ทวงรักนางซิน
-
เขียนโดย Phaky
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.
47 ตอน
1 วิจารณ์
37.04K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ความหวังดี...ที่ไม่ต้องการ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความโฉมหน้าพี่ชาเย็น ตอนแรกก็ว่าจะด่า พอเห็นรอยสักแล้วก็ อืม...อภัยให้พี่เค้าเถอะ 555
“วันนี้...”
“ห้าโมงเย็นค่ะ วันนี้มีแค่งานอบรมพนักงาน ไม่มีงานเลี้ยงตอนเย็น”
ยิ่งกว่ามองตาก็รู้ใจ เพราะเพียงแค่ธรธัญญ์หมุนตัวกลับมาแล้วอ้าปาก เทพิมพ์ก็สามารถตอบคำถามนั้นได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายพูดจบ รอยยิ้มซุกซนบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาบอกให้รู้ว่าหญิงสาวไม่เคยถือสาเรื่องความพูดน้อยของแฟนหนุ่ม มีไม่กี่ประโยคที่ธรธัญญ์พูดคุยเวลาอยู่ด้วยกัน เลิกงานกี่โมง พรุ่งนี้เข้างานตอนไหน นอกนั้นก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ก็น้อยมากจนนับคำได้ แรกๆอาจรู้สึกอึดอัด รับมือกับความเงียบระหว่างกันไม่ถูก ทว่าหลังๆชักชินชาจนเชี่ยวชาญ โชคดีที่เทพิมพ์ไม่ใช่คนพูดเก่งอยู่แล้ว ถ้าชายหนุ่มเงียบ เธอก็แค่เลียนแบบเขา เพียงเท่านั้นก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
“เมื่อคืน...”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ พิมพ์รู้ว่าคุณธัญญ์มีงานเยอะ เลยไม่ว่างไปส่งพิมพ์”
อีกเช่นเคยที่เทพิมพ์เข้าใจว่าธรธัญญ์จะพูดอะไร ใบหน้าเกลี้ยงเกลาส่ายไปมารัวเร็วเป็นหลักฐานยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกน้อยใจใดๆเลยที่เมื่อคืนแฟนหนุ่มไม่มารับตามนัด ไม่มีสาเหตุ ไม่มีข้อแก้ตัวว่าธรธัญญ์ไปทำอะไร มีเพียงลูกน้องหน้าเข้มของชายหนุ่มที่ยืนรอเธออยู่ที่ล็อบบี้พร้อมกระดาษโน๊ตว่าเขาคือสารถีที่ธรธัญญ์ส่งมาคอยรับส่งเธอแทนตัวเอง เทพิมพ์เอียงคอรอ เมื่อบุรุษหลังพวงมาลัยมองหน้าเธอเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างที่ไม่น่าใช่ประโยคสำเร็จรูปของเจ้าตัว
“วันนี้เลิกงานแล้วก็มารอที่เดิมแล้วกัน”
ทว่าคงคิดมากเกินไป เพราะท้ายที่สุดสิ่งที่ธรธัญญ์เอ่ยก็พูดประโยคเดิมสั่งการ ทว่าวันนี้เทพิมพ์ไม่สามารถยิ้มรับแล้วผละไปทำงานได้เหมือนเคย เมื่อเห็นคนร่างสูงยกมือขึ้นป้องปากพลางไอคอกแคกอย่างคนกำลังไม่สบาย
“คุณธัญญ์! ไม่สบายเหรอคะ ขอพิมพ์ดูหน่อย โชคดีจังค่ะที่ตัวไม่ร้อน”
คนห่วงแฟนรีบขยับร่างเข้ามาใกล้ เขย่งปลายเท้าเพิ่มความสูงแล้วส่งหลังมือน้อยวางทาบลงบนหน้าผากของธรธัญญ์วัดอุณหภูมิทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยแม้จะนั่งใกล้ชิดกัน เทพิมพ์ถอนหายใจโล่งอกเมื่อไม่พบความร้อนระอุบนผิวเนื้อของแฟนหนุ่ม ในจังหวะเดียวกับที่ธรธัญญ์ดึงใบหน้าออกห่างจากสัมผัสเกินเลยนั่น
“แค่คันคอนิดหน่อย”
“วันนี้พิมพ์เลิกไม่มืด ให้พิมพ์กลับเองก็ได้นะคะ”
คำพูดนั้นได้รับเป็นดวงตาคมสีเรืองรองที่ตวัดมองมา ดูคล้ายไม่ค่อยจะพอใจและต้องการคำอธิบายเร่งด่วน
“คุณธัญญ์ไม่ค่อยสบาย พิมพ์อยากให้คุณธัญญ์ได้พักค่ะ”
“บอกว่าแค่คันคอ ฉันขับรถได้ ทำตามที่บอก”
“งั้นพิมพ์ขอตัวก่อน แต่ถ้าคุณธัญญ์ปวดหัวหรือไอหนักกว่าเดิม โทร.บอกพิมพ์นะคะ พิมพ์จะเอายาไปให้”
คงเพราะไม่เคยขัดใจเขา สุดท้ายเทพิมพ์ก็ต้องยอมลงให้กับความดื้อของธรธัญญ์ ทว่าความห่วงใยกลัวอาการของชายหนุ่มจะเป็นหนักขึ้นจึงถือวิสาสะออกคำสั่งกับชายหนุ่มผู้เป็นถึงเจ้าของโรงแรม ความไม่คุ้นเคยทำให้ดวงตาของคนถูกสั่งขุ่นขึ้นเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับตัดรำคาญ แล้วหลบหนีความเจ้ากี้เจ้าการเกินกว่าเหตุของแฟนสาวไปยังลิฟต์ของผู้บริหาร ระหว่างที่ก้าวขาไปด้วยจังหวะมั่นคงเหมือนต้องการโชว์คนยืนจับตามองว่าร่างกายของเขายังคงแข็งแรงปกติ แต่เทพิมพ์กลับสังเกตเห็นว่าแผ่นหลังกว้างขยับขึ้นลงอยู่หลายครั้ง เดาว่าธรธัญญ์คงพยายามเก็บเสียงกระแอมในลำคอ เทพิมพ์มองตามด้วยความไม่สบายใจนัก ไม่รู้ว่าสาเหตุที่คนรักป่วยไข้เพราะอดนอน ต้องขับรถไปส่งเธอกลับบ้านดึกดื่นหลายคืนติดกัน แล้วยังต้องกลับมานั่งปั่นงานของตัวเองต่อหรือเปล่า
‘น้ำขิงมะนาว ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ดี’
ปกติเทพิมพ์เป็นคนตั้งใจทำงานมาก ยิ่งเป็นแฟนกับเจ้าของโรงแรม หญิงสาวก็ยิ่งขยันเพื่อไม่ให้เสียชื่อไปถึงธรธัญญ์ ทว่าวันนี้จิตใจของเทพิมพ์ไม่นิ่งเหมือนเคย เพราะมันมีแต่ความห่วงใยให้คนที่อยู่ชั้นบนสุดของนาราแกรนด์โฮเทล แล้วก็สิ้นสุดความกังวลเมื่อเสิร์ชข้อมูลในอินเตอร์เน็ตได้ความว่าน้ำขิงอุ่นๆผสมมะนาวช่วยลดอาการคันคอให้ดีขึ้นได้
“คุณธัญญ์คะ พิมพ์เอาน้ำขิงอุ่นๆมา เอ่อ... ขอโทษค่ะ”
เดิมตั้งใจจะฝากให้คุณจงจิตต์ เลขาฯสาวใหญ่หน้าห้องเป็นคนนำน้ำขิงมาให้ธรธัญญ์เพราะเธอแอบฉวยจังหวะที่งานสัมมนาพักเบรกมาได้ไม่นาน แต่ที่โต๊ะของเลขาฯคนเก่งกลับว่างเปล่า ความห่วงใยบังตาทำให้เทพิมพ์ไม่คิดหน้าคิดหลัง หญิงสาวเคาะประตูตามมารยาทแล้วหมุนลูกบิดเมื่อได้ยินเสียงแฟนหนุ่มอนุญาต ทว่าสายตาที่ธรธัญญ์เงยขึ้นมองมากลับไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยเมื่อเห็นว่าเป็นเธอ และเทพิมพ์ก็ทำได้แค่ยืนแข็งทื่อเป็นหลักกิโลเมตรอยู่ตรงหน้าประตูเมื่อเห็นว่าในห้องสีเทาสลับดำดูลึกลับนั้นมีสาวสวยจัดคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงที่พักแขนของเก้าอี้ทำงานตัวเดียวกับที่ธรธัญญ์นั่งอยู่ ทั้งคู่คงสนิทกันมาก มิเช่นนั้นที่ลำคอแข็งแกร่งของธรธัญญ์คงไม่ถูกคล้องไว้ด้วยเรียวแขนขาวนวล
“ฉันสั่ง?”
ดวงตาหม่นเศร้าละจากความงามของสตรีนางนั้นกลับมามองเจ้าของเสียงห้วน ความโกรธที่แสดงออกบนใบหน้าคมของธรธัญญ์ปลุกชีพจรของเทพิมพ์กลับคืนสู่ร่างเย็นเฉียบ ดวงตากลมเผลอมองตัดพ้อแฟนหนุ่มที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นถึงเนื้อถึงตัวต่อหน้าเธอแวบหนึ่งก่อนก้มหน้าชาๆมองพื้นแล้วส่ายศีรษะแทนคำตอบ ไม่มีใครสั่งทั้งนั้นแหละ แก้วน้ำขิงอุ่นๆในมือคือความสาระแนของเธอล้วนๆ
“ธัญญ์คะ ทำไมต้องดุเธอด้วยล่ะคะ น้องเขาทำตามหน้าที่ ขอบใจมากนะจ๊ะ เอ... หน้าคุ้นๆนะเราน่ะ”
แขกสาวของธรธัญญ์คุ้นหน้าเทพิมพ์ แต่เทพิมพ์กลับจดจำใบหน้าสวยสะคราญของหญิงสาวได้แม่นยำไม่เคยลืม เธอคือผู้หญิงคนเดียวกับที่ได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวของงานเมื่อคืน ทว่าเวลานี้เทพิมพ์กำลังพยายามกลั้นก้อนอะไรสักอย่างที่มันตีขึ้นมาจากลำคอ จึงไม่สามารถเปล่งเสียงออกไปได้
“กลับไปทำหน้าที่ของเธอ”
ร้ายแรงกว่าโดนดุคือถูกไล่ เจ็บซ้ำเจ็บซ้อนคือคนที่พูดประโยคทำร้ายจิตใจทั้งสองคือธรธัญญ์ คนที่เป็นแฟนของเธอเองแต่กลับเลือกไล่เธอออกไปพ้นหน้า แล้วปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นนัวเนียแนบชิด นี่ธรธัญญ์ไม่แคร์เลยหรือว่าเธอจะน้อยใจ หึงหวง หวาดระแวง หรือเจ็บช้ำกับภาพบาดตาบาดหัวใจนี้ขนาดไหน
“จิบตอนยังอุ่น จะช่วยให้อาการไอดีขึ้นค่ะ”
ชาไปทั้งร่างแล้วกับความหมางเมินที่ธรธัญญ์ขว้างใส่ ในสายตาของชายหนุ่มที่มองมาเหมือนเธอคือคนแปลกหน้า และคนแปลกหน้าคนนี้ก็กำลังจะหมดแรงทรงตัวแล้วด้วย ทว่าความอุ่นที่กระทบฝ่ามือย้ำเตือนความห่วงใย เทพิมพ์จึงสูดลมหายใจเข้าปอด กลั้นใจพยุงเรียวขาสั่นๆเดินเข้าไปยังโต๊ะทำงานของธรธัญญ์แล้ววางแก้วน้ำขิงที่หนักอึ้งเหลือเกินลงบนโต๊ะ ไม่ว่าชายหนุ่มจะดื่มมันหรือไม่ แต่ความปรารถนาดีของเธอได้จบลงแล้ว ส่วนเกินจึงรีบหมุนตัวกลับแล้วเดินแกมวิ่งออกไปจากห้องทำงานของธรธัญญ์ก่อนน้ำตาที่ปริ่มอยู่ตรงขอบตาจะหยดเลอะพื้นพรมในห้องทำงานของชายหนุ่มให้สกปรก
************************************************************************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ