Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  31.29K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ครอบครัว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ตอนนี้ทั้งริวและเอดิสันต่างกำลังจ้องมองคนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ตรงหน้า   ใบหน้าขาวสวยได้รูป คิ้วดกดำกับจมูกที่โด่งขึ้นเป็นสันและเรียวปากสีชมพูอิ่มซึ่งดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นปากของเด็กผู้ชาย …มันช่างน่าหลงใหลเสียเหลือเกิน   หากจะขัดใจก็ที่ทรงผมหัวเกรียนแบบเด็กมัธยมต้นนี่แหละ   แต่ก็ทำให้ริวอดสงสัยไม่ได้ว่ายามหลับยังชวนมองขนาดนี้   ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วเด็กคนนี้จะดูดีไม่น้อย

‘แต่คงไม่มากไปกว่าเราหรอกมั้ง’ คนที่แสนจะมั่นใจในหน้าตาอันหล่อเหลาของตนคิดพลางคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่นั่งจ้องใบหน้านั้นมาพักใหญ่แล้ว  

แม้จะไม่บอกว่าเด็กคนนี้เป็นบุตรของท่าน แต่เค้าหน้าแบบนี้มันท่านชัดๆ เลยนะ ’   เอดิสันคิดหลังจากที่พินิจพิจารณาใบหน้าของเด็กคนนี้อย่างละเอียดแล้วเขาก็บอกกับตัวเองว่าเด็กคนนี้หน้าเหมือนบุรุษที่เขารู้จักเป็นอย่างดี   บุรุษที่เหลือเพียงแค่ชื่อและวีรกรรมที่สร้างไว้ให้ชาวแกรนน่ากล่าวถึงจนทุกวันนี้

“ลูกบอกว่าลูกอยากมีน้องชายแบบนี้หรือ”  เอดิสันละสายตาจากคนตรงหน้าที่กำลังหลับไหลอยู่แล้วหันมาคุยกับบุตรชายที่กำลังนั่งจิบชาด้วยท่าทางสบายๆ   และคนตรงหน้าก็แค่ยิ้มแล้วพยักหน้าเบาๆ

“แล้วลูกคิดว่าเขาจะยอมหรือ   ถึงเขาจะไม่มีที่ไปแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากจะอยู่กับเรานะ   อีกอย่างเขาก็มีคนติดตามมา”  มารีนกล่าวอย่างกังวลแม้ว่าเธอจะนึกเอ็นดูเด็กคนนี้อยู่ไม่น้อยก็ตามที

“ก็ถ้าเป็นไปตามที่ท่านพ่อบอก ผมว่าเขาควรอยู่กับเรา  อีกอย่างคนติดตามเด็กนั่นท่านพ่อก็รู้จักเขาไม่ใช่รึ   ท่านพ่อก็จัดการเรื่องนี้ไปสิ   ว่าแต่เขาเป็นอย่างไรบ้างครับ” พูดถึงก็อดเป็นห่วงไม่ได้   ก็ตอนที่เขาตามไปพบทั้งสองกำลังต่อสู้กับชายชุดดำอยู่นั้นชาร์ลกำลังย่ำแย่และเด็กนั่นก็ยังหมดสติอีก   กว่าเขาจะพาทั้งสองกลับมาบ้านได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร  

“ชาร์ลนะหรอ   เขาปลอดภัยแล้ว   แต่คงต้องพักฟื้นอีกซักระยะ   และพ่อว่าชาร์ลน่าจะยอมอยู่กับเรานะ   จะเหลือก็แต่เด็กชายน์นี่แหละไม่รู้จะว่าไง” เอดิสันกล่าว

“ผมมีวิธี” ริวกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ยังไง”  ผู้เป็นแม่ถามอย่างสงสัย

“อืออออออ” เสียงหนึ่งครางแทรกขึ้นระหว่างที่แม่ลูกกำลังสนทนาการ   และเสียงนั่นก็เรียกให้คนทั้งสามที่รวมทั้งเอดิสันด้วยต้องหันไปมองเจ้าของเสียงนั่น

       เปลือกตาของเด็กหนุ่มค่อยๆปรือขึ้น  ทันทีที่ชายน์ลืมตาแทนที่เขาจะตกใจที่เจอคนแปลกหน้าหากแต่เขากลับยิ้มที่ทำให้คนทั้งสามต้องยืนงง   โดยเฉพาะริวที่กำลังตะลึงกับรอยยิ้มของเด็กชายตรงหน้า

‘ให้ตายเถอะ อย่ายิ้มแบบนี้สิวะ’ คนที่เคยมั่นอกมั่นใจในความหล่อของตัวเองตอนนี้กำลังหวั่นไหว   แต่แว้บเดียวก็ปรับสีหน้าได้และยิ้มกลับให้กับคนที่นอนอยู่เบื้องหน้า

“ตื่นแล้วหรอ ไหนบอกมาซิว่าหายไปไหนมาตั้งนาน แล้วไปมีเรื่องกับชายคนนั้นได้ไง” ริวยิงคำถามกลับทันที

“ที่นี่คือบ้านของผมใช่มั๊ยครับ   ชาร์ลบอกว่าจะพาผมกลับบ้าน   แล้วพวกคุณเป็นใครกันครับเนี่ย พ่อ แม่ พี่ชายหรือครับ”   แหม่ เจ้าชายน์เอ้ยยยยย  มีใครเคยบอกมั๊ยว่าแกมันจอมมโนจริงๆ ไม่ตอบคำถามเขาแล้วยังมาถามอะไรแบบนี้อีกเนี่ยยย ><

“เอ่ออ  คือ พวกเรา..” เอดิสันกล่าวตะกุกตะกักยังไม่ทันจบบุตรชายของเขาก็ชิงกล่าวแทรกขึ้นด้วยเสียงที่ดังกว่า

“อ่าฮะ ใช่แล้ว  ข้าเป็นพี่ชายเจ้าเองแหละ ชื่อริว   ส่วนนี่ก็ท่านพ่อกับท่านแม่ไง   น้องจำไม่ได้หรือ ชายน์”  เอากับเขาสิ   คนช่างมโนเจอกับจอมอำเขาไปงานนี้คงสนุกแน่!!

“ผมจำได้ว่าโตมากับลุงชาร์ล   เรามีกันแค่สองคนลุงหลาน   จนวันหนึ่งลุงบอกว่าจะพาผมกลับบ้านซึ่งมันเหลือเชื่อมากที่ผมจะมาอยู่ที่นี่   ทุกอย่างมันแปลกตาจากที่ผมเคยพบเห็นมาก” ชายน์กล่าวพลางลุกขึ้นนั่งตามปกติแล้ว   ก็เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่สลบไปนี่

“ลุงชาร์ลบอกว่าที่นี่คือแกรนน่า… เอ่ออ แล้วตอนนี้ลุงชาร์ลอยู่ที่ไหนเขา เขาไม่เป็นอะไรใช่มั๊ยครับพี่ริว?”   ชายน์กล่าวอย่างตื่นเต้นกับสิ่งที่พึ่งจะได้พบเจอแต่เหมือนจะนึกได้ว่าเขาไม่ได้มาที่นี่คนเดียว   ทันทีที่นึกขึ้นได้น้ำเสียงก็เปลี่ยนไปจนตอนนี้ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงบ่งบอกถึงความวิตกกังวลว่าคนที่ร่วมเดินทางมาจะยังปลอดภัยดีหรือเปล่า…

“ชาร์ลหน่ะปลอดภัยดีแล้วและตอนนี้ก็พักฟื้นอยู่ห้องรับรอง   ถ้ายังไงเดี๋ยวจะให้คนพาไปเยี่ยมนะเพราะดูท่าว่าเจ้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับเขา”  เอดิสันกล่าวยิ้มๆ พลางเรียกพ่อบ้านเข้ามาพาชายน์ไปเยี่ยมชาร์ล

เมื่อชายน์ออกไปแล้วไอรีนก็หันมาดุลูกชายทันที

“ลูกไปพูดแบบนั้นได้ไงจ๊ะ   แทนที่จะช่วยให้เขาเข้าใจถูกแต่กลับไปอือออกับเขาซะงั้น   ยังไงเดี๋ยวเขาก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดีหล่ะ” มารีนกล่าวอย่างอดกังวลไม่ได้   ไม่ใช่อะไรหรอกนะแต่แค่เธอกลัวว่าทั้งเขาและเอดิสันจะพลอยเสียผู้ใหญ่ไปด้วยที่ไม่ห้ามลูกชายแล้วยังทำเหมือนสมรู้ร่วมคิดกันอำแบบนี้   ถึงแม้ว่าเขาก็อยากได้ชายน์มาเป็นลูกจริงๆ แต่มันก็ไม่ควรเป็นวิธีนี้

“แต่ผมว่าเดี๋ยวลุงหลานเขาคงจัดการกันเองแหละ   ยังไงชาร์ลก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้นายน้อยของเขาอยู่แล้ว   และบ้านของเรา ไม่สิ   ครอบครัวของเราก็คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชายน์เขาหล่ะ 555”   เอดิสันกล่าวอย่างอารณ์ดี   ริวที่ตอนนี้เห็นด้วยกับผู้เป็นพ่อสุดๆ ก็หันมายิ้มและยกนิ้วให้เป็นเชิงว่า ท่านพ่อสุดยอดมากกก

 

 

“ห๊ะ  อะไรนะ   นี่ผมฟังไม่ผิดใช่มั๊ยเนี่ย?” เฮือก!! คนที่กำลังโวยวายว่าพลางกระแทกตัวลงนั่งพร้อมถอนหายใจอย่างแรงหลังจากที่ชาร์ลบอกบางอย่างแกเขา

 

 

ก่อนหน้านี้

"เป็นยังไงบ้างชาร์ล   ดวงแข็งเหมือนกันนะเราน่ะ 555"

.”ท่านเอดิสัน  นี่ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ไงขอรับ?   แล้วนายน้อยของข้าล่ะ   เขาอยู่ไหน” ชาร์ลตกใจไม่น้อยที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบกับเอดิสันเป็นคนแรก   แต่เมื่อนึกถึงเด็กที่ติดตามกันมาด้วยเขาก็ตกใจยิ่งกว่าเพราะตอนนี้เขาไม่เห็นหน้านายน้อยของเขานั่นเอง

“ชายน์นะหรอ   เขาปลอดภัยดีและก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก  เจ้าอย่าห่วงเลย”

“ข้าจำได้ว่าข้าเจอกับพวกมัน   ข้าหมดสติ  แล้วข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงขอรับ”   อีกครั้งที่เขาถาม

“ลูกชายข้าไปพบพวกเจ้าน่ะ   เลยพากลับมา”   เอดิสันกล่าวก่อนจะนิ่งไปเพียงชั่วครูแล้วกล่าวออกมาอีกครั้งอย่างจริงจัง

“เด็กคนนี้คือคนในคำทำนายใช่หรือเปล่า   แล้วอีกคนล่ะ  เขาอยู่ไหน”

“ข้าไม่รู้  ไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”  ชาร์ลกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า   ก่อนจะยิ้มออกมาในเชิงปลอบใจตัวเองก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างมีความหวัง

“แต่ข้าเชื่อว่าพวกมันจะไม่ทำอะไรเขา   เพราะพวกมันจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่มันต้องการหากว่ามันทำแบบนั้น”  

“แล้วนี่เจ้าจะเอายังไงต่อ   บอกตามตรงนะว่าลูกชายข้าถูกใจเด็กคนนี้ไม่น้อย   เขาอยากมีน้องชายหน่ะ”

“??”

“คือ  เจ้าจะว่าอะไรมั๊ยถ้าข้าจะบอกว่าข้า.. จะ  เอ่อ… ข้าจะขอนายน้อยเจ้ามาเป็นบุตรบุญธรรมหนะ”  เอดิสันกล่าวกล่าวอย่างตะกุกตะกักอย่างไม่เต็มปาก   เพราะเขารู้ว่าชาร์ลรักนายน้อยของเขามากแต่ทว่าเวลานี้ชาร์ลก็มีทางเลือกไม่มากนัก   ซึ่งข้อนี้เขาเองก็คิดว่าชาร์ลเองก็พอจะรู้ดี

“ท่านบอกว่าบุตรชายท่านเป็นคนช่วยข้ากับนายน้อยใช่หรือไม่”  ชาร์ลไม่ตอบแต่กลับหันไปถามคนตรงหน้า

“เอ่อออ  ใช่ๆ ทันทีที่ข้ารู้ว่าเขากลับมา   ข้าให้เขาตามหาพวกเจ้าหน่ะ”    ชาร์ลตอบทันที   แต่คนตรงหน้าก็ยังคงนิ่งอยู่และ        เอดิสันก็กลัวว่าชาร์ลจะไม่ยินยอมจึงกล่าวต่อ

“เจ้าคิดให้ดีๆ นะ   เจ้าก็รู้นี่ว่านายน้อยของเจ้ากำลังตกอยู่ในการตามล่าของพวกมัน เจ้าเองก็ไม่มีที่ไปและที่สำคัญข้าคิดว่าข้าสามารถดูแลเขาได้   บอกตามตรงนะไม่ใช่แค่ลูกชายข้าหรอกที่ถูกชะตากับชายน์   แต่ทั้งข้าและมารีนก็เอ็นดูเด็กคนนี้ไม่น้อย”

“ข้าก็ตั้งใจจะขอให้นายน้อยของข้าได้อาศัยอยู่กับท่านที่นี่   เพราะข้าคิดว่าที่นี่ปลอดภัยสำหรับนายน้อยที่สุด   และข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ท่านและครอบครัวเอ็นดูนายน้อยของข้า   ส่วนคำตอบของท่านข้าคิดว่าให้นายน้อยของข้าเขาเป็นคนตอบท่านเองดีกว่า   ตอนนี้เขายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย   ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาไม่มีใครแล้วที่จะเรียกได้ว่าเป็นคนในครอบครัว”     ชาร์ลกล่าวพร้อมกับใบหน้าที่กำลังสลดลง   ใช่  เรื่องของนายน้อยของเขามันโหดร้ายมาก   ถ้าจะให้บอกกับเจ้าตัวในตอนนี้เขาเองก็คิดว่าเด็กวัย 13 ปี คงไม่สามารถทำใจยอมรับได้แน่ๆ   แล้วไหนจะเรื่องคำทำนายนั่นอีก   คิดแล้วก็ยิ่งสงสารนายผู้เป็นดังดวงใจของเขาที่ตอนนี้มีสภาพไม่ต่างจากลูกนกกำพร้าที่ไม่มีแม้แต่รังนอนให้พักอาศัย

“ก็ข้านี่ไงจะเป็นครอบครัวให้เขา   อย่าลืมสิชาร์ลว่าข้าและวิลเลี่ยมเกี่ยวข้องกันอย่างไร  ส่วนเรื่องความปลอดภัยเจ้าก็สบายใจได้เลยว่าข้าจะดูแลเขาอย่างดี   ส่วนเรื่องพ่อแม่ของเขาข้าคิดว่าเจ้าควรบอกความจริงบางส่วนกับเขาบ้างนะ   อย่างน้อยก็ให้เขาได้รู้จักตนเอง”

“ขอรับท่านเอดิสัน   ข้าจะบอกกับเขาตามที่ท่านแนะนำ”

 

                                                ………………………………………………………………..

 

 

“สรุปว่าผมเข้าใจผิดว่านั่นคือครอบครัวผมหรอ   แล้วครอบครัวจริงๆ ของผมละครับอยู่ที่ไหน”   ชายน์ที่ปรับอารณ์ตกใจได้บ้างแล้วก็เอ่ยถามชาร์ลอีกครั้ง

“ครอบครัวของนายน้อย หายสาบสูญไปเมื่อ 13 ปีก่อนขอรับ   ผมพานายน้อยหนีไปยังโลกๆ หนึ่งที่เราอยู่   จนพึ่งจะกลับมาแกรนน่านี่แหละครับ”  ชาร์ลเอ่ยบางส่วนของเรื่องราวออกมา

“พวกเขายังมีชีวิตอยู่ไหมครับ” ตอนนี้ใบหน้าของชายน์ไม่ค่อยดีเลย

“………”  ไม่มีคำตอบจากชาร์ล

“’งั้นอีกคำถาม  ทำไมลุงพาผมมาหาพวกเขาที่นี่หล่ะ”   คำถามที่ถามออกมาหลังจากที่เขาพยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยดน้ำที่กำลังเอ่อออกมาในดวงตา

“ท่านริวเป็นคนพาพวกเรามา   ท่านริวเขาบอกว่าถูกชะตากับนายน้อย  ท่านทั้งสองเขาก็เอ็นดูนายน้อยมากและข้าก็ตั้งใจแต่แรกว่าจะพานายน้อยมาอยู่กับท่านเอดิสัน”

“ออ  ผมเข้าใจแล้วครับ”  ชายน์ตอบรับอย่างเศร้าๆ ก็ตอนนี้มันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้แล้ว   เขาไม่มีบ้านไม่มีครอบครัวจริงๆ   เขาต้องมาอาศัยบ้านคนอื่นอยู่โดยที่เขาเองก็หลงปล่อยไก่ไปซะตัวโตว่านั่นคือครอบครัวของเขา   แล้วทีนี้จะทำยังไงต่อไปล่ะถ้าต้องเจอหน้ากัน  

 

“อีกอย่างนะขอรับนายน้อย   ข้าไม่ใช่ลุงของท่านหรอก   ข้าเป็นเพียงองครักษ์ของท่านพ่อของท่านน่ะ”

แม้แต่คนที่คิดว่าเป็นลุงก็เป็นเพียงแค่คนอื่น   นี่เราไม่เหลือใครจริงๆ เลยหรือนี่!!

"แล้วพ่อแม่ผมเป็นใครกันครับ"   ไม่มีเสียงตอบจากชาร์ล

“งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่าเผื่อลุงจะอยากพักผ่อน” กล่าวจบก็ยิ้มให้คนที่นอนอยู่เบื้องหน้าก่อนจะหันหลังเดินออกไป   หากแต่ยังไม่ทันพ้นประตูห้องชายน์ก็หันกลับมาพูดอีกประโยค

“แต่ผมขอเรียกลุงว่าลุงแบบนี้นะครับ   ผมไม่อยากไม่เหลือใคร   ผมขอมีลุงแบบที่เคยมีนะครับ”

ไม่คิดจะรอคำตอบเพราะทันทีที่กล่าวจบเขาก็หมุนตัวกลับแล้วเปิดประตูออกไปทันที   ตอนนี้ใบหน้าของหนุ่มน้อยเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่เจ้าตัวไม่คิดจะเช็ดมันออกแต่กำลังวิ่งออกไปโดยเขาก็ไม่รู้จะไปไหน   ขอเพียงแค่ที่ที่สงบที่จะสามารถทำให้เขาสบายใจขึ้นบ้างเท่านั้นเอง

 

 

“พ่อว่าเขาจะยอมอยู่กับเรามั๊ยครับ”

“ไม่รู้เหมือนกัน   แต่พ่อไม่ยอมให้เขาไปจากบ้านเราหรอกนะ   มันอันตรายเกินไปสำหรับเขา”

“งั้นผมจัดการเอง”   กล่าวจบริวก็หันมายิ้มให้กับผู้เป็นพ่อพร้อมกับเดินตามคนที่วิ่งออกไปทางด้านหน้าบ้านหรืออาจเรียกว่าคฤหาสน์เลยก็ว่าได้เพราะบ้านของเขาหลังนี้มีห้องมากมายหลายสิบห้อง   หากแต่มีคนอยู่แค่สามคน  

‘นี่ถ้ามีคนมาอยู่เพิ่มอีกคนสองคนห้องว่างในบ้านเราคงน้อยลงสินะ หึหึ’ ริวคิดอย่างอารมณ์ดี

                                                                     ..............................................

 

 

          สนามหญ้าเขียวๆ กับทุ่งดอกไม้หลากสีสันที่พากันส่งกลิ่นหอมอบอวลทำให้คนที่กำลังไม่สบายใจนั้นยิ้มออกมาได้ในที่สุดเพราะตอนนี้เขาสบายใจขึ้นบ้างแล้ว   หากลองคิดดูให้ดีๆ ชาร์ลเขาก็ทำดีที่สุดแล้วและการที่เรื่องมันเป็นแบบนี้มันก็ไม่ใช่ความผิดใคร   หากเมื่อมันเกิดขึ้นแบบนี้เขาก็ต้องยอมรับมันให้ได้  บอกกับตัวเองพร้อมกับยิ้มที่กลับมาสดใสอีกครั้ง

“ไม่ว่าผมจะเป็นใคร   ไม่ว่าจะต้องเจอเรื่องราวอะไรอีกผมจะเข้มแข็งกว่านี้”  ชายน์กล่าวกับตัวเองเบาๆ  

“ก็ต้องเป็นเช่นนั้นแหละ   ผู้ชายเขาไม่ขี้แยหรอกนะ 555”

“!!”

“ก็เห็นวิ่งออกมาแบบนี้เลยตามออกมาดู  กลัวจะคิดทำอะไรไม่เข้าท่าอ่ะ   บ้านหลังนี้ก็กว้างเกินกว่าที่จะตามหาศพเด็กได้ง่ายๆ นะ ”  ริวกล่าวอย่างอารมณ์ดี

“ผมไม่ทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นหรอก   แค่อยากอยู่เงียบๆ คนเดียว”

“กำลังจะไล่กันหรือ”

“ผมไม่กล้าไล่เจ้าของบ้านหรอก ไม่ได้มีสิทธิทำแบบนั้นด้วย”

“ก็มาเป็นเจ้าของบ้านด้วยกันสิ   จะได้มีสิทธิเท่าๆ กัน”

“หืมมม”

“555 ”  คำพูดของริวทำให้ชายน์ชะงักไปทันที   แต่ริวก็ไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะชี้ไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวที่อยู่เบื้องหน้าก่อนจะกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

“บ้านหลังนี้ก็ใหญ่โตเกินกว่าที่คนสามคนจะอยู่   หากมีสมาชิกเพิ่มก็คงดีไม่น้อย”

กล่าวจบก็จับแขนคนที่ตัวเล็กกว่าพร้อมกับจูงเดินกลับเข้าบ้านไปทันที

“ยังมีเวลาให้เดินชมรอบๆ บ้านอีกเยอะ  แต่ตอนนี้ท่านพ่อท่านแม่รออยู่ในบ้าน   เรามีเรื่องต้องตกลงกันอีกหลายเรื่องเลยไอ้น้องชาย”   ริวกล่าวอย่างอารมณ์ดี   เช่นกันกับชายน์ที่เขาเองก็รู้สึกดีเช่นกันทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขารู้สึกเคว้งคว้างกับความจริงที่ได้รับรู้   แต่ตอนนี้ที่คนตัวโตกว่าจับแขนเขาพร้อมกับเรียกเขาว่าน้องชายมันก็ทำให้ความรู้สึกแย่ๆ นั้นจางหายไป   แม้จะไม่หมดซะทีเดียวแต่ก็ดีขึ้นมากกกว่าเก่าแล้ว

 

 

“ว่ายังไงจ๊ะชายน์  ตกลงมั๊ย”  มารีนถามพลางยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

“ก็อย่างที่มารีนบอกแหละว่าเราเอ็นดูเธอมาก   ริวเองเขาก็อยากมีน้องชาย”  เอดิสันกล่าวบ้าง

“คือผม..” ชายน์ยังคงมีสีหน้าลำบากใจหลังจากที่คนตัวโตพาเขาเข้ามาพบกับเอดิสันและมารีน   โดยไม่ทันได้ตั้งตัวคนที่ตัวโตกว่าก็บอกว่าจะขอให้เขาเข้ามาเป็นน้องชายตนในบ้านหลังนี้   อีกทั้งสตรีที่งดงามที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็เสริมอีกว่าอยากให้เขามาเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งพร้อมกับยื่นข้อเสนออีกต่างๆ มากมาย

“ตกลงนะ?” มารีนถามซ้ำ

“ผมขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม”  ชายน์กล่าวออกมาหลังจากรวบรวมสติและตัดสินใจดีแล้ว

“ว่ามาสิ  ถ้าให้ได้เราจะให้”   มารีนกล่าวแทบจะทันทีเพราะเขาคิดว่าไม่มีอะไรในแกรนน่าที่เขาและเอดิสันจะไม่สามารถหามาให้เด็กคนนี้ได้

“ผมขอให้ลุงชาร์ลอยู่กับผมที่นี่ด้วยนะ   เพราะเขามีพระคุณกับผมมาก”   ชายน์กล่าวออกไปตามที่เขาคิดแต่นั่นกลับทำให้คนทั้งสามเบื้องหน้าหัวเราะออกมาทันทีก่อนที่เอดิสันจะตอบด้วยน้ำเสียงขำๆ ว่า

“ข้อเสนอเธอแค่นี้เองหรือ”

“นั่นเป็นสิ่งที่เราไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว   เราเองก็รู้จักกับชาร์ลเขาดี   คงไม่ปล่อยเขาไปเร่ร่อนหรอก”   มารีนกล่าวพลางยิ้มเอ็นดูเด็กหนุ่มตรงหน้า

‘กตัญญูแบบนี้  นิสัยแบบนี้ หน้าตาแบบนี้สิถึงสมกับเป็นบุตรชายของท่าน’  คิดแล้วก็ยิ้มเมื่อนึกถึงใครบางคนที่เขาเองก็รู้จักเป็นอย่างดี

“เย้  ผมจะได้มีน้องซะที”  ริวที่แสดงอาการออกนอกหน้าว่าดีใจมากจนชายน์เองอดสงสัยไม่ได้ว่าไอ้คนตัวโตกว่านี่มีปมอะไรหรือเปล่า   ทำไมถึงอยากมีน้องชายแท้

“งั้นต่อไปนี้เธอคือลูกชายของเรานะชายน์   ข้า เอดิสัน อินเดอนาส    และมารีน่า อินเดอนาส   ขอต้อนรับเธอเป็นบุตรของครอบครัวเรานะ   ชายน์ ชาโดวส์ อินเดอนาส”   กล่าวพร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

“และข้า ริว อินเดอนาส  ยินดีอย่างยิ่งที่มีเจ้ามาเป็นน้องชาย”   ริวกล่าวพลางเข้ามากอด  โดยไม่ทันตั้งตัวชาย์ก็ชกเข้าที่ท้องของพี่ชายตัวดีเข้าอย่างจัง ก่อนจะบอกอย่างอารมณ์ดี

“ขอโทษครับ ผมไม่เคยโดนผู้ชายกอดมาก่อนหนะ”   ‘ร้ายแบบนี้ต้องสั่งสอน’  คิดแล้วก็ส่งยิ้มหวานไปให้พี่ชาย

“งั้นพี่คงต้องกอดนายทุกวันแล้วล่ะ  จะได้ชินไวๆ”   กล่าวพลางยิ้มเจ้าเล่ห์  หลังจากเป็นลูกคนเดียวมานาน เห็นทีชีวิตเขาคงมีสีสันขึ้นแล้วสินะ

ร้ายจริงๆ อย่างนี้ต้องเอาคืนให้หนัก’  คิดแล้วก็หัวเราะขึ้นมาจนชายน์อดสงสัยไม่ได้

‘คงมีแผนจะแกล้งผมอีกสินะ’ ชายน์คิดได้ดังนั้นจะขยับไปนั่งใกล้กับมารีนจนหญิงสาวคนเดียวในวงสนทนาอดที่ยิ้มกับการกระทำเด็กๆทั้งสองไม่ได้ก่อนที่จะดึงชายน์เข้ามากอดในที่สุด

“ไหน  มาให้แม่กอดหน่อยซิ”  จริงๆเธอกอดแล้วถึงจะขออนุญาตนะเนี่ย   นี่ก็ร้ายอีกเช่นกัน

“งั้นพ่อกอดด้วยนะ”   เอดิสันก็เป็นไปด้วย

“เห้อยๆๆ  ท่านพ่อท่านแม่  มีลูกใหม่แล้วลืมผมหรอ  ได้ไงล่ะ ผมไม่ยอมนะ”   กล่าวจบก็เข้ามากอดบ้างจนตอนนี้คนที่โดนกอดกำลังดิ้นอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของทั้งสามอย่างหน้าดำหน้าแดง

“เอิ่ม ปล่อยกันก่อนก็ได้ครับ  ผมจักจี้หน่ะ 5555”  สุดท้ายก็เอ่ยความลับออกมาจนได้

‘หึหึ  บ้าจี้หรอ  เจ้าพลาดแล้วชายน์ที่เผยจุดอ่อนให้คนอย่างริว อินเดอนาสรู้แบบนี้นะ’   ริวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์   เขาเองก็ยอมรับว่ามีความสุขไม่น้อยที่ครอบครัวมีสมาชิกเพิ่ม   และเช่นกันกับชายน์ที่เขารู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาดที่อยู่ภายใต้อ้อมกอดของคนทั้งสาม   อาจป็นเพราะคำว่าครอบครัวก็ได้ที่ทำให้รู้สึกอิ่มแบบนี้  หรืออาจจะเป็นเพราะเขาไม่เคยโดนกอดมาก่อนเลยก็ได้!!

 

.....................................................................................................................................................................................

 

 

                                                                       เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ^^

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา