พี่รหัสผมไม่เคยน่ารักมาก่อน
เขียนโดย จอนสโนว
วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 20.54 น.
แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 20.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) สัมภาษณ์งาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“พี่ๆ ไปบริษัทเอทียาฟู้ดส์” ปันผล หนุ่มน้อยนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังรีบไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทผลิตอาหารและขนมชื่อดังของประเทศ เขามีนัดสัมภาษณ์ตอน 9 โมง และนี่ก็เป็นเวลา 8.45 น.แล้ว เขาจึงรีบเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อเดินทางไป
5 นาทีต่อมา ปันผลได้เดินทางมาถึงบริษัท เมื่อมาถึงแล้วเขาจึงรีบแลกบัตรที่หน้าป้อม รปภ.และเข้าไปติดต่อด้านในทันที
“สวัสดีครับ ติดต่อสัมภาษณ์งานกับคุณลาภิสราครับ” ปันผลพูดกับประชาสัมพันธ์ที่เคาเตอร์ด้านหน้าบริษัท
“เดี๋ยวนำใบสมัครไปกรอกแล้วแบบทดสอบไปนั่งทำก่อนนะคะ” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์พูด ปันผลจึงรับใบสมัครและแบบทดสอบมานั่งทำที่โต๊ะ เมื่อเสร็จแล้วเขาจึงนำไปส่งที่ประชาสัมพันธ์ตามเดิม
“เดี๋ยวนั่งรอสัมภาษณ์สักครู่นะคะ” ประชาสัมพันธ์พูด
ปันผลเดินไปที่กระจกที่ติดไว้บนเสาเพื่อสำรวจเสื้อผ้าหน้าผมตัวเอง เขาจัดเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวใส่ไว้ในกางเกงให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ปัดผมที่ยุ่งเหยิงจากการทำข้อสอบให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ครู่หนึ่งประชาสัมพันธ์ก็เรียกให้เขาเข้าห้องสัมภาษณ์ สายตาของเขาค่อนข้างกังวลใจ หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน อาการของเขาบ่งบอกถึงความตื่นเต้นได้ดี
เมื่อประตูห้องสัมภาษณ์เปิดเขาก้าวเข้าประตูนั้นอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางบรรยากาศของแอร์ที่เย็นเยือกผสมกับความตื่นเต้นของเขาจึงทำให้เขาหนาวสั่นปานอยู่บนดอยในฤดูหนาว
“เชิญนั่งค่ะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้สัมภาษณ์เขาดังขึ้น เธอนั่งพิงเบาะหันหลังอยู่
“ขอบคุณครับ” ปันผลตอบขอบคุณและเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้น
เมื่อเขานั่งลงเก้าอี้ของผู้หญิงที่จะสัมภาษณ์เขาก็ค่อยๆหมุนมาหาเขา อาการตื่นเต้นของเขาถ้าหัวใจหลุดออกมาได้ก็คงหลุดออกมาแล้ว เมื่อผู้หญิงที่สัมภาษณ์หันหน้ามองตรง เขาก็สบตาเธอคนนั้นแบบไม่ตั้งใจ ใบหน้ารูปไข่คิ้ว ดวงตา จมูก ปาก และทรงผม อันได้สัดส่วนและเป็นธรรมชาติของเธอคนนั้นที่ผสมผสานกับการแต่งหน้าที่เป็นธรรมชาติของเธอเหมือนกับได้สะกดให้เขาละสายตาไปไหนไม่ได้เลย ระหว่างที่เขามองเธอเขาก็พยายามนึกใบหน้าใบนั้นซึ่งเขาเคยคุ้นเคยมากๆมาก่อน แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกสักที
“คุณปันผลคะ คุณปันผล ปันผล!” เสียงของผู้หญิงคนนั้นเรียกสติเขา “เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“เอ่อ…เปล่าครับ แค่หน้าคุณมันคุ้นมาก” ปันผลตอบหลังจากที่ได้สติ
“นี่พี่ใจใสเอง” ผู้หญิงที่สัมภาษณ์เขาบอกว่าตัวเองเป็นใคร ราวกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน
“จริงด้วย พี่ใจใส” ปันผลพูด พร้อมกับทำหน้าตาดีใจ
“หายตื่นเต้นแล้วนะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า” ใจใสพูด “แนะนำตัวเองได้เลย” หลังจากนั้นปันผลก็เริ่มแนะนำตัวสัมภาษณ์งานทันที
“การเรียนเราก็ดีใช้ได้เลยนะ โปรเจคจบเราก็เกี่ยวข้องกับงานที่ทำก็ค่อนข้างน่าสนใจ เอางี้เดี๋ยวพี่ให้ทางผู้จัดการโรงงานมาคุยกับเราเลยดีกว่านะ” ใจใสพูด จากนั้นเธอก็ลุกออกจากห้องไป แล้วกลับมาพร้อมชายมีอายุคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในห้องสัมภาษณ์งาน
“สวัสดีครับ” ปันผลทักทายชายคนนั้น
“สวัสดีครับ ผมเป็น CEO นะ” ชายคนนั้นกล่าวคำทักทาย เมื่อปันผลได้ยินคำว่า CEO ก็ทำให้เขาตกใจมาก ไม่นึกว่าจะต้องมาสัมภาษณ์งานกับคนระดับบนขนาดนี้
“ไม่ต้องตกใจ ผมเป็นผู้จัดการโรงงานด้วย รับสองจ็อบ” CEO ที่เป็นผู้จัดการโรงงานด้วยตอบ “เดี๋ยวเรามาคุยกันเรื่องรายละเอียดงานกันดีกว่านะ”
“งานที่คุณจะต้องทำ คือ ช่วยผมดูเราควรจะปรับปรุงงานส่วนไหนให้มันดีขึ้น ต้นทุน ค่าใช้จ่าย ต้องคุ้มค่า คุณอยากทำไหม” ผู้จัดการโรงงานพูด
“อยากครับ” ปันผลตอบ
“นั่นสิ มาสัมภาษณ์งานใครจะไม่อยากทำงาน โปรเจคจบของคุณทำอะไรมา” ผู้จัดการโรงงานถาม
“ทำปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานครับ” ปันผลตอบ
“อุตสาหกรรมอะไร” ผู้จัดการโรงงานถาม
“ชิ้นส่วนประกอบครับ” ปันผลตอบ
“มันก็คนละอุตสาหกรรมนะ ของเราเป็นอุตสาหกรรมอาหาร” ผู้จัดการโรงงานพูด ทันทีที่ปันผลได้ยิน เขาถึงกับหวั่นใจ คิดว่างานไม่เกี่ยวกัน ไม่น่าจะได้
“แต่มันก็ใช้ศาสตร์เดียวกันนั่นแหละ คุณเองก็เพิ่งจบใหม่ มันเรียนรู้กันได้ เอาเป็นว่าถ้าผมรับคุณ เดี๋ยวผมให้ HR ติดต่อกลับไป มีอะไรจะถามไหม” ผู้จัดการโรงงานพูด
“บรรยากาศการทำงาน วัฒนธรรมองค์กรเป็นยังไงครับ” ปันผลถาม
“เดี๋ยวก็รู้เองแหละ” ผู้จัดการโรงงานพูด จากนั้นเขาก็ลุกออกจากห้องไป เหลือเพียงปันผลและใจใสเท่านั้น
“เป็นไงบ้าง เห็นหัวหน้าแล้ว อยากทำที่นี่ไหม” ใจใสถาม
“เขาดูโหดนะพี่ อยากทำนะ น่าสนุกดี” ปันผลตอบ
“ถ้าผลออกแล้วพี่จะโทรไปบอกนะ รอรับโทรศัพท์ด้วย อย่าปิดเครื่องล่ะ” ใจใสพูด
“ได้ครับ” ปันผลตอบ
“โอเค งั้นกลับได้ เดินทางดีๆนะ” ใจใสตอบ ปันผลกล่าวขอบคุณแล้วเดินออกจากบริษัทกลับบ้านไป
เมื่อฟ้ามืดลง ปันผลที่นั่งอยู่หน้าคอมพิมเตอร์นั่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า “มันจะได้งานป่าววะ” เข้าพูดคนเดียวบ่นพึมพัมกับตัวเอง “ช่างมันเถอะ ถ้าได้ก็รู้เอง”
ระหว่างที่เขานั่งเลื่อนเฟสบุคอยู่นั้น เขาก็นึกขึ้นได้ว่า “เฟสพี่ใจใสชื่ออะไร” เขาพยายามนั่งนึกถึงชื่อเฟสบุคของใจใส จากนั้นเขาพยายามพิมพ์ชื่อที่นึกออกลงไปในช่องค้นหา
“เห้ย เจอแล้ว” เมื่อเขาเจอเฟสบุคของใจใสแล้ว เขาก็กดส่องดูรูปไปเรื่อยๆ เขานั่งคลิกดูรูปไปเรื่อยๆทีละรูป แต่ก็ระวังไม่ให้มือเผลอไปกดไลค์แต่อย่างใด เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่ากำลังส่องอยู่
“พี่รหัสกูน่ารักตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ