นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
-
46) ตอนที่ 46 ใจสลาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสถานีตำรวจกลาง เวลา 23.35 น.
"ตอนนี้พวกเขาให้ปากคำรึยัง" ผู้กำกับทอมถามขึ้น
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเมื่อจ่าเข้มเห็น นายบึ๊กเริ่มมีท่าทางที่เป็นภัยคุกคามต่อพลเรือน ตำรวจหนุ่มก็รีบบุกเข้าไปช่วยโดยไม่รีรออะไรทั้งสิ้น หลังจากที่นายบึ๊กหายตัวไปนั้นจ่านนท์เรียกกำลังเสริม พร้อมรถพยาบาลเนื่องจากนายสินบาดเจ็บเล็กน้อย และแม่จำปาอยู่ในอาการช็อคอยู่ เมื่อจัดการที่บ้านของนายสินเสร็จแล้ว จ่าเข้มจึงเชิญทั้งครอบครัวมาที่สถานนีเพื่อสอบปากคำ เพิ่มเติมเพื่อจะวางแผนปฏิบัติการขั้นต่อไป
"ตอนนี้นายสินกำลังให้ปากคำกับหมวดฮันโดอยู่ครับ" จ่าผลรายงาน
"ต้องขอบคุณจ่าเข้มกับจ่านนท์ที่เข้าไปช่วยพลเรือนทันเวลา ไม่งั้นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" ผู้กำกับทอมกล่าวชื่นชมทั้งสองนาย ในขณะที่หมวดวิทาลิสนั้นแสดงท่าทางหมั่นไส้จ่าเข้มและจ่านนท์ แต่ต้องลับหลังผู้กำกับทอม
ณ ที่ห้องปากคำซึ่งหมวดฮันโดใช้สอบปากคำกับนายสินอยู่ ที่มือซ้ายของนายสินนั้นมีผ้าพันแผลพันไว้อยู่ เหตุเกิดจากการตอนที่เขานั้นเอาตัวปืนกัน การทำร้ายของนายบึ๊กเอาไว้แม้จะไม่บาดเจ็บอะไรมาก แต่ก็ทำให้เลือดตกยางออกอยู่ดีซึ่งจากการ สอบปากคำที่หมวดฮันโดได้มาคือ นายสินเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ตอนนายบึ๊กไปอยู่เมืองหลวง แล้วก่อเรื่องจนขึ้นโรงขึ้นศาลทำให้นายสินไปพาตัวนายบึ๊กกลับมาช่วยงานที่บ้าน เพื่อจะคุมพฤติกรรมของลูกชายให้อยู่ในสายตาของตน แต่แล้วนายบึ๊กยังกระทำแบบเดิมซ้ำด้วยการ พาพรรคพวกไปรุมข่มขืน เนเน่ ลูกสาวเพียงคนเดียวของแม่ติ่ม ตรงกับวันเดียวที่นายบึ๊กถูกฆ่าตายกลางตลาด
และนายสินยังเล่าต่ออีกว่าหลังจากที่ข่าวมธุสรนั้นแพร่กระจาย ออกไปนั้นแม่ติ่มก็ปลุกกระแสพากันแบนครอบครัวของตน ไม่ให้ใครมาคบค้าสมาคมด้วย ซึ่งมันกระทบกับกิจการค้าขายของนายสินอย่างมาก ด้วยความที่สงสารทั้งภรรยาและแม่จึงคิดเก็บเงิน จำนวนหนึ่งเพื่อย้ายบ้านออกไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่น ทั้งที่ใจจริงนั้นทั้งนายสินและแม่แต้มผูกพันกับบ้านหลังนี้มาก หมวดฮันโดที่ได้ฟังแล้วยังอดสงสารไม่ได้เลย
"แล้วคุณสินจะย้ายไปที่ไหนครับ" หมวดฮันโดถาม
"ยังไม่รู้เลยครับเพราะเงินมันยังไม่พอ ตอนแรกที่ปิดร้านเนี่ยก็ตั้งใจแล้วว่าจะคุยเรื่องอย่างจริงจังกับแม่และก็ภรรยา แต่ภรรยาผมก็มาพูดว่าไม่อยากย้ายซึ่งผมเข้าใจว่าเธอคงอยู่ติดที่ แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเหตุผลจริงๆคือเรื่องของบึ๊กลูกชายของผม" นายสินพูดอย่างเหนื่อยใจพร้อมดื่มน้ำเปล่าเข้าไปอึดหนึ่ง
"ผมขอถามคุณสินหน่อยนะครับ วินาทีที่คุณได้เห็นนายบึ๊กตรงหน้าคุณทราบแล้วใช่ไหมว่า..."
"ทราบดีเลยครับแต่ภรรยาผมคงทำใจยอมรับเรื่องนี้ลำบากหน่อย เธอรักลูกคนนี้มากนะครับ" นายสินกล่าว
"ผมเข้าใจครับ... ความรักของแม่มันยิ่งใหญ่นะ" หมวดฮันโดพูด แต่นายสินส่ายหน้า
"ยิ่งใหญ่แต่ไม่มากพอที่จะให้คนบางคนกลับตัวได้"
++++++++++++++++
ห้องสอบสวน 06 เวลา 23.48 น.
สารวัตรภาธรตัดสินใจลงมาสอบปากคำแม่จำปากับแม่แต้ม ด้วยตัวเองซึ่งตลอดที่เขานั่งสอบสวนนั้นมีแค่ แม่แต้มเท่านั้นที่ให้ความร่วมมือ แต่กับแม่จำปานั้นยังนั่งนิ่งไม่ยอมสบตา ซึ่งตำรวจหนุ่มยศใหญ่คาดการณ์ว่าอาจยังช็อคอยู่ และเท่าที่แม่แต้มเล่าให้กับสารวัตรภาธรฟังคือ นายบึ๊กจะถูกเลี้ยงดูโดยแม่แต้มกับแม่จำปา เนื่องจากนายสินต้องไปทำงานค้าขายกว่าจะกลับ ก็ค่ำมืดหรืออาจจะเช้าตรู่เลย นายสินนั้นเป็นพ่อที่ค่อนข้างเข้มงวดกับลูกมาก เวลานายบึ๊กทำผิดนายสินจะลงโทษด้วยการเอาไม้ตี เสมอจนนายบึ๊กนั้นหนีไปอยู่เมืองหลวง
"คุณแต้มเคยบอกว่านายบึ๊กเคยมาหารอบหนึ่งแล้วใช่ไหมครับ" สารวัตรภาธรถาม
"ใช่ค่ะสารวัตร.. ตอนนั้นดิฉันก็ไม่อยากเชื่อแต่ต้องเชื่อแล้วละค่ะ" แม่แต้มตอบ
"ตอนที่นายบึ๊กมาหา เขาได้พูดอะไรไหมครับ" แม่แต้มมีท่าทีลังเลที่จะตอบเล็กน้อย
"ลูกบอกแค่ว่าจะไม่มีใครมาทำอะไรคนในบ้านได้อีก แต่ไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรต่อ" คนที่ตอบคือแม่จำปาที่แม้จะยอมให้ความร่วมมือแล้วแต่เสียงกับมือไม้ยังคงสั่นอยู่ แม่แต้มจึงได้แต่ลูบไหล่ลูกสะใภ้เพื่อปลอบขวัญเธอ
ภาพที่นายบึ๊กได้แสดงท่าทางคุกคามสามีของเธอ และยังขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้านั้นยังติดตา ของเธออยู่ตอนนี้เหมือนหนังที่ฉายวนไปวนมา ภาพเด็กชายที่แม่จำปาเคยอุ้มชู เลี้ยงด้วยความรักและทะนุถนอมมาตลอด บัดนี้ได้หายลับไปกับฝุ่นแล้วหรือจะเป็นอย่างที่นายสินบอก แม้ว่านายบึ๊กจะมีชีวิตใหม่ก็ไม่ใช่ลูกชายของทั้งสองอีกต่อไป น้ำตาก็ไหลอาบแก้มหญิงสาวทันทีพร้อมกับดวงใจที่แหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี สารวัตรภาธรเห็นดังนั้นจึงคิดว่าควรยุติการสอบสวน
"ขอบคุณที่สละเวลาให้ปากคำนะครับ" สารวัตรภาธรกล่าวพร้อมกับลุกจากเก้าอี้และเดินออกจากห้องทันที
สารวัตรภาธรเดินมาที่ห้องประชุมทีมของเขาอีกครั้ง ซึ่งผู้กำกับทอมกำลังนั่งฟังผลสรุปของการสอบปากคำ ของพยานซึ่งก็คือครอบครัวของนายสิน โดยร่วมแล้วยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่นักแต่ หมวดฮันโดปักใจเชื่อว่านายบึ๊กจะกลับมาหาแม่กับย่า แน่นอนซึ่งจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีการคุ้มกันที่แน่นหนา และต้องคอยดูตลอด 24 ชั่วโมง
"ผมขอคัดค้านหน่อย" หมวดวิทาลิสพูดขึ้น
"ว่ามาเลย" ผู้กำกับทอมอนุญาต
"ตำรวจที่มีทักษะในการสู้กับอันเดธในกรมเรามีน้อยมาก แล้วไหนจะครอบครัวอื่นที่ทางพวกเราต้องตรวจสอบอีก ผมเกรงว่ามันอาจไม่เพียงพอ"
"ออ ถ้าเป็นเรื่องนั้นผมได้เตรียมกองหนุนที่ถูกฝึกให้รับมือกับอันเดธโดยเฉพาะ ซึ่งจะรับคำสั่งโดยตรงกับผู้กำกับและสารวัตรเท่านั้นครับ" คำตอบของหมวดฮันโดทำให้หมวดวิทาลิสนั้นถึงกับขมวดคิ้วเลยทีเดียว
"คุณเอาเวลาที่ไหนไปฝึกกองหนุนที่ว่าเนี่ย"
"คำถามนั้นผมไม่จำเป็นต้องรายงานคุณ หมวดวิทาลิส"
"พอได้แล้ว" ผู้กำกับทอม
ผู้กำกับทอมตัดสินใจออกคำสั่งเพื่อยุติสงครามน้ำลาย และจ่าเข้มดูสะใจที่หมวดวิทาลิสโดนหักหน้า จ่านนท์เตือนให้คู่หูนั้นเก็บอาการลงหน่อย ส่วนสารวัตรภาธรนั้นยอมรับความสามารถของหมวดฮันโด ที่ใช้เวลาไม่ถึงปีในการขัดเกลาตำรวจให้มีประสิทธิภาพในการปราบอันเดธ แต่ทำไมถึงไม่ยอมบอกพวกเขาทั้งหมดกลับมาเฉลยเอาตอนนี้ สารวัตรหนุ่มรู้ดีว่าหมวดฮันโดไม่ใช่คนไร้เหตุผล และเขาต้องรู้เหตุผลนั้นให้ได้
"งั้นสรุปเอาตามที่หมวดฮันโดบอกนะ ผมให้คุณจัดการเรื่องคุ้มกันครอบครัวนี้นะ...เลิกประชุม"
แม้ว่าทุกคนจะเริ่มแยกย้ายกันไปกลับมีเพียงหมวดวิทาลิส ที่ยังนั่งแสดงสีหน้าเคร่งเครียดและเจ็บใจอยู่ตรงนั้น
++++++++++++++++++++++++++
"ตอนนี้พวกเขาให้ปากคำรึยัง" ผู้กำกับทอมถามขึ้น
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเมื่อจ่าเข้มเห็น นายบึ๊กเริ่มมีท่าทางที่เป็นภัยคุกคามต่อพลเรือน ตำรวจหนุ่มก็รีบบุกเข้าไปช่วยโดยไม่รีรออะไรทั้งสิ้น หลังจากที่นายบึ๊กหายตัวไปนั้นจ่านนท์เรียกกำลังเสริม พร้อมรถพยาบาลเนื่องจากนายสินบาดเจ็บเล็กน้อย และแม่จำปาอยู่ในอาการช็อคอยู่ เมื่อจัดการที่บ้านของนายสินเสร็จแล้ว จ่าเข้มจึงเชิญทั้งครอบครัวมาที่สถานนีเพื่อสอบปากคำ เพิ่มเติมเพื่อจะวางแผนปฏิบัติการขั้นต่อไป
"ตอนนี้นายสินกำลังให้ปากคำกับหมวดฮันโดอยู่ครับ" จ่าผลรายงาน
"ต้องขอบคุณจ่าเข้มกับจ่านนท์ที่เข้าไปช่วยพลเรือนทันเวลา ไม่งั้นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" ผู้กำกับทอมกล่าวชื่นชมทั้งสองนาย ในขณะที่หมวดวิทาลิสนั้นแสดงท่าทางหมั่นไส้จ่าเข้มและจ่านนท์ แต่ต้องลับหลังผู้กำกับทอม
ณ ที่ห้องปากคำซึ่งหมวดฮันโดใช้สอบปากคำกับนายสินอยู่ ที่มือซ้ายของนายสินนั้นมีผ้าพันแผลพันไว้อยู่ เหตุเกิดจากการตอนที่เขานั้นเอาตัวปืนกัน การทำร้ายของนายบึ๊กเอาไว้แม้จะไม่บาดเจ็บอะไรมาก แต่ก็ทำให้เลือดตกยางออกอยู่ดีซึ่งจากการ สอบปากคำที่หมวดฮันโดได้มาคือ นายสินเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ตอนนายบึ๊กไปอยู่เมืองหลวง แล้วก่อเรื่องจนขึ้นโรงขึ้นศาลทำให้นายสินไปพาตัวนายบึ๊กกลับมาช่วยงานที่บ้าน เพื่อจะคุมพฤติกรรมของลูกชายให้อยู่ในสายตาของตน แต่แล้วนายบึ๊กยังกระทำแบบเดิมซ้ำด้วยการ พาพรรคพวกไปรุมข่มขืน เนเน่ ลูกสาวเพียงคนเดียวของแม่ติ่ม ตรงกับวันเดียวที่นายบึ๊กถูกฆ่าตายกลางตลาด
และนายสินยังเล่าต่ออีกว่าหลังจากที่ข่าวมธุสรนั้นแพร่กระจาย ออกไปนั้นแม่ติ่มก็ปลุกกระแสพากันแบนครอบครัวของตน ไม่ให้ใครมาคบค้าสมาคมด้วย ซึ่งมันกระทบกับกิจการค้าขายของนายสินอย่างมาก ด้วยความที่สงสารทั้งภรรยาและแม่จึงคิดเก็บเงิน จำนวนหนึ่งเพื่อย้ายบ้านออกไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่น ทั้งที่ใจจริงนั้นทั้งนายสินและแม่แต้มผูกพันกับบ้านหลังนี้มาก หมวดฮันโดที่ได้ฟังแล้วยังอดสงสารไม่ได้เลย
"แล้วคุณสินจะย้ายไปที่ไหนครับ" หมวดฮันโดถาม
"ยังไม่รู้เลยครับเพราะเงินมันยังไม่พอ ตอนแรกที่ปิดร้านเนี่ยก็ตั้งใจแล้วว่าจะคุยเรื่องอย่างจริงจังกับแม่และก็ภรรยา แต่ภรรยาผมก็มาพูดว่าไม่อยากย้ายซึ่งผมเข้าใจว่าเธอคงอยู่ติดที่ แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเหตุผลจริงๆคือเรื่องของบึ๊กลูกชายของผม" นายสินพูดอย่างเหนื่อยใจพร้อมดื่มน้ำเปล่าเข้าไปอึดหนึ่ง
"ผมขอถามคุณสินหน่อยนะครับ วินาทีที่คุณได้เห็นนายบึ๊กตรงหน้าคุณทราบแล้วใช่ไหมว่า..."
"ทราบดีเลยครับแต่ภรรยาผมคงทำใจยอมรับเรื่องนี้ลำบากหน่อย เธอรักลูกคนนี้มากนะครับ" นายสินกล่าว
"ผมเข้าใจครับ... ความรักของแม่มันยิ่งใหญ่นะ" หมวดฮันโดพูด แต่นายสินส่ายหน้า
"ยิ่งใหญ่แต่ไม่มากพอที่จะให้คนบางคนกลับตัวได้"
++++++++++++++++
ห้องสอบสวน 06 เวลา 23.48 น.
สารวัตรภาธรตัดสินใจลงมาสอบปากคำแม่จำปากับแม่แต้ม ด้วยตัวเองซึ่งตลอดที่เขานั่งสอบสวนนั้นมีแค่ แม่แต้มเท่านั้นที่ให้ความร่วมมือ แต่กับแม่จำปานั้นยังนั่งนิ่งไม่ยอมสบตา ซึ่งตำรวจหนุ่มยศใหญ่คาดการณ์ว่าอาจยังช็อคอยู่ และเท่าที่แม่แต้มเล่าให้กับสารวัตรภาธรฟังคือ นายบึ๊กจะถูกเลี้ยงดูโดยแม่แต้มกับแม่จำปา เนื่องจากนายสินต้องไปทำงานค้าขายกว่าจะกลับ ก็ค่ำมืดหรืออาจจะเช้าตรู่เลย นายสินนั้นเป็นพ่อที่ค่อนข้างเข้มงวดกับลูกมาก เวลานายบึ๊กทำผิดนายสินจะลงโทษด้วยการเอาไม้ตี เสมอจนนายบึ๊กนั้นหนีไปอยู่เมืองหลวง
"คุณแต้มเคยบอกว่านายบึ๊กเคยมาหารอบหนึ่งแล้วใช่ไหมครับ" สารวัตรภาธรถาม
"ใช่ค่ะสารวัตร.. ตอนนั้นดิฉันก็ไม่อยากเชื่อแต่ต้องเชื่อแล้วละค่ะ" แม่แต้มตอบ
"ตอนที่นายบึ๊กมาหา เขาได้พูดอะไรไหมครับ" แม่แต้มมีท่าทีลังเลที่จะตอบเล็กน้อย
"ลูกบอกแค่ว่าจะไม่มีใครมาทำอะไรคนในบ้านได้อีก แต่ไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรต่อ" คนที่ตอบคือแม่จำปาที่แม้จะยอมให้ความร่วมมือแล้วแต่เสียงกับมือไม้ยังคงสั่นอยู่ แม่แต้มจึงได้แต่ลูบไหล่ลูกสะใภ้เพื่อปลอบขวัญเธอ
ภาพที่นายบึ๊กได้แสดงท่าทางคุกคามสามีของเธอ และยังขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้านั้นยังติดตา ของเธออยู่ตอนนี้เหมือนหนังที่ฉายวนไปวนมา ภาพเด็กชายที่แม่จำปาเคยอุ้มชู เลี้ยงด้วยความรักและทะนุถนอมมาตลอด บัดนี้ได้หายลับไปกับฝุ่นแล้วหรือจะเป็นอย่างที่นายสินบอก แม้ว่านายบึ๊กจะมีชีวิตใหม่ก็ไม่ใช่ลูกชายของทั้งสองอีกต่อไป น้ำตาก็ไหลอาบแก้มหญิงสาวทันทีพร้อมกับดวงใจที่แหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี สารวัตรภาธรเห็นดังนั้นจึงคิดว่าควรยุติการสอบสวน
"ขอบคุณที่สละเวลาให้ปากคำนะครับ" สารวัตรภาธรกล่าวพร้อมกับลุกจากเก้าอี้และเดินออกจากห้องทันที
สารวัตรภาธรเดินมาที่ห้องประชุมทีมของเขาอีกครั้ง ซึ่งผู้กำกับทอมกำลังนั่งฟังผลสรุปของการสอบปากคำ ของพยานซึ่งก็คือครอบครัวของนายสิน โดยร่วมแล้วยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่นักแต่ หมวดฮันโดปักใจเชื่อว่านายบึ๊กจะกลับมาหาแม่กับย่า แน่นอนซึ่งจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีการคุ้มกันที่แน่นหนา และต้องคอยดูตลอด 24 ชั่วโมง
"ผมขอคัดค้านหน่อย" หมวดวิทาลิสพูดขึ้น
"ว่ามาเลย" ผู้กำกับทอมอนุญาต
"ตำรวจที่มีทักษะในการสู้กับอันเดธในกรมเรามีน้อยมาก แล้วไหนจะครอบครัวอื่นที่ทางพวกเราต้องตรวจสอบอีก ผมเกรงว่ามันอาจไม่เพียงพอ"
"ออ ถ้าเป็นเรื่องนั้นผมได้เตรียมกองหนุนที่ถูกฝึกให้รับมือกับอันเดธโดยเฉพาะ ซึ่งจะรับคำสั่งโดยตรงกับผู้กำกับและสารวัตรเท่านั้นครับ" คำตอบของหมวดฮันโดทำให้หมวดวิทาลิสนั้นถึงกับขมวดคิ้วเลยทีเดียว
"คุณเอาเวลาที่ไหนไปฝึกกองหนุนที่ว่าเนี่ย"
"คำถามนั้นผมไม่จำเป็นต้องรายงานคุณ หมวดวิทาลิส"
"พอได้แล้ว" ผู้กำกับทอม
ผู้กำกับทอมตัดสินใจออกคำสั่งเพื่อยุติสงครามน้ำลาย และจ่าเข้มดูสะใจที่หมวดวิทาลิสโดนหักหน้า จ่านนท์เตือนให้คู่หูนั้นเก็บอาการลงหน่อย ส่วนสารวัตรภาธรนั้นยอมรับความสามารถของหมวดฮันโด ที่ใช้เวลาไม่ถึงปีในการขัดเกลาตำรวจให้มีประสิทธิภาพในการปราบอันเดธ แต่ทำไมถึงไม่ยอมบอกพวกเขาทั้งหมดกลับมาเฉลยเอาตอนนี้ สารวัตรหนุ่มรู้ดีว่าหมวดฮันโดไม่ใช่คนไร้เหตุผล และเขาต้องรู้เหตุผลนั้นให้ได้
"งั้นสรุปเอาตามที่หมวดฮันโดบอกนะ ผมให้คุณจัดการเรื่องคุ้มกันครอบครัวนี้นะ...เลิกประชุม"
แม้ว่าทุกคนจะเริ่มแยกย้ายกันไปกลับมีเพียงหมวดวิทาลิส ที่ยังนั่งแสดงสีหน้าเคร่งเครียดและเจ็บใจอยู่ตรงนั้น
++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ