ทวงรักนางซิน
-
เขียนโดย Phaky
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.
47 ตอน
1 วิจารณ์
37.09K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
29) เดือด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความจะดื้อกับพี่ ดูหน้าพี่ด้วย
******************************************
เทพิมพ์กลั้นหายใจเมื่อเหลือบตามองเข็มไมล์ของรถที่ทะยานไปข้างหน้านั้นเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนดมาไม่น้อย มือบางสองข้างบนหน้าตักกุมกันแน่นมาตั้งแต่ถูกธรธัญญ์จับโยนเข้ามาในรถแล้วขับออกมาจากร้านอาหารญี่ปุ่น ร่วมๆห้านาทีแล้วแต่หัวใจดวงน้อยก็ยังสั่นโครมครามรุนแรง ไม่ใช่เพราะความหวามไหว แต่มาจากความกลัวล้วนๆ ความเร็วปานเหาะของรถชวนขวัญหนีแล้ว แต่ยังเทียบไม่ได้กับสีหน้าขึงเครียดของสารถีที่ทำให้เธอหวาดกลัวจนต้องนั่งเงียบ เกร็งตัวมาตลอดทาง และคงเลือกจะเงียบเพื่อความปลอดภัยต่อไป หากไม่เห็นว่ามันใกล้ทางเลี้ยวเข้าบ้านเม็ดทรายแล้ว แต่ธรธัญญ์กลับไม่มีทีท่าจะชะลอความเร็วรถลงเลย
“คุณธัญญ์จะส่งพิมพ์ที่บ้านทรายใช่ไหมคะ”
“ไปกินข้าวกับมัน ทำไม!”
นานร่วมนาทีทีเดียวกว่าที่ธรธัญญ์จะยอมเปิดปาก ทว่าคำที่พ้นริมฝีปากบางเฉียบกลับไม่ใช่คำตอบที่เทพิมพ์ต้องการ ซ้ำหางเสียงคำว่า ‘ทำไม’ ยังกดต่ำอยู่ในลำคอราวเสียงคำรามจนขนอ่อนบนเรือนกายพร้อมใจกันลุกพรึ่บ
“ฉันสั่งแล้วใช่ไหมให้รีบกลับบ้าน”
นี่ไม่ใช่คำถาม แต่ธรธัญญ์กำลังระบายความโกรธที่อยู่ในใจ เทพิมพ์จึงนั่งนิ่งดุจนักโทษรอฟังคำพิพากษา
“แต่เธอกลับขัดคำสั่งฉันเพื่อมานั่งกินข้าวหน้าระรื่นกับผู้ชาย เธอกล้ามากนะเทพิมพ์ กล้ามาก!”
และเช่นกันที่ประโยคนี้ไม่ใช่คำชม คนถูกกล่าวหาขยับตัวเมื่อรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรมนัก ทำไมต้องใช้ความกล้าในเมื่อเรื่องที่เธอทำมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอทั้งนั้น เธอกับธรธัญญ์ก็แค่เจ้านายกับลูกน้องเหมือนที่เขาย้ำเตือนในวันตัดสัมพันธ์ แล้วตอนนี้อยู่นอกเวลางาน ชายหนุ่มจึงไม่มีสิทธิ์มาบงการชีวิตของเธอ ทีชายหนุ่มนั่งรับประทานอาหารหน้าระรื่นกับเวนิสา เสียใจหนักหนาแค่ไหน เธอยังไม่เคยโวยวายใส่เขาเหมือนที่ถูกกระทำเลย และการนึกถึงใบหน้าสวยสง่าของบุคคลที่ถูกพาดพิง ก็ทำให้เทพิมพ์เจ็บปวดจนเผลอตัวเถียงกลับคนไร้เหตุผลเสียงแข็งแบบที่ไม่เคยทำ
“พิมพ์แค่มากินข้าว มันผิดตรงไหนเหรอคะ”
“ผิดตรงที่ไอ้บ้านั่นมันไม่ได้อยากชวนพิมพ์มากินข้าวจริงๆน่ะสิ มันจัดฉากเพื่อขอพิมพ์เป็นแฟนต่างหาก ถ้าฉันไม่ไปลากกลับมาก่อน ป่านนี้มันคงคุกเข่าตรงหน้า พร่ำเพ้อบอกความในใจที่มีต่อพิมพ์ หวังให้พิมพ์ใจอ่อนแล้วรับรักมัน”
ตะคอกออกไปเสียงกร้าวแต่ใครจะรู้เท่าตัวเขาเองว่าใจยังสั่นอยู่เลย ระหว่างทางที่ขับรถมาใจมันสั่นด้วยความวิตกตลอดเวลา กลัวว่าจะมาไม่ทันแล้วเทพิมพ์จะรับรักพลธวัชไปก่อน เพิ่งจะมาหายใจคล่องเอาตอนที่เรียกพนักงานในร้านมาถามแล้วได้คำตอบว่าแขกในห้องวีไอพีเพิ่งรับประทานอาหารจบ ผู้หญิงสองคนไปเข้าห้องน้ำจึงยังไม่ได้เริ่มเซอร์ไพรส์ใดๆ จำได้ว่าตอนนั้นเขาวิ่งลืมตายเพื่อไปดักเทพิมพ์ให้ทันที่หน้าห้องน้ำ ทำเขาเสียอาการขนาดนี้ แม่ตัวดียังมีหน้ามายอกย้อนอีกงั้นหรือ
“รู้แบบนี้แล้ว เธอจะตอบมันว่ายังไง”
‘ยัง! ยังไม่รีบปฏิเสธอีก!’
ถ้าเทพิมพ์ช่างสังเกตสักนิด คงเห็นว่าข้อมือสีแทนที่จับพวงมาลัยเกร็งแน่นจนเส้นเลือดพองหลังเอ่ยปากถาม แต่น่าเสียดายที่คนถูกถามมัวแต่ก้มหน้ามองมือตัวเองที่บีบกันแน่นเช่นกัน คำตอบมีอยู่แล้วในใจ เพียงแต่เทพิมพ์เลือกจะปิดปากเงียบ เพราะในคำตอบนั้นมีชื่อของธรธัญญ์ถูกพาดพิงอยู่ด้วย เมื่อจำเลยเงียบ ธรธัญญ์ก็ไม่ทู้ซี้ ชายหนุ่มขับรถไปเรื่อยๆ กระทั่งไปจอดหน้าบ้านหลังโตที่มีรั้วสูงท่วมหัว ประตูรั้วเลื่อนออกจากกันด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ไม่ถึงอึดใจก็เข้ามาในบ้านที่มีอาณาเขตกว้างขวาง สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยทำให้เทพิมพ์ต้องขยับตัวระแวดระวัง พลางมองตามร่างสูงที่เดินอ้อมรถมายังฝั่งที่ตัวเองนั่งด้วยหัวใจหวาดวิตก
“ลงมา” มือใหญ่กระชากประตูเปิดก่อนเอ่ยสั่งเสียงเข้ม
“พิมพ์จะกลับบ้านค่ะ”
“ลงมา!”
“ไม่ค่ะ พิมพ์จะกลับบ้าน”
“จะกลับบ้านหรือจะแล่นไปหาไอ้พลธวัชกันแน่”
พอปล่อยให้อยู่ไกลตากลับทำตัวไม่น่ารัก ต่อจากนี้อย่าหวังเลยว่าเขาจะปล่อยให้เทพิมพ์คลาดสายตาไปไหน
“พิมพ์จะไปหาใคร มันก็เรื่องส่วนตัวของพิมพ์ค่ะ”
“ห้ามเลยนะ! ฉันขอสั่งไม่ให้เธอไปเจอมันอีก เข้าใจไหม!”
“ไม่เข้าใจ และไม่มีเหตุผลต้องทำตามค่ะ”
ตอบแบบนี้ ต่อให้ลงท้ายประโยคด้วยคำว่า ‘ค่ะ’ ก็ยังฟังหยาบคายสำหรับธรธัญญ์อยู่ดี โกรธจนร้องหาไม้เรียวในใจ เมื่อก่อนสนิมสร้อย จะพูดจะจาอะไรล่ะเกรงใจหนักหนา ไม่ต้องถามหาคำว่าขัดใจเลย เพราะเทพิมพ์ไม่เคยทำสิ่งนั้นกับเขาสักครั้ง แต่พอคราวนี้มีชื่อของพลธวัชมาเกี่ยวเข้าหน่อย เทพิมพ์กลับแข็งข้อ กล้าปฏิเสธคำสั่งของเขา
“เทพิมพ์! จำได้ไหมว่าตอนคบกัน เธอไม่เคยเถียงฉันสักคำ”
“แฟนเก่ามีไว้ให้ลืม ไม่ได้มีไว้จำค่ะ”
เถียงแล้วก็พาดวงตาแดงๆหนีไปอีกทาง ไม่อาจสบตากับธรธัญญ์เพราะกลัวชายหนุ่มจะรู้ว่าปากกับใจเธอไม่สามัคคีกันเลยสักนิด กลัวความลับที่พยายามปกปิดไว้จะถูกเปิดเผย ว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตคือตอนได้รับตำแหน่งคนรักของผู้ชายหน้าเหี้ยมตรงหน้า แม้จะรู้แก่ใจว่าเป็นได้แค่คนรักปลอมๆ แต่กลับไม่เคยสักวินาทีที่จะลืมเลือน
เปรี๊ยะ!
คนพูดน่ะรู้ว่าที่พูดมาโกหกทั้งเพ แต่คนฟังไม่ได้รับรู้ด้วย อีกทั้งเรื่องของพลธวัชก็ยังไม่เคลียร์ จึงไม่แปลกใจที่จะเกิดเสียงดังเปรี๊ยะลั่นในหูทันทีที่ได้ยินคำพูดไม่น่ารัก ต้นทางของเสียงคือเส้นความอดทนเส้นสุดท้ายที่ได้ขาดลงแล้วอย่างสงบ เทพิมพ์พูดแล้วหลบหน้า หญิงสาวจึงไม่เห็นกล้ามเนื้อบนใบหน้าหล่อที่กระตุกรุนแรงด้วยฤทธิ์โทสะครอบงำ ดวงตาแข็งกร้าวมองผู้หญิงอวดดีอย่างมาดหมาย เกิดมาไม่เคยโกรธใครได้ขนาดนี้ ฮึ! คิดจะลืมเขางั้นหรือ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก และอีกสักครู่เขาจะแสดงให้เทพิมพ์รู้ว่าคนเดียวที่หญิงสาวต้องจดจำให้ขึ้นใจทุกลมหายใจเข้าออกคือ ธรธัญญ์ สิงหราชเดชากุล คนนี้เท่านั้น!
“แล้วถ้าเป็นผัวล่ะ จะกล้าลืมลงไหม มานี่!”
กรี๊ดดดดดดดด
เทพิมพ์หวีดร้องสุดเสียงเมื่อถูกมือใหญ่กระชากแขนที่กอดเบาะไว้แน่นออกมาจากรถ ยังมิทันได้ตั้งตัวร่างบางก็ลอยละลิ่วขึ้นไปนอนห้อยหัวบนไหล่กว้าง ซ้ำธรธัญญ์ยังใจร้าย ฟาดฝ่ามือลงบนบั้นท้ายกลมเพียงแค่เธอพยายามดิ้นรนให้พ้นจากอันตรายที่รอคอยอยู่ในบ้านหลังงาม ทุบแผ่นหลังกว้างไปก็นึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่ทราบอนาคต มิเช่นนั้นก่อนหน้านี้เธอจะซัดอาหารให้พุงกาง เอาให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นสักสิบกิโล เพราะอย่างน้อยมันคงสร้างปัญหาให้ธรธัญญ์ได้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เขาเดินตัวปลิวเข้าบ้านเหมือนไม่มีเธอเป็นภาระอยู่บนบ่าอย่างที่กำลังเป็น
“คุณธัญญ์ จะพาพิมพ์ไปไหนคะ ปล่อยพิมพ์ลงนะ คุณธัญญ์!”
...........................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ