เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก
-
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 16.58 น.
64 ตอน
0 วิจารณ์
48.53K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 17.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
35) ตอนที่35:เห็นพ้องต้องกัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่35:เห็นพ้องต้องกัน
ถึงแม้เรื่องแยกบ้านจะคุยกันเรียบร้อย แต่แบ่งของเสร็จถึงเวลากินข้าว เพราะฝั่งช่างเหลียนจริงจัง หัวไชเท้า พริกต้องนับอย่างละเอียด กลัวว่าแบ่งไม่ถูก แค่นี้ยังไม่เรียบร้อย อย่างธัญพืชต้องลากยาวไปจนถึงพรุ่งนี้ถึงจะแบ่งกันเสร็จ แต่ว่าตอนนี้คุยกันแล้ว ถึงเวลาก็ต้องทำ
เฉินกุ้ยไม่พูดแทรกอะไรเลย เขาอึดอัดใจ แต่เขาก็พูดแทนช่างเหลียนไม่ได้ พ่อแม่ก็เห็นด้วยที่จะแยกบ้าน เขาทำได้แค่มองดูครอบครัวแยกกันอยู่ ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าช่างเหลียนทำเกินไป แยกกันอยู่ก็คิดคร่าวๆ ทำไมต้องแบ่งกันกระทั่งหัวหอมลูกหนึ่ง ให้คนหัวเราะเยาะเอา แต่อีกหน่อยเขาต้องอยู่กับช่างเหลียนทั้งชีวิต เขาไม่อยากทะเลาะให้ดูน่าเกลียด แค่คิดในใจก็พอ อีกหน่อยจะไปช่วยฝั่งนั้นเยอะๆ ถ้าหาเงินได้ นอกจากให้ภรรยาแล้ว เขาจะแอบให้พ่อแม่น้องชายน้องสาวด้วย ต้องช่วยให้พ่อแม่เอาน้องสาวแต่งงาน ให้น้องชายสู่ขอภรรยาให้ได้
แยกบ้านกันเสร็จแล้ว ผู้คนที่บ้านเฉินต่างก็แยกย้ายกัน บ้านเฉินน่าจะเป็นหัวข้อให้พูดกันในหมู่บ้านยาวช่วงหนึ่งเลย เพราะมีกรณีที่เป็นแบบบ้านเฉินแยกบ้านกันเร็วขนาดนี้น้อยมาก
เฉินจงเรียกให้คนอยู่กินข้าวกัน แต่ทุกคนก็รู้ว่าเรื่องแยกบ้านกันน่าจะทำให้คนในบ้านเฉินไม่สบายใจ ไม่อาจอยู่ต่อให้คนในบ้านรู้สึกอึดอัดได้ จึงกลับไปกันหมด
จูเฟิ่งฮวาและช่างเหลียนไม่ได้กลับ พวกเขาเห็นว่าเย็นแล้ว เลยอยากจะอยู่กินข้าว อีกอย่างข้าวบ้านเฉินไม่กินก็เสียเปล่า มีคนบ้านเฉินดูแลพวกเขา พวกเขาไม่ต้องกลับบ้านไปทำกินแล้ว
ถึงแม้หวางนิวจะรู้สึกเสียใจ แต่เธอเป็นหญิงหมู่บ้านชาวนาดั้งเดิม สามีและลูกชายต่างเห็นด้วย เธอเลยพูดอะไรไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้ก็ตกลงกันว่าแยกบ้านแล้ว เธอไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ได้แต่ยอมรับ เห็นฟ้ามืดแล้ว ในบ้านยังมีแขก เธอปาดน้ำตาแล้วเดินไปครัวทำอาหาร
เฉินเยี่ยนรู้ว่าในใจพ่อแม่เป็นทุกข์ คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมหวังให้พี่น้องรักใคร่สามัคคีกัน ให้ลูกทุกคนมีชีวิตที่ดี แต่มีบางครั้งเรื่องไม่ได้เป็นดั่งใจหวัง อีกหน่อยเธอจะดูแลพ่อแม่ให้มากขึ้น ให้พวกเขามีชีวิตที่ดี ส่วนพี่ชาย ถ้าวันข้างหน้าสามารถช่วยเหลือได้ เธอย่อมช่วยเหลือแน่นอน แต่ไม่ช่วยพี่สะใภ้นั่นหรอก
เฉินเยี่ยนเข้าไปในครัวกับหวางนิว เธอเห็นหวางนิวเติมน้ำลงไปในหม้อก็ห้ามเธอไว้
“มีอะไร?”
หวางนิวไม่เข้าใจ
“แม่ แม่เติมน้ำเยอะขนาดนี้ทำไม?”
เฉินเยี่ยนรู้ว่าหวางนิวจะทำอะไร
“แม่กับพี่ชายพี่สะใภ้ลูกอยู่ รวมถึงคนในบ้านเราอีก จะไม่เติมน้ำเยอะได้ยังไง ไม่งั้นจะพอกินหรือ?”
หวางนิวรู้สึกว่าลูกสาวถามคำถามโง่ๆ
“แม่ ของก็แบ่งกันแล้ว คุยกันแล้วว่าต่างคนต่างทำของตัวเองไม่ใช่หรือ? ตอนนี้แม่ทำเยอะขนาดนี้ แม่ใช้ของฝั่งนั้นหรือ? ถ้าใช้ของฝั่งพี่สะใภ้ กลัวว่าจะไม่ดีแล้วยังโดนบ่นได้อีก ดูถูกพวกเราไปใช้ของพวกเธอนะ ถ้าใช้ฝั่งของเรา ใช้มากขนาดนี้ อีกหน่อยพวกเราจะไม่พอกินกัน บ้านพี่สะใภ้ตอนนั้นพูดจาแย่ขนาดนั้น ทำไมยังต้องไปทำให้เขากิน ดูแลเขาด้วย อยากกินก็ให้พี่สะใภ้มาทำเองสิ พวกเราทำแค่ที่พวกเรากินพอ”
เฉินเยี่ยนโน้มน้าวหวางนิว เธอรู้ว่าหวางนิวไม่ใช่คนคิดอะไรมาก เธอต้องค่อยๆ เปลี่ยนความคิดหวางนิว
หวางนิวได้ยินคำพูดของลูกสาวก็ลังเลเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าลูกสาวพูดมีเหตุผล แต่ถ้าไม่ทำจริงเธอก็รู้สึกไม่ค่อยดี
“แม่ แม่ฟังพี่ใหญ่เถอะ ไม่ต้องทำให้คนพวกนั้นกิน พวกเขาแกล้งบ้านเราขนาดนี้ แกล้งพี่ใหญ่ บีบบังคับให้พวกเราแยกกันอยู่ ไม่ไล่พวกเขาออกไปก็นับว่าบุญแล้ว ยังจะต้องทำข้าวให้พวกเขากินอีก ไม่ทำ”
ตอนที่เฉินหู่เดินมาถึงประตูห้องครัว ก็พูดด้วยความโกรธ ตอนที่เขาเลิกเรียนกลับมาได้ยินเรื่องแยกกันอยู่ เขาโกรธมาก แต่เขายังอายุน้อยอยู่ ตอนนี้เขายังไม่ได้เป็นเสาหลัก เขาจึงได้แต่ยอมรับ แต่เขาไม่พอใจบ้านพี่สะใภ้เป็นอย่างมาก
หวางนิวได้ยินเฉินหู่พูดแบบนี้ก็เงียบไป ดูลูกชายอายุเพิ่งสิบขวบ น้ำตาเธอไหลลงมา ต้องแยกกันอยู่เร็วขนาดนี้ อีกหน่อยลูกชายหาภรรยาแต่งงานไม่ได้จะทำยังไง
“แม่ อย่าร้องไห้เลย วางใจเถอะ อีกหน่อยผมจะให้แม่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีแน่นอน ยังมีพี่สาวอีกคน พี่สาวอยู่กับผม ผมไม่มีวันไล่พี่แน่นอน อีกหน่อยผมจะหาเงินให้พวกแม่ใช้ ถ้าใครกล้านินทา ผมจะไม่ปล่อยไว้แน่ อีกหน่อยถ้าภรรยาผมไม่ยอม ผมก็ไม่ต้องการเธอ ผมต้องเลือกภรรยาที่ดีแน่นอน ถ้าคนที่ไม่ดีกับแม่กับพี่สาว ผมไม่เอา”
เฉินหู่ปลอบหวางนิว เขาเข้าใจว่าเป็นพี่ชายที่เลือกภรรยาไม่ดี ดังนั้นเลยทำให้ที่บ้านไม่สงบสุข ถ้ามีภรรยาที่ดี บ้านก็จะสงบสุข ดังนั้นในใจเขามีความคิดหนึ่ง อนาคตเขาต้องหาภรรยาที่ต้องดีกับแม่และพี่สาวตัวเองแน่นอน เขาไม่อยากให้ที่บ้านไม่สงบสุข
“ตอนนี้ลูกพูดน่าฟัง ใครจะรู้อีกหน่อยลูกจะไม่เหมือนพี่ชายลูก”
ปากหวางนิวก็พูดไป แต่ในใจกลับดีใจมาก ลูกชายคนนี้น่าจะหวังพึ่งได้ เธอดีใจได้ยินคำพูดลูกสาวและลูกชาย เลยเติมน้ำน้อยลง ทำให้แค่พวกเขาไม่กี่คนกินกันเท่านั้น ทำไมต้องมาปรนนิบัติพวกเขาด้วย
เฉินเยี่ยนลูบหัวเฉินหู่ เฉินหู่ไม่ได้หลบพักนี้เขาและเฉินเยี่ยนอยู่ด้วยกันดีกว่าสมัยก่อนอีก เขารู้ว่าเฉินเยี่ยนปรารถนาดีต่อเขา เป็นห่วง เขาเลยไม่ปฏิเสธ
เฉินเยี่ยนถอนหายใจ เฉินกุ้ยและเฉินหู่นิสัยตรงกันข้ามกันเลย เฉินกุ้ยซื่อมาก แต่เฉินหู่กลับใจกล้า อย่ามองว่าเขาตอนนี้เพิ่งสิบขวบ แต่เขาหุนหันพลันแล่นหรือถ้ามีคนมากลั่นแกล้งคนในบ้าน เขากล้าเอามีดมาสู้คน บุคลิกก็ใจร้อน แต่ในใจเขากลับให้ความสำคัญกับมิตรภาพมาก ถ้าสั่งสอนดีๆ น้องชายคนนี้ถือว่าไม่เลวเลย
ฝั่งนี้คุยกันแล้ว เฉินเยี่ยนช่วยหวางนิวทำกับข้าวเสร็จ เฉินเยี่ยนให้เฉินหู่ไปแอบเรียกเฉินจงมา
ตอนที่เฉินจงมาไม่มีใครตามมาด้วย รอในครัวทำเสร็จแล้วเอามาเสิร์ฟให้พวกเขากินกัน ไม่ยกออกมาก็แปลว่ายังไม่เสร็จ
เฉินจงฟังความตั้งใจของลูกสาวคนโตและลูกชายคนเล็กแล้ว ให้เขากินในครัว พวกเขาสี่คนกินเสร็จก็ล้างชาม ไม่สนใจคนอื่น เขารู้สึกว่าเสียหน้าเล็กน้อย
แต่พอมองโจ๊กธัญพืชสี่ชาม มองขนมปังแผ่นและกับข้าว แล้วมองหม้ออีกรอบ ในหม้อไม่มีอะไรเหลือแล้วจริง ถ้ายกออกไป พวกเขาก็ไม่มีกินแล้ว
ช่างเถอะ ยังไงบ้านก็แยกกันแล้ว ตกลงกันแล้วว่าต่างคนต่างทำ ภรรยาเขาและลูกสาวก็ไม่ได้ต้อยต่ำ ทำไมต้องมาปรนนิบัติคนอื่น เมื่อกี้ตอนคุยกันในโถงบ้าน คำพูดของจูเฟิ่งฮวาแต่ละคำยังบอกว่าลูกสาวคนโตไม่ดีอย่างนั้นอย่างนั้น เขาก็อึดอัดใจเหมือนกัน
“กิน กินเสร็จแล้วล้าง ไม่ต้องสนใจคนอื่น จากนั้นเข้าห้องนอน ให้พวกเขาทำกันเอง ถ้าพวกเขาว่าอะไร ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ใครก็อย่าออกมา”
เฉินจงพูดจบก็นั่งลงหยิบตะเกียบ
เฉินเยี่ยนและเฉินหู่มองหน้ากัน และหยิบตะเกียบเหมือนกัน แล้วกินอย่างรวดเร็ว
หวางนิวมองสามีและลูกสาว ลูกชายเริ่มลงมือกินแล้ว เธอก็กินเหมือนกัน
ทั้งสี่คนเห็นพ้องต้องกัน และไม่พูดอะไรอีก กินกันเสร็จอย่างเงียบๆ รอจนหวางนิวและเฉินเยี่ยนล้างหม้อแล้ว พวกเขาถึงออกไปพร้อมกัน
มีเฉินจงออกหน้า เฉินเยี่ยนตรงกลับเข้าห้องตัวเอง เดิมทีเธออยากจะเห็นสีหน้าโกรธของพวกช่างเหลียน จูเฟิ่งฮวาอยู่ ตอนนี้คิดแล้วช่างมันดีกว่า
แต่กลับมาคิดถึงวันนี้แล้ว เฉินเยี่ยนยังรู้สึกเสียใจอยู่ เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องแยกบ้านอยู่ แต่ครอบครัวนี้แยกกันแบบนี้แล้ว ถือว่าแม่ลูกช่างเหลียนช่วยตัวเองจริงๆ
ถึงแม้เรื่องแยกบ้านจะคุยกันเรียบร้อย แต่แบ่งของเสร็จถึงเวลากินข้าว เพราะฝั่งช่างเหลียนจริงจัง หัวไชเท้า พริกต้องนับอย่างละเอียด กลัวว่าแบ่งไม่ถูก แค่นี้ยังไม่เรียบร้อย อย่างธัญพืชต้องลากยาวไปจนถึงพรุ่งนี้ถึงจะแบ่งกันเสร็จ แต่ว่าตอนนี้คุยกันแล้ว ถึงเวลาก็ต้องทำ
เฉินกุ้ยไม่พูดแทรกอะไรเลย เขาอึดอัดใจ แต่เขาก็พูดแทนช่างเหลียนไม่ได้ พ่อแม่ก็เห็นด้วยที่จะแยกบ้าน เขาทำได้แค่มองดูครอบครัวแยกกันอยู่ ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าช่างเหลียนทำเกินไป แยกกันอยู่ก็คิดคร่าวๆ ทำไมต้องแบ่งกันกระทั่งหัวหอมลูกหนึ่ง ให้คนหัวเราะเยาะเอา แต่อีกหน่อยเขาต้องอยู่กับช่างเหลียนทั้งชีวิต เขาไม่อยากทะเลาะให้ดูน่าเกลียด แค่คิดในใจก็พอ อีกหน่อยจะไปช่วยฝั่งนั้นเยอะๆ ถ้าหาเงินได้ นอกจากให้ภรรยาแล้ว เขาจะแอบให้พ่อแม่น้องชายน้องสาวด้วย ต้องช่วยให้พ่อแม่เอาน้องสาวแต่งงาน ให้น้องชายสู่ขอภรรยาให้ได้
แยกบ้านกันเสร็จแล้ว ผู้คนที่บ้านเฉินต่างก็แยกย้ายกัน บ้านเฉินน่าจะเป็นหัวข้อให้พูดกันในหมู่บ้านยาวช่วงหนึ่งเลย เพราะมีกรณีที่เป็นแบบบ้านเฉินแยกบ้านกันเร็วขนาดนี้น้อยมาก
เฉินจงเรียกให้คนอยู่กินข้าวกัน แต่ทุกคนก็รู้ว่าเรื่องแยกบ้านกันน่าจะทำให้คนในบ้านเฉินไม่สบายใจ ไม่อาจอยู่ต่อให้คนในบ้านรู้สึกอึดอัดได้ จึงกลับไปกันหมด
จูเฟิ่งฮวาและช่างเหลียนไม่ได้กลับ พวกเขาเห็นว่าเย็นแล้ว เลยอยากจะอยู่กินข้าว อีกอย่างข้าวบ้านเฉินไม่กินก็เสียเปล่า มีคนบ้านเฉินดูแลพวกเขา พวกเขาไม่ต้องกลับบ้านไปทำกินแล้ว
ถึงแม้หวางนิวจะรู้สึกเสียใจ แต่เธอเป็นหญิงหมู่บ้านชาวนาดั้งเดิม สามีและลูกชายต่างเห็นด้วย เธอเลยพูดอะไรไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้ก็ตกลงกันว่าแยกบ้านแล้ว เธอไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ได้แต่ยอมรับ เห็นฟ้ามืดแล้ว ในบ้านยังมีแขก เธอปาดน้ำตาแล้วเดินไปครัวทำอาหาร
เฉินเยี่ยนรู้ว่าในใจพ่อแม่เป็นทุกข์ คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมหวังให้พี่น้องรักใคร่สามัคคีกัน ให้ลูกทุกคนมีชีวิตที่ดี แต่มีบางครั้งเรื่องไม่ได้เป็นดั่งใจหวัง อีกหน่อยเธอจะดูแลพ่อแม่ให้มากขึ้น ให้พวกเขามีชีวิตที่ดี ส่วนพี่ชาย ถ้าวันข้างหน้าสามารถช่วยเหลือได้ เธอย่อมช่วยเหลือแน่นอน แต่ไม่ช่วยพี่สะใภ้นั่นหรอก
เฉินเยี่ยนเข้าไปในครัวกับหวางนิว เธอเห็นหวางนิวเติมน้ำลงไปในหม้อก็ห้ามเธอไว้
“มีอะไร?”
หวางนิวไม่เข้าใจ
“แม่ แม่เติมน้ำเยอะขนาดนี้ทำไม?”
เฉินเยี่ยนรู้ว่าหวางนิวจะทำอะไร
“แม่กับพี่ชายพี่สะใภ้ลูกอยู่ รวมถึงคนในบ้านเราอีก จะไม่เติมน้ำเยอะได้ยังไง ไม่งั้นจะพอกินหรือ?”
หวางนิวรู้สึกว่าลูกสาวถามคำถามโง่ๆ
“แม่ ของก็แบ่งกันแล้ว คุยกันแล้วว่าต่างคนต่างทำของตัวเองไม่ใช่หรือ? ตอนนี้แม่ทำเยอะขนาดนี้ แม่ใช้ของฝั่งนั้นหรือ? ถ้าใช้ของฝั่งพี่สะใภ้ กลัวว่าจะไม่ดีแล้วยังโดนบ่นได้อีก ดูถูกพวกเราไปใช้ของพวกเธอนะ ถ้าใช้ฝั่งของเรา ใช้มากขนาดนี้ อีกหน่อยพวกเราจะไม่พอกินกัน บ้านพี่สะใภ้ตอนนั้นพูดจาแย่ขนาดนั้น ทำไมยังต้องไปทำให้เขากิน ดูแลเขาด้วย อยากกินก็ให้พี่สะใภ้มาทำเองสิ พวกเราทำแค่ที่พวกเรากินพอ”
เฉินเยี่ยนโน้มน้าวหวางนิว เธอรู้ว่าหวางนิวไม่ใช่คนคิดอะไรมาก เธอต้องค่อยๆ เปลี่ยนความคิดหวางนิว
หวางนิวได้ยินคำพูดของลูกสาวก็ลังเลเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าลูกสาวพูดมีเหตุผล แต่ถ้าไม่ทำจริงเธอก็รู้สึกไม่ค่อยดี
“แม่ แม่ฟังพี่ใหญ่เถอะ ไม่ต้องทำให้คนพวกนั้นกิน พวกเขาแกล้งบ้านเราขนาดนี้ แกล้งพี่ใหญ่ บีบบังคับให้พวกเราแยกกันอยู่ ไม่ไล่พวกเขาออกไปก็นับว่าบุญแล้ว ยังจะต้องทำข้าวให้พวกเขากินอีก ไม่ทำ”
ตอนที่เฉินหู่เดินมาถึงประตูห้องครัว ก็พูดด้วยความโกรธ ตอนที่เขาเลิกเรียนกลับมาได้ยินเรื่องแยกกันอยู่ เขาโกรธมาก แต่เขายังอายุน้อยอยู่ ตอนนี้เขายังไม่ได้เป็นเสาหลัก เขาจึงได้แต่ยอมรับ แต่เขาไม่พอใจบ้านพี่สะใภ้เป็นอย่างมาก
หวางนิวได้ยินเฉินหู่พูดแบบนี้ก็เงียบไป ดูลูกชายอายุเพิ่งสิบขวบ น้ำตาเธอไหลลงมา ต้องแยกกันอยู่เร็วขนาดนี้ อีกหน่อยลูกชายหาภรรยาแต่งงานไม่ได้จะทำยังไง
“แม่ อย่าร้องไห้เลย วางใจเถอะ อีกหน่อยผมจะให้แม่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีแน่นอน ยังมีพี่สาวอีกคน พี่สาวอยู่กับผม ผมไม่มีวันไล่พี่แน่นอน อีกหน่อยผมจะหาเงินให้พวกแม่ใช้ ถ้าใครกล้านินทา ผมจะไม่ปล่อยไว้แน่ อีกหน่อยถ้าภรรยาผมไม่ยอม ผมก็ไม่ต้องการเธอ ผมต้องเลือกภรรยาที่ดีแน่นอน ถ้าคนที่ไม่ดีกับแม่กับพี่สาว ผมไม่เอา”
เฉินหู่ปลอบหวางนิว เขาเข้าใจว่าเป็นพี่ชายที่เลือกภรรยาไม่ดี ดังนั้นเลยทำให้ที่บ้านไม่สงบสุข ถ้ามีภรรยาที่ดี บ้านก็จะสงบสุข ดังนั้นในใจเขามีความคิดหนึ่ง อนาคตเขาต้องหาภรรยาที่ต้องดีกับแม่และพี่สาวตัวเองแน่นอน เขาไม่อยากให้ที่บ้านไม่สงบสุข
“ตอนนี้ลูกพูดน่าฟัง ใครจะรู้อีกหน่อยลูกจะไม่เหมือนพี่ชายลูก”
ปากหวางนิวก็พูดไป แต่ในใจกลับดีใจมาก ลูกชายคนนี้น่าจะหวังพึ่งได้ เธอดีใจได้ยินคำพูดลูกสาวและลูกชาย เลยเติมน้ำน้อยลง ทำให้แค่พวกเขาไม่กี่คนกินกันเท่านั้น ทำไมต้องมาปรนนิบัติพวกเขาด้วย
เฉินเยี่ยนลูบหัวเฉินหู่ เฉินหู่ไม่ได้หลบพักนี้เขาและเฉินเยี่ยนอยู่ด้วยกันดีกว่าสมัยก่อนอีก เขารู้ว่าเฉินเยี่ยนปรารถนาดีต่อเขา เป็นห่วง เขาเลยไม่ปฏิเสธ
เฉินเยี่ยนถอนหายใจ เฉินกุ้ยและเฉินหู่นิสัยตรงกันข้ามกันเลย เฉินกุ้ยซื่อมาก แต่เฉินหู่กลับใจกล้า อย่ามองว่าเขาตอนนี้เพิ่งสิบขวบ แต่เขาหุนหันพลันแล่นหรือถ้ามีคนมากลั่นแกล้งคนในบ้าน เขากล้าเอามีดมาสู้คน บุคลิกก็ใจร้อน แต่ในใจเขากลับให้ความสำคัญกับมิตรภาพมาก ถ้าสั่งสอนดีๆ น้องชายคนนี้ถือว่าไม่เลวเลย
ฝั่งนี้คุยกันแล้ว เฉินเยี่ยนช่วยหวางนิวทำกับข้าวเสร็จ เฉินเยี่ยนให้เฉินหู่ไปแอบเรียกเฉินจงมา
ตอนที่เฉินจงมาไม่มีใครตามมาด้วย รอในครัวทำเสร็จแล้วเอามาเสิร์ฟให้พวกเขากินกัน ไม่ยกออกมาก็แปลว่ายังไม่เสร็จ
เฉินจงฟังความตั้งใจของลูกสาวคนโตและลูกชายคนเล็กแล้ว ให้เขากินในครัว พวกเขาสี่คนกินเสร็จก็ล้างชาม ไม่สนใจคนอื่น เขารู้สึกว่าเสียหน้าเล็กน้อย
แต่พอมองโจ๊กธัญพืชสี่ชาม มองขนมปังแผ่นและกับข้าว แล้วมองหม้ออีกรอบ ในหม้อไม่มีอะไรเหลือแล้วจริง ถ้ายกออกไป พวกเขาก็ไม่มีกินแล้ว
ช่างเถอะ ยังไงบ้านก็แยกกันแล้ว ตกลงกันแล้วว่าต่างคนต่างทำ ภรรยาเขาและลูกสาวก็ไม่ได้ต้อยต่ำ ทำไมต้องมาปรนนิบัติคนอื่น เมื่อกี้ตอนคุยกันในโถงบ้าน คำพูดของจูเฟิ่งฮวาแต่ละคำยังบอกว่าลูกสาวคนโตไม่ดีอย่างนั้นอย่างนั้น เขาก็อึดอัดใจเหมือนกัน
“กิน กินเสร็จแล้วล้าง ไม่ต้องสนใจคนอื่น จากนั้นเข้าห้องนอน ให้พวกเขาทำกันเอง ถ้าพวกเขาว่าอะไร ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ใครก็อย่าออกมา”
เฉินจงพูดจบก็นั่งลงหยิบตะเกียบ
เฉินเยี่ยนและเฉินหู่มองหน้ากัน และหยิบตะเกียบเหมือนกัน แล้วกินอย่างรวดเร็ว
หวางนิวมองสามีและลูกสาว ลูกชายเริ่มลงมือกินแล้ว เธอก็กินเหมือนกัน
ทั้งสี่คนเห็นพ้องต้องกัน และไม่พูดอะไรอีก กินกันเสร็จอย่างเงียบๆ รอจนหวางนิวและเฉินเยี่ยนล้างหม้อแล้ว พวกเขาถึงออกไปพร้อมกัน
มีเฉินจงออกหน้า เฉินเยี่ยนตรงกลับเข้าห้องตัวเอง เดิมทีเธออยากจะเห็นสีหน้าโกรธของพวกช่างเหลียน จูเฟิ่งฮวาอยู่ ตอนนี้คิดแล้วช่างมันดีกว่า
แต่กลับมาคิดถึงวันนี้แล้ว เฉินเยี่ยนยังรู้สึกเสียใจอยู่ เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องแยกบ้านอยู่ แต่ครอบครัวนี้แยกกันแบบนี้แล้ว ถือว่าแม่ลูกช่างเหลียนช่วยตัวเองจริงๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ