ทวงรักนางซิน

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.

  47 ตอน
  1 วิจารณ์
  37.95K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

34) ปกป้อง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

จะว่าอะไรหนูพิมพ์อ่ะ ดูหน้าผัวเค้าก่อนเน้อ

++++++++++++++++

“ไหน บอกทรายมาซิว่าพิมพ์มีอะไรข้องใจคุณธัญญ์ ไม่ต้องมาปกปิดด้วย ทรายเห็นนะว่าตอนอยู่ที่ลานจอดรถ พิมพ์เอาแต่หลบหน้าไม่ยอมมองคุณธัญญ์เลย”

“จะไปคาดคั้นพิมพ์ให้เสียเวลาทำไมล่ะจ๊ะทราย แค่นี้ยังดูไม่ออกอีกเหรอว่าผู้ชายเขาไม่ได้จริงจังด้วย พิมพ์จ้ะ ม่านเคยเตือนด้วยความหวังดีแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้เจียมเนื้อเจียมตัว คนระดับคุณธัญญ์ไม่มีทางใฝ่ต่ำเลือกผู้หญิงแบบพิมพ์เป็นเมีย เป็นแม่ของลูกหรอก ทำไมยังกล้าไปเสนอหน้าให้คุณธัญญ์ต้องรำคาญตาด้วย”

“ใครกรวดน้ำให้เหรอถึงได้เสนอหน้ามารับส่วนบุญ สาระแน!”

คนถูกถามไม่พูด คนพูดดันเป็นคนที่ไม่ได้ถาม เม็ดทรายทำหน้าเซ็งจัดเมื่อเอี้ยวตัวมองไปด้านหลัง เป็นอันว่าการซักฟอกเรื่องราวจากปากเทพิมพ์ต้องกลายเป็นหมันเพราะมีบุคคลไม่ได้รับเชิญและไม่เคยคิดจะเชิญเสนอหน้าเข้ามาร่วมวง เทพิมพ์กับเม็ดทรายยืนขึ้นพร้อมกันเมื่อเอื้อมดาวกับม่านฟ้าพาตัวเองเข้ามาถึงตัว

“ไม่มีหรอกจ้ะ แค่บังเอิญผ่านมาเห็นแล้วเวทนาผู้หญิงหน้าด้าน ไม่ยอมรับความจริงน่ะ”

คนพูดก็พูดไม่จริงเช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เอื้อมดาวรีบมาที่ห้องแต่งตัวทันทีเพราะได้ยินพนักงานที่เลาจน์เมาท์กันว่าเห็นเทพิมพ์นั่งรถมาทำงานพร้อมกับธรธัญญ์ ต่อมเผือกผสมกับความอิจฉามวลใหญ่มันสั่นไหวรุนแรงจนรั้งรอทำงานต่อไม่ไหว เอื้อมดาวจึงแท็กมือกับม่านฟ้าแอบโดดงานมาดูให้เห็นด้วยสองตาว่าเรื่องเมาท์นั้นเท็จจริงเพียงใด ไม่อย่างนั้นคงไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน

“ถ้าไม่รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง ก็หุบโพรงเลี้ยงหนอนของหล่อนไปเถอะนะเอื้อมดาว”

“ลองเล่าความจริงที่ว่าให้เราสองคนฟังหน่อยสิจ๊ะทราย เผื่อเราสองคนจะเชื่อ”

“ไม่ใช่เรื่องจำเป็น”

“เล่าไม่ได้ แสดงว่าที่ฉันสองคนได้ยินมาว่ามีผู้หญิงหน้าด้านไปอ่อยคุณธัญญ์ถึงห้องทำงานก็เป็นเรื่องจริง”

“ที่ไม่เล่าเนี่ยไม่ใช่เพราะเป็นความลับอะไรหรอกนะ แต่มันแค่ไม่ใช่เรื่องของพวกขี้เผือกอย่างหล่อนน่ะ”

“พิมพ์จ๊ะ เผื่อยังไม่รู้ เมื่อวานตอนเย็น เอื้อมเห็นคุณเวนิสแต่งตัวสวยแล้วก็ขึ้นไปหาคุณธัญญ์ที่ห้องทำงาน หายไปพักใหญ่เลยล่ะกว่าที่คุณเวนิสจะลงมา พิมพ์ลองใช้สมองกลวงๆคิดสิว่าคุณเวนิสขึ้นไปทำอะไรข้างบนน๊าเป็นนานสองนาน อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิ ที่เล่าเนี่ยไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พิมพ์รู้สึกแย่หรอกนะ แต่เอื้อมหวังดีอยากให้พิมพ์เลิกละเมอเสียที”

รู้ตัวว่าฝีปากกับฝีมือไม่เคยเอาชนะเม็ดทรายได้สักครั้ง รวมถึงครั้งนี้ด้วยที่โดนตอกกลับมาหน้ายับ เอื้อมดาวจึงเบนเข็ม หันไปเล่นงานอริตัวสำคัญแทน จริงๆแม่นี่ก็ไม่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอเลยสักครั้ง แต่เพราะเทพิมพ์ ผู้หญิงประเภทที่ใช้แว่นขยายส่องแล้วส่องอีกก็ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีกว่าพวกเธอตรงไหนกำลังจะได้ดีกว่าอย่างไม่ยุติธรรม เอื้อมดาวกับม่านฟ้าจึงแต่งตั้งให้หญิงสาวเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง อะไรก็ตามที่ทำแล้วบั่นทอนความรู้สึกของเทพิมพ์ได้ เอื้อมดาวกับม่านฟ้าจะไม่รีรอสักวินาที

“พิมพ์”

แต่นั่นมันก่อนที่เทพิมพ์จะมีองครักษ์ส่วนตัวที่ชื่อธรธัญญ์ หากเป็นเดี๋ยวนี้น่ะหรือ อย่าหวังว่าสามีสุดหล่อของเทพิมพ์จะยอมให้ใครมารังแกภรรยาตัวเองง่ายๆ แต่ที่ยอมให้ผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนนั้นแพล่มจนจบก็แค่รอให้อะดรีนารีนที่พลุ่งพล่านคงที่ ธรธัญญ์จึงเข้ามาปรากฏตัวต่อหน้าสี่สาวถึงในห้องแต่งตัว หลังตัดสินใจลงมาตามเมียกลับห้องทำงานแล้วดันเจอแจ็กพ็อต ถ้าเป็นปกติคงไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องทะเลาะหยุมหยิมของผู้หญิง แต่บังเอิญเรื่องที่หาความจริงแทบไม่ได้นี่มันเกี่ยวข้องกับเทพิมพ์ที่รักของเขา สี่สาวหันมองด้านหลัง แน่นอนว่าทั้งสี่ตกใจจนอ้าปากค้างที่เห็นเจ้าของโรงแรมมายืนในพื้นที่แคบๆของพนักงาน โดยเฉพาะเอื้อมดาวกับม่านฟ้าที่เหมือนจะยืนไม่อยู่เอาดื้อๆ

“คุณธัญญ์!” เทพิมพ์ตกใจหน้าเจื่อน กลัวถูกดุเพราะเมื่อครู่ธรธัญญ์เพิ่งคาดโทษมาตามสายหากขึ้นไปช้า

“คุณธัญญ์ มารับพิมพ์เหรอคะ”

ส่วนเม็ดทรายน่ะตกใจจนดวงตาเป็นประกายวิบวับเมื่อผัวเพื่อนช่างมาได้ถูกที่ถูกเวลา ก่อนปรายตามองคู่อริ หลักฐานตัวเป็นๆมายืนตรงหน้าแล้ว ตายยกแพ็กแน่ นางผีเจาะปากทั้งสอง

“อืม พิมพ์ มานี่ซิ เป็นอะไร ทำไมตาแดง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า เม็ดทราย ใครทำอะไรพิมพ์”

เทพิมพ์เดินช้าจนคนเรียกต้องเป็นฝ่ายกระชากร่างบางเข้าหาตัว คราแรกก็แทบดุคนในอ้อมแขนที่ปล่อยให้เขานั่งรอเดียวดายในห้องทำงานตามลำพัง แต่พอเห็นชัดๆว่าดวงตากลมนั้นฉ่ำแดงคล้ายคนกำลังกลั้นน้ำตา ธรธัญญ์จึงรวบเอวบางเข้าไปกอดแนบอก ปลายนิ้วใหญ่ลูบไล้ผิวแก้มนวลเนียนแผ่วเบา ก่อนฉกริมฝีปากจูบหนักๆบนเส้นผมนุ่มปลอบโยน ทุกสัมผัสที่มอบให้คนในอ้อมแขนเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แต่เมื่อเบี่ยงหน้าถามหาต้นตอที่ทำให้เทพิมพ์ตาแดง นัยน์ตาของคนถามกลับเต็มไปด้วยความดุดันจนเอื้อมดาวกับม่านฟ้าแอบย่นคอ ยกเว้นคนถูกถามที่ยิ้มร่า ไม่ได้หวั่นไหวกับประกายกร้าวที่มองมาสักนิด เพราะคันปาก อยากฟ้องใจจะขาด เมื่อธรธัญญ์โยนโอกาสนั้นมาให้ราวกับรู้กัน เม็ดทรายจึงลอยหน้าลอยตาฟ้องไม่รีรอ

“มีคนนิสัยไม่ดีแกล้งพิมพ์ค่ะคุณธัญญ์”

“ใคร!”

“เอิ่ม...ชื่อ ชื่ออะไรน๊า พอดีวันนี้ยังไม่ได้ดื่มกาแฟ สมองทรายก็จะช้าๆหน่อยน่ะค่ะ สักครู่นะคะ ขอทรายนึกก่อน คุ้นๆว่าชื่อขึ้นต้นด้วยอ.อ่างกับม.ม้า ขอเวลาให้ทรายนึกซักแป๊บนะคะคุณธัญญ์ มันติดอยู่ที่ปากค่ะ เอื้อมกับม่าน...”

เจ้าของชื่อทั้งสองสะดุ้งจนไหล่โยนพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายก่อนลอบมองเม็ดทรายด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อเพราะทราบดีว่ากำลังถูกเอาคืน แต่คนถูกสาปแช่งด้วยสี่ตาหาได้แคร์ เม็ดทรายผินวงหน้าเจ้าเล่ห์กลับมามองสองสาวที่ยืนเงียบสนิทผิดธรรมชาติ พลางขยิบตาเยาะเย้ย เม็ดทรายแกล้งลากเสียง ทอดเวลาให้คนมีชนักติดหลังยืนลุ้นระทึกว่าเธอจะพูดว่าอะไร จนเห็นว่าหนังหน้าของเอื้อมดาวกับเม็ดทรายนั้นซีดสนิท กลัวว่าสองสาวจะจิตตกจนเส้นเลือดแตกตายไปก่อน คนถือไพ่เหนือกว่าจึงจีบปากจีบคอถามเสียงหวาน

“พอจะนึกออกไหมจ๊ะ”

“เอ่อ... คือ...”

“ฉันจะพาพิมพ์ไปพัก ถ้าเธอนึกออกก็มาบอกฉัน แล้วอย่าลืมเตือนคนพวกนั้นด้วยว่า ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ อย่าแตะต้องแฟนฉันอีก”

คนหวงเมียสั่งการกับเม็ดทราย ทว่าคนที่ก้มหน้าสลดวูบหลังได้ยินคำขู่ด้วยน้ำเสียงห้วนดุกลับเป็นม่านฟ้ากับเอื้อมดาว นี่หากไม่กลัวว่าเทพิมพ์จะกลายเป็นขี้ปากให้พนักงานพากันนินทา ธรธัญญ์จะยืนยันสถานะให้สองสาวได้ยินชัดๆไปเลยด้วยซ้ำว่าผู้หญิงหน้าจืดในอ้อมแขนเป็นเมียเขา ก็เท่ากับเป็นเจ้าของโรงแรมนี่ครึ่งหนึ่ง และผัวของเทพิมพ์ที่เป็นเจ้าของนาราแกรนด์โฮเทลที่เจ้าหล่อนสองคนฝึกงานก็รักเมียมาก ต่อไปจะพูดจะจาอะไรจะได้ระวังเงาหัวกันไว้ ธรธัญญ์ปรายตามองอริของเมียแล้วสูดลมหายใจระงับอารมณ์ ปกติเป็นคนใจเย็นประดุจมีจุดเยือกแข็งซ่อนอยู่ในตัว แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเทพิมพ์ แม้เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย จุดเดือดของธรธรธัญญ์กลับต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนน่าใจหาย ยิ่งนึกถึงคำพูดแดกดันที่ทำให้เทพิมพ์ตาแดงเมื่อครู่ก็ยิ่งหายใจรุนแรง เกรงว่าอยู่นานอีกนิดแล้วจะเผลอจับสองสาวปากมอมมาหักคอ ธรธัญญ์จึงรีบประคองเทพิมพ์ออกไปจากห้องแต่งตัว

“รับทราบค่ะคุณธัญญ์”

เม็ดทรายยิ้มกว้างรับคำสั่งก่อนหันมายิ้มร้ายแล้วยักคิ้วกวนๆให้เพื่อนร่วมงานทั้งสองสติแตกเล่น ยืนสงบเสงี่ยมรอจนธรธัญญ์ประคองเทพิมพ์ออกไป หญิงสาวจึงออกลวดลายเอาคืนเอื้อมดาวกับม่านฟ้าที่กลายเป็นใบ้ไปชั่วขณะ มุมปากจิ้มลิ้มกดลึก ก็สมควรจะใบ้ เพราะคำพูดของธรธัญญ์ทุกคำนั้นหนักแน่น ชัดเจน จนอุดปากหมาได้สนิทนัก สะใจ!

“ถ้าตาไม่บอด คงได้เห็นเต็มตาแล้วใช่ไหมว่าคุณธัญญ์ถนอมพิมพ์มากขนาดไหน และถ้าหูไม่พิการเหมือนใจ ก็คงได้ยินที่คุณธัญญ์พูดชัดแล้วเนอะว่าพิมพ์เป็นแฟน ไม่ใช่ของเล่นอย่างที่พวกขี้อิจฉาโง่ๆเอาไปนินทา วันนี้ฉันใจดี ยอมปล่อยพวกเธอไป แต่ถ้ามีครั้งหน้า ขอแค่คำเดียวที่พวกแกใส่ร้ายพิมพ์ อย่าหวังว่าฉันจะอยู่เฉย เฮ้อ... พูดนานๆแล้วคอแห้ง ฉันไปหากาแฟอร่อยๆดื่มดีกว่า เผื่อสมองจะโล่ง คันปากยิบๆอยากฟ้อง ไปด้วยกันไหมล่ะจ๊ะเพื่อนเอื้อม เพื่อนม่าน”

เม็ดทรายยืนกอดอกมองหญิงใบ้ทั้งสองด้วยแววตาเปล่งประกาย นอกเหนือจากความสะใจที่วันนี้ได้เห็นคู่ปรับอย่างเอื้อมดาวกับม่านฟ้าทำได้แค่เป็นผู้รับฟัง ไม่ปากเก่งเหมือนแต่ก่อน ก็คงเป็นความสุขใจที่ได้รู้ว่าเบื้องบนกำลังตอบแทนความมั่นคงซื่อสัตย์ของเทพิมพ์แล้ว ยืนยันได้จากอ้อมแขนแข็งแกร่งของธรธัญญ์ยามโอบประคองเรือนร่างบอบบางและสถานะชัดเจนเสียงดังฟังชัดจากปากของชายหนุ่มเพื่อปกป้องเทพิมพ์จากคำครหา จากนี้นางซินคนสวยของเธอจะไม่ต้องนอนร้องไห้เพราะหลงรักธรธัญญ์ข้างเดียวอีกต่อไป หมดห่วงแล้ว

.......................................................................................................

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา