นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
8.0
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
53 ตอน
0 วิจารณ์
43.29K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
48) ตอนที่ 48 สืบหาต้นตอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ้านท่านทูตอากิระ เวลา 08.22 น.
อาชินอยู่ในห้องทำงานที่ท่านทูตอากิระเตรียมมาให้โดยเฉพาะ จากเหตุการณ์วันก่อนที่สุรสีห์์ถูก "สัตว์เลี้ยง" ของอลิสเซีย แฟรงเก้นต์ทำร้ายมานั้นทำให้พวกเด็กชายทั้งสี่คน รู้ว่าเธอไม่ได้เอามาแค่ตัวเดียวและมีความต้องการที่จะใช้ สวนของปราสาทนั้นเป็นที่ของพวกมัน ท่านทูตอากิระจึงไม่ให้พวกเขามาทำหน้าที่อารักขาอีก นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะไม่งั้นคงปวดหัวตาย ที่สำคัญยังได้มีโอกาสกลับมาทำงานที่ค้างไว้อีกด้วย นั้นคือการตามรอยแฮกเกอร์คนนั้น
อาชินได้ตามรอยสัญญาณจากโปรแกรมที่แฮกเกอร์คนนั้นใช้ และร่วมทั้งอุปกรณ์ทุกอย่างที่มีซึ่งแน่นอนว่าอาชินพบว่า แฮกเกอร์คนนี้เช่าห้องราคาค่อนข้างถูกมาก ในเขตสลัมของตัวเมืองหลวงแต่ที่อาชินสนใจคือเอกสารการเข้าเมือง ชื่อทุกอย่างเป็นของปลอมหากเขาเช็ดโดยให้โปรแกรมไมคอนเจาะระบบ ตรวจสอบด่านเข้าเมืองของคนที่เข้า-ออกประเทศ จากนั้นเขาก็เริ่มแฮกเข้าไปในระบบประวัติด้านอาญากรรมสากล แล้วเขาก็พบกับเป้าหมายจนได้
“ในที่สุดก็หาแกเจอสักที" อาชินพูดอย่างกุมชัยชนะไปครึ่งหนึ่ง สักพักพวกอาเจี๋ยก็เดินเข้ามาในห้องโดยมีกับข้าวมาให้ โฮโลแกรม 4 มิติลายตาพอสมควร มันเป็นการการันตีว่าเพื่อนคนนี้ทุ่มเทให้กับงานมาก
“หมอนี้ใครว่ะ" อาหลงถามขึ้น อาชินใช้ฝ่ามือเลื่อนเผยให้ข้อมูลของชายดังกล่าว
“หมอนี้ชื่อ ติน มันใช้ชื่อโค้ดเนมส์ว่า ซ็อกเกอร์ เป็นอาญากรด้านไซเบอร์ที่ตอนนี้โดน พวกปราบอาญากรรมสากลตามจับอยู่ หมอนี้แหละที่พยายามมาเอาข้อมูลของแม่" อาชินพูด
อาเจี๋ยมองสำรวจใบหน้าของชายเจ้าของชื่อติน ในข้อมูลระบุว่าอายุ 20 ปี ต้นๆแต่หน้าตายังกะไอ้ขี้ยาที่ไหนไม่รู้ ผมสีทองปนน้ำตาลแดงหน่อยๆ ดวงตาสีฟ้าอ่อน ผิวสีขาวซีดมาก ใบหน้าโทรมอีกต่างหากตามประวัติด้านอาญากรรม ก่อเรื่องตั้งแต่อายุ 10 ปี โดยเริ่มจากการแฮกเงินในธนาคารเพื่อหนี ออกนอกประเทศแล้วก็หายตัวไป 5 ปี ต่อมาก็ก่อเรื่องในโลกไซเบอร์ในฐานะชื่อ ซ็อกเกอร์ ค่าหัวของชายหนุ่มคนนี้อยู่ที่ 256,000 รูริก (7,680,000 บาท)
“หมอนี้ประวัติไม่ใช่น้อยๆ ทำไมคนตรวจด่านถึงปล่อยให้เข้ามาได้" อาหมิงสงสัย
“ข้อสันนิฐานฉันคือ พนักงานหละหลวมเพราะอย่าลืมว่าพวกเขาเป็นพลเรือน และหมอนี้เป็นอาญากรด้านไซเบอร์ นั้นแปลว่าน่าจะสามารถปลอมเอกสารเองได้แต่ถ้ามีคนในช่วย มันจะเปลืองแรงนางน้อยลง" อาหลงตั้งข้อสันนิฐานขึ้นมา ซึ่งมันทำให้พวกอาชินสนใจขึ้นมา
“ก็อยากให้ง่ายแบบนั้นแต่คงก็ดับฝันแล้วละน้องชาย" เสียงหนึ่งทักขึ้น
ปรากฏเป็นเด็กหนุ่มอายุ 16-17 ขึ้น เขาสูงกำยำผิวขาวเหลือง ผมดำและดวงตาสีน้ำตาลเด็กหนุ่มอยู่ในชุดยุวชนทหาร เหมือนกำลังปฏิบัติงานอยู่ อาชินรู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายมาในร่างกายจิตแน่นอน ไม่นานนัก เทอด ยอดธง ก็ใช้มือของเขาควบคุมโปรแกรมของไมคอนให้ดูประวัติที่ห้องซันสูตรศพ อาชินก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตินหรือซ็อกเกอร์นั้น นอนกลายเป็นศพไร้วิญญาณไปแล้ว จากนั้นเทอดก็เลื่อนมาตรงที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ที่ตอนนี้ทหารและเหล่านักสืบได้ทำการปิดกั้น ไม่ให้คนนอกเข้าแล้ว
“ในวันที่นายไปกับแม่อากินะมีคนแจ้งมาว่าพบศพชายไม่ทราบชื่อ อยู่ที่ชายหาดนี้ส่วนสาเหตุการตาย ถูกยิงระยะเผาขนที่กลางหน้าผากสมองไหมไปครึ่งหนึ่ง" เทอดอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เขาฆ่าปิดปากเหรอพี่เทอด" อาหมิงถาม
“อาจมีส่วนแต่พี่คิดว่าหมอนี้ทำงานพลาดด้วยแหละ ถึงได้โดนเก็บ" เทอดคิดอีกแบบ อาชินวิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง
“งั้นผมมาถูกทางแล้วละ ถ้าการมาของเขามีการว่าจ้างจริง ตอนนี้คงมีการส่งคนไปดูห้องที่หมอนี้พักอาศัยชั่วคราว เพื่อทำลายหลักฐาน" อาชินพูด
“แล้วนายซ็อกเกอร์คนนี้พักที่ไหน" อาเจี๋ยถาม
“ในเขตสลัมตัวเมืองโน่น"
“โห่ กว่าจะไปถึงพวกมันคงทำลายไปหมดแล้ว" อาหลงร้องขึ้น
อาชินกลับสายหน้าเชิงว่าไม่หรอกเพราะการทำงานอย่างรวดเร็วของ เด็กชายกับโปรแกรมไมคอนของเขาทำให้ สามารถแฮกเข้ากับการสนทนาของแฮกเกอร์กับผู้ว่าจ้าง ที่สำคัญเขายังสามารถแกะรอยตามสัญญาณของ เครื่องมือสื่อสารนั้นได้ด้วยว่ามันเป็นของใครกัน อาชินทำการเปิดเสียงการพูดคุยสนทนาของซ็อกเกอร์ให้เพื่อนๆของเขาฟังดู
“ฉันมีงานให้แกทำ จะรับไหม" เสียงทุ่มของผู้ชายปลายสายพูดอย่างหัวเสีย
“งานอะไรผมรับหมดอยู่แล้ว แล้วค่าตอบแทนละ" ซ็อกเกอร์ถามกลับด้วยเสียงที่กวนส้นเท้าพอประมาณ
“50 ล้านรูริก ถ้าแกทำสำเร็จ เงินนี้เป็นของแก" อีกฝ่ายตอบ
“โห่ บุญทุ่มจังคุณลูกค้า ให้ผมแฮกอะไรรึเพื่อแลกกับเงินมากมายขนาดนี้"
“ตกลงจะรับงานหรือไม่รับ" ปลายสายเริ่มทนไม่ไหวกับเสียงยั่วยวนกวนประสาทของซ็อกเกอร์
“รับสิครับ ว่าแต่ให้เริ่มเมื่อไหร่" ซ็อกเกอร์ถาม
“วันอังคารที่จะถึงนี้...จะมีคนรอรับแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องงานมีคนช่วยอยู่แล้ว เรื่องอื่นๆฉันเคลียร์ให้ เลิกกันแล้วจะติดต่อกลับ"
เมื่อทุกคนฟังเสียงบทสนทนาเสร็จแล้วทีเหลือคือ อาชินใช้มือควบคุมเลื่อนหน้าจออีกครั้งโดยเสียงการพูดคุยนี้ ถูกบันทึกไว้ในเมื่อวันที่ 4 เดือนพฤษภาคม แล้ววันที่โดนบุกรุกคือเดือนกรกฎาคมนั้นย่อมแปลว่า พวกนั้นวางแผนกันมาสองเดือนได้แล้วเพื่อความชัวร์ว่า การโจมตีนั้นจะสำเร็จ แต่พวกมันไม่คาดคิดว่าจะมีคนหนึ่งในบ้านที่เก่งด้านนี้ด้วย
"นี่แปลว่าพวกนี้มันวางแผนจะบุกบ้านพวกเรานานแล้ว" เทอดพูดขึ้น
"อาชิน นายตามรอยคนจ้างได้ไหม" อาเจี๋ยถามขึ้น
"ไม่ คนวางจ้างรอบคอบมาก เขาใช้วิธีคลาสสิกมาก ใช้มือถือโทรเสร็จแล้วทิ้งดังนั้นสัญญาณที่ฉันตามได้ จะอยู่ตามจุดที่ไม่เคลื่อนไหวเลย ฉันเลยคิดว่าน่าจะใช้แล้วทิ้งมากกว่า" อาชินตอบ
"ไม่มีวิธีไหนเลยเหรอเพื่อน" อาหลงถามเผื่อจะมีความหวัง
"มันก็มีไม่ใช่ไม่มี แต่...พวกนายต้องไม่เชื่อ"
พวกอาเจี๋ยพากันขมวดคิ้วสงสัยอาชินถึงแสดงผลงานการตามแกะรอย ให้ชมถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่สามารถตามรอยโทรศัพท์ได้ แต่ได้เทียบเสียงกับหลายๆอย่างทั่วมุมของฟรอนร์เทียร์ พวกอาเจี๋ยอึ้งพูดไม่ออกกับประสิทธิภาพของโปรแกรมไมคอน ที่สามารถแฮกระบบทุกอย่างได้ เพื่อนคนนี้ชักเริ่มน่ากลัวชะแล้วสิ อาชินใช้โปรแกรมใหม่ที่เขาตั้งชื่อเล่นๆว่า "ด็อบบี้" มันเป็นโปรแกรมวิเคราะห์เทียบเสียงของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะสิ่งของ สัตว์ หรือมนุษย์ แล้วนำมาวิเคราะห์กับฐานข้อมูลที่โปรแกรมไมคอนหามาได้
เมื่อโปรแกรมด็อบบี้ทำการวิเคราะห์เสร็จมันก็ทำการประมวลภาพ บุคคลหนึ่งออกมาซึ่งเล่นเอาพวกอาเจี๋ยอึ้งอย่างมาก เสียงของบุคคลที่ว่าจ้างซ็อกเกอร์นั้นคือ พันตรีโจเซฟ เดวาพอร์ท หนึ่งในสภาการเมืองสูงของฟรอนร์เทียร์ และยังมีคักดิ์เป็นน้องเขยของจอมทัพวลาดีมีร์ด้วย ท่านทูตอากิระกับพันตรีโจเซฟแทบไม่มีความเกี่ยวข้องเลย ทำไมถึงคิดวางแผนแบบนี้
"โปรแกรมแกมั่วป้าวเนี่ย" เทอดพูดขึ้นเพราะเขายังไม่เชื่อเท่าไหร่
"ผมก็คิดเหมือนพี่นั้นแหละ แต่ผมเช็ดมาอย่างต่ำไม่เกิน 30 รอบ แล้วถี่ถ้วนแล้ว ที่สำคัญโปรแกรมนี้ยังไม่พังหรือร่วน" อาชินพูด
เมื่อได้ยินคำตอบของรุ่นน้องแล้วเทอดทำท่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง มันไม่มีมูลหากเอาเรื่องนี้ไปรายงานกับใคร มันต้องมีหลักฐานมากกว่าแค่การเทียบเสียง เพราะเปอร์เซ็นต์พลาดมันก็ดันมีชะด้วย แต่ก็อย่างที่อาหลงพูดการที่อาญากรเข้ามาใน ประเทศนี้ต้องมีคนในช่วยเพราะคนตรวจเข้า-ออกจะเป็นพลเรือน ไม่ค่อยคุมเข้ม เท่ากับทหารและนั้นแปลว่าเขาไว้ใจใครในหน่วยงานที่สังกัด ไม่ได้แล้วด้วยนอกจากพี่น้องของเขา
"หลักฐานยังไม่พอมันต้องมีมากกว่านี้" เทอดกล่าวสรุปทั้งหมด
"แล้วเราจะทำยังไงต่อละพี่ ถ้าหลักฐานมันไม่พอจริงๆ" อาหลงถามขึ้น
"เรื่องนั้นค่อยว่ากัน พี่จะเอาเรื่องนี้คุยกับพวกพี่ไป๋เฟย เพราะแม่อากิมีแขกดังนั้นเราต้องจัดการกันเอง ส่วนนายอาชินต้องระวังไว้อย่าให้ใครรู้เรื่องเจ้าไมคอนนี้เด็ดขาด เข้าใจนะ"
"ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ" เมื่อรับคำแล้ว กายจิตของอีกฝ่ายก็หายไปในทันที อาชินหันไปมองจอโฮโลแกรมข้อมูลทุกอย่าง ที่หามาได้ทั้งหมดแต่มันก็ยังน่าเจ็บใจที่ยังไม่สามารถ จับตัวคนบงการได้เพราะเบาะแสเดียวกลายเป็นศพไปแล้ว
+++++++++++++++++++++
อาชินอยู่ในห้องทำงานที่ท่านทูตอากิระเตรียมมาให้โดยเฉพาะ จากเหตุการณ์วันก่อนที่สุรสีห์์ถูก "สัตว์เลี้ยง" ของอลิสเซีย แฟรงเก้นต์ทำร้ายมานั้นทำให้พวกเด็กชายทั้งสี่คน รู้ว่าเธอไม่ได้เอามาแค่ตัวเดียวและมีความต้องการที่จะใช้ สวนของปราสาทนั้นเป็นที่ของพวกมัน ท่านทูตอากิระจึงไม่ให้พวกเขามาทำหน้าที่อารักขาอีก นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะไม่งั้นคงปวดหัวตาย ที่สำคัญยังได้มีโอกาสกลับมาทำงานที่ค้างไว้อีกด้วย นั้นคือการตามรอยแฮกเกอร์คนนั้น
อาชินได้ตามรอยสัญญาณจากโปรแกรมที่แฮกเกอร์คนนั้นใช้ และร่วมทั้งอุปกรณ์ทุกอย่างที่มีซึ่งแน่นอนว่าอาชินพบว่า แฮกเกอร์คนนี้เช่าห้องราคาค่อนข้างถูกมาก ในเขตสลัมของตัวเมืองหลวงแต่ที่อาชินสนใจคือเอกสารการเข้าเมือง ชื่อทุกอย่างเป็นของปลอมหากเขาเช็ดโดยให้โปรแกรมไมคอนเจาะระบบ ตรวจสอบด่านเข้าเมืองของคนที่เข้า-ออกประเทศ จากนั้นเขาก็เริ่มแฮกเข้าไปในระบบประวัติด้านอาญากรรมสากล แล้วเขาก็พบกับเป้าหมายจนได้
“ในที่สุดก็หาแกเจอสักที" อาชินพูดอย่างกุมชัยชนะไปครึ่งหนึ่ง สักพักพวกอาเจี๋ยก็เดินเข้ามาในห้องโดยมีกับข้าวมาให้ โฮโลแกรม 4 มิติลายตาพอสมควร มันเป็นการการันตีว่าเพื่อนคนนี้ทุ่มเทให้กับงานมาก
“หมอนี้ใครว่ะ" อาหลงถามขึ้น อาชินใช้ฝ่ามือเลื่อนเผยให้ข้อมูลของชายดังกล่าว
“หมอนี้ชื่อ ติน มันใช้ชื่อโค้ดเนมส์ว่า ซ็อกเกอร์ เป็นอาญากรด้านไซเบอร์ที่ตอนนี้โดน พวกปราบอาญากรรมสากลตามจับอยู่ หมอนี้แหละที่พยายามมาเอาข้อมูลของแม่" อาชินพูด
อาเจี๋ยมองสำรวจใบหน้าของชายเจ้าของชื่อติน ในข้อมูลระบุว่าอายุ 20 ปี ต้นๆแต่หน้าตายังกะไอ้ขี้ยาที่ไหนไม่รู้ ผมสีทองปนน้ำตาลแดงหน่อยๆ ดวงตาสีฟ้าอ่อน ผิวสีขาวซีดมาก ใบหน้าโทรมอีกต่างหากตามประวัติด้านอาญากรรม ก่อเรื่องตั้งแต่อายุ 10 ปี โดยเริ่มจากการแฮกเงินในธนาคารเพื่อหนี ออกนอกประเทศแล้วก็หายตัวไป 5 ปี ต่อมาก็ก่อเรื่องในโลกไซเบอร์ในฐานะชื่อ ซ็อกเกอร์ ค่าหัวของชายหนุ่มคนนี้อยู่ที่ 256,000 รูริก (7,680,000 บาท)
“หมอนี้ประวัติไม่ใช่น้อยๆ ทำไมคนตรวจด่านถึงปล่อยให้เข้ามาได้" อาหมิงสงสัย
“ข้อสันนิฐานฉันคือ พนักงานหละหลวมเพราะอย่าลืมว่าพวกเขาเป็นพลเรือน และหมอนี้เป็นอาญากรด้านไซเบอร์ นั้นแปลว่าน่าจะสามารถปลอมเอกสารเองได้แต่ถ้ามีคนในช่วย มันจะเปลืองแรงนางน้อยลง" อาหลงตั้งข้อสันนิฐานขึ้นมา ซึ่งมันทำให้พวกอาชินสนใจขึ้นมา
“ก็อยากให้ง่ายแบบนั้นแต่คงก็ดับฝันแล้วละน้องชาย" เสียงหนึ่งทักขึ้น
ปรากฏเป็นเด็กหนุ่มอายุ 16-17 ขึ้น เขาสูงกำยำผิวขาวเหลือง ผมดำและดวงตาสีน้ำตาลเด็กหนุ่มอยู่ในชุดยุวชนทหาร เหมือนกำลังปฏิบัติงานอยู่ อาชินรู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายมาในร่างกายจิตแน่นอน ไม่นานนัก เทอด ยอดธง ก็ใช้มือของเขาควบคุมโปรแกรมของไมคอนให้ดูประวัติที่ห้องซันสูตรศพ อาชินก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตินหรือซ็อกเกอร์นั้น นอนกลายเป็นศพไร้วิญญาณไปแล้ว จากนั้นเทอดก็เลื่อนมาตรงที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ที่ตอนนี้ทหารและเหล่านักสืบได้ทำการปิดกั้น ไม่ให้คนนอกเข้าแล้ว
“ในวันที่นายไปกับแม่อากินะมีคนแจ้งมาว่าพบศพชายไม่ทราบชื่อ อยู่ที่ชายหาดนี้ส่วนสาเหตุการตาย ถูกยิงระยะเผาขนที่กลางหน้าผากสมองไหมไปครึ่งหนึ่ง" เทอดอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เขาฆ่าปิดปากเหรอพี่เทอด" อาหมิงถาม
“อาจมีส่วนแต่พี่คิดว่าหมอนี้ทำงานพลาดด้วยแหละ ถึงได้โดนเก็บ" เทอดคิดอีกแบบ อาชินวิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง
“งั้นผมมาถูกทางแล้วละ ถ้าการมาของเขามีการว่าจ้างจริง ตอนนี้คงมีการส่งคนไปดูห้องที่หมอนี้พักอาศัยชั่วคราว เพื่อทำลายหลักฐาน" อาชินพูด
“แล้วนายซ็อกเกอร์คนนี้พักที่ไหน" อาเจี๋ยถาม
“ในเขตสลัมตัวเมืองโน่น"
“โห่ กว่าจะไปถึงพวกมันคงทำลายไปหมดแล้ว" อาหลงร้องขึ้น
อาชินกลับสายหน้าเชิงว่าไม่หรอกเพราะการทำงานอย่างรวดเร็วของ เด็กชายกับโปรแกรมไมคอนของเขาทำให้ สามารถแฮกเข้ากับการสนทนาของแฮกเกอร์กับผู้ว่าจ้าง ที่สำคัญเขายังสามารถแกะรอยตามสัญญาณของ เครื่องมือสื่อสารนั้นได้ด้วยว่ามันเป็นของใครกัน อาชินทำการเปิดเสียงการพูดคุยสนทนาของซ็อกเกอร์ให้เพื่อนๆของเขาฟังดู
“ฉันมีงานให้แกทำ จะรับไหม" เสียงทุ่มของผู้ชายปลายสายพูดอย่างหัวเสีย
“งานอะไรผมรับหมดอยู่แล้ว แล้วค่าตอบแทนละ" ซ็อกเกอร์ถามกลับด้วยเสียงที่กวนส้นเท้าพอประมาณ
“50 ล้านรูริก ถ้าแกทำสำเร็จ เงินนี้เป็นของแก" อีกฝ่ายตอบ
“โห่ บุญทุ่มจังคุณลูกค้า ให้ผมแฮกอะไรรึเพื่อแลกกับเงินมากมายขนาดนี้"
“ตกลงจะรับงานหรือไม่รับ" ปลายสายเริ่มทนไม่ไหวกับเสียงยั่วยวนกวนประสาทของซ็อกเกอร์
“รับสิครับ ว่าแต่ให้เริ่มเมื่อไหร่" ซ็อกเกอร์ถาม
“วันอังคารที่จะถึงนี้...จะมีคนรอรับแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องงานมีคนช่วยอยู่แล้ว เรื่องอื่นๆฉันเคลียร์ให้ เลิกกันแล้วจะติดต่อกลับ"
เมื่อทุกคนฟังเสียงบทสนทนาเสร็จแล้วทีเหลือคือ อาชินใช้มือควบคุมเลื่อนหน้าจออีกครั้งโดยเสียงการพูดคุยนี้ ถูกบันทึกไว้ในเมื่อวันที่ 4 เดือนพฤษภาคม แล้ววันที่โดนบุกรุกคือเดือนกรกฎาคมนั้นย่อมแปลว่า พวกนั้นวางแผนกันมาสองเดือนได้แล้วเพื่อความชัวร์ว่า การโจมตีนั้นจะสำเร็จ แต่พวกมันไม่คาดคิดว่าจะมีคนหนึ่งในบ้านที่เก่งด้านนี้ด้วย
"นี่แปลว่าพวกนี้มันวางแผนจะบุกบ้านพวกเรานานแล้ว" เทอดพูดขึ้น
"อาชิน นายตามรอยคนจ้างได้ไหม" อาเจี๋ยถามขึ้น
"ไม่ คนวางจ้างรอบคอบมาก เขาใช้วิธีคลาสสิกมาก ใช้มือถือโทรเสร็จแล้วทิ้งดังนั้นสัญญาณที่ฉันตามได้ จะอยู่ตามจุดที่ไม่เคลื่อนไหวเลย ฉันเลยคิดว่าน่าจะใช้แล้วทิ้งมากกว่า" อาชินตอบ
"ไม่มีวิธีไหนเลยเหรอเพื่อน" อาหลงถามเผื่อจะมีความหวัง
"มันก็มีไม่ใช่ไม่มี แต่...พวกนายต้องไม่เชื่อ"
พวกอาเจี๋ยพากันขมวดคิ้วสงสัยอาชินถึงแสดงผลงานการตามแกะรอย ให้ชมถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่สามารถตามรอยโทรศัพท์ได้ แต่ได้เทียบเสียงกับหลายๆอย่างทั่วมุมของฟรอนร์เทียร์ พวกอาเจี๋ยอึ้งพูดไม่ออกกับประสิทธิภาพของโปรแกรมไมคอน ที่สามารถแฮกระบบทุกอย่างได้ เพื่อนคนนี้ชักเริ่มน่ากลัวชะแล้วสิ อาชินใช้โปรแกรมใหม่ที่เขาตั้งชื่อเล่นๆว่า "ด็อบบี้" มันเป็นโปรแกรมวิเคราะห์เทียบเสียงของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะสิ่งของ สัตว์ หรือมนุษย์ แล้วนำมาวิเคราะห์กับฐานข้อมูลที่โปรแกรมไมคอนหามาได้
เมื่อโปรแกรมด็อบบี้ทำการวิเคราะห์เสร็จมันก็ทำการประมวลภาพ บุคคลหนึ่งออกมาซึ่งเล่นเอาพวกอาเจี๋ยอึ้งอย่างมาก เสียงของบุคคลที่ว่าจ้างซ็อกเกอร์นั้นคือ พันตรีโจเซฟ เดวาพอร์ท หนึ่งในสภาการเมืองสูงของฟรอนร์เทียร์ และยังมีคักดิ์เป็นน้องเขยของจอมทัพวลาดีมีร์ด้วย ท่านทูตอากิระกับพันตรีโจเซฟแทบไม่มีความเกี่ยวข้องเลย ทำไมถึงคิดวางแผนแบบนี้
"โปรแกรมแกมั่วป้าวเนี่ย" เทอดพูดขึ้นเพราะเขายังไม่เชื่อเท่าไหร่
"ผมก็คิดเหมือนพี่นั้นแหละ แต่ผมเช็ดมาอย่างต่ำไม่เกิน 30 รอบ แล้วถี่ถ้วนแล้ว ที่สำคัญโปรแกรมนี้ยังไม่พังหรือร่วน" อาชินพูด
เมื่อได้ยินคำตอบของรุ่นน้องแล้วเทอดทำท่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง มันไม่มีมูลหากเอาเรื่องนี้ไปรายงานกับใคร มันต้องมีหลักฐานมากกว่าแค่การเทียบเสียง เพราะเปอร์เซ็นต์พลาดมันก็ดันมีชะด้วย แต่ก็อย่างที่อาหลงพูดการที่อาญากรเข้ามาใน ประเทศนี้ต้องมีคนในช่วยเพราะคนตรวจเข้า-ออกจะเป็นพลเรือน ไม่ค่อยคุมเข้ม เท่ากับทหารและนั้นแปลว่าเขาไว้ใจใครในหน่วยงานที่สังกัด ไม่ได้แล้วด้วยนอกจากพี่น้องของเขา
"หลักฐานยังไม่พอมันต้องมีมากกว่านี้" เทอดกล่าวสรุปทั้งหมด
"แล้วเราจะทำยังไงต่อละพี่ ถ้าหลักฐานมันไม่พอจริงๆ" อาหลงถามขึ้น
"เรื่องนั้นค่อยว่ากัน พี่จะเอาเรื่องนี้คุยกับพวกพี่ไป๋เฟย เพราะแม่อากิมีแขกดังนั้นเราต้องจัดการกันเอง ส่วนนายอาชินต้องระวังไว้อย่าให้ใครรู้เรื่องเจ้าไมคอนนี้เด็ดขาด เข้าใจนะ"
"ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ" เมื่อรับคำแล้ว กายจิตของอีกฝ่ายก็หายไปในทันที อาชินหันไปมองจอโฮโลแกรมข้อมูลทุกอย่าง ที่หามาได้ทั้งหมดแต่มันก็ยังน่าเจ็บใจที่ยังไม่สามารถ จับตัวคนบงการได้เพราะเบาะแสเดียวกลายเป็นศพไปแล้ว
+++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ