นรกบนดิน(yuri)

-

เขียนโดย themockingjay

วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.

  29 ตอน
  0 วิจารณ์
  23.79K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) คุยกันแล้ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่14

กลุ่มเธอเดินมาได้สักพักก็หยุดที่สนามเด็กเล่นและพักสัก15นาที ระหว่างทางที่เธอเดินมาทำไมถึงไม่มีซอมบี้เลยสักตัว

‘แปลกมากทำไมถึงไม่มีซอมบี้เลยสักตัวเลย’

เธอนั่งกินน้ำที่สไลเดอร์ของเด็ก อากาศร้อนชื้นทำให้เหงื่อเธอไหลได้ง่ายมากระหว่างกำลังเช็ดเหงื่อเธอก็หาอาวุธประชิดตัวและดาบขนาดกลางพกติดตัวเอาไว้ก่อนเพราะรู้สึกว่าลางสังหรณ์เหมือนจะมีซอมบี้ระยะ4อยู่แถวนี้เพราะซอมบี้ระยะ1-2 ไม่มีเลยสักตัว จากนั้นเธอก็นั่งลงปกติมองไปรอบๆ ด้านหน้าของเธอเป็นทางเข้า-ออกสนามเด็กเล่น ด้านซ้ายและขวาเป็นบ้านที่อยู่อาศัยและด้านหลังเป็นป่าขนาดย่อมที่ยังไม่มีใครมาซื้อ ไปๆ มาๆ เธอมาอยู่ในป่าสักพักจู่ก็ร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากข้างหลัง กลายเป็นว่าเป็นรุ่นพี่เธอนี่เอง

“โถ่พี่เปิ้ล รินตกใจหมดเลยค่ะ”

“555คิดว่าพี่เป็นอะไรคะ” จู่ๆ รุ่นพี่เธอก็มาอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียงและมานั้งข้างๆ เธอ

“รินกำลังนึกถึงตัวไวรัสระยะ4อยู่เลยค่ะ”

“อ๋อ ได้ยินมาบ้างนะที่กระสุนยิงไม่เข้าเลย”

“ใช่ค่ะ รินก็สงสัยว่าทำไมแถวนี้ไม่มีซอมบี้เลยสักตัว”

“อ๋อ ตอนแรกก็มีนะตอนที่พวกพี่เดินทางมาดูสถานที่พักให้เจ้าหน้าที่ใหม่น่ะ พวกพี่ก็เลยจัดการไปจนหมดนี่แหละ”

“โห้สุดยอด พวกพี่จัดการซอมบี้ไปนี่เป็นระยะไหนเหรอคะ”

“อืม น่าจะเป็นระยะ2นะถ้าพี่จำไม่ผิด” ก็ไม่มีอะไรผิดปกตินี่หรือว่าเธอกังวลไปเอง จู่ๆ รุ่นพี่เธอก็เอามือมาลูบต้นขาเธอ

“พี่คะ เดี๋ยวค่ะจะทำอะไรคะ”

“พอเห็นหน้ารินแล้วพี่ก็รู้สึกมีอารมณ์ทันทีเลยสิคะ”

“ไหนพี่บอกว่าครั้งเดียวไงคะ” เธอพยายามดันตัวรุ่นพี่ของเธอออก รุ่นพี่เธอก็พยามดันตัวเองเข้ามา

“ตอนแรกก็ว่าจะครั้งเดียวแหละค่ะ แต่ทำไงได้ก็รินทำให้ดีขนาดนั้นก็ติดใจเป็นธรรมดาแหละค่ะ”

“พี่หวานคะ รินไม่ได้พูดเล่นนะคะ ครั้งเดียวคือครั้งเดียวค่ะ รินไม่ได้มาที่นี่เพราะจะมามีอะไรกับพี่แค่คนเดียวนะคะ จริงจังกับงานหน่อยค่ะพี่เปิ้ล” เธอเอ่ยเตือนรุ่นพี่เธอที่เอาอารมณ์นำหน้ามากจนเกินไปและไม่สนใจกับหน้าที่ ถ้าเกิดว่าเกิดเหตุตอนกำลังมีอะไรกันอยู่ไม่ตายทั้งคู่เลยเหรอ

“อะ...เอ่อ...พี่ขอโทษค่ะพี่จะไม่ทำอีกแล้ว” รุ่นพี่ทำหน้างอ เหมือนเธอจะดุเกินไปหน่อย

“เอ่อ...คือรินไม่ได้ตั้งใจว่าพี่นะคะคือที่รินพูดคืออยากให้ตั้งใจทำหน้าที่หน่อยแค่นั้นเองค่ะ”

“อื้ม พี่ก็ไม่ได้โกธรอะไรหรอกค่ะ”

“เดี๋ยวรินไปเดินเล่นก่อนนะคะ อีกเดี๋ยวก็เข้ารวมกลุ่มแล้วพี่เข้าไปรวมกลุ่มดีกว่าค่ะ รินรู้สึกว่าตรงนี้อันตรายยังไงๆ ไม่รู้”

“ได้ค่ะ รินก็กลับมานะคะ อย่าออกไปไกลมากนะ”

“ค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ” เธอยิ้มให้รุ่นพี่ก่อนจะเดินออกจากสนามเด็กเล่นเพื่อไปสำรวจบริเวณใกล้ๆ เธอเห็นรุ่นพี่ทำแบบนี้แล้วรู้สึกว่าที่เจ้าหน้าที่ตายกันเยอะเพราะละเลยหน้าที่กันเกินไปรึเปล่า เรื่องนี้ไม่ได้เล่นๆ สำหรับเธอนะ ที่เธอฝึกตลอดระยะเวลา5เดือนกว่าเพื่อที่จะมาละเลยหน้าที่ของตัวเองรึไง

“ให้ตายเถอะ ชีวิตมันสำคัญนะทำไมไม่รู้จักระวังกันบ้างเลย” เธอเดินไปเรื่อยๆ และเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเดินมาไกลมากพอแล้วก็เดินไปที่กลุ่มของตัวเอง ที่เดินไปเพราะเธออยากอยู่แบบสงบๆ แต่จะว่าไปแถวนี้คุ้นๆ นะเหมือนเธอเคยมา ก่อนที่สายตาเธอจะไปบรรจบกันร้านๆ หนึ่งๆ เข้า

“โถ่ก็ว่าทำไมที่นี่มันคุ้นๆ ” แถวนี้เป็นตลาดน่าเที่ยวที่เธอกับไข่หวานเคยมาเที่ยวกัน งั้นแสดงว่าอีกไม่ไกลก็จะถึงฐานของเธอแล้ว

“วอ1เรียกรวม วอ1เรียกรวม”

‘ตายละหมดเวลาแล้วเหรอ เร็วชำมัด’ เธอรีบวิ่งไม่งั้นคงจะโดนบ่นแน่ๆ ยิ่งเมื่อตอนเช้าเธอตื่นสายซะด้วย ระหว่างที่เธอกำลังวิ่งเข้าไปรวมกลุ่มที่สนามเด็กเล่น สายตาเธอบังเอิญเหลือบไปเห็นซอมบี้ระยะ4ที่กำลังลากศพ2 ศพ เดินข้ามถนนไปอย่างช้าๆ ภาพนี้เธอเห็นเป็นภาพสโลโมชั่นชั่วขณะ เหงื่อเธอเริ่มผุดออกมา หัวใจเธอพร้อมจะหยุดเต้นทุกเมื่อหากเจ้าระยะ4มันหันมา ทุกอย่างจบเห่แน่ๆ แต่ดีที่มันไม่ได้สนใจพวกเธอขนาดนั้นเพราะในมือมันมีอาหารอันโอชะที่สามารถอยู่ได้ถึง1วันโดยไม่ต้องออกไปล่าเหยื่อ เธอที่หยุดอยู่หน้าสนามเด็กเล่นกำลังมองมันลากศพไปไหนสักที่ที่กำลังเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่งจนลับตาเธอไป เธอขยับตัวไม่ได้ ขาสั่นมือสั่น เธอพึ่งเคยเห็นซอมบี้ระยะที่4เป็นครั้งแรก มันต่างจากที่แม่เธอเล่านิดหน่อยแฮะ ลักษณะเหมือนคนธรรมดาแค่เนื้อตัวเปื้อนเลือดแต่แขนยาวจนลากพื้น มือใหญ่กว่าปกติ สามารถถือหัวศพได้2ศพในมือเดียว แต่เธอยังไม่เห็นกรงเล็บนั้นไม่แน่มันอาจจะเอาออกมาตอนสู้กันก็ได้ ตอนนี้มันยิ่งเหมือนสัตว์ขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่แน่ถ้าหากปล่อยไว้นานกว่านี้มันอาจจะสามารถทำอะไรที่ฉลาดขึ้นกว่านี้และคนที่ต้องสูญพันธุ์ไม่ใช่ซอมบี้แต่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ได้

‘มันจะพัฒนาไปถึงขนาดไหนกันนะ’

“มัวยืนมองอะไรอยู่ห้ะ เข้าแถวได้แล้วมันเลยเวลามานานแล้วได้ยินไหม!! ” ทุกคนมองมายังเธอเป็นสายตาเดียว เมื่อเธอตั้งสติได้และหันไปมองเพื่อนร่วมรุ่นที่ตอนนี้เข้าแถวกันหมดแล้วและเหลือเธอคนเดียวที่ยืนบื้ออยู่หน้าสนามเด็กเล่น เธอต้องบอกเรื่องนี้กับหัวหน้าว่ามีระยะ4อยู่แถวนี้ไม่อย่างนั้นถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ระวังตัวกันละก็คงเสร็จมันแน่ๆ และถ้าเกิดว่าเจอมันอีกครั้งถ้าหากมันไม่สนใจพวกเธอเหมือนเมื้อกี้ก็ไม่อยากให้เข้าไปปะทะกันไม่งั้นกลุ่มพวกเธอจะได้เสียเจ้าหน้าที่ไปฟรีๆ

เธอที่เดินเข้าไปหัวหน้าและกระซิบว่ามีเรื่องจะคุยด้วยเกี่ยวกับซอมบี้ระยะ4 ขอไปคุยกันแบบส่วนตัวหน่อยเพราะไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องตื่นตระหนก หัวหน้าเธอพยักหน้าเข้าใจและเดินออกมาอยู่ข้างๆ เครื่องเล่นที่ห่างจากเจ้าหน้าที่พอสมควร

“เธอเห็นมันเมื่อกี้สินะ”

“ใช่ค่ะหัวหน้า รูปร่างต่างจากข้อมูลนิดหน่อยค่ะ ตรงที่รูปร่างเหมือนคนทุกอย่าง แต่ที่ต่างไปคือมีมือที่ยาว ใหญ่และแข็งแรงกว่าปกติเพราะรินเห็นมันถือหัวศพได้2หัวในมือเดียว และมือของมันที่ยาวจนลากพื้น รินเกรงว่ามันอาจจะพัฒนาไปอีกขั้นเพราะปกติซอมบี้มันจะหากินตลอดเวลาแต่ตัวนี้รินเห็นมันหิ้วอาหารเหมือนกับเวลาจำศีลของสัตว์เลยค่ะหัวหน้า”

“อืม เธอเห็นมันเดินไปไหนล่ะ”

“รินเห็นมันเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งค่ะหัวหน้า ถ้าให้เดารินว่าที่มันจะไปเป็นรังของมันแน่ๆ ค่ะ”

“อืม เข้าใจละ สงสัยเราต้องรีบเดินทางแล้วสินะ”

“ขอบคุณหัวหน้าที่รับฟังค่ะ หัวหน้าคะคือถ้าเป็นไปได้รินอยากไม่อยากใครรู้เพราะเดี๋ยวแตกตื่นกันอะค่ะ”

“อืมได้”

“ขอบคุณค่ะหัวหน้า”

“อืมถ้ามีอะไรก็บอกได้ เราจะได้เตรียมตัวกัน”

“ค่ะ” หัวหน้าเธอเดินกลับไปเเละได้ประชุมให้ปรับแผนนิดหน่อย ให้เราใช้อีกทางเพื่อเลี่ยงการพบเจอกับซอมบี้ระยะ4และปรับให้ทุกคนเดินกันเงียบลงและทำแถวในการตั้งรับมากขึ้น ซึ่งเธอค่อยสบายใจหน่อยถ้าเกิดอะไรขึ้นพวกเธอคงจะตั้งรับไม่ได้มากก็น้อย

‘ขอให้ไปถึงโดยที่ไม่เจอระยะ4ด้วยเถอะ’

ระหว่างทางที่กลุ่มเธอเดินไปยังฐานนั้นก็เจอซอมบี้อยู่บ้างนิดหน่อย ให้พอเป็นแบบทดสอบขนาดย่อมของเจ้าหน้าที่ใหม่ในการลงพื้นที่จริงครั้งแรก จะว่าไปมันก็เป็นสถานการณ์ที่รับมือได้อยู่พอสมควร ทำให้คนในกลุ่มก็โล่งใจไปหน่อยว่าจะได้ไม่มีใครต้องเสียชีวิตก่อนจะไปถึงฐานและในที่สุดกลุ่มพวกเธอก็เดินมาถึงฐานเป็นกลุ่มแรกในเวลาบ่าย3จริงๆ ลักษณะภายนอกของฐานจะเป็นเหมือนตึกสูงขนาดใหญ่ที่บนดาดฟ้าสามารถใช้ลงจอดได้ ถือว่าเลือกสถานที่ได้ดีเพราะจะได้ไม่ต้องหาพื้นที่ในการลงจอดซึ่งสามารถประหยัดเวลาในการเดินทาง การเลือกหาสถานที่ที่เหมาะสมและการใช้คนเฝ้าระวังจากพวกซอมบี้ทั้งหลายแหล่อีกด้วย ตึกนี้มีอยู่ประมาณ70ชั้นแต่ส่วนมากชั้นที่พวกเธอสามารถใช้ได้คือตั้งแต่ชั้นที่57ขั้นไปเพราะหลังจากนั้นจะมีซอมบี้อยู่จำนวนมากเพื่อเลี่ยงการปะทะที่มีเสียงดังทำให้พวกเจ้าหน้าที่เคลียร์ชั้นที่มีซอมบี้น้อยและลงหลักปักฐานตรงนี้ดีกว่าและบังเอิญเป็นชั้นที่ติดกับดาดฟ้าเจ้าหน้าที่เลยไม่ต้องจัดหาอะไรมากแต่จะลำบากหน่อยตรงที่พวกเธอจะขึ้นไปแต่ต้องมาเคลียร์ซอมบี้เกือบร้อยตัวที่พวกเธอเดินเข้าจ้ะเอ๋กับมันเข้าในตัวอาคารชั้นที่1ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพวกเธอมากเท่าไหร่ ทั้งฝีมือเจ้าหน้าที่เก่าและเจ้าหน้าที่อย่างพวกเธอที่พึ่งมาเป็นเจ้าหน้าที่ใหม่ทุกคนช่วยกันเคลียร์ ภายในไม่กี่นาทีพวกซอมบี้ที่อยู่ชั้นแรกก็ตายเรียบ บทจะง่ายก็ง่ายบทจะยากก็ยากจนน่าใจหาย แบบนี้เองสินะที่เจ้าหน้าที่อย่างพวกเธอต้องรับมือกับสถานการณ์ตลอดเวลาเพราะเราไม่สามารถรู้ว่าจะมีสถานการณ์ไหนเข้ามาและถ้าหากเข้ามาก็ไม่รู้ว่าจะยากหรือง่ายสำหรับพวกเธอ ระหว่างที่กลุ่มพวกเธอกำลังรอลิฟต์ให้คนขึ้นกันอยู่ รุ่นพี่เธอก็เข้ามาข้างๆ และเข้ามาจับมือเธอแต่ดีที่เธออยู่หลังสุดเลยไม่มีใครเห็น

“รุ่นทำอะไรคะ” เธอกระซิบ

“อยู่กับพี่แปบนึงนะคะ”

“ทำไมคะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า”

“เดี๋ยวรอให้คนขึ้นกันไปหมดก่อนได้ไหมคะ”

“ได้ค่ะๆ ” เธอก็ยืนรอไปเรื่อยๆ แต่ก็จับมือกันอยู่อย่างนั้นจนเหลือแค่เธอ2คนที่อยู่ด้านล่าง

“พี่คะเป็นอะไรคะ ประจำเดือนมาเหรอคะ”

“คือพี่มีอารมณ์อีกแล้วอะค่ะ”

“คะ ตอนนี้เหรอคะ”

“ใช่ค่ะ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันตอนที่เวลายิงพวกซอมบี้เเล้วพี่รู้สึกดีจนมีอารมณ์ขนาดนี้”

“พี่น่าจะเป็นพวกซาดิสม์รึเปล่าคะ”

“เอ่อ พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้รินช่วยพี่หน่อยได้ไหมคะ”

“เอ่อคือว่า”

“ตรงขวามือมีห้องน้ำอยู่ค่ะ มาค่ะเดี๋ยวพี่พาไป”

“พี่รู้ได้ยังไงคะว่ามีห้องน้ำอยู่”

“ก็ตอนที่พี่กลับมาที่นี่แล้วรอลิฟต์พอดีอยากเข้าห้องน้ำเลยมองหาก็เจอนี่แหละค่ะ” พอรุ่นพี่เธอเล่าเสร็จเธอก็มาอยู่ในห้องน้ำแล้วเรียบร้อยโดยที่เธอนั่งอยู่บนฝาชักโครกและรุ่นพี่นั่งคร่อมเธอเหมือนเคย

“เฮ้อ แบบนี้บ่อยไม่ได้นะคะพี่”

“ค่ะพี่จะไม่ให้บ่อยนะคะ ตอนนี้มาเริ่มกันดีกว่าค่ะ”

“ก็ได้ค่ะ” รุ่นพี่เธอถอดเสื้อและรูดซิบกางเกงออกเพื่อให้ล้วงเข้าไปได้ง่าย ก่อนเธอจะเอามือไปควานหากลีบดอกไม้และใส่นิ้วของเธอเข้าไป

“อ่าาาห์ อืมมมม” เฮ้อเธอละเกลียดนิสัยตัวเองจริงๆ ที่ปฏิเสธคนอื่นไม่เป็นสักทีทำให้เธอต้องเข้าไปอยู่ในสถานการณ์อึดอัดตลอด ให้ตายเหอะ

“รินน ดูดนมพี่หน่อยสิคะ อ๊าานั้นแหละค่ะ” รุ่นพี่เธอเริ่มจะขอเยอะขึ้นทุกทีๆ แล้วแฮะถ้าเธอไม่คุยเรื่องนี้กันมีหวังความสัมพันธ์แย่แน่ๆ เพราะเธอเองก็ลำบากใจที่จะทำทุกครั้งเหมือนกัน

“เริ่มนิ้วอีกสิคะ อื้ม นั้นแหละค่ะ ซี้ดด”

‘ทำให้เสร็จๆ ไปเลยดีกว่าไม่อย่างนั้นนานแน่ๆ ดีนะที่บอกกับเพื่อนในกลุ่มไปแล้วว่าขึ้นไปช้าหน่อยไม่งั้นเธอโดนทำโทษแน่’

“อ้าา รินทำไมทำเร็วขึ้นล่ะคะ อะ พี่จะเสร็จแล้วค่ะ อ๊ะ อ๊าาาา” หลังจากนั้นพวกเธอก็แต่งตัวกันและมายืนรอหน้าลิฟท์ก่อนที่จะขึ้นลิฟท์ไปด้วยกัน

“พี่คะคือเรื่องนี้เราต้องคุยกันนะคะ”

“อืมพี่รู้แล้วค่ะว่ารินอึดอัด ขอโทษนะคะ”

“เอ่อคือมันก็ส่วนหนึ่งค่ะพี่ แต่ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันไม่ดีกับตัวพี่นะคะ”

“เพราะแบบนี้ไงพี่ถึงได้ชอบรินเนี่ย หยวนให้พี่ตลอดพี่ก็ได้ใจสิคะ”

“พี่คะเราคุยกันแล้วนะคะว่าจะไม่มีความรู้สึกนี้มา”

“ค่ะพี่รู้ งั้นแสดงว่ารินก็มีแฟนแล้วเหรอคะ”

“คือก็ไม่เชิงมีหรอกค่ะ แต่รินแค่ลืมเขาไม่ได้แค่นั้นเองค่ะ”

“งั้นถ้าพี่จีบเธอตอนนี้ ยังทันอยู่ไหนเนี่ย”

“อย่าเลยค่ะ ถ้ารินยังลืมเขาไม่ได้รินก็ไม่อยากให้ใครมาเป็นตัวแทนเขาหรอกค่ะ มันเจ็บทั้งสองฝ่ายอะค่ะ”

“เห้วอีกแล้วสินะ พี่เนี่ย”

“55555ยังมีคนอีกเยอะค่ะพี่ ถ้ามันมาเดี๋ยวมันก็มาค่ะ”

“อื้มนั้นสินะ พี่ก็ว่าแหละ”

“ติ้ง” เสียงลิฟต์ดังขึ้นว่าพวกเราถึงชั้นที่ต้องการแล้ว

“ไปค่ะ”เธอยิ้มให้รุ่นพี่เธอก่อนจะเดินนำหน้าออกไป อ่าเห็นสิ เธอเห็นรุ่นพี่น้ำตาซึมอยู่ทั้งๆ ที่ยิ้มตอบให้เธอเมื่อกี้ แต่เธอต้องทำเป็นไม่สนใจไม่งั้นเธอก็จะวนหลูบอยู่ในความสัมพันธ์แบบนั้นมันจะอึดอัดเปล่าๆ เฮ้อความสัมพันธ์เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากถ้าถลำลึกมากไปก็จะเป็นแบบนี้ ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดรู้สึกขึ้นมาแล้วถ้าหากอีกฝ่ายเกิดไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมาละก็มันคงต้องทำใจอย่างเดียวล่ะนะ แต่นั้นสิทำไมเธอถึงยังไม่ลืมไข่หวานสักที เธอรออะไรอยู่ ทำไมเธอยังไม่ไปไหนสักทีทั้งๆ ที่ยังมีคนเข้ามาหาเธอมามอบความรัก ความรู้สึกให้เธอขนาดนี้เธอควรจะตอบรับไม่ใช่เหรอ

ตุ้บ

“โอ้ย”

“ขอโทษค่ะ” เธอกล่าวขอโทษก่อนจะช่วยพยุงผู้หญิงที่ล้มอยู่ขึ้นมา เธอมองผู้หญิงคนนี้ตอนที่กำลังปัดเสื้อผ้าอยู่ ยิ่งเธอดูยิ่งเหมือนคนที่อยู่ในใจเธอมาตลอด

“ขอโทษนะคะคุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะๆ ขอบคุณคุณมากนะคะ” ผู้หญิงที่เงยหน้ามาให้เห็นหน้าตาสักทีจนไม่คิดว่าจะเป็นคนที่อยู่ในใจเธอมาตลอด!

“ขะ ไข่หวาน!! ”

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา