นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
-
42) ตอนที่ 42 สองต่อสอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความโรงยิมมวย เวลา 09.22 น.
แท็กที่หลังจากฝึกหนักโหดกับกิติพงศ์เสร็จ เขาก็พึ่งจะได้พักและอาบน้ำเพื่อชำระเหงื่อ ที่สำคัญคือเขากระหายน้ำมากกว่าความหิว เสียอีก แน่นอนว่ากิติพงศ์ยังบอกกับเขาเลยว่าแค่นี้ยังหอบ ถ้าต้องเจอโปรแกรมโหดของทีมไม่ตายก่อนเหรอ ซึ่งมันเป็นการฝึกเตรียมร่างกายและจิตใจพวกเขาก่อน ไปรบที่สรภูมิของจริงนั้นคือการวิ่งระยะทาง 40 กิโลเมตร นอกจากวิ่งแล้วยังมีอีกแบบคือจะมีรถถังที่ปลดประจำการแล้ว แต่ยังใช้งานได้อยู่ซึ่งหน้าที่ของพวกรุ่นใหม่อย่างเขาคือ เข็นมันในระยะทาง 40 กิโลเมตรเช่นกัน เหมือนดังที่พวกรุ่นพี่ในอดีตเคยทำมาก่อน
ฟังดูแล้วเหมือนจะโอเว่อร์ไปแต่มันดันมีหลักฐานจาก กล้องบันทึกจากโดรนที่คอยบันทึกการฝึกเอาไว้โดยเทปแรก เป็นการฝึกร่วมกันตั้งแต่รุ่นหนึ่งถึงรุ่นสี่ ในกรณีของแท็กนั้นเขาต้องฝึกโปรแกรมนี้ร่วมกับรุ่นสิบสอง รุ่นสิบสาม รุ่นสิบสี่ และรุ่นสิบห้าของเขาเอง แน่นอนว่าสายนักสู้จะไม่ใช่แค่วิ่งตัวเปล่า จะใส่ถ่วงน้ำหนักด้วยและต้องชกลม 10 ครั้งทุกๆ 15 นาที จึงจะทำการวิ่งต่อได้ที่สำคัญจะไม่มีการอู้ด้วย เพราะจะมีครูฝึกจากหน่วยรบพิเศษมาคุมโดยเฉพาะ
ระหว่างที่ต้องนึกถึงภาพที่ต้องฝึกโปรแกรมในอนาคต แล้วประตูทางห้องอาบน้ำมาก็ต้องตกใจเพราะคนที่เดินออกมา คือมธุกรนั้นเองซึ่งแท็กพึ่งจะนึกได้ว่าเธอมาค้างที่นี้ โดยหลังจากเหตุการณ์ที่แท็กพ่ายแพ้ให้กับอันเดธของเดรโก มธุกรก็ไม่ยอมกลับโรงพยาบาลเพราะอยากอยู่กับเขา สุดท้ายแล้วคนที่ใจอ่อนก็คงไม่พ้นแท็กที่อ้อนวอน ขอให้หมอณัฐฐาอนุญาตให้มธุกรอยู่ที่นี้ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอยากให้เธอกลับไปมากกว่า
"อาว ผึ้งตื่นแล้วเหรอ กินอะไรมารึยัง" แท็กชวนพูดอย่างยากลำบากนิดๆ เพราะมธุกรในสภาพที่เปียกละออน้ำจากการอาบน้ำ มันช่างดูมีเสน่ห์น่าหลงไหลชะจน เขาแทบละสายตาไม่ได้แต่แท็กต้องพยายามควบคุมตนเอง ทุกวิถีทางไม่ให้มีหลุดออกมาแม้ว่าจะมีหลุดออกมาบ้างก็ตาม
"อืม ฉันเพิ่งตื่นเมื่อกี้นี่เองนะ ตอนนี้ก็เริ่มหิวนิดหนึ่งแล้วละ" มธุกรตอบพร้อมกับยิ้มหวานออกมา หัวใจของแท็กเต้นไม่เป็นจังหวะทันที
"ได้สิ...ว่าแต่คนอื่นๆเขาไปได้กันหมดอ่ะ" แท็กหันไปรอบๆยิมพร้อมขมวดคิ้ว
"ไม่รู้เหมือนกันฉันตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอใครเลย เจอแค่เธอคนเดียว" มธุกรตอบแล้วเดินไปให้พัดลมอันหนึ่ง เพื่อเป่าผมของเธอให้แห้งเพื่อแต่งตัว
สำหรับแท็กแล้วแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้อยู่กับ มธุกรสองต่อสองแบบนี้มันก็ยังส่งผลกระทบเขาอยู่ดี และแท็กไม่มั่นใจว่าพวกกิติพงศ์จงใจทำแบบนี้รึเปล่า ตั้งใจให้เขากับมธุกรอยู่กันตามลำพังแบบนี้ มันตั้งใจฆ่าเขาชัดๆยิ่งใกล้ชิดกับมธุรมากเท่าไหร่ แท็กมั่นใจว่าเขาไม่น่าจะสามารถควบคุมตัวเองได้ สถานการณ์แบบนี้ทำให้แท็กเข้าอกเข้าใจ คนที่มีสภาพแบบเขาว่าพยายามที่จะควบคุม ไม่ให้เสียศูนย์ตนเอง
"แท็กเป็นอะไรรึเปล่า" มธุกรถามขึ้นแต่ประเด็นคือ เธอเล่นยื่นหน้าแทบจะชิดกับหน้าของแท็ก ซึ่งจริงๆแล้วเธอแค่อยากวัดอุณหภูมิว่าแท็กไม่สบายรึเปล่า แต่ฝ่ายเขาหัวใจมันหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเรียบร้อยแล้ว และที่สติแทบหลุดเลยคือถ้ามธุกรเข้ามาใกล้ อีกนิดเดียวละก็ปากเธอกับปากของเขาจะชนกันแน่นอน
"ฉะ ฉะ ฉันไม่เป็นไรหรอก ไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ" แท็กพูดพร้อมกับดันตัวของมธุกรออกห่างเขาเล็กน้อย ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา
"แท็ก ฉันถามจริงๆเถอะ เธอไม่รังเกียจฉันเลยเหรอ" คำพูดของมธุกรดึงสติของแท็กกลับมา เมื่อได้สบตากันแท็กพบว่าสายตาของมธุกรมีแต่ความเศร้าและเจ็บปวดเกินบรรยายได้
"ผึ้ง ทำไมถามแบบนี้ละ....เธอไม่เชื่อใจฉันสินะ"
"ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจนะ แต่...มันอดคิดไม่ได้จริงๆนี่ ฉันไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์แล้วนะ เป็นผู้หญิงสกปรกที่ผ่านมือผู้ชายมาแล้ว แถมยังมีแม่เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่สังคมตีตราต่อต้าน ฉันยังไม่แน่ใจเลยว่าถ้าแม่กับฉันได้ออกไปจากโรงพยาบาลนี้ จะเป็นยังไงต่อ...ฉันกลัวไปหมดเลยแท็ก"
คำพูดของมธุกรทำให้แท็กนั้นพุ่งเข้าไปโผกอด เด็กสาวในทันทีเพื่อปลอบขวัญเธอในใจนึกด่าทอตัวเอง ที่มัวแต่สนใจพวกอันเดธเหล่านั้นจนหลงลืม นึกถึงจิตใจของมธุกรที่ต้อบบอบช้ำมากแค่ไหน และนี้ทำให้เขาลองเชื่อมจิตกับมธุกรอีกครั้ง แท็กก็รับรู้ถึงความวิตกกังวลของมธุกรได้ทันที เธอไม่ใช่แค่กลัวว่าเขาจะรังเกียจเท่านั้นแต่เป็นสายตาของ คนในสังคมแห่งนี้จะมองเธอยังไงต่างหาก ในกรณีสายป่านลูกพี่ลูกน้องของเขา แท็กมั่นใจว่าเธอไม่มีทางรังเกียจเพื่อนรักคนนี้
แต่กับสังคมภายนอกแท็กก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ ยิ่งคนมันมีหลายหลากรูปแบบและตรรกะความคิด ย่อมแตกต่างกันซึ่งสิ่งที่แท็กกังวลคือสองแม่ลูกอาจโดนสังคมแบน นั้นอาจเป็นปัญหาสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของทั้งคู่ มธุกรที่โดนสวมกอดนั้นเธอก็เอาหน้าซุกที่คอ ของแท็กพร้อมกับร้องไห้ออกมา เธอหวาดกลัวไปหมดกับการออกไปข้างนอก เธอไม่รู้จะรับมือกับสายตาคนรอบข้างมองยังไง และหากคนที่กอดเธออยู่รังเกียจเธอไปด้วยละ มธุกรยอมรับว่าเธอคงรับไม่ไหวทั้งที่จริงแล้ว เธอพึ่งได้แค่แท็กไม่นานเองแต่ไม่รู้ทำไมถึงได้แคร์อีกฝ่ายนัก
"นี่ผึ้ง....ไม่เชื่อใจกันจริงๆสินะ แต่ฉันเข้าใจนะถ้าเป็นฉันคงไม่ต่างกัน" แท็กพูดขึ้นทำเอามธุกรสะดุ้งพร้อมกับมองหน้าเขา ใช่ แท็กรับรู้จากการเชื่อมจิตกัน ทำให้เขารู้ว่ามธุกรกำลังคิดอะไรอยู่ แต่จะโทษเธอก็ไม่ได้เพราะเธอเจอเขาไม่ถึงปีเสียด้วยซ้ำ หากเทียบกับกุลชาติกับสายป่าน หรือเยาวลักษณ์จะให้มาเชื่อใจกันมันคงทำไม่ได้
"ไม่ใช่นะแท็ก คือฉัน...." มธุกรพูดยากลำบากที่โดนพูดแทงใจ
"ไม่เป็นไรหรอกผึ้งไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น.... ฉันหิวแล้วละไปหาอะไรกินกันเถอะ"
เมื่อพูดจบแท็กก็ตัดสินใจลุกเดินออกจากตรงนั้น เพื่อจะออกไปข้างนอกหาอะไรกินเท่านั้น และไม่เหลียวหลังกลับมามองมธุกรที่ มองแผ่นหลังเขาไปอย่างรู้สึกผิด เธออยากจะวิ่งไปกอดเขาแต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่า ขากลับไม่ยอมขยับเลย
+++++++++++++++++++++++++++++++++
แท็กที่หลังจากฝึกหนักโหดกับกิติพงศ์เสร็จ เขาก็พึ่งจะได้พักและอาบน้ำเพื่อชำระเหงื่อ ที่สำคัญคือเขากระหายน้ำมากกว่าความหิว เสียอีก แน่นอนว่ากิติพงศ์ยังบอกกับเขาเลยว่าแค่นี้ยังหอบ ถ้าต้องเจอโปรแกรมโหดของทีมไม่ตายก่อนเหรอ ซึ่งมันเป็นการฝึกเตรียมร่างกายและจิตใจพวกเขาก่อน ไปรบที่สรภูมิของจริงนั้นคือการวิ่งระยะทาง 40 กิโลเมตร นอกจากวิ่งแล้วยังมีอีกแบบคือจะมีรถถังที่ปลดประจำการแล้ว แต่ยังใช้งานได้อยู่ซึ่งหน้าที่ของพวกรุ่นใหม่อย่างเขาคือ เข็นมันในระยะทาง 40 กิโลเมตรเช่นกัน เหมือนดังที่พวกรุ่นพี่ในอดีตเคยทำมาก่อน
ฟังดูแล้วเหมือนจะโอเว่อร์ไปแต่มันดันมีหลักฐานจาก กล้องบันทึกจากโดรนที่คอยบันทึกการฝึกเอาไว้โดยเทปแรก เป็นการฝึกร่วมกันตั้งแต่รุ่นหนึ่งถึงรุ่นสี่ ในกรณีของแท็กนั้นเขาต้องฝึกโปรแกรมนี้ร่วมกับรุ่นสิบสอง รุ่นสิบสาม รุ่นสิบสี่ และรุ่นสิบห้าของเขาเอง แน่นอนว่าสายนักสู้จะไม่ใช่แค่วิ่งตัวเปล่า จะใส่ถ่วงน้ำหนักด้วยและต้องชกลม 10 ครั้งทุกๆ 15 นาที จึงจะทำการวิ่งต่อได้ที่สำคัญจะไม่มีการอู้ด้วย เพราะจะมีครูฝึกจากหน่วยรบพิเศษมาคุมโดยเฉพาะ
ระหว่างที่ต้องนึกถึงภาพที่ต้องฝึกโปรแกรมในอนาคต แล้วประตูทางห้องอาบน้ำมาก็ต้องตกใจเพราะคนที่เดินออกมา คือมธุกรนั้นเองซึ่งแท็กพึ่งจะนึกได้ว่าเธอมาค้างที่นี้ โดยหลังจากเหตุการณ์ที่แท็กพ่ายแพ้ให้กับอันเดธของเดรโก มธุกรก็ไม่ยอมกลับโรงพยาบาลเพราะอยากอยู่กับเขา สุดท้ายแล้วคนที่ใจอ่อนก็คงไม่พ้นแท็กที่อ้อนวอน ขอให้หมอณัฐฐาอนุญาตให้มธุกรอยู่ที่นี้ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอยากให้เธอกลับไปมากกว่า
"อาว ผึ้งตื่นแล้วเหรอ กินอะไรมารึยัง" แท็กชวนพูดอย่างยากลำบากนิดๆ เพราะมธุกรในสภาพที่เปียกละออน้ำจากการอาบน้ำ มันช่างดูมีเสน่ห์น่าหลงไหลชะจน เขาแทบละสายตาไม่ได้แต่แท็กต้องพยายามควบคุมตนเอง ทุกวิถีทางไม่ให้มีหลุดออกมาแม้ว่าจะมีหลุดออกมาบ้างก็ตาม
"อืม ฉันเพิ่งตื่นเมื่อกี้นี่เองนะ ตอนนี้ก็เริ่มหิวนิดหนึ่งแล้วละ" มธุกรตอบพร้อมกับยิ้มหวานออกมา หัวใจของแท็กเต้นไม่เป็นจังหวะทันที
"ได้สิ...ว่าแต่คนอื่นๆเขาไปได้กันหมดอ่ะ" แท็กหันไปรอบๆยิมพร้อมขมวดคิ้ว
"ไม่รู้เหมือนกันฉันตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอใครเลย เจอแค่เธอคนเดียว" มธุกรตอบแล้วเดินไปให้พัดลมอันหนึ่ง เพื่อเป่าผมของเธอให้แห้งเพื่อแต่งตัว
สำหรับแท็กแล้วแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้อยู่กับ มธุกรสองต่อสองแบบนี้มันก็ยังส่งผลกระทบเขาอยู่ดี และแท็กไม่มั่นใจว่าพวกกิติพงศ์จงใจทำแบบนี้รึเปล่า ตั้งใจให้เขากับมธุกรอยู่กันตามลำพังแบบนี้ มันตั้งใจฆ่าเขาชัดๆยิ่งใกล้ชิดกับมธุรมากเท่าไหร่ แท็กมั่นใจว่าเขาไม่น่าจะสามารถควบคุมตัวเองได้ สถานการณ์แบบนี้ทำให้แท็กเข้าอกเข้าใจ คนที่มีสภาพแบบเขาว่าพยายามที่จะควบคุม ไม่ให้เสียศูนย์ตนเอง
"แท็กเป็นอะไรรึเปล่า" มธุกรถามขึ้นแต่ประเด็นคือ เธอเล่นยื่นหน้าแทบจะชิดกับหน้าของแท็ก ซึ่งจริงๆแล้วเธอแค่อยากวัดอุณหภูมิว่าแท็กไม่สบายรึเปล่า แต่ฝ่ายเขาหัวใจมันหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเรียบร้อยแล้ว และที่สติแทบหลุดเลยคือถ้ามธุกรเข้ามาใกล้ อีกนิดเดียวละก็ปากเธอกับปากของเขาจะชนกันแน่นอน
"ฉะ ฉะ ฉันไม่เป็นไรหรอก ไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ" แท็กพูดพร้อมกับดันตัวของมธุกรออกห่างเขาเล็กน้อย ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา
"แท็ก ฉันถามจริงๆเถอะ เธอไม่รังเกียจฉันเลยเหรอ" คำพูดของมธุกรดึงสติของแท็กกลับมา เมื่อได้สบตากันแท็กพบว่าสายตาของมธุกรมีแต่ความเศร้าและเจ็บปวดเกินบรรยายได้
"ผึ้ง ทำไมถามแบบนี้ละ....เธอไม่เชื่อใจฉันสินะ"
"ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจนะ แต่...มันอดคิดไม่ได้จริงๆนี่ ฉันไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์แล้วนะ เป็นผู้หญิงสกปรกที่ผ่านมือผู้ชายมาแล้ว แถมยังมีแม่เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่สังคมตีตราต่อต้าน ฉันยังไม่แน่ใจเลยว่าถ้าแม่กับฉันได้ออกไปจากโรงพยาบาลนี้ จะเป็นยังไงต่อ...ฉันกลัวไปหมดเลยแท็ก"
คำพูดของมธุกรทำให้แท็กนั้นพุ่งเข้าไปโผกอด เด็กสาวในทันทีเพื่อปลอบขวัญเธอในใจนึกด่าทอตัวเอง ที่มัวแต่สนใจพวกอันเดธเหล่านั้นจนหลงลืม นึกถึงจิตใจของมธุกรที่ต้อบบอบช้ำมากแค่ไหน และนี้ทำให้เขาลองเชื่อมจิตกับมธุกรอีกครั้ง แท็กก็รับรู้ถึงความวิตกกังวลของมธุกรได้ทันที เธอไม่ใช่แค่กลัวว่าเขาจะรังเกียจเท่านั้นแต่เป็นสายตาของ คนในสังคมแห่งนี้จะมองเธอยังไงต่างหาก ในกรณีสายป่านลูกพี่ลูกน้องของเขา แท็กมั่นใจว่าเธอไม่มีทางรังเกียจเพื่อนรักคนนี้
แต่กับสังคมภายนอกแท็กก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ ยิ่งคนมันมีหลายหลากรูปแบบและตรรกะความคิด ย่อมแตกต่างกันซึ่งสิ่งที่แท็กกังวลคือสองแม่ลูกอาจโดนสังคมแบน นั้นอาจเป็นปัญหาสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของทั้งคู่ มธุกรที่โดนสวมกอดนั้นเธอก็เอาหน้าซุกที่คอ ของแท็กพร้อมกับร้องไห้ออกมา เธอหวาดกลัวไปหมดกับการออกไปข้างนอก เธอไม่รู้จะรับมือกับสายตาคนรอบข้างมองยังไง และหากคนที่กอดเธออยู่รังเกียจเธอไปด้วยละ มธุกรยอมรับว่าเธอคงรับไม่ไหวทั้งที่จริงแล้ว เธอพึ่งได้แค่แท็กไม่นานเองแต่ไม่รู้ทำไมถึงได้แคร์อีกฝ่ายนัก
"นี่ผึ้ง....ไม่เชื่อใจกันจริงๆสินะ แต่ฉันเข้าใจนะถ้าเป็นฉันคงไม่ต่างกัน" แท็กพูดขึ้นทำเอามธุกรสะดุ้งพร้อมกับมองหน้าเขา ใช่ แท็กรับรู้จากการเชื่อมจิตกัน ทำให้เขารู้ว่ามธุกรกำลังคิดอะไรอยู่ แต่จะโทษเธอก็ไม่ได้เพราะเธอเจอเขาไม่ถึงปีเสียด้วยซ้ำ หากเทียบกับกุลชาติกับสายป่าน หรือเยาวลักษณ์จะให้มาเชื่อใจกันมันคงทำไม่ได้
"ไม่ใช่นะแท็ก คือฉัน...." มธุกรพูดยากลำบากที่โดนพูดแทงใจ
"ไม่เป็นไรหรอกผึ้งไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น.... ฉันหิวแล้วละไปหาอะไรกินกันเถอะ"
เมื่อพูดจบแท็กก็ตัดสินใจลุกเดินออกจากตรงนั้น เพื่อจะออกไปข้างนอกหาอะไรกินเท่านั้น และไม่เหลียวหลังกลับมามองมธุกรที่ มองแผ่นหลังเขาไปอย่างรู้สึกผิด เธออยากจะวิ่งไปกอดเขาแต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่า ขากลับไม่ยอมขยับเลย
+++++++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ