Couple เปลี่ยนคู่ปลอมให้จริง
เขียนโดย HanaHana[ฮานาฮานะ]
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 21.04 น.
แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2564 16.41 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) เคลียร์นะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ*****เนื้อหาเรื่องนี้มีคำหยาบ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*****
“เอ่อ...”
ฉันมานั่งทำอะไรตรงนี้ว่ะเนี่ย? ฉันได้แต่นั่งมองหน้าคนตรงหน้าที่วิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว เมื่อมันพอได้สติกลับมาก็เท้าคางมองหน้าฉันเหมือนหนังสอบสวน
ฉันไล่ให้ไอ้กองทุน น้องชายตัวดีที่มาถึงก็สร้างความร้าวฉานให้ฉันเป็นอันดับแรก ให้มันพายี่หวาไปรับยูโรที่โรงเรียน ส่วนฉันก็มาเคลียร์เรื่องที่มันไม่น่าจะจบง่ายๆถ้าไม่คว้าโอกาสนี้ไว้
ถึงแม้ว่าตอนแรกไอ้แบงค์จะเป็นคนรั้งแขนฉันไว้ก็เถอะ...แต่มันทำท่าจะปล่อยไปง่ายๆ ถ้าฉันไม่คว้ากลับคงไม่มีโอกาสได้มานั่งคุยกันแบบนี้แน่ๆ
“เรื่องไอ้ทุนใช่มั้ย?... หมายถึงน้องชายของกูอ่ะ” ไอ้แบงค์พยักหน้า ฉันเกล้าผมขึ้นรวบตึงเผยให้เห็นใบหน้าชัดเจน
“พอเก็บผม หน้ามึงก็ดูลูกครึ่งอยู่นะ ทำไมมึงไม่เก็บผมว่ะ?”
“ก็เพราะว่าหน้าตาลูกครึ่งเนี่ยล่ะเป็นปัญหาสำหรับกู...” ฉันถอนหายใจก่อนจะเล่าต่อ “พอรู้ว่าเป็นลูกครึ่งทุกคนก็ชอบเข้าหา กูไม่ชอบเป็นที่สนใจ อันนี้มึงก็รู้หนิ”
“แล้วทำไมมึงไม่บอกว่ามีน้องชาย”
“ก็มึงไม่ได้ถาม” ฉันตอบทันควัน “...แล้วมึงก็ไม่อยู่ให้กูบอกด้วย” ฉันเสริมด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกให้มันรู้เลยว่าน้อยใจ
“กูขอโทษแล้วกัน ก็ใครจะไปคิดว่ามึงจะมีน้อง ไม่เห็นเคยพูดถึง” ไอ้แบงค์เงียบไปเหมือนกำลังประมวลผลบางอย่าง “นี่กูรู้อะไรเกี่ยวกับมึงบ้างเนี่ย? อะไรที่กูคิดว่ากูรู้...มันแม่งไม่จริงสักอย่าง”
ไอ้แบงค์เกาหัวตัวเองจนผมฟูด้วยความกังวลและเครียดกับความคิดตัวเอง
“กูชื่อออมสิน พ่อเป็นคนอังกฤษ หม๊ามี๊เป็นคนไทย มีพี่ชาย1คนชื่อออมทรัพย์ น้องชาย1คนชื่อกองทุน ทุกคนอยู่ที่อังกฤษ ยกเว้นไอ้ทุนที่พึ่งย้ายมาเรียนปี1ที่ไทยและมหาลัยเดียวกับกู ตอนนี้อาศัยอยู่กับบ้านน้าหยีที่สามีตายแล้ว...”
“ดะ..เดี๋ยวมึง...”
“...ที่บ้านมียี่หวา และยูโร พ่วงไอ้ทุนมาด้วยอีกคน ยูโรไม่ใช่ลูกสาวจริงๆของกู แต่เป็นลูกของยี่หวาที่ถูกผู้ชายสันดานหมาทิ้งไปเพราะทำผู้หญิงท้อง กูทำงานพาร์ทไทม์หลายๆอย่างเพราะต้องการเงินไปช่วยค่าฟอกไตของน้าหยี และค่าใช้จ่ายที่บ้านบางส่วนรวมถึงส่วนของยูโรด้วย ซึ่งจริงๆกูก็ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ เพราะบ้านกูรวย”
“ห๊ะ!!!?” ไอ้แบงค์ทำหน้าตกใจ ตาโต อ้าปากค้าง
“มึงไม่เห็นรถที่ไอ้ทุนมันขับหรอ?”
ไม่เห็นก็ตาบอดแล้วล่ะ ป้ายแดงหรูหราเลขเรียงขนาดนั้น แค่ล้อก็เลข6หลักแล้ว ไม่ต้องเอ่ยถึงราคารถก็รู้ว่า8หลักอย่างต่ำ
“ก็นั่นล่ะ ที่ทำให้กูเชื่อไม่ลง ว่ามันจะเป็นน้องชายมึง” ไอ้แบงค์มองฉันที่นั่งบนโซฟาห้องมัน มองตั้งแต่เท้าจรดหัว “มึงไม่ใช้ของแบรนด์ พอกูจะซื้อให้มึงก็ไม่เอา”
“กระเป๋า8หมื่น! ใบเท่ากระป๋องโค้ก!! ใส่ชีทเอกสารยังไม่ได้เลยมึง... มือถือกูยังใหญ่กว่ากระเป๋าอีก!!” มันทำหน้าเหมือนคิดไม่ตก “เอาแบบง่ายๆเลยนะ พ่อกูติสมาก..แล้วกูก็ได้ความติสนี้มาจากพ่อ...ตอนเด็กๆ(ที่อยู่อังกฤษ)พ่อพาพวกกู(ลูกๆ)ไปนอนกับคนไร้บ้านก็ทำมาแล้ว ไปขอข้าวหลังร้านอาหารก็เคยทำ”
“เฮ้ย!?”
“ที่ทำไม่ใช่เพราะเดือดร้อนเรื่องเงินหรอกนะ แต่เป็นเพราะทะเลาะกับหม๊ามี๊เรื่องอาหารที่หม๊ามี๊ทำมันเผ็ด ประชดชีวิตโดยพาลูกหนีออกจากบ้าน” ไอ้แบงค์พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ มันเข้าใจจริงรึเปล่าว่ะ?
“ถ้าบ้านมึงมีเงินขนาดนั้นทำไมไม่ขอเงินมาช่วยน้าหยีเลยว่ะ จะให้ตัวเองลำบากจนเกือบเป็นลมทำไม? รู้มั้ยว่าพอกูเห็นมึงจะเป็นลม กูอยากจะจับมึงขังเอาไว้ที่บ้านไม่ให้ออกมาทำงานอะไรอีกเลย กูเป็นห่วงมึงนะเว้ย! แต่มึงก็ไม่เคยที่จะให้กูช่วยอะไรมึงเลย”
“ก็เพราะอะไรที่มันได้มาง่ายๆ มันก็จะไปง่ายๆยังไงล่ะ กูไม่อยากได้มึงมาง่ายๆเพราะกูไม่อยากเสียมึงไปง่ายๆ”
“แล้วมึงคิดว่ากูง่ายหรอกว่ะไอ้ออม...เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มึงว่ายังไงนะ”
ไอ้แบงค์ที่ก่อนหน้าระบายความอัดอั้นออกมา เหมือนจะจับใจความอะไรบางอย่างได้ มันจ้องหน้าฉันอย่างกับหมาป่าที่จะกระโจนกินเหยื่อ
“กูชอบทำงานพาร์ทไทม์หลายๆอย่าง มันทำให้กูได้เห็นอะไรมากมายบนโลกนี้ กูชอบที่มีคนคอยเป็นห่วง ชอบคนที่ต้องหาเวลามารับส่ง ชอบที่มีคนสรรหาทั้งสิ่งที่ชอบและก็ไม่ชอบมาให้ ชอบที่มีคนมาเป็นหมาหวงก้างเวลามีคนเข้าใกล้”
เหมือนฉันกำลังหายใจติดขัดกับสิ่งที่พูดออกมา แต่มันก็ไม่สามารถหยุดที่จะพูดออกไปได้
“ชอบคนที่โมโหเวลาที่กูขัดใจเขาตลอด ชอบ...ชอบ...ถึงแม้ว่ามันชอบให้ผู้หญิงคนอื่นเข้ามาเกาะแกะก็เถอะ ชอบที่สุดท้ายมันก็ยอมตลอดแม้กูจะผิด ชอบที่ยอมมาเป็นป๊าปี๊ให้เด็กตัวน้อยๆที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร ชอบ...ชอบ...”
ถึงตรงนี้ก็เหมือนมีน้ำใสๆกำลังอาบแก้มของฉันอยู่
“ชอบมาก...ชอบจริงๆ ชอบจนไม่อยากเสียมันไป ชอบ...” ฝ่ามือใหญ่ๆประคองแก้มทั้ง2ข้างของฉันให้เงยหน้าขึ้นมา ตอนนี้ฉันมองหน้ามันไม่ชัดเพราะน้ำตาที่เอ่อล้น
“กูชอ.....”
“กูรักมึงนะ ออมสิน”
เหมือนเวลาทั้งหมดถูกหยุดเอาไว้ คำพูดที่ฉันคิดไว้ว่าจะบอกมันก่อน กลับกลายเป็นมันที่สารภาพออกมาก่อนฉันอีก ในอกทั้งดีใจ โล่งใจ ลามมาถึงสมองที่โปร่งโล่งสบาย ไม่มีแม้แต่รอยยักของความคิดใดๆออกมาให้โต้ตอบ ตอนนี้รับรู้ได้แต่ริมฝีปากหนาที่ประทับกดลงมาอย่างโหยหา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ