พี่รหัสผมไม่เคยน่ารักมาก่อน
-
เขียนโดย จอนสโนว
วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 20.54 น.
18 ตอน
0 วิจารณ์
15.03K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 20.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) เสี่ยงเกินไป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ช่วงเวลาเลิกงานของเย็นวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ใครๆ ก็ต่างเฝ้านับวันรอ ด้วยความที่เป็นวันที่ทุกคนรอคอยจึงมีปริมาณรถบนถนนหนาแน่น รถประจำทางกว่าจะมาได้แต่ละคันก็เว้นช่วงกินระยะเวลานาน ณิชาสาวน้อยแสนเรียบร้อยก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องรอรถเมล์ด้วย แต่ไม่ได้มีแค่เธอที่รอเพียงลำพังเพราะในวันนี้ปันผลอีตคนรักของเธอก็อยู่ด้วยเช่นกัน
"ถึงบ้านดึกแน่เลยวันนี้" ณิชาบ่นกับตัวเองพรางมองนาฬิกาข้อมือไปด้วย
ปันผลที่ยืนอยู่อีกฟากของป้ายรถเมล์สังเกตเห็นเธอนั่งหน้าเซ็งอยู่คนเดียวก็เลยเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปหาและพูดคุยด้วย "บ่นอะไรอยู่คนเดียว ฟังด้วยคนได้เปล่า"
ณิชาเงยหน้าขึ้นไปมองต้นตอของเสียงนั้นแล้วพูดขึ้นว่า "อ้าว ปันผล วันนี้กลับรถเมล์หรอปกติไม่ค่อยเห็นเลย"
"ปกติก็กลับรถเมล์แหละ อาจจะคนละเวลามั้งเลยไม่ค่อยเห็น" ปันผลพูด เขายืนนึกอยู่สักพักก่อนเขาจะมองเห็นอะไรบางอย่างแล้วพูดต่อว่า "นั่นรถเธอมาแล้วหนิ ขอนั่งไปส่งนะ"
"แต่รถคันนี้มันไม่ผ่านบ้านเธอไม่ใช่หรอ" ณิชาพูด
"ค่อยไปหาต่อเอา ขี้เกียจรอแล้วอ่ะ แล้วก็มีเรื่องอยากคุยด้วย" ปันผลพูด
จากนั้นทั้งคู่ก็พากันขึ้นรถเมล์สายนั้นไป รถอันแสนแออัดเต็มไปด้วยผู้คนไม่มีที่นั่งเต็มไปด้วยคนยืน บางคนนั่งหลับ บางคนยืนหลับ เล่นโทรศัพท์บ้าง อ่านหนังสือบ้าง ส่วนบางคนก็ชอบทำตัวลับๆล่อๆไม่ค่อยหน้าไว้ใจสักเท่าไหร่โดยสารอยู่ในรถคันเดียวกัน
ปันผลสังเกตเห็นณิชาพยายามเอาตัวขยับเข้ามาใกล้ๆ เขา เขาจึงสงสัยและมองไปรอบๆ ก็เห็นว่ามีชายคนหนึ่งกำลังทำตัวแปลกๆ อยู่ เขาจึงดึงตัวเธอให้มาอยู่ใกล้ๆเขา และกระซิบข้างหูเธอว่า "ไม่ต้องห่วงนะ"
เมื่อรถฝ่าการจราจรอันแสนหฤโหดจนมาถึงที่หมายของพวกเขาทั้งสองคน พวกเขาจึงลงจากรถมาทันที
"ขอบคุณนะ" ณิชาพูด
"ไม่เป็นไรหรอก" ปันผลตอบ
"มืดแล้วจะหารถกลับได้มั้ยเนี่ย" เธอถาม
"ไม่มีปัญหา" เขาตอบ ระหว่างที่เขายืนอยู่ก็มีเสียงร้องโฮกฮากดังมาจากร่างกายของเขาจนณิชาเองก็ยังสังเกตได้
"ไปกินข้าวก่อนมั้ย ร้านข้าวมันไก่ที่เธอชอบยังเปิดอยู่นะ" ณิชาถาม
"ไปดิ" เขาตอบ
ร้านข้าวมันไก่ที่เหมือนจะเป็นร้านธรรมดาร้านนี้เคยเป็นร้านที่เมื่อสมัยเด็กที่ทั้งสองคนยังคบกันอยู่เคยมากินด้วยกันแทบทุกครั้งที่ปันผลนั่งรถมาส่งณิชาที่บ้าน ข้าวมันไก่ผสมต้มทอดที่ไก่ถูกสับและวางกลบข้าวมันที่มีอยู่พูนจานจนมิด ถ้าวัดแคลอรี่แล้วก็คงจะหลายอยู่ วันนี้ปันผลจัดไปแล้วเกือบ 2 จาน
"หิวอะไรขนาดนั้น" ณิชาถาม
"ก็มันอร่อยอ่ะ ไม่ได้กินนานแล้วด้วยก็เลยต้องเยอะหน่อย" ปันผลตอบ
"แล้วเธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับเค้านะ" ณิชาถาม
"อ๋อ คืองี้ คือว่าพ่อกับแม่เราจะกลับไปทำสวนที่บ้านปู่ ก็เลยให้เรามาชวนเธอไปหาท่านที่บ้านก่อนพวกท่านจะออกจากกรุงเทพ" ปันผลพูด
"วันไหนอ่ะ" ณิชาถาม
"พรุ่งนี้ว่างเปล่า" ปันผลถาม
"พรุ่งนี้เลยหรอ ก็ได้นะ ไม่ได้เจอพ่อกับแม่เธอนานแล้ว ตื่นเต้นนะเนี่ย" ณิชาตอบ เธอนั่งนิ่งลังเลใจที่จะพูดอะไรบางอย่างแล้วจึงพูดต่อว่า "พรุ่งนี้...ถ้ามีเวลาเหลือพาไป...ซื้อของที่จะไปเมืองกาญหน่อย"
ปันผลที่นั่งกินข้าวมันไก่อยู่เงยหน้าขึ้นมองตาณิชาก่อนจะอมยิ้มและพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าตกลง
ทางด้านของใจใสที่กำลังบรรเลงเปียโนอยู่ในบ้านของเธอ บทเพลงบรรเลงสากลนั้นมันขับกล่อมอารมณ์ของเธอทำให้ผ่อนคลายและสบายใจ และลืมเรื่องเครียดจากที่ทำงานไปได้หลายอย่าง แต่เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแล้วหน้าจอนั้นเป็นชื่อของปันผลสมาธิทั้งหมดที่มีก็ได้กระจายหายไป
"เพิ่งจะถึงบ้านเอง" เสียงจากปันผล
"บอกแล้วให้หลับพร้อมพี่ไม่ยอมเชื่อ พี่นี้ว่างเปล่าพี่จะชวนไปเดินเล่น" ใจใสถาม
"ไม่ได้อ่ะพี่ พ่อผมให้พานิไปหาที่บ้าน" ปันผลพูด
"งั้นหรอ...งั้นไม่เป็นไรก็ได้" ใจใสตอบ
เมื่อเธอวางสายลงปลายนิ้วของเธอได้จรดลงบนแป้นเปียโน ไล่เกลไปทีละโน๊ต จนมาหยุดที่ตัวโน๊ตตัวหนึ่งจากนั้นเธอก็เริ่มบรรเลงเพลงที่เธออยากจะระบายความรู้สึกในตอนนี้ เขาที่เข้ามาทำให้ใจของตัวเธอนั้นต้องหวั่นไหว แล้ววันนึงตัวเธอเองนั่นแหละที่ไปดึงให้คนรักเก่าของเขาเข้ามา ความสนิทความรู้ใจที่พวกเขาเคยมีให้กันมันไม่เคยจางหายไปไหนเลย ครอบครัวเขาก็ยังคงเอ็นดูกัน เธอควรจะรู้สึกแบบนี้ต่อไปหรือจะเดินถอยออกมา คงเป็นคำถามที่ยากที่จะตอบ แม้เธอจะรู้สึกหน่วงแค่ไหนก็ตามแต่เพลงที่บรรยายความรู้สึกเธอได้บอกว่าแค่ได้ชิดได้อยู่ใกล้แค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว แล้วเขาเองก็เหมือนจะทำตัวมากเกินกว่าพี่น้องที่ควรจะเป็นด้วย หลายๆคำถามในใจที่เธออยากถามแต่เธอทำไม่ได้เพราะมันเสี่ยงมาก มันเสี่ยงเกินไปจริงๆ
"ถึงบ้านดึกแน่เลยวันนี้" ณิชาบ่นกับตัวเองพรางมองนาฬิกาข้อมือไปด้วย
ปันผลที่ยืนอยู่อีกฟากของป้ายรถเมล์สังเกตเห็นเธอนั่งหน้าเซ็งอยู่คนเดียวก็เลยเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปหาและพูดคุยด้วย "บ่นอะไรอยู่คนเดียว ฟังด้วยคนได้เปล่า"
ณิชาเงยหน้าขึ้นไปมองต้นตอของเสียงนั้นแล้วพูดขึ้นว่า "อ้าว ปันผล วันนี้กลับรถเมล์หรอปกติไม่ค่อยเห็นเลย"
"ปกติก็กลับรถเมล์แหละ อาจจะคนละเวลามั้งเลยไม่ค่อยเห็น" ปันผลพูด เขายืนนึกอยู่สักพักก่อนเขาจะมองเห็นอะไรบางอย่างแล้วพูดต่อว่า "นั่นรถเธอมาแล้วหนิ ขอนั่งไปส่งนะ"
"แต่รถคันนี้มันไม่ผ่านบ้านเธอไม่ใช่หรอ" ณิชาพูด
"ค่อยไปหาต่อเอา ขี้เกียจรอแล้วอ่ะ แล้วก็มีเรื่องอยากคุยด้วย" ปันผลพูด
จากนั้นทั้งคู่ก็พากันขึ้นรถเมล์สายนั้นไป รถอันแสนแออัดเต็มไปด้วยผู้คนไม่มีที่นั่งเต็มไปด้วยคนยืน บางคนนั่งหลับ บางคนยืนหลับ เล่นโทรศัพท์บ้าง อ่านหนังสือบ้าง ส่วนบางคนก็ชอบทำตัวลับๆล่อๆไม่ค่อยหน้าไว้ใจสักเท่าไหร่โดยสารอยู่ในรถคันเดียวกัน
ปันผลสังเกตเห็นณิชาพยายามเอาตัวขยับเข้ามาใกล้ๆ เขา เขาจึงสงสัยและมองไปรอบๆ ก็เห็นว่ามีชายคนหนึ่งกำลังทำตัวแปลกๆ อยู่ เขาจึงดึงตัวเธอให้มาอยู่ใกล้ๆเขา และกระซิบข้างหูเธอว่า "ไม่ต้องห่วงนะ"
เมื่อรถฝ่าการจราจรอันแสนหฤโหดจนมาถึงที่หมายของพวกเขาทั้งสองคน พวกเขาจึงลงจากรถมาทันที
"ขอบคุณนะ" ณิชาพูด
"ไม่เป็นไรหรอก" ปันผลตอบ
"มืดแล้วจะหารถกลับได้มั้ยเนี่ย" เธอถาม
"ไม่มีปัญหา" เขาตอบ ระหว่างที่เขายืนอยู่ก็มีเสียงร้องโฮกฮากดังมาจากร่างกายของเขาจนณิชาเองก็ยังสังเกตได้
"ไปกินข้าวก่อนมั้ย ร้านข้าวมันไก่ที่เธอชอบยังเปิดอยู่นะ" ณิชาถาม
"ไปดิ" เขาตอบ
ร้านข้าวมันไก่ที่เหมือนจะเป็นร้านธรรมดาร้านนี้เคยเป็นร้านที่เมื่อสมัยเด็กที่ทั้งสองคนยังคบกันอยู่เคยมากินด้วยกันแทบทุกครั้งที่ปันผลนั่งรถมาส่งณิชาที่บ้าน ข้าวมันไก่ผสมต้มทอดที่ไก่ถูกสับและวางกลบข้าวมันที่มีอยู่พูนจานจนมิด ถ้าวัดแคลอรี่แล้วก็คงจะหลายอยู่ วันนี้ปันผลจัดไปแล้วเกือบ 2 จาน
"หิวอะไรขนาดนั้น" ณิชาถาม
"ก็มันอร่อยอ่ะ ไม่ได้กินนานแล้วด้วยก็เลยต้องเยอะหน่อย" ปันผลตอบ
"แล้วเธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับเค้านะ" ณิชาถาม
"อ๋อ คืองี้ คือว่าพ่อกับแม่เราจะกลับไปทำสวนที่บ้านปู่ ก็เลยให้เรามาชวนเธอไปหาท่านที่บ้านก่อนพวกท่านจะออกจากกรุงเทพ" ปันผลพูด
"วันไหนอ่ะ" ณิชาถาม
"พรุ่งนี้ว่างเปล่า" ปันผลถาม
"พรุ่งนี้เลยหรอ ก็ได้นะ ไม่ได้เจอพ่อกับแม่เธอนานแล้ว ตื่นเต้นนะเนี่ย" ณิชาตอบ เธอนั่งนิ่งลังเลใจที่จะพูดอะไรบางอย่างแล้วจึงพูดต่อว่า "พรุ่งนี้...ถ้ามีเวลาเหลือพาไป...ซื้อของที่จะไปเมืองกาญหน่อย"
ปันผลที่นั่งกินข้าวมันไก่อยู่เงยหน้าขึ้นมองตาณิชาก่อนจะอมยิ้มและพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าตกลง
ทางด้านของใจใสที่กำลังบรรเลงเปียโนอยู่ในบ้านของเธอ บทเพลงบรรเลงสากลนั้นมันขับกล่อมอารมณ์ของเธอทำให้ผ่อนคลายและสบายใจ และลืมเรื่องเครียดจากที่ทำงานไปได้หลายอย่าง แต่เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแล้วหน้าจอนั้นเป็นชื่อของปันผลสมาธิทั้งหมดที่มีก็ได้กระจายหายไป
"เพิ่งจะถึงบ้านเอง" เสียงจากปันผล
"บอกแล้วให้หลับพร้อมพี่ไม่ยอมเชื่อ พี่นี้ว่างเปล่าพี่จะชวนไปเดินเล่น" ใจใสถาม
"ไม่ได้อ่ะพี่ พ่อผมให้พานิไปหาที่บ้าน" ปันผลพูด
"งั้นหรอ...งั้นไม่เป็นไรก็ได้" ใจใสตอบ
เมื่อเธอวางสายลงปลายนิ้วของเธอได้จรดลงบนแป้นเปียโน ไล่เกลไปทีละโน๊ต จนมาหยุดที่ตัวโน๊ตตัวหนึ่งจากนั้นเธอก็เริ่มบรรเลงเพลงที่เธออยากจะระบายความรู้สึกในตอนนี้ เขาที่เข้ามาทำให้ใจของตัวเธอนั้นต้องหวั่นไหว แล้ววันนึงตัวเธอเองนั่นแหละที่ไปดึงให้คนรักเก่าของเขาเข้ามา ความสนิทความรู้ใจที่พวกเขาเคยมีให้กันมันไม่เคยจางหายไปไหนเลย ครอบครัวเขาก็ยังคงเอ็นดูกัน เธอควรจะรู้สึกแบบนี้ต่อไปหรือจะเดินถอยออกมา คงเป็นคำถามที่ยากที่จะตอบ แม้เธอจะรู้สึกหน่วงแค่ไหนก็ตามแต่เพลงที่บรรยายความรู้สึกเธอได้บอกว่าแค่ได้ชิดได้อยู่ใกล้แค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว แล้วเขาเองก็เหมือนจะทำตัวมากเกินกว่าพี่น้องที่ควรจะเป็นด้วย หลายๆคำถามในใจที่เธออยากถามแต่เธอทำไม่ได้เพราะมันเสี่ยงมาก มันเสี่ยงเกินไปจริงๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ