ทวงรักนางซิน
เขียนโดย Phaky
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.
แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
31) เดือด2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความดื้อนักจับกินซะเลย งั่มๆๆ
*****************************
‘ผู้หญิงคนนี้ของกู!’
นึกถึงหน้าพวกมันแล้วหนวดกระตุก เขาไม่อยากเป็นฆาตกรฆ่าใคร พอๆกับไม่ชอบจะเห็นผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เทพิมพ์ในระยะสิบเมตร หากจับเทพิมพ์กลืนลงท้องซะ อำนาจในการถีบผู้ชายคนอื่นไม่ให้มาเกาะแกะกับหญิงสาวก็จะตกเป็นของเขาทันที ถึงไม่ใช่ตอนนี้ อย่างไรเทพิมพ์ก็หนีเงื้อมมือของเขาไม่พ้น ด้วยรู้แก่ใจตัวเองมาสักพักแล้วว่าหญิงสาวคือผู้หญิงที่อยากให้ยืนเคียงข้าง จะช้าหรือเร็วเหตุการณ์แบบนี้ก็ต้องเกิดขึ้น สรุปกับตัวเองอย่างนั้น ธรธัญญ์จึงโน้มใบหน้าลงจุมพิตเรียวปากสีกุหลาบ จูบซับความนุ่มนิ่มแผ่วๆ ซ้ำไปวนมาจนแขนขาเล็กๆหมดแรง คนตัวโตยิ้มเอ็นดูกับปฏิกิริยาของสาวน้อยใต้ร่าง เพราะนี่แค่เพียงเริ่มต้น เทพิมพ์ก็มีอาการแข้งขาอ่อนเสียแล้ว ไม่อยากนึกว่าหากไปถึงจุดสูงสุดของความสัมพันธ์ แล้วอาการของคนด้อยเดียงสาจะน่ารักน่าฟัดขนาดไหน
จากบดเบียดสร้างความคุ้นเคย จุมพิตของธรธัญญ์ก็ค่อยๆทวีความร้อนแรงแผดเผาร่างบางให้ร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยรู้สึกสับสนในตัวเองเช่นนี้มาก่อน ปลายลิ้นสากระคายที่ไล้เลียกลีบปากนุ่มมันควรให้ความรู้สึกฉ่ำเย็น แต่ความเป็นจริงกลับไม่เลย เทพิมพ์เผยอริมฝีปากออกจากกันเมื่อทุกสัมผัสที่ปลายลิ้นเชี่ยวชาญแตะแต้มเหมือนถูกลวกด้วยเหล็กรนไฟ จนเปิดโอกาสให้ธรธัญญ์ส่งลิ้นโชกโชนประสบการณ์เข้าไปเกี่ยวพัน ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่ความร้อนที่ได้รับก็หาได้สร้างความเจ็บปวด กลับตรงข้าม เวลานี้เธอรู้สึกตัวเบาหวิวคล้ายกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ ก่อนถูกกระชากตกลงสู่เตียงนอนอีกครั้งเมื่อธรธัญญ์ถอนริมฝีปากออกห่าง ดวงตาปรือปรอยช้อนขึ้นมองคนที่นอนทับร่าง เทพิมพ์คงไม่รู้ตัวว่านัยน์ตากลมกำลังอ้อนวอนขอจุมพิตที่เคยเบี่ยงหน้าหนี ริมฝีปากร้อนจึงกดจูบบนหน้าผากเนียนไปหนักๆด้วยความมันเขี้ยว
“ใจเย็น คนสวย”
“คะ...คุณธัญญ์”
“ฉันเอง คุณธัญญ์ของเธอ”
กรรมสิทธิ์ที่ได้รับทำเอาเทพิมพ์ล่องลอย กว่าจะรู้ตัวว่าถูกประกายหวานในดวงตาคมล่อลวงก็ตอนที่ตะขอชั้นในหลุดออกจากที่ของมัน เปิดเผยทรวงอกขนาดพอดีกับเรียวปากสู่สายตาวาววับที่จ้องมองมันด้วยความพอใจ เจ้าของอกอิ่มนั้นแสนอายจึงพยายามพลิกตัวหนี แต่ติดที่ข้อมือทั้งสองถูกตรึงไว้กับที่นอน แน่นราวตอกด้วยหมุดหนาจนดิ้นหนีไม่รอด เทพิมพ์จึงเลือกหลับตาปี๋หนีความกระดาก แค่ถูกจ้องก็ใจสั่นจะแย่ แต่ยังมีแย่กว่านั้นจนร่างบางผวาเฮือกเมื่อถูกคนตัวโตก้มหน้าซุกหว่างอก ก่อนเกร็งตัวกลั้นลมหายใจเมื่อถูกคนบนร่างไล้ปลายลิ้นยอดถันที่มีสีหวานกว่าบราเป็นไหน
“ฮื้อ...”
มัน... สับสนเหลือเกิน ใจหนึ่งอับอายจนอยากร้องขอให้ธรธรธัญญ์หยุดการรุกรานนี้ แต่ร่างกายที่ควรร่วมมือกันขัดขืนกลับบิดไปบิดมายามริมฝีปากสุดเซ็กซี่ดูดกลืนอกอิ่มรุนแรงราวกับมีหยดน้ำนมรินไหล จนเรียวปากไม่รักดีนึกอยากอ้าออกกว้างแล้วส่งเสียงร้องครวญครางระบายความซ่านสยิวที่ตีวนในร่างจนรู้สึกอึดอัด แต่หากทำดั่งใจคงไม่กล้าสู้หน้าตัวการอีกเป็นแน่ เทพิมพ์จึงต้องพยายามตั้งสติด้วยความยากเย็นแล้วเม้มปากให้แน่นที่สุดป้องกันเรื่องขายหน้า
‘เด็กน้อย’
เจ้าของริมฝีปากที่กำลังกดจูบอ้อยอิ่งบนไหล่บางคิดในใจอย่างเอื้อเอ็นดู ผิวกายทุกตารางนิ้วที่ดวงตาเยิ้มหวานมองเห็นนั้นแดงเถือก ไม่เว้นแม้แต่ใบหน้าลามไปจนถึงหลังกกหูก็แดงก่ำราวกับตกถังสี มันคือหลักฐานแสดงความอ่อนด้อยเดียงสาของคนใต้ร่าง ยิ่งเห็นริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มแน่นกลั้นเสียงครางก็ยิ่งนึกมันเขี้ยวจนอยากจับร่างบางมาฟัดทั้งตัว เริ่มแรกก็นึกแปลกใจที่ผ่านมาหลายนาทีแต่เขาก็ยังทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าจุมพิตผิวเนื้ออ่อนใส ด้วยทราบดีว่าตัวเองเป็นวัตถุไวไฟอานุภาพร้ายแรง แต่แล้วก็เจอคำตอบว่าเป็นเพราะเขากำลังหลงใหลความหอมหวานจากเนื้อนวลสะอาด เป็นความหอมหวานที่ไม่เคยพานพบจากสตรีร้อยพันที่เคยผ่านมา
‘ผู้หญิงคนนี้เป็นของกูคนเดียว!’
กระไอความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเกิดขึ้นฉับพลัน ความหวงแหนแล่นพล่านจนนึกปรารถนาตีตราประทับเป็นเจ้าของบนผิวเนียนเกลี้ยงนี้แต่เพียงผู้เดียว แล้วธรธัญญ์ก็ไม่ทำแค่นึก ริมฝีปากร้อนจึงไต่จูบจากไหล่บอบบางไปยังแอ่งชีพจรบริเวณลำคอเล็กๆ ก่อนแช่นิ่งกับโนมเนื้อนูนขาวผ่องอย่างเชื่องช้าปลุกอารมณ์กำหนัดของเทพิมพ์ให้พลั่งพร้อม ในขณะที่สองมือนั้นช่วยกันปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ยังปิดคลุมความงามส่วนล่าง สองมือเล็กๆที่ถูกปล่อยเป็นอิสระพยามดันบ่ากว้างออกห่าง แต่เรี่ยวแรงเท่ามดมีหรือที่จะหยุดคนตัวโตได้ ไม่นานกระโปรงผ้าฝ้ายยาวคลุมเข่าของเทพิมพ์ก็ลงไปกองอยู่ข้างเตียง มือใหญ่ขยับยุกยิกอีกอึดใจ ซับในตัวบางสีชมพูก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน
“สวย”
ลมหายใจของธรธัญญ์สะดุดไปเลยเมื่อสองตามองเห็นความงดงามของสาวสะพรั่ง ดวงตาคู่คมตรึงอยู่กับสัดส่วนนั้นเนิ่นนานจนใบหน้าของเทพิมพ์เห่อร้อน คนขี้อายพลิกตัวนอนคว่ำหนีสายตาโลมเลีย การกระทำนั้นขัดความสำราญเสียจนธรธัญญ์ส่งเสียงคำรามในลำคอ ไม่รู้จะต้องอายทำไม ในเมื่อรูปร่างของหญิงสาวนั้นออกจะน่าฟัด เทพิมพ์ตัวเล็กแต่ก็มีทรวงอกกลมกลึง เอวคอดเว้ารับกับสะโพกผายได้รูป ว่าแล้วก็แล้วพลิกร่างสวยกลับมานอนในท่าเดิม โครงการตีตราประทับผิวเนื้อเนียนถูกพับกะทันหันเมื่อโนมเนื้ออุ่นกลางกายสาวยามเทพิมพ์พยายามหนีบขาเข้าหากันมันช่างยั่วกิเลส ไม่รั้งรอใดๆ ใบหน้าคมก็ก้มลงตรงแอ่งผลิตน้ำผึ้งรสเลิศ กลิ่นสาบสาวบริสุทธิ์ยั่วให้ปลายลิ้นของธรธัญญ์ตวัดไล้ดื่มชิมความหวาน แล้วก็หวานสมใจจนธรธัญญ์ฝังใบหน้าอยู่ตรงนั้นแล้วดื่มกินหยาดน้ำผึ้งที่หลั่งไหลดั่งสายน้ำเชี่ยวกรากเอาเป็นเอาตาย
“ฮื้อ...”
คนกินก็กินเสียตะกละตะกลามไม่เห็นใจคนถูกกินเลยสักนิด เพราะจากที่กัดฟันกลั้นเสียงร้องน่าขายหน้าไว้ได้แต่ตอนนี้ความซ่านเสียวจากปลายลิ้นร้ายกาจมันมากเกินกว่าที่เทพิมพ์จะฝืนสกัดกลั้นความทรมาน สะโพกกลมแอ่นหยัดจากที่นอนทุกครั้งที่ถูกปลายลิ้นสากลุกล้ำ ใบหน้าเหยเกสะบัดส่ายจนเส้นผมสยายพัวพันยุ่งเหยิง สองมือจิกทึ้งผ้าปูที่นอนแน่น ปลายเท้าจิกเกร็งหงิกงอก่อนตวัดรัดร่างสูงที่คร่อมทับแนบแน่นตามสัญชาตญาณ แต่การดิ้นเร่าๆอย่างคนบ้าคลั่งนั้นหาได้ช่วยลดทอนความทรมานลงเลยสักนิด เพราะเรียวปากน้อยๆยังคงส่งเสียงหวานครางครวญดังลั่นห้องปิ่มว่าจะขาดใจไม่ได้เว้นว่างสักวินาที
“ฮื้ออ... คุณธัญญ์ พะ...พิมพ์ พิมพ์หายใจไม่ออก”
แล้วก็เกือบจะขาดใจเข้าจริงๆเมื่อคนอ่อนเดียงสาไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรกับความร้อนที่มันไต่ระดับสู่ที่สูง ร่างกายมันอึดอัดเหมือนถูกยัดเยียดด้วยมวลของความสุขก้อนโตที่พองขยายในทุกวินาทีที่เลยผ่าน คล้ายลูกโป่งที่กำลังถูกสูบลม ทว่าก็เป็นลมของความสุขที่อัดแน่นมากเกินร่างกายเล็กๆที่กำลังสั่นระริกของเธอจะรับเอาไว้ได้ ศีรษะสะบัดส่าย สองแขนสองขาน้อยๆปัดป่ายไร้ทิศทางเมื่อมันทั้งสุขและเป็นทุกข์ในเวลาเดียวกัน ทรมานเหลือเกินเมื่อรู้สึกว่าเนื้อตัวกำลังจะระเบิด เธอกำลังจะตายใช่หรือไม่ แต่เธอยังไม่อยากตายนี่ คนเดียวที่พอจะให้ความช่วยเหลือได้คงมีแต่ธรธัญญ์ หากชายหนุ่มยอมถอดถอนปลายลิ้นออกจากปลีขาของเธอเดี๋ยวนี้ เธอคงรอดตาย
“ไม่ต้องเกร็งคนดี ปล่อยตัวตามสบาย”
ทว่าธรธัญญ์กลับใจร้ายเกินคน นอกจากไม่เห็นใจคนกำลังจะขาดใจตาย ชายหนุ่มกลับใช้สองมือตรึงสะโพกมนเอาไว้แน่นแล้วแนบใบหน้าเข้ามาชิด อะไรคงไม่ร้ายแรงเท่าปลายลิ้นร้ายที่ห่อม้วนนั้นขยับเข้าหาเธอรัวเร็วกว่าที่เคยราวกับเร่งให้ระเบิดเวลาทำงานเร็วยิ่งขึ้น เมื่อทางรอดสุดท้ายถูกปิดตาย เทพิมพ์จึงปิดเปลือกตาลงแล้วปล่อยตัวปล่อยใจไปตามครรลอง ยอมรับความตายอย่างยอมพ่ายแพ้เมื่อมวลความร้อนระอุมันหมุนวนไปรวมตัวกันอยู่ที่กลางร่าง แผ่นท้องเรียบแบนหดเกร็ง ในพริบตามันก็ระเบิดตูมอยู่ตรงหน้าของธรธัญญ์ที่กวาดลิ้นดื่มด่ำทุกหยาดหยดความหวาน เทพิมพ์นอนหอบหายใจแรงอย่างคนเหนื่อยอ่อน นานชั่วครู่ดวงตากลมจึงลืมขึ้นมาเพื่อพบว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ พร้อมกันนั้นความอึดอัดที่เกือบพรากลมหายใจของเธอไปก็กลายเป็นชิ้นส่วนความสุขสมที่กระจัดกระจายไปตามเนื้อตัวอ่อนเปลี้ยอย่างน่าอัศจรรย์
“คุณธัญญ์”
เจ้าของร่างอ่อนระโหยเอ่ยเรียกบุรุษที่นำพาให้เธอรู้จักความสุขที่ไม่เคยพานพบเสียงสั่นพร่าเมื่อธรธัญญ์ยอมผละใบหน้าออกจากกายสาวแล้วหยัดตัวขึ้นสูงโดยที่ท่อนขาแข็งแรงทั้งสองยังคร่อมทับร่างบาง สติของเทพิมพ์ยังกลับมาไม่มากนัก หญิงสาวจึงทำได้แค่ใช้ดวงตาปรือปรอยมองใบหน้าหล่อละลายใจที่มองจ้องเธอราวกำลังสะกดจิต และชายหนุ่มคงทำสำเร็จด้วย สติของเธอจึงคิดเลอะเทอะยามไล่ดวงตาเพ่งพิศใบหน้าของธรธัญญ์ เป็นผู้ชายขอแค่มีคิ้วดกเข้มก็เข้าข่ายคนหล่อไปแล้วครึ่งทาง ทว่าธรธัญญ์กลับล้ำกว่านั้น ชาติที่แล้วชายหนุ่มคงทำบุญมาดี นอกจากปื้นคิ้วดกหนาที่พาดเหนือดวงตาคมกริบทรงเสน่ห์ จมูกของชายหนุ่มยังโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบที่ส่งให้บุคลิกของเขายิ่งดูเคร่งขรึม ถ้ามีลูก เธออยากให้ลูกรับดีเอ็นเอความเป๊ะของโครงหน้ามาจากผู้เป็นบิดาทั้งหมด คิดเองเขินเอง เทพิมพ์ซบซีกหน้ากับเตียงนอนเมื่อรู้สึกเก้อเขินกับความคิดเพ้อเจ้อ ก่อนขมวดคิ้วมุ่นเมื่อหางตาพร่าๆมองเห็นชั้นในชายสีขาวสะอาดตรงขอบเตียง
‘กางเกงในผู้ชาย?’
“ทนเจ็บนิดนะครับคนดี”
น่าขายหน้านักที่เธอมัวแต่เมาความหล่อของธรธัญญ์จนสติสตังเลื่อนลอย สมองยังไม่ทันประมวลคำตอบว่าเจ้าของชั้นในนั้นเป็นใคร ถ้อยคำปลอบโยนของเจ้าของเตียงที่เธอนอนอยู่ก็กระซิบชิดใบหู ตามด้วยจุมพิตหนักหน่วงที่หน้าผากราวกับต้องการขออภัยล่วงหน้า เทพิมพ์ปรือดวงตาพร่าเลือนขึ้นมองเครื่องหน้าสุดเพอร์เฟ็กที่เธอเพิ่งนินทาที่อยู่ใกล้กับใบหน้าของเธอเหลือเกิน น้ำหนักตัวของร่างสูงที่ทาบทับเรือนกายไขคำตอบว่าตอนนี้ธรธัญญ์กำลังนอนทับตัวเธออยู่ เสียงหายใจของชายหนุ่มรุนแรงมาก แต่ความรู้สึกเหล่านั้นยังไม่สามารถเรียกสติของเทพิมพ์กลับคืนได้ กระทั่งกลางกายที่เพิ่งได้รับมวลความสุขลูกโตสัมผัสกับความอุ่นร้อนและเข้มแข็งที่พยายามบดเบียดอย่างซุกซน
“มะ... ไม่นะ คุณธัญญ์ พิมพ์กลัว อื้อ...”
สติกลับมาแล้ว ดวงตากลมเบิกโพลงกับสิ่งที่กำลังจะเกิด ร่างบางจึงกระถดถอยหนีตามสัญชาตญาณของเหยื่อ แต่คงเพราะสัญชาตญาณของนักล่ามากล้นด้วยประสบการณ์นั้นเข้มข้นกว่า เสี้ยววินาทีเดียวกันนั้น สองมือของธรธัญญ์ก็ตรึงข้อมือเล็กติดฟูกนอนแล้วปิดเสียงร้องห้ามระคายโสตประสาทด้วยริมฝีปากร้ายของตัวเอง ก่อนผลักดันตัวตนที่เหยียดขยายเต็มที่สู่เส้นทางมืดมิดที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยผ่านจนร่างบางผวาเฮือกกับความเจ็บปวดแสนสาหัสที่เพิ่งเคยพบพานในชีวิตสาว เทพิมพ์ดิ้นรนหนีด้วยความทรมานจนน่าสงสาร แต่มันก็มาไกลเกินกว่าจะถอยกลับ ชายหนุ่มใช้ความเจนจัดที่สั่งสมมาตั้งแต่อายุไม่เต็มสิบห้าปีนำพาเทพิมพ์เดินทางสู่ประสบการณ์ชีวิตบทใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็น ไม่นานอาการต่อต้านก็จางหาย เปิดโอกาสให้ธรธัญญ์โถมสะโพกสอบเข้าหาก่อนจับมือกันเดินทางสู่เส้นทางความสุขที่หวานจับใจ
......................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ