันแต่หลังๆ มามันก็สนใจแต่อาหารที่เธอโยนให้มันกิน ภาพนี้ต่างเป็นที่ประทับใจและตกตะลึงกันทั่วโลก เป็นภาพที่มนุษย์ได้เริ่มต้นสารสัมพันธ์กับซอมบี้ระยะที่ปราบยากที่สุด ปรากฏการณ์นี้ทำให้คนทั้งโลกได้พลิกความคิดที่มีเกี่ยวกับซอมบี้ซะใหม่และเริ่มศึกษาซอมบี้ระยะที่4อย่างจริงจังในการพัฒนายีนที่มาไกลมากโดยตัวของมันเอง
“โอเคฉันไปแล้วนะ ฉันมีหน้าที่ต้องไปช่วยเหลือน้องหมาของแกด้วยน่ะ”เธอยิ้มให้มัน รูปร่างของมันเหมือนคนในร่างหมาเลย ไม่มีอวัยวะเพศ รูปร่างเหมือนคนก็จริงแต่หน้าตาเธอก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี พอเธอลองสังเกตมันจริงๆ จังๆ มันมีแค่ตาเดียวไม่มีจมูก มีหูคล้ายคนแต่ยาวออกมาหน่อย ปากเท่าคนแต่เวลาอ้าปากกินจะสามารถขยายได้ถึง3เท่าของปากมันเลยทีเดียว แต่มันก็ยังดูคล้ายๆ หมาอยู่นะตรงท่าทางของมันน่ะ
มันทำหน้าตางงก่อนที่จะสนใจกินอาหารของมันต่อ เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ต่างไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือตายสักคนทำให้เธอโล่งอกไปเปลาะหนึ่งแต่อีกเปลาะหนึ่งคือเธอจะต้องช่วยผู้หญิงคนที่อยู่ชั้น3และช่วยน้องหมาบนชั้นดาดฟ้าให้ได้
หัวหน้าเธอตรวจเจ้าหน้าที่ทุกคนว่าได้รับบาดเจ็บอะไรตรงไหนไหมซึ่งก็ไม่มีและตอนนี้ทุกคนก็รวมตัวกันเดินไปยังในบ้านหลังนี้โดยมีเธอและคนที่ถนัดระยะประชิดอยู่ด้านหน้า เธอพังประตูเข้าไปยากพอสมควรงั้นแสดงว่ามีคนอยู่ในนี้จริงๆ ถึงล็อกได้แน่นหนาขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ต่างแยกย้ายกันไปตรวจสถานที่เธอรับหน้าที่ไปตรวจที่ดาดฟ้าเพราะเธอเป็นเพียงคนเดียวที่รับมือกับเจ้าซอมบี้หมาตัวนี้ได้ อืม จะให้เธอเรียกว่าซอมบี้หมาต่อไปเรื่อยๆ มันก็ยังไงอยู่เธอตั้งชื่อให้มันเลยดีกว่า ระหว่างที่เธอเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จนถึงดาดฟ้าก็คิดออกและเห็นมันเล่นอยู่กับหมาสองตัวและมีลูกน้อยอีก4-5ตัว เธอค่อยๆ เปิดกระจกบานเกล็ดและค่อยๆ ปิดก่อนจะเดินไปหามัน มันตกใจและเข้ามาโจมตีเธอเข้าอย่างจังแต่เธอก็หลบและกันได้จนมันเริ่มหยุดอีกรอบ ความกลัวของเธอหายไปจนหมดสิ้นเหลือแต่ความเอ็นดูที่เธอเห็นภาพตรงหน้าเพราะมันเหมือนภาพครอบครัวที่กำลังเล่นสนุกกันและเธอไม่แปลกใจเลยทำไมมันถึงโจมตีเพราะที่นี่คือบ้านของมัน มันก็เหมือนคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านของเรา เราก็ต้องระวังเหมือนกันซึ่งมันก็ไม่ต่างกัน
เธอนั่งและวางดาบของเธอลงจากนั่นก็ปรบมือเรียกน้องหมามาอุ้ม มันดูกลัวมากที่เธอชูน้องหมาสูงๆ ก่อนที่มือของมันจะเข้ามาโจมตีเธอแต่มันก็หยุดอยู่ที่ปลายกระเดือกของเธอและอีกไม่กี่เซนฯ เธอคงตายเรียบร้อย ถ้าหากมันเอาจริงขึ้นมาเพราะเธอลดการป้องกันของเธอลง แต่ไม่รู้สิเธอเป็นคนเลี้ยงหมามาตั้งแต่เด็กนอนกับหมาจนเราเพื่อนมันเป็นเพื่อนเลยก็ว่าได้ และมันเองก็อยู่กับหมาและยังมีลูกหมาอีกมันก็น่าจะหัวอกเดียวกัน มันหยุดและดึงมือของมันออกเธอมองตามัน ก่อนที่จะกลับไปเล่นลูกหมาต่อ และเธอเรียกพ่อกับแม่ของน้องหมามาโดยเอาชิ้นเนื้อสเต็กที่เธอเหลือเก็บไว้ว่าจะกินมาแบ่งให้ทั้งสองตัวกินให้คนละครึ่ง และมันก็กระดิกหางมาหาเธอ เธอมองเจ้าซอมบี้ มันคงกำลังเรียนรู้อยู่สินะ เธอแอบภูมิใจอยู่หน่อยๆ ที่มันไม่ฆ่าเธอ เธอเล่นกับดำที่เป็นพ่อและแดงที่เป็นแม่ได้สักพัก เจ้าซอมบี้ก็เริ่มเขยิบเข้ามาหาเธอใกล้เรื่อยๆ จนหน้าเธอห่างกับมันไม่กี่เซนฯ เหมือนมันจะมาดมทั้งๆ ที่ไม่มีจมูกเนี่ยนะ เอ้ะเดี๋ยวมีรูเล็กสองรูแฮะ ให้ตายเถอะ มีจมูกเหมือนกับเขาด้วยเหรอเนี่ย เธอดูเหมือนว่ามันคล้ายๆ กับหมาแหละตรงที่ มาดมกลิ่นให้คุ้นชินก่อนที่มาเล่นด้วยและเป็นอย่างที่เธอคาดจริงๆ พอหลังจากที่มันดมเสร็จเรียบร้อยแล้วมันก็เอาหัวมาดันๆ ตรงหน้าเธอ
“5555อะไรกันเนี่ยแกก็อยากจะเล่นเหมือนกันเหรอ ฉันจะตั้งชื่อแกว่าหมั่นโถวนะ ต่อไปนี้แกชื่อหมั่นโถวนะ” มันทำหน้างงเล็กน้อยก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียหน้าเธอ
“โห้แปบนะ หยุดก่อน ปากแกเหม็นมาก” เธอต้องกลั้นอ้วกที่เกือบพุ่งออกมาจากปากของเธอ กลิ่นของมันไม่ใช่เล่นๆ นะนั้น
“ฉันอยากเล่นกับแกจังเลยฉันจะพาหมาของแกกลับไปด้วยโอเคไหม”เธอหอบลูกหมาใส่ในกระเป๋าเธอและอุ้มดำกับแดงไว้อีกข้าง มันสงสัยว่าจะทำอะไรเธอเลยอธิบายไปซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่ามันจะฟังรู้เรื่องไหมแต่มันก็ยอมให้มันขี่หลังล่ะนะ
“เอาล่ะ โว้ว เดี๋ยวๆ หมั่นโถวแกจะกระโดดลงจากดาดฟ้าไม่ได้นะฉัน กริ้ดดดดดดดด” มันกระโดดลงจากชั้นดาดฟ้าที่เป็นชั้น6ลงมายังชั้น1 เธอที่ถือน้องหมาอยู่กระชับแน่นเพื่อไม่ให้หลุดจากกระเป๋าและมือของเธอไป
“อุ๊บ….แหวะ” อ่าจนได้สินะ มันเห็นเธออ้วกก็เต้นหมุนๆ ตัวเหมือนมันดีใจยังไงไม่รู้
“555555 ดีใจเลย เห็นฉันอ้วกเนี่ยย”เธอเช็ดปากเธอก่อนที่จะอุ้มน้องหมาขึ้นมาขี่หลังเจ้าหมั่นโถว
เมื่อหัวหน้าและกลุ่มของเธอออกมาจากภายในตัวบ้านเธอก็ลงจากหลังเจ้าหมั่นโถวก่อนที่เดินไปหาหัวหน้า และทุกคนต่างก็ทำหน้างงเล็กน้อยที่สภาพเธอตอนนี้เหมือนแม่ที่อุ้มลูกอยู่และมีหมาอยู่ด้านหลัง
“เอ่อ ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีนะ”
“เดี๋ยวรินเล่าให้ฟังนะคะหัวหน้า ตอนนี้รินขออนุญาตพาเจ้าหมั่นโถวกับเพื่อนกลับฐานได้ไหมคะ”
“เดี๋ยวนะเจ้าหมั่นโถวนี่…”
“เจ้าซอมบี้นี่แหละค่ะ”
“จะบ้าเหรอ ที่เธอจะเอาตัวอันตรายขนาดนี้กลับฐานของเราอย่างนั่นเหรอ”รุ่นพี่เธอคนหนึ่งตะโกนมา
“แต่มันไม่มีพิษมีภัยนะคะหัวหน้า”
“บ้าอะไร น้องไม่เห็นมันฆ่าคนไปสักกี่คนแล้ว”
“อันนั้นพวกพี่เข้าไปจู่โจมมันก่อนรึเปล่า อันนั้นมันแค่ป้องกันตัวไม่ใช่เหรอคะ”
“อืมที่เธอพูดมันก็ถูกแต่ ฉันคงไม่อนุญาตให้เจ้าหมั่นโถวของเธอกลับฐานนะ”
“เหรอคะหัวหน้า แต่มันก็เป็นเด็กดีนะคะ” ตอนนี้มันกำลังนั่งเลียมืออย่างสบายอกสบายใจอยู่
“อืมอาจเฉพาะกับเธอก็ได้เพราะเธอรับมือเจ้าหมั่นโถวอยู่เป็คนแรกและมันยอมเธอคนเดียวเพราะเธอสามารถสู้สูสีกับเจ้าหมั่นโถวของเธอได้แต่ฉันจะอนุญาตให้เธอเลี้ยงในบ้านข้างๆ ได้ แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นเธอต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดนะ”
“เยส!! ขอบคุณค่ะหัวหน้า งั้นรินไปก่อนนะคะจะต้องไปเตรียมบ้านให้เจ้าพวกนี้ด้วยค่ะ” เธอยิ้มให้หัวหน้าก่อนที่เธอจะเดินไปขึ้นหลังเจ้าหมั่นโถวอย่างชำนาญเหมือนขี่ม้าและนำทางมันไปยังบ้านหลังใหม่
 
 
“พะ...แพรว เมื่อกี้เสียงรินเหรอ”
“อืมใช่ เดี๋ยวฉันจะเล่าทุกอย่างให้นะตอนนี้แกไปพักฟื้นตัวเองก็ดีกว่า”
“อื้มขอบใจนะแพรว”
‘เฮ้อไอรินเอ้ย แกทำให้ฉันอึ้งกับความสามารถของแกจริงๆ แต่แกต้องรับอดีตที่มันหวนกลับคืนมาด้วยนะ ไม่รู้แกจะโอเคไหมถ้าได้รู้ความจริงทั้งหมด ฉันขออวกพรให้แกรับความจริงได้เร็วๆ เถอะ’
จากนั้นที่เจ้าหน้าที่ได้จัดการเรื่องทั้งหมดเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับฐานกันอย่างสภาพไม่ค่อยสู้ดีนักแต่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไร โดยมีคนที่สามารถช่วยเหลือได้อยู่1คน หมาประมาณ7ตัว กึ่งหมาอีก1ตัว ที่ได้มาอย่างงงๆ จนเจ้าหน้าที่ก็ยังสับสนและงงๆ อีกเช่นกันจะเป็นยังไงคงต้องถามเจ้าตัวเองละกันเนอะ
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา