นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์

-

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.18 น.

  88 ตอน
  62 วิจารณ์
  77.03K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) ตอนที่ 19 ถูกจับกุม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ห้องสอบสวน สถานีตำรวจกลาง เวลา 20.25 น.

    "คุณกุลชาติ คุณควรจะบอกผมนะว่าหลาน...สาวของคุณ มาจากฟรอนร์เทียร์" สารวัตรภาธรพูดด้วยความไม่พอใจอย่างมาก ในขณะที่กุลชาติ อรุณา หมอณัฐฐา และเยาวลักษณ์ยืนหน้านิ่งกันอยู่ พวกเขาหันไปมองตรงกระจกซึ่งมันมองเห็นอีกห้องหนึ่ง ที่เป็นห้องสอบสวนและแท็กกำลังนั่งอยู่คนเดียว

    เหตุการณ์ก่อนหน้านี้แท็กถูกจับกุมในฐานะ ผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ที่อันเดธบุกโจมตีโรงพยาบาล ที่นักการเมืองเก่าอย่างสหัสชัยนอนรักษาตัวอยู่ แน่นอนว่าเขาถูกสั่งให้อยู่ในห้องสอบสวนโดยคนที่จะมาสอบปากคำ ซึ่งคงไม่พ้นสารวัตรภาธรนั้นเองแต่ยังไม่ทันที่จะสอบปากคำ ก็มีสองบุคคลปรากฎตัวออกมาชะก่อน นั้นคืออภิชัยกับหยางเสี่ยวฟงซึ่งไม่ได้มามือเปล่า ยังมาพร้อมเอกสารระบุตัวตนว่าแท็กคือยุวชนทหารของฟรอนร์เทียร์ จึงเป็นเหตุที่พวกกุลชาติมาที่พบกับสารวัตรภาธรนั้นเอง

    "ฉันเป็นคนบอกลูกชายเองค่ะ ที่ไม่ให้บอกใครว่าแท็กมาจากไหน ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้สารวัตรไม่พอใจด้วยนะค่ะ" อรุณากล่าวรับผิดแทนกุลชาติ ทำให้สารวัตรภาธรรู้สึกผิดขึ้นมาที่เผลอใช้อารมณ์มากไป สักพักก็มีชายวัยฉกรรจ์ในเครื่องแบบตำรวจเดินมา เป็นชายร่างสูงกำยำกว่าสารวัตรภาธร ตำรวจชั้นผู้น้อยทำความเคารพต่อชายคนนั้น ร่วมทั้งตัวของสารวัตรภาธรด้วย

    "ทุกคนครับนี้คือผู้กำกับ ทอม ฮันต์ เขาเป็นหัวหน้าของผมนะครับ" สารวัตรภาธรกล่าวแนะนำให้ทุกคนรู้จัก     

    "ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ภาธรคุณมากับผมได้ไหมมีเรื่องต้องคุยกัน" ผู้กำกับทอมกล่าวกับสารวัตรภาธรอย่างจริงจัง ทำให้ตำรวจหนุ่มตัดสินใจเดินตามเจ้านายไป หมอณัฐฐาได้แต่มองแผ่นของอดีตสามีตนเองอย่างกังวลใจ ก่อนจะหันไปสนใจแท็กที่อยู่ในห้องในอาการสงบ ภาพที่มธุกรวิ่งมากอดแท็กนั้นยังคงติดตาเธอ และแน่นอนว่าเธอต้องหาคำตอบให้ได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนี้กำแน่

    ผู้กำกับทอมและสารวัตรภาธรมาที่ห้องทำงานส่วนตัว ของตัวผู้กำกับทอมเองซึ่งสารวัตรภาธรนั่งลงฝั่งตรงข้าม กับผู้กำกับทอมที่ค่อนข้างมีสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างมาก ซึ่งสารวัตรภาธรพอจะเข้าใจสถานการณ์เหล่านี้ดี การที่เผลอจับชาวฟรอนร์เทียร์โดยไม่รู้ตัวนั้นไม่แน่ใจว่ามันจะสร้างผลกระทบอะไรรึเปล่า เพราะประเทศไวด์โร๊ดมีสนธิสัญญาร่วมกับประเทศฟรอนร์เทียร์อยู่

    "ท่านครับมีอะไรรึเปล่าครับ" สารวัตรภาธรเป็นฝ่ายถามขึ้น

    "สารวัตรอย่าว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ มีคำสั่งเบื้องบนลงมาแล้ว....ให้คุณปล่อยตัวเด็กคนนั้น"

    สิ่งที่ตำรวจหนุ่มได้ยินแทบไม่อยากเชื่อเลย ผู้กำกับทอมได้แต่ถอนหายใจเพราะใจจริงก็ไม่อยากทำ เพราะคนที่ถูกจับมาในที่เกิดเหตุนั้นยังไงก็ต้องสอบปากคำ ในฐานะผู้ต้องสงสัยแต่เบื้องบนสั่งให้ปล่อยตัวเขาก็ต้องทำตาม ซึ่งผู้กำกับทอมรู้เหตุผลที่เบื้องบนลงคำสั่งแบบนั้นทำไม จะมีเพียงสารวัตรภาธรเท่านั้นที่แสดงความไม่พอใจ กับคำสั่งดั่งกล่าวเพราะการปล่อยตัวคนที่จะ ให้ข้อมูลสำคัญของการที่มีอันเดธอาละวาดมีที่มาที่ไปยังไง

    "ไม่ได้นะครับท่านเด็กคนนั้นเป็นผู้ต้องสงสัย คนสำคัญจะปล่อยตัวไปไม่ได้นะครับ" สารวัตรภาธรพูดขึ้นและแสดงอาการว่า เขาไม่อาจยอมรับคำสั่งนี้ได้ แน่นอนว่าผู้กำกับทอมนั้นค่อนข้างรู้ดีว่า สารวัตรภาธรค่อนข้างดื้อดึงพอสมควร เจอคำสั่งที่ขัดต่อหน้าที่ของตนเองจะแสดงอาการแบบนี้ก็ไม่แปลกใจ เพราะผู้กำกับทอมเห็นจนชินแล้ว สารวัตรภาธรที่พึ่งได้สติก็นั่งเงียบทันที

    "ฟังนะภาธรผมเข้าใจว่าคุณไม่พอใจ ผมก็ไม่ต่างจากคุณเพราะระยะหลังมานี้ ผมได้รับรายงานมาตลอดว่ามีอันเดธปรากฎตัวออกมาเยอะ เริ่มมีคนหายกันมากและหากมีคนรู้เบาะแส ผมก็ไม่อยากปล่อยให้หลุดมือแต่คนนั้นดัน เป็นตัวที่จะกำหนดความสัมพันธ์ของประเทศได้นะสิ" ผู้กำกับทอมพูดอย่างเหนื่อยใจ

    "เด็กคนนี้เนี่ยนะท่าน ขออภัยด้วยครับท่านผมไม่เข้าใจ เด็กคนนี้เป็นชาวฟรอนร์เทียร์ก็จริง แต่ไม่น่าจะ...."

    "เขามีชื่อเต็มว่า ณัฐฐานันท์ พณิชย์ผาติกรรม เป็นหลานแท้ๆของจ่าสิบเอกสายลม พณิชย์ผาติกรรม เป็นวีรบุรุษสงครามในการปฎิวัติรัฐบาลเก่า และยังไม่พอเด็กคนนี้ยังเป็นลูกบุญธรรมของเอกอัครราชทูตอากิระ แค่นี้ยังไม่พอที่จะกระทบความสัมพันธ์อีกเหรอ ภาธรคุณเป็นตำรวจที่ดี แต่อย่าใช้อารมณ์มาปนกับหน้าที่ได้ไหม เพราะหากคุณทำพลาดละก็ผมบอกได้คำเดียว ไม่ใช่แค่คุณเดือดร้อนแน่นอน"

    คำพูดที่จริงจังและเด็ดขาดของผู้กำกับทอมทำให้ สารวัตรภาธรเงียบชะงักทันทีเมื่อได้ยินชื่อของราชทูตที่ว่ากันว่า มีอำนาจพอๆกับผู้นำประเทศคนปัจจุบันของฟรอนร์เทียร์ และยังเป็นผู้ที่ช่วยเกื้อกูลผลประโยชน์ให้กับประเทศนี้ ในช่วงที่ต้องรบกับประเทศเพื่อนบ้านเมื่อ 10 ปี ก่อน ซึ่งก็ได้ราชทูตคนนี้เป็นคนที่ให้ประเทศฟรอนร์เทียร์ส่งทั้ง พลทหาร เสบียงอาหาร และอาวุธต่างๆให้ทำให้ฝ่ายประเทศไวด์โร๊ดชนะสงครามมาได้

     มันกลายเป็นว่าแท็กไม่ใช่แค่หลานของกุลชาติเท่านั้น แต่เป็นหลานแท้ๆของทหารวีรบุรุษสงครามปฎิวัติชะอย่างนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นแท็กเกี่ยวข้องกับครอบครัวกุลชาติได้อย่างไร แต่ไม่ว่าจะอย่างไงก็ตามการที่แท็กโผล่มาที่แห่งนี้อาจมีความเกี่ยวโยง กับคดีอันเดธในหลายคดีที่ผ่านมา ร่วมทั้งในโรงพยาบาลของภรรยาเก่าเขาและยังที่สหัสชัยพักรักษาอยู่ด้วย ตอนนี้เขาคิดอย่างเดียวว่าหากไม่มีใครเห็นด้วย เขาก็จะทำเอง     

     ทางฝั่งของแท็กที่นั่งในห้องสอบปากคำเกือบ 2 ชั่วโมงกว่า โชคยังดีที่ยังมีตำรวจนายหนึ่งนำอาหารมาให้ ซึ่งเป็นข้าวไข่เจียวหมูธรรมดา แท็กก็นั่งกินแบบเซ็งว่าเมื่อไหร่เขาจะได้ออกไปสักที แต่อย่างน้อยมันยังดวงดีตรงที่ตำรวจไม่สามารถยึดอาวุธของเขาได้ เพราะมันอยู่ในไมโครซิฟใต้ผิวหนัง แน่นอนว่าพวกสารวัตรภาธรไม่กล้าที่จะเอาไมโครชิฟเพราะมันเสี่ยง เกินไปเนื่องจากมันติดบนเส้นประสาทข้อมือของแท็ก หากไม่ใช่ผู้ชำนาญอาจทำให้มือของแท็กใช้งานไม่ได้อีกเลย

     สักพักประตูห้องเปิดออกมาเผยให้อภิชัยกับหยางเสี่ยวฟง เดินเข้ามาแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมันทำให้แท็กงงมากๆ ว่าพี่ทั้งสองมาทำไหมในเมื่อเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยว กับภารกิจของทั้งสองด้วยช้ำเพราะแท็กมาที่นี้ แค่มาแทนจ่าสิบเอกสายลมผู้เป็นปู่เท่านั้น แท็กไม่คิดว่าแค่การจะปกป้องมธุกร จะนำปัญหามากมายขนาดนี้

     "เป็นไรทำหน้ายังกะคนไม่ได้ถ่ายอึมา 4 ปี" หยางเสี่ยวฟงพูดก่อนจะนั่งลงโดยที่อภิชัยนั้น แอบร่ายมนต์บางอย่างกับห้องก่อนจะมานั่งข้างๆหยางเสี่ยวฟง ซึ่งแท็กเดาออกว่าอภิชัยไม่ต้องการให้ใครได้ยิน ในสิ่งที่พวกเขาคุยกัน

     "ผมอยากออกจากที่นี้" แท็กพูดสั้นๆ

     "แกได้ออกแน่แต่...คงให้แกกลับบ้านไม่ได้ว่ะ" อภิชัยเอ๋ยขึ้น ทำเอาแท็กไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

     "ว่าไงนะ กักผมไว้เพื่อ?"

     "ฟังพี่นะแท็กก็อยากให้แกกลับเหมือนกัน เพราะแกไม่ได้เกี่ยวกับงานของพี่กับอภิชัยเลย แต่ประเด็นคือพี่จับอันเดธตนหนึ่งมานะ พี่ทรมานมันเพื่อให้คายข้อมูล เฮ้อ... ใช้เวลานานมากเลยแหละ" เนื้อหาของหยางเสี่ยวฟงที่เกริ่นออกมานั้น ทำให้แท็กสนใจพอสมควร

     "อันเดธที่พี่จับได้มาจากไหน" แท็กถาม

     "ได้มาตอนที่มันกำลังสะกดรอยพี่นะ ก็ก่อนที่พี่จะเตือนภัยพวกแกสองคนนั้นแหละ"

     แท็กเงียบงันลงอย่างสลดเพราะหลังจากที่เขาถูกจับนั้น แท็กได้ยินเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพูดคุยกันโดยผ่าน จากหูทิพย์ว่่าสาตอนนี้ถูกส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน สภาพร่างกายของสาโดนล่วงละเมิดทางเพศไปแล้ว ร่างกายไม่เท่าไหร่แต่สภาพจิตใจที่ไม่ใช่แค่จะบอกช้ำ ยังกลายเป็นคนที่หวาดกลัวต่อสิ่งรอบข้าง และที่เธอกลัวเหนือสิ่งอื่นใดคือ การอยู่คนเดียวนั้นเองสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวนั้น ทำให้อัศนัยนั้น ใจแทบสลายไม่ต่างจากคนในครอบครัว

     ส่วนดุจดาวนั้นก็ไม่ต้องสาธยายมากความเพราะ สภาพก็ไม่ต่างอะไรกับสาเลยที่มีอาการวิกลจริต หวาดกลัวและอาละวาดอย่างชัดเจน นายสหัสชัยที่ต้องย้ายโรงพยาบาลเพราะโรงพยาบาลเดิมนั้น กลายเป็นที่เกิดเหตุของการฆาตกรรมของอันเดธ โดยนายสหัสชัยมารักษาตัวที่เดียวกับดุจดาว แต่ใจของผู้เป็นพ่อคงสลายไม่เหลือดี อย่างไรก็ดีทั้งสาและดุจดาวต้องพักพื้นสภาพจิตใจและร่างกายด้วย

     "งั้นพี่รู้อะไรต่อ" อภิชัยหันมาถามหยางเสี่ยวฟง

     "วิญญาณที่หลุดมาจากป่าช้า 7 ตนที่ตอนนี้กลายเป็นอันเดธไปแล้วนะ คือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับมธุสรทั้งสิ้น 1 ตนคืออดีตสามีเก่าของมธุสรและเป็นพ่อแท้ๆของมธุกรคู่ผูกของแก อีก 6 ตนไม่ต้องบอกก็รู้นะว่าเป็นใคร"

     แท็กนิ่งเงียบเพราะเขาเห็นแป๋วกับชัยในโรงพยาบาล มาแล้วดังนั้นอีกสองตนที่บุกบ้านของอัศนัยก็อาจเป็นสองใน 6 อันเดธ แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไปบุกบ้านของอัศนัย ทั้งทีไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อกันแต่ข้อความบนผนังก็ผุดขึ้นมา แท็กจำได้ว่าสายป่านเคยเล่าให้ฟังว่าอัศนัยซึ่งเป็นอัยการนั้น เคยทำคดีฟ้องร้องมธุสรในการฆ่า 7 คน โดยอ้างต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้กับคนที่ตายแล้ว แม้ว่าแท็กจะหมั่นไส้อัศนัยแต่การที่เขาต่อสู้เพื่อความยุติธรรม มาตลอดกลับได้ผลตอบแทนแบบนี้รึ

                                             

                                                          +++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา