นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1

8.0

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.

  53 ตอน
  0 วิจารณ์
  43.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

34) ตอนที่ 34 พลังเนตรสีแดง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ห้องใต้ดินบ้านท่านทูตอากิระ เวลา 08.15 น.

หลังจากที่อาชินทำธุระทุกอย่างหมดแล้วเขารีบเดินลงมา ยังห้องใต้ดินทันทีเพราะวันนี้วันเสาร์เขามีตารางที่ต้องฝึก ระหว่างที่เดินลงมานั้นเขาได้เจอกับแฝดที่ถูกเลือกพร้อมกับเขาในวันนั้น โดยภายหลังรู้ว่าทั้งสองชื่อ ฉันชาย&ชัชชาติ พฤกษ์ภูมิ หรือจะเรียกอีกชื่อว่า เก้งกับก้าง จากการที่อยู่บ้านหลังเดียวกันมานั้นอาชินสังเกตว่า แฝดคู่นี้มีนิสัยที่แตกต่างกันสิ้นเชิงโดยฉันชายคนพี่ จะเป็นคนเฮฮาชอบเรียกเสียงหัวเราะ ทั้งหมดก็เพื่อให้เพื่อนๆไม่เครียดกับการฝึกมากเกินไป ส่วนชัชชาติคนน้องนั้นไม่ค่อยพูดนอกจากตามน้ำพี่ตัวเองมากกว่า

      แฝดกับอาชินมาถึงหน้าห้องพร้อมกันพอดีแน่นอนว่า พวกเขารู้ดีว่ามาสายจึงรีบเปิดประตูเข้าไป ซึ่งพบว่าทุกคนกำลังเตรียมความพร้อมในการฝึกกันแล้ว ในห้องใต้ดินบ้านของท่านทูตอากิระนั้นมีพื้นที่กว้างมาก บรรจุคนได้มากกว่าพันคนจุดประสงค์หลักคือ ต้องการให้การฝึกเหล่านักรบฟินิกซ์ เป็นความลับมากที่สุดไม่ต้องการให้คนนอกรู้ และระบบความปลอดภัยในห้องใต้ดินสูงมาก จะเป็นรองก็ระบบรักษาความปลอดภัยของวิหารนกฟินิกซ์

      "ทำไมนายสามคนถึงมาช้า" ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ร่างใหญ่ถามด้วยเสียงที่ดัง เขากับแฝดสะดุ้งและเกร็งตัวโดยอัตโนมัติทันที

      วันนี้เป็นวันที่พวกเขาต้องฝึกกับ พันตรีแม็กนุส เออเดอโกร์ ซึ่งเป็นพ่อของ โจชัวร์ เออเดอโกร์ โดยอายุน้อยกกว่าอาชิน 2-3 ปี ได้แต่จะมีแยกฝึกตามอายุเพื่อไม่ให้ปะปนกัน พันตรีแม็กนุสนั้นค่อนข้างกำยำรูปร่างใหญ่ ผิวสีแทนอาจเพราะโดนแดดเผา ผมสีดำและดวงตาสีดำ ที่เสื้อด้านขวามือของเขาจะมีแผ่นป้ายติดอยู่เป็นรูปหมาสีน้ำเงิน หันข้างซึ่งนั้นคือตราสัญลักษณ์ของหน่วยรบพิเศษหมาป่า ซึ่งอาชินได้ยินว่าใครเข้าหน่วยรบนี้ได้ถือว่าสุดยอดมาก

      "พวกผมตื่นสายครับ...ครั้งต่อไปจะไม่มีแบบนี้อีกครับ" อาชินพูดพร้อมโค้งตัวเพื่อขอโทษ

      "อย่าให้มีรอบต่อไปอย่างที่พูดละกัน" พันเอกแม็กนุสพูด

      อาชินไปร่วมกลุ่มกับพวกอาเจี๋ยที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ในขณะที่พันเอกแม็กนุสเดินไปประจำจุดของตน เนื่องจากเด็กรุ่นนี้ถูกเลือกค่อนข้างเยอะพอสมควร ทำให้ต้องมีการแยกกลุ่มในฝึกหลายกลุ่มเพื่อให้มันทั่วถึง อาชินจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงไม่เห็นพวกเสี่ยวหู่ นอกจากอาหมิง อาหลง และอาเจี๋ยเท่านั้น

      "แล้วละมาทบทวนกันสักหน่อยละกันถึงแม้ว่า จะพูดกันมาหลายรอบแล้วก็ตามพลังฟินิกซ์ที่พวกนายได้มานั้น มันมาจากลูกแก้วทั้ง 13 ลูกในวิหารนั้นแหละ ลูกแก้วสีไหนเลือกพวกนายเมื่อพวกนายใช้พลังนั้น ดวงตาของพวกนายก็จะเป็นสีนั้น... วันนี้ขอดูสิว่าพวกนายควบคุมมันได้มากน้อยแค่ไหน" พันตรีแม็กนุสพร้อมกับปรบมือรัวๆ เพื่อกระตุ้นให้พวกอาชินพยายามใช้พลังในตนเอง

      อาชินก็เริ่มเข้าชั้นตอนในการฝึกในทันทีโดยทำตามที่เคยฝึกก่อนหน้านี้ เด็กหวนคิดถึงภาพครั้งแรกที่เขาได้เห็นนกฟินิกซ์สีแดงเปลวเพลิง พุ่งเข้ามาในร่างกายของเขาและนึกถึงภาพดวงตาสีแดงออกมา มือทั้งสองข้างของอาชินกำแน่นมากแล้วเมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีฟ้าของอาชินนั้นกลายเป็นสีแดงทันที พันตรีแม็กนุสเห็นภาพดังกล่าวแล้วจึงหันหลัง แล้วเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวจากนั้นก็เอามีดมากรีดข้อมือตัวเอง เลือดที่ไหลออกมาพันตรีแม็กนุสทำการวาดเป็นมนตรา แล้วเหมือนเขาท่องมนอะไรสักอย่างแล้วเอาฝ่ามือวางลงบนวงแหวนมนตรา

      สักพักก็ตรงหัวมุมมืดนั้นก็เหมือนมีเสียงคำรามเบาๆอยู่ตรงนั้น ทุกคนต่างหันมามองว่าเสียงนั้นคืออะไร แล้วก็ได้คำตอบมาเจ้าของเสียงนั้นมันคือเป็นปีศาจที่มีลักษณะคล้ายต้นไม้ ตัวยังไม่สูงมากน่าจะขนาดเท่าตัวของอาชิน แต่เด็กชายรู้ดีว่าไม่ควรประมาทมัน เพราะกรงเล็บของมันยาวและคมพอตัว ถ้าโดนเนื้อเข้าละก็เลือดซิบไม่ใช่น้อยๆ มันไม่กล้าเข้ามาในพื้นที่ที่พวกอาชินยืนอยู่เพราะว่า พันตรีแม็กนุสยืนจ้องมองมัน และอาชินคิดว่ามันคงกลัวอีกฝ่ายไม่ใช่น้อยๆ

      "ใครอยากสู้กับปีศาจตัวนี้บ้าง มันยังโตไม่เต็มที่สักเท่าไหร่คิดว่าพวกนายเอาอยู่" พันตรีแม็กนุสกล่าว

      ทุกคนยังไม่มั่นใจสักเท่าไหร่เพราะที่ฝึกมาคือการใช้พลัง แต่ยังไม่เคยได้ใช้แบบของจริง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปีศาจตนนี้จึงยังกล้าๆกลัวๆอยู่ แต่อาชินตัดสินใจเดินเข้าไปเผชิญกับปีศาจต้นไม้ตนนั้น เมื่อมันเห็นเหยื่อที่มีขนาดตัวเท่ากันมันก็เปลี่ยนท่าทาง จากกลัวกลายเป็นการคุกคามทันที อาชินที่ตอนนี้เริ่มใช้พลังเนตรแดงนั้นเขารับรู้ได้ว่า เขาไม่ได้มีความกลัวต่อมันเลยแม้แต่น้อย เด็กชายอยากรู้แค่ว่าพลังในตัวเขาแข็งแกร่งแค่ไหน

      "เทียนเจี๋ย เพื่อนนายแปลกๆนะ" เด็กที่อยู่อีกฝั่งพูดกับอาเจี๋ย

      "ไม่เป็นไรขวัญ ใจเย็นๆถ้าเกิดอะไรขึ้นพวกเราค่อยไปช่วยกันก็ได้" อาเจี๋ยตอบ

      ทุกคนจึงลุ้นไปพร้อมๆกันกับการที่อาชินกำลังเผชิญหน้ากับปีศาจต้นไม้ ซึ่งอาชินพ้นอาณาเขตแล้วมันก็พุ่งตรงเข้าหาเขาทันที แต่อาชินเอียงตัวหลบและตอบโต้งกลับ ด้วยการจับหัวของมันกระแทกกับการแทงเข่า หน้าของมันแตกเหมือนกับเนื้อไม้แห้งแตก อาชินรู้สึกได้ว่าพลังเนตรจะทำให้ ทวงท่าที่เขาใช้นั้นมันรุนแรงมากและเขาก็ไม่อยู่เฉย ตามไปซ้ำเติมอีกรอบโดยการเหวี่ยงแข้งขวาเข้าที่ ต้นขาไม้ของมันเต็มแรง ขาของมันเหมือนจะหักในทันทีมันก็สวนกลับ ด้วยกรงเล็บฟันเข้าที่หน้าของอาชินเต็มๆ

      เลือดกระเซ็นลงพื้นเล็กน้อยแล้วก็ระเหยเป็นไอ แต่ภาพที่ปีศาจต้นไม้ต้องงุนงงคือใบหน้าของอาชิน ที่พึ่งโดนกรงเล็บข่วนนั้นแผลกลับสมานอย่างรวดเร็ว จนไม่เหลือรอยกรงเล็บแต่อย่างใดอาชินรู้สึกแสบ ตอนโดนกรงเล็บข่วนที่หน้าแต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บ หากเทียบกับสมัยที่ยังไม่ได้เป็นนักรบฟินิกซ์ มันเหมือนกับว่าความรู้สึกเจ็บปวดของอาชินลดลง เมื่อแผลทำการสมานแล้วอาชินก็ซัดกำปั้นเข้าที่ใบหน้าของปีศาจตนนั้น

      หน้าของมันเละหนักกว่าเดิมมากและมีของเหลวไหลออกมา มันมีลักษณะคล้ายยางที่อยู่ตามต้นไม้อาชินคิดว่ามันคงเป็น เลือดของมันแต่ที่เด็กชายสนใจนะคือกำปั้นของตน เขาคาดไม่ถึงเลยว่านี้ขนาดยังไม่ได้ใช้ไฟธาตุอัคคี ยังรุนแรงขนาดนี้แล้วถ้าใช้นะจะขนาดไหนกัน ระหว่างที่อาชินต่อสู้กับปีศาจนั้นทุกคนจับจ้องไม่ละสายตาเลย โดยเฉพาะกับอาเจี๋ยที่เหมือนกำลังวิเคราะห์บางอย่างอยู่

      "เมื่อกี้ตาฝาดรึเปล่าเนี่ย เหมือนแผลที่หน้ามัน..."

      "พลังฟินิกซ์ในตัวพวกเราจะรักษาบาดแผลทุกอย่าง แม้ว่าจะสาหัสแค่ไหนก็ตามลืมแล้วรึ" อาเจี๋ยพูด

      และแล้วมือทั้งสองข้างของอาชินเริ่มเรือนแสงเป็นสีแดง เขารับรู้ว่ามันไม่เหมือนสมัยตอนอยู่ค่ายในใจคิด อยากลองสักตั้งและเจ้าปีศาจต้นไม้ก็คำรามและวิ่งเข้าหาเขา อย่างรวดเร็วแต่อาชินใช้มือซ้ายจับท่อนแขนของมัน พร้อมใช้ฝ่ามือขวาสับลงท่อนแขนเหมือนเอามีดสับเนื้อ แขนของมันขาดสะบั้นทันทีเศษไม้ทำน้ำยางกระเด็นลงพื้น เต็มไปหมดเพื่อนของอาชินที่อยู่ข้างหลังทำหน้าอึ้งกับ ความโหดของอาชินเหมือนกัน

      สำหรับอาชินมันยังไม่พอต้องมากกว่านี้ คิดเสร็จอาชินก็จับหัวของปีศาจต้นไม้พร้อมกับเอาศรีษะ ของตัวเองกระแทกใส่เต็มแรงซึ่งหน้ามันแหกหนักกว่าเดิม จากที่มันดุร้ายก็กลายเป็นหวาดกลัวแทน แต่อาชินรู้ดีว่าปีศาจเหล่านี้ไม่ควรปราณีไม่ว่าจะตัวเล็ก หรือตัวใหญ่ก็ตามเพราะมันเกิดมาเพื่อฆ่าเท่านั้น เด็กชายจึงเผด็จศึกด้วยการใช้กำปั้นขวาที่เรือนแสงสีแดง อัดเข้ากลางหน้าอกของปีศาจเต็มแรง ผลออกมาคือกลางหน้าอกของมันกลายเป็นรูเบ้อเร่อ แล้วมันก็นอนหงายแน่นิ่งไปเลย

      แต่อาชินยังไม่สงบสักเท่าไหร่เหมือนตัวเขายังไม่สามารถ ดึงสติตัวเองกลับมาได้แต่สักพักก็มีมือใหญ่ๆมาแตะที่ หัวไหล่ของเด็กชายพร้อมกับเสียงแผ่วเบาๆ ผ่านเข้าในจิตใต้สำนึกของเด็กชาย สำหรับเขาแล้วมันเหมือนกับสายลมเย็น พัดผ่านมาราวกับเพื่อพัดดับไฟคลั่งในใจเขาตอนนี้                                      

      "สงบใจไว้ไอ้หนูกำหนดลมหายใจเข้า-ออก นึกอะไรก็ได้ที่เย็นๆ อย่างเช่น น้ำ"

      อาชินหลับตาอย่างสงบพร้อมกับทำตามที่พันตรีแม็กนุสบอก เมื่อลืมตาขึ้นมาดวงตาสีแดงก็กลายเป็นสีฟ้าตามปกติ อาชินที่กลับมาปกติแล้วรู้สึกว่าเมื่อกี้นี้เหมือนกับ มันไม่ใช่ตัวเขาเลยในตอนนั้นคล้ายกับว่าเขากำลัง สนุกกับมัน... สนุกกับการฆ่าและต่อสู้ สติของเขากลับมาอีกครั้งเมื่ออาเจี๋ยสะกิดเขา เพื่อพากลับมาอยู่แถวเดียวกันส่วนพันตรีแม็กนุส ก็ก้มมองดูนาฬิกาข้อมือของเขาดูเหมือนว่าเวลาที่จะสอนจะไม่ค่อยมีเท่าไหร่

      "วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกัน พวกนายตอนนี้ก็เริ่มที่สามารถใช้พลังนี้กันได้แล้ว แต่มีอย่างหนึ่งที่ฉันอยากเตือนพวกนายจงควบคุมมันไม่ใช่ให้พลังควบคุมพวกนาย จำไว้แค่นั้นพอ" พันตรีแม็กนุสกล่าวทิ้งท้าย แต่มันกลับมีความหมายสำหรับอาชินอย่างมาก

               

       

                               

                                                         ++++++++++++++++++++++++++++                

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา