ทวงรักนางซิน

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.

  47 ตอน
  1 วิจารณ์
  37.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

“คืนนี้มีงานเลี้ยงใช่ไหม”

ไหล่บางสะดุ้งโหยง เพราะนับตั้งแต่ตอนที่ถูกดุให้กินข้าวของตัวเองจนกระทั่งตอนนี้ที่ธรธัญญ์พาเธอกลับมาถึงโรงแรม นี่เป็นประโยคแรกที่ชายหนุ่มเปิดปากสนทนาด้วย น้ำเสียงขรึมๆของบุรุษที่เดินนำอยู่ด้านหน้าเรียกสติของเทพิมพ์กลับคืนหลังมองตามแผ่นหลังกว้างของธรธัญญ์จนความคิดฟุ้งซ่านมาพักใหญ่ แล้วก็เหมือนจะตาพร่าพรายยามใบหน้าหล่อเหลาเกินมนุษย์ของแฟนหนุ่มเอี้ยวกลับมาก่อนจะหันกลับมาทั้งตัวหลังไม่ได้รับคำตอบ ธรธัญญ์ไม่ถามซ้ำแต่เลือกจะยกแขนล่ำขึ้นกอดอกแล้วหรี่ตามองมานิ่งๆ นั่นแหละคนเมาความหล่อของแฟนจึงได้สติ

“ใช่ค่ะ เป็นงานแต่งของคุณธิดากับลูกชายท่านส.ส.พิบูลย์”

“เลิกกี่โมง”

“ในตารางจองเวลาไว้ถึงเที่ยงคืนค่ะ แต่กว่าจะเก็บของเสร็จคงประมาณตีสอง”

เตรียมใจไว้ได้เลยว่าหากเป็นงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในช่วงเย็น อย่างไรก็ไม่เร็วกว่าเวลาจองที่พนักงานจะได้กลับบ้าน ซึ่งก็อาจไม่แน่ด้วยซ้ำ เพราะงานแต่งของลูกชายนายห้างทองเมื่อสองวันก่อนที่จองเวลาไว้แค่ตีสอง แต่เอาเข้าจริงกลับฉลองกันติดลมจนขอต่อเวลาเช่าห้องบอลรูมต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งพนักงานอย่างพวกเธอก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้าน ทำได้เพียงนั่งหาวน้ำตาเล็ดอยู่ด้านหลังห้องจัดเลี้ยง รอจนแขกกลุ่มสุดท้ายกลับออกไปตอนตีสี่ครึ่ง จึงได้เข้าไปเคลียร์พื้นที่ให้พร้อมใช้งาน จำได้ว่าคืนนั้นกลับถึงบ้านเอาตอนหกโมงเช้า โดยมีสารถีส่วนตัวที่ชื่อธรธัญญ์ขับรถไปส่ง คิดมาถึงตรงนี้เทพิมพ์ก็ยิ้มเขิน คุ้มกับที่ต้องอดหลับอดนอนก็ตรงนี้แหละ

“เสร็จงานแล้วลงมารอที่ล็อบบี้ ฉันจะไปส่ง”

“แต่มันดึกมากเลยนะคะ พิมพ์เกรง...”

 “มันเป็นหน้าที่ของฉัน ทำตามที่บอก” ธรธัญญ์ตัดบทเสียงเข้ม ดวงตาของชายหนุ่มบ่งชัดว่าไม่รับคำปฏิเสธ

“ค่ะคุณธัญญ์ เสร็จงานแล้วพิมพ์โทร.หานะคะ”

ธรธัญญ์พยักหน้ารับก่อนผละไปยังลิฟต์ของผู้บริหารเพื่อกลับไปทำงานซึ่งอยู่บนชั้นสูงสุดของนาราแกรนด์โฮเทล ซึ่งเทพิมพ์ก็มองตามแผ่นหลังกว้างจนชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในลิฟต์แล้วยืนอมยิ้มหวานกับความน่ารักของคนเป็นแฟน ผู้ชายแต่ละคนไม่เหมือนกัน และธรธัญญ์ก็ไม่เหมือนใคร ชายหนุ่มพูดคุยกับเธอน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ไม่รู้จักคำว่าหวาน ซ้ำยังหาความโรแมนติกไม่เจอ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยบกพร่องคือการตามรับตามส่งเธอถึงบ้านทุกวันนับแต่วันที่เริ่มคบกัน ไม่ว่างานจะเลิกดึกดื่นหรือกินเวลาไปจนรุ่งสาง ชายหนุ่มก็จะเป็นคนพาเธอส่งถึงบ้านด้วยตัวเองไม่เคยปริปากบ่น อันที่จริง ถ้าตัดเรื่องความเป็นห่วง กลัวว่าชายหนุ่มต้องอดหลับอดนอนออกไป ก็ต้องยอมรับว่าหัวใจเธอพองโต มีความสุขมากที่ได้รับการดูแลจากธรธัญญ์

“ฮั่นแน่ หวานกันไม่เกรงใจคนโสดเลยนะยะ”

เสียงแซวจากด้านหลังสะกิดคนหลงแฟนให้รู้ตัวว่าไม่ได้ยืนฝันหวานอยู่บนทุ่งลาเวนเดอร์ตามลำพัง เทพิมพ์หมุนตัวกลับไปมองพลางอมยิ้มเขินจนแก้มแดงก่ำกับแววตาล้อเลียนของเม็ดทราย เพื่อนสนิทที่มาฝึกงานด้วยกัน นี่แสดงว่าเพื่อนตัวดีคงแอบดูอยู่นานแล้วแน่ๆ ถึงได้เห็นความน่ารักของธรธัญญ์แล้วเอามาแซว น่าหยิกให้เนื้อเขียวชะมัด

“ทราย ล้อพิมพ์อีกแล้วนะ”

“ก็คนมันอิจฉานี่นา ชาติที่แล้วพิมพ์ทำบุญด้วยอะไรน้า ชาตินี้ถึงโชคดีได้แฟนทั้งหล่อทั้งรวย แถมยังเทคแคร์ดีแบบคุณธัญญ์ ทรายจะได้ทำตาม อยากมีแฟนหุ่นล่ำ กล้ามโตคอยรับคอยส่งบ้าง”

ปากว่าอิจฉา แต่ในแววตาที่แกล้งขยิบยุกยิกของเม็ดทรายกลับพบเจอแต่ความยินดี เทพิมพ์ยืนขำกับใบหน้าเคลิ้มฝันช่างล้อของเพื่อนสนิท ยอมรับว่าตอนแรกที่ตกลงเป็นแฟนกับธรธัญญ์ เธอกลัวเม็ดทรายจะน้อยใจเสียด้วยซ้ำเพราะกอดคอเป็นสาวโสดมาด้วยกันตั้งแต่เรียนปีหนึ่งถึงปีที่สี่ อยู่ๆก็มาทิ้งเพื่อนให้โสดลำพัง ทว่าเม็ดทรายกลับน่ารักมาก พอทราบว่าหนุ่มหล่อฐานะมั่นคงขอคบหา ยายเพื่อนซี้ก็แทบถลกกระโปรงขึ้นถีบเธอส่งให้ธรธัญญ์ทันทีที่ทราบข่าว

“ทรายจ๋าทราย ของแบบนี้ รอให้พ้นสามเดือนก่อนดีกว่า ค่อยดูกันว่าต้องอิจฉา หรือว่า...สงสาร”

เทพิมพ์มองสบตากับเม็ดทรายด้วยความเข้าใจเมื่อได้ยินน้ำเสียงหวานจนเลี่ยนที่คุ้นเคย ก่อนหันไปมองเจ้าของคำพูดแดกดันด้านหลัง การที่เจ้าของโรงแรมสุดหล่อที่พนักงานสาวๆหมายปองมาแรมปีถูกเด็กฝึกงานหน้าบ้านๆฉกไปแบบไร้สัญญาณแจ้งเตือน ทำให้เทพิมพ์ถูกสาวๆหลายคนเขม่นราวกับเป็นศัตรูมาแรมปี ไม่ว่าจะพนักงานประจำ หรือแม้กระทั่งเอื้อมดาวกับม่านฟ้า สองสาวที่มาฝึกงานในชุดเดียวกันที่กำลังเดินกอดอกเข้ามาร่วมวงสนทนา ที่ก่อนหน้าก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก ทว่าตั้งแต่ทราบว่าเทพิมพ์ได้เป็นแฟนกับธรธัญญ์ สองสาวสุดเปรี้ยวก็ขยันเหน็บแนมจนรู้สึกแสบคอแทนไม่เว้นวัน

“ทำไมต้องสามเดือนล่ะดาว” พอเอื้อมดาวเปิดประเด็น ม่านฟ้าก็ลอยหน้าลอยตาเป็นลูกคู่ตามวิถี

“ก็สามเดือนแรกมันช่วงเห่อของเล่นใหม่ของพวกผู้ชายน่ะสิจ๊ะม่าน ถามได้”

“แค่ของเล่น? แล้วหลังจากนั้นล่ะดาว”

“ของเล่นเก่าๆ เน่าๆ ใครจะชายตามอง”

“แย่จังเลยเนอะ” ม่านฟ้าแสร้งทำหน้าซื่อเห็นใจ แต่มุมปากสีแดงสดกลับกดลึกเยาะหยัน

“คงไม่ใช่กับทุกคู่หรอกจ๊ะ เพื่อนดาวแอบส่องอยู่บ่อยๆ ถ้าไม่ตาเหล่ก็ต้องเห็นสิว่าคุณธัญญ์เอาใจใส่พิมพ์เสมอต้นเสมอปลาย”

นอกจากยินดีด้วยใจจริง เม็ดทรายยังตั้งตัวเป็นผู้พิทักษ์ยามมีเสียงนกเสียงกาแทรกมาบั่นทอนความรู้สึกของเพื่อนรัก เพราะนุ่มนิ่มอย่างเทพิมพ์คงทานมือแร้งกาที่รุมจิกทึ้งไม่ไหวแน่ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เม็ดทรายขยับร่างเล็กๆขึ้นมายืนคั่นระหว่างเทพิมพ์กับเอื้อมดาว แล้วหลอกแขวะเสียงอ่อนหวาน เนื้อความพาดพิงว่าเอื้อมดาวกับม่านฟ้านั้นช่างนิสัยไม่ต่างอะไรกับพวกมนุษย์ป้าข้างบ้านที่ชอบสาระแน รู้ดีทุกเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

“แล้วก็เห็นด้วยตาตัวเองด้วยจ้ะว่าคุณธัญญ์ก็เคยดูแลคุณเวนิสแบบนี้เหมือนกัน ขนาดคุณเวนิสสวยมาก สุดท้ายยังไปไม่รอด แล้วหน้าจืดๆอย่างพิมพ์...”

“ให้เป็นหน้าที่ของคุณธัญญ์ตัดสินใจเองดีกว่านะดาว พวกเราก็แค่...คนนอก”

ถ้าไม่รีบเบรกไว้ก็ไม่รู้ว่าประเภทผีเจาะปากมาพูดอย่างเอื้อมดาวจะเอาปมด้อยของเทพิมพ์มาเหยียบย่ำอีกมากแค่ไหน ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากได้ยินชื่อคนรักเก่าของแฟนตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งพวกขี้อิจฉาชอบพูดเปรียบเทียบยามเดินผ่านว่าเวนิสา อดีตแฟนของธรธัญญ์ที่สวยระดับนางงามตัวเต็งนั้นดูเหมาะสมกับตำแหน่งนายหญิงกว่าเทพิมพ์หลายเท่า เธอฟังแล้วยังใจแป้ว แล้วมีหรือที่เทพิมพ์จะไม่รู้สึกรู้สา เม็ดทรายกัดฟันกรอดเมื่อเห็นเพื่อนรักหน้าซีดลง ผิดกับตัวการที่ลอยหน้าลอยแช่มชื่น นึกสงสารเทพิมพ์ที่ถูกหาเรื่องทั้งที่ไม่เคยระรานใคร หญิงสาวพยายามข่มใจไม่ให้มีความรุนแรง ด้วยไม่อยากให้เสียประวัติเพราะคาดหวังว่าเรียนจบแล้วจะได้ทำงานที่นี่ต่อ ทั้งที่ในใจตอนนี้เดือดดาล อยากซัดปากม่านฟ้ากับเอื้อมดาวในเลือดกบนัก

“เราก็แค่หวังดี ซินเดอเรลล่าน่ะ มีแค่ในนิทานหลอกเด็ก”

ทิ้งระเบิดลูกสุดท้ายจนเรียวหน้าเกลี้ยงเกลาของเทพิมพ์หดลงสาสมใจ สองสาวดาวยุแหย่ก็เดินนวยนาดไปยังห้องเสื้อผ้าเพื่อรับเครื่องแบบสำหรับงานเลี้ยงในช่วงบ่าย ซินเดอเรลล่าคือนางเอกผู้น่าสงสารในนิทานยอดฮิต ทว่าตอนนี้มันกลายเป็นสมญานามที่บรรดาพนักงานพากันเรียกขานเทพิมพ์หลังจากที่สาวน้อยเดินดินธรรมดาโชคดีถูกมหาเศรษฐีสุดหล่ออย่างธรธัญญ์ขอเป็นแฟนคล้ายชีวิตของนางเอกนิทาน บางคนเรียกด้วยความเอ็นดู แต่ก็มีอีกหลายคนที่เรียกด้วยน้ำเสียงแดกดัน ราวกับต้องการตักเตือนทางอ้อมว่าเธอต่ำต้อยเกินไป ไม่คู่ควรกับชายหนุ่มสุดเพอร์เฟ็กต์ เอื้อมดาวกับม่านฟ้าคือหนึ่งในนั้น ซึ่งว่ากันตามตรง แม้ในนิทานฉากสุดท้ายจะจบลงอย่างสวยงาม แต่เทพิมพ์ก็ไม่ชอบถูกเรียกด้วยชื่อนี้เลยสักนิด

เพราะอีกนัยมันทำให้นึกถึงปูมหลังที่ไม่น่าจดจำเอาซะเลย ชีวิตวัยเยาว์ของเทพิมพ์ที่จัดว่าครอบครัวมีฐานะค่อนไปทางร่ำรวย มีความสุขสบายรองรับทุกอย่างกลับโชคร้ายที่บิดามีภรรยาคนใหม่เข้ามาจัดการในบ้านหลังมารดาของเทพิมพ์เสียชีวิตไปไม่กี่เดือน หลังจากนั้นอีกปีกว่า บิดาของเทพิมพ์ก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ กิจการรถบรรทุกกว่าสิบคันจึงโยกย้ายไปอยู่ในมือของแม่เลี้ยงกับสามีเด็กคนใหม่ แม่เลี้ยงใจร้ายทิ้งบ้านหลังเก่าซ่อมซ่อไว้ให้เด็กหญิงเทพิมพ์ในวัยสิบหกปีกับเงินฝากที่บิดาแอบฝากไว้ให้อีกนิดหน่อย จากคุณหนูที่ถูกพะเน้าพะนอก็กลายเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่ต้องดิ้นรนทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนตามลำพัง จนกระทั่งได้พบกับธรธัญญ์ที่ไม่ต่างอะไรกับเจ้าชายที่มาชุบชีวิตลำเค็ญของเทพิมพ์ให้กลับคืนสถานะเจ้าหญิงอีกครั้ง

“อย่าไปสนใจคำพูดของดาวกับม่านเลยนะ มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่ายายสองคนนั่นน่ะอิจฉาพิมพ์”

 “พิมพ์ไม่เก็บคำพูดที่บั่นทอนความสัมพันธ์ของพิมพ์กับคุณธัญญ์มาคิดมากอยู่แล้ว”

เทพิมพ์ส่งยิ้มอ่อนโยนพลางกอดร่างเล็กของเพื่อนสนิทแน่นๆแทนคำขอบคุณ เพราะนับตั้งแต่ได้เป็นคนรักของเจ้าของโรงแรม หลายครั้งที่หัวใจแอบเปราะบางกับการตอกย้ำให้เห็นแต่ความต่ำต้อยของตัวเอง ทว่าโชคดีได้เม็ดทรายคอยบีบมือปลอบโยนไม่ห่าง เม็ดทรายช่วยเตือนสติให้เธอหนักแน่น เรียนรู้ที่จะเพิกเฉยกับเสียงนกเสียงกาแล้วนึกถึงแต่ใบหน้าของธรธัญญ์ หากอยากให้ความสัมพันธ์กับเจ้าของโรงแรมสุดหล่อนั้นอยู่รอด เป็นวิธีง่ายๆแต่ได้ผลอย่างเหลือเชื่อ การนึกถึงธรธัญญ์ทำให้เธอได้รับพลังบวกมาเติมเต็มจนหัวใจเข้มแข็ง ตั้งแต่นั้นไม่ว่าหูจะได้รับคำวิจารณ์บั่นทอนแค่ไหน ต่อมรับความรู้สึกของเธอก็ไม่เคยเก็บมันมาคิดให้จิตใจเศร้าหมองเลยสักครั้ง

‘คุณธัญญ์เป็นแฟนพิมพ์ พิมพ์เป็นแฟนคุณธัญญ์’

……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

อ่านจบแล้วอย่าลืมเม้นต์ โหวต สำคัญเลยคือแอดแฟนกันด้วยน๊า เวลาอัพนิยายเราจะได้ไม่คลาดกัน

ไม่ใช่แค่เอาไว้เตือนนักอ่านนะคะ แต่เอาไว้ให้นักอ่านเตือนอีคนเขียนด้วย วันนี้ตั้งใจอัพตั้งแต่สิบโมงเช้าแล้ว แล้วทำไมเพิ่งโผล่? เก๊าลืมมมมม เดินไปเดินมาแล้วลืมเฉยเลย ประมาณว่ายังไม่ชินกับชีวิตที่ต้องอัพนิยาย 555

ประโยชน์ของการแอดแฟนคือถ้าเห็นภัคไม่อัพนิยายเกินสองวัน นักอ่านจะได้ไปเคาะเรียกได้ เอ๋อๆมึนๆน้อยที่ไหนล่ะ อัพอีกทีไม่เกินวันอังคาร ถ้าบ่ายสามแล้วยังไม่มา รบกวนไปจิกหัวได้ที่เฟซ 'พิจักขณา พิชามญชุ์ นักเขียน' ด้วยเน๊อ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา