Twin แฝดเลือดผสม

8.0

เขียนโดย Shinman33

วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 16.05 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  31.75K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 16.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) การต้อนรับจากเกรย์โซน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
การต้อนรับจากเกรย์โซน
 
“ตกลงว่าพวกฉันจะไม่ได้ไปจริงๆ หรอ?”   เซฟานี่เอ่ยพร้อมกับใบหน้างามๆ กำลังบูดบึ้งเพราะไม่สมหวังกับความตั้งใจที่ว่าจะติดตามเพื่อนทั้งสองไปเกรย์โซนด้วยแต่ทางโรงเรียนไม่อนุญาตโดยให้เหตุผลว่าพวกเธอต้องกลับมาเก็บตัวสำหรับลงแข่งรอบต่อไปที่โรงเรียน
“ไม่เป็นอะไรหรอกเซ     พวกฉันกำลังใจดี”   ชายน์กล่าวพร้อมกับฉีกยิ้มหวานให้สาวสวยประจำกลุ่ม
“เรื่องนั้นไม่น่าห่วงเท่ากับว่านายต้องไปเกรย์โซนหนะสิ!!”   นีโอเอ่ยออกมาเรียบๆ
 “ฉันก็แค่ไปทำหน้าที่    เสร็จแล้วก็กลับ”   ชายน์กล่าวอย่างอารมณ์ดี
“นายก็รู้ว่านายคือใคร”   เซฟานี่เอ่ยลอยๆ
“เอาเป็นว่าฉันจะดูแลตัวเองดีๆ ก็แล้วกันนะ”    ชายน์กล่าวพร้อมยิ้มให้เพื่อนๆ    จนสุดท้ายเซฟานี่ก็ตัดสินใจยื่นสร้อยคอเส้นหนึ่งให้กับชายน์   
“มันเป็นสื่อระหว่างคนที่ครอบครองและฉันว่าหากเจ้าของมีอันตรายฉันจะสามารถรับรู้ได้ทันที”   ทันทีที่กล่าวจบเพื่อนๆ ก็พากันโห่ร้องแซวกันยกใหญ่
“ถ้าฉันไม่ปลอดภัย   เธอจะมาช่วยฉันหรือ?”    ชายน์กล่าวพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เซฟานี่จนเธอหน้าแดงและต้องแก้เขินด้วยการเปลี่ยนเรื่องทันที
“รีบไปเถอะ    ดูแลกันดีๆ นะเดวี่”    ยังไม่วายหันไปกำชับเดวี่ที่เจ้าตัวเพียงแต่พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งรอบนรถม้าจนชายน์ต้องรีบแบกกระเป๋าวิ่งตามเดวี่ไปติดๆ ทันที
‘ขอบใจนะเซ    ฉันจะใส่มันไว้กับคอฉันเลย’
 
“ตกลงว่าฉันจะลงปะทะกับเขานะ    พวกเธอว่าไง”
“ใครจะกล้าขัดนายล่ะ   แต่ถ้าฉันสองคนไม่ได้เล่นสนุกด้วยก็ขอไปดักทักทายเขานิดหน่อยก่อนก็แล้วกันนะ  ฮ่าๆๆ ”
“ระวังนายท่านจะไม่พอใจ”
“ถ้าทำแล้วไม่มีผลประโยชน์ฉันไม่ทำหรอกนะ พอล”     นากี้เอ่ยพร้อมกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์
“งั้นฉันขอร่วมสนุกด้วยนะ นากี้     แต่ฉันจองอีกคนนะ”    จี เอ่ยพลางมองเดวี่อย่างไม่วางตาจนรถม้าของชายน์และเดวี่เคลื่อนออกไปพ้นสายตาแล้วร่างทั้ง 3 ก็หายวูบไปพร้อมกับกลุ่มควันสีดำทันที
                                                             ……………………………………….
 
“เฟย์”   ทันทีที่ชายน์ขึ้นนั่งบนรถม้าก็ร้องเรียกเฟย์ให้ออกมาทันที     สำหรับเพื่อนๆ ในกลุ่มชายน์นั้นยังไม่มีใครเคยเจอกับเฟย์เลย    แต่สำหรับเดวี่นั้นเคยเจอกับเฟย์มาแล้วจึงไม่ได้สนใจอะไรนอกจากเหลือบมองเฟย์แล้วนั่งอ่านหนังสือไปเงียบๆ
“นายว่าเกรย์โซนมันจะเป็นยังไง?”
“ทำไมไม่ถามเดวี่ล่ะ?”
“ฉันออกมาตั้งแต่ยังจำความไม่ได้และไม่เคยกลับไปที่นั่นอีกเลย”   เดวี่ตอบโดยไม่หันมามองหน้าเฟย์
“ขอโทษที    ฉันลืมไปว่านายมีอดีตที่ไม่ค่อยดี”   เฟย์กล่าวขอโทษอย่างจริงจัง
“แล้วนายกลับเข้าเกรย์โซนครั้งนี้จะไม่เกิดปัญหาหรือ?”   ชายน์ที่เหมือนพึ่งจะนึกได้ก็เอ่ยออกมาอย่างวิตก
“คนที่นั่นจำฉันไม่ได้หรอก    อีกอย่างถ้าฉันไม่ใช้ดาบพวกนั้นก็ไม่มีทางรู้ว่าฉันเป็นใคร” เดวี่เอ่ยอธิบาย
“ฉันรู้มาว่ากษัตริย์เอสเทอร์มีบุตรชายน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพวกนายนี่แหละแต่เรียนอยู่ที่เทเรอร์     เห็นว่าเอสเทอร์ต้องการให้เทเรอร์เป็นที่ยอมรับยิ่งขึ้นจึงส่งบุตรชายตนเองเข้าเรียนที่นั่นแทนที่จะให้มาเรียนที่โฮเนอร์หนะ    ไม่แน่นะว่าการประลองครั้งนี้พวกนายอาจจะเจอกับหมอนั่นก็ได้”   เฟย์กล่าวพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“คงไม่ใช่ฉันแน่เพราะว่าฉันแข่งรายการบุคคลทั่วไป ฮ่าๆๆ”   ชายน์กล่าวพร้อมหัวเราะอย่างพอใจ
“ไม่ต้องห่วง   ของนายเจอหนักกว่านั้นแน่ ผู้พิทักษ์    ฮ่าๆๆ”   เฟย์อดที่จะแซวไม่ได้จนชายน์หน้าหงิกขึ้นาทันที
“ว่าแต่นายรู้เรื่องคำทำนายด้วยหรือ?”   เดวี่ถามอย่างสงสัยเพราะเท่าที่รู้เขาและเพื่อนๆ ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับชายน์เลยและไม่คิดว่าจะมีใครมาบอกชายน์ก่อนเวลาอันสมควรด้วย
“ในตอนที่ร่างกายฉันเปลี่ยนเป็นร่างเดิมฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่เอาตัวเองแลกกับความปลอดภัยของแกรนน่า    จนตัวเองดับสูญ    ฉันรู้ว่าคนๆ นั้นอธิษฐานจิตว่าอย่างไร   และฉันก็รู้ว่าฉันเกิดมาจากคำอธิษฐานของเขา   แต่บางครั้งฉันก็ไม่มั่นใจนะว่าฉันคือคนในคำทำนายของตำราเวทย์พันปีว่าฉันคือผู้พิทักษ์”   ชายน์กล่าวอย่างอึดอัดใจ
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่านายจะใช่หรือเปล่า    แต่บอกได้เลยว่าตอนนี้นายคือหนึ่งเดียวที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด    พวกสภาแกรนน่า   คนใหญ่คนโตหรือกษัตริย์ทั้งสามดินแดนก็รู้      ดังนั้นจึงมีทั้งพวกที่หวังดีกับนายและแกรนน่ากับพวกที่ประสงค์ร้ายไง”   เฟย์เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง
“มันอาจมีอะไรอีกมากมายที่นายยังไม่รู้ก็ได้นะ   ถึงเวลานายจะเข้าใจเอง”   เดวี่ปิดหนังสือลงแล้วหันมากล่าวกับชายน์อย่างจริงจัง
“สายเลือดของฉันใช่มั๊ย?”  
“เรื่องนั้นนายต้องพิสูจน์ตัวเอง   ถ้านายคือผู้พิทักษ์จริงๆ เรื่องสายเลือดของนายก็ไม่ยากเลย       เพราะในแกรนน่ามีคนที่รู้จักนายและกำความลับต่างๆ ไว้หลายคนอยู่นะ”   เฟย์กล่าวสรุปก่อนที่บุคคลทั้งคันรถม้าจะเงียบลงและจมอยู่ในความคิดของตน
 
‘ฮี่……’  เสียงม้าที่ทำหน้าที่ลากรถม้าร้องตกใจกับบางสิ่งพร้อมกับวิ่งเตลิดออกนอกทิศทาง    เบื้องหน้านั้นปรากฏร่างของคนบังคับม้าที่มีแต่ร่างแต่ไร้ศีรษะกำลังนั่งเอนและหล่นลงจากที่นั่งในที่สุด     คนทั้งสามที่อยู่ในรถม้าที่บัดนี้รู้ตัวว่ากำลังถูกซุ่มโจมตีก็เตรียมพร้อมสำหรับรับมือแล้วเช่นกัน      ชายน์เรียกดาบออกมาทันทีหากแต่เฟย์เอ่ยขัดออกมาเสียก่อน
“นี่ไม่ใช่เวลาเปิดตัวผู้พิทักษ์นะ    อยู่นี่แหละเดี๋ยวฉันจัดการเอง”   กล่าวพร้อมกับหันไปสั่งเดวี่ด้วยสายตาด้วยเช่นกัน    เมื่อเห็นว่าทั้งสองไม่ขัดขืนเฟย์ก็กระโดดพุ่งออกไปนอกรถม้าทันที
“นึกว่าใคร    เด็กน้อยผู้หลงผิดนี่เอง  หึหึ”   เฟย์กล่าวหลังจากที่เห็นเด็กชายหญิงคู่หนึ่งยืนรอตั้งรับอยู่ก่อนแล้ว     แต่เมื่อคนที่ลงมาเป็นเฟย์ก็สร้างความหงุดหงิดให้แก่เด็กทั้งสองไม่น้อยจนจะพากันตามรถม้าไปแต่เฟย์ก็ขวางไว้ซะก่อน
“จะไปไหนล่ะ     ฉันลงมาแล้วนี่ไง”   กล่าวพลางขยับตัวไปขวางเด็กทั้งสองที่ทำท่าจะตามรถม้าไป
“ฉันก็ไม่ได้เด็กไปกว่านายหรอกนะ    อีกอย่างนายมันไม่ใช่เป้าหมายของฉัน”   จีเอ่ยอย่างหงุดหงิด
“แต่ฉันคงให้นายตามเพื่อนฉันไปไม่ได้หรอกนะ    พวกเขาไม่ควรเสียเวลาและเรื่องบางเรื่องเด็กๆ ก็ไม่สมควรจะยุ่ง”   เฟย์กล่าวพร้อมกระตุกยิ้มเบาๆ แต่กลับเรียกอารมณ์ของเด็กทั้งสองได้เป็นอย่างดี
“งั้นเรื่องนี้แกก็ไม่สมควรจะเข้ามายุ่งด้วยเช่นกัน!!”   จีเอ่ยอย่างเหลืออด
“แต่ถ้าอยากจะยุ่งนักงั้นพวกฉันจะช่วยสงเคราะห์ให้ก็แล้วกันนะ”     กล่าวจบนากี้ก็ซัดแซ่สีดำเส้นยาวใส่เฟย์ทันที
พรึบ!!    แต่เมื่อเฟย์สะบัดมือออกเบาๆ เปลวเพลิงสีส้มแดงก็ลุกโชติช่วงขึ้นและพุ่งเข้าใส่จนแส้ของนากี้หายวับไปกับตา
“ห๊ะ!!    ไฟศักดิ์สิทธิ์”   นากี้อุทานออกมาอย่างตกใจที่อาวุธคู่กายโดนทำลายลงอย่างง่ายดายถึงเพียงนี้
“สายเลือดฟินิกซ์สินะ  หึหึ”   จีเอ่ยพร้อมกับต้นไม้บริเวณรอบๆ สั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง    ฉับพลันรากไม้มากมายก็พุ่งทะลุพื้นดินขึ้นมาและตรงเข้าจู่โจมเฟย์ทันที
“นายจัดการมันนะ   ฉันจะตามรถม้าไป”   นากี้กล่าวจบก็หายวับไปกับหลุ่มควันสีดำทันที
 
 
“ฉันจะกลับไปช่วยเฟย์”
“เขาเอาตัวรอดได้หน่า”
“เขาเป็นคนของฉัน    ยังไงฉันก็จะไม่ทิ้งเขา”   ชายน์เอ่ยอย่างจริงจังจนเดวี่ยอมใจอ่อน   
“ฉันจะออกไปบังคับม้าเอง   หากมีอะไรฉันขอเป็นด่านแรก”    เดวี่ยื่นคำขาดอย่างจริงจัง     และเมื่อชายน์พยักหน้าเดวี่จึงออกไปบังคับม้าและหันหัวกลับไปหาเฟย์ทันที
“อย่าพึ่งไปขัดพวกเขาเลย   เพื่อนนายกำลังสนุกอยู่กับเพื่อนฉันอยู่นะ  ฮ่าๆๆ”   นากี้ที่ตามมาติดๆ เข้าขวางทางรถม้าไว้พร้อมกับเอ่ยยียวนเดวี่
“บอกเหตุผลของเธอมา”
“เหตุผลหรือ   อืมมมม”   นากี้ทำท่าครุ่นคิดหากแต่สายตาทะเล้นที่ส่งมาให้เดวี่นั้นกำลังบอกว่าเธอไม่ได้คิดจะหาคำตอบมาตอบเดวี่เลย
“ฉันไม่ได้ใจดีกับผู้หญิงทุกคนหรอกนะ”   เดวี่กล่าวรอดไรฟันอย่างกดอารมณ์สุดๆ จนนากี้ได้แต่หัวเราะร่าก่อนจะยอมตอบในที่สุด
“ไม่มี   แค่อยากสนุกหนะ  หึหึ”   กล่าวจบเงาสีดำก็ไหลมาตามพื้นพร้อมกับยึดเงาของเดวี่และโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้เงาของเดวี่โดนพันธนาการด้วยเงาสีดำจากนากี้เรียบร้อยแล้ว
‘ขยับตัวไม่ได้เลย’   นั่นคือสิ่งที่เดวี่คิดและพยายามจะดินหนีแต่เขาไม่สามารถขยับตัวได้
“อย่าดิ้นเลย   เพราะยิ่งดิ้นเงาของนายจะยิ่งโดนพันธนาการมากยิ่งขึ้นนะ  ฮ่าๆๆๆ”   นากี้กล่าวพร้อมกับหัวเราะลั่นอย่างพอใจ
“หึหึ   ขยับไม่ได้   แต่ปากยังใช้ได้นะ”   กล่าวจบเดวี่ก็ร่ายเวทย์ทันที     
‘พรึบ!!’    ไฟสีดำลุกโชติขึ้นเผาผลาญเงาที่พันธนาการอยู่จนสลายไปทันทีในชั่วพริบตา
“เวทย์เด็กๆ แบบนี้   ฉันก็เคยใช้และเลิกใช้ไปนานแล้วล่ะ”    คำกล่าวของเดวี่ทำให้นากี้หน้าแดงจัดด้วยความโกรธที่เธอกำลังโดนดูถูกนั่นเอง
“งั้นมาย้อนวัยอีกสักหน่อยแล้วกันนะ”   กล่าวจบนากี้ก็บังคับเงาของต้นไม้บริเวณรอบๆ เข้าจู่โจมเดวี่อีกครั้งหากแต่ครั้งนี้จำนวนเงามีมากกว่าครั้งแรกมากทำให้บางส่วนของเงาสามารถฝ่าแนวเพลิงสีดำเข้ามาโจมตีเดวี่อีกจนได้
“อึก!! ”   เดวี่ร้องออกมาหลังจากที่เงาบางส่วนเข้ารัดจากด้านหลังหากแต่ครั้งนี้นากี้ไม่ปล่อยให้เดวี่ได้ตั้งตัวอีกแล้ว    กลุ่มควันสีดำลอยเข้าปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณและเมื่อเดวี่หายใจควันนั่นจะเข้าไปยังร่างกายและทำให้หายใจไม่ออก
“คราวนี้แค่หายใจก็ถึงตายได้นะ  ฮ่าๆๆๆ”     นิกกี้เอ่ยอย่างพอใจที่เห็นเดวี่จมอยู่ท่ามกลางหมอกควันนั่น      แต่สำหรับชายน์ที่เฝ้าดูการต่อสู้ของคนทั้งสองจากรถม้าอยู่นั้นในตอนนี้เขากำลังวิตกกังวลสุดๆ
 
‘หมอนั่นจะเป็นอะไรมั๊ยชิน?’
‘ไม่หรอก    ปีศาจอย่างเดวี่ยังไงก็รู้วิธีการรับมือกับเวทย์มืดสายนี้ดี     นายต่างหากที่ควรจะอยู่เฉยๆ’   ชินตอบทันทีหลังจากที่ชายน์เอ่ยถามอย่างร้อนรน
‘ทำไมล่ะ’  ชายน์สงสัย
‘เป็นไปได้ว่าพวกนั้นมาเพื่อเก็บข้อมูลบางอย่างจากนาย    ดังนั้นทางที่ดีนายต้องอยู่เฉยๆ ตามที่เฟย์บอก’
‘อ๋อ   เข้าใจแล้ว     งั้นงานนี้ฉันจะเป็นแค่ผู้ชมที่ดีก็แล้วกันนะ  ฮ่าๆๆ’   กล่าวจบก็นั่งดูการต่อสู้ของคนทั้งสองต่อไปจากช่องหน้าต่างเล็กๆ ที่มีม่านปิดไว้อย่างดี
 
ทางด้านของเฟย์…
“อีกแล้วหรอ?”   จีเอ่ยกับตัวเองเบาอย่างหงุดหงิดที่การจู่โจมกี่ครั้งต่อกี่ครั้งของเขาก็จบลงด้วยไฟศักดิ์สิทธิ์ของเฟย์เผาผลาญจนมอดไหม้ไม่เหลือดี
“แค่ไฟของฉันนายยังเอาชนะไม่ได้เลย   แบบนี้ถ้าเจอกับเพื่อนฉันมีหวังนายเละแน่  ฮ่าๆๆ”   เฟย์กล่าวยั่วโมโหจีหลังจากที่เริ่มจับทางได้แล้วและดูเหมือนว่าเขาจะตัดสินใจไม่ผิดเพราะบัดนี้จีโกรธจนตัวสั่น
“’งั้นลองดาบฉันหน่อยเป็นไง”   กล่าวพร้อมกับเรียกดาบออกมาและพุ่งเข้าใส่เฟย์ทันที
“ย๊ากกก”   ทันทีที่จีพุ่งเข้าและยกดาบขึ้นหมายจะฟาดใส่เฟย์มังกรไฟที่เฟย์สร้างขึ้นมาก็พุ่งสวนออกไปรับแรงปะทะกับดาบของจีทันที      ภาพที่เห็นบัดนี้คือจีกำลังสู้กับมังกรไฟที่เฟย์ใช้อัคคีย์เวทย์สร้างขึ้นมาและด้วยมังกรไฟตัวนี้สร้างจากไฟศักดิ์สิทธิ์ของฟีนิกซ์ทำให้มันมีพละกำลังและความแกร่งมากกว่าสัตว์เวทย์ที่สร้างจากอัคคีเวทย์ธรรมดา     
“เล่นให้สนุกนะเด็กน้อย    ฉันจะเป็นผู้ชมที่ดี   ฮ่าๆๆ”   เฟย์กล่าวพร้อมกับโดดขึ้นไปนั่งบนต้นไม้พร้อมกับร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี
 
กลับมาที่เดวี่…
“ถ้าจะยืนนิ่งๆ รอความตายละก็นะเดี๋ยวฉันจะช่วยสงเคราะห์ให้”   กล่าวจบนากี้ก็กระตุกยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะซัดลูกบอลสีดำเข้าใส่กลุ่มหมอกควันนั่น      และทันทีที่มันเข้าปะทะกับวัตถุภายในก็เกิดการระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว    หากแต่เมื่อฝุ่นควันจางลงนากี้ก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจสุดขีด
“เป็นไปได้ยังไงกัน?”   บัดนี้ร่างของเดวี่ยืนสงบนิ่งท่ามกลางฝุ่นควันที่จางลง    หากแต่เมื่อสังเกตดีๆ จะเห็นว่าบริเวณร่างกายของเขาถูกฉาบไปด้วยผลึกสีดำที่เดวี่ได้มาจากกลุ่มควันสีดำของนากี้แล้วผสานกับเวทย์ของเขาสร้างเป็นเกราะบางๆ      หากแต่ความแข็งแรงของมันก็มากพอที่จะทำให้เขายืนท่ามกลางระเบิดได้โดยไม่เป็นอันตรายใดๆ   และเมื่อพันธนาการที่ยึดเขาสิ้นสุดลงเพราะแรงระเบิดก็ทำให้ร่างของเขาเป็นอิสระจนได้
‘บึ้มมมมม’   แรงระเบิดผลึกสีดำของเดวี่มีอานุภาพรุนแรงจนทำให้สะเก็ดผลึกนั่นกระเด็นไปโดนนากี้อย่างจัง
“อึก!!”   ร่างของนากี้กระเด็นไปกระทบกับต้นไม้แล้วกระอักเลือดออกมากองโต
“หมดเวลาเล่นแล้วนะ”   เดวี่เรียกเชือกสีดำจากรัตติกาลเวทย์ออกมาพร้อมกับสะบัดเข้าหมายจะมัดนากี้แต่ก็ช้าไปเสื้ยววินาทีเพราะก่อนที่เชือกสีดำจะเข้าถึงตัวนากี้ก็ปรากฏว่ามีหลุมมิติสีดำโผล่ออกมาและดูดร่างของนากี้กลับเข้าไปพร้อมกับสลายหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฮึ!! ”   เดวี่เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินกลับไปยังรถม้าที่มีชายน์นั่งชมการต่อสู้อยู่ภายใน
“วันนี้เจ้าชายเดวี่ใจดีจังขอรับ     เอ้….  หรือเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงหรือเปล่านะ ฮ่าๆๆ”   ชายน์เอ่ยแซวทันทีที่เห็นว่าเดวี่กลับมาอย่างปลอดภัย     แต่เจ้าตัวก็เพียงแต่ส่งสายตาดุมาให้ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องทันที
“ไปรับเฟย์    ป่านนี้หมอนั่นจัดการเรียบร้อยแล้วล่ะ”   หากแต่ยังไม่ทันจะเคลื่อนรถม้าเฟย์ก็ตามมาสมทบแล้ว
“ไม่ต้องหรอก   ฉันเสร็จพอดี  ฮ่าๆๆ”
“เรียบร้อยดี?”   เดวี่เอ่ยพลางถาม
“ไม่อ่ะ   อยู่ๆ มันก็หนีไปดื้อๆ    ฉันว่าพวกนี้แค่มาเก็บข้อมูลหน่ะ   ไม่มีอะไรหรอก”
“แค่เข้าเขตเกรย์โซนก็โดนต้อนรับแล้ว  ฮ่าๆๆ”   ชายน์เอ่ยหลังจากที่สังเกตเห็นว่าป่าในบริเวณที่ต่อสู้มันไม่เหมือนป่าปกติเพราะต้นไม้ส่วนมากมีต้นและใบสีดำอีกทั้งสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็แทบไม่มีเลย
“ฉันขอตัวนะชายน์    ขอนอนเอาแรงหน่อย  ฮาวววว”  เฟย์กล่าวพร้อมอ้าปากหาวก่อนจะหายวับไป
“นายก็พักเถอะเดวี่   เดี่ยวฉันบังคับมาเอง”
“นายรู้ทางหรอ?”
“เอาเป็นว่าไว้ใจฉันสักครั้งเหอะนะ”   ชายน์กล่าวพร้อมโดดออกไปนั่งยังที่นั่งของคนบังคับม้าทันที    เห็นดังนั้นเดวี่จึงนั่งหลับตาและหลับไปในที่สุด
‘ช่วยนำทางฉันหน่อยนะชิน’
‘สำหรับเกรย์โซนนี่บอกมาเหอะ   ฉันรู้ทุกซอกมุมของดินแดนนี้ดี ฮ่าๆๆๆ’
                                                ………………………………………………………………………………………
 
 
“บัดซบ!!”   ชายนิรนามเอ่ยตวาดออกมาดังลั่นก่อนจะฟาดฝ่ามือใส่แก้มของนากี้อย่างจังจนเลือดสีแดงสดไหลออกมาเป็นทางจากมุมปาก
“ข้ารึก็ไว้ใจให้พวกแกไปจัดการ    แค่นั่งนี่แกทำแผนข้าเสียหมด”
“ได้โปรดขอรับนายท่าน   นากี้ทำไปก็เพื่อหวังจะเก็บข้อมูลอันเป็นประโยชน์สำหรับใช้จัดการพวกนั้นนะขอรับ”   พอลเอ่ยอธิบาย
“แล้วได้มั๊ยล่ะประโยชน์หนะ   ถ้าข้าไม่ยื่นมือเข้าช่วยนังนี่กลายเป็นผีเฝ้าป่าไปแล้ว”
“อย่างน้อยเราก็รู้ว่ามันมีอีกคนที่สามารถใช้ไฟศักดิ์สิทธิ์ได้เป็นอย่างดีนะขอรับ”
“สายเลือดฟินิกซ์สินะ    แต่ถึงยังไงผู้พิทักษ์มันก็ใช้ได้อยู่แล้ว    ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกยังไงเลย”
“เอาเป็นว่าเราจะจัดการให้ดีที่สุดในรอบการแข่งขันนะขอรับนายท่าน”   จีเอ่ยอย่างประหม่า
“ถ้าไม่เรียบร้อยเห็นทีข้าต้องลงมือเองแล้วสินะ  หึหึ”   ชายนิรนามเอ่ยออกมาก่อนจะหันไปสั่งการชายมีอายุอีกคน
“นกน้อยข้าหลับสบายดีมั๊ยเมอร์ดอฟ    แกเตรียมของให้ข้าด้วยนะ    เพราะบางทีข้าอาจต้องยืมมือเขาจัดการไอ้เด็กนั่นก็ได้”
“หมายความว่านายจะทำพิธีปลุกเขาหรือขอรับ?”
“เปล่า   แต่ข้าจะทำพันธะสัญญาชีวิตกับเขาต่างหากล่ะ ฮ่าๆๆๆ”
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา