ลำนำบุปผาพิษ
เขียนโดย Xiaobei
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.37 น.
แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562 14.04 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) บทที่ 49-50
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 49 ข้าเคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน
กู้ซีจิ่วลุกขึ้นมาแล้วเยื้องย่างลงไปชั้นล่าง ก่อนเอ่ยด้วยเสียงดัง “ให้ข้าดูหน่อย ข้าอาจรู้จักมัน”
สายตาของคนทั้งหมดหันไปมองกู้ซีจิ่วเป็นตาเดียวกัน พิธีกรประมูลคนนั้นมองประเมินกู้ซีจิ่วตั้งแต่หัวจรดเท้า“คุณชายรู้จักสิ่งนี้หรือ? มันคืออะไร?”
สีหน้าของกู้ซีจิ่วเย็นชา “ข้าต้องดูก่อนถึงจะรู้”
เมื่ออยู่ในสถานที่แห่งนี้พิธีกรประมูลไม่ต้องกลัวว่ากู้ซีจิ่วจะเล่นเล่ห์ใด จึงนำของสิ่งนั้นส่งให้ถึงมือกู้ซีจิ่ว
หลังจากที่เล่นมันอยู่สักพักกู้ซีจิ่วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
วัสดุที่ใช้ทำของสิ่งนี้ช่างพิลึกยิ่งนัก จะบอกว่าเป็นหยกก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเป็นโลหะก็ไม่เชิง และแน่นอนว่าไม่ใช่อัญมณีเทียมที่ถูกสังเคราะห์ขึ้น ของพวกนั้นกู้ซีจิ่วแตะแค่นิดเดียวก็รู้แล้ว
ยามที่ถือไว้ในมือ จะสัมผัสได้ถึงความเย็น คล้ายกับถือน้ำพุที่เย็นเฉียบอยู่
วัสดุชนิดนี้กู้ซีจิ่วเองก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
ของสิ่งนี้ถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างง่ายๆ มองแวบแรกดูคล้ายนาฬิกาโบราณเรือนหนึ่ง แต่พอมองอย่างละเอียดแล้วก็ไม่ใช่
มีเพียงอัญมณีเม็ดใหญ่ตรงกลางที่มีลักษณะเหมือนตัวเรือนนาฬิกาเล็กน้อย มีประกายสีฟ้าระยิบระยับ ขณะที่เธอเล่นมันอยู่ก็ดูราวกลับมีระลอกคลื่นซัดสาดอยู่ภายใน ดุจมหาสมุทรลึกสุดจะหยั่ง ดั่งดวงตาลี้ลับข้างหนึ่ง
กู้ซีจิ่วกุมมันไว้แน่น ก็ไม่รู้สึกว่าด้านในจะมีแรงสั่นสะเทือนอะไร
หรือจะเป็นเพียงประคำข้อมือที่มีลักษณะเหมือนนาฬิกาข้อมือ?
วัสดุนี้มีสีสันฉูดฉาดสะดุดตาอย่างยิ่ง แต่ก็ดูไม่ออกว่าจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไร
เธอพลิกไปพลิกมาทั้งยังมองอยู่หลายครั้ง จากนั้นก็หมุนมันด้วยปลายนิ้ว แล้วค่อยๆ เปิดฝาพับที่ทำจากอัญมณีออก ดูคล้ายกับกำไลข้อมือที่สวยงามเส้นหนึ่ง
กู้ซีจิ่วรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง ตอนที่เธอเห็นมันครั้งแรกยังคิดอยู่ว่าอาจมีคนอื่นที่ทะลุมิติมายังโลกนี้ด้วยเช่นกัน แล้วสิ่งนี้ก็เป็นของที่อีกฝ่ายเหลือทิ้งไว้
แต่ยามนี้เห็นชัดแล้วว่าไม่ใช่
อาจเป็นแค่เครื่องประดับที่มีรูปร่างแปลกเป็นพิเศษละมั้ง?
กู้ซีจิ่วไม่สนใจข้าวของจำพวกเครื่องประดับสักเท่าไหร่ จึงส่งของสิ่งนั้นคืนให้พิธีกรประมูล จากนั้นก็หันหลังเดินกลับขึ้นชั้นบนไป
เมื่อพิธีกรประมูลเปิดสิ่งนั้นออก ดวงตาก็เปล่งประกาย “ที่แท้มันเป็นกำไลอัญมณี! สร้างได้แปลกใหม่เหลือเกิน!”
ภายใต้แสงเทียนสว่างไสว ของที่อยู่ในมือเขาเปล่งประกายพร่างพราย ส่องแสงเรืองรองดูโดดเด่นเป็นพิเศษ!
สิ่งที่โดดเด่นถึงเพียงนี้ย่อมดึงดูดสายตาของผู้คนอยู่แล้ว โดยเฉพาะสายตาของเหล่าสตรี เมื่อเริ่มประมูลราคาตั้งต้นก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว
ราคาตั้งต้นคือห้าหมื่นตำลึง เพียงชั่วพริบตาราคาก็พุ่งไปถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง
กู้ซีจิ่วลอบยิ้มหัว เจ้าสิ่งนี้ส่องแสงแพรวพราวถึงขนาดนี้ เมื่อสวมมันติดกายไว้ก็จะกลายเป็นเป้าเรืองแสง ต่อให้อยู่ไกลถึงแปดลี้ก็ยังมองเห็น!
ของสิ่งนี้อย่าว่าแต่จะให้เธอประมูลเลย ถึงให้ฟรีเธอก็ไม่เอา!
เธอกอดอกพลางมองดูความคึกคักนั้น
จู่ๆ ก็มีเสียงที่แปลกประหลาดอย่างมากดังขึ้นมาในหัว ‘แม่นางน้อย ประมูลข้าสิ!’
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน ใครกำลังพูดอยู่?
‘เป็นข้าเอง สิ่งที่เจ้าตรวจสอบก่อนหน้านี้ไง รีบประมูลข้าเร็ว!’ เสียงนั้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กู้ซีจิ่วพูดอะไรไม่ออก กำไลข้อมือเส้นนี้มีจิตวิญญาณด้วยหรือ?!
-------------------------------------------------------------------------------------
บทที่ 50 แพงเกินไปแล้ว!
‘ข้าคือหยกนภา ไม่ใช่กำไลข้อมือที่มีจิตวิญญาณอะไรนั่น! ข้ามาหาเจ้าโดยเฉพาะ รีบประมูลข้าเร็ว แล้วข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังในภายหลัง เร็วสิ เร็ว!’ เสียงนั้นเร่งเร้าอยู่ซ้ำๆ
หยกนภา?
ชื่อนี้ฟังแล้วช่างสูงส่งเหลือเกิน หยกนภาที่มีจิตวิญญาณ?
ก้อนหินจะมีจิตวิญญาณก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ทำไมเสียงมันถึงได้ฟังดูแปลกประหลาดขนาดนี้? ช่างไร้อารมณ์ประหนึ่งเครื่องจักรก็มิปาน
แล้วทำไมถึงมาหาเธอโดยเฉพาะ?
หัวใจของกู้ซีจิ่วสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองที่ชั้นล่างอย่างเกียจคร้าน เจ้ากำไลสีฉูดฉาดเส้นนั้นถูกเสนอราคาขึ้นไปถึงสองแสนตำลึงแล้ว
‘แพงเกินไป!’ กู้ซีจิ่วเอนตัวพิงราวกั้น พลางเอ่ยออกมาอย่างไม่อินังขังขอบ
‘สตรีตระหนี่! เสียเงินเพียงไม่กี่แสนตำลึงแล้วได้ตัวข้าหยกนภาผู้เลิศเลอยังไม่คุ้มกันอีกหรือ?’
เหอะ เจ้ากำไลหยกเส้นนี้ประเมินตนสูงไปแล้ว!
มุมปากของกู้ซีจิ่วโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา พลางกล่าวออกมาอย่างไม่เกรงใจ ‘ไม่คุ้ม!’
‘จะ...เจ้ากล้าดูแคลนข้า เจ้า...’
‘ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม เจ้าจงให้เหตุผลสักข้อที่ทำให้ข้าต้องประมูลเจ้า ไม่เช่นนั้น...เหอะๆ’ กู้ซีจิ่วยิ้มเย็น ‘หนึ่ง!’
เสียงนั้น ‘...เจ้า...’
‘สอง!’
‘ก็ได้ นับว่าเจ้าแน่มาก!’ ในที่สุดเสียงนั้นก็ยอมแพ้ มันเงียบไปชั่วครู่ ‘ข้าเป็นของวิเศษที่ถือกำเนิดจากฟ้าดิน สามารถรู้แจ้งหยินหยางและกระจ่างในห้าธาตุ รู้ทุกเรื่อง เข้าใจทุกสิ่ง...’
คงจะคล้ายๆ กับไป่ตู้[1]ในชาติก่อน นับว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่คุยโวโอ้อวด?
กู้ซีจิ่วเคาะราวกั้นเบาๆ พลางครุ่นคิด
‘หญิงสาว เจ้ากำลังสงสัยว่าข้าพูดความจริงหรือไม่อยู่สินะ?!’ เสียงนั้นหัวเราะอย่างเย็นชา ทันใดนั้นก็ค่อยๆ เอ่ยออกมาสามคำ ‘ร่างโคลนนิ่ง...’
หางตาของกู้ซีจิ่วกระตุกทันที คิดไม่ถึงว่าเจ้ากำไลพังๆ เส้นนี้จะรู้ความลับของเธอ! ดูท่าคงจะมีความสามารถจริงๆ
‘เฮ้ นังหนู ข้าไม่ใช่กำไลพังๆ นะ! ข้าเป็นหยกนภาที่หยั่งรู้ฟ้าดิน เป็นของวิเศษ! ของวิเศษ!’
ทว่ากู้ซีจิ่วไม่รับฟังมัน ‘เจ้าฉูดฉาดเกินไป หากสวมเจ้าไว้ข้าคงกลายเป็นเป้าล่อมีชีวิตแน่ๆ! แล้วข้าจะไปมาโดยอิสระได้อย่างไร?’
‘หญิงสาว ตรงไหนกันที่เรียกว่าฉูดฉาด? อย่างข้านี่เรียกว่าไม่ซ้ำใคร!’ แล้วเจ้าหยกนภาก็แก้ตัวกับเธอ ‘วางใจเถอะ ถ้าจ้าประมูลข้าได้ ข้าย่อมมีวิธีปกปิดประกายแสงเหล่านี้...’
‘เอาล่ะ รีบคิดวิธีหาเงินให้ข้าเอามาประมูลเจ้าเถอะ เงินเพียงไม่กี่แสนไหนเลยจะพอซื้อตัวเจ้า’
จู่ๆ เจ้าเสียงนั้นก็บังเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา ‘เจ้ามาคิดหาเงินเอาตอนนี้ก็สายไปแล้ว ใช่แล้ว ทำไมไม่เอาหญ้าวิเศษที่เจ้าได้รับก่อนหน้านี้ออกมาแลกเปลี่ยนล่ะ? องค์ชายสี่ผู้นั้นต้องประมูลมาแลกกับเจ้าแน่นอน!’
‘ไม่ได้ หญ้าวิเศษมีค่ากว่าเจ้ามากนัก’ กู้ซีจิ่วปฏิเสธออกมาตรงๆ
‘...เฮ้ หญิงสาว เจ้าพูดอะไรกันน่ะ? หญ้านั่นมีค่ามากกว่าข้าหรือ? จะเป็นไปได้ยัง...’ เจ้าเสียงนั้นคล้ายกับแมวที่ถูกเหยียบหาง เอะอะโวยวายอยู่ในสมองของกู้ซีจิ่ว
‘ชิ หยุดโวยวายได้แล้ว! ข้าย่อมมีวิธีประมูลเจ้าแน่’
‘จริงเหรอ? ตอนนี้ราคาพุ่งสูงถึงสามแสนสามหมื่นตำลึงแล้วนะ! เจ้าจะไปหาเงินเยอะขนาดนี้มาจากไหน? จะไปปล้นรึไง? ที่นี่ไม่ได้นะ เอาไว้ค่อยพูดกันทีหลังก็ยังไม่สาย...’
‘หุบปากซะ ขืนยังโวยวายอยู่ข้าจะไม่ประมูลเจ้าแล้ว ข้าก็มีวิธีของข้าเอง’
กู้ซีจิ่วและกำไลหยกนภาสื่อสารกันผ่านทางความคิด คนอื่นจึงไม่มีทางมองเห็นหรือได้ยินเด็ดขาด
วิธีหาเงินของกู้ซีจิ่วนั้นง่ายมาก เธอให้เด็กรับใช้ที่อยู่ด้านข้างเอากระดาษกับพู่กันมา เขียนอักษรลงไปไม่กี่ตัว แล้วพับเป็นกระเรียนกระดาษที่ประณีตตัวหนึ่ง จากนั้นก็สั่งให้เด็กรับใช้คนนั้นนำไปมอบแก่องค์รัชทายาทที่อยู่ในห้องข้างๆ พร้อมเอ่ยกำชับเขา “จดหมายฉบับนี้ต้องมอบให้องค์รัชทายาทอ่านเท่านั้น ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์ ด่วนเลยนะ! ด่วน!”
คิดๆ ดูแล้ว ก็กำชับเพิ่มอีกประโยค “องค์รัชทายาทคงไม่เปิดอ่านด้วยตนเอง ฉะนั้นเจ้าจงพูดคำว่า ‘โรคแอบแฝง’ ด้วย”
เด็กรับใช้คนนั้นไม่พูดจาให้มากความ ถึงแม้จะสับสนอยู่บ้างแต่ก็ถือกระเรียนกระดาษนั้นไป
ฝ่ายองค์รัชทายาทที่กำลังจิบชาอยู่ในห้องรับรองของตน เมื่อเห็นกระเรียนกระดาษแสนประณีตที่เด็กรับใช้มอบให้ก็รู้สึกงงงวย
องครักษ์ที่อยู่ข้างกายเขาเกรงว่าบนจดหมายนี้จะมีสิ่งแปลกๆ อยู่จึงคิดจะเปิดแทนเขา เด็กรับใช้คนนั้นที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง “คุณชายผู้นั้นกล่าวว่าต้องการให้องค์รัชทายาทเปิดมันกับมือตน อ้อ เขายังกล่าวคำว่า ‘โรคแอบแฝง’ อีกด้วย”
------------------------------------------------------------------------------------
[1] ไป่ตู้ เป็นผู้ให้บริการซอฟแวร์และเสิร์จเอนจิ้นรายใหญ่ของจีนที่ชาวจีนนิยมใช้กัน ลักษณะคล้ายกับ Google
พูดคุยเกี่ยวกับนิยาย #ลำนำบุปผาพิษ
ได้ใน FB Group : หอน้ำชาเสี่ยวเปย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ