นรกบนดิน(yuri)
-
เขียนโดย themockingjay
วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.
29 ตอน
0 วิจารณ์
23.41K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) ซอมบี้ระยะที่4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ**ไรท์ขอโทษนะคะ พอดีลงตอนผิด ถ้าใครอ่านตอนนี้แล้วให้ย้อนกลับไปอ่่านตอนที่17ก่อนนะคะเพื่อความเข้าใจค่ะ แงงไรท์ต้องขอโทษจริงๆนะคะ**
“แรงมาก” อะไรมันจะเหมาะเจาะกับเพื่อนเธอขนาดนี้ เธอไม่อยากเชื่อเรื่องโชคชะตานะแต่อันนี้มันบังเอิญไปจริงๆ แต่ก็เอาเถอะเพื่อนเธอจะได้เริ่มใหม่ได้สักที แพรวมองหน้ารินที่ตอนนี้ไม่แปลกใจมากนักที่รินจะออกอาการกังวลใจขนาดนั้น
“ริน แกไม่ไปก็ได้นะ”
“ไปเถอะ ไปให้รู้ว่าฉันควรจะพอแล้ว” เธอหันไปยิ้มให้เพื่อนของเธอ มันคงถึงเวลาที่เธอควรจะพอสักทีแหละ
“แต่ผมจะบอกว่าถึงเราจะไปบ้านใกล้ๆ นี้ก็จริงแต่บ้านหลังนี้ค่อนข้างใหญ่และเราไม่เคยเข้าไปเลยเพราะมีซอมบี้ระยะ2อยู่บริเวณรอบๆ ตัวบ้านเยอะ และตัวบ้านก็อยู่ไกลจากประตูบ้านอยู่พอสมควรดังนั้นเราต้องระวังในการเข้าไป เจ้าหน้าที่กลุ่ม1ทุกคนควรพกอาวุธมาอย่างเต็มที่ถึงแม้จะมีแค่ระยะ2แต่เราก็ไม่ควรประมาทไม่ว่าประการใดทั้งสิ้น พรุ่งนี้ตอน9โมงเช้าให้กลุ่ม1เตรียมตัวและเราจะบุกบ้านหลังนี้ในเวลา10โมง แต่ใครเคยไปบ้านหลังนี้บ้างไหมเราจะเสียเวลาในการสำรวจทางไม่ได้”
“รินเคยไปค่ะ”เธอยกมือทันทีที่หัวหน้าถาม
“อืมโอเค งั้นเธอเป็นคนเดินนำขบวนนะ”
“เอ่อ หัวหน้าครับให้เด็กใหม่มาเดินนำมันจะไม่เสี่ยงเกินไปเหรอครับ”
“แต่เราจะเสียเวลาไม่ได้ เราต้องให้คนชำนาญทางเป็นคนนำและอีกอย่างให้เจ้าหน้าที่ใหม่ได้ฝึกตัวเองไปด้วย หรือพวกคุณไม่เชื่อในฝีมือของเจ้าหน้าที่ใหม่ของเรา”
“เอ่อคือ ก...ก็เชื่อครับ”
“ดีงั้นไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม รินนั่งลงได้ งั้นต่อไปผมจะพูดในกลุ่ม…” เธอนั่งลงและเงียบจนเพื่อนสังเกตได้
“เฮ้ยริน แกเป็นไร”
“คือ...ฉันไม่เคยนำทางอะ”
“โถ่ก็นึกว่าแกเป็นอะไร5555”
“แล้วฉันต้องนำรุ่นพี่อีก ตายแน่ๆ ”
“แกทำได้อยู่แล้ว แกแค่เอาทุกอย่างที่ฝึกทั้งหมดมาใช้แค่นั้นแหละ”
“อ่า ได้เลย”
‘โถ่เอ้ยตื่นเต้น เอาวะ หัวหน้าให้นำขนาดนี้เราต้องแสดงความสามารถให้เต็มที่’
หลังจากที่พวกเธอประชุมกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กินเวลาไป3ชั่วโมงเต็มเอาเธอและเพื่อนเธอได้ปวดหลังไปตามๆ กัน หัวหน้าได้ปล่อยไปพักผ่อนจนถึงเวลากินข้าว วันนี้เธอและเพื่อนเธอมีเวรเฝ้าหน้าประตูจนถึง4ทุ่มทำให้พวกเธอต้องรีบกินข้าวอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะไปเตรียมตัวและเดินไปเฝ้าหน้าประตู
“ดีนะเย็นแล้ว ไม่งั้นไหม้เกรียมแน่ๆ ”
“เออจริง แกมาแข่งกับฉันปะว่ายิงซอมบี้ได้กี่ตัว”
“โถ่คิดว่าแพรวคนนี้เป็นใคร เรื่องยิงปืนฉันเหนือกว่าแกนะจะบอกให้”
“จ้าาา ฉันรอนับศพซอมบี้ที่แกยิงเลยอะ”
“คอยดูละกันนะจ้ะเพื่อนรัก”
และแล้วก็ถึงวันนี้จนได้วันที่เธอต้องลงสนามจริง วันนี้เธอตื่นมาตี5เพื่อไปวิ่งฟิตร่างกายก่อนไปออกสนามจากนั้นก็ขึ้นมาปลุกเพื่อนเธอให้ไปกินข้าวกันตอน7โมงและหลังจากนั้นก็เตรียมอุปกรณ์ไปพร้อมเรียบร้อยและตอนนี้เธอก็มารวมกันที่ชั้น1ด้านล่างเพื่อที่เดินไปยังบ้านของไข่หวาน
“เอาล่ะ ครบนะครับ รินเธอมาอยู่ด้านหน้าเลยถ้าอยู่ด้านหลังเธอจะนำทางยังไงล่ะห้ะ เดี๋ยวผมอยู่ด้านหลังเองไม่ต้องห่วง” เสียงหัวหน้าเรียกเธอที่อยู่ตรงท้ายกลุ่มให้ขึ้นไปด้านหน้าเพื่อที่จะไปนำทางให้กับรุ่นพี่อีก18คน
“สู้ๆ นะริน”
“อืมด้านหลังฝากแกด้วยนะ”
“ไว้ใจได้” พวกเธอสองคนพยักหน้ากันก่อนที่เธอจะแยกเดินออกไปข้างหน้า
“เธอไม่ต้องห่วงนะฉันระวังให้อยู่ ทำให้เต็มที่” หัวหน้ากระซิบบอกทำให้เธอรู้สึกสบายใจมากขึ้นและเป็นกันเองมากกว่าเดิม รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ทำให้มาเจ้าหัวหน้าดีๆ แบบนี้
กลุ่มพวกเธอเดินออกจากบริษัทที่เป็นฐานที่ตั้งก่อนจะเดินไปเรื่อยๆ เธอมองดูเส้นทางที่เธอเดินผ่านมา บ้านหลายหลังต่างทรุดโทรม วัชพืชเริ่มขึ้นจนรกรุงรังพันกับตัวบ้านเต็มไปหมด เสียงนกเสียงกาที่บินผ่านเธอเป็นระยะๆ แดดเริ่มเเรงมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ที่มากับเธอประมาณ20คนรวมตัวเธอด้วยเริ่มมีเหนื่อยไหลและกระหายน้ำมากขึ้น คือจริงๆ มันก็ใกล้แหละถ้าหากมียานพาหนะเป็นของตัวเองอะนะ ไม่ใช่ว่าหน่วยเราไม่มีแต่การขับมาที่ใกล้ๆ แบบนี้ควรประหยัดน้ำมันดีกว่าเพราะน้ำมันหายากมาได้สักพักแล้ว เธอเดินมาได้สักพักก็เลี้ยวซ้ายและเดินตรงไปอีกนิดก็ถึงแล้ว บ้านที่เธออยากไปหาโดยตลอดถ้าคนที่เธออยากเจอยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่ที่เธอเข้าไปหาคำตอบและไม่ได้อะไรเลยในวันนั้นเธอก็ไม่ได้ก้าวขาเข้าไปในบ้านหลังนั้นอีกเลย เพราะเธอยังไม่อยากจะยอมรับความจริงว่าไข่หวานของเธอได้จากไปแล้ว คิดถึงจริงๆ วันที่เรายังอยู่ด้วยกัน รอยยิ้มที่คิดถึง เรียกที่โหยหา มันมาถึงความจริงเเล้วเธอคงต้องยอมรับมันจริงๆ และเธอจะได้เริ่มใหม่สักที
เธอนำกลุ่มมายังบ้านของไข่หวานเรียบร้อย เธอมองเข้าไปในบ้านที่จะเรียกว่าเป็นคฤหาสน์ก็ได้แต่หน้าประตูยังไม่เห็นตัวบ้านหรอกต้องเดินเข้าไปอีก แต่เธอลองมองเข้าไปแล้วมีแต่ซอมบี้ทั้งนั้น ประตูก็ผูกโซ่เหล็กเอาไว้แสดงว่าข้างในนี้เป็นคนงานของบ้านไข่หวานที่ติดเชื้อ
“หัวหน้าครับประตูล็อกไว้อยู่ทำไงดีครับ”
“อืม รินเธอว่าไง”
“......” เธอจมไปในความคิดของตัวเองที่ตอนนี้เธอไม่ได้ยินเสียงใครทั้งนั้นแต่เธอยกปืนขึ้นมาตั้งเอาฐานเป็นประตูและเล็งยิงจากข้างนอกประตูบ้าน
“เฮ้ยน้อง จะทำอะไรน่ะ”
‘โอเค ดีนะที่ฉันพกสไนเปอร์มาด้วยก็คงพอเคลียร์พื้นที่ได้สักระยะหนึ่ง’ เธอเตรียมเล็งยิงโดยที่ไม่ลืมใส่กระบอกเก็บเสียงและกระสุนให้เต็ม
“ปั้งๆ ปั้ง ปั้งๆๆ”เสียงปืนของรินที่ยิงไปแต่ละนัดและเข้าหัวซอมบี้ทุกนัด
“โห้ ฝีมือดีนะนั้น”
“แหม่ได้แกบอกว่าจะสอนเด็กใหม่ยิงปืนไง ฝีมือขนาดนี้ไม่ต้องแล้วมั้ง5555”
“ไม่ต้องเปลืองกระสุนแบบแกด้วยยิงอะไรก็ไม่รู้”
“ชิ พูดไปเถอะน่า”
เธอหยุดยิงเมื่อเคลียร์ซอมบี้ระยะใกล้ได้สำเร็จก่อนจะหันมาตกใจที่ทุกคนยืนมองตัวเองอยู่
“เอ่อคือ รินขอโทษค่ะที่ยิงนานไปหน่อย”
“โถ่น้องฝีมือขนาดนี้ ไม่ต้องขอโทษหรอก”
“ใช่ๆ มีทริกอะไรให้ยิงเข้าหัวซอมบี้ทุกนัดบ้างก็มาแบ่งพวกพี่มานะ”
“ใช่ๆๆๆๆ ”
“อะแฮ่มม เอาไงต่อล่ะ”
“ค่ะหัวหน้า ตอนนี้รินได้เคลียร์ซอมบี้ระยะใกล้ไปหมดเเล้วตอนนี้ก็เหลือแต่เข้าไปค่ะ”
“อืมดี งั้นเราจะเข้าไปยังไงกันล่ะ”
“ผมขอเสนอครับหัวหน้า”
“อะไรล่ะ”
“เดี๋ยวผมแสดงให้ดูครับ อาจเป็นวิธีที่ลำบากหน่อยแต่ไม่มีเสียงแน่นอนครับ”รุ่นพี่เธอทดลองปีนกำแพงให้ดู
“ปั้ง” ทุกคนหันมามองเสียงปืนของรินเป็นตาเดียวก่อนที่โซ่ตรวนจะหลุดออกจากกันและรินก็พลักประตูออกเดินเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
“อื้มขอบคุณนะทินที่เสนอ แต่น้องเองก็คงมีวิธีที่ดีเหมือนกันแต่ผมรู้สึกว่าวิธีของน้องจะเวิร์คกว่านะ”สิ้นเสียงของหัวหน้าที่พูดเสร็จก็เดินตามรินไป ทำให้มีเสียงกลั้นขำของรุ่นพี่หลายๆ คนดังขึ้นมาให้ได้ยิน
“วุ้ยจะขำอะไรกันนักหนาวะ”
“เออเป็นฉัน ฉันก็อายว่ะ555”
“เชอะ” ทินได้แต่เก็บความอายของตัวเองอยู่ในใจ
เธอพารุ่นพี่เคลียร์ทางเข้าทั้งหมดก่อนที่จะเข้าสู่นะยะตัวบ้านของไข่หวาน เธอเล็งในกระบอกกล้องซูมไปเรื่อยๆ จนไปจบที่บนดาดฟ้าทำให้เธอยืนตัวเเข็งทื่ออยู่อย่างนั้น จนหัวหน้าเดินมาชนเธอที่จู่ๆ ก็หยุดไปเฉยๆ
“รินอยู่ทำไมน่ะ”
“หะ...หัวหน้าคะ”เธอค่อยๆ ลดปืนลงมาและหันหน้าไปหาหัวหน้าที่ตอนนี้ทุกคนก็ได้แต่หยุดงงและอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงหยุดกัน
“อะไรเธอมีอะไรก็ว่ามาสิ ลีลาทำไม”
“มี อึก ระยะ4อยู่บนดาดฟ้าค่ะ!! ” เธอกลืนน้ำลาย เธอไม่ได้พูดเล่นแน่ๆ ในเรื่องแบบนี้
“อะไรนะ ระยะ4เหรอ เธอแน่จะนะว่าระยะ4จริงๆ น่ะ”รุ่นพี่คนหนึ่งเอ่ยถาม
“จะ...จริงด้วยแก ระยะ4จริงๆ ด้วย”รุ่นพี่อีกคนหนึ่งเอากล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องดูและมันก็ใช่จริงๆ
“บ้าจริง!! มันมาอยู่ในระยะใกล้แค่นี้เองเหรอ”
“หัวหน้าคะ เรียกหน่วยเสริมไหมคะ”
“อืม ถ้าเรียกเราต้องรอไปอีก2ชั่วโมงเลยนะ”
เธอหันไปฟังรุ่นพี่คุยกันแล้วไม่ได้อะไรก็เลยลองปรับกล้องซูมของเธอให้ใกล้กว่านี้บริเวณกระจกชั้น3 เธอเหมือนเห็นคนคนหนึ่งๆ ยืนอยู่แต่ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เหมือนคนนั้นจะพยายามเปิดบานกระจกด้วยแต่ดูเหมือนว่ากระจกบานนั้นโดนล็อกจากด้านนอกแบบลวกๆ โดยมีไม้มากลั้นแบบเฉียงไม่ให้เปิดได้จากด้านในแต่ดูเหมือนเจ้าระยะ4ตัวนี้จะได้ยินเสียงเลยไต่จากบริเวณดาดฟ้าลงมาหาเสียงนั้น
‘บ้าเอ้ย ทำไงดีจะปล่อยให้คนนั้นตายหรือเข้าไปช่วยดี’
“หัวหน้าคะ มีคนอยู่บริเวณชั้นสามด้วยค่ะให้รินเข้าไปช่วยไหมคะ”
“จะบ้าเหรอถ้าเธอเข้าไปตอนนี้มีหวังตายสถานเดียวนะ!! ”
“แต่คนนั้นจะตายเอานะคะหัวหน้า!! ”
“แต่เราจะเสี่ยงชีวิตของเจ้าหน้าที่อีก20กว่าชีวิตไม่ได้นะ!! ”
เธอค่อยๆ ซูมเข้าไปที่ผู้หญิงคนนั้นดูว่าเผื่อเป็นแม่บ้านที่นี่แล้วรอดไหม ดีนะที่ระยะ4มันลีลาเพราะดูเหมือนว่ามันกำลังกินอาหารกำลังพึ่งเสร็จเลยเหมือนจะเกาะระเบียงชั้น4เพื่อทำความสะอาดตัวมันอยู่ เธอซูมไปเรื่อยๆ ก่อนที่เธอจะหยุดชะงักเข้าอย่างจัง ทุกอย่างเหมือนโลกหยุดหมุน สติเธอเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแต่ก่อนที่เธอจะช็อกไปมากกว่านี้ผู้หญิงคนนั้นก็พลักหน้าต่างออกไปจนได้และไม้ที่คั้นประตูนั้นก็ได้ตกลงมาทำให้เรียกความสนใจทั้งเจ้าระยะ4และเจ้าหน้าที่ของเธอเป็นตาเดียวกัน
“ขะ ไข่หวาน”
“อะไรนะ เธอว่าอะไรนะ”
“เฮ้ยมีคนอยู่จริงๆ ด้วยว่ะ”
“ขะ...ไข่หวาน!! ”เธอตะโกนไปหาผู้หญิงที่เปิดหน้าต่างแต่คงไม่ได้ยิน เธอตอนนี้ที่เริ่มควบคุมสติไม่ได้เเล้วยังต้องเจอเจ้าระยะ4อีก เธอส่องกล้องอีกรอบดูเหมือนว่ามันยังไม่รู้ว่ามีคนอยู่เลยด้วยซ้ำ คราวนี้เสียงไม้ตกเรียกความสนใจมันได้เป็นอย่างดีมันเริ่มไต่ลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะถึงตัวผู้หญิงคนนี้และเลียปากเหมือนได้อาหารชิ้นใหม่มันยกมือไปคว้าผู้หญิงคนนี้
“ปั้ง ปั้งๆๆๆ เฮ้ยมาทางนี้สิอาการแกอยู่ทางนี้ต่างหาก”ร่างกายไวกว่าที่เธอคิดเธอก้าวฉับๆๆ วิ่งมาเป็นตัวล่อให้เจ้าระยะ4ก่อนที่มันจะคว้าผู้หญิงคนนั้นและการกระทำของเธอก็สำเร็จ เธอเรียกให้มันสนใจได้ตอนที่มันกำลังยกแขนขึ้นมาจะคว้าผู้หญิงคนนั้นก่อนกำลังตรงดิ่งมายังเธอ
“บ้าเอ้ย น้องคนนี้จะพาเราตายกันหมดนะ!! ”
“เชี้ยเอ้ย”
“ทุกคนเตรียมอาวุธ ยิงได้!! ” ทุกคนวิ่งไปใกล้ๆ กับเธอและต่างพากันยิงเจ้าระยะ4ตัวนี้อย่างสนั่นหวั่นไหว และจริงอย่างที่เข้าพูดยิงไม่เข้าเลยก่อนที่มันจะมาหยุดที่เธอ
“ทุกคนอยู่ซุ่มไว้อย่าให้มันเห็นได้ เดี๋ยวรินจะจัดการเอง!! ”
“แกต้องเจอกับฉัน” เธอจ้องตามันอย่างเอาเรื่องก่อนที่จะหยิบมีดพกสองด้ามที่อยู่ของตัวเธอและตั้งท่าก่อนที่ซอมบี้จะยืดแขนตวัดหวังจะฟังเธอให้ได้แต่ก็ไม่โดน
‘เหอะอย่าหวังว่าแกจะฟันฉันโดนเพราะฉันฝึกหนักมาตลอดเพราะแกตัวเดียว ฉันเตรียมร่างกายมาแล้วและหวังแกจะฆ่าฉันได้นะ’ เธอยิ้มเยาะในใจเพราะความเร็วของมันยังไม่ถึงครึ่งของที่เธอฝึกมาเลย เธอหลบได้ทุกครั้งที่มันตวัดมือมาแต่ดูเหมือนว่ามันยังไม่เอากรงเล็บอออกมาใช้ นี่คงประมาทเธอเกินไปสินะ สงสัยที่ผ่านมายังไม่เจอใครที่ล้มได้เลยสิท่า เดี๋ยวเธอจะทำให้ดูเองว่าแกควรเอากรงเล็บออกมาตั้งแต่ทีแรก!!
“กะ...เก่งมาก หลบได้ขนาดนี้เลยเหรอ!! ”
“นั่นสิ ฉันยังไม่เคยเจอใครเร็วได้ขนาดนี้มาก่อนเลย” ทุกคนที่ซุ่มดูอยู่ในพุ่มไม้ต่างก็ได้เห็นการต่อสู้ของเธอกับซอมบี้ระยะที่4อย่างทึ่งๆ
“พวกคุณรู้ไหมว่าทำไมรุ่นน้องของพวกคุณถึงได้เก่งขนาดนี้ เพราะว่ารุ่นน้องของคุณเต็มที่กับการฝึกมากเพราะเขาจริงจังในการหยุดระงับไวรัสตัวนี้ยังไงล่ะ พวกคุณดูไว้ว่าถ้าหากพวกคุณฝึกหนักได้อย่างน้องคนนี้พวกคุณก็เก่งไม่ต่างกับน้องคนนี้หรอก เก็บเอาไว้คิดนะ”
“เออเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เดี๋ยวฉันตั้งกล้องถ่ายทอดสดก่อน ไม่แน่น้องคนนี้อาจจะจัดการระยะ4ได้เป็นคนแรก อย่างน้อยก็เป็นขวัญกำลังใจให้คนทั่วโลกได้” รุ่นพี่คนหนึ่งพูดเสร็จก็เปิดกล้องติดหมวกของเธอให้กล้องไปจับที่การต่อสู้ของรินและระยะ4 ตอนนี้ทุกคนต่างก็ได้เห็นการต่อสู้ของรินกันทั่วโลก และเจ้าหน้าที่ที่นี่ก็ได้แต่อวยพรให้รินชนะเพราะถ้าพวกเธอออกไปคนที่จะตายไม่ได้มีแค่รินคนเดียวแต่เราจะเสียเจ้าหน้าที่ทั้งหมดและไม่มีใครรอดกลับมา
เธอหลบหลีกได้อย่างชำนาญก่อนที่จะมีจังหวะหนึ่งที่มันหยุดแม้เป็นแค่เสี้ยววินาทีมันก็ทำให้เธอมีโอกาสที่จะเข้าโจมตีได้ เจ้าซอมบี้ตวัดมือมาทางด้านซ้ายและขวาก่อนความเร็วจะลดลงสักนิดทำให้เธอจับมีดทั้งสองข้างแน่นขึ้นก่อนที่จะเอามีดฟันไปที่มือทั้งสองข้างของมัน
“เชอะ เอากรงเล็บออกมาแล้วเหรอ” กรงเล็บของมันจู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาทันทีที่เธอเล็งไปยังมือของมัน หึเอาออกมาได้ตรงเวลาจริงๆ เธอกระโดดถอยออกมาตั้งรับก่อนจะคิดว่าตรงไหนคือจุดอ่อนของมัน มันรูปร่างเหมือนผู้ชายเล่นกล้ามแค่มือมันสามารถยืดได้และมีกรงเล็บที่แหลมคมมาเเค่นั้นเอง
‘ ความเร็วของมันพอๆ กับฉันเลย ถ้ายิ่งต่อสู้กันไปนานมากกว่านี้คนที่จะหมดแรงก่อนคงเป็นเราแน่ๆ มันต้องมีสิสักทางน่ะ ทางไหนที่เป็นจุดอ่อนของมัน ทางไหน ทางไหนกันแน่!!! ”
“บ้าเอ้ยมันป้องกันการโจมตีของรินได้ยังไง!! ”
“บ้าเอ้ย เราจะมีหวังไหมเนี่ย! ”
“เหอะยิ่งคิดยิ่งปวดหัวแฮะ ช่างเถอะคงไม่มีทางเลือกจริงๆ ”
“เฮ้ยแกน่ะ สนุกอยู่ใช่ไหม ฝีมือใช่เล่นเลยนะแกน่ะ ชื่นชมจริงๆ ”เธอนั่งลงและปรบมือให้ซอมบี้ที่ตอนนี้กำลังเลียมือของมันอยู่
‘เออแฮะคล้ายๆ หมาเลย’
“เดี๋ยวนะ ทำไมน้องเขานั่งคุยกับเจ้าระยะ4นั่นล่ะ! ”
“เฮ้ยคิดอะไรอยู่เนี่ย เดี๋ยวก็ตายหรอก! ”
“โฮกกกกก! ”เสียงคำรามของมันดังมากจนเธอที่นั่งอยู่ระยะห่างพอสมควรต้องเอามือปิดหู
“อะไร แกบอกว่าอะไรนะ! ” มันตั้งท่าสี่ขาและเหมือนจะขู่เธออยู่อย่างนั้น
‘อะไรทำไมมันถึงมีท่าทีแบบนี้’ เธอนึกอะไรได้ก่อนจะลองมองรอบๆ ตัวเธอเห็นซอมบี้ตัวหนึ่งนอนตายอยู่เธอเลยเดินไปและตัดส่วนแขนออก ซอมบี้ที่ตั้งท่ากำลังจะโจมตีเธอจู่ๆ ก็หยุดเมื่อเธอโยนแขนของซอมบี้ไปให้มัน มันกระโดดงับและกินอย่างอร่อย ในตอนนี้ทั่วโลกก็เกิดปรากฏการณ์งงกันทั้งโลกว่าทำไมมันถึงมีปฏิกิริยากับรินแบบนั้นเพราะมันอาการท่าทางเหมือนสัตว์อย่างไม่มีผิด
“เฮ้ยดูท่าจะชอบล่ะสิ เดี๋ยวฉันเอามาให้อีก” เธอตัดแขนอีกข้าง ขาและร่างกายเป็นส่วนๆ โยนให้มันกินและท่าทางมันคงจะชอบซะด้วย เธอสงสัยว่าทำไมเจ้าระยะ4ตัวนี้ถึงมีท่าทางเหมือนหมาเลี้ยงเลย แต่ก่อนที่ที่เธอจะสงสัยไปมากกว่านี้จู่ๆ ก็มีเสียงคำครางของสัตว์อื่นเข้ามาในโสตประสาทของเธอเสียงคำรามนี้เหมือนกับสัตว์ที่เธอเคยได้ยินเลย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ