เมียนอกสายตา
-
เขียนโดย Natthaphan
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.55 น.
25 ตอน
3 วิจารณ์
21.84K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 23.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่ 1 นักศึกษาฝึกงาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความท้องฟ้าก็เหมือนความรัก กว้างใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุด แต่สุดท้ายท้องฟ้าก็ต้องมีวันที่หม่นหมองเพราะมันไม่สามารถสดใสได้ทุกวัน ดั่งเช่นความรักที่บางครั้งอาจจะมีความสุขแต่บางครั้งอาจจะมีความเศร้าปะปนกันไป แต่ถึงอย่างไรหากหัวใจเธอคือท้องฟ้าฉันจะขอเป็นดวงดาวที่อยู่กับเธอตลอดเวลาแม้ในยามที่แสงอาทิตย์เจิดจ้าจนมองไม่เห็นฉัน โปรดจงรู้ไว้ว่าฉันยังอยู่ที่เดิม ฉันยังรอเธอและตามหาเธอเสมอมา
ร่างบางในชุดนักศึกษานั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแม้จะเป็นเพียงการฝึกงานแต่ฑิฆัมพรก็ดูจะจริงจังเอามากๆเพราะเธอถือว่านี้คือบทพิสูจน์ของชีวิตการทำงานในอนาคตว่ามันจะออกมาเป็นเช่นไร หากเธอตั้งใจศึกษาในวันนี้วันหน้าจะได้ไม่ลำบาก
"ฟ้า ท่านรองเรียกให้เข้าไปพบน่ะจ๊ะ" ศิรินภาพี่เลี้ยงฝึกงานแสนใจดีเอ่ยบอกรุ่นน้องก่อนจะหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ข้างๆ
"พี่ภารู้หรือเปล่าคะว่าท่านเรียกฟ้าไปพบเรื่องอะไร?"
"พี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันจ๊ะ ท่านไม่ได้บอกมาน่ะ"
แม้จะสงสัยว่าชายหนุ่มเรียกไปทำไมในเมื่องานที่พึ่งจะได้รับมอบหมายมาเมื่อสักครู่ก็ยังไม่เสร็จดี ร่างบางก้าวเท้าเดินด้วยท่วงท่ากระฉับกระเฉงก่อนจะเปิดประตูกระจกบานใหญ่ออก เธอหยุดยืนบริเวณหน้าโต๊ะทำงานที่ถูกขัดจนเงาวับก่อนที่เจ้าของห้องจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองพร้อมรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นอย่างเช่นทุกครั้ง
"นั่งก่อนสิ"
เธอนั่งลงตามคำเชิญของผู้เป็นเจ้านายพลางทำสีหน้าจริงจังเพื่อรอฟังในสิ่งที่เขากำลังจะเอ่ย
"พอดีอาทิตย์หน้าผมต้องไปดูงานที่ต่างประเทศเป็นเวลาสองเดือน ในระหว่างนั้นผมจะให้คุณไปฝึกงานเป็นเลขาพี่เวก่อน คุณจะโอเคหรือเปล่า?"
"ยังไงก็ได้ค่ะ ฉันเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานไม่มีสิทธิ์เรื่องมากหรอกค่ะ"
เธอเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม วราธรทอดมองริมฝีปากบางอย่างหลงใหลก่อนจะก้มหน้าลงมองแฟ้มงานต่อเพราะรู้สึกว่าตัวเองจะจ้องเธอนานเกินไป
"ถ้าอย่างนั้นก็ตั้งใจทำงานนะครับ"
"ค่ะ งั้นฉันขอตัวไปทำงานต่อนะคะ"
ชายหนุ่มพยักหน้าตอบก่อนจะทอดมองตามแผ่นหลังนั้นไปจนลับตา ที่เขานั้นต้องพยายามเก็บอาการเอาไว้เพราะไม่อยากถูกครหาว่าเป็นสมภารกินไก่วัด
"ถูกย้ายไปฝึกกับท่านประธานหรอ?"ขาเมาท์ประจำบริษัทรีบกรู่เข้ามาถามเด็กฝึกงานด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อได้ยินข่าวลือมาแว่วๆนึกเสียวสันหลังแทนน้องใหม่เสียจริงๆ
"ค่ะ ทำไมหรอคะ?"ถามกลับด้วยท่าทางซื่อๆจนพี่ๆต่างพากันนึกสงสารในใจ
"ก็ท่านประธานน่ะ น่ากลัวจะตาย"
"ใครบอกพวกพี่หรอคะ?"ยังคงพูดคุยด้วยท่าทางไม่เป็นเดือดเป็นร้อนผิดกลับพี่ๆที่นึกหวาดกลัวแทนน้อง
"ก็ได้ยินข่าวลือมาอีกทีน่ะจ๊ะ ยังไงก็ระวังไว้บ้างก็ดี อย่าไปทำอะไรให้ท่านโกธรล่ะ เดียวจะซวยเอา"
"ท่านประธานไม่ใช่คนน่ากลัวหรอกค่ะ"
ทุกคนที่กำลังจะเดินกลับที่ของตัวเองรีบหันขวับมามองก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมยิงสารพัดคำถามเมื่อความอยากรู้เริ่มก่อตัว แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ตอบอะไรไป เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อทำผิดมหันต์เผลอพูดอะไรออกไปจนไม่เป็นอันทำงานทำการต้องมานั่งเสียสมาธิกับเสียงที่เอ่ยถามกันของคนนับสิบคน
"ท่านรองมาค่ะ!"
ทุกคนรีบวิ่งกลับโต๊ะทันทีเมื่อหญิงสาวตะโกนออกไป
"ไหนท่านรอง? น้องฟ้าแกล้งพี่หนิ"สุวิมลหัวหน้าก้วนสายเมาท์มอยประจำบริษัทพูดขึ้นด้วยท่าทางฟึดฟัด
แต่ก็ยอมยุติสงครามเมื่อครู่และหันไปสนใจงานตรงหน้าต่อ ร่างบางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกพลางกลับไปก้มหน้าก้มตารีบพิมพ์งานที่ทำให้สมองแทบระเบิดอีกครั้ง
ร่างระหงเดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางอ่อนล้าก่อนจะทิ้งกายลงบนโซฟาตัวใหญ่ ผู้เป็นพ่อทอดมองบุตรสาวก่อนจะยิ้มออกมากับสีหน้าของคนที่พึ่งจะเลิกงานมาหมาดๆ
"เหนื่อยขนาดนั้นเลยหรอลูก?"
"มากค่ะพ่อ"
เขาวางแฟ้มเอกสารในมือลงก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้ๆบุตรสาว
"พ่อบอกแล้วว่าให้ไปฝึกงานที่บริษัทพ่อก็ไม่เชื่อ เป็นไงล่ะทีนี้"
"ไม่เอาหรอกค่ะ ถ้าให้ไปฝึกบริษัทพ่อฟ้ายอมเหนื่อยแบบนี้ดีกว่า ถ้าไปบริษัทพ่อก็ไม่มีใครกล้าดุกล้าว่าฟ้าสิคะ ถ้าเกิดฟ้าทำอะไรผิดเขาก็คงได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆแต่ไม่กล้าพูด ฟ้าไปฝึกที่นี้น่ะดีแล้วค่ะ ฟ้าไม่อยากได้ชื่อว่าลูกแหง่"
"จ้า คนเก่งของพ่อ"
เธอสวมกอดร่างอวบอ้วนของผู้เป็นพ่อด้วยท่าทางอ้อนๆแม้จะเหนื่อยมากเพียงใดแต่พอได้กลับมาบ้าน ได้กอดพ่อและแม่ก็เหมือนว่าความเหนื่อยนั้นจะคลายลงไปบาง
แสงอาทิตย์อ่อนๆในยามเช้าส่องกระทบกับกระจกในห้องทำงานที่ดูใหญ่โอฬารทั้งๆที่ภายในมีคนอยู่เพียงคนเดียว ภาพนั้นช่างดูว้าเหว่จนน่าใจหาย การอยู่เพียงลำพังในพื้นที่แบบนี้เป็นความเคยชินของชายหนุ่มไปเสียแล้วแต่บางทีก็รู้สึกเหงาใจอยู่ไม่น้อยอยากมีใครสักคนมานั่งเป็นกำลังใจให้ในเวลาทำงาน แต่นั้นก็เป็นเพียงแค่ฝันเพราะคนที่เขารอไม่เคยมีเวลามาหาเขาเลยสักนิด เธอบอกแต่ว่าช่วงนี้ยุ่งๆเพราะใกล้จะเรียนจบแล้ว ยิ่งไปอยู่เมืองนอกยิ่งทำให้ระยะทางห่างกันไปไกลกว่าเดิมจนเริ่มรู้สึกว่าเธอทำตัวห่างเหินเขาไปเรื่อยๆ
มือหนากดปุ่มเรียกเลขาส่วนตัวด้วยอาการหงุดหงิดทั้งอารมณ์เสียที่แฟนสาวไม่มีเวลาให้ทั้งหงุดหงิดที่ลูกน้องทำงานไม่ถูกใจ ใบหน้าคมเข้มดูน่ากลัวขึ้นกว่าเดิมจนคนที่ถูกเรียกถึงกับเสียวสันหลังวาบ ทั้งๆที่ควรจะชินแต่ก็ไม่มีสักครั้งที่เธอจะไม่รู้สึกกลัวกับใบหน้านี้เลย
“คุณนารีรัตน์ คุณทำงานกับผมมากี่ปีแล้ว?”
มือทั้งสองบีบกันแน่นด้วยความกลัวที่ถูกเจ้านายเรียกชื่อจริงเพราะนั้นหมายถึงหายนะที่กำลังจะคืบคลานเข้ามาไม่วันนี้ก็คงอีกไม่นานเกินรอ
“เอ่อ...หะ...หกปีค่ะ”
“ทำงานแบบนี้อยากหางานใหม่หรือไง”
“ขอโทษค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะรีบเอาไปแก้เดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
หญิงวัยสามสิบปลายๆรีบยื่นมือไปหยิบแฟ้มที่เจ้านายโยนทิ้งไว้บนโต๊ะด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ แล้วจึงรีบสาวเท้าเดินออกไปด้วยความรวดเร็ว
วราธรมองตามเลขาส่วนตัวของผู้เป็นพี่ชายพลางหันกลับมามองร่างสูงที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่
“โมโหอะไรแต่เช้าเนี้ยพี่เว?”หย่อนก้นลงบนโซฟาสำหรับแขกแล้วจึงเอ่ยถาม
“ก็เรื่องเดิมๆแหละ ว่าแต่แกมีอะไรถึงหอบสังขารมาหาฉันได้?”
“คิดถึง”
ใบหน้าคมแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อก่อนจะถูแขนตัวเองไปมา
“ขนลุกว่ะ แกมีอะไรก็พูดมาเลยไอ้ท่านรอง ไม่ต้องมาเล่นลิ้นกับฉัน”
“พอดีผมจะฝากเด็กมาฝึกงานกับพี่หน่อยน่ะ ช่วงที่ผมไปดูงานที่ต่างประเทศสองเดือน จะได้หรือเปล่าครับท่านประธาน”
“ตามใจ แต่ถ้าทำงานไม่ถูกใจฉันก็อาจจะโดนแบบเมื่อกี้นะ คนที่แกจะพามาจะทนได้หรอ แกก็รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง”
“รู้ แต่ผมเชื่อว่าเธอจะไม่โดนพี่ดุแน่นอน”
“มั่นใจขนาดนั้นเชียว”
“แน่นอนดิพี่ ผมฝึกมากับมือ”
“ดูแกจะปลื้มคนนี้จังเลยนะ อยากเห็นหน้าแล้วสิ
“คนนี้พี่ห้ามยุ่งนะครับ”
“ฉันมีแฟนแล้ว และฉันก็รักมีนคนเดียว เพราะเธอคือรักแรกพบของฉัน”
“ครับๆรู้แล้วครับ ไอ้เรื่องมนต์รักในดงป่าของพี่เนี้ยผมฟังจนจำได้ก่อนแม่สูตรคูณซะอีก งั้นผมขอตัวไปทำงานต่อนะ”
“เออๆ เรียกซะเสียหมด”
พอผู้เป็นน้องชายเดินออกไปจนลับสายตา เวหาก็ลุกขึ้นก่อนจะทอดมองวิวทิวทัศน์ด้วยแววตาล่องลอย พลางทำให้นึกถึงอดีต อดีตที่เขานั้นจำไม่เคยลืม
‘มีนอย่าลืมพี่นะ’
‘หนูไม่ลืมพี่หรอก พี่นั้นแหละที่จะลืมหนู ยิ่งขี้ลืมอยู่ด้วย ขนาดชื่อหนูยังเรียกผิดตลอด พี่ปลาทองของน้อง...’คิ้วหนาย่นติดกันด้วยท่าทางครุ่นคิดเมื่อรู้สึกว่าประโยคนั้นยังไม่จบดี
แล้วคำที่หายไปคือคำว่าอะไรกัน ตลอดเวลาที่คบกับเธอมาหนึ่งปีเต็มเขาก็ยังคงไม่รู้ว่าประโยคนั้นคืออะไร เพราะไม่เคยเอ่ยถามแค่ได้เธอกลับมาเขาก็ดีใจมากพอแล้ว ชีวิตนี้คงไม่ขออะไรอีกนอกจากเธอคนนี้
ร่างบางในชุดนักศึกษานั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแม้จะเป็นเพียงการฝึกงานแต่ฑิฆัมพรก็ดูจะจริงจังเอามากๆเพราะเธอถือว่านี้คือบทพิสูจน์ของชีวิตการทำงานในอนาคตว่ามันจะออกมาเป็นเช่นไร หากเธอตั้งใจศึกษาในวันนี้วันหน้าจะได้ไม่ลำบาก
"ฟ้า ท่านรองเรียกให้เข้าไปพบน่ะจ๊ะ" ศิรินภาพี่เลี้ยงฝึกงานแสนใจดีเอ่ยบอกรุ่นน้องก่อนจะหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ข้างๆ
"พี่ภารู้หรือเปล่าคะว่าท่านเรียกฟ้าไปพบเรื่องอะไร?"
"พี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันจ๊ะ ท่านไม่ได้บอกมาน่ะ"
แม้จะสงสัยว่าชายหนุ่มเรียกไปทำไมในเมื่องานที่พึ่งจะได้รับมอบหมายมาเมื่อสักครู่ก็ยังไม่เสร็จดี ร่างบางก้าวเท้าเดินด้วยท่วงท่ากระฉับกระเฉงก่อนจะเปิดประตูกระจกบานใหญ่ออก เธอหยุดยืนบริเวณหน้าโต๊ะทำงานที่ถูกขัดจนเงาวับก่อนที่เจ้าของห้องจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองพร้อมรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นอย่างเช่นทุกครั้ง
"นั่งก่อนสิ"
เธอนั่งลงตามคำเชิญของผู้เป็นเจ้านายพลางทำสีหน้าจริงจังเพื่อรอฟังในสิ่งที่เขากำลังจะเอ่ย
"พอดีอาทิตย์หน้าผมต้องไปดูงานที่ต่างประเทศเป็นเวลาสองเดือน ในระหว่างนั้นผมจะให้คุณไปฝึกงานเป็นเลขาพี่เวก่อน คุณจะโอเคหรือเปล่า?"
"ยังไงก็ได้ค่ะ ฉันเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานไม่มีสิทธิ์เรื่องมากหรอกค่ะ"
เธอเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม วราธรทอดมองริมฝีปากบางอย่างหลงใหลก่อนจะก้มหน้าลงมองแฟ้มงานต่อเพราะรู้สึกว่าตัวเองจะจ้องเธอนานเกินไป
"ถ้าอย่างนั้นก็ตั้งใจทำงานนะครับ"
"ค่ะ งั้นฉันขอตัวไปทำงานต่อนะคะ"
ชายหนุ่มพยักหน้าตอบก่อนจะทอดมองตามแผ่นหลังนั้นไปจนลับตา ที่เขานั้นต้องพยายามเก็บอาการเอาไว้เพราะไม่อยากถูกครหาว่าเป็นสมภารกินไก่วัด
"ถูกย้ายไปฝึกกับท่านประธานหรอ?"ขาเมาท์ประจำบริษัทรีบกรู่เข้ามาถามเด็กฝึกงานด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อได้ยินข่าวลือมาแว่วๆนึกเสียวสันหลังแทนน้องใหม่เสียจริงๆ
"ค่ะ ทำไมหรอคะ?"ถามกลับด้วยท่าทางซื่อๆจนพี่ๆต่างพากันนึกสงสารในใจ
"ก็ท่านประธานน่ะ น่ากลัวจะตาย"
"ใครบอกพวกพี่หรอคะ?"ยังคงพูดคุยด้วยท่าทางไม่เป็นเดือดเป็นร้อนผิดกลับพี่ๆที่นึกหวาดกลัวแทนน้อง
"ก็ได้ยินข่าวลือมาอีกทีน่ะจ๊ะ ยังไงก็ระวังไว้บ้างก็ดี อย่าไปทำอะไรให้ท่านโกธรล่ะ เดียวจะซวยเอา"
"ท่านประธานไม่ใช่คนน่ากลัวหรอกค่ะ"
ทุกคนที่กำลังจะเดินกลับที่ของตัวเองรีบหันขวับมามองก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมยิงสารพัดคำถามเมื่อความอยากรู้เริ่มก่อตัว แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ตอบอะไรไป เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อทำผิดมหันต์เผลอพูดอะไรออกไปจนไม่เป็นอันทำงานทำการต้องมานั่งเสียสมาธิกับเสียงที่เอ่ยถามกันของคนนับสิบคน
"ท่านรองมาค่ะ!"
ทุกคนรีบวิ่งกลับโต๊ะทันทีเมื่อหญิงสาวตะโกนออกไป
"ไหนท่านรอง? น้องฟ้าแกล้งพี่หนิ"สุวิมลหัวหน้าก้วนสายเมาท์มอยประจำบริษัทพูดขึ้นด้วยท่าทางฟึดฟัด
แต่ก็ยอมยุติสงครามเมื่อครู่และหันไปสนใจงานตรงหน้าต่อ ร่างบางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกพลางกลับไปก้มหน้าก้มตารีบพิมพ์งานที่ทำให้สมองแทบระเบิดอีกครั้ง
ร่างระหงเดินเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางอ่อนล้าก่อนจะทิ้งกายลงบนโซฟาตัวใหญ่ ผู้เป็นพ่อทอดมองบุตรสาวก่อนจะยิ้มออกมากับสีหน้าของคนที่พึ่งจะเลิกงานมาหมาดๆ
"เหนื่อยขนาดนั้นเลยหรอลูก?"
"มากค่ะพ่อ"
เขาวางแฟ้มเอกสารในมือลงก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้ๆบุตรสาว
"พ่อบอกแล้วว่าให้ไปฝึกงานที่บริษัทพ่อก็ไม่เชื่อ เป็นไงล่ะทีนี้"
"ไม่เอาหรอกค่ะ ถ้าให้ไปฝึกบริษัทพ่อฟ้ายอมเหนื่อยแบบนี้ดีกว่า ถ้าไปบริษัทพ่อก็ไม่มีใครกล้าดุกล้าว่าฟ้าสิคะ ถ้าเกิดฟ้าทำอะไรผิดเขาก็คงได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆแต่ไม่กล้าพูด ฟ้าไปฝึกที่นี้น่ะดีแล้วค่ะ ฟ้าไม่อยากได้ชื่อว่าลูกแหง่"
"จ้า คนเก่งของพ่อ"
เธอสวมกอดร่างอวบอ้วนของผู้เป็นพ่อด้วยท่าทางอ้อนๆแม้จะเหนื่อยมากเพียงใดแต่พอได้กลับมาบ้าน ได้กอดพ่อและแม่ก็เหมือนว่าความเหนื่อยนั้นจะคลายลงไปบาง
แสงอาทิตย์อ่อนๆในยามเช้าส่องกระทบกับกระจกในห้องทำงานที่ดูใหญ่โอฬารทั้งๆที่ภายในมีคนอยู่เพียงคนเดียว ภาพนั้นช่างดูว้าเหว่จนน่าใจหาย การอยู่เพียงลำพังในพื้นที่แบบนี้เป็นความเคยชินของชายหนุ่มไปเสียแล้วแต่บางทีก็รู้สึกเหงาใจอยู่ไม่น้อยอยากมีใครสักคนมานั่งเป็นกำลังใจให้ในเวลาทำงาน แต่นั้นก็เป็นเพียงแค่ฝันเพราะคนที่เขารอไม่เคยมีเวลามาหาเขาเลยสักนิด เธอบอกแต่ว่าช่วงนี้ยุ่งๆเพราะใกล้จะเรียนจบแล้ว ยิ่งไปอยู่เมืองนอกยิ่งทำให้ระยะทางห่างกันไปไกลกว่าเดิมจนเริ่มรู้สึกว่าเธอทำตัวห่างเหินเขาไปเรื่อยๆ
มือหนากดปุ่มเรียกเลขาส่วนตัวด้วยอาการหงุดหงิดทั้งอารมณ์เสียที่แฟนสาวไม่มีเวลาให้ทั้งหงุดหงิดที่ลูกน้องทำงานไม่ถูกใจ ใบหน้าคมเข้มดูน่ากลัวขึ้นกว่าเดิมจนคนที่ถูกเรียกถึงกับเสียวสันหลังวาบ ทั้งๆที่ควรจะชินแต่ก็ไม่มีสักครั้งที่เธอจะไม่รู้สึกกลัวกับใบหน้านี้เลย
“คุณนารีรัตน์ คุณทำงานกับผมมากี่ปีแล้ว?”
มือทั้งสองบีบกันแน่นด้วยความกลัวที่ถูกเจ้านายเรียกชื่อจริงเพราะนั้นหมายถึงหายนะที่กำลังจะคืบคลานเข้ามาไม่วันนี้ก็คงอีกไม่นานเกินรอ
“เอ่อ...หะ...หกปีค่ะ”
“ทำงานแบบนี้อยากหางานใหม่หรือไง”
“ขอโทษค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะรีบเอาไปแก้เดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
หญิงวัยสามสิบปลายๆรีบยื่นมือไปหยิบแฟ้มที่เจ้านายโยนทิ้งไว้บนโต๊ะด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ แล้วจึงรีบสาวเท้าเดินออกไปด้วยความรวดเร็ว
วราธรมองตามเลขาส่วนตัวของผู้เป็นพี่ชายพลางหันกลับมามองร่างสูงที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่
“โมโหอะไรแต่เช้าเนี้ยพี่เว?”หย่อนก้นลงบนโซฟาสำหรับแขกแล้วจึงเอ่ยถาม
“ก็เรื่องเดิมๆแหละ ว่าแต่แกมีอะไรถึงหอบสังขารมาหาฉันได้?”
“คิดถึง”
ใบหน้าคมแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อก่อนจะถูแขนตัวเองไปมา
“ขนลุกว่ะ แกมีอะไรก็พูดมาเลยไอ้ท่านรอง ไม่ต้องมาเล่นลิ้นกับฉัน”
“พอดีผมจะฝากเด็กมาฝึกงานกับพี่หน่อยน่ะ ช่วงที่ผมไปดูงานที่ต่างประเทศสองเดือน จะได้หรือเปล่าครับท่านประธาน”
“ตามใจ แต่ถ้าทำงานไม่ถูกใจฉันก็อาจจะโดนแบบเมื่อกี้นะ คนที่แกจะพามาจะทนได้หรอ แกก็รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง”
“รู้ แต่ผมเชื่อว่าเธอจะไม่โดนพี่ดุแน่นอน”
“มั่นใจขนาดนั้นเชียว”
“แน่นอนดิพี่ ผมฝึกมากับมือ”
“ดูแกจะปลื้มคนนี้จังเลยนะ อยากเห็นหน้าแล้วสิ
“คนนี้พี่ห้ามยุ่งนะครับ”
“ฉันมีแฟนแล้ว และฉันก็รักมีนคนเดียว เพราะเธอคือรักแรกพบของฉัน”
“ครับๆรู้แล้วครับ ไอ้เรื่องมนต์รักในดงป่าของพี่เนี้ยผมฟังจนจำได้ก่อนแม่สูตรคูณซะอีก งั้นผมขอตัวไปทำงานต่อนะ”
“เออๆ เรียกซะเสียหมด”
พอผู้เป็นน้องชายเดินออกไปจนลับสายตา เวหาก็ลุกขึ้นก่อนจะทอดมองวิวทิวทัศน์ด้วยแววตาล่องลอย พลางทำให้นึกถึงอดีต อดีตที่เขานั้นจำไม่เคยลืม
‘มีนอย่าลืมพี่นะ’
‘หนูไม่ลืมพี่หรอก พี่นั้นแหละที่จะลืมหนู ยิ่งขี้ลืมอยู่ด้วย ขนาดชื่อหนูยังเรียกผิดตลอด พี่ปลาทองของน้อง...’คิ้วหนาย่นติดกันด้วยท่าทางครุ่นคิดเมื่อรู้สึกว่าประโยคนั้นยังไม่จบดี
แล้วคำที่หายไปคือคำว่าอะไรกัน ตลอดเวลาที่คบกับเธอมาหนึ่งปีเต็มเขาก็ยังคงไม่รู้ว่าประโยคนั้นคืออะไร เพราะไม่เคยเอ่ยถามแค่ได้เธอกลับมาเขาก็ดีใจมากพอแล้ว ชีวิตนี้คงไม่ขออะไรอีกนอกจากเธอคนนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ