นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ตอนที่ 5 พี่น้องร่วมสายเลือด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความโรงนอนยุวชนทหาร เวลา 12.00 น.
"ดูสิว่าใครมา อี้ถิง น้องรักนี่เอง" ฉางเฉินเดินตรงเข้ามาหาอาถิงแบบไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ อาชิงจึงยืนขวางให้กับอาถิงทันทีทำให้ฉางเฉินไม่พอใจอย่างมาก จากการเผชิญหน้ากันอาชินกับฉางเฉินมีส่วนสูงเท่ากันแม้ว่าฉางเฉินนั้นจะอายุมากกว่าแค่ปีเดียว อาถิงหลบหลังอาชิงด้วยความหวาดกลัวอย่างมาก เด็กหลายคนพากันมองแต่เด็กผมบลอน์จางมองอาถิงในเชิงสมเพชเล็กน้อย
"อย่าเข้ามายุ่ง มันไม่เกี่ยวกับแก" ฉางเฉินพูดพร้อมกับผลักตัวอาชินออกไป เขากระเด็นเซตัวเล็กน้อยแต่ก็ยังสามารถพยุงตัวเองได้พอสมควรแต่แน่นอนว่าเด็กชายก็ไม่ได้หวาดกลัวอีกฝ่าย
"อาถิงเป็นพี่น้องฉัน ไม่มีวันให้ใครมารังแกทั้งนั้น คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าทุกครั้งที่อาถิงกลับบ้าน แกคือคนที่ทำร้ายอาถิงมากที่สุด" อาชินพูดดังอย่างไม่เกรงกลัว ทำให้เด็กในชุดทหารอีก 3-4 คนกรูเข้ามาเหมือนจะรุมเล่นงานอาชินแต่ฉางเฉินยกมือห้าม เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายฉางเฉินก็มีความรู้สึกอยากจะลองวิชาที่ฝึกมาสักตั้ง อาถิงเห็นท่าไม่ดีจึงรีบห้ามอาชิน
"อาชินอย่ายุ่งเลย ถอยมาดีกว่า" อาถิงพูดเสียงสั้นๆแต่อาชินไม่สนใจ เขารู้อย่างเดียวว่าสิ่งที่ฉางเฉินทำนั้นมันไม่ถูกต้อง
"อ่อนแอไม่เคยเปลี่ยนเลยนะอาถิง แกไม่เหมาะจะเป็นลูกหลานตระกูลหวง" ฉางเฉินพูดเสียงกร้าวออกมา
"แล้วอันธพาลอย่างแกคู่ควรแล้วเหรอไง สำรวจตัวเองก่อนดีกว่า" อาชินกล่าวขึ้น
ฉางเฉินไม่รอช้าก็พุ่งเข้ามากระโดดถีบสองจังหวะใส่อาชินเต็มๆ จนเขานั้นกระเด็นไถลไปกับพื้นสร้างความตื่นตระหนกให้กับทุกคนที่นั้นแต่คนที่ยิ้มพอใจคงไม่พ้นฉางเฉิน ผู้มีแววตาอันแข็งกร้าวเกินกว่าเด็กอายุ 5 ขวบอาชินรู้สึกจุกบริเวณอกกับท้องแต่เขาก็พยายามที่จะลุกขึ้นมาน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อยเพราะเจ็บ อาถิงได้แต่ยื่นกลัวไม่สามารถทำอะไรได้ซึ่งอาชินก็คงไม่ว่าหรอกเพราะเขาเข้าใจดีว่าอาถิงหวาดกลัวแค่ไหน เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังลุกขึ้นมาได้นั้นมีหรือที่ฉางเฉินจะอยู่เฉยๆ เขารีบเดินเข้ามาคว้าคอของอาชินหงายหน้าอกเพื่อจะแทงศอกใส่หน้าอกของอาชิน แต่เด็กชายใช้เท้าขวาเหยียบเท้าซ้ายของฉางเฉินทำให้เขาเสียจังหวะไป และกลายเป็นการเปิดโอกาสของอาชินคว้าคอเสื้อของฉางเฉินแล้วเหวี่ยงออกไปสุดแขน ฉางเฉินลอยไถลลื่นไปชนกับเก้าอี้เล็ก
"คิดว่ามาก่อนจะข่มเหงคนอื่นได้เหรอ ไม่มีทาง" อาชินพูดขึ้น ฉางเฉินรู้สึกเจ็บหลังตัวเองพอสมควรและพยายามลุกขึ้นให้ได้แต่ทำได้ยากลำบาก เมื่อฉางเฉินสบตากับเพื่อนยุวชนทหารด้วยกันไม่มีใครกล้าสบตาเขาสักคน ยิ่งต่อหน้าเด็กใหม่หลายร้อยคนมันยิ่งตอกย้ำถึงการเสียหน้าและการโดนหยามของตัวเอง
"สุดยอดเลยเป็นโชว์ที่สนุกชะมัด" เด็กชายผมบลอน์จางพูดขึ้นพร้อมปรบมือดังๆ ซึ่งมันดึงดูดความสนใจของเด็กๆได้อย่างดีอาชินไม่แน่ใจในเจตนาของอีกฝ่าย เพราะแววตาที่มองเขามันไม่ใช่คนที่จะเป็นมิตรกับเขาเลยสักนิด เด็กชายคนนั้นมองหน้าฉางเฉินแบบเวทนาเล็กน้อยก่อนจะหันไปทางอาชินอีกครั้ง
"นายเป็นใคร" อาชินยิงคำถาม เด็กชายผมบลอน์จางยิ้มที่มุมปาก
"ฉันชื่อ แดเนียล แรคคริฟฟ์ นายไม่รู้จักตระกูลฉันจริงไหม" อีกฝ่ายแนะนำตัว
ไม่รู้จักก็บ้าแล้วสำหรับอาชินทำไมเขาจะไม่รู้จักตระกูลนี้เท่าที่จำได้ ปู่ของเขาเคยเล่าให้ฟังว่าตระกูลแรคคริฟฟ์นั้นเป็นตระกูลขุนนางเก่าที่อพยพมาจากทวีปอาการ์เชียร์ไม่แน่ใจว่าเมืองไหน ซึ่งบรรพบุรุษของตระกูลแรคคริฟฟ์เดิมทีเป็นขุนนางที่หมดอำนาจต้องหอบครอบครัวและข้าบริวารที่ยังจงรักภักดีหนีมาอาศัยอยู่ในเมืองฟรอนร์เทียร์ โดยในตอนแรกสถานะครอบครัวยังเป็นแค่แขกและเป็นพลเรือนโดยตามกฎหมายแล้ว พลเรือนในความหมายของฟรอนร์เทียร์คือชาวต่างแดนมาอาศัยอยู่ ไม่มีสิทธิ์ทางการเมืองแต่มีสิทธิ์เสรีภาพในการทำมาหากินได้ หากพลเรือนแต่งงานกับคนของฟรอนร์เทียร์ก็จะได้รับสิทธิ์โอนสัญชาติเป็นชาวฟรอนร์เทียร์ และแม้จะทำอาชีพเสรีแต่ต้องจ่ายภาษี 10% ทุกๆสิ้นเดือน
ตระกูลแรคคริฟฟ์นั้นพยายามที่จะไม่เป็นพลเรือนเพราะต้องการยกระดับตัวเอง ซึ่งในตอนนั้น ฟรานซิส แรคคริฟฟ์ ได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลต่อจาก นาธาเนล แรคคริฟฟ์ ผู้เป็นปู่และตัดสินใจแต่งงานกับทหารหญิงฟรอนร์เทียร์ ทำให้ตระกูลแรคคริฟฟ์ได้เป็นชาวเมืองฟรอนร์เทียร์เต็มสมบูรณ์และสันดานเดิมของตระกูลนี้ย่อมเกี่ยวข้องด้านการเมืองอยู่ ซึ่งมีบทบาทในราชการหลายยุคหลายสมัยแล้วแต่ไม่ว่าจะมีความเป็นมายังไงก็ตามสิ่งที่ตระกูลนี้เหมือนกันคือ หยิ่ง ยโสโอหัง ชอบดูถูกคนอื่นสังเกตได้จากแดเนียลดูจากส่วนสูงแล้วอีกฝ่ายน่าจะเตี้ยกว่าเขาหน่อยหนึ่ง
"หุบปากเน่าๆของแกไปเลย ไอ้แรคคริฟฟ์" ฉางเฉินพูดพร้อมชี้หน้าใส่อีกฝ่าย
"มันเหมือนที่พ่อพูดเลย ไม่คิดว่ามันเป็นการย้อนรอยอดีตพวกนายกันเหรอ" แดเนียลพูดอย่างยั่วยุอารมณ์ซึ่งมันได้ผลกับฉางเฉิน แต่กับอาชินตรงข้ามที่ทำหน้าไม่เข้าใจความหมาย ทำให้แดเนียลแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายเล็กน้อยออกมา พวกเขาไม่รู้เลยว่าในกลุ่มเด็กๆเหล่านี้มีคนแอบยืนมองพวกเขาอยู่ในมุมมืดเงียบๆ
"อะไรกันเนี่ยปู่นายไม่เคยเล่าเหรอ ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพ่อนายสองคน" คำพูดของแดเนียลทำให้อาชินขมวดคิ้ว
"นายจะพูดอะไรกันแน่" อาชินถาม แดเนียลยักไหล่แบบมาดกวน ฉางเฉินเริ่มลุกขึ้นยืนได้แล้วจ้องมองอาชินด้วยความเคียดแค้น
"ฉันว่าน่าจะถามปู่นายมากกว่านะ ว่าเขารู้สึกยังไงที่ส่งลูกชายตัวเองเข้าคุกเพราะฆ่าน้องตัวเองตาย ทำให้หลานทั้งเจ็ดคนต้องกำพร้าพ่อ... ไม่สิมีบางคนได้รับการดูแลที่ดีกว่า ดูสีหน้านายแล้วสงสัยปู่นายจะไม่เล่าอะไรเลย น่าเห็นใจจังคุณเจ้าชายเอเดนผู้ไร้บรรดาศักดิ์ไม่มีสิทธิ์อะไรเลยนอกจากได้ใช้นามสกุลเท่านั้น" คำพูดของแดเนียลยิ่งสร้างความสับสนให้กับอาชินมากขึ้น ตรงข้ามกับฉางเฉินที่ตอนนี้พร้อมระเบิดโทสะแล้ว
"ฉันชื่อ หวงจือชิน ไม่ใช่เอเดน" สิ้นคำของอาชิน ฉางเฉินก็พุ่งเข้ากระแทกตัวของเด็กชายในทันที อาชินที่ไม่ทันระวังตัวทำให้เขาเซไปข้างหลังและไม่สามารถต้านแรงของฉางเฉินได้ และยังโดนแทงเข่าเข้าที่ท้องกับแทงศอกเข้าที่หลัง พร้อมกับเหวี่ยงตัวอาชินกระเด็นไปชิดกับขอบเตียงด้านขวามือ อาชินนอนกองกับพื้นและพยายามจะลุกให้ขึ้นแต่ถูกฉางเฉินใส่ลูกเตะเข้าที่ท้องเขาก็ลงไปนอนกับพื้นอีกครั้งซึ่งคงจะลุกชึ้นยาก
"ถ้าฉันเป็นนายนะ ฉันจะไปเล่นงานหมอนั้นมากกว่า ไม่ใช่ฉันเพราะคนที่ทำให้พ่อนายติดคุกคือหมอนั้น... หรือมันไม่จริง" อาถิงเองก็อึ้งไม่แพ้ฉางเฉินพี่ชายของเขา ทำไมแดเนียลถึงรู้ว่าพ่อเขาติดคุกได้ไปรู้อะไรมาซึ่งยิ่งเห็นผู้คนให้ความสนใจ ก็ทำให้เด็กชายผมบลอน์จางชื่นชอบอย่างมาก
"นายรู้ได้ไงว่าพ่อพวกเราติดคุก" อาถิงที่ตอนนี้เปลี่ยนจากความกลัวเป็นเดือดดาลแทน
"หวงอี้ถิง ฉันว่านายรู้ดีกว่าฉันนะไม่ใช่เหรอ ซึ่งฉันก็แปลกใจไม่ใช่น้อยเลยนะที่นายยังเป็นเพื่อนกันได้ ทั้งที่หวงจือชินเป็นต้นเหตุให้พ่อนายติดคุกไม่ได้มาดูนายที่กำลังจะเกิดแท้ๆเลย" อาชินที่นอนจุกกับพื้นเริ่มรู้สึกถึงความโกรธที่มีอยู่ในตัวเขา และเริ่มกำมือขวาแน่นจนเกิดแสงสีแดงเหมือนเปลวไฟเล็กๆขึ้น
"อาชินไม่ใช่ต้นเหตุสักหน่อย นั้นเพราะที่จริงพ่อฉันฆ่าพ่อเขาต่างหาก" อาถิงหลุดออกมาอย่างลืมตัว ฉางเฉินที่ตอนนี้อารมณ์โกรธได้ที่แล้วก็ตรงมาเล่นงานน้องชายตัวเองแทน โดยคว้าตัวของอาถิงแล้วเหวี่ยงตัวเขาลอยไปกับพื้นก่อนจะตามมาช้ำเติมด้วยการเหยียบตัวน้องชายเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นพี่น้องกัน เด็กทุกคนตัวแข็งกันหมดไม่มีใครกล้ายุ่งในขณะที่อาชินที่พยายามจะพยุงตัวก็เห็นอาถิงกำลังโดนฉางเฉินทำร้ายโดยอาถิงก้มตัวป้องกันหัวเท่านั้น แสงเปลวไฟในมือของอาชินสว่างขึ้นเล็กน้อย
เขาไม่รอช้ารีบลุกขึ้นมาแล้ววิ่งพุ่งเข้าหาฉางเฉินทันที ส่วนทางฉางเฉินเองที่มัวแต่สนใจอาถิงเมื่อหันหน้ามาก็เจอเข้ากับกำปั้นของอาชินกระแทกหน้าเต็มๆ ฉางเฉินรู้สึกรับแรงอัดมากกว่าแค่รับแรงหมัดธรรมดาเขาลอยกระเด็นไปไกลมาก จนลอยมากระแทกกับพื้นเต็มแรงจนพื้นเกิดรอยแตกเล็กน้อย สร้างความตกใจให้กับคนแถวนั้นแต่ที่ตกใจที่สุดคือคงไม่พ้นอาชินและอาถิง เขาสังเกตว่าแสงเปลวไฟในมือเขานั้นหายไปแล้ว ส่วนตัวฉางเฉินนั้นนอนแน่นิ่ง
แดเนียลแม้จะมีอาการตกใจเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่า เหตุการณ์มันจะบานปลายขนาดนี้แต่ก็ยังเหลือเก็บอาการ พวกยุวชนทหารที่มากับฉางเฉินพากันมองหน้าอาชิน อย่างเดือดดาลซึ่งสำหรับเด็กชายเขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่ามันยังไม่จบ เด็กผู้ชายตัวใหญ่ก็เดินมาหาเขาอย่างรวดเร็วซึ่งอาชินก็ตั้งรับรอท่าไว้ แต่กลับมีเด็กผู้ชายในชุดยุวชนทหารคนหนึ่งซึ่งมาจากไหนไม่รู้ ปรากฎตัวออกมาขวางกั้นระหว่างอาชินกับยุวชนทหารตัวใหญ่คนนั้น ซึ่งทั้งสองชะงักและเผชิญหน้ากันแบบไม่ละสายตากันเลย ยุวชนทหารที่ยืนขวางนั้นสูงกว่าอาชินมากที่สำคัญยุวชนทหารนายนี้ยังไม่ถอดหมวกด้วยช้ำ
"หวงซื่อเจียง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแกถอยออกไป" ยุวชนทหารร่างใหญ่พูดเสียงกร้าว แต่อีกฝ่ายยังยืนนิ่งอยู่
"เกี่ยวไม่เกี่ยวฉันไม่สนใจ แต่แกเป็นทหารรุ่นพี่กลับเลือกชกกับเด็กใหม่ เสียศักดิ์ศรีเป็นบ้าเลือกคู่ชกให้สมกับตัวหน่อยดิว่ะ" ยุวชนทหารชื่อหวงซื่อเจียงกล่าวขึ้น ทำให้ยุวชนทหารร่างใหญ่ไม่พอใจอย่างมากและมุ่งหมายจะเอาเรื่องเขาแทน แต่ก่อนที่จะเกิดมวยคู่ใหม่นั้น ร้อยโทเกลนเดินเข้ามาในโรงนอนซึ่งเขาเห็นฉางเฉินนอนหมอสติอยู่ จึงไม่รอช้ารีบใช้วิทยุสื่อสารที่คาดอยู่บนเอวขวาของเขา
"นี่ร้อยโทเกลนพูดส่งยุวชนทหารห่ามเปลเข้ามาที่โรงนอนเลขที่ 04 ด่วนมียุวชนทหารบาดเจ็บ" ร้อยโทเกลนพูดใส่วิทยุสื่อสารของเขา
"รับทราบกำลังส่งยุวชนทหารสองนายห่ามเปลเข้าไป" เสียงในวิทยุตอบกลับอย่างรวดเร็ว สำหรับประสบการณ์ที่สะสมมานานนั้นร้อยโทเกลนพอจะเดาออกถึงอาการบาดเจ็บของฉางเฉิน เขาพบรอยช้ำบนใบหน้าของฉางเฉินซึ่งมันเกิดจากพลังแฝงนั้นเองแต่ของใครละเพราะการใช้พลังแฝงได้ต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างมาก โชคยังดีที่พลังมันไม่มากพอที่จะทำให้ฉางเฉินบาดเจ็บสาหัสอะไรขนาดนั้น
"ฝีมือใคร" ร้อยโทเกลนพูดเสียงดุดันผิดกับตอนที่อยู่บนรถบัส เด็กๆทุกคนพากันไม่กล้าสบตาเพราะหวาดกลัวตอนเสียงของร้อยโทเกลน อาชินก้อมองที่มือขวาที่เพิ่งจะกระแทกหน้าของฉางเฉินไป ภาพที่เห็นแสงเปลวไฟที่มือทำให้เขางงว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ทางด้านของร้อยโทเกลนนั้นเมื่อเห็นว่าไม่มีใครยอมรับเขาคงไม่มีทางเลือกแล้วละ
"ถ้าไม่มีใครยอมรับ ฉันคงต้องทำโทษทุกคนในนี้ทั้งหมด ไม่มีข้อยกเว้นอาหารในมื้อกลางวันกับมื้อเย็น ห้ามกินเด็ดขาดใครฝ่าฝืนคำสั่งจะได้กินอย่างอื่นที่ไม่ใช่ข้าวแน่นอน... โดยเฉพาะพวกที่มาก่อนต้องรับโทษหนักหน่อย เป็นรุ่นพี่มาก่อนแต่เป็นตัวอย่างที่ดีไม่ได้คิดว่ามาก่อนจะข่มใครก็ได้ผิดถนัดแล้ว พวกนายมีความคิดแบบนี้จะเป็นทหารปกป้องประเทศและประชาชนได้ยังไง พลังงานพวกนายมีมากนักใช่ไหมงั้นฉันจะเอาให้มันออกเอง" ร้อยโทเกลนพูดเสียงกร้าวพร้อมกวาดสายตามองเด็กๆ ด้วยสายตาที่ดุดันมาก แต่มีเด็กบางคนมองอาชินแบบไม่พอใจมากที่เขาเป็นต้นเหตุ
"เวลาพักหมดแล้วรีบแต่งตัว ออกไปตั้งแถวเตรียมตัวฝึกกันเลยปลดปล่อยพลังงาน" ร้อยโทเกลนพูดจบแล้วกำลังจะเดินออกไป
"เดียวก่อนครับครู" อาชินพูดเสียงดังขึ้นจากข้างหลังของซื่อเจียง ร้อยโทเกลนจึงหันมามอง
"มีอะไร" ร้อยโทเกลนถามขึ้น เด็กชายสูบลมหายใจเฮือกใหญ่
"ผมทำเองครับ ผมเป็นคนชกเขาหน้าหงายเองครับ ถ้ามีคนจะถูกลงโทษให้เป็นผมคนเดียวเถอะครับ" อาชินพูด อาถิงทำหน้าตกใจที่อาชินยอมรับผิดแทนทั้งที่เป็นฝ่ายโดนหาเรื่องก่อน
"ครูครับผมเองก็มีส่วนผิดด้วย เพราะถ้าไม่ใช่ผมเขาก็คงไม่ไปต่อยหน้าพี่ชายผมหรอก..." อาถิงพูดขึ้นบ้างเขาจะไม่ยอมให้อาชินโดนลงโทษคนเดียว แต่ร้อยโทเกลนกลับไม่ได้สนใจตรงจุดนั้น
"นายเป็นพี่น้องกันงั้นเหรอ ชื่อ-นามสุกลอะไร" ร้อยโทเกลนถาม
"ผมชื่อ อี้ถิง นามสกุล หวง ครับ นั้นคือ หวงฉางเฉิน พี่ชายแท้ๆผมเอง" อาถิงพูด ร้อยโทเกลนจึงก้มลงมาดูเสื้อปกด้านซ้ายปักชื่อว่า "หวงฉางเฉิน" จริง
"แล้วคนที่ต่อยนะ นายชื่ออะไร"
"ผมเป็นญาติกับพวกเขาชื่อ หวงจือชิน" คำตอบของอาชินทำให้ร้อยโทเกลนชะงักพอสมควร เขามองสำรวจเด็กชายตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วยิ้มที่มุมปาก ดูเหมือนว่าจะปีนี้จะมียุวชนทหารน่าสนใจเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้วสินะ อาชินกับอาถิงพากันยืนนิ่งแบบใจหวาดหวั่นว่าครูฝึกคนนี้จะเอายังไงกับเขาทั้งสอง
"ก็ได้เห็นแก่ที่นายสองคนสารภาพผิด จะไม่มีการลงโทษใดๆทั้งสิ้นแต่หากมีครั้งต่อไป ฉันจะไม่ใจดีแบบนี้" ร้อยโทเกลนปรับโทนเสียงเป็นมิตรปนคนอารมณ์ดีอีกครั้ง ทำเอาเด็กๆปรับตัวกันไม่ถูกแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจมากที่ไม่ต้องโดนทำโทษ โดยเฉพาะอาชินกับอาถิงที่โล่งใจมากที่สุด ไม่นานนักก็มียุวชนทหารสองนายเดินเข้ามาพร้อมเปลพยาบาล พุ่งตรงมาที่ฉางเฉินที่นอนไม่ได้สติอยู่โดยทั้งสองช่วยกันจับคนละข้างยกขึ้นเปลก่อนจะยกเปลไปทันที
"เอาละโชว์จบแล้วทำธุระให้เสร็จแล้ว ไปรายงานตัวข้างนอกด้วยฉันจะรอ" ร้อยโทเกลนพูดก็เดินจากไป
"ฉันจะรอนายข้างนอกนะ ทำอะไรให้เสร็จละ" พูดจบซื่อเจียงก็เดินจากไป ปล่อยให้อาชินกับอาถิงนั่งงงกันสองคน
"หมอนี้เป็นใครกัน" อาถิงพูดขึ้น
"ฉันรู้ว่าเขาเป็นเครือญาติกับพวกเรา ชื่อ ซื่อเจียง.... รีบแต่งตัวเถอะ จะได้ออกไปสักที”
ทั้งสองไม่รอช้าต่างรีบแต่งตัวทันที
+++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ