นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์

-

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.18 น.

  88 ตอน
  62 วิจารณ์
  76.99K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

49) ตอนที่ 49 การจัดฉาก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บ้านครอบครัวนายบึ๊ก เวลา 20.50 น.

   "ให้ตายเถอะจะมาทำไมด้วยเนี่ย กลับไปนอนพักเลย ไป๊ !" เสียงของหยางเสี่ยวฟงพูดอย่างไม่พอใจ                                                                    

   "ตอนนี้มันช่วงเวลาพักนี่พี่ จะไม่ให้ผมออกมาข้างนอกเลยเหรอ" แท็กที่ยืนข้างๆสวนขึ้น ซึ่งผลตอบกลับมาคือเขานั้นกินมะเหงกเต็มๆ

   เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นหลังจากที่แท็กฝึกเสร็จแล้ว เขากลับได้ยินหยางเสี่ยวฟงและอภิชัยกำลังจะเดินทาง ไปหาครอบครัวของนายบึ๊กเพื่อสืบหาข้อมูลบางอย่าง ด้วยความอยากรู้เป็นทุนเดิมของแท็กอยู่แล้ว จึงขอไปกับรุ่นพี่ทั้งสองด้วยซึ่งแน่นอนว่าหยางเสี่ยวฟง ไม่พอใจอย่างมากเพราะต้องการให้ แท็กนั้นขัดเกลาฝีมือเพื่อเตรียมรับมือศัตรูที่จะมาตอนไหนก็ได้ แต่กลับตรงข้ามสำหรับอภิชัยที่คิดว่าแท็กควรรู้ข้อมูลของศัตรูไว้ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร

   ระหว่างที่ทั้งสามกำลังยืนคุยกันอยู่นั้นอภิชัยก็หันไปเห็น นายสินขี่รถมอร์เตอร์ไซร์มาจอดหน้าบ้านก่อนที่แม่แต้ม จะเปิดประตูเพื่อที่จะให้นายสินนั้นเข็นรถเข้าบ้าน เมื่อเห็นว่าเป้าหมายอยู่ครบแล้วหยางเสี่ยวฟง ไม่รอช้ารีบรุกเดินเข้าไปหาทันทีทำเอารุ่นน้อง อีกสองคนที่มัวแต่คุยกันนั้นเดินตามแทบไม่ทัน ก่อนที่แม่แต้มจะทำการปิดประตูนั้นมือของหยางเสี่ยวฟง ก็มากันไว้ไม่ให้ปิดทำเอาแม่แต้มหัวใจแทบวายที่อยู่ดีๆ มีคนโผล่ออกมาและเมื่อนายสินเห็นภาพดังกล่าว ก็รีบคว้าปืนลูกซองออกมา

   "หยุด ! วางปืนลงชะ" หยางเสี่ยวฟงพูดเชิงออกคำสั่ง ซึ่งอยู่ดีๆนายสินก็ลดปืนลงตามทันทีพร้อมกับวางปืนข้างตัว ทำเอาแม่แต้มที่ยืนเห็นเหตุการณ์ถึงกับมึนงงว่า ทำไมลูกชายถึงทำแบบนั้น

   แท็กที่พึ่งตามมาสมทบและได้เห็นภาพตรงหน้า มันทำให้เขานึกถึงตอนที่ปวเรศเพื่อนของเขาใช้พลังรูปแบบนี้ กับมอนสเตอร์ในตอนทดสอบคัดเลือกแบบทีมเวิร์ด หรือใช้เคลื่อนย้ายสิ่งของแต่ทว่าพลังของปวเรศก็ยังมีข้อกำจัด แต่กับหยางเสี่ยวฟงนั้นแทบไร้ข้อกำจัด มันย่อมบ่งบอกถึงระดับพลังที่แตกต่างกันเหลือเกิน และในตอนนี้ทั้งสามคนได้เข้ามาในตัวบ้านแล้ว แม่แต้มแสดงท่าทางไม่ไว้วางใจต่ออีกฝ่าย ในขณะที่นายสินยังอยู่ในท่าที่เหมือนต้องมนสะกด

   "ไม่ต้องกลัวผมสามคนไม่ได้มาร้าย แค่อยากคุยด้วยเท่านั้น" อภิชัยพูดขึ้นเพื่อให้แม่แต้มนั้นสบายใจ

   "แม่ค่ะ พี่สิน ทำอะไรกันอยู่ทำไมไม่ขึ้นมาบนบ้านค่ะ" เสียงร้องทักของแม่จำปาดังขึ้น ก่อนที่เธอจะเดินลงมาด้วยสีหน้าที่ฉงนใจกับแขกที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตามาเยือนบ้าน และกับท่าทางแปลกๆของนายสินผู้เป็นสามีด้วย

   แม่แต้มดึงสติตัวเองเอาไว้พร้อมกับสำรวจแขกผู้มาเยือน ถึงแม้จะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายสินแต่เธอรับรู้ได้ว่า ทั้งสามไม่มีเจตนาร้ายแอบแฝงหากเทียบกับคนรอบบ้านของเธอ แม่แต้มจึงตัดสินใจเดินไปปิดประตูหน้าบ้านให้สนิท เพื่อที่จะไม่ให้บุคคลภายนอกเห็นได้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าอีกฝ่ายให้ความร่วมมือกับพวกเขาแล้ว       

   "มานั่งที่ห้องกินข้าวสิปกติเราจะคุยกันที่ห้องนั้น" แม่แต้มเอ๋ย

   "ขอบคุณครับที่ให้การต้อนรับผมสามคน... อีกเรื่องคงไม่ว่าอะไรหากปล่อยให้ลูกชายคุณอยู่แบบนี้พักหนึ่ง" หยางเสี่ยวฟงพูดขึ้น

   แม่แต้มก็จำใจต้องทำแบบนั้นเพราะรู้นิสัยของนายสินดี และคงไม่ยอมที่จะพูดคุยกับคนแปลกหน้าแน่นอน ดังนั้นแม่แต้มจึงตัดสินใจทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับแขก ทั้งสามคนต่างเดินตามแม่แต้มไปโดยแม่จำปาก็เดินตามมาอย่างงงๆ ห้องกินข้าวนั้นจะมีโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมีตู้กับข้าวอยู่ข้างหลังเคียงคู่กับตู้เย็นเล็กๆ ถัดไปจากตรงนั้นก็จะเป็นที่ทำอาหาร แม่จำปาเสิร์ฟน้ำมาให้สามแก้ว

    "กินอะไรกันมารึยังละ" แม่แต้มถามขึ้น

    "กินอะไรกันมารึยังละ" แม่แต้มถามขึ้นอบ" อภิชัยกล่าวอย่างเกรงใจแต่ทว่า แท็กกลับท้องร้องออกมาทันทีราวกับจงใจจะหักหน้าชายหนุ่มก็ไม่ปาน ส่วนทางแท็กนั้นก็พึ่งนึกขึ้นมาได้ตัวเองยังไม่ได้กินอะไรเลย ตั้งแต่เลิกฝึกมาเพราะแถวนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้กินอยู่แล้ว แม่แต้มเห็นดังนั้นจึงไปยกกับข้าวที่ตนกับแม่จำปาทำ มาวางบนโต๊ะซึ่งมันประกอบไปด้วย ไข่ตุ้นไก่ ปลาทอดสามชิ้น และน้ำแกงฟักขาวเท่านั้น แต่สำหรับแท็กกลิ่นมันช่างยั่วยวนเขาเหลือเกิน

    "กินเลยจ๊ะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก" แม่จำปากล่าวเสริมอย่างอ่อนโยน ซึ่งหยางเสี่ยวฟงก็ปล่อยให้แท็กนั้นนั่งลงกินอาหารตามปกติ จากนั้นชายหนุ่มทั้งสองนั่งลงตามเช่นกัน โดยมีแม่แต้มกับแม่จำปานั่งอีกฝั่ง

    "ดูจากลักษณะแล้วไม่ใช่คนแถวนี้ เอ็งสามคนเป็นใครกัน" แม่แต้มยิงคำถามขึ้นทันที

    "ผมสามคนมาจากต่างบ้านต่างเมืองนะ ที่มารบกวนในวันนี้ขอแค่ให้คุณตอบคำถามด้วยความสัตย์จริงเท่านั้น" อภิชัยตอบ

    "จะถามเรื่องอะไร"

    "ครั้งหนึ่งเคยมีอันเดธตนหนึ่งมาที่บ้านของคุณก่อนหลบหนีไป ไม่ทราบว่านั้นใช่หลานชายของคุณรึเปล่า"

    คำถามดังกล่าวทำให้แม่จำปานั้นทำแก้วตกแตก แต่เธอกลบเกลื้อนด้วยการรีบกวาดเศษแก้วนั้นทันที จังหวะหนึ่งที่แม่จำปาเหลือบไปเห็นปืนกระบอกหนึ่งแหน็บอยู่ที่เอว ใจของเธอนั้นแทบไม่อยู่กับตัวเพราะมันรับรู้ได้ว่า สามคนนี้ต้องมีจุดประสงค์ไม่ดีกับลูกชายของตนแน่นอน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะทำ เพราะนายบึ๊กไม่ใช่มนุษย์อีกแล้วหากจะโดนล่าค่าหัวก็ไม่แปลก แต่สำหรับแม่แต้มนั้นที่สำรวจดูแขกทั้งสามอย่างวิเคราะห์

    "พวกเอ็งเป็นอันเดธเหรอ" แม่แต้มถามด้วยความสงสัย

    "จะเรียกแบบนั้นก็ได้... ตอนนี้คุณจะตอบคำถามพวกเราได้รึยังว่า ใช่ หลานชายของคุณใช่ไหม"

    "มันสำคัญด้วยเหรอ"

    "วันที่อันเดธตนนั้นเข้าไปในบ้านของคุณ ผมอยู่ที่นั้นด้วยและตามล่ามันอยู่ โชคไม่ดีที่มันไหวทันเลยหลบหลีกไปได้" หยางเสี่ยวฟงตอบด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยมาก

    แม้ว่าแม่แต้มจะสุขุมมากกว่าแม่จำปาแต่ก็มีหวั่นเกรงอีกฝ่าย เพราะยังไงเธอก็แค่คนธรรมดาเท่านั้นและที่สำคัญ ฝ่ายตรงข้ามนั้นยังพูดชัดเจนเลยว่า ต้องการล่าชีวิตนายบึ๊กในฐานะอันเดธซึ่งแน่นอนว่า แม้นายบึ๊กจะไม่ใช่มนุษย์อีกแล้วแต่สำหรับแม่แต้ม ยังไงนั้นก็คือหลานชายของเธอ ดังนั้นการที่มีคนบอกว่าต้องการล่าชีวิตหลานชาย ย่อมทำใจลำบากไม่น้อยส่วนแม่จำปานั้น ใจแทบหลุดจากตัวไปเรียบร้อยแล้ว เพราะตอนนี้แม่สามีได้เชื้อเชิญคนที่คิดเอาชีวิตลูกชายของเธอ

    พฤติกรรมของแม่จำปานั้นอยู่ในสายตาของแท็กมาตลอด ถึงแม้ว่าเขานั่งกินอยู่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่สังเกตสิ่งรอบข้างแต่ที่เขาสนใจคือตัวแม่จำปามากกว่า เท่าที่เห็นท่าทางของหญิงสาววัยกลางคนแล้ว แท็กเข้าใจดีว่าคนเป็นแม่ยังไงก็คงรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้เท่าไหร่ และแท็กอดคิดไม่ได้ว่าบางครั้งหยางเสี่ยวฟง เวลาพูดอะไรก็ไม่ค่อยจะถนอมน้ำใจคนฟังเลย มันดูใจร้ายใจดำยังไงชอบกล

    "ใช่ นั้นหลานชายข้าเอง... ทำไมถ้าหลานข้ามาที่นี้วันนี้พวกเอ็งสามคนจะดักรอใช่ไหม" แม่แต้มดักถามทันควัน

    "แหม ไอเดียมันก็น่าสนใจเหมือนกันนะแต่บังเอิญว่า วันนี้ไม่ได้มาล่าเขาเพราะยังไงเขาต้องมาหาพวกผมอยู่แล้ว" อภิชัยพูดเชิงทีเล่นทีจริงจนแม่แต้มทำตัวไม่ค่อยถูก

    "พวกเราอยากรู้ว่าวันนั้นที่เขามาหาพวกคุณ ได้มีหลุดพูดอะไรแปลกๆไหมอย่างเช่น เพื่อนหรือแผนอะไรสักอย่าง" อภิชัยเปรยออกมาเพื่อให้แม่แต้มนั้นนึกภาพออก

    "ข้าก็อยากบอกนะแต่ข้าไม่รู้หรอกว่าไอ้บึ๊กจะทำอะไรต่อ มันบอกแค่ว่าพวกข้าจะไม่โดนใครรังแกอีก"

    "ผมจะรู้ได้ไงว่าที่คุณพูดมามันเรื่องจริง" อภิชัยถาม

    "ต่อให้พวกเอ็งทรมานข้าให้ตาย ข้าก็คงตอบเหมือนเดิมนั้นแหละ" แม่แต้มยืนยันคำเดิม

    ก่อนที่หยางเสี่ยวฟงจะโต้งแย้งกับแม่แต้มนั้นอยู่ดีๆ โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มจำเป็นต้องรับสาย โดยหยางเสี่ยวฟงนั้นเดินเลี่ยงไปคุยข้างนอก ตรงจังหวะที่แท็กนั้นกินอาหารเสร็จพอดี และเขาเหลือบไปเห็นรูปนายบึ๊กตอนเด็กที่ได้ถ่ายภาพร่วมกับครอบครัวที่ประกอบไปด้วย ย่า พ่อ แม่ และตัวนายบึ๊กซึ่งในภาพนั้นมีเค้กก้อนใหญ่ด้วย คาดว่าน่าจะเป็นงานจัดวันเกิด จากภาพที่แท็กเห็นมันบ่งบอกได้ว่า ครอบครัวนี้เลี้ยงดูด้วยความรักและไม่น่าจะมีปมอะไร ให้นายบึ๊กเลือกเส้นทางแบบนั้นเลย

    "เฮ้ย ! ตอนนี้มีเรื่องด่วนมาช่วยกันหน่อย" หยางเสี่ยวฟงพูดด้วยเสียงร้อนรน ทำเอาอภิชัยกับแท็กนั้นทำหน้ามึนงงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในเมื่อรุ่นพี่ออกคำสั่งทั้งสองก็ต้องทำตาม

    "ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือและขออภัยที่มารบกวนในยามวิกาลนี้ครับ"

    หยางเสี่ยวฟง อภิชัย และแท็กตัดสินใจลุกเดินกันออกไป ส่วนนายสินที่ยืนนิ่งไม่ได้สติอยู่นั้นหยางเสี่ยวฟงที่เดินผ่าน เขาได้ดีดนิ้วหนึ่งครั้งแล้วเปิดประตูบ้านออกไปพร้อมกับรุ่นน้องทั้งสอง เมื่อสามหนุ่มหายลับไปแล้วนายสินได้สติกลับมา พร้อมกับส่ายปืนไป-มาแต่เมื่อพบความว่างเปล่าจึงลดปืนลงอย่างงงๆ แม่แต้มกับแม่จำปาเดินมาหานายสินที่ยังปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ได้ สำหรับแม่แต้มแล้วสิ่งที่หยางเสี่ยวฟงแสดงให้เห็นนั้น มันบ่งบอกได้ว่าหากเขามาด้วยเจตนาร้ายคิดว่า ลูกชายของเธอคงไม่รอดแน่นอน

    "แม่ มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยเมื่อกี้ยังเห็น...."

    "พอเถอะสินวันนี้แม่เหนื่อยแล้ว แม่อยากนอนแล้ว" แม่แต้มพูดตัดบทซึ่งทำให้นายสินที่ไม่อยากขัดใจแม่ จึงตัดสินใจเดินมาจูงแม่แต้มเพื่อขึ้นไปบนห้องโดยมีแม่จำปาเดินตามหลัง แต่ทว่า....

    "อะไรกันจะรีบนอนแล้วเหรอ"

    เสียงร้องทักปริศนาดังขึ้นจากข้างหลังของทั้งสาม และเมื่อหันกลับไปมองพบเด็กหนุ่มในชุดคลุมหัวสีดำ ซึ่งแม่จำปาดูอายุแล้วน่่าจะรุ่นเดียวกับนายบึ๊กลูกชายของเธอ เด็กหนุ่มปริศนาไม่ยอมเปิดผ้าคลุมหัวนอกเสียจาก ดวงตาสีฟ้าที่มองมายังสามคนอย่างไม่เป็นมิตรก่อนที่จะเห็นร่างใหญ่ๆ เดินมาสมทบทีหลังซึ่งเด็กหนุ่มได้แหวะยิ้มออกมา

                                           

                                                     +++++++++++++++++++++++                

     

    กรี๊ด !

    เสียงผู้หญิงร้องดังขึ้นไม่ห่างไกลมากนักซึ่งแท็กจำได้ว่านั้น คือเสียงของแม่จำปาซึ่งแน่นอนว่่ารุ่นพี่ของเขาก็ได้ยิน จึงต่างพากันรีบวิ่งเข้าไปที่บ้านของนายสินทันที หยางเสี่ยวฟงที่ออกวิ่งทีหลังหยุดชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าจึงเห็นพระจันทร์ ที่ตอนนี้กลายเป็นเหมือนสีอมแดงเข้ม มันเป็นรางบอกเหตุว่ามีการนองเลือดเกิดขึ้น ชายหนุ่มจึงวิ่งด้วยความเร็วเท่าที่ฝีเท้าจะทำได้ และนั้นทำให้หยางเสี่ยวฟงวิ่งแซงรุ่นน้องที่วิ่งนำมาก่อนได้

    หยางเสี่ยวฟงที่มาถึงหน้าประตูบ้านคนแรก พบว่ามันมีร่องรอยของการงัดแงะเพื่อเข้าไป แต่ประตูรั้วนั้นมันบิดเบียวผิดธรรมชาติ บ่งบอกว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่มนุษย์แน่นอน ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเดินเข้ามาในบ้านทันที และต้องพบภาพสยดสยองอย่างบอกไม่ถูก อภิชัยกับแท็กที่ตามมาสมทบก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ภายในบ้านถูกย้อมสีด้วยเลือดของสามสมาชิกในครอบครัวไปแล้ว ร่างของนายสินนั้นถูกอะไรบางอย่างฉีกร่าง จนขาดเป็นสองท่อนเผยให้เครื่องในอวัยวะที่ไหลปะปนกับเลือด

    แท็กที่เห็นภาพดังกล่าวถึงกับต้องหันหลัง แล้วอาเจียนออกมาทันทีส่วนอภิชัยและหยางเสี่ยวฟงนั้น ทั้งสองเจอภาพอะไรแบบนี้มาค่อนข้างเยอะ ทำให้ไม่รู้สึกอาเจียนเท่าไหร่แต่พวกเขาเลือกที่จะสำรวจศพก่อน อภิชัยใช้ผ้าผืนหนึ่งที่อยู่บนเก้าอี้มาจับปืนลูกซอง เขาพบว่ากระสุนยังอยู่ครบนั้นย่อมแปลว่า นายสินนั้นตายก่อนจะได้เหนี่ยวไกปืนเพื่อป้องกันตนเอง แสดงสิ่งที่ทำร้ายนายสินต้องว่องไวมาก

    ส่วนร่างของแม่แต้มนั้นมีสภาพไม่ต่างจากลูกชาย ต่างกันแค่ว่าแม่แต้มตายชิดกับกำแพงจมกองเลือด หยางเสี่ยวฟงใช้หลักการแบบหมอภาคสนามตรวจภายในเบื้องต้น อวัยวะภายในแหลกเหลวพอๆกับกระดูกที่ถูกบดขยี้มา แต่ทั้งสามนั้นยังไม่พบร่างของแม่จำปาจนกระทั่ง....

    "ช่วยด้วย"

    เมื่อได้ยินเสียงของแม่จำปานั้นแท็กที่อาเจียนเสร็จ ไม่รอช้ารีบวิ่งไปที่หลังบ้านซึ่งเป็นห้องกินข้าว เขาพบร่างของแม่จำปานอนแพร่กลางห้อง และมีตะปูขนาดปานกลางเสียบทะลุฝ่ามือของเธอ ให้ยึดกับพื้นไว้ที่สำคัญการที่ผู้บุกรุกนั้น ปล่อยให้เธอมีลมหายใจนั้นมันบ่งบอกว่า เจตนาต้องการให้มีคนมาพบเธอก่อนที่จะขาดใจตายเอง แท็กทำการดึงตะปูที่เสียบมือของแม่จำปาออกมา ก่อนจะทำการอุ้มร่างที่บาดเจ็บสาหัสขึ้นมา

    "เทพ โทรเรียกรถพยาบาลกับรถตำรวจ เร็ว !" หยางเสี่ยวฟงหันไปสั่งการกับอภิชัย ส่วนแท็กนั้นพยายามที่จะห้ามเลือดที่ไหลช่วงท้อง แต่แม้จะทำแบบนั้นหยางเสี่ยวฟงรับรู้ได้ว่า แม่จำปาเสียเลือดมากเกินไปซึ่งกว่าความช่วยเหลือจะมา เขาก็ไม่แน่ใจว่าแม่จำปาจะรอดถึงตอนนั้นไหม

    "ชะ ชะ ช่วย...." แม่จำปาเหมือนพยายามจะบอกอะไรบางอย่าง

    "น้าจะพูดอะไรนะ" แท็กถามด้วยความสงสัยเพราะเขาได้ยินไม่ชัด แม่จำปาดึงหูของแท็กให้เธอสามารถกระซิบบอกอะไรบางอย่าง เมื่อเธอกระซิบบอกแท็กเสร็จ ก็สิ้นใจในอ้อมอกของแท็กแล้ว

    ระหว่างที่ทั้งสามมัวช็อคกับภาพที่แม่จำปาสิ้นใจนั้น จู่ๆก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงมาจากข้างหลัง ทั้งสามหันไปทางนั้นเพื่อเตรียมรับมือแต่ก็ต้องปวดหัว ชนิดที่หยางเสี่ยวฟงนั้นอดคิดไม่ได้ว่า "อะไรมันจะซวยขนาดนี้" เพราะเจ้าของจิตสังหารนั้นคือนายบึ๊ก ที่ไม่ใช่แค่แผ่จิตสังหาร แต่สีหน้าของเจ้าตัวยังบ่งบอกถึงความตกใจที่เห็นร่างอันไร้วิญญาณของแม่เขาเอง

                                  

                                     

                                                            +++++++++++++++++++++++++++++                                               

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา