Twin แฝดเลือดผสม
เขียนโดย Shinman33
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) บุคคลพิเศษหรือแค่เด็กเส้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“อย่างที่เราได้แจ้งเหตุผลไว้กับท่านแต่แรกนั่นแหละ แล้วด้วยเหตุผลนั้น ชายน์ ชาโดวส์ อินเดอนาส บุตรบุญธรรมของเราและเอดิสัน สมควรจะได้เข้าเรียนในโฮเนอร์”
“แต่จะให้เข้าเรียนโดยไม่มีการทดสอบหรือวัดความรู้อะไรเลยหรือ”
“สำหรับเรื่องนั้นเราขอรับรองด้วยชื่อของริว อินเดอนาส ประธานรุ่นปี 3 แห่งโฮเนอร์”
“ก็นั่นบุตรชายของท่าน ยังไงพวกท่านก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว”
“ก็พึ่งจะบอกอยู่ว่ารับรองด้วยตำแหน่งประธานรุ่น ไม่ใช่รับรองด้วยฐานะบุตรของเราหรือหลานชายท่านผู้อำนวยการนี่” มารีนกล่าวอย่างฉุนๆ ที่คนในห้องนี้ดื้อกว่าที่เธอคิดไว้มาก ทั้งๆ ที่เธอนั้นดำเนินการและแจ้งเหตุผลมาก่อนหน้านี้แล้ว
“เอาล่ะๆ พอกันได้แล้ว มารีนเขาก็พูดถูกนะ เด็กนั่นคือคนในคำทำนาย เขาคือคนที่จะจัดการสะสางเรื่องทั้งหมดที่คาราคาซังมากว่าสิบปีให้มันจบลงซะที” คนที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกล่าว
“แต่ข่าวว่ามีเด็ก 2 คนที่ตรงตามคำทำนายนะครับท่าน” ยังคงมีเสียงแย้งออกมาจากคณะกรรมการสถานศึกษา
“แล้วอีกคนอยู่ที่ไหนล่ะ ตอนนี้ 1 ใน 2 คนนั่นอยู่กับเรานะ อย่างน้อยเราก็กำลังได้เปรียบพวกนั้นอยู่” มารีนแย้งบ้าง
“เช่นนั้นพวกเราก็คงไม่มีปัญหาแล้วล่ะ เชิญท่านผู้อำนวยการตัดสินใจเลยครับ” กลุ่มคนที่พยายามแย้งกล่าวยอมแพ้ออกมาในที่สุด
“งั้นผมจะรับเด็กคนนี้เขาเรียนในโฮเนอร์เป็นกรณีพิเศษ แต่จะมีการประเมินศักยภาพเขาจากอาจารย์และรุ่นพี่เพราะถ้าเขาไม่มีคุณสมบัติเพียงพอทางเราก็จะไม่อนุญาตให้เรียนต่อที่นี่ ส่วนเรื่องอื่นๆ เดี๋ยวผมจะให้อาจารย์แต่ละฝ่ายเขาจัดการต่อ ตกลงนะ” กล่าวจบก็ลุกออกไปทันที เหล่าคนที่เหลืออยู่ในห้องก็ทยอยลุกแยกย้ายกันออกไป และมารีนก็กำลังนั่งยิ้มอย่างพอใจก่อนจะลุกเดินออกมาหาชายน์ที่รออยู่ในห้องรับรอง
“เรียบร้อยแล้วล่ะ ตอนนี้ลูกคือนักเรียนชั้นปี1 แห่งโฮเนอร์อย่างสมบูรณ์แบบแล้วนะ ส่วนเรื่องตำราเรียน เครื่องแบบ เอกสารต่างๆ และข้าวของที่ขนมาจากบ้านแม่ก็จัดการให้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน เดี๋ยวริวพาน้องไปห้องเรียนปี1ได้เลยนะ” มารีนกล่าวอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหันไปสั่งลูกชายคนโต
“สัญญว่าผมจะไม่ทำให้ท่านแม่ผิดหวัง” ชายน์กล่าวพร้อมกับเข้ากอดผู้เป็นแม่ทันที
“จำไว้นะชายน์ อยู่ที่นี่ลูกต้องเข้มแข็งนะ ตั้งใจให้มากๆ เพราะทุกอย่างที่นี่จะทำให้ลูกเก่งและพร้อมที่จะรับมือกับ…..” กล่าวได้เท่านั้นก็ชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยออกมา
“เรื่องยุ่งยากในอนาคตหน่ะ ฮ่าๆๆๆ”
ณ โฮเนอร์ โรงเรียนอันดับหนึ่งในแกรนน่าที่บัดนี้นักเรียนของโรงเรียนในแต่ละชั้นปีกำลังจับกลุ่มนินทากันอย่างสนุกปาก บ้างก็ตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของเด็กนักเรียนพิเศษที่ได้สิทธิ์เข้าเรียนโดยไม่ต้องผ่านการทดสอบแข่งขันกับคนนับหมื่นเหมือนพวกเขา บ้างก็ชื่นชมในใบหน้าอันหล่อเหลาและทรงผมสกินเฮดสุดเท่ห์ที่เจ้าตัวพึ่งตัดเมื่อเช้านี้ แต่ส่วนมากกำลังตั้งป้อมจับผิดและไม่ยอมรับคนที่เข้ามาอยู่ร่วมโรงเรียนด้วยเงื่อนไขพิเศษแบบนี้
น้องชายพี่ริวหรอ เท่ห์สุดๆ ไปเลยอ่ะเธอ อร๊ายยยย
ทั้งโรงเรียนมีแค่คนนี้แหละที่ตัดผมทรงแปลกๆ แบบนี้ แต่มันเท่ห์บาดใจจนฉันจะละลายแล้วอ่ะ
เด็กเส้น น่าหมั่นไส้หว่ะ
นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นลูกของคุณมารีน่าก็คงจะไม่ได้เข้าเรียนง่ายๆ แบบนี้หรอกเชื่อสิ
งั้นหมอนี่ก็หลานของท่านผู้อำนวยการสินะ มิน่าละถึงได้สิทธิพิเศษ
เชื่อเถอะ คนที่หลบการทดสอบแล้วเข้ามาแบบนี้หน่ะ มันไม่มีความสามารถอะไรหรอก มีแค่เส้นสายเท่านั้นแหละ
โดยที่ชายน์เองไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังสร้างความไม่พอใจและสร้างศัตรูให้กับตัวเองอยู่ เพราะหลังจากที่มาถึงท่านแม่ก็ให้เขานั่งรออยู่ห้องรับรอง ส่วนตัวเองก็เขาเข้าพบท่านผู้อำนวยการและคณะกรรมการสถานศึกษาทันที หากแต่เมื่อท่านแม่เขาออกมาก็ให้ริวพาเข้าห้องเรียนทันทีโดยไม่มีการทดสอบหรือวัดความรู้อะไรทั้งสิ้น มิหนำซ้ำหลายๆ คนที่ออกมาจากห้องนั้นยังแสดงความนอบน้อมต่อเขาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งชายน์เองก็คิดว่าน่าจะเป็นเพราะท่านแม่ของเขาจัดการเรื่องทุกอย่างไว้ให้แล้วแน่ๆ แต่กระนั้นก็ยังมีบางส่วนที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ!!
“ไหนพี่ริวบอกว่าที่นี่เข้าเรียนยากไง ต้องทดสอบฝีมือมากมายแต่ทำไมผมไม่เห็นได้ทำอะไรเลยล่ะครับ” ชายน์อดที่จะสงสัยไม่ได้
“ก็เข้าเรียนเป็นกรณีพิเศษอ่ะ อีกอย่างท่านผู้อำนวยการก็อนุญาตแล้วด้วย” ริวกล่าวอย่างอารมณ์ดี เขาเองก็เดาไว้แล้วหล่ะว่าเรื่องจะต้องเป็นแบบนี้ แต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าหากเข้าเรียนด้วยวิธีนี้ชายน์จะต้องเจอกระแสกดดันไม่น้อย!!
“ขออนุญาตครับ” ริวกล่าวก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเรียนแล้วส่งกระดาษแผ่นเล็กๆ ให้กับรอลล่า อาจารย์ประจำวิชาประวัติศาสตร์ที่ตอนนี้กำลังสอนนักเรียนชั้นปี1 อยู่ และการปรากฏตัวของรุ่นพี่ปี3 คนนี้ก็ช่วยให้นักเรียนสาวๆ ที่กำลังจะหลับคาห้องเรียนเพราะความน่าเบื่อหน่ายของการเรียนนั้นตาสว่างขึ้นทันที
‘อร๊ายยยย พี่ริวสุดหล่อมาทำอะไรเนี่ยยยยย’
“โอเค เธอกลับไปได้แล้ว ทางนี้เดี๋ยวฉันจัดการต่อเอง ขอบใจนะริว” รอลล่ากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์นักทันทีที่เธออ่านข้อความสั้นๆ ในกระดาษแผ่นเล็กจบลง ริวเองก็พอจะรู้สถานการณ์ดีจึงหันไปมองหน้าน้องชายอย่างอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ก่อนที่จะ
“มีอะไรบอกพี่ได้นะ เดี๋ยวเย็นนี้เจอกัน” คนตัวโตกว่าดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดแล้วกระซิบบอกเบาๆ ก่อนจะเดินออกไป
‘อร๊ายยยย ผู้ชายกอดกันอ่ะแกเห็ยมั๊ยยยยยย’
เนื่องจากปี1 ทั้งหมดนั่งเรียนอยู่ในห้องจึงไม่รู้ว่าตั้งแต่เช้ามานั้นนักเรียนปี2 ปี3 เขากำลังตื่นเต้นและหมั่นไส้กับเด็กใหม่ที่เป็นน้องชายของประธานรุ่นปี3 อยู่
“เอาละเด็กๆ ครูขอขัดเวลาเรียนอันมีค่าของพวกเรานิดหน่อยนะ พอดีมีนักเรียนใหม่พึ่งเข้ามาหน่ะ” คำกล่าวของรอลล่าเรียกเสียงฮือฮาจากเด็กๆได้ไม่น้อย หลายสายตาจับจ้องไปยังชายน์ที่ตอนนี้ยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าประตูห้องนั่น และรอลล่าก็ยังคงกล่าวต่อ
“ก็อย่างที่เราทราบกันนั่นแหละว่าโรงเรียนเรามาตรฐานสูง การได้เข้ามาเรียนที่นี่จะต้องผ่านการทดสอบและเอาชนะคู่แข่งนับหมื่นให้ได้ถึงจะเรียกว่าเข้ามาอย่างสง่างาม แต่ก็มีบ้างนะที่จะมีคนเข้ามาโดยไม่ต้องผ่านการทดสอบอะไรเลย ซึ่งข้อนี้ถือว่าเป็นการเข้าเรียนกรณีพิเศษและการเข้าเรียนกรณีนี้ก็มีเหตุผลหลักๆ อยู่ 2 ข้อ” รอลล่ายิ้มก่อนจะพยักหน้าให้ชายน์เดินเข้ามายืนหน้าห้องเรียนแล้วกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงก้องกังวาน
“คือ 1 ได้เข้ามาเพราะเป็นบุคคลพิเศษหรือคนสำคัญของแผ่นดิน แต่ส่วนใหญ่คนเหล่านั้นก็มักจะทำตามกฎนะ และ 2 เข้ามาเพราะเส้นใหญ่!! ”
“โห่…..” ทันทีที่รอลล่ากล่าวจบก็เกิดเสียงโห่ร้องไปทั่วห้องเรียนจนชายน์นั้นหน้าซีดลงอย่างชัดเจน เขากำลังรู้สึกว่าสายตาของคนทั้ง 200 คนในนี้กำลังมองเขาด้วยสายตาที่ต่างอารมณ์กันออกไป ดูถูก สมเพช ยินดีและชื่นชม
“เอาล่ะ แนะนำตัวหน่อยสิ พ่อหนุ่มน้อย” รอลล่าเอ่ยออกมาเพื่อยุติเสียงโห่นั้น
“เอ่ออ ผมชื่อ ชายน์ ” ยังไม่ทันจบรอลล่าก็เอ่ยแทรกขึ้น
“ชายน์ อินเดอนาส บุตรของเอดิสันและมารีน่า หลายชายอีกคนของท่านผู้อำนวยการยังไงหล่ะ” ทันทีที่กล่าวจบเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นไปทั่ว และตอนนี้สายตาส่วนใหญ่กำลังมองเขาอย่างไม่พอใจ!!
‘นี่เราทำอะไรผิดว่ะ’ ชายน์คิดอย่างสงสัย เขาเองนั้นไม่ชอบเลยที่โดนมองด้วยสายตาแบบนี้เพราะมันดูเหมือนว่าทุกคนในห้องนี้ไม่ยินดีในการมาของเขา และบัดนี้รอยยิ้มก่อนหน้านี้จางหายไปหมดแล้ว
“เอาล่ะๆๆ รู้จักเพื่อนใหม่แล้วนะ ชายน์จะเรียนสายสามัญ ดังนั้นเขาจะต้องพักอยู่หอ Black Dragon ห้อง 111 ทีนี้ไม่มีอะไรแล้วนะครูจะได้เริ่มสอนต่อ” รอลล่ากล่าวแล้วกระตุกยิ้มบางๆ ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงหวานๆ
“ชายน์ ไหนๆ ก็ออกมาแล้วเธอลองตอบครูหน่อยนะว่ากษัตริย์แห่งแกรนโซนที่โดนลอบทำร้ายเมื่อ 13 ปีก่อนหน่ะชื่ออะไร”
“ไม่ทราบครับ” ชายน์ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเพราะแม้ว่าริวจะสอนความรู้เบื้องต้นทุกอย่างมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่เรื่องของกษัตริย์แกรนโซนนั้นริวไม่เคยบอกอะไรเขาเลย และทันทีที่ชายน์กล่าวจบก็เกิดเสียงฮือฮาและโห่ร้องขึ้นอีกครั้ง
‘หึหึ นี่หรือนักเรียนพิเศษ เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ ไร้ความสามารถสิ้นดี’ รอลล่าคิดอย่างสมเพชเด็กที่ยืนหน้าซีดอยู่ตรงหน้า จริงๆ เธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับชายน์หรอกนะ แต่เธอไม่ชอบวิธีการเข้ามาอย่างไม่สง่างามแบบนี้แล้วยิ่งคนที่ได้รับสิทธิพิเศษนี้ไม่มีความสามารถพอเธอยิ่งรับไม่ได้เข้าไปใหญ่
“ไม่ทราบก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเริ่มเรียนแล้วหวังว่าคงจะทราบนะ” กล่าวตัดบทพร้อมยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะเชิญให้ชายน์เข้าไปนั่งยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่ด้านหน้า จากนั้นเธอก็เริ่มสอนของเธอต่อไปจนหมดคาบเรียน
“เอาล่ะ หมดเวลาของครูแล้ว บ่ายนี้วิชาภาษาศาสตร์เจอกันที่ห้องเรียนของแต่ละสายนะ” กล่าวจบก็เดินออกไปทันที เหล่านักเรียนปี1 ก็แยกย้ายกันออกไปทานข้าวยังโรงอาหาร จะมีก็เพียงแต่ชายน์เท่านั่นที่ยังนั่งมองคนนั้นคนนี้ลุกเดินออกไปเหมือนตัวเองไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อดี
“จะไม่ชวนหมอนั่นหน่อยหรอ อย่างน้อยเขาก็พักห้องเดียวกันกับเรานะ”
“เอาไว้ก่อน ฉันไม่ชอบหน้ามันหน่ะ”
……………………………………
ช่วงบ่ายนี้เป็นวิชาภาษาศาสตร์ นักเรียนชั้นปี1 จะแยกย้ายกันเรียนตามสายวิชาของตน โดยที่โฮเนอร์จะแบ่งการเรียนออกเป็น4 สาย และแบ่งหอพักออกตามสายนั้นๆ โดยสายเวทย์จะเรียนทางด้านการใช้เวทย์เป็นหลักเพื่อสร้างบุคลากรที่มีความสามารถออกไปเป็นจอมเวทย์และสายนี้จะพักอยู่หอ White Dragon สายศิลป์จะเรียนทางด้านภาษาศาสตร์เป็นหลักโดยพักอยู่หอ Blue Dragon สายยุทธ์จะเรียนด้านทักษะการต่อสู้และการวางแผนรบจะพักอยู่หอ Red Dragon สุดท้ายคือสายสามัญที่เรียนในทุกสายวิชาและแน่นอนว่าพักอยู่หอ Black Dragon นั่นเอง
‘คนน้อยลงค่อยสบายใจหน่อย’ ตอนนี้ชายน์กำลังนั่งมองเด็กๆ ที่นั่งเรียนอยู่ภายในห้องเดียวกันกับเขา เขายอมรับว่าเขาไม่ชอบเวลาโดนคนหลายร้อยคนมองเขาแบบนั้น ตอนนี้ในห้องนี้มีนักเรียนอยู่ 30 คน ร่วมทั้งเขาด้วยและจากการประเมินดูนักเรียนห้องนี้ค่อนข้างจะสุภาพพอสมควร เพราะแม้จะไม่มีใครมาทักทายพูดคุยกับเขาแต่ก็ไม่มีใครมาโห่ร้องหรือแสดงอาการดูถูกเหยียดหยามเขาเช่นกัน
“ขอโทษนะครับ ผมยังไม่รู้จักคุณเลย ผมชายน์ นะ ยินดีที่ได้รู้จัก” เมื่อไม่มีใครทักก็ต้องทักก่อนสินะ ชายน์คิดได้ดังนั้นก็หันไปชวนคนข้างๆ คุยทันที
“…..”
“คุณพักอยู่ห้องไหนหรอ 111 รึเปล่า ผมยังไม่รู้เลยว่าเมทผมเป็นใคร” เอ่ยถามอีกประโยคหลังจากที่ทักไปแล้วคนที่เป็นคู่สนทนาเขาไม่ตอบอะไรเลยนอกจากหันมามองด้วยใบหน้านิ่งแล้วหันกลับไปเรียนต่อ
“…..” อีกครั้งที่ชายน์ไม่ได้รับคำตอบจากคนที่เขาตั้งใจจะผูกมิตรด้วย จนคนที่นั่งอีกฝั่งของชายน์หันมาเห็นถึงความพยายามนั้นก็อดที่จะขำไม่ได้
“หมอนั่นชื่อเดวี่ มันไม่พูดกับใครง่ายๆ หรอกนะ สงสัยมันจะไม่ชอบแปรงฟันมั้งเลยหลีกเลี่ยงการสนทนา ฮ่าๆๆๆ” คำตอบของชายอีกคนทำเอาชายน์หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ แต่คนที่ถูกกล่าวถึงก็เพียงแค่หันมามองหน้าเขาทั้งสองคนแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะหันกลับไป
‘เดวี่ หรอ ชื่อเหมาะกับคนดีจริงๆ หึหึ’ ชายน์คิดเมื่อแอบสังเกตคนที่นั่งเงียบอยู่นี่ว่าเด็กคนนี้รูปร่างสูงโปร่ง และดูท่าว่าจะสูงพอๆ กับเขาเลยทีเดียว มีเรือนผมสีดำเหมือนเขาแต่เดวี่จะผมยาวกว่าและด้วยการหวีเสยกลับหลังไปทั้งหมดแล้วโชว์หน้าผากอันมนสวยนั้นมันช่างดูดีเสียเหลือเกิน ดวงตาสีดำสนิทอีกทั้งคิ้วดกดำที่ชี้ยาวเฉียงขึ้นรับกับจมูกที่เป็นสันลงมาจนถึงปากบางๆ สีชมพูที่อยู่บนใบหน้าที่ขาวใสนั่นทำให้นายคนนี้เหมือนเทพบุตรซาตานเลยก็ว่าได้
“อ้อ ลืมแนะนำตัว เผื่อนายจะอยากรู้จักฉันบ้าง ฉันชื่อนีโอ มาจากกรีนโซนนะ” กล่าวพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ชายน์เองก็พึ่งสังเกตว่านีโอนั้นดูดีมาก ตาสีฟ้าใสปากสีชมพูอ่อนๆอยู่บนใบหน้าขาวๆ ผิวกายขาวใสราวกับเรืองแสงได้ ผมสีบรอนซ์เงินถูกมัดรวบไว้ด้านหลังอย่างลวกๆ แต่ก็ไม่อาจทำลายความหล่อใสของชายคนนี้ได้เลย
“ตะลึงในความหล่อหรอ ฮ่าๆๆๆ” นีโอกล่าวเหมือนกับรู้ทันความคิดของชายน์ จนชายน์ต้องรีบแก้ตัวทันที
“ป่าวๆๆ แค่เห็นผมนายสวยดี” ไม่รู้จะอ้างอะไรแล้วก็ว่าไปเรื่อย
“เดวี่กับฉันไม่ได้อยู่ห้อง 111 หรอกนะ แต่ก็อยู่ห้องติดๆ กันแหละ”
“แล้วนายพอจะรู้จักรูมเมทฉันมั๊ย ห้อง 111 หน่ะ”
“รู้สิ เดี๋ยวจะพาไปทำความรู้จักนะ ฮ่าๆๆ” กล่าวพร้อมกับยิ้มหวานอีกครั้งก่อนที่จะหันไปตั้งใจเรียนต่อเพราะพวกเขาแอบนั่งคุยกันจนอาจารย์ส่งสายตามาหลายรอบแล้วนั่นเอง
สำหรับวิชานี้ชายน์เองก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดี เพราะเขาเองก็พึ่งจะมาเรียนในขณะที่คนอื่นๆ เขาเริ่มเรียนไปบ้างแล้ว และที่สำคัญเขาก็อ่านภาษาแปลกๆ ที่อาจารย์สอนไม่ได้เลย
‘ภาษาอะไรว่ะ อ่านไม่ออกเลย’
“ชายน์ อินเดอนาส พึ่งจะมาใหม่ใช่มั๊ย ลองอ่านข้อความบนกระดานให้ครูฟังหน่อยซิ” วัตสัน อาจารย์หนุ่มภาษาศาสตร์กล่าวพลางส่งยิ้มมาให้กับชายน์ แน่นอนว่าเขาก็รู้มาเช่นกันว่าวันนี้มีนักเรียนพิเศษพึ่งจะเข้าเรียน และเขาเองก็อยากจะทำความรู้จักกับเด็กใหม่อยู่พอดี
‘ตายๆๆๆ อ่านว่าอะไรกันว่ะเนี่ย’ ชายน์ที่ตอนนี้ไม่มีอะไรในหัวเลยกำลังลุกขึ้นยืน ฉับพลันเสียงๆ หนึ่งก็แว่วขึ้นมาในหัว
‘ผู้พิทักษ์จะกลับมา เทวาจะคุ้มครอง’
“เอิ่มมม ผู้พิทักษ์จะกลับมา เทวาจะคุ้มครอง” ชายน์ตอบไปตามเสียงที่ได้ยิน และนั้นก็ทำให้วัตสันยิ้มออกมาทันที
‘อ่านภาษาแกรนน่าโบราณได้ งานนี้คงไม่ผิดตัวแน่’ คิดแล้วก็ลอบยิ้มออกมาอย่างยินดีก่อนจะทำมือส่งสัญญาณให้ชายน์นั่งลง
“ดีมาก ทุกคนคงจะพอรู้ว่าข้อความบนกระดานนี้เป็นภาษาแกรนน่าโบราณ ซึ่งในแกรนน่าตอนนี้มีคนอ่านมันได้แค่ 3 คน คือผม นักปราชญ์อาวุโสและคุณ ชายน์ อินเดอนาส” ทันทีที่วัตสันกล่าวจบเสียงฮือฮาก็ดังไปทั่วห้องเรียน จากเมื่อเช้าที่หลายๆ คนต่างปรามาสว่าเด็กพิเศษคนนี้ไม่มีความสามารถพอ แต่ตอนนี้คนเหล่านั้นต่างมองเขาด้วยสายตาที่แปลกไป
‘อัจฉริยะชัดๆ ชั้นรักเธออออ’
‘นายเจ๋งว่ะ ชายน์’
แต่ชายน์เองบัดนี้ยังคงนั่งงงอยู่กับเสียงที่แทรกเข้ามาในหัว เสียงที่เหมือนกับเสียงตัวเขาเอง และถ้าจำไม่ผิดมันคือเสียงของเด็กที่เขาเคยฝันถึงนั่นแน่ๆ
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะเพราะครูมีธุระด่วนต้องจัดการ ส่วนภาษาแกรนน่าโบราณครูจะไม่สอนนะ มันเป็นภาษาต้องห้ามหน่ะ 555” กล่าวจบก็รีบเดินออกไปทันที
‘ภาษาต้องห้ามหรอ แล้วหมอนั่นรู้ได้ไง นายเป็นใครกันแน่’ เดวี่คิดอย่างอดสงสัยไม่ได้ จากที่ไม่แยแสบัดนี้เดวี่เอาแต่นั่งจ้องชายน์อย่างไม่วางตา
…………………………………………..
ณ โรงอาหารของโฮเนอร์ โดยปกติแล้วนักเรียนแต่ละหอจะทานอาหารมือเช้าและเย็นที่หอตนเอง ส่วนมือกลางวันจะทานรวมกันที่โรงอาหารกลาง แต่เนื่องจากการเลื่อนเปิดเทอมที่เร็วขึ้นและพึ่งจะเริ่มเรียนเป็นอาทิตย์แรกทำให้พ่อครัวประจำหอแต่ละหอยังเดินทางมาไม่ถึง นักเรียนทั้งหมดจึงต้องมาทานอาหารที่โรงอาหารกลางทุกมื้อ และนี่ก็เป็นมื้อที่สองแล้วที่ชายน์ต้องนั่งกินข้าวคนเดียวเนื่องจากเขายังไม่รู้จักใครเลย คนที่พอจะรู้จักก็หายไปทางไหนไม่รู้ ส่วนพี่ชายตัวดีที่บอกจะมาหาก็ยังไม่โผล่ออกมาซักที
“น้องชายน์จ๋า” เสียงเรียกของบางคนทำให้ชายน์ที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ ต้องสะดุ้งจนช้อนในมือหลุดล่วงลงไปอยู่กับพื้นจนเจ้าตัวต้องมุดเก็บอย่างอายๆ
“แหม่ พี่แนนนี่เรียกแค่นี้ถึงกับมือไม้อ่อนเลยหรอจร๊ะ คิกคิก” คำทักทายและเสียงหัวเราะของแนนนี่ หญิงสาวรุ่นพี่นั้นทำให้ชายน์รู้สึกสยองอย่างบอกไม่ถูก จริงๆ พี่เขาก็สดใสน่ารักดีแหละ ผมหยิกสีชมพูกับใบหน้าขาวๆ ดูแล้วก็น่ารักดีนะ แต่ไม่รู้ทำไมรางสังหรณ์มันก็บอกเขาว่าอันผู้หญิงคนนี้ตราย
“เอิ่มม เปล่าครับ เปล่าๆๆ พี่รู้จักผมด้วยเหรอครับ” ชายน์ถามในสิ่งที่คาใจ
“พี่เป็นเพื่อนกับริวน่ะ ริวเขาบอกว่าจะมาทานข้าวเย็นกับน้องชาย พี่ก็เลยแอบมาเซอไพรส์น้องชายน์ก่อน คิกคิก” แนนนี่ว่าอย่างอารมณ์ดีแต่ก็แอบสังเกตหนุ่มน้อยตรงหน้าไปซะทุกส่วนของร่างกาย
‘สูงโปร่งเกินเด็กปี1 ดวงตากลมโตสีดำสนิทกับใบหน้าขาวสวยได้รูป คิ้วดกดำกับจมูกที่โด่งขึ้นเป็นสันและเรียวปากสีชมพูอิ่ม แล้วทรงผมสั้นสกินเฮดนั่นอีก ทั้งเท่ห์ทั้งน่ารักเสียจริงๆ’ แนนนี่คิดพลางแอบยิ้มเจ้าเล่ห์
“แล้วตอนนี้พี่ริวอยู่ไหนครับ” ชายน์ถามพลางพยายามมองหาพี่ชายของตน แต่ยังไม่ทันที่แนนนี่จะตอบอะไร เสียงของคนที่ชายน์คุ้นเคยก็ดังแทรกขึ้น
“มาแอบทำอะไรมิดีมิร้ายน้องชายฉันรึเปล่าเนี่ย แนนนี่” เสียงทักของริวทำให้สาวผมหยิกได้แต่จิปากเบาๆ เป็นเชิงขัดใจ ก่อนจะหันไปเอ่ยเสียงหวานกับเจ้าของเสียงทักนั่น
“แหม่ อุส่าห์แอบออกมาก่อนแล้วยังตามมาทันอีก ขัดจังหวะฉันจริงๆ เลย ชิ” แนนนี่กล่าวทันทีที่หันไปเห็นกลุ่มเพื่อนๆ ของตนกำลังยกกันมาทั้งกลุ่มแบบนี้
“บอกจะไปห้องน้ำ พวกฉันก็ยืนรอ ที่ไหนได้แอบมาเคลมน้องชายเพื่อนอยู่ทางนี้ ร้ายจริงนะเธอ” นีน่า สาวผมทองกล่าวออกมาอย่างโมโหเพื่อนสาวที่หลอกพวกเธอจนเชื่อซะสนิทใจเลยทีเดียว
“แต่แหม่ ริวนี่มีน้องชายน่ารักขนาดนี้แต่ไม่เคยบอกพวกเรามาก่อนเลยนะ” นีน่าที่หันไปเห็นชายน์อย่างจังๆ ก็เอ่ยออกมาบ้าง และตอนนี้เธอก็มีอาการไม่ต่างไปจากแนนนี่ซะเท่าไรนัก เห็นดังนั้นริวจึงต้องรีบตัดบททันที
“พอเลย พอทั้งคู่แหละ น้องฉันยังเด็กนะ ห้ามคิดอะไรเยอะเด็ดขาด” ริวว่าพร้อมทำเสียงเข้ม
“หวงน้องเหลือเกินนะ กลัวเรตติ้งตัวเองจะตกหรอ ไอ้ท่านประธาน ฮ่าๆๆๆ” โทนี่ หนุ่มผมแดงกล่าวแซวเพื่อนบ้าง และตอนนี้ภาพที่เห็นคือเด็กปี1 กำลังนังพูดคุยอยู่กับพี่ปี3 ด้วยบรรยากาศครื้นเครง และนั่นก็ยิ่งสร้างความหมั่นไส้ให้บรรดาปี1 ปี2 ที่มองอยู่ไม่น้อย
“ข้าละเกลียดนักพวกเด็กเส้นเนี่ย ดูท่าทางไม่น่าจะมีน้ำยา”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะช่วยให้นายหายเครียดนะ รับรองว่ามันจะไม่ได้มานั่งทำหน้าหล่ออยู่กับพี่นีน่าแบบนี้แน่”
เสียงอาฆาตของบางคนที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจที่เห็นเด็กหัวเกรียนนั่นนั่งอยู่กับดาวเด่นทั้ง4 ของปี3 และที่สำคัญดูท่าว่าพี่นีน่า ขวัญใจนักเรียนโฮเนอร์จะเอ็นดูมันอยู่ไม่น้อย!!
……………………………………………………
“เป็นอะไร พี่เห็นนายถอนหายใจมาตั้งแต่ตอนทานข้าวเย็นแล้วนะ” บัดนี้ทั้งสองกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าหอ Black Dragon และคนเป็นพี่ก็สังเกตมาตั้งแต่เย็นแล้วว่าน้องเขากำลังมีเรื่องไม่สบายใจ
“ผมรู้สึกว่าผมยังไม่เป็นที่ยอมรับของรุ่นอ่ะพี่ริว” กล่าวในสิ่งที่เขาคิดมาตลอดทั้งวัน
“ยังไง” ริวถามอย่างสงสัย
“ก็เหมือนทุกคนจะไม่ชอบใจที่ผมเข้าเรียนได้ง่ายดายโดยไม่ได้ทดสอบอะไรเลย เพื่อนที่เรียนสายเดียวกันก็เหมือนจะโอเคนะ แต่พวกเขาก็ยังไม่เปิดใจ แล้วยิ่งเมทผมทั้งสองคนนะทำเหมือนผมไม่มีตัวตนแหนะพี่ ผมอึดอัดอ่ะพี่ริว” ระบายสิ่งที่เจอและอึดอัดมาทั้งวันให้พี่ชายฟัง ก่อนหน้านี้ที่เขาเข้าห้องพักก็พบว่ารูมเมททั้งสองคนของเขาไม่คุยไม่ทักทายเขาเลย ถามอะไรก็ไม่ตอบแล้วหนำซ้ำยังทำเหมือนว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องนั้นด้วย ต่างๆ เหล่านั้นล้วนสร้างความอึดอัดให้เขาไม่น้อย
“ถ้าเขาไม่ยอมรับ นายก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับสิ” ริวกล่าวออกมาพร้อมกับยิ้มบางๆ
“ยังไงอ่ะพี่ริว”
“พรุ่งนี้เด็กปี1 จะต้องทดสอบธาตุประจำตัวและพลังเวทย์กับเด็กปี2 พี่ว่าถ้านายจะเผาป่าเหมือนคราวก่อนหรือจัดการพวกปี2 ซักนิดหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง หึหึ”
“ถ้าเป็นแบบนั้น พรุ่งนี้ผมจะอาละวาดให้หนักเลยพี่คอยดูสิ ฮ่าๆๆๆ” ชายน์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูดีขึ้น
“ดึกแล้ว ขึ้นห้องไปนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่มีแรงอาละวาด” ริวบอกน้องชายด้วยความเป็นห่วง ถึงแม้ว่าเขาจะชอบแกล้งชอบอำชายน์ แต่เขาก็รู้ว่าเวลานี้น้องชายน์กำลังไม่สบายใจ และเขาก็ควรจะทำหน้าที่พี่ที่ดีที่คอยให้คำแนะนำและเป็นกำลังใจให้น้องอย่างเต็มกำลัง
“งั้นผมไปนอนแล้วนะพี่ริว ราตรีสวัสดิ์ครับ” กล่าวจบก็วิ่งเข้าหอพักและตรงขึ้นไปยังห้องของตน เมื่อเห็นว่าแสงไฟจากห้อง 111 ดับไปแล้ว ริวก็ลุกขึ้นและเดินกลับห้องตัวเองเช่นกัน
“ถ้าเขาไม่ยอมรับ นายก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับสิ”
“ยังไงอ่ะพี่ริว”
“พรุ่งนี้เด็กปี1 จะต้องทดสอบธาตุประจำตัวและพลังเวทย์กับเด็กปี2 พี่ว่าถ้านายจะเผาป่าเหมือนคราวก่อนหรือจัดการพวกปี2 ซักนิดหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง หึหึ”
“ถ้าเป็นแบบนั้น พรุ่งนี้ผมจะอาละวาดให้หนักเลยพี่คอยดูสิ ฮ่าๆๆๆ”
“อาละวาดหรือ หึหึ น่าสนุกดีนี่ ข้าจะรอดูนะ” เบล หนึ่งในสมาชิกห้อง 111 หนุ่มน้อยเจ้าของเรือนผมสีดำแดงกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย ดูท่าว่าพรุ่งนี้คงสนุกไม่น้อย
‘ข้าไม่ได้คิดจะเสียมารยาทแอบฟังนายคุยกับพี่ริวหรอกนะ แต่ข้าแค่อยากรู้อ่ะว่านายจะฟ้องอะไรพี่ชายของนายบ้าง’
..................................................................................................................................................................................................
ชอบไม่ชอบอย่างไรแวะมาบอกกันบ้างนะ จะได้ปรับแก้ได้ครับ ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ