นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์
-
2) ตอนที่ 2 เดินทางออกนอกประเทศ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสนามบินนานาชาติฟรอนร์เทียร์ เวลา 08.17 น.
แท็กลากกระเป๋าเดินทางสีดำเข้ามาในสนามบินโดยมีจ่าสิบเอกสายลม เดินอยู่ข้างๆส่วนข้างหลังปวเรศกับศุภรัศมิ์เดินมาส่งแท็ก ซึ่งกุลชาติกำลังยืนรอที่ตรวจกระเป๋าพอดี หลังจากที่แท็กอาสานำดอกไม้ที่กุลชาติเตรียมไว้นั้น ไปมอบที่หน้าโรงแก้วของพ่อแล้วเมื่อกลับมาบ้าน จ่าสิบเอกสายลมก็ให้แท็กจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เหตุผลคือให้เขาเป็นตัวแทนในนามของปู่ไปพบกับอรุณา ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ประเทศไวด์โร๊ด ในใจแท็กคิดแค่ว่าเลิศล้ำจริงๆที่ส่งเขาไป
นับว่ายังโชคดีหน่อยตรงที่ท่านทูตอากิระอนุญาตให้เดินทาง ออกนอกประเทศได้เพราะว่ายังอยู่ในช่วงพักร้อน และที่สำคัญเพราะคุณงามความดีที่จ่าสิบเอกสายลมเคยทำไว้ มันส่งผลให้แท็กได้รับสิทธิพิเศษในการออกนอกประเทศ แม้ว่าทอมบอยจะไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมปู่ไม่ไปหาพี่สาวตัวเอง ส่งเขาไปเป็นตัวแทนทำไมไม่เข้าใจจริงๆแต่จะถามก็ไม่ได้ ก็ต้องเป็นปริศนาต่อไป
"น้าสายลมไม่ไปจริงๆเหรอครับ แต่คุณแม่อยากพบน้ามากๆเลยนะครับ" กุลชาติพยายามเกลี้ยงกล่อม
"ไม่ละ ข้าไม่อยู่ใครจะดูร้านคุมร้านละ ให้แท็กไปแทนข้านั้นแหละ" จ่าสิบเอกสายลมตอบ
"โยนภาระกันชัดๆ" แท็กพึมพำ
"ปู่จะไม่ฝากข้อความอะไรถึงย่าอรุณาเลยเหรอครับ" แท็กถามขึ้น กุลชาติแอบอมยิ้มในกลยุทธ์เอาตัวรอดของแท็ก ร่วมไปถึงพวกปวเรศด้วย
แท็กก็ต้องลากกระเป๋าตามกุลชาติมาที่ตรวจกระเป๋า ซึ่งเครื่องสแกนจะออกมาเป็นโฮโลแกรม 4 มิติ แยกเป็นส่วนๆเพื่อความละเอียดและป้องกันวินาศกรรมบนเครื่องบิน แท็กกับกุลชาติจำใจต้องเทน้ำเปล่าทิ้งเพราะไม่สามารถนำของเหลวขึ้นเครื่องได้ กุลชาติทำการยื่นตั๋วสีเขียวเข้มให้เจ้าหน้าที่ ทอมบอยเริ่มรู้แล้วว่าปู่กับเพื่อนรักสองคนมาส่งเขาแค่ตรงนี้แล้ว
"กุล ข้าขอคุยกับแท็กได้ไหม" จ่าสิบเอกสายลมพูดขึ้น ทำให้แท็กแปลกใจมาก
"ออ ได้สิครับ" แท็กถูกปู่คว้าตัวออกมาให้ห่างจากกุลชาติซึ่งเขารับรู้ได้ว่า ปู่ของเขาไม่ต้องการให้กุลชาติรู้บทสนทนาที่จะคุยกัน เมื่อมาไกลพอสมควรแล้ว ปู่ก็แสดงสีหน้าที่จริงจังทันทีซึ่งแท็ก ปวเรศ และศุภรัศมิ์รับรู้ได้
"แท็ก ฟังข้าให้ดีเมื่อเท้าเอ็งไปถึงไวด์โร๊ดแล้ว อย่าให้ใครรู้เด็ดขาดว่าเอ็งมาจากฟรอนร์เทียร์ เข้าใจที่ข้าพูดไหม" จ่าสิบเอกสายลมกล่าวอย่างจริงจัง
"รับทราบครับ" แท็กรับคำอย่างว่าง่าย เพราะเขารู้ดีว่านอกถิ่นตัวเองมันค่อนข้างอันตรายพอสมควร
"ดี! ไปได้แล้ว"
แท็กเดินเข้าไปข้างในเพื่อรอขึ้นเครื่องซึ่งแน่นอนว่า พวกจ่าสิบเอกสายลมตามขึ้นไปไม่ได้แล้ว แท็กโบกมือให้กับเพื่อนทั้งสองคนซึ่งเอาจริงๆแล้ว แท็กเคยออกปากชวนแล้วแต่ทั้งสองไม่อยากไป โดยอ้างว่ามันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของแท็ก ดังนั้นเขาต้องไปคนเดียวซึ่งใจหายเหมือนกัน
"เฮ้ย! แท็กไปที่นั้นอย่าก่อเรื่องนะเว้ย" ปวเรศตะโกนตามหลัง ซึ่งแท็กหันมาโชว์นิ้วกลางใส่ทันทีและหันกลับไปเดินต่อ
เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปข้างในตัวสนามบินแล้ว จ่าสิบเอกสายลมก็พาปวเรศกับศุภรัศมิ์พาออกจากสนามบินกัน โดยในขณะเดียวกันก็มีอีกสองบุคคลกำลังเตรียมตัวจะขึ้นเครื่องบินเช่นกัน ซึ่งก็คือ หยางเสี่ยวฟง ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นผู้ชายเต็มตัวไปแล้ว หยางเสี่ยวฟงใส่เสื้อยีนดำแขนสั้นและกางเกงยีนดำ ส่วนอีกบุคคลใส่เสื้อสูทสีดำเสื้อคอปกสีขาวผูกเนคไทสีดำ ทั้งสองกำลังรอเวลาที่จะนั่งเครื่องบินเช่นกัน
"นั้นใช่จ่าสายลมป้าวว่ะ" หยางเสี่ยวฟงถามขึ้น
"ใช่ แปลกใจนะที่กล้าส่งหลานคนเดียวไปกับคนแปลกหน้า" ชายหนุ่มในชุดสูทดำกล่าวขึ้น
หยางเสี่ยวฟงก้มมองเวลาที่คริสตันที่ฝังใต้ผิวหนังเขา คงได้เวลาที่ต้องรีบขึ้นเครื่องแล้วซึ่งไม่ต้องบอกเพื่อนในชุดสูทก็รู้งาน ทั้งสองไม่มีสัมภาระในการเดินทางเลยหากเทียบกับแท็ก เมื่อมาถึงด่านตรวจชายในชุดสูทชูตราหน่วยรบพิเศษ ทำให้ไม่ต้องโดนตรวจเมื่อเทียบกับคนอื่นๆและที่สำคัญจะได้ที่นั่งระดับAAอีกด้วย
"นายแน่ใจได้ยังไงว่ามันจะไปที่นั้น" หยางเสี่ยวฟงถามเมื่อเดินมาถึงตัวเครื่องบิน
"ผมแน่ใจเฮียเพราะที่นั้นกำลังร่ำร้องเรียกร้อง "เปลวไฟแห่งต้นกำเนิดความมืด" มันต้องไปที่นั้นแน่นอน" ชายหนุ่มพูดอย่างมั่นใจ
+++++++++++++++++++++++++++++++
แท็กลากกระเป๋าเดินทางสีดำเข้ามาในสนามบินโดยมีจ่าสิบเอกสายลม เดินอยู่ข้างๆส่วนข้างหลังปวเรศกับศุภรัศมิ์เดินมาส่งแท็ก ซึ่งกุลชาติกำลังยืนรอที่ตรวจกระเป๋าพอดี หลังจากที่แท็กอาสานำดอกไม้ที่กุลชาติเตรียมไว้นั้น ไปมอบที่หน้าโรงแก้วของพ่อแล้วเมื่อกลับมาบ้าน จ่าสิบเอกสายลมก็ให้แท็กจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เหตุผลคือให้เขาเป็นตัวแทนในนามของปู่ไปพบกับอรุณา ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ประเทศไวด์โร๊ด ในใจแท็กคิดแค่ว่าเลิศล้ำจริงๆที่ส่งเขาไป
นับว่ายังโชคดีหน่อยตรงที่ท่านทูตอากิระอนุญาตให้เดินทาง ออกนอกประเทศได้เพราะว่ายังอยู่ในช่วงพักร้อน และที่สำคัญเพราะคุณงามความดีที่จ่าสิบเอกสายลมเคยทำไว้ มันส่งผลให้แท็กได้รับสิทธิพิเศษในการออกนอกประเทศ แม้ว่าทอมบอยจะไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมปู่ไม่ไปหาพี่สาวตัวเอง ส่งเขาไปเป็นตัวแทนทำไมไม่เข้าใจจริงๆแต่จะถามก็ไม่ได้ ก็ต้องเป็นปริศนาต่อไป
"น้าสายลมไม่ไปจริงๆเหรอครับ แต่คุณแม่อยากพบน้ามากๆเลยนะครับ" กุลชาติพยายามเกลี้ยงกล่อม
"ไม่ละ ข้าไม่อยู่ใครจะดูร้านคุมร้านละ ให้แท็กไปแทนข้านั้นแหละ" จ่าสิบเอกสายลมตอบ
"โยนภาระกันชัดๆ" แท็กพึมพำ
"ปู่จะไม่ฝากข้อความอะไรถึงย่าอรุณาเลยเหรอครับ" แท็กถามขึ้น กุลชาติแอบอมยิ้มในกลยุทธ์เอาตัวรอดของแท็ก ร่วมไปถึงพวกปวเรศด้วย
แท็กก็ต้องลากกระเป๋าตามกุลชาติมาที่ตรวจกระเป๋า ซึ่งเครื่องสแกนจะออกมาเป็นโฮโลแกรม 4 มิติ แยกเป็นส่วนๆเพื่อความละเอียดและป้องกันวินาศกรรมบนเครื่องบิน แท็กกับกุลชาติจำใจต้องเทน้ำเปล่าทิ้งเพราะไม่สามารถนำของเหลวขึ้นเครื่องได้ กุลชาติทำการยื่นตั๋วสีเขียวเข้มให้เจ้าหน้าที่ ทอมบอยเริ่มรู้แล้วว่าปู่กับเพื่อนรักสองคนมาส่งเขาแค่ตรงนี้แล้ว
"กุล ข้าขอคุยกับแท็กได้ไหม" จ่าสิบเอกสายลมพูดขึ้น ทำให้แท็กแปลกใจมาก
"ออ ได้สิครับ" แท็กถูกปู่คว้าตัวออกมาให้ห่างจากกุลชาติซึ่งเขารับรู้ได้ว่า ปู่ของเขาไม่ต้องการให้กุลชาติรู้บทสนทนาที่จะคุยกัน เมื่อมาไกลพอสมควรแล้ว ปู่ก็แสดงสีหน้าที่จริงจังทันทีซึ่งแท็ก ปวเรศ และศุภรัศมิ์รับรู้ได้
"แท็ก ฟังข้าให้ดีเมื่อเท้าเอ็งไปถึงไวด์โร๊ดแล้ว อย่าให้ใครรู้เด็ดขาดว่าเอ็งมาจากฟรอนร์เทียร์ เข้าใจที่ข้าพูดไหม" จ่าสิบเอกสายลมกล่าวอย่างจริงจัง
"รับทราบครับ" แท็กรับคำอย่างว่าง่าย เพราะเขารู้ดีว่านอกถิ่นตัวเองมันค่อนข้างอันตรายพอสมควร
"ดี! ไปได้แล้ว"
แท็กเดินเข้าไปข้างในเพื่อรอขึ้นเครื่องซึ่งแน่นอนว่า พวกจ่าสิบเอกสายลมตามขึ้นไปไม่ได้แล้ว แท็กโบกมือให้กับเพื่อนทั้งสองคนซึ่งเอาจริงๆแล้ว แท็กเคยออกปากชวนแล้วแต่ทั้งสองไม่อยากไป โดยอ้างว่ามันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของแท็ก ดังนั้นเขาต้องไปคนเดียวซึ่งใจหายเหมือนกัน
"เฮ้ย! แท็กไปที่นั้นอย่าก่อเรื่องนะเว้ย" ปวเรศตะโกนตามหลัง ซึ่งแท็กหันมาโชว์นิ้วกลางใส่ทันทีและหันกลับไปเดินต่อ
เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปข้างในตัวสนามบินแล้ว จ่าสิบเอกสายลมก็พาปวเรศกับศุภรัศมิ์พาออกจากสนามบินกัน โดยในขณะเดียวกันก็มีอีกสองบุคคลกำลังเตรียมตัวจะขึ้นเครื่องบินเช่นกัน ซึ่งก็คือ หยางเสี่ยวฟง ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นผู้ชายเต็มตัวไปแล้ว หยางเสี่ยวฟงใส่เสื้อยีนดำแขนสั้นและกางเกงยีนดำ ส่วนอีกบุคคลใส่เสื้อสูทสีดำเสื้อคอปกสีขาวผูกเนคไทสีดำ ทั้งสองกำลังรอเวลาที่จะนั่งเครื่องบินเช่นกัน
"นั้นใช่จ่าสายลมป้าวว่ะ" หยางเสี่ยวฟงถามขึ้น
"ใช่ แปลกใจนะที่กล้าส่งหลานคนเดียวไปกับคนแปลกหน้า" ชายหนุ่มในชุดสูทดำกล่าวขึ้น
หยางเสี่ยวฟงก้มมองเวลาที่คริสตันที่ฝังใต้ผิวหนังเขา คงได้เวลาที่ต้องรีบขึ้นเครื่องแล้วซึ่งไม่ต้องบอกเพื่อนในชุดสูทก็รู้งาน ทั้งสองไม่มีสัมภาระในการเดินทางเลยหากเทียบกับแท็ก เมื่อมาถึงด่านตรวจชายในชุดสูทชูตราหน่วยรบพิเศษ ทำให้ไม่ต้องโดนตรวจเมื่อเทียบกับคนอื่นๆและที่สำคัญจะได้ที่นั่งระดับAAอีกด้วย
"นายแน่ใจได้ยังไงว่ามันจะไปที่นั้น" หยางเสี่ยวฟงถามเมื่อเดินมาถึงตัวเครื่องบิน
"ผมแน่ใจเฮียเพราะที่นั้นกำลังร่ำร้องเรียกร้อง "เปลวไฟแห่งต้นกำเนิดความมืด" มันต้องไปที่นั้นแน่นอน" ชายหนุ่มพูดอย่างมั่นใจ
+++++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ