Fantasy Love รักของผมนั้นมันแฟนตาซี
-
เขียนโดย Creatavity
วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.07 น.
1 บท
0 วิจารณ์
2,338 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2562 15.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) อารัมภบท
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความใต้ฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมา ณ ช่วงเดือน พฤษภาคม เสียงประกาศอันไพเราะของหญิงสาวดังขึ้น พร้อมกับแรงสะเทือนที่บ่งบอกว่ารถไฟฟ้าได้มาถึงแล้ว
เมื่อนั้นฝูงชนจำนวนมากรวมทั้งตัวผมก็พากันก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างในตู้โดยสาร โชคดีที่ผมเข้าเร็วกว่าคนอื่นหน่อยทำให้หาที่นั่งได้ ไม่จำเป็นต้องไปยืนเบียดกับคนอื่น
ไม่รู้แล้วกี่ครั้งเหมือนกันว่าทั้งชีวิตนั่งรถไฟฟ้าสายนี้ไปกี่ครั้ง เพราะมันบ่อยจนขี้เกียจจะนับให้ยุ่งยากแถมไม่จำเป็นอีกต่างหาก
แต่นี่เป็นครั้งแรกในรอบแปดปี หลังกลับมาจากต่างประเทศ
บรรยากาศที่ครุ่นเคย วิวทิวทัศน์ที่ครุ่นเคย ถึงจะแตกต่างไปบางตามกาลเวลาก็ตามที กระนั้นพอได้เห็นมันก็ชวนคิดถึง ทำเอาภาพความหลังในอดีตมากมายทะลักกลับมาเข้าในชั่วพริบตา
รู้สึกแปลก ๆ แบบในทางที่ดี....
ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะบรรยายความรู้สึกที่เป็นอยู่เยี่ยงไรดี...
ผมพึ่งกลับมาจากการไปเรียนมหาลัยที่เมืองนอก
เมื่อประมาณแปดปีก่อนหลังฝ่าฟันปัญหาและสิ่งต่าง ๆ มากมายในที่สุดผมก็สอบติดหนึ่งในมหาลัยที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง จากนั้นก็เรียนต่อโทที่นั้น ไม่ได้กลับบ้านเกิดเมืองนอนเลย
แต่ก็ไม่ได้กลับมาหางานในมาตุภูมิของตัวเองหรือกลับมาอยู่อาศัยหรอก...
วันนี้ผมกำลังนั่งรถไฟฟ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อไปหาเธอคนหนึ่ง
พอคิดถึง ภายในกายก็สัมผัสได้ถึงความร้อนอันมหาศาล หัวใจเต้นสั่นระรั่ว ใบหน้าแปรเป็นสีแดงสด พอมีเสียงร้องบอกว่าถึงจุดหมายแล้ว ผมก็รีบแทรกตัวผ่านฝูงชน ใส่แรงสุดฝีเท้า เพื่อมุ่งหน้าไปหาคนหนึ่ง ๆ
โดยไม่สนสายฝนที่สาดลงมากับพื้นถนนที่ชุ่มน้ำจากการระบายอันห่วยแตกของบ้านเกิดที่ดูท่าต่อให้นานแค่ไหนปัญหานี้ก็จะไม่หายสักที
ท้องฟ้าสีดำ ปกคลุมด้วยหมู่เมฆมากมาย กลับสายฝนที่ตกลงมาไม่หยุดหย่อน บ้าคลั่งรวมกับสายลมที่พากันพัดกระหน่ำอัดกระแทกเข้าใส่ร่าง ทำให้เซเกือบล้มหรือบางทีอาจจะโดนพัดปลิ่วตามแรงลมไปก็เป็นได้
ทว่ากระนั้นในใจของผมกลับไม่รู้สึกอะไรเลย...
นอกจากความ ‘ ตื่นเต้น‘
คล้ายกับวันนั้น
ณ ช่วงชีวิตวัยรุ่นยามที่ยังอยู่ในรั้วของโรงเรียน ม. ปลาย
ในวันสุดท้ายก่อนการจบ ช่วงเวลาที่ผมและเธอสามารถยิ้มให้กันจูงมือกัน ไปด้วยกัน เดินด้วยกัน เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม สีหน้ามีความสุขของเราสองในวันนั้นยังคงตราตรึงในส่วนลึกของหัวใจผมราวกลับตัวผมที่แท้จริงนั้นยังคงอยู่ในช่วงเวลานั้น อยู่กับเธอคนนั้น ส่วนเรื่องอื่นคือภาพมายาของอนาคต
แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องยอมรับว่าเรื่องนั้นผ่านมานานมากแล้ว
ผมครุ่นคิดเช่นนั้นระหว่างวิ่งฝ่าลมฝน เพื่อไปหาเธอ
รอยยิ้มกว้างผุดบนหน้าของผม
จากนั้นผมก็คิด.....
เกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกิดก่อนหน้า ในอดีตอันแสนไกลเกือบสิบปี ช่วงเวลาระหว่างเรา สิ่งที่เราเลือก เส้นทางของเรา คำสัญญาของเรา และความรู้สึกที่เรามีให้แก่กัน ทั้งหมดหลอมร่วมกัน บังเกิดเป็นความโหยหา จนยากจะอธิบาย ว่าจะทำยังไงให้เธอรับรู้และจากนี้จะทำยังไงดีเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ
ทั้งหมดเป็นเพราะ ------ วันนั้น
วันที่ทุกสิ่งเริ่มต้นขึ้น จุดเริ่มของความสัมพันธ์สองเรา ในรั้วของโรงเรียน บนโลกใบนี้ เรื่องราวระหว่างเราสอง ที่เริ่มต้น โดยมีกามเทพ นาม สหายผู้มาจากอนาคตคอยให้ความช่วยเหลือ
ณ วันเวลาขณะศึกษาอยู่ชั้น ม.5
จุดเริ่มของ-- สายสัมพันธ์ที่จะผูกโยงเราไปชั่วนิรันดร
ยามที่ด้ายแดงสองเส้นเชื่อมเข้าหากันจนมิอาจขาดออกจากกันได้
เรื่องราวของ ‘ ผม‘ ‘ เธอ‘ และ‘ เขา‘
เมื่อนั้นฝูงชนจำนวนมากรวมทั้งตัวผมก็พากันก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างในตู้โดยสาร โชคดีที่ผมเข้าเร็วกว่าคนอื่นหน่อยทำให้หาที่นั่งได้ ไม่จำเป็นต้องไปยืนเบียดกับคนอื่น
ไม่รู้แล้วกี่ครั้งเหมือนกันว่าทั้งชีวิตนั่งรถไฟฟ้าสายนี้ไปกี่ครั้ง เพราะมันบ่อยจนขี้เกียจจะนับให้ยุ่งยากแถมไม่จำเป็นอีกต่างหาก
แต่นี่เป็นครั้งแรกในรอบแปดปี หลังกลับมาจากต่างประเทศ
บรรยากาศที่ครุ่นเคย วิวทิวทัศน์ที่ครุ่นเคย ถึงจะแตกต่างไปบางตามกาลเวลาก็ตามที กระนั้นพอได้เห็นมันก็ชวนคิดถึง ทำเอาภาพความหลังในอดีตมากมายทะลักกลับมาเข้าในชั่วพริบตา
รู้สึกแปลก ๆ แบบในทางที่ดี....
ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะบรรยายความรู้สึกที่เป็นอยู่เยี่ยงไรดี...
ผมพึ่งกลับมาจากการไปเรียนมหาลัยที่เมืองนอก
เมื่อประมาณแปดปีก่อนหลังฝ่าฟันปัญหาและสิ่งต่าง ๆ มากมายในที่สุดผมก็สอบติดหนึ่งในมหาลัยที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง จากนั้นก็เรียนต่อโทที่นั้น ไม่ได้กลับบ้านเกิดเมืองนอนเลย
แต่ก็ไม่ได้กลับมาหางานในมาตุภูมิของตัวเองหรือกลับมาอยู่อาศัยหรอก...
วันนี้ผมกำลังนั่งรถไฟฟ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อไปหาเธอคนหนึ่ง
พอคิดถึง ภายในกายก็สัมผัสได้ถึงความร้อนอันมหาศาล หัวใจเต้นสั่นระรั่ว ใบหน้าแปรเป็นสีแดงสด พอมีเสียงร้องบอกว่าถึงจุดหมายแล้ว ผมก็รีบแทรกตัวผ่านฝูงชน ใส่แรงสุดฝีเท้า เพื่อมุ่งหน้าไปหาคนหนึ่ง ๆ
โดยไม่สนสายฝนที่สาดลงมากับพื้นถนนที่ชุ่มน้ำจากการระบายอันห่วยแตกของบ้านเกิดที่ดูท่าต่อให้นานแค่ไหนปัญหานี้ก็จะไม่หายสักที
ท้องฟ้าสีดำ ปกคลุมด้วยหมู่เมฆมากมาย กลับสายฝนที่ตกลงมาไม่หยุดหย่อน บ้าคลั่งรวมกับสายลมที่พากันพัดกระหน่ำอัดกระแทกเข้าใส่ร่าง ทำให้เซเกือบล้มหรือบางทีอาจจะโดนพัดปลิ่วตามแรงลมไปก็เป็นได้
ทว่ากระนั้นในใจของผมกลับไม่รู้สึกอะไรเลย...
นอกจากความ ‘ ตื่นเต้น‘
คล้ายกับวันนั้น
ณ ช่วงชีวิตวัยรุ่นยามที่ยังอยู่ในรั้วของโรงเรียน ม. ปลาย
ในวันสุดท้ายก่อนการจบ ช่วงเวลาที่ผมและเธอสามารถยิ้มให้กันจูงมือกัน ไปด้วยกัน เดินด้วยกัน เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม สีหน้ามีความสุขของเราสองในวันนั้นยังคงตราตรึงในส่วนลึกของหัวใจผมราวกลับตัวผมที่แท้จริงนั้นยังคงอยู่ในช่วงเวลานั้น อยู่กับเธอคนนั้น ส่วนเรื่องอื่นคือภาพมายาของอนาคต
แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องยอมรับว่าเรื่องนั้นผ่านมานานมากแล้ว
ผมครุ่นคิดเช่นนั้นระหว่างวิ่งฝ่าลมฝน เพื่อไปหาเธอ
รอยยิ้มกว้างผุดบนหน้าของผม
จากนั้นผมก็คิด.....
เกี่ยวกับทุกสิ่งที่เกิดก่อนหน้า ในอดีตอันแสนไกลเกือบสิบปี ช่วงเวลาระหว่างเรา สิ่งที่เราเลือก เส้นทางของเรา คำสัญญาของเรา และความรู้สึกที่เรามีให้แก่กัน ทั้งหมดหลอมร่วมกัน บังเกิดเป็นความโหยหา จนยากจะอธิบาย ว่าจะทำยังไงให้เธอรับรู้และจากนี้จะทำยังไงดีเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ
ทั้งหมดเป็นเพราะ ------ วันนั้น
วันที่ทุกสิ่งเริ่มต้นขึ้น จุดเริ่มของความสัมพันธ์สองเรา ในรั้วของโรงเรียน บนโลกใบนี้ เรื่องราวระหว่างเราสอง ที่เริ่มต้น โดยมีกามเทพ นาม สหายผู้มาจากอนาคตคอยให้ความช่วยเหลือ
ณ วันเวลาขณะศึกษาอยู่ชั้น ม.5
จุดเริ่มของ-- สายสัมพันธ์ที่จะผูกโยงเราไปชั่วนิรันดร
ยามที่ด้ายแดงสองเส้นเชื่อมเข้าหากันจนมิอาจขาดออกจากกันได้
เรื่องราวของ ‘ ผม‘ ‘ เธอ‘ และ‘ เขา‘
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ