นรกบนดิน(yuri)
เขียนโดย themockingjay
วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.
แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) บททดสอบจากผบ.
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่16
เธอกำลังเดินขึ้นไปขึ้นชั้นประชุมของเจ้าหน้าที่เพราะตอนนี้เหลืออีกครึ่งชั่วโมงก็จะเริ่มประชุม. ห้องประชุมเธอก็เป็นสำนักงานนี่แหละแต่เจ้าหน้าที่ที่นี่เลือกชั้นนี้เพราะมันส่วนตัวและมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เป็นห้องเก็บเสียงอีกด้วยก็เหมาะที่จะเป็นห้องประชุมในทันทีที่เจ้าหน้าที่สำรวจชั้น60 เธอเดาว่าน่าจะเป็นชั้นของผู้บริหารระดับสูงเลยมีความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว ชั้นนี้จะแบ่งเป็น10ห้องใหญ่และมีห้องโถงที่พอที่จะรับจำนวนเจ้าหน้าที่เราได้ทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ประชุมกันที่ห้องโถงประมาณ40นาย เจ้าหน้าที่ที่มาเตรียมการก็จัดเก้าอี้และโปรเจคเตอร์ให้เสร็จเรียบร้อย ที่นี่ดูแบ่งงานที่ได้เสร็จสรรพดี แต่ละคนจะรู้หน้าที่ของตัวเอง เธอนับจำนวนเก้าอี้รวมกันได้แค่40เองแสดงว่าเดือนก่อนที่เธอรู้จำนวนประมาณ300กว่าก็เหลือแค่นี้ มันโหดขนาดนั้นเลยเหรอ ภายในเดือนเดียวเจ้าหน้าที่ที่นี่เหลือแค่นี้แสดงว่าที่เธอเจอมาตอนเดินทางมาคือขี้เล็บจริงๆ เธอเลือกนั่งแถวกลาง นั่งรอเจ้าหน้าที่ให้มาครบและเริ่มประชุมกัน
‘เดี๋ยวก่อนนะ เจ้าหน้าที่ที่กำลังจัดโปรเจคเตอร์อยู่หน้าคุ้นๆ แฮะ’ เธอลุกจากที่นั่งและเดินตรงไปยังเจ้าหน้าที่ที่เธอดูคุ้นตา
“เอ่อขอโทษนะคะ”เธอยืนอยู่ด้านหลังของเจ้าหน้าที่ที่กำลังปรับสายโปรเจคเตอร์ก่อนจะทักไปและเจ้าหน้าที่ก็หันมาพอดี
“อ่าวรินมีอะไรรึเปล่า”
“ห้ะ ข้าวหรอ!! ”
“ใช่ ทำไมทำหน้าตกใจขนาดนั้นล่ะ”
“เดี๋ยวนะ คือหมายความว่ายังไงข้าว”
“อ๋อ ตกใจที่เราเป็นเจ้าหน้าที่สินะ”
“ใช่สิ ก็เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วข้าวยัง….”
“มันเป็นการทดสอบน่ะ ของเจ้าหน้าที่แต่ละคนที่มาใหม่ เอ่อเดี๋ยวเราขอทำงานแปบนึงนะ เดี๋ยวมีเวลาจะเล่าให้ฟัง” เธอพยักหน้าก่อนจะกลับมานั่งที่เดิมและนั่งอึ้งอยู่สักแปบนึง
‘นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ว้ายตายแล้ว นี่ฉันจะโดนไล่ออกไหมเนี่ยที่ไปทำกับข้าวแบบนั้น อ๋อถึงว่าสิว่าทำไมถึงรู้ตารางเจ้าหน้าที่ โถ่ก็เป็นเจ้าหน้าที่ซะเองแบบนี้ โดนตุ๋นเปื่อยเลยแฮะเรา’ เธอสายหน้าให้กับตัวเอง อายก็อาย เฮ้อออ
หลังจากที่เจ้าหน้าที่มากันครบแล้วหัวหน้าเธอก็เข้าประเด็นเรื่องการหาอาหาร การเฝ้าเวร เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องมีหน้าที่ ที่นี่จะแบ่งเป็นกลุ่มๆ กลุ่มลาดตะเวน กลุ่มกักตุนอาหาร กลุ่มทำอาหาร กลุ่มIT และอีกหลายกลุ่มเพื่อให้มันชัดเจนแต่เราก็สามารถเลือกได้หลายกลุ่มแต่ต้องไม่กระทบกับกลุ่มที่เหลือที่เราเลือกด้วยแต่อันนี้เป็นการบอกคล่าวๆ เพราะเราเหลืออีก3กลุ่มที่ยังมาไม่ถึงถ้าหากเจ้าหน้าที่มาครบทุกคนแล้วจะให้ประชุมใหญ่กันอีกรอบหลังจากจบการประชุมถ้าใครเลือกกลุ่มไหนให้ไปลงชื่อที่กลุ่มนั้น หลังจากนั้นหัวหน้าก็อธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ของแต่ละกลุ่ม ซึ่งเธอสนใจอยู่2กลุ่มคือกลุ่มลาดตระเวนและกลุ่มหาอาหาร กลุ่มลาดตระเวนจะเป็นกลุ่มที่สำรวจพื้นที่บริเวณรอบๆ อาคารที่พวกเธออยู่รัศมีจะไม่กว้างมากนักเพราะเดี๋ยวจะเป็นอันตรายแก่ตัวเจ้าหน้าที่ด้วย และกลุ่มหาอาหารมากักตุนไว้ก็จะเป็นกลุ่มที่ตามหาอาหารเท่าที่จะทำได้โดยไม่เดือดร้อนตัวเองและเจ้าหน้าที่ที่ไปด้วย สำหรับทั้ง2กลุ่มนี้จะประชุมกันก่อนที่จะออกเดินทางเพราะต้องกำหนดสถานที่ให้แม่นยำและหาข้อมูลเกี่ยวกับบริเวณนั้นก่อน ซึ่งก็เป็นวิธีที่รอบคอบและควรทำอยู่แล้วเพราะถ้าไม่หาข้อมูลเจ้าหน้าที่อย่างพวกเธอตายฟรีแน่ๆ
หลังจากที่เลิกประชุมเธอก็เดินไปลงชื่อทั้ง2กลุ่มนี้ก่อนจะลงไปพักอยู่ที่ที่ของตัวเอง เธอเดินลงมาเรื่อยๆ ดูผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ประมาณ4ได้แล้ว แล้วเธอก็นึกสงสัยทำไมเหตุการณ์สงบแบบนี้ถึงไม่ขนย้ายคนสักที ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ตอนนี้สงบมาก เดี๋ยวตอนขึ้นไปกินข้าวเที่ยงเธอจะไปถามหัวหน้าเธอดีกว่า ตอนนี้เธอเดินมาถึงที่พักของตัวเองเรียบร้อยแต่ไม่มีอะไรทำเลย จะนอนเดี๋ยวก็ขี้เกียจอีก มันไม่มีอะไรให้เธอทำเลยเหรอ น่าเบื่อมาก เธอเดินไปเดินมาแถวๆ ที่นอนของตัวเองเพื่อคิดว่าจะหาอะไรทำดี
“อ๋อ ออกกำลังกายดีกว่า” จากนั้นเธอก็ไปหาพื้นที่อีกล็อกหนึ่งเพื่อออกกำลังกายและฝึกฝีมือของเธอไม่ให้แย่ลง เธอจัดการถอดเสื้อให้เหลือแต่บราสีดำที่เอาไว้ออกกำลังกายและกางเกงทหารเท่านั้น ถ้าอยู่ที่บ้านเธอจะถอดให้เหลือแต่กางเกงซับเลยคอยดูสิ แต่ที่นี่ไม่ได้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาแต่งตัวไม่ทันอีก เธอออกกำลังกายไปได้สักพักจู่ๆ ก็มีเสียงเดินมาทางเธอ
“ริน”
“อ้าว ข้าว มีไรเปล่า” ข้าวตกใจเล็กน้อยที่เห็นเธอในสภาพนี้
“อ๋อ ปะ..เปล่า คือจะมาบอกให้ฟังไงเมื่อเช้าอะ รินกำลังออกกำลังกายอยู่เหรอ”
“ใช่ ไม่มีอะไรทำน่ะ ปกติที่นี่ทำไรกันเวลาไม่มีงานมอบให้อะ” เธอหยิบผ้าเช็ดตัวซับหน้าระหว่างที่คุยกับข้าวไปด้วย
“เอ่อ...ก็นอนแหละมั้ง”
‘มีซิกแพคด้วยหรอเนี่ย หื้ม เซ็กซี่อะ’ ข้าวมองเธอตาเป็นมันแถมกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่
“ก็เข้าใจแหละหน้าที่แต่ละอย่างก็หนักทั้งนั้น เดี๋ยวเราไปนั่งอีกที่ดีกว่าตรงนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไร” เธอหยิบเสื้อมาใส่ก่อนจะเดินนำข้าวไปยังที่ที่ส่วนตัวกว่านี้ ชั้นนี้มีห้องประชุมขนาดเล็กนั้นก็เพียงพอให้เราคุยกันได้สะดวกโดยไม่ต้องมีใครมาได้ยิน
“โอเค ไหนเรื่องมันเป็นมายังไง”เธอเข้าไปในห้องประชุมและล็อกประตูเพื่อเป็นการส่วนตัว
“คือเรื่องนี้ผบ.เขาฝากให้มาทำน่ะว่าใครที่ไปจากค่ายแล้วยังอยู่ในอารมณ์ที่มั่งคงอยู่ไหม”
“อย่าบอกนะว่าเธอทำแบบนี้กับทุกคนเลย”ถ้าจริงนี่เหนื่อยเลยนะ
“บ้าข้าวทำไม่ไหวหรอก มีทีมแบ่งอยู่ข้าวแค่รับผิดชอบฝั่งผู้หญิงเอง”
“อ๋อ555 ไม่งั้นเหนื่อยเลยนะ”
“นี่คิดไปถึงไหนเนี่ย ข้าวแค่ยั่วไปเรื่อยๆ พอให้อีกฝั่งตัดสินใจจะทำอะไรต่อแค่นั้นเอง คนที่ควบคุมอารมณ์ได้ข้าวก็จะพอและเขียนในใบว่าคนนี้ผ่าน แต่ถ้าคนไหนทำแล้วหยุดอารมณ์ไม่ได้ก็ไม่ผ่านข้าวก็จะหยุดทำเหมือนกัน”
“อ๋อ ผบ.น่ากลัวจริงแฮะมาทดสอบอะไรแบบนี้เนี่ย” ทำเอาเธอไปไม่เป็นเลยทีเดียว
“5555 เขาก็ห่วงของเขาแหละ กลัวพวกเราละเลยในหน้าที่กัน”
“ใช่ๆ แล้วเราผ่านรึเปล่าอะเราไม่เห็นข้าวบอกเราเลยว่าผ่าน”
“ผ่านสิ เล่นพูดแบบนั้นทำให้เราหมดอารมณ์ได้เลยนะ555”
“แต่เราทำไม่ใช่เหรอ” ข้าวเดินมาหาเธอที่นั่งอยู่และนั่งควบเธออีกแล้ว
“แต่สำหรับรินข้าวให้เป็นกรณีพิเศษ” ข้าวยิ้มหวานและยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอ
“ข้าวอันนี้ทดสอบอะไรอีกรึเปล่าเนี่ย”
“อันนี้นอกเวลานี่ ไม่เป็นไรหรอก” ข้าวที่เข้ามาจูบเธอแต่เธอหันหน้าหนีทันก่อนที่เธอจะพลักตัวข้าวออก
“ทำไมล่ะริน”
“เราไม่พร้อมน่ะ เราไม่รู้เหมือนกัน มันทำไม่ได้” สายตาข้าวที่มองริน เหลือบมองลงมาเห็นสร้อยที่เป็นแหวนสองวงเรียงคู่กัน เธอจับมันขึ้นมา
“รินมีแฟนแล้วเหรอ”
“ไม่มีหรอก อันนี้เป็นแหวนที่เราตั้งใจจะให้แต่ไม่ได้ให้น่ะ”
“แฟนนอกใจเหรอ”
“เปล่าหรอก ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเราเลยไม่ได้ให้” เธอหน้าเจื่อนลงทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้
“รินข้าวขอโทษ” ข้าวตกใจมากเธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะเป็นแบบนี้ ไม่งั้นเธอก็ไม่ถามหรอก
“ไม่เป็นไร เราโอเคแล้ว”รินยิ้มฝืดก่อนที่จะขอตัวไปกินข้าวและทิ้งให้ข้าวอยู่คนเดียวในห้องประชุม
“นี่เหรอที่รินเรียกว่าโอเคน่ะ ทำใจยังไม่ได้ชัดๆ เฮ้ออ” ก่อนจะเดินไปกินข้าวเหมือนกัน
เธอรู้ดีที่สุดว่าทำไมเธอถึงยังตัดใจจากไข่หวานไม่ได้ ก็ไอเหตุผลบ้าๆ นั่นไง เหตุผลที่ป้าของเธอโทษเพศที่สามนั่นมันไม่เห็นจะเคลียร์สักนิด ตอนนั้นเธอทำใจเป็นปีกว่าจะกลับมาได้ กว่าจะทำใจได้ว่าไข่หวานของเธอเสียชีวิตแล้ว กว่าจะลืมช่วงวันเวลาที่อยู่ด้วยกันได้เธอพยายามเหมือนกันที่จะลืม พยายามไม่พูดถึงพยายามหาคนใหม่แต่ก็ไม่ได้ผล มันเจ็บปวดมากที่คนที่เธอรักที่สุดกลับต้องจากไป จนตอนนี้เธอยังจำได้หมดทุกเรื่องราวที่เธอได้อยู่กับคนที่เธอรักที่สุด ทั้งกอดที่โหยหา กับข้าวที่ไข่หวานทำให้ กลิ่นตัวที่เธอคิดว่าเป็นกลิ่นหอมที่สุดในโลกแล้ว อ่า พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรน้ำตามันก็ซึมตลอดเลย เธอไปรับกับข้าวมานั่งทานสักพักก็กลับลงมาด้านล่าง แต่เธอหยุดอยู่ที่หน้าต่างมองออกไปดูวิวทิวทัศน์ก่อนที่สายตาจะไปพบกับบ้านหลังหนึ่งที่ตอนเด็กๆ เธอไปเล่นกับแพรวบ่อยๆ บ้านของไข่หวานนั่นเองและเธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบริษัทนี้อยู่ใกล้บ้านของไข่หวาน เพราะบริษัทนี้เป็นของบริษัทพ่อและแม่ของไข่หวานเธอรู้ตั้งแต่ที่ค่ายปัดหมุดฐานนี้ทั้งพ่อแม่และเพื่อนเธอต่างรู้ดีแต่ไม่มีใครพูดและนี่แหละคือเหตุผลที่เธอไปอยู่ในกลุ่มราดตระเวนและกลุ่มหาอาหาร ถ้ามีเวลาสักนิดเธอคงแวะเข้าไปสักนิด แต่ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเขาไปแล้วเธอจะรู้สึกยังไงต่อ กลัวตัวเองทนความรู้สึกไม่ไหวนี่แหละ นึกแล้วก็คว้าปืนลงไปที่ชั้น1กะว่าจะไปฝึกยิงซอมบี้สักหน่อย เธอต้องหาอะไรทำไม่งั้นนึกถึงเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ เธอจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าเอา เธอลงลิฟต์เดินออกมาจากตัวอาคารและเดินออกไปบอกเจ้าหน้าที่ที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ด้านนอกว่าจะขอเปลี่ยนตัว เจ้าหน้าที่พยักหน้าก่อนจะให้เธอยืนในตำแหน่งเดียวกัน ปืนที่เธอหิ้วมาเป็นM16ติดลำกล้องระยะ900หลา ระยะประมาณเกือบกิโลฯ ได้ เธอกะว่าจะฝึกยิงสักหน่อย
“อ่า เห็นแล้วๆ ลาก่อนนะแฮร์รี่”เธอยกปืนขึ้นมาเล็งและยิงอย่างคล่องแคล่ว ก่อนที่เจ้าตัวที่โดนเธอยิงจะล้มลงไป เธอยังยิงได้อีกเยอะเพราะใส่กระบอกเก็บเสียงและอากาศเป็นใจไม่ร้อนจนเกินไปซะด้วย เธอก็ยิงไปได้สักพักก็หยุดพักเธอดึกแม็กจากปืนออกมาและนับกระสุนที่เหลืออยู่แค่20กว่านัดโดยทุกนัดเธอยิงโดนทุกตัวกลางหัวทุกตัว
“โอเค ฝีมือยังไม่ตก”เธอยิ้มก่อนที่จะเล็งยิงอีกรอบ
เจ้าหน้าที่ที่อยู่ชั้นบนบนส่องกล้องทางไกลมายังรินก่อนจะยิ้มออกมา
“แหม่ทำเป็นยิ้ม”
“อะไรไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”
“เชอะ แบ่งฉันมาดูได้เเล้วฉันอยากเห็นเจ้าหน้าที่สุดสวยประจำหน่วยเราทดสอบฝีมือ”
“เก่งย่ะ เก่งมากเลยด้วย เท่าที่ฉันนับเมื่อกี้ยิงไป20กว่านัดไม่พลาดสักนัด คนอะไรทั้งสวยทั้งเก่งแถมมีซิคแพคด้วยนะ ฉันเห็นแล้วยังอดใจไม่ไหวเลย”
“เชอะฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ ข้าว ที่ลงไปได้จังหวะตอนรินเขาออกกำลังกายพอดีน่ะ”
“ใช่ ตอนที่ฉันเห็นนะเนื้อตัวชุ่มเหงื่อกำลังดี ผิวข้างในขาวมากและซิคแพคชัดเวอร์จนอยากลูบอะ คนอะไรเซ็กซี่ชำมัด”
“แต่เสียดายหน่อยนะที่รินไม่เล่นกับแกอะ”
“หึ ไม่เล่นกับแกเหมือนกันย่ะเปิ้ล”
“เห็นแกบอกว่าเขายังไม่ลืมคนเก่านิ”
“ใช่ฉันล่ะเสียดายจริงๆ ฉันแหวนที่รินตั้งใจจะให้ด้วยนะน่ารักมาก ฉันว่าแฟนคนเก่าของรินต้องน่ารักมากแน่ๆ อะ”
“จริงเหรอ เฮ้ออออ”
“ฉันได้ข่าวลือมาด้วยนะว่าที่ค่ายอะรินเอาแต่ฝึกๆๆๆ คนที่เข้าหารินท้อเลยแหละเพราะรินไม่สนใจ สนใจฝึกมากกว่า”
“อ่าา สามีฉันในอนาคตจริงๆ ”
“สามีฉันย่ะ”
“อะแฮ่มๆ พอดีสายคอมฉันมันพังน่ะ เอาไปซ่อมให้หน่อย”
“ระ..รับทราบค่ะหัวหน้า/ระ..รับทราบค่ะหัวหน้า” ก่อนจะวิ่งหนีไปโดยทิ้งกล้องส่องทางไกลไว้ที่กรอบหน้าต่าง หัวหน้าหยิบกล้องส่องทางไกลมาดูรินที่ตอนนี้กำลังฝึกยิงสนุกอยู่ด้านล่างโดยที่ไม่พลาดทุกนัดจนหัวหน้ายิ้มออกมา
“ฉันรอเธอแสดงฝีมืออยู่นะ”ก่อนจะวางกล้องส่องทางไกลและก่อนจะเดินไปทำหน้าของตัวเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ