นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1

8.0

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.

  53 ตอน
  0 วิจารณ์
  43.29K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

48) ตอนที่ 48 สืบหาต้นตอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บ้านท่านทูตอากิระ เวลา 08.22 น.
อาชินอยู่ในห้องทำงานที่ท่านทูตอากิระเตรียมมาให้โดยเฉพาะ จากเหตุการณ์วันก่อนที่สุรสีห์์ถูก "สัตว์เลี้ยง" ของอลิสเซีย แฟรงเก้นต์ทำร้ายมานั้นทำให้พวกเด็กชายทั้งสี่คน รู้ว่าเธอไม่ได้เอามาแค่ตัวเดียวและมีความต้องการที่จะใช้ สวนของปราสาทนั้นเป็นที่ของพวกมัน ท่านทูตอากิระจึงไม่ให้พวกเขามาทำหน้าที่อารักขาอีก นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะไม่งั้นคงปวดหัวตาย ที่สำคัญยังได้มีโอกาสกลับมาทำงานที่ค้างไว้อีกด้วย นั้นคือการตามรอยแฮกเกอร์คนนั้น
     อาชินได้ตามรอยสัญญาณจากโปรแกรมที่แฮกเกอร์คนนั้นใช้ และร่วมทั้งอุปกรณ์ทุกอย่างที่มีซึ่งแน่นอนว่าอาชินพบว่า แฮกเกอร์คนนี้เช่าห้องราคาค่อนข้างถูกมาก ในเขตสลัมของตัวเมืองหลวงแต่ที่อาชินสนใจคือเอกสารการเข้าเมือง ชื่อทุกอย่างเป็นของปลอมหากเขาเช็ดโดยให้โปรแกรมไมคอนเจาะระบบ ตรวจสอบด่านเข้าเมืองของคนที่เข้า-ออกประเทศ จากนั้นเขาก็เริ่มแฮกเข้าไปในระบบประวัติด้านอาญากรรมสากล แล้วเขาก็พบกับเป้าหมายจนได้
     “ในที่สุดก็หาแกเจอสักที" อาชินพูดอย่างกุมชัยชนะไปครึ่งหนึ่ง สักพักพวกอาเจี๋ยก็เดินเข้ามาในห้องโดยมีกับข้าวมาให้ โฮโลแกรม 4 มิติลายตาพอสมควร มันเป็นการการันตีว่าเพื่อนคนนี้ทุ่มเทให้กับงานมาก
     “หมอนี้ใครว่ะ" อาหลงถามขึ้น อาชินใช้ฝ่ามือเลื่อนเผยให้ข้อมูลของชายดังกล่าว
     “หมอนี้ชื่อ ติน มันใช้ชื่อโค้ดเนมส์ว่า ซ็อกเกอร์ เป็นอาญากรด้านไซเบอร์ที่ตอนนี้โดน พวกปราบอาญากรรมสากลตามจับอยู่ หมอนี้แหละที่พยายามมาเอาข้อมูลของแม่" อาชินพูด
     อาเจี๋ยมองสำรวจใบหน้าของชายเจ้าของชื่อติน ในข้อมูลระบุว่าอายุ 20 ปี ต้นๆแต่หน้าตายังกะไอ้ขี้ยาที่ไหนไม่รู้ ผมสีทองปนน้ำตาลแดงหน่อยๆ ดวงตาสีฟ้าอ่อน ผิวสีขาวซีดมาก ใบหน้าโทรมอีกต่างหากตามประวัติด้านอาญากรรม ก่อเรื่องตั้งแต่อายุ 10 ปี โดยเริ่มจากการแฮกเงินในธนาคารเพื่อหนี ออกนอกประเทศแล้วก็หายตัวไป 5 ปี ต่อมาก็ก่อเรื่องในโลกไซเบอร์ในฐานะชื่อ ซ็อกเกอร์ ค่าหัวของชายหนุ่มคนนี้อยู่ที่ 256,000 รูริก (7,680,000 บาท)         
     “หมอนี้ประวัติไม่ใช่น้อยๆ ทำไมคนตรวจด่านถึงปล่อยให้เข้ามาได้" อาหมิงสงสัย
     “ข้อสันนิฐานฉันคือ พนักงานหละหลวมเพราะอย่าลืมว่าพวกเขาเป็นพลเรือน และหมอนี้เป็นอาญากรด้านไซเบอร์ นั้นแปลว่าน่าจะสามารถปลอมเอกสารเองได้แต่ถ้ามีคนในช่วย มันจะเปลืองแรงนางน้อยลง" อาหลงตั้งข้อสันนิฐานขึ้นมา ซึ่งมันทำให้พวกอาชินสนใจขึ้นมา
     “ก็อยากให้ง่ายแบบนั้นแต่คงก็ดับฝันแล้วละน้องชาย" เสียงหนึ่งทักขึ้น
     ปรากฏเป็นเด็กหนุ่มอายุ 16-17 ขึ้น เขาสูงกำยำผิวขาวเหลือง ผมดำและดวงตาสีน้ำตาลเด็กหนุ่มอยู่ในชุดยุวชนทหาร เหมือนกำลังปฏิบัติงานอยู่ อาชินรู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายมาในร่างกายจิตแน่นอน ไม่นานนัก เทอด ยอดธง ก็ใช้มือของเขาควบคุมโปรแกรมของไมคอนให้ดูประวัติที่ห้องซันสูตรศพ อาชินก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าตินหรือซ็อกเกอร์นั้น นอนกลายเป็นศพไร้วิญญาณไปแล้ว จากนั้นเทอดก็เลื่อนมาตรงที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ที่ตอนนี้ทหารและเหล่านักสืบได้ทำการปิดกั้น ไม่ให้คนนอกเข้าแล้ว
     “ในวันที่นายไปกับแม่อากินะมีคนแจ้งมาว่าพบศพชายไม่ทราบชื่อ อยู่ที่ชายหาดนี้ส่วนสาเหตุการตาย ถูกยิงระยะเผาขนที่กลางหน้าผากสมองไหมไปครึ่งหนึ่ง" เทอดอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
     “เขาฆ่าปิดปากเหรอพี่เทอด" อาหมิงถาม
     “อาจมีส่วนแต่พี่คิดว่าหมอนี้ทำงานพลาดด้วยแหละ ถึงได้โดนเก็บ" เทอดคิดอีกแบบ อาชินวิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง
     “งั้นผมมาถูกทางแล้วละ ถ้าการมาของเขามีการว่าจ้างจริง ตอนนี้คงมีการส่งคนไปดูห้องที่หมอนี้พักอาศัยชั่วคราว เพื่อทำลายหลักฐาน" อาชินพูด
     “แล้วนายซ็อกเกอร์คนนี้พักที่ไหน" อาเจี๋ยถาม
     “ในเขตสลัมตัวเมืองโน่น"
     “โห่ กว่าจะไปถึงพวกมันคงทำลายไปหมดแล้ว" อาหลงร้องขึ้น
     อาชินกลับสายหน้าเชิงว่าไม่หรอกเพราะการทำงานอย่างรวดเร็วของ เด็กชายกับโปรแกรมไมคอนของเขาทำให้ สามารถแฮกเข้ากับการสนทนาของแฮกเกอร์กับผู้ว่าจ้าง ที่สำคัญเขายังสามารถแกะรอยตามสัญญาณของ เครื่องมือสื่อสารนั้นได้ด้วยว่ามันเป็นของใครกัน อาชินทำการเปิดเสียงการพูดคุยสนทนาของซ็อกเกอร์ให้เพื่อนๆของเขาฟังดู
     “ฉันมีงานให้แกทำ จะรับไหม" เสียงทุ่มของผู้ชายปลายสายพูดอย่างหัวเสีย
     “งานอะไรผมรับหมดอยู่แล้ว แล้วค่าตอบแทนละ" ซ็อกเกอร์ถามกลับด้วยเสียงที่กวนส้นเท้าพอประมาณ                                   
     “50 ล้านรูริก ถ้าแกทำสำเร็จ เงินนี้เป็นของแก" อีกฝ่ายตอบ
     “โห่ บุญทุ่มจังคุณลูกค้า ให้ผมแฮกอะไรรึเพื่อแลกกับเงินมากมายขนาดนี้"
     “ตกลงจะรับงานหรือไม่รับ" ปลายสายเริ่มทนไม่ไหวกับเสียงยั่วยวนกวนประสาทของซ็อกเกอร์
     “รับสิครับ ว่าแต่ให้เริ่มเมื่อไหร่" ซ็อกเกอร์ถาม
     “วันอังคารที่จะถึงนี้...จะมีคนรอรับแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องงานมีคนช่วยอยู่แล้ว เรื่องอื่นๆฉันเคลียร์ให้ เลิกกันแล้วจะติดต่อกลับ"   
     เมื่อทุกคนฟังเสียงบทสนทนาเสร็จแล้วทีเหลือคือ อาชินใช้มือควบคุมเลื่อนหน้าจออีกครั้งโดยเสียงการพูดคุยนี้ ถูกบันทึกไว้ในเมื่อวันที่ 4 เดือนพฤษภาคม แล้ววันที่โดนบุกรุกคือเดือนกรกฎาคมนั้นย่อมแปลว่า พวกนั้นวางแผนกันมาสองเดือนได้แล้วเพื่อความชัวร์ว่า การโจมตีนั้นจะสำเร็จ แต่พวกมันไม่คาดคิดว่าจะมีคนหนึ่งในบ้านที่เก่งด้านนี้ด้วย
     "นี่แปลว่าพวกนี้มันวางแผนจะบุกบ้านพวกเรานานแล้ว" เทอดพูดขึ้น
     "อาชิน นายตามรอยคนจ้างได้ไหม" อาเจี๋ยถามขึ้น
     "ไม่ คนวางจ้างรอบคอบมาก เขาใช้วิธีคลาสสิกมาก ใช้มือถือโทรเสร็จแล้วทิ้งดังนั้นสัญญาณที่ฉันตามได้ จะอยู่ตามจุดที่ไม่เคลื่อนไหวเลย ฉันเลยคิดว่าน่าจะใช้แล้วทิ้งมากกว่า" อาชินตอบ
     "ไม่มีวิธีไหนเลยเหรอเพื่อน" อาหลงถามเผื่อจะมีความหวัง
     "มันก็มีไม่ใช่ไม่มี แต่...พวกนายต้องไม่เชื่อ"
     พวกอาเจี๋ยพากันขมวดคิ้วสงสัยอาชินถึงแสดงผลงานการตามแกะรอย ให้ชมถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่สามารถตามรอยโทรศัพท์ได้ แต่ได้เทียบเสียงกับหลายๆอย่างทั่วมุมของฟรอนร์เทียร์ พวกอาเจี๋ยอึ้งพูดไม่ออกกับประสิทธิภาพของโปรแกรมไมคอน ที่สามารถแฮกระบบทุกอย่างได้ เพื่อนคนนี้ชักเริ่มน่ากลัวชะแล้วสิ อาชินใช้โปรแกรมใหม่ที่เขาตั้งชื่อเล่นๆว่า "ด็อบบี้" มันเป็นโปรแกรมวิเคราะห์เทียบเสียงของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะสิ่งของ สัตว์ หรือมนุษย์ แล้วนำมาวิเคราะห์กับฐานข้อมูลที่โปรแกรมไมคอนหามาได้
     เมื่อโปรแกรมด็อบบี้ทำการวิเคราะห์เสร็จมันก็ทำการประมวลภาพ บุคคลหนึ่งออกมาซึ่งเล่นเอาพวกอาเจี๋ยอึ้งอย่างมาก เสียงของบุคคลที่ว่าจ้างซ็อกเกอร์นั้นคือ พันตรีโจเซฟ เดวาพอร์ท หนึ่งในสภาการเมืองสูงของฟรอนร์เทียร์ และยังมีคักดิ์เป็นน้องเขยของจอมทัพวลาดีมีร์ด้วย ท่านทูตอากิระกับพันตรีโจเซฟแทบไม่มีความเกี่ยวข้องเลย ทำไมถึงคิดวางแผนแบบนี้
     "โปรแกรมแกมั่วป้าวเนี่ย" เทอดพูดขึ้นเพราะเขายังไม่เชื่อเท่าไหร่
    "ผมก็คิดเหมือนพี่นั้นแหละ แต่ผมเช็ดมาอย่างต่ำไม่เกิน 30 รอบ แล้วถี่ถ้วนแล้ว ที่สำคัญโปรแกรมนี้ยังไม่พังหรือร่วน" อาชินพูด
    เมื่อได้ยินคำตอบของรุ่นน้องแล้วเทอดทำท่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง มันไม่มีมูลหากเอาเรื่องนี้ไปรายงานกับใคร มันต้องมีหลักฐานมากกว่าแค่การเทียบเสียง เพราะเปอร์เซ็นต์พลาดมันก็ดันมีชะด้วย แต่ก็อย่างที่อาหลงพูดการที่อาญากรเข้ามาใน ประเทศนี้ต้องมีคนในช่วยเพราะคนตรวจเข้า-ออกจะเป็นพลเรือน ไม่ค่อยคุมเข้ม เท่ากับทหารและนั้นแปลว่าเขาไว้ใจใครในหน่วยงานที่สังกัด ไม่ได้แล้วด้วยนอกจากพี่น้องของเขา
    "หลักฐานยังไม่พอมันต้องมีมากกว่านี้" เทอดกล่าวสรุปทั้งหมด
    "แล้วเราจะทำยังไงต่อละพี่ ถ้าหลักฐานมันไม่พอจริงๆ" อาหลงถามขึ้น
    "เรื่องนั้นค่อยว่ากัน พี่จะเอาเรื่องนี้คุยกับพวกพี่ไป๋เฟย เพราะแม่อากิมีแขกดังนั้นเราต้องจัดการกันเอง ส่วนนายอาชินต้องระวังไว้อย่าให้ใครรู้เรื่องเจ้าไมคอนนี้เด็ดขาด เข้าใจนะ"
    "ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ" เมื่อรับคำแล้ว กายจิตของอีกฝ่ายก็หายไปในทันที อาชินหันไปมองจอโฮโลแกรมข้อมูลทุกอย่าง ที่หามาได้ทั้งหมดแต่มันก็ยังน่าเจ็บใจที่ยังไม่สามารถ จับตัวคนบงการได้เพราะเบาะแสเดียวกลายเป็นศพไปแล้ว
                        
                                    
                                                                     
                                                                +++++++++++++++++++++   

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา