เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.

  64 ตอน
  0 วิจารณ์
  47.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

36) ตอนที่36:ผลักประตูตอนกลางดึก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่36:ผลักประตูตอนกลางดึก
เฉินเยี่ยนกลับมาคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ข้างนอกมีเสียงโวยวาย เฉินเยี่ยนฟังออกว่าเสียงที่ดังที่สุดคือจูเฟิ่งฮวา
เฉินเยี่ยนฉีกยิ้ม เธอรู้ว่าจูเฟิ่งฮวาต้องโวยวาย พูดจาแย่ๆ เพราะหวางนิวไม่ทำอาหารให้พวกเขา
แต่เธอก็จะไม่ให้แม่ทำอาหารให้จูเฟิ่งฮวา ฝ่ายตรงข้ามดูถูกครอบครัวพวกเขา ไม่นับถือพ่อแม่เธอ ทำไมจะต้องมาปรนนิบัติพวกเขา
ข้างนอกเสียงดังมาก แต่เฉินเยี่ยนไม่ได้ยินเสียงพ่อแม่ตอบโต้กลับ และเฉินเยี่ยนก็ไม่ได้ออกไป ก่อนหน้านี้เฉินจงพูดแล้ว ไม่ต้องไปใส่ใจ
โวยวายไปสักพัก เฉินเยี่ยนได้ยินเสียงคนไปห้องครัว แล้วผ่านไปอีกพักหนึ่ง เฉินเยี่ยนก็ได้ยินเสียงด่า น่าจะให้เฉินเวยไปทำอาหาร แล้วเฉินเวยทำไม่ได้ จูเฟิ่งฮวาด่าเฉินเวยไม่ได้เรื่อง ไร้ประโยชน์ เฉินเวยถูกรังแก
สุดท้ายจูเฟิ่งฮวาต้องลงมือต้มน้ำเอง ทำไข่ต้มชาสิบฟอง เธอและช่างเหลียน ช่างเผิงแบ่งกันกิน แต่แบ่งให้เฉินกุ้ยกินแค่แผ่นแป้งสองแผ่นที่เหลือเท่านั้น
เฉินเยี่ยนรู้ว่าที่บ้านมีไข่ไก่ทั้งหมดสิบแปดฟอง ตอนที่แยกกันอยู่คุยกันแล้วได้ฝั่งละเก้าฟอง ตอนนี้พวกเขากินมื้อหนึ่งไปสิบฟอง เท่ากับกินเกินไป เฉินเยี่ยนก็ขี้เกียจจะทำเป็นเรื่องขึ้นมา ช่างพวกเขาเถอะ รอย้ายไปฝั่งนั้นแล้วค่อยจัดการ
แต่ว่าเฉินเยี่ยนแอบสะใจ จูเฟิ่งฮวาแบ่งไข่สิบฟองกินกัน ไม่แบ่งให้เฉิยเวยเลยสักนิด พวกเขากินของจนหมดก่อน แล้วค่อยเหลือแผ่นแป้งสองแผ่นให้เฉินกุ้ยกิน ตอนนี้จูเฟิ่งฮวาไม่ยอมให้เฉินเวยกิน ส่วนเฉินเวยก็ต้องทนหิว คิดถึงเฉินเวยที่สีหน้าทรมานด้วยความหิว เฉินเยี่ยนก็ดีใจแล้ว
รอจนจูเฟิ่งฮวาและช่างเผิงไปแล้วข้างนอกเงียบสงบลง เฉินเยี่ยนเริ่มงัวเงียจะหลับแล้ว อยู่ๆ ประตูถูกผลักเปิดออก
เฉินเยี่ยนตกใจ ต่อมาเธอรู้ว่าคนที่ผลักประตูห้องตัวเองออกคือเฉินเวย เธอก็โทษที่ตัวเองสะเพร่า เพราะประตูด้านในไม่ได้ล็อค ตอนกลางคืนไม่มีใครเข้ามาในห้องเธอ เธอเลยไม่ได้เอาอะไรมาล็อคประตูไว้ อีกหน่อยเธอจะจำไว้ว่าต้องล็อคประตูไว้ กลางดึกจะได้ไม่มีใครเข้ามาได้
เฉินเยี่ยนลุกขึ้นนั่ง
“ตอนนี้เธอดีใจมากล่ะสิ?”
เฉินเวยพูดเสียงเบา ก่อนหน้านี้เธอโดนจูเฟิ่งฮวาชี้จมูกด่า บอกว่าเธอไม่ได้เรื่อง พี่สะใภ้ก็ว่าเธอ แล้วไม่ยอมให้เธอกินด้วย ให้เธอโดนรังแกแล้วยังหิวอีก พ่อแม่ก็ไม่ออกมาถามสักคำ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเฉินเยี่ยน
“หึหึ”
เฉินเยี่ยนตอบเฉินเวยสองคำ เธอดีใจจริงที่เห็นเฉินเวยพ่ายแพ้ โชคร้าย
“เฉินเยี่ยน ฉันจะไม่ยอมให้เธอมีความสุข”
เฉินเวยโกรธจัด
“หึหึ”
เฉินเยี่ยนตอบสองคำนี้กลับอีกครั้ง คำนี้เป็นคำที่เธออยากจะมอบให้เฉินเวย
เฉินเวยโดนยั่วโมโหจนเจ็บใจมาก เดิมทีเฉินเยี่ยนเป็นภรรยาของอวี๋เหวยหมิน ขอแค่อวี๋เหวยหมินใจตรงกันกับเธอ เธอคิดว่าเธอจะบีบเฉินเยี่ยนได้ แต่มาถึงตรงนี้ เฉินเยี่ยนและอวี๋เหวยหมินยกเลิกงานแต่งแล้ว ดูแล้วเฉินเยี่ยนไม่สนใจอวี๋เหวยหมินเลยสักนิด หรือว่าเฉินเยี่ยนไม่มีใจให้อวี๋เหวยหมินเลยสักนิด?
ไม่ได้ พรุ่งนี้เธอต้องไปหาอวี๋เหวยหมินปรึกษาหน่อย จะให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เฉินเยี่ยนเปลี่ยนไปแล้ว เธอและอวี๋เหวยหมินก็ต้องเปลี่ยนด้วย ไม่อย่างนั้นช้าเร็วจะต้องโดนเฉินเยี่ยนจัดการแน่
เฉินเวยรู้อยู่แก่ใจว่าพูดอะไรกับเฉินเยี่ยนไปก็ไร้ประโยชน์ จะตีเฉินเยี่ยน? อย่าล้อเล่นเลย เธอไม่ใช่คู่ต่อสู่กับเฉินเยี่ยนเลยสักนิด ทะเลาะกันเธอก็สู้เฉินเยี่ยนไม่ได้ ที่เธอทำได้ดีกว่าเฉินเยี่ยนก็คือแกล้งทำเป็นน่าสงสาร หรืออ่อยผู้ชาย แต่นี่ก็ไม่ได้ผลกับเฉินเยี่ยน ดังนั้นเธอทำอะไรกับเฉินเยี่ยนไม่ได้เลย
ชาติที่แล้วบ้านเฉินเวยฐานะดีกว่าเฉินเยี่ยน เธอไม่เคยลำบากมาตั้งแต่เด็ก ทำอาหารไม่เป็น และไม่เคยทำงานมาก่อน เธอใช้ความคิดและวิธีการลงมือกับผู้ชายเท่านั้น ให้เธอทำอย่างอื่น เธอทำไม่เป็น ดังนั้นถ้าจะต่อกรกับเฉินเยี่ยน ต้องให้อวี๋เหวยหมินเป็นคนลงมือ
เฉินเวยไปแล้ว เฉินเยี่ยนนอนลงอีกครั้ง ถ้าจะบอกว่าเฉินเยี่ยนไม่รู้สึกอะไรกับอวี๋เหวยหมินเลยหรือ? ก็พูดไม่ได้ว่าไม่มีเลย ตอนที่อวี๋เหวยหมินจีบเธอก็ทิ้งความทรงจำอันหวานชื่นไว้ให้เธอไม่น้อย เพียงแต่หลังแต่งงานทั้งสองคนไม่ได้ตัวติดกัน เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าอาจจะเป็นเพราะว่าตัวเองแลดูเย็นชา เธอใช้ชีวิตอย่างสงบ ไม่สนใจความเป็นอยู่จะร้ายดี ของแค่ทั้งสองคนมีชีวิตอย่างมีความสุข
วินาทีที่อวี๋เหวยหมินและเฉินเวยหักหลังเธอด้วยกันนั้นความรู้สึกที่เธอมีต่ออวี๋เหวยหมินก็กลายเป็นช่องโหว่ไปแล้ว เธอมีแต่ความเกลียดให้อวี๋เหวยหมิน ไม่มีความรักอะไรแล้ว ตอนนี้เธอคิดอยากจะให้เฉินเวยและอวี๋เหวยหมินไม่มีชีวิตที่เป็นสุข ให้สาสม ส่วนเรื่องอื่นไม่มีแล้ว
เฉินเยี่ยนค่อยๆ หลับลง วันรุ่งขึ้นหลังเธอตื่นมาหวีผมแล้วไปห้องครัว เห็นหวางนิวทำกับข้าวไปบ่นพึมพำไป เธอไม่พอใจที่เมื่อวานพวกเขาเอาไข่สิบฟองไปกิน
เฉินเยี่ยนเห็นหวางนิวบ่นพึมพำ ระหว่างที่เอาน้ำในหม้อตักใส่ชาม ในหม้อยังมีของพอให้พวกเขากินพอดีอยู่ เฉินเยี่ยนหัวเราะขึ้นมา ดูเหมือนในใจแม่จะไม่พอใจมากที่สุด เดิมทีเติมน้ำเพื่อทำกับข้าวให้ทั้งบ้าน กลับต้องตักน้ำออกไม่น้อยเลย ไม่ทำให้พวกช่างเหลียนกิน
หวางนิวบ่นให้เฉินเยี่ยนฟังเรื่องที่จูเฟิ่งฮวากินไข่เยอะมากขนาดนี้สักพัก เฉินเยี่ยนปลอบเธอ จนอาหารเสร็จแล้ว เฉินเยี่ยนตักเอาไปให้เฉินจง เฉินหู่ จากนั้นเธอและหวางนิวก็กินกันคนละชาม
“แม่ เยี่ยนจื่อ ข้าวเสร็จแล้วหรือ? ผมตักไปให้เหลียนชามนึงนะ”
เฉินกุ้ยก็เดินเข้ามา แต่เขามองหม้อ ในหม้อเหลือแค่โจ๊กธัญพืชครึ่งชาม สีหน้าเขาดูลำบากใจ อย่าว่าแต่ตักไปให้ช่างเหลียนเลย แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่พอกิน
“แม่ ทำข้าวให้หนูด้วยหรือเปล่า? เมื่อวานหนูไม่ได้กินเลย”
ตอนนี้เฉินเวยก็เข้ามา มองโจ๊กธัญพืชในหม้อตาเป็นประกาย เดิมทีหวางนิวรักเธอมาก ตอนนี้โดนเฉินเยี่ยนล้างสมองไปแล้วหรือ? เธอไม่สนเรื่องตัวเองกินข้าวแล้วจริงๆ
“งั้นชามนี้ให้ลูกกิน”
หวางนิวทนให้ลูกสาวกับลูกชายหิวไม่ได้ เอาโจ๊กธัญพืชในหม้อกับในชามตัวเองแบ่งให้เฉินกุ้ยและเฉินเวย
“เธอกินข้าวของแม่ไป แม่ก็ต้องทนหิว เธอคิดเอาเองแล้วกัน”
เฉินเยี่ยนพูดเสียงเรียบกับเฉินเวย
เฉินเวยกัดฟันจนจะแตกแล้ว เฉินเยี่ยนพูดแบบนี้ เธอยังจะกล้ากินได้ยังไง?
เฉินเวยรับชามจากหวางนิวไม่ได้ เฉินกุ้ยก็ยืนอยู่ตรงหน้าสีหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ เขาก็กินโจ๊กธัญพืชของแม่ไม่ได้ เขาเกาศีรษะ เหมือนเฉินเวยจะทำอาหารไม่เป็น ภรรยาก็ยังนอนอยู่ ถ้าอีกหน่อยแม่ไม่อยู่ที่นี่ทำอาหารแล้ว ที่บ้านใครจะทำนะ
สายตาเฉินเวยมองไปที่หม้อ แล้วมองไปที่โถใส่ไข่ ไม่งั้นเธอไปต้มน้ำทำไข่ต้มชาดีกว่า ยังไงไข่ก็แบ่งแล้ว กินตอนนี้ ก็ต้องกินของฝั่งเฉินเยี่ยนและเฉินหู่ เธอกินแล้ว เฉินเยี่ยนก็ทำอะไรเธอไม่ได้
“พี่ใหญ่ เมื่อวานพวกพี่สะใภ้กินไข่ไปสิบฟอง เดิมทีแบ่งให้พวกพี่เก้าฟอง แต่พี่เป็นพี่ใหญ่ฉันเลยไม่ว่าอะไรแล้ว นี่ยังเหลืออีกแปดฟอง เดี๋ยวฉันจะเอาไปฝั่งนั้นแล้ว”
เฉินเยี่ยนมองออกว่าเฉินเวยคิดอะไร เธอไม่ยอมให้เฉินเวยได้อย่างหวังหรอก ไข่ไก่นี่พ่อแม่ก็เสียดายไม่กิน เรื่องอะไรจะเอามาให้เฉินเวย
“ได้สิ เธอเอาไปเถอะ”
เฉินกุ้ยพยักหน้า
เฉินเยี่ยนและเฉินกุ้ยคุยกันแบบนี้แล้ว เฉินเวยก็เอาไข่ไก่ไปไม่ได้แล้ว แต่เมื่อคืนไม่ได้กิน เช้านี้ก็ไม่ได้กินอีก เธอหิวนะ
“เวยลูก แม่สอนลูกต้มโจ๊กมา อีกหน่อยไม่อยู่ด้วยกันแล้ว ลูกจะได้ทำเป็น”
หวางนิวคิดแล้วพูดกับลูกสาว ตอนเด็กสุขภาพลูกสาวไม่ค่อยดี เธอเลยไม่ค่อยกล้าเรียกใช้ ต่อมาเฉินเวยโตแล้ว เธออยากจะใช้ เฉินเวยกลับทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ มีเฉินเยี่ยนคอยช่วย เธอก็ไม่ต้องพูดมากแล้ว แต่เป็นอย่างนี้ไปตลอดก็ไม่ได้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา