Forbidden Love คำสาปรัก สองแผ่นดิน

-

เขียนโดย Frame_Kurosama

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 23.54 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,062 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 00.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ผู้มาเยือน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผู้มาเยือน

 

ลุงเน็ทนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวโปรดตัวเดิมของเขา ภายใต้กลุ่มเมฆมืดครึ้มที่ไม่อาจบดบังแสงจันทร์ที่ส่องสว่างสีเหลืองทองสวยอร่ามงดงาม สายลมเย็นๆที่พัดผ่านทำให้เขากระชับเสื้อคลุมชิดขึ้นอีกนิด ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาลอยๆท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัดนี้

 

“วันนี้พระจันทร์สวยนะ ไม่ออกมานั่งชมจันทร์ด้วยกันล่ะ” สิ้นคำพูด รูปร่างของชายแก่ ก็เปลี่ยนเป็นชายหนุ่มรูปงาม ใบหน้างามหันไปทางเงามืดใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวน ก่อนเอ่ยเรียกชื่อของผู้มาเยือน

“ว่าไง ‘วิส’ มานั่งชมจันทร์ด้วยกันเถอะหน่า เรนหลับไปแล้ว” พริบตาเดียวที่เขาเอ่ยไม่ทันจบประโยคดี ร่างของชายปริศนาก็มานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวข้างๆของเขา


“ข้าบอกกี่ทีแล้วว่า ข้าชื่อ ‘วีนอส’ เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกเรียกข้าว่า ‘วิส’ เสียที เนโร่” ชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงกำยำดูสง่า เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเหนื่อยหน่าย

“ก็วีนอสมันยาวอ่ะ ย่อๆเนี่ยแหละ ข้าก็เรียกของข้ามาตั้งกี่ปีแล้ว เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกบ่นเรื่องนี้เสียที” เนโร่ หรือ ลุงเน็ท เอ่ยตอบเสียงยียวน

“อ่าว นี่กลายเป็นว่าข้าเป็นฝ่ายผิดหรือนี่!” วีนอสเอ่ยพร้อมทำสีหน้าเซ็งใส่เนโร่

 

“ฮะฮะฮ่า…” เนโร่ขำเสียงสดใส ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “เอ้อ ว่าแต่…เจ้ามีเรื่องอะไรด่วนขนาดที่ถึงกับต้องมาด้วยตัวเองขนาดนี้ ทั้งๆที่อีกไม่ถึงสองอาทิตย์ ข้าก็ต้องไปหาเจ้าอยู่แล้วนี่นา” เขาถามอย่างสงสัย

แต่วีนอสที่กำลังลอบมองเนโร่อยู่นั้นไม่ทันได้ยินคำถามของเนโร่

 

เขากำลังหวนนึกถึงวันเก่าๆที่พวกเขาเคยทำงานร่วมกัน เป็นเวลากว่า 12 ปีแล้วที่ไม่ได้เจอตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นขึ้น

 

…ถึงแม้ว่าเขาอยากจะเจอมากเพียงใด แต่เพราะทั้งเขาและเนโร่เองก็ต่างมีหน้าที่ที่สำคัญ จึงไม่สามารถละมือมาหาได้

 

การที่ไม่สามารถได้ยินเสียงสดใสของเจ้าของใบหน้างามที่เขาเฝ้าคิดถึงอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์ความคิดและไม่สามารถละสายตาไปได้เลยจริงๆ

 

ต่อหน้าเขา เนโร่มักเป็นแบบนี้เสมอ พูดเสียงเจื้อยแจ้วสดใส ทั้งๆที่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น เนโร่ค่อนข้างเป็นคนที่ทำหน้านิ่งๆและพูดน้อยเพราะขี้เกียจพูด หรืออะไรก็ตามแต่ เขาคิดถึงช่วงเวลานั้นเสียจริง

 

และวันเวลาเหล่านั้นกำลังจะกลับมาในอีกไม่ช้า นั่นก็เพราะว่า เนโร่กำลังจะได้กลับไปดำรงตำแหน่งที่เขาอุตส่าห์รักษาการแทนอย่างลับๆมาโดยตลอดเวลาที่ผ่านมานี่เสียที


ช่างน่ายินดียิ่งนัก

“เฮ้! วิส เจ้าหลับในหรือไงเนี่ย ทำไมถามไม่ตอบ ข้าถามว่ามีเรื่องอะไรด่วนหรือไง ได้ยินไหม” เนโร่เอ่ยด้วยเสียงที่ดังขึ้น พร้อมเอี้ยวตัวเข้ามาหาวีนอส และจ้องหน้าเขาเขม็ง


วีนอสที่เพิ่งหลุดออกจากความภวังค์ความคิดของตัวเอง พบว่าใบหน้างามที่สวยราวกับภาพวาดของเนโร่ อยู่ใกล้เพียงแค่คืบ เขาตกใจและหลบสายตาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาแดงก่ำ หูของเขาก็เริ่มขึ้นสี ใจของเขาสั่นรัวไม่เป็นจังหวะ

 

‘ตึก ตัก ตึก ตัก’

 

“เฮ้ย! เป็นไรไหม วิส หน้าเจ้าดูอาการไม่ดีเลยนะ” เนโร่อุธานตกใจ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล “เจ้าหนาวหรือป่าว หน้าเจ้าแดงๆอาจจะเพราะเรานั่งตากลมในยามนี้”


“อ่ะ…เอ่อ…อ…ข…ข้าไม่หนาวและข้าก็ไม่ได้เป็นอะไร… เอ่อ ที่เจ้าถามคือ…ข…ข้า…”  วีนอสพูดตระกุกตระกักเล็กน้อย

 

“อ่ะแฮ่ม!…คือข้าก็แค่อยากจะมาเตือนว่า ท่านเรนต้องเข้าพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ และอยากมาถามว่า เจ้าคิดวางแผนจะทำอย่างไรต่อกัน” วีนอสแสร้งกระแอมไอเพื่อเรียกสติ เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันทีก่อนที่จะถูกเนโร่ซักไซร้ถามไปมากกว่านี้

 

“เอ้อ! ข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท” เนโร่พูดขึ้น เขาลืมเรื่องอาการของวีนอสก่อนหน้านี้ไปเสียแล้ว ตอนนี้กลับไปครุ่นคิดเรื่องของเรนแทน

 

“พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์อาจทำให้สิ่งที่เจ้ากับข้าทำสูญเปล่าได้ทั้งหมด แต่ถ้าเราผ่านมันไปได้ เราน่าจะยื้อเวลาให้ท่านเรนได้อีกสักปีหรืออย่างเก่งก็สักสองปี” เนโร่เหลือบมองวีนอสที่ขยับกรอบแว่นของเขาด้วยความเคยชินยามที่เขารู้สึกเครียด

 

ทั้งสองต่างตกอยู่ในห้วงความคิดว่าควรจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไรดี พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์เป็นพิธีกรรมสำคัญที่เรนจะเลี่ยงไม่ได้ เพื่อตัวของเรนเอง แต่พิธีกรรมนี้กลับเป็นเหมือนดาบสองคมสำหรับเรน พวกเขาจึงรู้สึกหนักใจเป็นที่สุด

 

“3 ปี! ข้าจะต้องซื้อเวลาให้เรน 3 ปี” เนโร่เอ่ยขึ้นในที่สุด

 

“3 ปี! เจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่ เนโร่ เจ้าจะทำได้อย่างไรกัน” วีนอสตกใจและเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจนัก

 

เนโร่แบมือข้างขวาของเขาขึ้น ก่อนจะหลับตาลง ทันใดนั้นแสงสีฟ้าจ้าก็สว่างขึ้นจากมือของเขา และหลังจากที่แสงสีฟ้านั้นอ่อนลง ก็ปรากฎให้เห็นสร้อยที่มีจี้หินวงกลมสีใสที่ดูจากภายนอกแล้วไม่ต่างอะไรกับก้อนหินกลมๆใสๆธรรมดาก้อนหนึ่ง แต่ไม่ใช่สำหรับผู้คนที่รู้จักมัน

 

“นี่มัน…หรือว่า!” วีนอสมีสีหน้าตกตะลึงทันทีที่เห็นของที่อยู่ในมือเนโร่

 

“ใช่ อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ” เน่โร่เอ่ยพลางมองจี้หินในมือ

 

“มันมาอยู่ที่เจ้าได้อย่างไรกัน! ไม่สิ เจ้ามีมันได้อย่างไร ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เนโร่” วีนอสพูดด้วยน้ำเสียงตกตะลึงที่ไม่ต่างจากสีหน้าของเขานัก

 

“ข้าบอกเจ้าไม่ได้ว่าข้ามีมันได้อย่างไร ข้าเสียใจ” เนโร่ที่มักทำเป็นเล่นเสมอในสายตาของวีนอส กลับเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด

 

วีนอสมองเนโร่ด้วยสายตาเป็นกังวลเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วงระคนแปลกใจ “เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ และข้าก็เชื่อใจเจ้า เนโร่”

 

เนโร่ยิ้มและมองวีนอสด้วยสายตาที่โล่งใจขึ้น “ขอบใจ”

 

ขอโทษนะ วิส อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้

 

เนโร่นึกกับตัวเองในใจ พลางนึกขอบคุณที่วีนอสไม่บังคับให้เขาบอกเล่าเรื่องที่เขาไม่สามารถบอกวีนอสหรือใครก็ตามได้

 

ความจริงเขาไม่คิดจะปิดบังสิ่งใด เพียงแต่ทุกอย่างย่อมมีช่วงเวลาที่สมควรเหมาะสม ตราบใดที่ยังไม่ถึงเวลานั้น การไม่รู้ย่อมดีกว่าการที่รู้มากเกินความจำเป็น เพราะนอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้ว อาจจะทำให้เป็นทุกข์โดยใช่เหตุ เขาเชื่อเช่นนั้น

 

“แล้วเจ้าจะบอกท่านเรนเกี่ยวกับ…” วีนอสเอ่ยถาม

 

“แน่นอนว่าไม่ เพราะยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องรับรู้เรื่องนั้น” เนโร่ตอบ

 

“แล้วเรื่องโรงเรียนล่ะ” วีนอสถาม

 

“บอกตามตรงว่าเรื่องนั้น ข้าก็ยังคิดไม่ออกเช่นกันว่าควรจะอธิบายเรื่องพวกนี้ยังไง เจ้าก็รู้ เวทมนตร์เป็นเพียงแค่สิ่งเพ้อเจ้อและไม่มีอยู่จริงในโลกมนุษย์” เนโร่พูดด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ

 

‘โครม’

 

“เสียงอะไรหน่ะ” วีนอสเอ่ยขึ้นหลังได้ยินเสียงดัง

 

“ข้าก็ไม่รู้...หรือว่า...เรน!” เนโร่ตกใจ เขาเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน และรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ตรงไปยังห้องนอนของเรนทันที เขากลับร่างเป็นลุงเน็ท ก่อนที่เขาจะเปิดประตูห้องนอนของเรนเพื่อเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ก็พบว่าเรนนั่งลูบหัวตัวเองปอยๆอยู่บนพื้นด้านข้างเตียง

 

เนโร่ลอบถอนหายใจกับตัวเองเล็กน้อย สีหน้าเขาดูดีขึ้นมากก่อนจะเอ่ย “โตป่านนี้แล้วยังละเมอตกเตียงอีกหรือไงกัน ฮ่าฮ่า”

 

“โอ้ย ลุงอ่ะ นอกจากจะไม่ปลอบแล้วยังจะมาซ้ำเติมกันอีกนะ” เรนพูดพลางทำหน้างอ

 

“‘โอ๋’ อ่ะ…” ลุงเน็ทพูดปลอบอย่างจงใจแกล้ง ก่อนจะปรับน้ำเสียงให้เรียบนิ่ง “รีบนอนล่ะอย่ามัวแต่นั่งโอดโอยอยู่” เขาแอบลอบขำเรนในใจและปิดประตูห้องนอนทันที

 

“โว้ยยลุงอ่ะ เป็นห่วงกันบ้างไหมเนี่ย หัวผมโนเลยนะ ลุงๆๆๆ” เป็นเสียงของเรนที่ลอดผ่านช่องประตูดังออกมาให้ได้ยิน

 

“ขี้แกล้งเสียจริงนะ เจ้าน่ะ” วีนอสเอ่ยขณะที่ทั้งคู่เดินลงบันได เพื่อมานั่งคุยกันที่สวนดอกไม้ดังเดิม

 

“เปล่าสักหน่อย” เนโร่ทำหน้าไม่รู้เรื่อง

 

“ทั้งที่รีบวิ่งด้วยความเป็นห่วงขนาดนั้น?” เนโร่หันมามองค้อนวีนอส “หรือเจ้านึกว่าผนึกอ่อนลงหรือ” วีนอสเอ่ยขำๆ

 

“เออสิ เจ้าก็ทำเป็นเล่นไป ก็นางเคยบอกข้าเอาไว้ว่า ผนึกจะอยู่ได้มากสุดก็เพียง 15 ปี ก่อนจะถึงเวลานั้นต้องพาเรนกลับไปที่เวอร์มัลก้า แต่โอกาสที่ผนึกจะสลายก่อนครบกำหนดก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน พอได้ยินเสียงครึกโครม ก็นึกว่าจะเกิดเรื่องยุ่งซะแล้วหน่ะสิ” เนโร่อธิบาย

 

“ข้าไม่ได้ทำเป็นเล่น ข้าเพียงแต่ขำที่เห็นเจ้าวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายแค่นั้นเอง” วีนอสพูดพลางกลั้นขำอย่างสุดความสามารถเพราะกลัวว่าเนโร่จะไม่พอใจเขา


“เจ้านี่มัน…” เนโร่พูดพลางหน้าขึ้นสีด้วยความขายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น เพื่อที่พวกเขาจะได้เลิกพูดถึงเรื่องน่าอายนี้กันเสียที

 

“ข้าว่าข้าอาจจะใจเย็นเกินไป ทีแรกข้าคิดว่าแค่ให้เรนเข้าร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่เรนจะอายุครบ 15 ปีก็เป็นอันใช้ได้ แต่ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะพาเรนไปเวอร์มัลก้าให้เร็วที่สุด”

 

“ที่จริงข้าก็คิดเช่นนั้น เพราะถ้าหากผนึกอ่อนลง แม้ว่าเจ้าจะมีจี้หินนั่น มันก็ไม่เพียงพอที่จะยับยั้งพลังที่ตื่นขึ้นของท่านเรนหรอก” วีนอสเอ่ยรับอย่างเห็นด้วย

 

เขาหยิบนาฬิกาสีทองเรือนสวยขึ้นมาดูก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าถึงเวลาที่เขาต้องกลับไปเสียที “อ๊ะ! ถ้าอย่างนั้นไว้เจอกันเร็วๆนี้เนโร่ ข้าจำเป็นต้องไปแล้ว”

 

เนโร่พยักหน้ารับรู้พลางยิ้มตอบรับคำพูดของวีนอส เพียงแค่พริบตา ร่างของวีนอสก็หายไปพร้อมกับสายลมที่พัดผ่าน บัดนี้เนโร่ได้เพียงแต่ยิ้มให้กับเก้าอี้ที่ว่างเปล่าเพราะตอนนี้บุคคลที่เคยนั่งอยู่ตรงนั้นไม่อยู่เสียแล้ว

 

เขากลับร่างเป็นลุงเน็ทอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะนั่งทอดสายตามองสวนดอกไม้ของเขาท่ามกลางแสงจันทร์และสายลมอ่อนๆยามราตรีที่เงียบงัน


ข้าคิดถึงเจ้านะ วิส

 

ก็ยังคงเป็นเพียงแค่ประโยคที่เขานึกและเอ่ยเอื้อนอยู่ในใจอย่างเคยในทุกๆค่ำคืนตลอดเวลาที่ผ่านมา



 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา