Time Skipper : สลับร่าง สลับขั้ว ป่วนกาลเวลา
-
เขียนโดย FTSPY
วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.14 น.
1 บท
1 วิจารณ์
2,926 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 15.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่ 1 โบวดี้ แฟมิลี่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "บอส..จะเอาไงกับไอ้พวกกระจอกจากถนน 32 ที่มาวุ่นวายในเขตของเราดีครับ"
"เอ่อ...แอลจัดการที"
"....."
วันนี้ก็เหมือนทุก ๆ วัน ทอมก็ยังโยนงานมาให้ผมทำเหมือนอย่างเคย ถึงผมจะเป็นมือขวาของเขาก็เถอะ แต่ช่วยทำอะไรเองบ้างจะได้ไหม เห็นแก่เพื่อนตั้งแต่เด็กคนนี้บ้างเถอะ
ผม เลออน ชารอฟสกี้ พ่อกับแม่ เป็นคนรัสเซียที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่อเมริกาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะเป็นคนต่างชาติที่อพยพเข้ามาจึงทำให้โดนรังแกเป็นประจำตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็กเลยมักจะสู้เขาไม่ได้ และเรื่องที่เป็นคนต่างชาติจึงทำให้ไม่มีเพื่อนเลยซักคน
"อึก....อะ....โอ้ย"
"กลับประเทศของแกไปเลยไปคนนอก"
"นี้มันประเทศของพวกข้า แกน่ะออกไปจากประเทศของพวกข้าไปซะ"
คำพูดซ้ำ ๆที่ได้ยินเป็นประจำในขณะที่โดนกดหัวให้จมลงไปในดิน ผมทำได้แต่ตะโกนอยู่ภายในใจว่าเพราะอะไร ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าจะร้องไห้ขอร้อง พ่อกับแม่ให้ย้ายกลับไปยังไงก็ไม่สามารถกลับไปได้ ไม่ว่าจะร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผลยังไงก็ไม่สามารถกลับไปได้ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้อยากที่จะอยู่ที่นี้แท้ ๆ ไม่สามารถกลับไปได้แท้ ๆ ทำไมคนพวกนี้ถึงไม่เข้าใจผมบ้างเลยนะ เอาแต่รังแกผมอยู่ตลอด ผมผิดอะไร ผิดที่เป็นคนนอก ผิดที่ไม่มีความสามารถ ผิดที่ตัวเล็ก ผมได้แต่คิดหาเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องโดนกระทำอยู่แบบนี้
"ย้าก....หยุดนะ"
"หยุด..รังแกคนไม่มีทางสู้ได้แล้ว"
"โอ้ย......ใครมันกล้าเตะข้าว่ะ"
"ไอ้ทอม....แกอีกแล้วเหรอ" "วันนี้แหละพวกข้า 3 คนจะเอาคืนแกให้สาสมกับที่แกเคยทำไว้เลย"
"แน่จริงก็เข้ามาสิว่ะ..เอาแต่เห่าอยู่นั่นล่ะ"
ในขณะที่ผมโดนเท้ากดลงไปที่ใบหน้าก็มีเด็กผู้ชายคนนึงอายุน่าจะเท่า ๆ กับผมที่อายุ 7 ปีทั้ง ๆ ที่รูปร่างของเขาก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าผมเท่าไหร่เลย แต่เขาก็ยังกล้ากระโดดเข้ามาถีบเด็กคนที่เหยียบหน้าของผมอยู่ ทั้ง ๆ ที่เด็กพวกนั้นตัวใหญ่กว่าเขามากแถมยังมีกันถึง 3 คน แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกถึงความกลัวเลย เขาประจันหน้ากับเด็กที่ตัวโตกว่าถึง 3 คน เขาทั้งเตะทั้งต่อย เขาและเด็กทั้งสามคนต่างก็แลกหมัดกันไปมา แต่ไม่ต้องบอกก็รู้นะว่าใครจะเจ็บหนักกว่ากัน ทั้ง ๆ ที่โดนรุมถึง 3 คน โดนต่อยจนหน้ามีแต่บาดแผลแต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเลยว่าจะแพ้ ยังคงยืนหยัดสู้กับทั้ง 3 คนทั้ง ๆ ที่เสียเปรียบ จนมีผู้ใหญ่เข้ามาห้าม ทั้ง 4 คนถึงได้แยกออกจากกัน พอเด็กทั้ง 3 คนโดนผู้ใหญ่ลากออกไป เด็กชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหาผมที่ยังคงนอนหมอบตัวติดอยู่กับพื้นได้แต่แหงนหน้ามองการต่อสู้อันดุเดือดเมื่อครู่โดยไม่ได้ขยับไปไหนเลย เขายื่นมือออกมาให้ผมจับ เพื่อที่จะดึงตัวผมขึ้นทั้ง ๆ เขาน่าจะเป็นคนที่เจ็บตัวมากที่สุด
"ขอบใจมา..ก...โอ้ย"
เขาจับมือผมแล้วดึงให้ลุกขึ้น ก่อนที่ผมจะได้พูดขอบคุณจนจบ เขาก็บรรจงออกหมัดตรงมาที่ท้องของผม
"ก็เพราะแกนั้นแหละ...ข้าถึงได้เละแบบนี้"
"ข..ข...ขอโทษ"
"หุบปาก...ก็เพราะแกไปยอมให้พวกมันรังแกอยู่ตลอด พวกมันเลยได้ใจรังแกแกไม่หยุดยังไงล่ะ"
"ต..ต...แต่..พวกเขาตัวใหญ่กว่าผม..ผมสู้พวกเขาไม่ได้หรอก"
"นั้นมันก็เป็นแค่ข้ออ้างที่จะไม่สู้ของแกนั้นแหละ เอาแต่หาเหตุผลที่โดนรังแก ก็เพราะแกไม่ยอมสู้ เพราะแกปล่อยให้พวกมันกดขี่อยู่ตลอด"
เป็นเพราะอย่างนั้นเองหรอกเหรอ เป็นเพราะผมไม่ยอมสู้ เป็นเพราะผมเอาแต่ขี้ขลาดยอมให้โดนรังแกอยู่ตลอด ไม่ใช่เพราะผมตัวเล็ก หรือ เพราะผมเป็นคนนอก แต่ทั้งหมดมันเพราะตัวผมเองที่ยอมให้โดนรังแก เข้าใจแล้วล่ะถึงผมจะไม่มีความสามารถที่จะนำพาตัวเองให้กลับไปยังประเทศเกิด แต่ถ้าเป็นเรื่องการเปลี่ยนตัวเองผมต้องทำได้แน่ ไม่ใช่สิ ต้องเป็นต้องมีคนทำให้ผมเปลี่ยนไปได้แน่ พอคิดได้แบบนั้นผมจึงตั้งใจแน่วแน่ก็จะพูดออกไป
"คือ....ผมชื่อ เลออน ได้โปรดรับผมเป็นลูกน้องและฝึกฝนให้ผมเข้มเข็งด้วยเถอะครับ"
ผมก้มหัวลงแล้วตะโกนบอกความตั้งใจของตัวเองออกไป ก่อนจะโดนสันมือสับที่หัว
"โอ้ยย..T-T"
"เพราะแกอ่อนหัดแบบนี้ไงล่ะ ถึงโดนรังแก เรื่องแบบนี้มันต้อง เริ่มจากเป็นเพื่อนกันก่อนสิ เพราะถ้าเป็นเพื่อนกันยังไงก็ต้องคอยปกป้องซึ่งกันล่ะกันอยู่แล้ว"
"ข้า ทอม คนนี้จะทำให้แกเลิกอ่อนหัดเอง"
ใช่แล้วถ้าเป็นคน ๆ นี้ต้องได้แน่ ต้องทำให้ผมที่อ่อนหัดเปลี่ยนแปลงได้แน่
และนั้นเป็นเรื่องเพื่อนคนแรกของผม
"เห้ย....ไอ้บ้าแอล หลับอยู่รึไงว่ะ"
"เออ...โทษทีๆ"
ตอนนี้ผมอยู่ในบ้านของ ทอมโบวดี้ ซึ่งเป็นที่รวมตัวของแก๊ง โบวดี้ แฟมิลี่ ถึงจะได้ชื่อว่าแก๊งแต่ส่วนใหญ่เราก็ทำแต่เรื่องชกต่อย พักหลังก็มีเล่นอาวุธบ้าง แต่ไม่เคยถึงกับฆ่าแกงผู้อื่นหรือยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายอื่น ๆ สิ่งที่เราทำก็แค่ปกป้องที่อยู่อาศัยและบริเวณรอบ ๆ พื้นที่ของเราเท่านั้น
โดยมีสภานเลี้ยงเด็กกำพร้าของโบสถ์ นักบุญหลุยส์ เป็นศูนย์กลางซึ่งเป็นสถานที่ที่ทอม เติบโตขึ้นมา เราจะค่อยจัดการกับพวกที่จะมาสร้างปัญหาให้กับโบสถ์หรือสถานที่ใกล้ ๆ หรือ ช่วยงานการกุศลต่าง ๆ ของโบสถ์
โดยมีหัวหน้าแก๊ง คือ ทอม โบวดี้ ที่ตอนนี้อายุย่างเข้า 35 ปี ร่างกายใหญ่โตสูง 2 เมตรพร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ จนแถมจะถลักออกมาจากเสื้อเชิ้ตสีขาวไซส์ XXL ที่เขาใส่ ผมล่ะอยากจะรู้ว่าเขาไปกินตัวอะไรเข้าไปถึงทำให้ตัวเขาใหญ่โตขึ้นขนาดนี้ทั้ง ๆ ตอนพบกันเขายังตัวเท่า ๆ กับผมอยู่เลย ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังตัวเล็กเหมือนเดิมส่วนสูงก็คงที่ ตั้งแต่อายุก้าวเข้าเลยสองที่ 160 เซนติเมตร โดยจุดเด่นของของทอมก็คงเป็นแผลเป็นที่ได้จากมีดที่ใต้ตาข้างขวายาวพาดผ่านมาที่จมูกแล้วมาจบที่ใต้ตาซ้ายทำให้เหมือนพวกพระเอกหนังซามูไร แผลเป็นนั้นทำให้เกิดแผลเป็นขึ้นในใจของทอม ทั้ง ๆ ที่เขามีหน้าตาที่หล่อเหลา ผมสีน้ำตาลอ่อนตัดสั้นเสยไปด้านหลัง นัยน์ตาสีเขียวมรกตหายาก ดวงตาเรียวคมดุดัน หนวดที่ตัดแต่งสวยงาม ใบหน้าเหลี่ยมได้รูป ทำให้เขาดูเท่มาก ๆ แต่เพราะแผลเป็นนั้นทำให้เขาคิดว่าตัวเองหมดหล่อจนทำให้อคติกับคนที่ใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาเป็นพิเศษ นั้นรวมถึงผมด้วย
"แอล...ขอฉันต่อยหน้าหล่อ ๆ ของแกสักหมัดได้ไหมว่ะเพื่อน"
"......"
ผมเป็นรองหัวหน้าแก๊งและมือขวาของทอม จึงโดนทอมใช้ให้ทำงานเอกสารหรือเรื่องที่ต้องใช้สมองอยู่ตลอด แต่พอเป็นงานที่ต้องใช้แรง หรือ เรื่องชกต่อยไอ้คุณทอมก็จะเป็นคนแรก ๆ ที่กระโจนเข้าไป
ในแก๊งของพวกเรามีคนอีก 15 คนโดยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กกำพร้าเหมือน ๆ ทอม เด็กจากโบสถ์ของนักบุญหลุยส์พออายุครบ 18 ปีจะถือว่าโตพอจะออกไปใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง จึงต้องออกจากโบสถ์โดยพวกผู้ชายที่ออกมาก็จะโดนทอมชักชวนให้เข้า แฟมิลี่ โดนให้ทุกคนใช้นามสกุลเดียวกันทั้งหมด คือ โบวดี้ ซึ่งเป็นนามสกุลที่เข้าตั้งขึ้่นมาเองตอนออกมาจากโบสถ์ จะมีแค่ผมกับอีกไม่กี่คนที่มีนามสกุลของตัวเอง คนที่มีนามสกุลเป็นของตัวเองส่วนใหญ่ที่เข้าแฟมิลี่มาก็เพราะได้ทอมช่วยไว้ หรือ ไม่ก็เคารพเลื่อมใสในตัวของทอม ในความแข็งแกร่งของเขา โดยทอมก็ไม่ได้บังคับคนเหล่านั้นให้เปลี่ยนนามสกุลเป็นโบวดี้
"เอ่อ..แอลแล้วเรื่องพวกกุ๋ยจากถนน 32 ที่มาขายยาให้เด็กในเขตของเราจัดการไปยังไงบ้าง"
"ก็แจ้งตำรวจแล้วให้พวกเขาจัดการ" "ได้ข่าวว่าส่วนใหญ่ติดคุก มีส่วนน้อยที่หนีรอดไปได้"
"อ่า...ถ้ายังจะกล้ามาอีกคราวนี้คงต้องถึงมือข้าแล้วล่ะนะ"
ถึงทอมจะบ้ากล้ามและชอบใช้กำลังแต่เขาก็ไม่ได้ไร้หัวคิดขนาดจะใช้แต่กำลังไปซะทุกเรื่อง ถ้าเรื่องจัดการได้โดยไม่ต้องลงมือเขาก็จะให้ผมเป็นคนจัดการ แต่ถ้าพวกที่โดนจัดการไปแล้วยังกล้ากลับมาสร้างปัญหาในเขตของเขาอีกเขาก็จะไปจัดการอัดสั่งสอนเจ้าพวกสิ้นคิดที่คิดจะมาเหยียบถิ่นเสือโดยเฉพาะเสือตัวนี้ที่ได้ฉายาว่า "จอมขย้ำ" ลองจินตนาการถึงฉากร่วมรักของชายหญิง ที่ผู้หญิงอยู่ด้านบนดูสิ แต่เปลี่ยนเป็นเอาตาลุงกล้ามโตอยู่ด้านบนกำลังค่อมและรั่วหมัดไปที่ใบหน้าของคุณ
วันนี้พวกเรามาช่วยงานการกุศลของทางโบสถ์ นักบุญหลุยส์ โดยมันเป็นงานแจกจ่ายอาหารแก่ผู้ที่ไร้บ้าน โดยมีพวกเรา โบวดี้แฟมิลี่ นักบวชของโบสถ์และอาสาสมัครหลายคน ๆ หนึ่งในนั้นคือ สาวสวยผมดำตัดสั้น นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน หน้าตาคมสวยแบบฉบับสาวสเปน โดยเฉพาะหุ่นที่จะเรียกว่าดึงดูดเรดาร์ของทอมเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะหน้าอกไซส์ดินระเบิด คัพอี ขนาดในฝันของทอมเลยก็ว่าได้ เธอเป็นคุณครูอนุบาลที่อยู่ใกล้กับโบสถ์เธอมักจะมาช่วยงานการกุศลของโบสถ์อยู่เสมอ เธอมีชื่อว่า อาเดล รามอส หญิงสาวอายุ 32 ปี จากสเปน ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นทั้งสาวสวยและมีหุ่นที่ดีแต่เธอกับไม่ได้คบหาดูใจกับใคร มันเลยเข้าทางของคุณทอมเข้า เวลาที่เจอกับเธอเขาก็มักจะไปเกาะแกะคุณอาเดล อยู่ตลอดจนทำให้อึดอัดใจ แต่เพราะด้วยนิสัยอ่อนโยนและใจดีของเธอจึงทำให้เธอไม่เคยออกปากบอกเขาว่ารำคาญ ผมก็นึกชื่นชมในความอ่อนโยน ใจดีของเธออยู่หรอก แต่ก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ให้กับนิสัยที่ทำให้ตัวของเธอเองต้องลำบากใจเอง ทำให้ย้อนถึงตัวเองสมัยเด็ก
"มาทุกงานเลยนะครับคุณอาเดล"
"ค่ะ โบสถ์ก็อยู่ใกล้ ๆ ด้วยนั้นล่ะนะคะ"
"ฝีมือทำอาหารของคุณอาเดลช่วยได้มากเลยล่ะครับ"
"ขอบคุณคะ"
"ถ้างั้น หลังจากเสร็จงานแล้วพวกเรา โบวดี้แฟมิลี่จะมีการเลี้ยงขอบคุณอาสาสมัครทุกคนที่มา คุณอาเดลว่างรึป่าวครับไปกินเลี้ยงกับพวกเรานะครับ"
"ขอบคุณที่ชวนนะคะ งั้นขอรบกวนหน่อยนะคะ"
"แน่นอนอยู่แล้วครับ ไม่รบกวนซักนิดเลยล่ะครับบบ"
"....."
ถึงจะพูดขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตอบไอ้คุณทอมไปก็เถอะ แต่ผมรู้นะว่าในใจของคุณอาเดลไม่ได้ยิ้มตาม การที่มีนิสัยที่อ่อนโยน ใจดีเนี่ย มันทำร้ายคุณมาก ๆ เลยนะครับคุณอาเดล
"ขอบคุณทุกคนมากที่มาช่วยงานที่โบสถ์ กินกันให้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจ จัดให้เต็มที่ไปเลยนะทุกคน...โดยเฉพาะคุณอาเดลนะครับ ตื่นตั้วแต่เช้ามาทำอาหารปริมาณมาก ๆ คงจะเหนื่อยมากเลยนะครับทานเยอะ ๆเลยนะครับ"
"......ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ"
"เอ้า.....ชนนนน"
หลังจากเสร็จที่โบสถ์พวกเรา โบวดี้แฟมิลี่ กับ อาสาสมัครทุกคนก็มาที่ร้าน วินเซสเตอร์ ซึ่งเป็นร้านประจำของพวกเรา โบวดี้ แฟมิลี่ และก็เป็นร้านของทอม ที่เขากับผมหุ้นกันเปิด จากการเก็บหอมรอบริดจากการตากตำทำงานตั้งแต่สมัยวัยรุ่นจนอายุ 30 ปี ถึงทำให้ร้านนี้เกิดขึ้นมาได้ซึ่งชื่อร้านก็ได้ไอ้คุณทอมนั้นแหละเป็นคนตั้ง ซึ่งมันมาจากชื่อปืนที่ไอ้คุณทอมชื่นชอบ จากการได้ดูหนังย้อนยุคเกี่ยวกับคาวบอย โดยร้านนี้เป็นบาร์เหล้า ตกแต่งสไตส์ตะวันตกยุคคาวบอย โดยเน้นไปที่เฟอนิเจอร์ที่เป็นไม้ ประตูทางเข้ายังเป็นประตูบานเล็ก ๆ แบบพับเด้งไปมาเมื่อที่คนผลัก และส่วนบนและส่วนล่างที่ว่างเปล่าโชว์ให้เห็นส่วนบนกับส่วนล่างของคนที่กำลังจะเดินเข้ามา โดยให้คิดถึงประตูบาร์เหล้าตามหนังคาวบอยนั้นแหละ โดยบาร์เหล้าแห่งนี้ได้รับพวกเด็กสาวที่อายุถึงเกณฑ์ต้องออกจากโบสถ์มาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟเพื่อเป็นการช่วยให้พวกเด็กสาวพวกนี้สามารถตั้งตัวได้ก่อนจะเลือกทางเดินต่อไปของตัวเอง เหตุผลที่ทำให้ไอ้คุณทอมทำแบบนี้ เพราะสมัยไอ้คุณทอมพึ่งออกจากโบสถ์ ก็มีเพื่อนผู้หญิงที่อายุเท่ากันที่พอออกมาแล้วมองไม่เห็นทางที่จะไปต่อจึงเลือกที่จะทางเดินที่ง่าย ด้วยการยอมสละเกียรติของผู้หญิงไปขายบริการเพื่อแลกเศษเงิน ฉะนั้นการที่ไอ้คุณทอมตั้งใจจะเปิดร้านก็เพื่อการนี้ด้วยส่วนนึง ในส่วนนี้ทำให้ผมรู้สึกชื่นชมเขามาตลอด ที่เขารักพวกพองจากสถานเด็กกำพร้า และคิดถึงพวกเขาเสมอ มันทำให้ผมคิดย้อนไปขอบคุณในตอนนั้นที่ผมสามารถกล้าพูดขอเป็นลูกน้องเขาได้
พวกเราโบวดี้ แฟมิลี่ และอาสาสมัครดื่มดำกับบรรยากาศ พลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะมีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น
"เห้ย...แกแน่ใจนะว่าพวกที่แจ้งจับพวกเรามันคือพวกโบวดี้"
"แน่ใจสิครับพี่ เขตนั้นถ้าไม่ใช่พวกมันก็ไม่มีใครแล้วล่ะครับ"
"เออ....เดี๋ยวข้าไปจัดการสั่งสอนมันเองว่า ถ้ามาแหยมกับพวกเรา เดอะ เดทแร็บบิท จากถนน 32 แล้วจะเป็นยังไง"
หลังจากต้องหนีหัวซุกหัวซุนจากพวกตำรวจที่ไอ้พวกโบวดี้ มันแจ้งมาจับพวกเราที่เข้ามาขายยาในเขตของมันข้าก็กลับมาที่ถนน 32 เพื่อแจ้งข่าวกับ พี่ดอม ที่เป็นหัวหน้าแก็ง เดทแร็บบิท และ พี่ชายแท้ๆของข้าหลังจากที่แจ้งข่าวให้พี่ดอมเรียบร้อย เขาก็มอบหมายงานให้ข้าไปสืบข้อมูลของพวกโบวดี้มาว่าวันนี้พวกมันทำอะไรกันอยู่ที่ไหน ตอนไหนเวลาไหนบ้าง
พวกโบวดี้ แฟมิลี่ เกิดจากพวกเด็กกำพร้าที่ทำตัวเป็นฮีโร่คอยปกป้องอาณาเขตรอบ ๆ โบสถ์นักบุญหลุยส์ พวกคนที่เราต้องระวังจริง ๆ ก็มีอยู่แค่ไม่กี่คน คนแรกก็ต้องหัวหน้าของพวกมัน ทอม โบวดี้ เขตรอบ ๆ ไม่ว่าจะพวก เดอะ เนทีฟ จากถนนอีฟ ไนน์ทีน เซน จากถนนโกฟ และ แด๊กเดท จากถนน แบ็ก สตรีท รอบ ๆ อาณาเขตโบสถ์นักบุญ หลุยส์ ซึ่งเป็นสถานเด็กกำพร้าที่มันโตขึ้นมา ไอ้พวกนั้นต่างก็เกรงกลัวมัน จะเป็นเพราะความบ้าคลั่งหรือจากร่างกายก็เถอะ แล้วก็ ไอ้ เลออน ชารอฟสกี้ ที่เป็นมือขวาของทอม โบวดี้ ถึงจะไม่ได้บ้าเหมือน ทอม โบวดี้ แต่ความฉลาดและเล่ห์เหลี่ยมของมันเป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เอาจริง ๆ ยิ่งน่ากลัวกว่าทอม โบวดี้ ที่ดีแต่ใช้พละกำลังล่ะนะ และยังมีอีกคนที่เป็นมือซ้ายของทอม โบวดี้ แต่ไอ้คนนี้มันอยู่ในเงาของทอม โบวดี้ ตลอดหน้าตา รวมถึงชื่อยังไม่มีคนรู้ไอ้ทอม โบวดี้ มันพยายามเต็มที่เพื่อที่จะเก็บไอ้มือซ้ายคนนี้ให้เป็นความลับที่สุด มันเป็นคนที่อันตรายขนาดนั้นเลยรึ แต่ถึงยังไงพวกเราก็ไม่เกรงกลัวพวกมันหรอก แล้วเข้าไปขายยาในเขตมัน ถึงจะจบลงที่พวกเราหลายคนโดนจับ แต่มันก็เผยอะไรให้เห็นอย่างนึงว่า พวกโบวดี้ มันมีแต่คำคุย ทั้ง ๆ ที่เราเขามาวุ่นวายในเขตของมันพวกมันยังทำได้แค่วิ่งไปแจ้งตำรวจ แสดงว่ามันไม่กล้าจะมาประจันหน้ากับเราตรง ๆทำตัวเหมือนลูกหมาหดตูดเก็บหางเวลากลัวไปได้ ไม่เหมาะกับฉายา "จอมขย้ำ" ที่พวกแก็งอื่นตั้งกันเลย
"วันนี้หลังเสร็จจากงานการกุศล ประมาณ 1 ทุ่ม พวกโบวดี้ จะพาพวกอาสาสมัครไปเลี้ยงอาหารที่ วินเชสเตอร์ ร้านของไอ้ทอม กับ เลออน ครับ ผมสืบทราบมาอีกเรื่องคือหนึ่งในอาสาสมัครมีผู้หญิงคนนึงที่ไอ้ทอม มันไปเกาะแกะ ชื่นชอบอยู่ครับ"
"เยี่ยมมาก...อย่างงี้ก็ง่ายเลย"
"แล้วพี่จะทำยังไงครับ"
"ง่าย ๆ แค่ล่อมันออกแล้วจัดการให้มันหลับไปตลอดกาล หมดหัวหน้าฝูงแล้วพวกลูกหมาตัวเล็ก ๆ ก็ทำได้แต่เห่านั้นแหละ"
หลังจากเข้าไปมั่วเป็นอาสาสมัครช่วยในงานการกุศลก็สืบทราบมาในเรื่องสำคัญก็คือ ไพ่ตายที่จะทำให้เราสามารถลากไอ้ทอม ให้ออกมาจากรูของมันแล้วก็จัดการให้มันหลับไปตลอดกาล
วันนี้ลูกพี่ทอม ก็ยังเท่ไม่เปลี่ยน เราจะเป็นเหมือนคน ๆ นั้นได้บ้างไหมน้า
ผม อเล็กซ์ โบวดี้ อายุ 19 ปี ตั้งแต่ออกมาจากโบสถ์ก็ได้มาอยู่มาใน โบวดี้ แฟมิลี่ 1 ปีแล้ว ได้รับรู้ถึงความเท่ของลูกพี่ ทอมอย่างเต็มเปี่ยม และตั้งเป้าจะเป็นอย่างเขาให้ได้ในสักวันถึงจะไม่เห็นแววว่าเราจะตัวใหญ่และกล้ามโตได้อย่างเขาก็เถอะ เหอ เหอ
"อ้าว พี่อาเดลจะกลับแล้วหรอครับ"
"ใช่ค่ะ นี้ก็ดึกมากแล้วแล้ว อเล็กซ์ล่ะมานั่งทำอะไรของนอกนี้อยู่คนเดียวไม่ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ"
"ผมออกมาสูดอากาศน่ะครับ เดี๋ยวอีกแปปนึงก็เข้าไปแล้วล่ะครับ"
"งั้นเหรอ...งั้นพี่กลับก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่"
"กลับคนเดียวมันอันตรายนะครับ ไม่ให้ลูกพี่ทอม ไปส่งล่ะครับ"
"ไม่ล่ะ พี่เกรงใจเขา อีกอย่างจะให้เจ้าของงานออกไปข้างนอก ทิ้งลูกงานไว้มันไม่ดีหรอก"
"ถ้าพี่อาเดลว่ายังงั้นก็ โชคดีกลับบ้านดี ๆ นะครับ"
"ค่ะ"
'ว้าว คุณอาเดลนี้ สวยจริง ๆ เลยหุ่นก็ดี นิสัยก็ดี สมแล้วที่ลูกพี่จะชอบ ถ้าไม่ติดที่ลูกพี่จอง ผมก็งานจะลองจีบดูนะไม่รู้ว่า พี่อาเดลจะชอบผู้ชายที่เด็กกว่ารึป่าวน้า'
ผมนั่งอยู่ข้างหน้าร้าน วินเชสเตอร์ของลูกพี่ทอม กับ ลูกพี่เลออน อยู่อีกซักพักนึงก่อนที่จะสังเกตุเห็นได้ว่ามีผู้ชายเดินตามพี่อาเดลไป ที่อีกฝั่งของถนน ในขณะที่ผมกำลังจะตะโกน เรียกพี่อาเดล ก็มีรถตู้คันนึงวิ่งมาจอดตรงบริเวณที่พี่อาเดลเดินอยู่ พอมันผ่านไป พี่อาเดลก็ไม่อยู่แล้ว
"แฮ่ก...แฮ่ก...พี่ทอม พี่ทอม พี่อาเดลเขา"
"พี่อาเดลเขาทำไม?? อเล็กซ์"
"พี่อาเดล เขาโดนคนจับตัวขึ้นรถตู้สีดำไปเมื่อกี้"
"ว่ายังไงนะ!!!"
"เดี๋ยว!!! ทอมอย่าใจร้อน"
ทันทีที่ผมเข้ามาบอกลูกพี่ทอมถึงสิ่งที่เห็นเขาก็ตะโกนเสียดังก่อนกระโจนออกจากร้านพร้อมกับปืนลูกซอง วินเชสเตอร์ ที่แขวนไว้ที่ผนังหลังบาร์ พร้อมกับกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซฮาเล่ เดวิดสัน คู่ใจของเขาไปอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที พร้อมกับเสียงห้ามปราม ของลูกพี่เลออน ก่อนที่เขาจะวิ่งตามออกไป หลังจากพวกโบวดี้ถึงตามกันออกไป
ผมที่ตามหลังไปพร้อมกับคนอื่น ๆ ในตระกูลได้มาถึงถนนเส้นนึงที่วิ่งมาจาก ร้านวินเชสเตอร์ประมาณ 5 กิโล ทุกคนที่มาถึงก่อนหน้าต่างก็หยุดจอดรถพร้อมลงจากรถ แล้วยืนมุงดูอะไรบ้างอย่างกันอยู่ ด้วยความสงสัยผมจึงพยายามแหวกฝูง โบวดี้ เข้าไปดูว่าสิ่งที่คนมุงกันอยู่นั้นคืออะไร หลังจากที่ผมสามารถแหวกฝูง โบวดี้ เข้าไปได้ ภาพที่ผมเห็นคือ ลูกพี่เลออนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำ ถ้าพูดให้ชัด มันคือหน้าตาเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นและไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นจากลูกพี่ เลออน ที่ปกติไม่เคยแสดงสีหน้าใดเลย นอกจากสีหน้านิ่ง จนสาว ๆในร้านที่ชอบแกต่างเรียกแกว่า เลออน เดอะ โปกเกอร์เฟส ข้าง ๆ ลูกพี่เลออนที่กำลังร้องไห้ฝั่งตรงข้ามของเขาคือ หญิงสาวที่ผมพึ่งจะทักทายพูดคุยด้วยเมื่อสักครู่นี้ พี่อาเดลนั้นเอง ส่วนคนที่ทั้งสองคนนั่งขนาบข้างอยู่นั้นไปคนที่ผมไม่ว่าจะได้เห็นเขาในสภาพนี้ คนนั้นคือลูกพี่ทอม เขานอนคั่นกลางระหว่างลูกพี่เลออน และ พี่อาเดล โดยสภาพที่ศีรษะมีเลือดไหลนอนหมดสติอยู่ที่พื้นถนน มันเป็นภาพที่ผมไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เห็นมัน มันทำให้ผมกรี๊ดร้องออกมาก่อนที่ ทุก ๆ อย่างรอบ ๆ ตัวจะดับวูบไป
"เอ่อ...แอลจัดการที"
"....."
วันนี้ก็เหมือนทุก ๆ วัน ทอมก็ยังโยนงานมาให้ผมทำเหมือนอย่างเคย ถึงผมจะเป็นมือขวาของเขาก็เถอะ แต่ช่วยทำอะไรเองบ้างจะได้ไหม เห็นแก่เพื่อนตั้งแต่เด็กคนนี้บ้างเถอะ
ผม เลออน ชารอฟสกี้ พ่อกับแม่ เป็นคนรัสเซียที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่อเมริกาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะเป็นคนต่างชาติที่อพยพเข้ามาจึงทำให้โดนรังแกเป็นประจำตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็กเลยมักจะสู้เขาไม่ได้ และเรื่องที่เป็นคนต่างชาติจึงทำให้ไม่มีเพื่อนเลยซักคน
"อึก....อะ....โอ้ย"
"กลับประเทศของแกไปเลยไปคนนอก"
"นี้มันประเทศของพวกข้า แกน่ะออกไปจากประเทศของพวกข้าไปซะ"
คำพูดซ้ำ ๆที่ได้ยินเป็นประจำในขณะที่โดนกดหัวให้จมลงไปในดิน ผมทำได้แต่ตะโกนอยู่ภายในใจว่าเพราะอะไร ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าจะร้องไห้ขอร้อง พ่อกับแม่ให้ย้ายกลับไปยังไงก็ไม่สามารถกลับไปได้ ไม่ว่าจะร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผลยังไงก็ไม่สามารถกลับไปได้ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้อยากที่จะอยู่ที่นี้แท้ ๆ ไม่สามารถกลับไปได้แท้ ๆ ทำไมคนพวกนี้ถึงไม่เข้าใจผมบ้างเลยนะ เอาแต่รังแกผมอยู่ตลอด ผมผิดอะไร ผิดที่เป็นคนนอก ผิดที่ไม่มีความสามารถ ผิดที่ตัวเล็ก ผมได้แต่คิดหาเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องโดนกระทำอยู่แบบนี้
"ย้าก....หยุดนะ"
"หยุด..รังแกคนไม่มีทางสู้ได้แล้ว"
"โอ้ย......ใครมันกล้าเตะข้าว่ะ"
"ไอ้ทอม....แกอีกแล้วเหรอ" "วันนี้แหละพวกข้า 3 คนจะเอาคืนแกให้สาสมกับที่แกเคยทำไว้เลย"
"แน่จริงก็เข้ามาสิว่ะ..เอาแต่เห่าอยู่นั่นล่ะ"
ในขณะที่ผมโดนเท้ากดลงไปที่ใบหน้าก็มีเด็กผู้ชายคนนึงอายุน่าจะเท่า ๆ กับผมที่อายุ 7 ปีทั้ง ๆ ที่รูปร่างของเขาก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าผมเท่าไหร่เลย แต่เขาก็ยังกล้ากระโดดเข้ามาถีบเด็กคนที่เหยียบหน้าของผมอยู่ ทั้ง ๆ ที่เด็กพวกนั้นตัวใหญ่กว่าเขามากแถมยังมีกันถึง 3 คน แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกถึงความกลัวเลย เขาประจันหน้ากับเด็กที่ตัวโตกว่าถึง 3 คน เขาทั้งเตะทั้งต่อย เขาและเด็กทั้งสามคนต่างก็แลกหมัดกันไปมา แต่ไม่ต้องบอกก็รู้นะว่าใครจะเจ็บหนักกว่ากัน ทั้ง ๆ ที่โดนรุมถึง 3 คน โดนต่อยจนหน้ามีแต่บาดแผลแต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเลยว่าจะแพ้ ยังคงยืนหยัดสู้กับทั้ง 3 คนทั้ง ๆ ที่เสียเปรียบ จนมีผู้ใหญ่เข้ามาห้าม ทั้ง 4 คนถึงได้แยกออกจากกัน พอเด็กทั้ง 3 คนโดนผู้ใหญ่ลากออกไป เด็กชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหาผมที่ยังคงนอนหมอบตัวติดอยู่กับพื้นได้แต่แหงนหน้ามองการต่อสู้อันดุเดือดเมื่อครู่โดยไม่ได้ขยับไปไหนเลย เขายื่นมือออกมาให้ผมจับ เพื่อที่จะดึงตัวผมขึ้นทั้ง ๆ เขาน่าจะเป็นคนที่เจ็บตัวมากที่สุด
"ขอบใจมา..ก...โอ้ย"
เขาจับมือผมแล้วดึงให้ลุกขึ้น ก่อนที่ผมจะได้พูดขอบคุณจนจบ เขาก็บรรจงออกหมัดตรงมาที่ท้องของผม
"ก็เพราะแกนั้นแหละ...ข้าถึงได้เละแบบนี้"
"ข..ข...ขอโทษ"
"หุบปาก...ก็เพราะแกไปยอมให้พวกมันรังแกอยู่ตลอด พวกมันเลยได้ใจรังแกแกไม่หยุดยังไงล่ะ"
"ต..ต...แต่..พวกเขาตัวใหญ่กว่าผม..ผมสู้พวกเขาไม่ได้หรอก"
"นั้นมันก็เป็นแค่ข้ออ้างที่จะไม่สู้ของแกนั้นแหละ เอาแต่หาเหตุผลที่โดนรังแก ก็เพราะแกไม่ยอมสู้ เพราะแกปล่อยให้พวกมันกดขี่อยู่ตลอด"
เป็นเพราะอย่างนั้นเองหรอกเหรอ เป็นเพราะผมไม่ยอมสู้ เป็นเพราะผมเอาแต่ขี้ขลาดยอมให้โดนรังแกอยู่ตลอด ไม่ใช่เพราะผมตัวเล็ก หรือ เพราะผมเป็นคนนอก แต่ทั้งหมดมันเพราะตัวผมเองที่ยอมให้โดนรังแก เข้าใจแล้วล่ะถึงผมจะไม่มีความสามารถที่จะนำพาตัวเองให้กลับไปยังประเทศเกิด แต่ถ้าเป็นเรื่องการเปลี่ยนตัวเองผมต้องทำได้แน่ ไม่ใช่สิ ต้องเป็นต้องมีคนทำให้ผมเปลี่ยนไปได้แน่ พอคิดได้แบบนั้นผมจึงตั้งใจแน่วแน่ก็จะพูดออกไป
"คือ....ผมชื่อ เลออน ได้โปรดรับผมเป็นลูกน้องและฝึกฝนให้ผมเข้มเข็งด้วยเถอะครับ"
ผมก้มหัวลงแล้วตะโกนบอกความตั้งใจของตัวเองออกไป ก่อนจะโดนสันมือสับที่หัว
"โอ้ยย..T-T"
"เพราะแกอ่อนหัดแบบนี้ไงล่ะ ถึงโดนรังแก เรื่องแบบนี้มันต้อง เริ่มจากเป็นเพื่อนกันก่อนสิ เพราะถ้าเป็นเพื่อนกันยังไงก็ต้องคอยปกป้องซึ่งกันล่ะกันอยู่แล้ว"
"ข้า ทอม คนนี้จะทำให้แกเลิกอ่อนหัดเอง"
ใช่แล้วถ้าเป็นคน ๆ นี้ต้องได้แน่ ต้องทำให้ผมที่อ่อนหัดเปลี่ยนแปลงได้แน่
และนั้นเป็นเรื่องเพื่อนคนแรกของผม
"เห้ย....ไอ้บ้าแอล หลับอยู่รึไงว่ะ"
"เออ...โทษทีๆ"
ตอนนี้ผมอยู่ในบ้านของ ทอมโบวดี้ ซึ่งเป็นที่รวมตัวของแก๊ง โบวดี้ แฟมิลี่ ถึงจะได้ชื่อว่าแก๊งแต่ส่วนใหญ่เราก็ทำแต่เรื่องชกต่อย พักหลังก็มีเล่นอาวุธบ้าง แต่ไม่เคยถึงกับฆ่าแกงผู้อื่นหรือยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายอื่น ๆ สิ่งที่เราทำก็แค่ปกป้องที่อยู่อาศัยและบริเวณรอบ ๆ พื้นที่ของเราเท่านั้น
โดยมีสภานเลี้ยงเด็กกำพร้าของโบสถ์ นักบุญหลุยส์ เป็นศูนย์กลางซึ่งเป็นสถานที่ที่ทอม เติบโตขึ้นมา เราจะค่อยจัดการกับพวกที่จะมาสร้างปัญหาให้กับโบสถ์หรือสถานที่ใกล้ ๆ หรือ ช่วยงานการกุศลต่าง ๆ ของโบสถ์
โดยมีหัวหน้าแก๊ง คือ ทอม โบวดี้ ที่ตอนนี้อายุย่างเข้า 35 ปี ร่างกายใหญ่โตสูง 2 เมตรพร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ จนแถมจะถลักออกมาจากเสื้อเชิ้ตสีขาวไซส์ XXL ที่เขาใส่ ผมล่ะอยากจะรู้ว่าเขาไปกินตัวอะไรเข้าไปถึงทำให้ตัวเขาใหญ่โตขึ้นขนาดนี้ทั้ง ๆ ตอนพบกันเขายังตัวเท่า ๆ กับผมอยู่เลย ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังตัวเล็กเหมือนเดิมส่วนสูงก็คงที่ ตั้งแต่อายุก้าวเข้าเลยสองที่ 160 เซนติเมตร โดยจุดเด่นของของทอมก็คงเป็นแผลเป็นที่ได้จากมีดที่ใต้ตาข้างขวายาวพาดผ่านมาที่จมูกแล้วมาจบที่ใต้ตาซ้ายทำให้เหมือนพวกพระเอกหนังซามูไร แผลเป็นนั้นทำให้เกิดแผลเป็นขึ้นในใจของทอม ทั้ง ๆ ที่เขามีหน้าตาที่หล่อเหลา ผมสีน้ำตาลอ่อนตัดสั้นเสยไปด้านหลัง นัยน์ตาสีเขียวมรกตหายาก ดวงตาเรียวคมดุดัน หนวดที่ตัดแต่งสวยงาม ใบหน้าเหลี่ยมได้รูป ทำให้เขาดูเท่มาก ๆ แต่เพราะแผลเป็นนั้นทำให้เขาคิดว่าตัวเองหมดหล่อจนทำให้อคติกับคนที่ใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาเป็นพิเศษ นั้นรวมถึงผมด้วย
"แอล...ขอฉันต่อยหน้าหล่อ ๆ ของแกสักหมัดได้ไหมว่ะเพื่อน"
"......"
ผมเป็นรองหัวหน้าแก๊งและมือขวาของทอม จึงโดนทอมใช้ให้ทำงานเอกสารหรือเรื่องที่ต้องใช้สมองอยู่ตลอด แต่พอเป็นงานที่ต้องใช้แรง หรือ เรื่องชกต่อยไอ้คุณทอมก็จะเป็นคนแรก ๆ ที่กระโจนเข้าไป
ในแก๊งของพวกเรามีคนอีก 15 คนโดยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กกำพร้าเหมือน ๆ ทอม เด็กจากโบสถ์ของนักบุญหลุยส์พออายุครบ 18 ปีจะถือว่าโตพอจะออกไปใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง จึงต้องออกจากโบสถ์โดยพวกผู้ชายที่ออกมาก็จะโดนทอมชักชวนให้เข้า แฟมิลี่ โดนให้ทุกคนใช้นามสกุลเดียวกันทั้งหมด คือ โบวดี้ ซึ่งเป็นนามสกุลที่เข้าตั้งขึ้่นมาเองตอนออกมาจากโบสถ์ จะมีแค่ผมกับอีกไม่กี่คนที่มีนามสกุลของตัวเอง คนที่มีนามสกุลเป็นของตัวเองส่วนใหญ่ที่เข้าแฟมิลี่มาก็เพราะได้ทอมช่วยไว้ หรือ ไม่ก็เคารพเลื่อมใสในตัวของทอม ในความแข็งแกร่งของเขา โดยทอมก็ไม่ได้บังคับคนเหล่านั้นให้เปลี่ยนนามสกุลเป็นโบวดี้
"เอ่อ..แอลแล้วเรื่องพวกกุ๋ยจากถนน 32 ที่มาขายยาให้เด็กในเขตของเราจัดการไปยังไงบ้าง"
"ก็แจ้งตำรวจแล้วให้พวกเขาจัดการ" "ได้ข่าวว่าส่วนใหญ่ติดคุก มีส่วนน้อยที่หนีรอดไปได้"
"อ่า...ถ้ายังจะกล้ามาอีกคราวนี้คงต้องถึงมือข้าแล้วล่ะนะ"
ถึงทอมจะบ้ากล้ามและชอบใช้กำลังแต่เขาก็ไม่ได้ไร้หัวคิดขนาดจะใช้แต่กำลังไปซะทุกเรื่อง ถ้าเรื่องจัดการได้โดยไม่ต้องลงมือเขาก็จะให้ผมเป็นคนจัดการ แต่ถ้าพวกที่โดนจัดการไปแล้วยังกล้ากลับมาสร้างปัญหาในเขตของเขาอีกเขาก็จะไปจัดการอัดสั่งสอนเจ้าพวกสิ้นคิดที่คิดจะมาเหยียบถิ่นเสือโดยเฉพาะเสือตัวนี้ที่ได้ฉายาว่า "จอมขย้ำ" ลองจินตนาการถึงฉากร่วมรักของชายหญิง ที่ผู้หญิงอยู่ด้านบนดูสิ แต่เปลี่ยนเป็นเอาตาลุงกล้ามโตอยู่ด้านบนกำลังค่อมและรั่วหมัดไปที่ใบหน้าของคุณ
วันนี้พวกเรามาช่วยงานการกุศลของทางโบสถ์ นักบุญหลุยส์ โดยมันเป็นงานแจกจ่ายอาหารแก่ผู้ที่ไร้บ้าน โดยมีพวกเรา โบวดี้แฟมิลี่ นักบวชของโบสถ์และอาสาสมัครหลายคน ๆ หนึ่งในนั้นคือ สาวสวยผมดำตัดสั้น นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน หน้าตาคมสวยแบบฉบับสาวสเปน โดยเฉพาะหุ่นที่จะเรียกว่าดึงดูดเรดาร์ของทอมเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะหน้าอกไซส์ดินระเบิด คัพอี ขนาดในฝันของทอมเลยก็ว่าได้ เธอเป็นคุณครูอนุบาลที่อยู่ใกล้กับโบสถ์เธอมักจะมาช่วยงานการกุศลของโบสถ์อยู่เสมอ เธอมีชื่อว่า อาเดล รามอส หญิงสาวอายุ 32 ปี จากสเปน ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นทั้งสาวสวยและมีหุ่นที่ดีแต่เธอกับไม่ได้คบหาดูใจกับใคร มันเลยเข้าทางของคุณทอมเข้า เวลาที่เจอกับเธอเขาก็มักจะไปเกาะแกะคุณอาเดล อยู่ตลอดจนทำให้อึดอัดใจ แต่เพราะด้วยนิสัยอ่อนโยนและใจดีของเธอจึงทำให้เธอไม่เคยออกปากบอกเขาว่ารำคาญ ผมก็นึกชื่นชมในความอ่อนโยน ใจดีของเธออยู่หรอก แต่ก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ให้กับนิสัยที่ทำให้ตัวของเธอเองต้องลำบากใจเอง ทำให้ย้อนถึงตัวเองสมัยเด็ก
"มาทุกงานเลยนะครับคุณอาเดล"
"ค่ะ โบสถ์ก็อยู่ใกล้ ๆ ด้วยนั้นล่ะนะคะ"
"ฝีมือทำอาหารของคุณอาเดลช่วยได้มากเลยล่ะครับ"
"ขอบคุณคะ"
"ถ้างั้น หลังจากเสร็จงานแล้วพวกเรา โบวดี้แฟมิลี่จะมีการเลี้ยงขอบคุณอาสาสมัครทุกคนที่มา คุณอาเดลว่างรึป่าวครับไปกินเลี้ยงกับพวกเรานะครับ"
"ขอบคุณที่ชวนนะคะ งั้นขอรบกวนหน่อยนะคะ"
"แน่นอนอยู่แล้วครับ ไม่รบกวนซักนิดเลยล่ะครับบบ"
"....."
ถึงจะพูดขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตอบไอ้คุณทอมไปก็เถอะ แต่ผมรู้นะว่าในใจของคุณอาเดลไม่ได้ยิ้มตาม การที่มีนิสัยที่อ่อนโยน ใจดีเนี่ย มันทำร้ายคุณมาก ๆ เลยนะครับคุณอาเดล
"ขอบคุณทุกคนมากที่มาช่วยงานที่โบสถ์ กินกันให้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจ จัดให้เต็มที่ไปเลยนะทุกคน...โดยเฉพาะคุณอาเดลนะครับ ตื่นตั้วแต่เช้ามาทำอาหารปริมาณมาก ๆ คงจะเหนื่อยมากเลยนะครับทานเยอะ ๆเลยนะครับ"
"......ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ"
"เอ้า.....ชนนนน"
หลังจากเสร็จที่โบสถ์พวกเรา โบวดี้แฟมิลี่ กับ อาสาสมัครทุกคนก็มาที่ร้าน วินเซสเตอร์ ซึ่งเป็นร้านประจำของพวกเรา โบวดี้ แฟมิลี่ และก็เป็นร้านของทอม ที่เขากับผมหุ้นกันเปิด จากการเก็บหอมรอบริดจากการตากตำทำงานตั้งแต่สมัยวัยรุ่นจนอายุ 30 ปี ถึงทำให้ร้านนี้เกิดขึ้นมาได้ซึ่งชื่อร้านก็ได้ไอ้คุณทอมนั้นแหละเป็นคนตั้ง ซึ่งมันมาจากชื่อปืนที่ไอ้คุณทอมชื่นชอบ จากการได้ดูหนังย้อนยุคเกี่ยวกับคาวบอย โดยร้านนี้เป็นบาร์เหล้า ตกแต่งสไตส์ตะวันตกยุคคาวบอย โดยเน้นไปที่เฟอนิเจอร์ที่เป็นไม้ ประตูทางเข้ายังเป็นประตูบานเล็ก ๆ แบบพับเด้งไปมาเมื่อที่คนผลัก และส่วนบนและส่วนล่างที่ว่างเปล่าโชว์ให้เห็นส่วนบนกับส่วนล่างของคนที่กำลังจะเดินเข้ามา โดยให้คิดถึงประตูบาร์เหล้าตามหนังคาวบอยนั้นแหละ โดยบาร์เหล้าแห่งนี้ได้รับพวกเด็กสาวที่อายุถึงเกณฑ์ต้องออกจากโบสถ์มาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟเพื่อเป็นการช่วยให้พวกเด็กสาวพวกนี้สามารถตั้งตัวได้ก่อนจะเลือกทางเดินต่อไปของตัวเอง เหตุผลที่ทำให้ไอ้คุณทอมทำแบบนี้ เพราะสมัยไอ้คุณทอมพึ่งออกจากโบสถ์ ก็มีเพื่อนผู้หญิงที่อายุเท่ากันที่พอออกมาแล้วมองไม่เห็นทางที่จะไปต่อจึงเลือกที่จะทางเดินที่ง่าย ด้วยการยอมสละเกียรติของผู้หญิงไปขายบริการเพื่อแลกเศษเงิน ฉะนั้นการที่ไอ้คุณทอมตั้งใจจะเปิดร้านก็เพื่อการนี้ด้วยส่วนนึง ในส่วนนี้ทำให้ผมรู้สึกชื่นชมเขามาตลอด ที่เขารักพวกพองจากสถานเด็กกำพร้า และคิดถึงพวกเขาเสมอ มันทำให้ผมคิดย้อนไปขอบคุณในตอนนั้นที่ผมสามารถกล้าพูดขอเป็นลูกน้องเขาได้
พวกเราโบวดี้ แฟมิลี่ และอาสาสมัครดื่มดำกับบรรยากาศ พลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะมีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น
"เห้ย...แกแน่ใจนะว่าพวกที่แจ้งจับพวกเรามันคือพวกโบวดี้"
"แน่ใจสิครับพี่ เขตนั้นถ้าไม่ใช่พวกมันก็ไม่มีใครแล้วล่ะครับ"
"เออ....เดี๋ยวข้าไปจัดการสั่งสอนมันเองว่า ถ้ามาแหยมกับพวกเรา เดอะ เดทแร็บบิท จากถนน 32 แล้วจะเป็นยังไง"
หลังจากต้องหนีหัวซุกหัวซุนจากพวกตำรวจที่ไอ้พวกโบวดี้ มันแจ้งมาจับพวกเราที่เข้ามาขายยาในเขตของมันข้าก็กลับมาที่ถนน 32 เพื่อแจ้งข่าวกับ พี่ดอม ที่เป็นหัวหน้าแก็ง เดทแร็บบิท และ พี่ชายแท้ๆของข้าหลังจากที่แจ้งข่าวให้พี่ดอมเรียบร้อย เขาก็มอบหมายงานให้ข้าไปสืบข้อมูลของพวกโบวดี้มาว่าวันนี้พวกมันทำอะไรกันอยู่ที่ไหน ตอนไหนเวลาไหนบ้าง
พวกโบวดี้ แฟมิลี่ เกิดจากพวกเด็กกำพร้าที่ทำตัวเป็นฮีโร่คอยปกป้องอาณาเขตรอบ ๆ โบสถ์นักบุญหลุยส์ พวกคนที่เราต้องระวังจริง ๆ ก็มีอยู่แค่ไม่กี่คน คนแรกก็ต้องหัวหน้าของพวกมัน ทอม โบวดี้ เขตรอบ ๆ ไม่ว่าจะพวก เดอะ เนทีฟ จากถนนอีฟ ไนน์ทีน เซน จากถนนโกฟ และ แด๊กเดท จากถนน แบ็ก สตรีท รอบ ๆ อาณาเขตโบสถ์นักบุญ หลุยส์ ซึ่งเป็นสถานเด็กกำพร้าที่มันโตขึ้นมา ไอ้พวกนั้นต่างก็เกรงกลัวมัน จะเป็นเพราะความบ้าคลั่งหรือจากร่างกายก็เถอะ แล้วก็ ไอ้ เลออน ชารอฟสกี้ ที่เป็นมือขวาของทอม โบวดี้ ถึงจะไม่ได้บ้าเหมือน ทอม โบวดี้ แต่ความฉลาดและเล่ห์เหลี่ยมของมันเป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เอาจริง ๆ ยิ่งน่ากลัวกว่าทอม โบวดี้ ที่ดีแต่ใช้พละกำลังล่ะนะ และยังมีอีกคนที่เป็นมือซ้ายของทอม โบวดี้ แต่ไอ้คนนี้มันอยู่ในเงาของทอม โบวดี้ ตลอดหน้าตา รวมถึงชื่อยังไม่มีคนรู้ไอ้ทอม โบวดี้ มันพยายามเต็มที่เพื่อที่จะเก็บไอ้มือซ้ายคนนี้ให้เป็นความลับที่สุด มันเป็นคนที่อันตรายขนาดนั้นเลยรึ แต่ถึงยังไงพวกเราก็ไม่เกรงกลัวพวกมันหรอก แล้วเข้าไปขายยาในเขตมัน ถึงจะจบลงที่พวกเราหลายคนโดนจับ แต่มันก็เผยอะไรให้เห็นอย่างนึงว่า พวกโบวดี้ มันมีแต่คำคุย ทั้ง ๆ ที่เราเขามาวุ่นวายในเขตของมันพวกมันยังทำได้แค่วิ่งไปแจ้งตำรวจ แสดงว่ามันไม่กล้าจะมาประจันหน้ากับเราตรง ๆทำตัวเหมือนลูกหมาหดตูดเก็บหางเวลากลัวไปได้ ไม่เหมาะกับฉายา "จอมขย้ำ" ที่พวกแก็งอื่นตั้งกันเลย
"วันนี้หลังเสร็จจากงานการกุศล ประมาณ 1 ทุ่ม พวกโบวดี้ จะพาพวกอาสาสมัครไปเลี้ยงอาหารที่ วินเชสเตอร์ ร้านของไอ้ทอม กับ เลออน ครับ ผมสืบทราบมาอีกเรื่องคือหนึ่งในอาสาสมัครมีผู้หญิงคนนึงที่ไอ้ทอม มันไปเกาะแกะ ชื่นชอบอยู่ครับ"
"เยี่ยมมาก...อย่างงี้ก็ง่ายเลย"
"แล้วพี่จะทำยังไงครับ"
"ง่าย ๆ แค่ล่อมันออกแล้วจัดการให้มันหลับไปตลอดกาล หมดหัวหน้าฝูงแล้วพวกลูกหมาตัวเล็ก ๆ ก็ทำได้แต่เห่านั้นแหละ"
หลังจากเข้าไปมั่วเป็นอาสาสมัครช่วยในงานการกุศลก็สืบทราบมาในเรื่องสำคัญก็คือ ไพ่ตายที่จะทำให้เราสามารถลากไอ้ทอม ให้ออกมาจากรูของมันแล้วก็จัดการให้มันหลับไปตลอดกาล
วันนี้ลูกพี่ทอม ก็ยังเท่ไม่เปลี่ยน เราจะเป็นเหมือนคน ๆ นั้นได้บ้างไหมน้า
ผม อเล็กซ์ โบวดี้ อายุ 19 ปี ตั้งแต่ออกมาจากโบสถ์ก็ได้มาอยู่มาใน โบวดี้ แฟมิลี่ 1 ปีแล้ว ได้รับรู้ถึงความเท่ของลูกพี่ ทอมอย่างเต็มเปี่ยม และตั้งเป้าจะเป็นอย่างเขาให้ได้ในสักวันถึงจะไม่เห็นแววว่าเราจะตัวใหญ่และกล้ามโตได้อย่างเขาก็เถอะ เหอ เหอ
"อ้าว พี่อาเดลจะกลับแล้วหรอครับ"
"ใช่ค่ะ นี้ก็ดึกมากแล้วแล้ว อเล็กซ์ล่ะมานั่งทำอะไรของนอกนี้อยู่คนเดียวไม่ไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ"
"ผมออกมาสูดอากาศน่ะครับ เดี๋ยวอีกแปปนึงก็เข้าไปแล้วล่ะครับ"
"งั้นเหรอ...งั้นพี่กลับก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่"
"กลับคนเดียวมันอันตรายนะครับ ไม่ให้ลูกพี่ทอม ไปส่งล่ะครับ"
"ไม่ล่ะ พี่เกรงใจเขา อีกอย่างจะให้เจ้าของงานออกไปข้างนอก ทิ้งลูกงานไว้มันไม่ดีหรอก"
"ถ้าพี่อาเดลว่ายังงั้นก็ โชคดีกลับบ้านดี ๆ นะครับ"
"ค่ะ"
'ว้าว คุณอาเดลนี้ สวยจริง ๆ เลยหุ่นก็ดี นิสัยก็ดี สมแล้วที่ลูกพี่จะชอบ ถ้าไม่ติดที่ลูกพี่จอง ผมก็งานจะลองจีบดูนะไม่รู้ว่า พี่อาเดลจะชอบผู้ชายที่เด็กกว่ารึป่าวน้า'
ผมนั่งอยู่ข้างหน้าร้าน วินเชสเตอร์ของลูกพี่ทอม กับ ลูกพี่เลออน อยู่อีกซักพักนึงก่อนที่จะสังเกตุเห็นได้ว่ามีผู้ชายเดินตามพี่อาเดลไป ที่อีกฝั่งของถนน ในขณะที่ผมกำลังจะตะโกน เรียกพี่อาเดล ก็มีรถตู้คันนึงวิ่งมาจอดตรงบริเวณที่พี่อาเดลเดินอยู่ พอมันผ่านไป พี่อาเดลก็ไม่อยู่แล้ว
"แฮ่ก...แฮ่ก...พี่ทอม พี่ทอม พี่อาเดลเขา"
"พี่อาเดลเขาทำไม?? อเล็กซ์"
"พี่อาเดล เขาโดนคนจับตัวขึ้นรถตู้สีดำไปเมื่อกี้"
"ว่ายังไงนะ!!!"
"เดี๋ยว!!! ทอมอย่าใจร้อน"
ทันทีที่ผมเข้ามาบอกลูกพี่ทอมถึงสิ่งที่เห็นเขาก็ตะโกนเสียดังก่อนกระโจนออกจากร้านพร้อมกับปืนลูกซอง วินเชสเตอร์ ที่แขวนไว้ที่ผนังหลังบาร์ พร้อมกับกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซฮาเล่ เดวิดสัน คู่ใจของเขาไปอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที พร้อมกับเสียงห้ามปราม ของลูกพี่เลออน ก่อนที่เขาจะวิ่งตามออกไป หลังจากพวกโบวดี้ถึงตามกันออกไป
ผมที่ตามหลังไปพร้อมกับคนอื่น ๆ ในตระกูลได้มาถึงถนนเส้นนึงที่วิ่งมาจาก ร้านวินเชสเตอร์ประมาณ 5 กิโล ทุกคนที่มาถึงก่อนหน้าต่างก็หยุดจอดรถพร้อมลงจากรถ แล้วยืนมุงดูอะไรบ้างอย่างกันอยู่ ด้วยความสงสัยผมจึงพยายามแหวกฝูง โบวดี้ เข้าไปดูว่าสิ่งที่คนมุงกันอยู่นั้นคืออะไร หลังจากที่ผมสามารถแหวกฝูง โบวดี้ เข้าไปได้ ภาพที่ผมเห็นคือ ลูกพี่เลออนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำ ถ้าพูดให้ชัด มันคือหน้าตาเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นและไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นจากลูกพี่ เลออน ที่ปกติไม่เคยแสดงสีหน้าใดเลย นอกจากสีหน้านิ่ง จนสาว ๆในร้านที่ชอบแกต่างเรียกแกว่า เลออน เดอะ โปกเกอร์เฟส ข้าง ๆ ลูกพี่เลออนที่กำลังร้องไห้ฝั่งตรงข้ามของเขาคือ หญิงสาวที่ผมพึ่งจะทักทายพูดคุยด้วยเมื่อสักครู่นี้ พี่อาเดลนั้นเอง ส่วนคนที่ทั้งสองคนนั่งขนาบข้างอยู่นั้นไปคนที่ผมไม่ว่าจะได้เห็นเขาในสภาพนี้ คนนั้นคือลูกพี่ทอม เขานอนคั่นกลางระหว่างลูกพี่เลออน และ พี่อาเดล โดยสภาพที่ศีรษะมีเลือดไหลนอนหมดสติอยู่ที่พื้นถนน มันเป็นภาพที่ผมไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เห็นมัน มันทำให้ผมกรี๊ดร้องออกมาก่อนที่ ทุก ๆ อย่างรอบ ๆ ตัวจะดับวูบไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ