mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่

7.0

เขียนโดย Ebonyz

วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.53 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.69K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) เป้าหมายที่ 2 ของมิเตอร์เค (3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

น้ำฝนได้ชุดนอนของครูมาแล้ว เธอยังไม่ได้ใส่เสียทีเดียว เพราะการมองดูคุณครูที่ดูลังเล และเขินอาย กำลังจะใส่ชุดนักเรียนหญิงที่เปรอะเปื้อนเป็นภาพที่น่าดู และชวนให้ใจเต้นมากกว่า ชวนให้นึกถึงวันแรกที่เธอได้ใส่ชุดของผู้หญิงยิ่งนัก เพียงแต่ครั้งนั้นเธอไม่ได้ใส่ในที่มืดๆ แบบนี้ เธอใส่ต่อหน้าคนทั้งห้อง

ครูหนุ่มในสภาพเปลือยเปล่า เพราะถอดชุดของตัวเองให้น้ำฝนไปแล้ว เขาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะสวมเสื้อนักเรียนหญิงลงไปบนตัว สัมผัสเหนียวๆ ลื่นๆ บนชุดน่าขยะแขยงยิ่งนัก แต่เขาคิดในใจว่าเพื่อนักเรียน และกลั้นใจสวมเสื้อจนเสร็จ เหมือนตัวของเขาก็จะเลอะเทอะไปด้วยแล้วตอนนี้

เขากางกางเกงในออก และสวมเข้าไปบนตัว เช่นเดียวกันกับเสื้อ คราบอะไรต่อมิอะไรแนบชิดลงไปบนตัวของเขา สำผัสที่ทั้งเปียกและเหนียวเหนอะแนบลงไปบนตัวเขา ขยะแขยงจนขนลุก และเขาก็ใส่กระโปรงเสร็จในเวลาต่อมา

“รองเท้าด้วยครับ ครู” น้ำฝนยื่นรองเท้าให้

เขารับมาใส่ พลางคิดในใจว่า ดีเหมือนกัน เพราะเหมือนเท้าที่มีแผลจะเริ่มเจ็บจนเดินยาก และเมื่อตอนก้มใส่รองเท้านั่นเอง

 

“ตรงนั้นทำอะไรกันน่ะ” ครูเค และครูวิชัยนั่นเองที่เดินเข้ามา

“ครู” และน้ำฝนก็วิ่งเข้าไปซบมิสเตอร์เค

“น้ำฝน แล้วทำไมสภาพเธอเป็นแบบนี้ เขามองน้ำฝนในสภาพเปลือยเปล่า และเนื้อตัวมอมแมมเต็มไปด้วยคราบน้ำ และแป้งทั่วตัว

“ครูคนนี้ เขาบังคับให้หนูทำแบบนี้ค่ะ” น้ำฝนชี้ไปที่ครูหนุ่มในสภาพที่ชุดนักเรียนหญิงเต็มที่

“เอ้า ครูจิรายุ แล้วสภาพนี้มันอะไรกัน”

จิรายุ ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ทำไมนักเรียนคนนี้ จึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปและกล่าวหาเขาแบบนี้

“ผะ..ผม อธิบายได้ครับ”

ท่าทีของมิเตอร์เคเหมือนมีความโกรธแอบแฝงอยู่

“ทำแบบนี้ไม่ถูกนะครับ แถมผิดกฎหมายอีกต่างหาก ไว้ไปอธิบายกับตำรวจก็ได้ครับ พี่วิชัยถ่ายรูปหน่อยครับ” เขาพูดพร้อมกับยกโทรศัพท์ ขึ้นมากดเบอร์

“ผมอธิบายได้พี่ พี่กำลังเข้าใจผิด” เขาจะวิ่งเข้ามาห้าม

“มันไม่มีอะไรต้องอธิบายทั้งนั้นแหละ สภาพมันชัดเจนอยู่แล้ว ว่าคุณน่ะเป็นพวกชอบตุ๋ยเด็ก แล้วยังสภาพสุดโรคจิตนั่นอีก ชอบแต่งหญิงด้วยเหรอ” มิสเตอร์พูดเสียงดัง

ครูวิชัยเดินไปถ่ายรูปใกล้ๆ

“อย่าถ่ายนะครับ ได้โปรด พี่ๆ กำลังเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว” เขายกมือห้าม

“อย่างนั้นก็ไปคุยกันหน่อยแล้วกัน” เคเก็บมือถือ และเดินนำออกไป

ครูจิรายุ เดินตามด้วยสภาพ ใส่ชุดนักเรียนหญิงเปื้อน ไปตามทางเดินตึก ซึ่งดีว่าดึกมาแล้ว เลยไม่มีคนมากเท่าไหร่นัก เขาอยากจะถอดชุดเจ้าปัญหานี้ทิ้งไป เดินแบบไม่ใส่อะไรอาจดีกว่านี้

ทั้งสาม เข้าไปคุยกันในห้องโดยปล่อยน้ำฝนรออยู่ด้านนอก

มิสเตอร์เคเข้าไปนั่งที่โต๊ะ โดยเชิญให้จิรายุนั่งตรงเก้าอี้กลางห้อง โดยมีครูวิชัย ยืนดูอยู่ใกล้ๆ

“ไหนเล่ามาให้ผมฟังหน่อยครับ” เขาพูดด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้น

“นักเรียนคนนั้น เขาวิ่งเข้ามาเคาะห้อง บอกว่าโดนข่มขืน และโดนบังคับใส่ชุดนักเรียนหญิง ผมจึงจะช่วย แต่เขาก็พาเขาวิ่งออกมา แล้วขอแลกชุดกันกับผมครับ”

“ฟังดูน่าเหลือเชื่อมาก”

“ดูน่าเหลือเชื่อ แต่มันเป็นเรื่องจริงครับ”

“แล้วคุณก็ยอมแลกชุดใส่กับเด็กคนนั้นเนี่ยนะ”

ครูหนุ่มอึ้ง ไม่มีคำพูดใดออกจากปาก

“แล้วคุณว่าผมเชื่อคุณไหมล่ะ”

“..” ไม่มีคำตอบออกจากปากคนที่ใส่ชุดนักเรียนหญิงอยู่

“ผมเชื่อนะครับ”

คำตอบของเค สร้างความแปลกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขาให้แก่ครูหนุ่มอยากมาก เพราะเมื่อครู่เขาไม่ได้มีท่าทีแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย

“รู้ไหมทำไมถึงเชื่อ”

“น้ำฝนเข้ามานี่” เขาเรียกน้ำฝนเข้ามา เธอเดินมาในสภาพเปลือยเปล่า และเลอะเทอะเช่นเคย

เขาแกะผ้าพันหน้าอกของน้ำฝนออก ปล่อยเต้าเต่งตึงออกสู่สายตาคนทั้งสอง น้ำฝนมีท่าทีเขินอายเล็กน้อยก่อนที่จะยืนแอ่นทำหน้าเชิดแบบไม่สะทกสะท้าน

“นะ..นี่ มันอะไรกันครับ” ครูหนุ่มตกตะลึงพร้อมเริ่มปะติดปะต่ออะไรได้

“ใช่ ผมเชื่อ เพราะแผนนี้ผมคิดขึ้นมาเองไง ฮ่าๆ ๆ ๆ” เขาหัวเราะอย่างชั่วร้าย

“สารเลว”

“อะไรนะ” เขาเดินเข้าใกล้ครูหนุ่ม ที่นั่งอยู่

เพี๊ยะ เขาตบหน้าครูหนุ่มอย่างจัง ใบหน้าขาวใสสะบัดไปตามแรงตบ สร้างความเดือดดาลให้เขาไม่น้อย

“กล้าดียังไงวะ แก” เขาลุกขึ้นมาเตรียมประจันหน้า แต่ครูวิชัย ยกโทรศัพท์ขึ้นมาให้เขาดูเสียก่อน ทำให้ท่าทีเขาอ่อนลงอย่างฉับพลัน

“ครูมีภาพคุณหมดแล้ว ครูจิรายุ มันฟังดูเหมือนมุขเก่าๆเรื่องการแบล็กเมล์ แต่ว่ามันก็ใช้ได้อยู่นะ ฟังที่ครูเค เขาพูดก่อนดีกว่า เผื่อว่าเราจะได้หาข้อตกลงร่วมกันแล้วจะได้จบเรื่องนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยน แต่สัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นเช่นเดียวกัน

ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้แต่โดยดี

“ว่ามาว่าคุณต้องการอะไร” เขาพูดด้วยเสียงแข็งกร้าวด้วยอารมณ์โกรธที่ปะทุอยู่ภายใน

“อย่าโกรธผมเลยคุณ”

“คุณมันน่ารังเกียจ”

เขายิ้ม

“พูดไปเถอะ เพราะที่สุดแล้วคุณก็จะกลายเป็นแบบนี้” เขาเดินไปด้านหลังน้ำฝน และเอื้อมมือสองข้างมาขยี้ สองเต้าขนาดพอดีมือ น้ำฝนตอบรับโดยการขยับไปตามแรง และแสดงสีหน้าอันเปี่ยมสุขออกมา

“เอาละ มาดูข้อตกลงเราดีกว่า” เขาพูดและยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว

 

_____________________________________________

 

เวลาเช้าตรู่ ครู พละออกมาเป่านกหวีดเรียก ทุกคนออกมารวมกันเพื่อที่จะได้ไปออกกำลังกายตอนเช้า

ต้นและรูมเมททั้งสองออกมา รวมกับกลุ่มในหอพักของตนเอง เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ และเริ่มออกวิ่งในเวลาไม่นาน ซึ่งเมื่อวิ่งและยืดเส้นเสร็จเรียบร้อย ทั้งหมดก็เขาไปใต้โดมที่เดิม กับเมื่อวาน และวันนี้เป็นรุ่นพี่คนใหม่ ใส่ชุดคล้ายๆ คนเก่า เธอใส่กางเกงผ้ายืดรัดรูป และใส่ชุดว่ายน้ำขาเว้าสูงไว้ด้านนอก เป็นผ้าแบบเดียวกันแต่คนละสี ตรงเป้าสามารถมองเห็นความนูนได้บ้าง แต่ก็ยังมีความเนียนและดูดี ซึ่งเป็นที่ดึงดูดสายตาของรุ่นน้องไม่น้อย

“ก่อนที่เราจะเริ่มเต้นแอโรบิค พี่ขอทวงงานเมื่อวานก่อนนะคะ”

“เมื่อวานนี้เพื่อนพี่ได้ขอ อาสาสมัครที่จะออกมานำออกกำลังกายหลังจากนี้ มีใครจะออกมาเป็นอาสาสมัครบ้างคะ” ความเงียบงันเกิดขึ้นทันทีเมื่อมีคำถาม

“ขอไม่เยอะ สี่ถึงห้าคนเท่านั้นเองจ้า”

ทุกคนยังคงนิ่ง มีท่าทีที่เกี่ยงกันอยู่ในหมู่ฝูงชน

“ไม่มีใครเลยเหรอคะ พี่จะเริ่มกิจกรรมไม่ได้นะ”

“ผมครับพี่” เสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของต้น กริชนั่นเอง

“มาแล้วหนึ่ง ขออีกสี่ค่ะ” เธอพูดพร้อมมองหาคนต่อไป “มีอีกไหมเอ่ย”

 

“ไปด้วยกันต้น” กริชกระซิบมาด้านหลัง แต่ต้นยังชั่งใจอยู่ เพราะของแบบนี้เขาไม่ค่อยถนัด ยิ่งต่อหน้าคนอื่นแล้ว เขารู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที

“ไม่ไหวหรอก กริช”

“คนนี้ด้วยครับ” กริชยกมือแล้วชี้มาที่ต้น

“เอ้า กริชทำไมทำแบบนี้”

“โอเคค่ะ มาสองคนแล้ว”

และอีกไม่นานก็มีคนทยอยยกมือจนเต็มจำนวน

“อย่างนั้นพี่ขอนัดคนที่จะเป็นคนนำออกกำลังกายนะคะ หลังเสร็จกิจกรรมแล้ว สักประมาณห้าโมง พี่ขอให้น้องๆ มาซ้อมท่าเพื่อที่จะได้ใช้ในการนำออกกำลังกายนะคะ ทุกคนปรบมือให้อาสาสมัครของพวกเราหน่อยค่ะ”

เสียงปรบมือดังขึ้น และเข้าสู่ช่วงแอโรบิค

รุ่นพี่ที่นำเต้นในวันนี้ดูมีชีวิตชีวากว่าเมื่อวาน เมื่อมีการออกแอคชั่น หรือท่าที่แรงๆ เธอจะมีการส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด สร้างความสนุกสนานให้แก่คนที่เต้นตาม แต่ก็สร้างความหนักใจให้กับต้นด้วยเช่นกัน เพราะถ้าต้องเป็นแบบนี้ เขาทำไม่ได้แน่ๆ

เมื่อการออกกำลังกายเสร็จสิ้นลง ครูก็ขึ้นมาแจ้งนัดหมาย

“วันนี้ใส่ชุดพละนะครับทุกคน วันนี้จะเป็นการทำความรู้จักสถานที่ต่างๆ ในโรงเรียน ให้เวลา ชั่วโมงครึ่ง รีบไปอาบน้ำแต่งตัว รับประทานอาหารเช้าให้เรียบร้อยและเจอกันที่ใต้โดมที่เดิมนะครับ”

เขาเป่านกหวีดหนึ่งปรี๊ดและทุกคนก็แยกย้าย

 

________________________________________

 

ครูหนุ่มกำลังชั่งใจกับสิ่งที่เขาต้องใส่ตลอดทั้งวัน สิ่งของที่น่าอายเกินกว่าผู้ชายจะใส่วางอยู่ตรงหน้า เพราะเขาเพิ่งดึงออกมาจากถุงกระดาษ เขาถอนหายใจอย่างจำยอมเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

“เอาล่ะ ผมมีเงื่อนไขที่ให้คุณครูปฏิบัติตามสี่ข้อด้วยกัน ถ้าทำได้สำเร็จทั้งหมด ผมจลบรูปทั้งหมด และจะทำเป็นว่ามันไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”

“ว่ามาเลย”

“ข้อแรกภายใน 7 วันนี้ ผมจะเลือกชุดให้คุณใส่ แต่อย่าเพิ่งโวยวาย” เขาพูดเพราะอีกฝ่ายตั้งท่าเหมือนจะโวยวาย

“ในสี่วันแรก ผมให้คุณใส่ชุดอะไรก็ได้ข้างนอกทับไว้ แต่ขอเฉพาะสามวันท้ายเท่านั้นที่จะต้องใส่ชุดที่ผมจัดให้”

“โอเคไหมครับ”

ครูหนุ่ม มีสีหน้าท่าทางที่อึดอัด

“ผมปฏิเสธได้ที่ไหนล่ะ”

“ดี”

“ต่อมา เราต้องมาเจอกันวันละสามเวลา ทั้งเช้า กลางวัน และเย็น ทุกวัน และผมสามารถที่จะแตะต้องตัวคุณได้โดยที่คุณไม่ต้องอนุญาติ”

เขาชั่งใจเล็กน้อยก่อนที่จะตอบตกลง “ได้”

“เราจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น เงื่อนไขข้อที่สามคือ เมื่อใครถาม คุณต้องบอกว่าคุณเป็นแฟนผม และเราเพิ่งคบกัน”

“ไอ้บ้า” เขาพูดพร้อมลุกขึ้นโดยแฝงนัยยะที่ไม่พร้อมจะรับข้อเสนออะไรไปมากกว่านี้

“อ๊ะๆ คุณจะตกลงรับหรือเปล่าคิดดีๆ นะครับ เพราะคุณจะอยู่โดยหวาดระแวง ว่าผมจะแอบเอารูปคุณไปเผยแพร่ตลอดชีวิตหรือเปล่า”

อีกฝ่ายไม่ตอบพร้อมเม้มปากแน่น

“เอาเป็นว่าตกลง”

“และข้อสุดท้าย จะบอกเมื่อครบเจ็ดวันไปแล้ว ทำได้ครบหมดเราก็ไม่มีอะไรต่อกัน ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตนะคุณ”

“แล้วจะมีอะไรรับประกันว่าคุณจะทำอย่างที่พูด เพราะในเมื่อตอนนี้คุณก็ใช้วิธีสกปรกในการบีบบังคับผม ผมจะเชื่อใจอะไรคนอย่างคุณได้” เขาพูดด้วยอารมณ์

อีกฝ่ายไม่พูด พร้อมเดินไปเปิดโต๊ะ และหยิบวัตถุสีดำสนิทออกมา มันดูมีน้ำหนักมาเลยทีเดียว

เขายัดมันลงในมือคนใส่ชุดนักเรียนหญิง และปลดเซฟปืน

“เอาไปได้เลย ผมให้” เขาพูดด้วยแววตาจริงจัง

สองมือจับมือคนที่ถือปืนสอดเข้าโกร่งไก และยกกระบอกปืนหันเข้าหากลางหน้าอกของตัวเอง

“ผมเป็นคนรักษาคำพูดเสมอ ถ้าผมไม่ทำตาม คุณเอาปืนนี้มายิงผมได้เลย ผมไม่หนี” แววตาอันมุ่งมั่น แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นในขณะเดียวกัน ราวกับดาบรูปร่างเรียวสวย แหลมคมดูอันตราย แต่ก็น่าหลงใหลจนยากที่จะถอนสายตา

“บะ บ้าไปแล้ว ผมก็โดนข้อหาฆ่าคนตายสิ” เขาลดปืนลง

“ดีมาก เอาเป็นว่าคุณยอมรับข้อเสนอ” เขาไม่พูดเปล่า เพราะเดินอ้อมมาด้านหลัง มือหนึ่งสอดเข้าไปใต้กระโปรง และรุกล้ำเข้าไปในจุดสงวน พร้อมทั้งลูบคลำ วนไปรอบๆ และสำรวจไปทุซอกทุกมุม ไม่นาน สิ่งที่นอนอ่อนตัวก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมา

จิรายุยอมให้เขาลูบเล่นอยู่อย่างนั้น

“ตั้งแต่วันนี้ไปฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคุณแฟน” มิสเตอร์เคกระซิบข้างหู ในขณะที่อีกมือก็ทำการสำรวจเนื้อตัวของเป้าหมายไปด้วยพร้อมกัน อย่างไม่หยุดมือ เมื่ออีกฝ่ายเริ่มแสดงอาการจากสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไป เริ่มหายใจแรงขึ้น เขาก็หยุดมือ และเดินกลับไปที่โต๊ะ หยิบถุงกระดาษส่งให้เขา

“พรุ่งนี้ใส่ชุดนี้แล้วมาให้ผมเชคตอนเช้าด้วยนะครับ” เขาเว้นไปหนึ่งจังหวะ

“ที่รัก”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา