นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
47) ตอนที่ 47 อลิสเซีย แฟรงเก้นต์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความปราสาทพำนักอาคันตุกะ เวลา 08.00 น.
อาชินตัดสินใจช่วยเหล่าพนักงานรักษาความปลอดภัย ติดกล้องวงจรปิดตามที่ต่างๆพร้อมกับติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัย ที่มีชื่อว่า "โร้ดวัน" อาชินต้องการที่จะเก็บโปรแกรมไมคอนกับโปรแกรมAR-09เป็นความลับ เด็กชายจึงตัดสินใจสร้างโปรแกรมเองขึ้นมาใหม่โดยเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดทุกตัว เครื่องสแกนความร้อนและการสแกนใบหน้า ทุกอย่างของคนที่เข้า-ออกในปราสาทหลังนี้ อาชินทำการอัพโหลดโปรแกรมโร้ดวันลงคอมพิวเตอร์ลงศูนย์กลาง ให้กับพนักงานรักษาความปลอดภัย
พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ทำงานในที่พำนักของอาคันตุกะ ส่วนมากจะเป็นพลเรือนที่มีฐานะไม่ค่อยดีเข้ามาทำงาน เพราะเงินเดือนของพนักงานรักษาความปลอดภัยนั้นค่อนข้างดี พวกเขาจะได้รับการฝึกฝนจากทหารบอร์ดี้การ์ดจอมทัพ หรือบุคคลสำคัญทางการเมือง ดังนั้นฝีมือของพวกเขาจึงไม่แพ้ชนชั้นทหารอย่างแน่นอน เมื่ออาชินทำการอัพโหลดโปรแกรมเสร็จแล้วก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ พบว่ามันใกล้ถึงเวลากินข้าวแล้ว
"อ่า ตอนนี้น้าๆลุงๆก็ใช้โปรแกรมนี้กันได้แล้ว ผมขอตัวไปกินข้าวก่อนนะครับ" อาชินกล่าวอย่างสุภาพ
"ไปกินข้าวเลยหนู มื้อเช้าสำคัญที่สุด ทีเหลือเดียวพวกน้าจัดการเอง" พนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งกล่าวขึ้น
อาชินตัดสินใจตามไปสมทบกับล้านซึ่งยืนรออยู่ข้างล่าง กับเพื่อนอีกสองคนซึ่งนั้นคือ บันโด เคน โตกว่าอาชินเพียงปีเดียว บันโดเป็นคนที่ค่อนข้างสูงและมีกล้าม ผมสีโค้กและมีดวงตาสีน้ำตาลทับทิม ส่วนอีกคนเป็นทอมบอยชื่อ หยางเสี่ยวฟง เตี้ยกว่าอาชินเล็กน้อยเป็นคนผิวขาวเหลือง ผมสีดำและดวงตาสีดำ เท่าที่อาชินรู้คือหยางเสี่ยวฟงเป็นน้องแฝดคนละฝากับหยางเสี่ยวจุน ล้านเอาข้าวกล่องมาให้อาชิน
"ไปกินตรงไหนดี" บันโดถาม
"ตรงสวนนั้นดีไหม มันโล่งดี" หยางเสี่ยวฟงเสนอขึ้น
พวกอาชินเห็นชอบด้วยจึงพากันเดินลงไปตรงนั้นกัน สวนภายในปราสาทนั้นมันตกแต่งเพื่อบรรยายกาศ สำหรับการดื่มน้ำชาแบบผู้ดีหรือพักผ่อน เพราะอากาศและแสงแดดอ่อนกำลังดีมาก แต่อาชินรู้สึกว่าทำไมต้นไม้มันเยอะผิดปกติ ในใจคิดเล่นเๆว่าคงไม่มีสัตว์ร้ายโผล่ออกมาหรอกนะ ทั้งสี่คนตัดสินใจนั่งกินตรงไม่ไกลจากปราสาทมากนัก เผื่อในกรณีฉุกเฉินจะได้เข้าไปช่วยเหลือได้ทันเวลา
"พวกนายคิดว่าไง เผ่าเทวานะ ฉันได้ยินมาว่าพวกนี้ผูกมิตรยากไม่ใช่เหรอ" สุรสีห์พูดขึ้น
"ไม่รู้สิ ฉันแอบได้ยินพวกผู้ช่วยแม่อากิพูดคุยกันนะว่า ผู้นำคนใหม่ชื่อว่า เซนไมเคิ้ลแห่งทานัค ตัดสินใจจะผููกพันธมิตรใหม่ๆ โดยประเทศเราอ่ะเป็นเจ้าแรกเลย" บันโดกล่าวพร้อมตักข้าวกับไข่ดาวเข้าปาก
อาณาจักรทานัคนั้นปิดประเทศมาเกือบจะ 20,000 ปี มาแล้วนับแต่เกิดสงครามที่รุนแรงที่สุด ที่เรียกได้ว่าเกือบทำให้เผ่าเทวานั้นสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ทำให้นับแต่นั้นอาณาจักรทานัคก็ไม่ยอม รับไมตรีจากนานาประเทศอีกจนกระทั่งปัจจุบัน แต่น่าแปลกใจสำหรับอาชินที่ผู้นำคนใหม่อย่างเซนไมเคิ้ลนั้นเดินทางมาที่นี้ พร้อมกับ ท่านหญิงซาบูน่า แฟรงเก้นต์ ภรรยาและลูกอีกสี่คน แต่ประเด็นคือบุคคลที่ทั้งสี่คนต้องคุ้มกันไม่ใช่ครอบครัวของเซนไมเคิ้ล แต่เป็นบุตรีเพียงคนเดียวของเซนไมเคิ้ลกับท่านหญิงซาบูน่านามว่า อลิสเซีย แฟรงเก้นต์
"แล้วนายคิดว่าอลิสเซียคนนี้เป็นคนยังไง" หยางเสี่ยวฟงถามขึ้น
"ไม่รู้เหมือนกัน ก็น่าจะดูเรียบร้อยนะ" อาชินออกความเห็น
"หิวน้ำว่ะ เดียวมานะ จะเอามาเผื่อด้วย" สุรสีห์พูดแล้วลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปหยิบน้ำ อาชินตัดสินใจกินข้าวที่ปลุกกับปลาทอดกระเทียมอย่างรวดเร็ว เพราะนี้มันเป็นเวลางานต้องแข่งกับเวลา แต่อยู่ดีๆเขาก็ได้ยินเสียงร้องของเพื่อนจากไม่ไกลมากนัก ทำให้พวกอาชินหันหน้ามามองกัน
หยางเสี่ยวฟงวิ่งนำก่อนคนแรกค่อยตามมาด้วยอาชินและบันโด เมื่อพวกเขามาตามเสียงก็ต้องตะลึงกับภาพที่เกิดขึ้น สุรสีห์กำลังถูกคล่อมโดยเสือสมิงพรายตนหนึ่ง แต่เด็กชายใช้ปืนยาวกันคมเขี้ยวของเสือสมิงพรายเอาไว้ บันโดไม่รอช้าเอาปืนกระทับบ่ายิงทันทีโดยไม่ต้องไตร่ตรอง กระสุนปืนนั้นอัดเข้าที่ลำตัวของเสือสมิงเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์อาชินเอาปั้นท้ายปืนฟาดเข้าที่ใบหน้าของเสือสมิงพราย ส่วนหยางเสี่ยวฟงนั้นหมุนตัวเหวี่ยงแข้งซ้ายเข้าที่ลำคอของมัน เสือสมิงพรายลงไปนอนกับพื้นอาชินช่วยพยุงสุรสีห์ขึ้นมา ทั้งหมดจับปืนขึ้นมาเล็งที่มันกันหมดซึ่งก่อนจะเกิดอะไรขึ้นนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
"หยุดนะ ! พวกเธอจะทำอะไรมันนะ" เสียงร้องห้ามดังขึ้นจากข้างหลัง
เมื่อพวกอาชินหันหลังกลับไปเจ้าของเสียงก็คือเด็กหญิงชื่ออลิสเซีย แฟรงเก้นต์ เธออยู่ในชุดสีขาวกระโปรงกุมเข่าโชว์หัวไหล่เหมือนเสื้อกล้ามประดับด้วยดอกไม้สีชมพู อาชินใจเต้นอีกครั้งที่พบเธออีกครั้งซึ่งเขาไม่รู้เป็นเพราะอะไร และดูเหมือนพี่น้องของเขาจะรับรู้ด้วย อลิสเซียวิ่งผ่านตัวของอาชินไปนั้นมันทำให้เขาได้กลิ่นหอม ผิวกายของเธอชัดเจนอย่างมาก
"คนใจร้าย ! มันไปทำอะไรให้เหรอ ถึงขั้นต้องยิงมันแบบนี้ มันไม่มีทางสู้พวกเธอได้อยู่แล้ว" คำพูดต่อว่าของเด็กหญิงทำให้สุรสีห์ของขึ้นพอสมควร
"ออ เหรอครับ แล้วคุณรู้รึเปล่าว่าไอ้ตัวที่ไม่มีทางสู้ของคุณนะ เกือบจะแดกหัวผมอยู่แล้ว เป็นเจ้าของรับผิดชอบดีๆหน่อยสิวะ"
"เฮ้ย ! ล้านอย่านั้นผู้หญิงนะ อย่าเลยไม่คุ้ม" อาชินร้องห้ามเอาไว้ ฝ่ายของเด็กหญิงไม่สนใจพวกเขานอกจากเสือตัวนั้น เธอใช้ฝ่ามือจับบริเวณที่มันโดนยิงแล้วเกิดแสงสีขาวขึ้น แล้วรอยแผลนั้นก็หายไป อาชินอึ้งไม่ใช่น้อย
"ไม่เป็นไรแล้วนะ "เจ้าตัวน้อย" โดนคนใจร้ายทำร้ายมาน่าสงสารจัง" เด็กหญิงพูดพร้อมลูบหัวมัน ซึ่งไอ้เสือสมิงพรายก็ออดอ้อนผิดกับก่อนหน้านี้ที่พยายามจะขยำเพื่อนเขา แต่คำพูดของเธอก็ทำให้อาชินไม่พอใจเช่นกัน
"น่าสงสารเหรอ สงสารเพื่อนผมดีกว่าไหมเจ็บตัวฟรียังมาโดนคนแบบคุณมาว่าอีก ไอ้ตัวข้างๆคุณนะมันเสือนะโว้ย ไม่ใช่ลูกแมว มันมาทำร้ายเพื่อนผม พวกเรามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัวได้เหมือนกัน"
"อาชิน นายนะหนักกว่าล้านอีก ใจเย็นๆ" หยางเสี่ยวฟงกระซิบข้างหูอีกฝ่าย
อลิสเซียทำหน้าไม่พอใจอย่างมากที่มาโดนต่อว่าแบบนี้ เธอจ้องหน้าใส่อาชินอย่างเอาเรื่องซึ่งแน่นอนว่าเด็กชายไม่ได้กลัว อยู่แล้วแต่ดูจากลักษณะแล้วน่าจะโดนเลี้ยงมาแบบตามใจ ดุจใข่ในหินแน่ๆถึงได้แสดงท่าทีเหมือนจะระเบิดผิดกับหน้าตาเป็นบ้า เสือสมิงพรายก็ทำท่าจะขยำพวกเขาอีกครั้งหากคิดทำอะไรเจ้านายมัน แต่ก่อนที่สถานการณ์จะแย่ไปมากกว่านี้ก็มีเสียงหนึ่งทักขึ้นอย่างตกใจ
"ดรีม ! มันเกิดอะไรขึ้นลูก" ท่านหญิงซาบูน่าร้องทักด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"ก็พวกคนเถื่อนนี้นะสิ มาทำร้าย "ลาล่า" ของหนู" อลิสเซียพูดพร้อมชี้มาทางกลุ่มเด็กชาย อาชินทำหน้าประมาณว่าพูดแบบนี้ไม่สวยเลยนะน้องสาว
"อาว อาว อาว พูดงี้ได้ไงเสือลาล่าห่าเหวของคุณมาทำร้ายเพื่อนผมก่อน ถ้าไม่ยิงมันจะให้เต้นไก่ยางถูกไม้เสียบหรือไง" อาชินพูดอย่างเดือดดาล เขาชักเริ่มไม่ไหวกับเธอคนนี้แล้ว
ท่านหญิงซาบูน่าเห็นแผลจากแขนของสุรสีห์ก็เดินมา เปิดแขนเสื้อของเด็กชายอย่างอ่อนโยนเผยให้เห็น แผลที่เกิดจากรอยข่วนของสัตว์นั้นเป็นการบอกว่าพวกเขาพูดความจริง ท่านหญิงซาบูน่าเอาฝ่ามือขวาสัมผัสลงบนแผล แล้วแสงสีขาวก็ชำระแผลนั้นจนหายดีแล้ว
"ขอโทษแทนเสือตัวนี้ด้วยนะ มันคงนึกว่าพวกนายเป็นผู้ร้าย มันทำตามสัญชาตญาณของสัตว์อย่าถือสามันเลย" ท่านหญิงซาบูน่ากล่าว
"อย่าสัญชาตญาณบ่อยละกันครับ เดียวได้กินลูกตะกั่วเป็นอาหารแทน" หยางเสี่ยวฟงเตือน อลิสเซียทำท่าไม่พอใจแต่ก็สงบลงเมื่อเจอสีหน้าเชิงตำหนิของมารดา
"ไปจากที่นี้กันเถอะ พวกผมขอตัวก่อนนะครับ" บันโดพูดพร้อมทำความเคารพ และลากน้องๆออกจากตรงนั้นแทน แต่สายตาของอาชินยังหันมามองทางเด็กหญิงอยู่ ถ้ารอบหน้าได้เจออีกจะสั่งสอนให้เข็ดเลย นี้คือสิ่งที่อยู่ในใจของอาชิน
+++++++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ