เซนต์เซย่า ภาคนักรบคนสุดท้าย Saint Seiya The Last Hope
เขียนโดย Jalando
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.54 น.
แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2566 11.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) ผลการประลอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความมุมปากของโฟเทียเผยอขึ้นมา อันเป็นกิริยาที่คล้ายจะขบขัน เพราะการจู่โจมที่กล้าปล่อยก่อนหน้า ล้วนเป็นเพียงลำแสงสีฟ้าเล็กๆเท่านั้น ซึ่งห่างไกลจากคำว่าน่ากลัว
ทว่าไชน่ากลับคิดอีกอย่าง เพราะเธอสัมผัสได้ถึงบรรยากาศรอบตัวที่เปลี่ยนไป ไหนจะยังพลังคอสโม่ที่พวยพุ่งออกจากายของกล้าอีก เธอจึงรีบร้องตะโกน เพื่อเตือนลูกศิษย์หนุ่ม
" โฟเทียอย่าประมาท เจ้าเซย่าดูแปลกไป ตั้งรับให้ดีๆ "
แต่วาจาที่ทรงคุณค่าไม่ได้เข้าหูของโฟเทียเลย เพราะเขาตั้งใจจะยืดอกรับการจู่โจมที่แสนกระจอก ทว่าเหตุการณ์จริงกลับไม่เป็นดังที่คิด
" เฮ้ย! นั่นมัน......."
โฟเทียตกใจสุดขีด เพราะสิ่งที่ออกจากหมัดขวาของกล้านั้นคือ.......ลำแสงสีฟ้าหลายสิบเส้น และพวกมันกำลังพุ่งมาที่เขา
" เปรี้ยง ปัง ปึก......"
ลำแสงทุกเส้นวิ่งกระทบร่างกายของโฟเทีย แถมแต่ละดอกก็หนักหน่วงจนสร้างความเจ็บปวดให้แก่นักรบหนุ่ม ลำตัวเพรียวบางเด้งไปมาตามแรงกระแทก
แต่นั่นยังไม่ใช่ที่สุด เพราะการจู่โจมครั้งสุดท้ายของกระบวนท่านี้ก็คือ......ลำแสงสีฟ้าที่มีขนาดเท่าตัวคน และมันได้พุ่งผ่านกายของโฟเทีย
" ตูม......"
" อุ้ก " โฟเทียแทบกระอักโลหิต ความเจ็บปวดแผ่ซ่านทั่วร่าง เพราะไฟนอลดาเมจดูจะสาหัสกว่าครั้งก่อนๆอยู่หลายระดับ ทำให้เขาทรุดกายลงนั่งคุกเข่า เลือดแดงฉานหลั่งไหลจากแผลฉกรรจ์หลายจุด
ลำแสงขนาดใหญ่หยุดเคลื่อนที่ พร้อมสลายละอองสีฟ้าออกไป เหลือไว้เพียงร่างแกร่งเกร็งของกล้า ไม่นาน พระเอกหนุ่มก็ล้มลงไปนั่งคุกเข่าบ้าง ปิดท้ายด้วยการหอบถี่
" แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก......ดูท่าทางเพกาซัสหมัดดาวตกจะเปลืองแรงไม่ใช่เล่น ทำให้เราแทบล้มทั้งยืน "
" แต่รู้สึกว่าเจ้าจะคุ้นชินมากขึ้น เพราะ......หลังจากที่ใช้มัน เจ้าไม่ได้สลบเหมือนทุกที " มารีนแทรกขึ้นมา กล้าเลยหันไปมอง จึงพบว่าอาจารย์สาวกำลังยืนกอดอกที่ด้านหลัง แถมยังหยุดอยู่ไม่ห่าง ราวกับจะทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์เจ้าชาย
" แฮะ แฮะ แฮะ " พระเอกหนุ่มพูดไม่ออก จึงได้ส่งยิ้มแห้งๆให้ ในใจแอบขบคิด
" สมกับเป็นคุณมารีนจริงๆ กว่าจะโผล่มาช่วย ก็ล่อไปถึงตอนจบ บุคลิกเหมือนในการ์ตูนเปี๊ยบ "
ทว่าโฟเทียไม่ยอมจบเพียงแค่นี้ เด็กหนุ่มเลยพยายามยันกายลุกขึ้นยืนโงนเงน ท่าทางอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ชนิดที่ว่าลมพัดมาทีเดียว เขาก็ปลิวแล้ว
" บ้าน่า มันยังไม่จบหรอก ชั้นไม่มีวันยอมแพ้เจ้าเซนต์เพกาซัสจำแลง "
เมื่อศึกยังไม่สิ้นสุดโดยสมบูรณ์ กล้าก็ฝืนกายลุกขึ้นยืนประจัน สองขาสั่นพรึบพรับ ราวกับเจ้าเข้า แต่ก่อนที่โฟเทียจะได้ลากสังขารเข้าไปจู่โจม ไชน่าก็ตรงเข้ามาจับหัวไหล่
" พอได้แล้ว เจ้าไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมสู้ วันนี้คงต้องยอมแพ้ไปก่อน แล้วกลับมาแก้มือใหม่ "
" ตะ.....แต่ผมยังพอจะขยับได้นะครับ แถมเจ้าเซนต์จำแลงนั่นก็แทบจะยืนไม่ขึ้นเหมือนกัน ถ้าโหมบุกเข้าไป อาจล้มมันได้ " โฟเทียเริ่มเถียงอย่างดุดัน บ่งบอกถึงความดื้อรั้นที่ยืนหนึ่ง ไชน่าเลยถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเฉลยความจริง
" เจ้าศิษย์โง่ ต่อให้ร่างกายเต็มถัง ก็อาจจะพ่ายแพ้ เพราะเซย่าได้เข้าถึงหลักการใช้คอสโม่โดยสมบูรณ์ จนสามารถปล่อยท่าไม้ตายที่รุนแรงออกมา อันเกินกำลังของเซนต์ฝึกหัดเช่นเจ้า ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ.......กลับไปฝึกให้หนักกว่านี้ "
คำพูดของไชน่า ทำให้เด็กหนุ่มร่างบางมีสติมากขึ้น และพอได้ยั้งคิด โฟเทียก็เห็นออร่าสีฟ้าอ่อนที่แผ่รอบกายของกล้า อันแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้สาหัสอย่างที่เข้าใจ
" ฮึ่ม......แม้จะเจ็บใจ แต่สิ่งที่คุณไชน่าพูด ก็เป็นความจริงทุกประการ "
เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงขั้นนี้ ไชน่าก็หันไปกล่าวกับมารีนด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว ราวกับโกรธกันมาซักล้านชาติ
" เอาล่ะ เลิกประลองกันได้แล้ว เพราะลูกศิษย์ของพวกเราไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมต่อสู้ ส่วนการดวลระหว่างเจ้ากับข้า คงต้องยกยอดไปครั้งหน้า เตรียมล้างคอรอคมดาบไว้ได้เลย " หลังจากไชน่าพ่นคำอาฆาตใส่อาจารย์สาวผมแดง เธอก็เดินจากไป ทิ้งให้โฟเทียยืนอยู่ตามลำพัง
พอไชน่าสิ้นบทบาท ลูกศิษย์หนุ่มอย่างโฟเทียก็หันไปมองกล้า ที่กำลังตั้งกระบวนท่าต่อสู้ ดวงตาของเขาเปล่งประกายร้อนแรงดุจเปลวเพลิง อึดใจต่อมา พ่อหนุ่มจงอางไฟก็ส่งสารท้ารบด้วยวาจา
" การตัดสินของเราสองคนคงต้องเลื่อนไปก่อน ไว้รอให้ชั้นฝึกฝีมือจนเข้าที่ ค่อยมาสู้กันใหม่ และในคราวหน้า หวังว่าพวกเราจะมาประลองกันในฐานะเซนต์ที่สวมชุดครอธนะ "
กล้าอยากเลียนแบบเซย่าตัวจริงที่พูดทิ้งท้ายในช็อตนี้ว่า......ถ้าเจอกันในสภาพนั้น ก็อย่าพบกันอีกเลย เพราะเขารู้สึกว่าฉากนี้เท่เหลือประมาณ แต่ปากดันสั่นจนขยับไม่ออก เลยได้แต่พยักหงึกๆไปตามประสา
" อืม.....ดีมากที่เข้าใจ และชั้นยินดีที่นายรับข้อเสนอ แล้วพบกันใหม่ เจ้าเซนต์เพกาซัสจำแลง " โฟเทียยิ้มรับ เพราะเข้าใจว่ากล้าเองก็อยากดวลอีกครั้งเหมือนกัน อึดใจต่อมา พ่อหนุ่มจงอางไฟก็ลากสังขารที่อ่อนล้าจากไป ทิ้งให้กล้ายืนสับสนอยู่เดียวดาย
" บ้าเอย ชั้นไม่ได้หมายความอย่างงั้นซักหน่อย แต่ช่างเถอะ ยังไงหมอนั่นก็จากไปแล้ว และคงไม่มีวันได้ชุดครอธ เพราะบุคคลที่ถือครองก็คือ......คุณไชน่า ผู้เป็นอาจารย์ของมัน " ถึงตรงนี้ กล้าเริ่มโล่งอก เพราะถ้าโฟเทียไม่ได้ชุดครอธมาครอบครอง การดวลครั้งต่อไปก็คงไม่เกิด (มั้งนะ)
และในขณะที่กล้ากำลังใจลอยอยู่นั้นเอง มารีนก็เข้ามาตบไหล่เบาๆ พร้อมร้องทัก สีหน้าไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ เพราะมีหน้ากากเหล็กขวางกั้นอยู่
" เจ้าเป็นยังไงบ้าง พอจะเดินไหวมั้ย "
" ไหวครับ ทีนี้ผมกลับประเทศไทยได้รึยัง " ทันทีที่ได้ยินคำถาม กล้าก็หันมายิ้มแห้งๆให้ พร้อมชูนิ้วโป้ง จากนั้นค่อยล้มตึง
" โครม "
" เอ๊ะ! " มารีนตกใจ เลยรีบเข้ามาดูอาการ แต่พอได้ยินเสียงลมหายใจพริ้วแผ่ว และใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ดูสงบ ก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายนั้นหลับไปแล้ว
" คร่อก.....ฟรี้ "
มารีนนั่งคุกเข่าข้างๆกล้า ดวงตามองมาที่ลูกศิษย์หนุ่มนิ่งๆ แน่นอนว่าเราไม่รู้ว่าสาววัยรุ่นนางนี้คิดอะไร เพราะไม่เห็นใบหน้า แต่คาดว่าเจ้าหล่อนน่าจะยิ้ม ด้วยได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของเธอ
" หึ หึ หึ....."
.................................
กล้ายอมรับว่าฝันของตนสะเปะสะปะ มันวนเวียนอยู่ในช่วงที่เขาใช้ชีวิตนักเรียนบนโลกมนุษย์ เลยพบกับหลากหลายชีวิต ไม่นานก็ได้ประสบกับเหล่าศัตรูสุดฉกาจในการ์ตูนเซนต์เซย่า และจุดสุดท้าย นักสู้ที่เด็กหนุ่มร่างสมบูรณ์กลัวที่สุดก็ปรากฏกาย คนผู้นั้นก็คือ.......
" เหวอ......." กล้าผวาเฮือก จึงพบว่าตนเองกำลังอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน บนศีรษะมีร่มเงาจากไม้ใหญ่คอยกำบังอยู่ ทำให้แดดยามบ่ายแก่ๆดูไม่ร้อนแรงนัก
" ทะ....ที่นี่ที่ไหน หรือจะเป็นสวนหย่อมใจกลางกรุงเทพ ซึ่งก็แปลว่าทุกเรื่องราวที่เราผจญมา เป็นเพียงฝันร้ายที่น่าสะพรึงกลัว " กล้าปาดเหงื่อ ใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง เพราะคิดว่าตนน่าจะตื่นจากนิทราที่แสนยาวนาน ทว่า.......
" พูดอะไรของเจ้า หรือยังไม่ตื่น เลยเพ้อเรื่อยเปื่อย "
แม้กล้าจะไม่เห็นรูปโฉม แต่เขาก็รู้ดีว่าเจ้าของเสียงนี้คือผู้ใด และเมื่อหันกลับไปมอง ก็พบว่าตนคาดไม่ผิด จึงรับคำ พร้อมตีหน้าเจื่อน
" ผะ.....ผมตื่นแล้วครับ คุณมารีน "
อาจารย์สาวผมแดงมองกล้านิ่งๆ คล้ายว่าจะพยายามค้นหาความหมายของประโยคที่พระเอกหนุ่มพล่ามเมื่อครู่ แต่ไม่นาน เธอก็ล้มเลิกความคิดนี้ แล้วหันไปโฟกัสในเรื่องที่สมควร
" ที่นี่คือสวนดอกไม้ ซึ่งเป็นเขตชั้นนอกของแซงทัวร์รี่ เดินทางต่อไปอีกกิโล เจ้าก็จะออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ "
" เอ่อ.....ก็หมายความว่า " กล้ามัวแต่อ้ำๆอึ้งๆตามสไตค์ของตัวเอง มารีนจึงเอียงคอมองด้วยความสงสัย ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกตัว
" แย่แล้ว เซย่าตัวจริงไม่แสดงอาการแหยแบบเราแน่ ไม่ได้การ ต้องแสร้งห้าวให้คุณมารีนเห็น "
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็หมายความว่าผมชนะไอ้กร๊วกนั่น และจะได้กลับไทย เฮ้ย! ญี่ปุ่นแล้วสินะ "
ทว่าการโชว์อ๊อฟของกล้าไม่ช่วยให้มารีนหายเคลือบแคลง เพราะเด็กหนุ่มพูดผิดๆถูกๆ แถมติดขัดอีกต่างหาก ท่วงท่าก็ดูไม่มั่นใจ จึงแลคล้ายเด็กเนิร์ดที่พยายามทำตัวเป็นกัปตันทีมฟุตบอลซะมากกว่า แน่นอน จุดที่อาจารย์สาวผมแดงติดใจที่สุดก็คือ........
" แล้วทำไมเซย่าพูดถึงประเทศไทยบ่อยนัก มันจะไปที่นั่นทำไม หมอนี่เป็นคนญี่ปุ่นไม่ใช่หรือ "
แน่นอนว่ามารีนยอมทิ้งเรื่องนี้ เพราะถึงลูกศิษย์หนุ่มจะเอ๋อรับประทานในระยะหลัง แต่เขาก็ฝ่าฟันจนได้ชุดครอธเพกาซัสมาครอบครอง แถมยังเอาชนะโฟเทีย ศิษย์อันดับหนึ่งที่แท้จริงของไชน่าได้อีก เธอจึงหยิบบางอย่างจากกระเป๋ากางเกง แล้วยื่นให้กล้า
" รับนี่ไป เจ้าต้องใช้มันเดินทางกลับญี่ปุ่น "
กล้ารับมาดู จึงพบว่ามันคือกระดาษโน๊ตขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้า มีลายมือเขียนเป็นภาษากรีซที่ค่อนข้างหวัด คิ้วดกดำของเด็กหนุ่มจึงเริ่มขมวดนิ่ว
" นี่คืออะไร แล้วชั้นจะอ่านออกมั้ยเนี่ย ทำไมไม่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ "
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ