เมียนอกสายตา

-

เขียนโดย Natthaphan

วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.55 น.

  25 ตอน
  3 วิจารณ์
  22.16K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 23.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) คนที่เปลี่ยน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บรรยากาศการประชุมที่ดูตึงเครียดกว่าทุกๆ ครั้งทำเอาเลขาทั้งสองที่นั่งอยู่ข้างๆ ท่านประธานเงียบกริบส่วนมือนั้นก็จดรายงานการประชุมไปเรื่อยๆ เช่นเดิม ทว่าในบางทีฑิฆัมพรก็คอยลอบมองชายหนุ่มเป็นระยะๆ นึกเป็นห่วงคนที่ยังเมาค้างอยู่ เมื่อเช้าก็เดินโซซัดโซเซเกือบจะตำเสาบ้านอยู่หลายที เธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้...กลัวจะวูบไปก่อนที่การประชุมจะจบ

เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาอย่าง โล่งอกเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี

นารีรัตน์ค่อยๆ วางแก้วน้ำขิงที่ฑิฆัมพรฝากเธอเอามาให้ท่านประทานลงบนโต๊ะผู้บริหาร

"น้ำขิงร้อนๆ ค่ะ"

หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่เมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง แววตาแข็งกร้าวนั้นช่างน่ากลัวไม่เคยเปลี่ยน

"ใครชง? "คำถามนี้ราวกับขีปนาวุธที่เตรียมจะยิงใส่เธอ

"เอ่อ..."น้ำเสียงเริ่มติดๆ ขัดๆ คล้ายว่าสัญญาณจะขาดหาย หากบอกไปว่าใครชงมีหวังชายหนุ่มคงได้ลุกขึ้นมาอาละวาดแน่ๆ

"ขอบใจก็แล้วกัน"เอ่ยตอบเพียงแค่นั้นก็ก้มหน้าทำงานต่อ คิ้วบางขมวดมุ่นที่ชายหนุ่มไม่เอ่ยถามอะไรอีกหรือโวยวายเหมือนทุกๆ ครั้ง และที่สำคัญเจ้านายของเธอนั้นไม่ค่อยจะถูกกันกับน้ำขิงสักเท่าไหร่แต่วันนี้กลับไม่เอ่ยทัดทานใดๆ

แปลก...แปลกจริงๆ

ที่วันนี้ไม่โวยวายอะไรเพราะเหนื่อยเกินจะลุกไหว แค่นั่งทำงานในตอนนี้ก็หัวแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ทว่าพอได้กลิ่นหอมๆ ของน้ำขิงก็พลอยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างแม้จะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพียงรสสัมผัสร้อนๆ แตะที่ปลายลิ้นชายหนุ่มก็รู้สึกผ่อนคลายทันที ก่อนจะเอนตัวพิงเก้าอี้พร้อมหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังทอดมองเขาด้วยแววตาเป็นห่วง

 

ยามตะวันเริ่มลับขอบฟ้าแต่คนทั้งสองที่ได้ชื่อว่าเป็นเลขายังคงง่วนอยู่กับการเขียนสรุปรายงานการประชุม ชายหนุ่มที่เปิดประตูออกมาหันมอง ตอนแรกคิดว่าเหลือเขาเพียงคนเดียวที่นั่งทำงานอยู่

"จะค่ำแล้วทำไมยังไม่กลับ"เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"อีกสักพักก็จะกลับแล้วค่ะ"

เป็นนารีรัตน์ที่ตอบส่วนหญิงสาวนักศึกษาแม้แต่หน้าก็ไม่เงยมองทว่าในทางกลับกันชายหนุ่มกลับนึกกลัวว่าหากปล่อยให้เธอกลับค่ำๆ มืดๆ อีก เหตุการณ์มันจะเกิดช้ำรอย

เขาไม่ได้เป็นห่วงหรอกนะเพียงแต่ไม่อยากโดนผู้เป็นแม่บิดหูจนเขียวแล้วเทศนาจนขี้หูแทบจะไม่มีที่อยู่เหมือนครั้งก่อน

"อือ งั้นฉันกลับแล้วนะ"

"ค่ะ"

นารีรัตน์นึกแปลกใจอีกครั้งเพราะทุกครั้งจะกลับก็กลับเลย ไม่เคยบอกสักคำ แต่ครั้งนี้...

แปลก...แปลกจริงๆ

หญิงสาวโบกมือลาพี่สาวคนสนิทก่อนจะก้าวเท้าขึ้นรถไป

ในยามค่ำคืนที่ผู้คนต่างพากันออกมาหาของกินเพราะอากาศนั้นเย็นสบาย ตามข้างทางจึงเต็มไปด้วยผู้คน เธอทอดมองวิวทิวทัศน์นั้นจนเพลินเลยลืมสังเกตว่าแท็กซี่นั้นเลี้ยวมาคนล่ะเส้นทางที่เธอต้องไป

"พี่คะ มันไม่ใช่ทางนี้หนิคะ"เธอเริ่มเอะใจจึงเอ่ยถาม

"ทางลัดน่ะน้อง พี่ขับจนชินแล้ว"

"เอ่อ...หนูชอบไปทางตรงมากกว่าพี่เลี้ยวรถกลับเถอะค่ะ"

หญิงสาวเริ่มมีลางสังหรณ์แปลกๆ เธอจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายของตัวเอง ก่อนที่รถจะหยุดลงบริเวณข้างทาง รอบๆ มีแต่ป่าแล้วก็ป่า

ชายวัยกลางคนค่อยๆ หันมาพร้อมแสยะยิ้มอย่างหื่นกระหาย มันเลื่อนสายตาลงมองที่กระโปรงของหญิงสาวก่อนที่ร่างนั้นจะกระโจนมายังเบาะด้านหลัง พร้อมดึงแขนของเธอให้เข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าหวานเหยเกทันทีเพราะแขนข้างนั้นคือข้างเดียวกับที่เวหานั้นล้มทับในเมื่อวาน

แต่ในเวลาต่อมามันก็ต้องร้องครวญครางด้วยความปวดแสบปวดร้อนเมื่อถูกสเปย์พริกไทยฉีดเข้าที่ตาเต็มๆ

เธอกลับบ้านดึกคนเดียวจึงไม่ลืมที่จะพกของพวกนี้ไว้ป้องกันตัว

เท้าเรียวยกขึ้นถีบอกของคนร้ายจนเต็มแรงก่อนจะเปิดประตูวิ่งถลาออกไป

"จะไปไหน"เสียงตะโกนดังมาไม่ไกลมาก เธอจึงเร่งฝีเท้ายิ่งกว่าเดิม ส่วนมืออีกข้างก็ประคองแขนที่เจ็บเอาไว้ แต่เพียงเสี้ยววินาทีร่างของเธอก็ล้มลงไถลไปกับพื้นเพราะถูกดึงเอาไว้

"ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก"

มันจับแขนทั้งสองข้างของเธอเข้าหากันแล้วล็อกไว้เหนือศีรษะ ก่อนจะค่อยๆ คืบคลานขึ้นมาคร่อมร่างของเธอไม่ให้ดิ้นไปไหน

อย่านะ...อย่า...ไม่อยากกลับไปเผชิญเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว...ได้โปรด

หยดน้ำตารินไหลก่อนที่แสงสว่างจะสาดส่องมาที่ดวงหน้าของเธอ คนร้ายที่กำลังจะโน้มตัวลงมาถึงกับหยุดชะงัก ก่อนจะรีบลุกแล้ววิ่งหนีไป

"มึงหยุด ถ้าไม่อยากตาย"เสียงที่ทรงอำนาจสั่งให้ชายคนนั้นหยุดทันทีก่อนที่มันจะค่อยๆ หันไปมอง พร้อมๆ กับทรุดลงกองบนพื้นอย่างจำยอมเมื่อเห็นปลายกระบอกปืนที่ชี้มาหาตน

"คุณเว"

เพียงชายหนุ่มย่อตัวนั่งลงข้างๆ แขนเรียวก็โอบกอดเขาไว้ทันที คำว่าปลอดภัยแล่นเข้ามาสู้ห่วงหัวใจ

เป็นเขาคนเดียวตลอดเลยสินะที่มาช่วยเธอได้ทันเวลาทุกครั้ง...

มือหนาลูบปลอบประโลมเมื่อร่างในอ้อมกอดสั่นเทาจนน่าสงสาร เสียงสะอื้นนั้นยิ่งทำให้แค้นใจหันขวับไปมองชายดังกล่าวก่อนจะพุ่งไปชกเข้าที่ใบหน้านั้นเต็มแรง พร้อมกับยกเท้าถีบอยู่สิบกว่าทีโดยที่หญิงสาวก็ไม่ได้เอ่ยห้ามหากมีแรงพอที่จะลุกไหวก็อยากไปแจมด้วยเหมือนกัน

"ถ้ากูเห็นมึงอีก คราวหน้ามึงโดนกูยิงหัวแบะแน่"

"ผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ ปล่อยผมไปเถอะครับ"

"เหอะ คิดว่ากูจะเชื่อคำพูดมึงหรอ ไปพูดคำนี้ในคุกก็แล้วกัน"

เพียงจบประโยคนั้น เสียงไซเรนรถตำรวจก็ดังขึ้นราวกับนัดหมายกันมา คนร้ายถูกจับกุมขึ้นรถไป

นานนับชั่วโมงที่เวหาและฑิฆัมพรยืนให้ปากคำกับตำรวจ ชายหนุ่มหันมองคนที่ยืนซุกอยู่ด้านหลังเป็นระยะๆ มือเล็กยังคงกำเสื้อของเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยคล้ายว่าเธอหวาดระแวงคนรอบๆ ข้างยกเว้นเขา...เขาเพียงคนเดียว

มือหนาจับข้อมือของเธอเอาไว้ถึงกระนั้นความอบอุ่นก็ทำให้หญิงสาวเลิกหวาดกลัวไปได้บ้าง

"กลับบ้าน"น้ำเสียงนุ่มละมุนเอ่ยบอก พลอยให้หญิงสาวนั้นชุ่มชื้นหัวใจ แววตาเขาในวันนี้มันไม่เหมือนก่อน มันดูแปลกไปแต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันลึกซึ้งเพียงใด

มือหนาหมุนพวงมาลัยไปตามเส้นทางส่วนสายตาก็จดจ้องไปตรงหน้าพลางหันมองคนข้างๆ สลับกันก่อนจะถอนหายใจออกมา

"ทีหลังถ้าจะกลับดึกๆ ก็เอารถไปเอง รถที่บ้านมีตั้งสองคันทำไมไม่เอามาใช้"

"ค่ะ"

คนที่เคยพูดมากๆ ในเมื่อวานแต่ตอนนี้กับพูดสั้นจนแทบจะขาดใจ

รถคันสวยถูกจอดที่โรงรถของบ้าน ก่อนที่คนทั้งสองจะเดินพ้นประตูเข้าไป มือหนายื่นมาจับข้อมือเล็กไว้

"มานี้ก่อน"

"โอ้ย! "เสียงอุทานของเธอทำให้เขาหันขวับไปมองก่อนจะผ่อนแรงดึงแขนของเธอเมื่อรู้สึกว่าเธอคงจะเจ็บน่าดู

"ล้มมาหรอหรือว่ามันทำอะไรเธอ? "

มันที่ไหนล่ะตัวเองนั่นแหละ...อยากจะพูดนัก

"เปล่าค่ะ"

"เปล่าอะไรล่ะก็เห็นว่าเจ็บอยู่"ว่าจบก็ย้ายมาจับแขนอีกข้างที่ไม่เจ็บแทนก่อนลากเธอให้ไปนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับจัดการทำแผลบนฝ่ามือให้เธอ เขาค่อยๆ ใช่สำลีชุบน้ำพอหมาดๆ แล้วเช็ดเศษหินเศษดินออก

"ทนนิดนึงนะ"เอ่ยบอกก่อนจะเทแอลกอฮอล์ลงบนฝ่ามือของเธอไม่มีแม่แต่เสียงเล็ดลอดออกมาว่าเธอนั้นเจ็บ

เก่งเหมือนกันหนิ...นึกชมในใจ หากว่าก็พลอยให้นึกถึงเด็กสาวขี้โม้ในอดีตที่เคยบอกว่าไม่กลัวการทำแผลเหมือนกัน แต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ข้างๆ กายเขาแล้ว

พอทำแผลเสร็จชายหนุ่มก็ขอตัวไปนอนทันที

ริมฝีปากบางอมยิ้มอย่างสุขใจพลางลูบบริเวณแผลเบาๆ

เขาทำแผลให้เธอ...ทำไมวันนี้ดูใจดีจัง

พอทานอาหารจนอิ่มหนำสำราญหญิงสาวก็ไปอาบน้ำแล้วมานอนลงยังที่ประจำของตัวเอง

พลางทอดมองผืนฟ้าในค่ำคืนนี้มันช่างดูสดใสไปด้วยหมู่ดาวทว่าเมื่อกลางวันยังมืดครึ้มคล้ายพายุจะเข้าแต่ไหงพอตกดึกกลับดูแปลกไป...คล้ายใครบางคน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา