นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์

-

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.18 น.

  88 ตอน
  62 วิจารณ์
  77.06K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

76) ตอนที่ 76 บทเรียนที่สายไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หอคอยทาวน์เวิร์ด

   "แน่ใจเหรอว่าจะไม่ตามเดรโกนะ" แท็กถามขึ้น

   "ห่วงตัวมึงดีกว่า... ยังไงกูตามไปฆ่ามันแน่ แต่ก่อนอื่นกูขอชำระแค้นกับมึงก่อน" นายบึ๊กพูดขึ้น เกราะค่อยๆสมานตัวเองมากขึ้น

   "เรื่องอะไร"

   "มึงอาจไม่ได้ฆ่าครอบครัวกู แต่มึงฆ่าเพื่อนกูยังไงตอนนี้กูขอล้างเลือดของมึงให้กับไอ้แมนเพื่อนกู !"

   สิ่งที่นายบึ๊กพูดออกมานั้นแท็กคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่า อีกฝ่ายไม่ปล่อยเขาไว้หรอกเพราะยังไงนายบึ๊กก็อยากเล่นงานเขาอยู่แล้ว ร่วมทั้งนายเต๋าเองก็อยากคิดบัญชีกับแท็กด้วย ที่สำคัญทั้งสองพร้อมที่จะฟาดฟันกับเขาต่อแล้ว รอบนี้อัศนัยไม่ใช่คู่มือของนายบึ๊กเพราะยังบาดเจ็บอยู่ แต่แท็กเชื่อว่าอีกฝ่ายคงไม่ปล่อยให้ตัวเองนอนเฉยๆแน่นอน ไม่นานนักทั้งแท็กกับไซม่อนก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังมาจากข้างหลัง

   ศุภรัศมิ์เดินขึ้นมาโดยเนื้อตัวของเขากับดาบนั้นเต็มไปด้วยคราบน้ำสีดำ สักพักเขาทำการสลัดน้ำดำออกจากใบดาบให้กลับมาเงาวับเช่นเดิม เบื้องหลังที่แท็กพอจะมองเห็นคือซากของเหล่าอันเดธ นอนจมกองเลือดอยู่ตรงแถวบันได สถานการณ์เปลี่ยนไปเมื่อมีคนมาเพิ่มทำให้นายเต๋ากับนายบึ๊กตกที่นั่งลำบากพอสมควร แต่เหล่าสมุนอันเดธบางส่วนก็ยังฟังคำสั่งของทั้งสองอยู่ ศุภรัศมิ์ตั้งใจจะฟัดกับพวกนายเต๋า แต่ทว่าไซม่อนกลับขวางไม่ให้ศุภรศมิ์เข้ามายุ่ง เพราะไซม่อนรู้ดีว่าอัศนัยไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับ "เหยื่อ" ของตนแน่นอน

   เมื่อแท็กรู้ว่าเปลี่ยนบัดดี้ไม่ได้ก็จำใจต้องสู้แบบ 2 ต่อ 1 เพื่อถ่วงเวลาให้อัศนัยนั้นพื้นตัวจากบาดแผล เพราะในตระกูลแมกซ์เวลล์นั้นจะมีสูตรยาชนิดหนึ่งซึ่งเป็นความลับของตระกูล มันจะช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บและสมานบาดแผลได้ในระดับหนึ่ง แต่มันก็ใช้เวลาพักใหญ่ๆเพื่อให้ร่างกายพื้นตัว ย่อมแปลว่าแท็กต้องรับมือเองเพื่อถ่วงเวลาอย่างเดียวเท่านั้น !

   แท็กก้มหลบกรงเล็บของนายบึ๊กก่อนสวนกลับด้วยหมัดขวาตรง อัดเข้าที่หัวเข่าของนายบึ๊กเมื่อเห็นว่าทรุดตัวลงแล้ว ก็เหวี่ยงหมัดซ้ายเข้าที่หน้าอีกรอบ เกราะแตกกระจายพร้อมๆกับเลือดดำกลบปาก ส่วนนายเต๋านั้นก็เหวี่ยงทวนน้ำแข็งฟาดเข้าที่ลำตัวของแท็ก แต่เขาใช้ท่อนแขนขวากันทวนเอาไว้ และหมุนตัวควงหมัดซ้ายที่อาวุธของเขาชาร์ตพลังระดับ 3 แต่เนื่องจากว่าแท็กก้มต่ำไปทำให้หมัดซ้ายนั้นมันเหวี่ยงอัดเข้าที่สีข้างขวาของนายเต๋าแทน

    ทางฝั่งของอัศนัยที่รอให้ยาที่เขานั้นกินเข้าไปนั้น สมานแผลให้พอที่จะทำให้ตัวเขานั้นพยุงตัวขึ้นมาได้ แต่ในระหว่างนี้จำเป็นต้องนอนแน่นิ่งไปก่อน ระหว่างนั้นชายหนุ่มเงยหน้ามองไปพบว่าตอนนี้ ทางกองทัพส่งทัพอากาศมาเพื่อทิ้งบอมม์ แต่อันเดธที่บินได้นั้นก็ส่งพลโจมตีไม่ให้ทัพอากาศเข้ามาใกล้ได้ อัศนัยคิดว่ามันไม่มีเวลามากแล้วแต่ร่างกายก็ดันไม่อำนวยเสียได้

    ทางฝั่งของแท็กที่ถ่วงเวลาอยู่นั้นตอนนี้นายเต๋าทรุดลงกับพื้น เพราะรู้สึกได้ว่ากระดูกสีข้างนั้นร้าวจนเกือบหัก ส่วนนายบึ๊กนั้นแม้ว่าจะบาดเจ็บสาหัสแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ยังบ้าดีเดือดไล่ฟาดฟันแท็กอย่างคลุ้มคลั่ง แท็กที่ตอนนี้เริ่มดูออกแล้วว่านายบึ๊กโจมตีแบบสะเปะสะปะ ทำให้เขาสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย แค่หาจังหวะสวนกลับเท่านั้นและเขากำลังหาช่องจังหวะในการที่จะโจมตีกลับ ใช่ ! แท็กนับจังหวะการโจมตีของนายบึ๊กร่วมทั้งลมหายใจเข้า-ออกของมัน และเจอช่องทางจะตอบโต้กลับแล้วซึ่งแท็กชาร์ตอาวุธระดับ 3 ที่หมัดขวาเพื่อจบเกม แต่ทว่า....                

   

    ปัง !

    

    เสียงปืนดังมาจากข้างหลังของนายบึ๊กก่อนที่แท็กจะอัดกำปั้นใส่อีกฝ่าย นายบึ๊กชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจก้มดูตัวเอง เลือดสีดำไหลอาบท้องพร้อมกับเกราะที่แตก เมื่อหันหลังกลับไปดูพบว่าอัศนัยที่ฝืนร่างกายตัวเองลุกขึ้นมา พร้อมกับเหนี่ยวไกยิงนายบึ๊กซ้ำอีกรอบ วิถีกระสุนวิ่งทะลุหน้าออกหลังของนายบึ๊กโดยเลือดดำกระจายปนอากาศ และล้มทั้งยืนไปแบบนั้นสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนมากโดยเฉพาะกับนายเต๋าที่ดูจะตกใจมากที่สุด

    "ไอ้บึ๊ก !" นายเต๋าร้องตะโกนสุดเสียงกับภาพที่เห็นเพื่อนนอนนิ่งจมกองเลือดแล้ว

    อัศนัยทรุดนั่งลงกับพื้นหลังจากฝืนร่างกายตัวเองแล้ว เขารู้สึกร้อนๆทั่วร่างกายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้วเพราะชายหนุ่มบรรลุเป้าหมายแล้ว คนที่ทำลายชีวิตน้องสาวของเขาตอนนี้ได้ชดใช้ด้วยชีวิตแล้ว ด้านนายเต๋าที่เริ่มพยุงตัวขึ้นมาได้และหันมาจ้องด้วยสายตาแรงอาฆาต และพยายามจะพุ่งมาเล่นงานอัศนัยที่ไม่สามารถต่อสู้อะไรได้ แต่ก่อนที่ปลายทวนจะมาถึงตัวของอัศนัยนั้น

    แท็กพุ่งตัวเข้ามาอยู่ตรงระหว่างนายเต๋ากับอัศนัย ปลายทวนทิ่มทะลุมือซ้ายของแท็กเล็กน้อย เขาถอยตามแรงของนายเต๋าไม่มาก อัศนัยและนายเต๋าตกใจที่แท็กโผล่มา แต่เขาไม่รอช้าใช้กำปั้นขวาหักทวนน้ำแข็งทิ้งก่อนจะเอาหัวไหล่ชนตัวอีกฝ่าย พร้อมกับใช้หมัดขวาเย็บเข้าหน้าอกของนายเต๋า ร่างของนายเต๋ากระเด็นตามแรงหมัดของแท็ก เกราะน้ำแข็งแตกทะลักพร้อมเลือดน้ำดำในช่วงอกและทางปาก

    "เพื่อนมึงไปแล้วไอ้เต๋า ต่อไปก็ตามึง" แท็กพูดพร้อมกับดึงใบทวนที่ทิ่มมือของเขาออกมา

    ด้านของนายบึ๊กที่ตอนนี้ร่างของเขานั้นแน่นิ่งไปแล้ว แต่เหมือนสติของเขายังรับรู้อยู่ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ใช่ ! เขาตายไปแล้วด้วยกระสุนลูกซองแฝดของอัศนัย หลังจากนั้นนายบึ๊กก็มาพบว่าตัวเขาเองนั้นยืนอยู่บนที่มืดๆ ซึ่งมองอะไรไม่เห็นเลยนอกจากตัวของเขาเอง เครื่องหมายคำถามมากมายเกิดขึ้นบนหัวของนายบึ๊ก ตกลงตัวของเขานั้นอยู่ที่ไหนกันแน่

    จากที่มันมีแต่ความมืดก็มีแสงสว่างเจิดจ้าจนเด็กหนุ่มแสบตา เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกทีพบว่าเขายืนอยู่หน้าบ้านตัวเอง นายบึ๊กจำได้ดีว่านี่คือบ้านเขาไม่มีผิดแน่นอน แต่.....ทำไมเขาถึงมาที่นี้ได้ละ ระหว่างที่เขากำลังงงๆกับตนเองนั้น ก็ปรากฏเงาของคนที่เดินออกมาจากตัวบ้าน ซึ่งนั้นคือแม่แต้มคุณย่าของบึ๊กนั้นเอง เธอใส่ชุดสบายๆพร้อมกับถือพัดมานั่งบนเก้าอี้หน้าบ้าน ตามแบบที่นายบึ๊กคุ้นเคยเสมอ

    "ย่าครับ ผมกลับมาแล้ว" นายบึ๊กหันไปมองต้นเสียงก็ต้องตกใจ เพราะนั้นคือตัวเขาเองในสมัยก่อนในชุดเครื่องแบบนักเรียน

    อ่า เขาจำได้แล้วในตอนนั้นตัวของนายบึ๊กจำได้ว่า ตอนที่เรียนในโรงเรียนแวดล้อมด้วยเพื่อนๆและคำชื่นชมจากอาจารย์ ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจแค่ไหนกับการได้เป็นนักเรียนดีเด่นทุกปี และเหตุการณ์ที่นายบึ๊กกำลังเห็นคือตอนที่เขาที่เรียนอยู่มัธยมปลาย กำลังนำผลการเรียนมาอวดคนในบ้านอีกตามเคย แม่แต้มเห็นหลานชายกลับมาจากโรงเรียนก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก็เดินมาสวมกอดนายบึ๊กซึ่งเขานั้นจำได้ว่าอ้อมกอดนั้นอบอุ่นแค่ไหน

    "ว่าไงบึ๊ก หลานกลับมาแล้วเหรอที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง" แม่แต้มถาม

    "นี่ไงครับผลการเรียนของผม" นายบึ๊กพูดพร้อมกับยื่นใบประกาศผลการเรียนของเขา ซึ่งเมื่อแม่แต้มรับมาดูผลการเรียนก็ยิ้มชื่นใจออกมา ซึ่งนายบึ๊กจำได้ว่าเขาชอบเวลาที่แม่แต้มยิ้มแบบนี้มากแค่ไหน

    "เก่งมากเลยหลานของย่า" แม่แต้มพูดอย่างปลื้มปิติพร้อมกับสวมกอดนายบึ๊กอีกครั้ง

    นายบึ๊กหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อได้เห็นภาพดั่งกล่าว แต่ภาพมันก็หายไปอย่างรวดเร็วรอบนี้เขาก็ยังอยู่ที่หน้าบ้านเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเมื่อครู่เลยคือเสียงโวยวายของนายสินพ่อของเขาเอง ที่ไล่หลังนายบึ๊กที่กำลังจะเดินออกจากบ้านไปโรงเรียน ตามมาด้วยนายสินที่แสดงท่าทีไม่พอใจอย่างมาก ซึ่งนายบึ๊กนั้นจดจำได้ว่าวันเป็นเหตุการณ์ที่เขาไม่อยากจดจำที่สุดในชีวิต เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากับพ่อไม่ลงรอยกันอีกเลย

    "ทำไมว่ะไอ้บึ๊ก... ข้าไม่เคยขออะไรเอ็งเลยนอกจากแค่บวชให้ข้ากับแม่ แล้วก็ย่าแค่นี้ทำไมเอ็งทำไม่ได้ว่ะ" นายสินเดินออกมาโวยวายใส่ลูกชายตัวเอง สีหน้านายบึ๊กนั้นเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    "ก็ผมเป็นลูกที่ดีของพ่อ แม่ กับย่าไม่พออีกเหรอ ผมตั้งใจเรียนไม่เคยออกนอกลู่นอกทางก็พอแล้วนี่พ่อ ทำไมต้องให้บวชอีก" นายบึ๊กหันมาถามพ่อด้วยความไม่พอใจและไม่เข้าใจตรรกะความคิดของนายสิน

    "ก็จะได้ทำให้ข้า แม่ แล้วก็ย่าเอ็งนะได้เกาะชายผ้าเหลืองเพื่อขึ้นสวรรค์ไง เอ็งทำให้ไม่ได้รึยังไง" นายสินกล่าว

    "อะไรก็เกาะชายผ้าเหลือง ถามจริงเถอะพ่อ นี่มันยุคไหนแล้วครับพ่อจะมายึดติดเรื่องแบบนี้อีกเหรอ.... เรื่องขึ้นสวรรค์มันอยู่ที่การกระทำของคนเราไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่การบวชไม่บวช"

    "เอ็งไม่ต้องมาเถียงเลยนะ ตกลงเอ็งจะบวชไม่บวช" นายสินที่ไม่พอใจที่นอกจากนายบึ๊กจะไม่ยอมทำตามตนเองแล้ว ยังจะมาเถียงแบบหัวชนฝาเสียด้วยซ้ำ

    "ไม่ ! ผมไม่บวชแล้วก็ไม่อยากบวชด้วย"

    "ไอ้ลูกไม่รักดี !"

    นายบึ๊กหลับตาไม่อยากเห็นภาพแบบนั้นแต่มันก็เหมือนบังคับให้เขาต้องดู ภาพเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่นายบึ๊กกับนายสินเริ่มที่จะมีปากเสียงกันมากขึ้น และจากพ่อที่แสนดีก็แปรเปลี่ยนไปกลายเป็นคนไร้เหตุผลในสายตาของนายบึ๊ก นายสินเริ่มกดดันเขามากขึ้นเรื่อยๆเพื่อที่จะให้ทำตามที่ตัวเองต้องการให้ได้ นับแต่นั้นผลการเรียนของนายบึ๊กตกลงชนิดที่เรียกว่าดิ่งลงเหว ซึ่งแน่นอนว่านายสินที่ไม่พอใจเป็นทุนเดิม ก็ทุบตีนายบึ๊กทั้งที่ส่วนตัวของนายสินแล้วไม่เคยทุบตีลูกชายมาก่อน

    ภาพใหม่ตัดมาเป็นตอนกลางคืนที่หน้าบ้านของเขา ซึ่งมันเป็นการกระตุ้นความทรงจำของนายบึ๊กอีกครั้ง เขาจำได้ว่ามันเป็นตอนที่เขาตัดสินใจที่จะหลบหนีออกจากบ้าน เพื่อไปตายเอาดาบหน้าที่เมืองหลวงดีกว่าต้องมาอึดอัดในบ้านแบบนี้ ซึ่งที่นั้นทำให้เขาได้พบกับนายแมนและพามาพบกับพวกนายแป๋ว นั้นคือจุดเริ่มต้นชีวิตเส้นทางมืดของนายบึ๊กนั้นเอง นั้นร่วมถึงตอนที่เขานั้นกระทำกับมธุกรกับเนเน่

    "พอที ! กูไม่อยากเห็น ปล่อยกูออกไปเดียวนี้ !" นายบึ๊กร้องตะโกนสุดเสียงพร้อมกับปิดตาไม่อยากรับรู้อะไร

    "ปล่อย.... เจ้าช่างกล้าเอ๋ยคำนั้นออกมาได้อย่างไม่ละอายปากจริงๆ ทั้งหมดนั้นคือเส้นทางที่เจ้าเลือกเองมิได้ถูกบังคับ"

    เสียงทุ้มแต่มีอำนาจดังมาจากข้างหลังของนายบึ๊ก และเมื่อหันมาดูต้นเสียงก็พบชายผมสั้นสีทองบลอนด์ สวมสูทสีแดงทั้งตัวดวงตาสีแดงฉานราวกับไฟนรกจับจ้องมาทางนายบึ๊ก เด็กหนุ่มรู้สึกสั่นสะท้านเมื่อสบตากับอีกฝ่ายมันช่างให้ความรู้สึกว่า เขาอยู่ในห้วงนรกจริงๆ ข้างกายของชายชุดสูทแดงนั้นมีไม้กระบองใหญ่ยืนพิงขาขวา มันมีขนาดใหญ่จนถ้าฟาดทีคงขาดเป็นสองท่อน

    "คะ คะ คะ คุณเป็นใครครับ" นายบึ๊กถามเสียงสั่นอย่างมากจนควบคุมไม่ได้

    "เจ้ารู้แค่ว่าข้ามารับเจ้าไปรับการพิพากษาในนรก !"

    คำกล่าวเสียงเรียบของอีกฝ่ายแต่ทำให้เหงื่อบนนายบึ๊กแตก นรก ! ไม่นะ ไม่จริง นี่เขาต้องอยู่ในนรกอย่างนั้นเหรอ จุดจบสุดท้ายของเขาคือแบบนี้นะเหรอ ชายสูทสีแดงมองหน้านายบึ๊กอย่างเวทนา เพราะตนนั้นรู้ว่าเด็กตรงหน้านั้นควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้ หาใช่ต้องมาพบจุดจบแบบนี้ สักพักหนึ่งก็มีกลุ่มคนปรากฏขึ้นจากด้านหลังของชายสูทสีแดง ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นครอบครัวของนายบึ๊กนั้นเอง

    "บึ๊ก ! ลูกแม่" แม่จำปาร้องขึ้นและวิ่งไปสวมกอดลูกชายร่วมทั้งแม่แต้ม

    นายสินไม่ยอมขยับร่างกายที่จะเข้าไปหาลูกชาย เพราะจากภาพฉายตอนที่พวกตนมีชีวิตอยู่นั้น ทำให้นายสินรู้แจ้งแล้วว่าทั้งหมดที่นายบึ๊กต้องมาเป็นแบบนี้เพราะต้นเหตุมาจากตนเอง ที่ลูกชายต้องมาอยู่ในนรกเพราะทั้งหมดเกิดจากเขาที่เอาแต่ทุบตี กดดันเพียงแค่ไม่ได้ดั่งใจตนเท่านั้น กลับกลายเป็นว่าแทนที่มันจะทำให้ลูกทำตามคำสั่งตน กลายเป็นลูกหนีออกจากบ้านไปคบกับคนไม่ดีจนต้องมาลงเอ๋ยแบบนี้ นายสินรู้สึกละอายใจจนไม่อาจเข้าไปกอดลูกชายได้ ชายสูทสีแดงเองก็ชายตามองนายสินด้วยแววตาที่สมเพชเวทนามากกว่านายบึ๊กเสียด้วยซ้ำ ช่างหน้าฉงนใจนักที่มนุษย์ตีค่าการทำความดีแบบแปลกๆ ทั้งที่ความจริงมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย หากคนเราทำด้วยใจยังไงมันก็คือการทำความดีเช่นกัน

    "ท่านค่ะอย่าเอาลูกฉันไปเลย... เอาฉันไปแทนเถอะที่เขาต้องกลายเป็นคนไม่ดี เพราะฉันทำหน้าที่แม่ไม่ดีพอเอง" แม่จำปากล่าวทั้งน้ำตาและอ้อนวอนต่อชายสูทสีแดง ที่ดูยังไงก็ไม่ใจอ่อนอยู่แล้ว

    "เสียใจด้วยนะแม่นาง กรรมใครกรรมมันย่อมรับแทนกันไม่ได้ ลูกชายของแม่นางก่อกรรมทำเข็ญมาค่อนข้างสาหัสอยู่ มาสำนึกตอนนี้มันก็สายไปแล้ว คำขอของแม่นางข้ามิอาจทำได้ ข้าเสียใจ"

    "อะไรที่ผมทำให้พ่อ แม่ แล้วก็ย่าต้องเสียใจมาตลอด ผมขอโทษนะครับ" นายบึ๊กกล่าว

    "โธ่บึ๊กหลานของย่า" แม่แต้มดึงหลานชายมาสวมกอดเอาไว้

    "หมดเวลาอำลาแล้ว ไปกับข้าชะ...ไม่ได้มีเวลาทั้งวัน" ชายสูทสีแดงกล่าวขึ้นพร้อมกับจับสายโซ่ที่ตรึงร่างของนายบึ๊ก เสมือนกับผู้คุุมนักโทษซึ่งภาพตรงหน้ามันบาดหัวใจของแม่แต้มกับแม่จำปาอย่างมาก โดยเฉพากับนายสินที่พึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองคือคนที่ทำให้ลูกชายต้องเจอแบบนี้ จึงทำให้สิ่งที่คาดไม่ถึง

    "เดียวก่อนท่าน !" นายสินร้องตะโกนขึ้น

    "ต้องการอะไร" ชายสูทสีแดงหันมาถามอย่างเหนื่อยใจ มนุษย์นี่นา น่าเบื่อจริงๆ

    "ผมคือต้นเหตุที่ทำให้ลูกชายต้องมาเป็นแบบนี้ ผมขอรับโทษพร้อมกับลูกชายด้วยเถอะท่าน" ชายสูทสีแดงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนี้

    "เจ้าไม่เคยทำชั่วจะให้ข้าพาไปนรกได้ยังไง มันผิดกฏ"

    "แต่ผมขอไปด้วยความเต็มใจ ผมไม่อาจทำใจที่ให้ลูกชายลำบากในนรก แต่ตัวเองอยู่สบายใจในอีกภพ....ผมทำไม่ได้จริงๆ" นายสินกล่าวเสียงสั่น

    "อย่าพ่อ ! ให้ผม..."

    "ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นพ่อตัดสินใจแล้ว เอ็งเงียบไปเลย" นายสินหันมาดุนายบึ๊ก

    ชายสูทสีแดงถอนหายใจเพราะนี่ไม่ใช่รายแรกสำหรับตน การที่วิญญาณคนที่ไม่ได้ทำชั่วมาอยู่ในนรก รับบทบาทได้เพียง 2 อย่างคือ เฝ้ามองกับเป็นผู้ลงทัณฑ์เท่านั้น ซึ่งนั้นมันทำให้เขาสนใจว่านายสินอยากเล่นบทบาทไหนกันแน่ ในเมื่อนายสินตัดสินใจแบบนั้นก็ไม่ขัดข้อง ประตูมิติที่เปิดสู่ห้วงนรกเปิดออก นายสินหันมาก้มลาแม่แต้มบนตักและสวมกอดแม่จำปาภรรยาของตน

    "ฝากลูกด้วยนะพี่สิน" แม่จำปากล่าว ก่อนที่สองพ่อลูกจะตัดสินใจเดินตามชายสูทสีแดงเข้าไปในประตูมิติ

                                     

                                         

                                     

 

 

 

                                                            ++++++++++++++++++++++++                 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา