นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
8.0
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
53 ตอน
0 วิจารณ์
43.29K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) ตอนที่ 25 เดินทางกลับค่าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ้านตระกูลหวง เวลา 07.00 น.
หวงฉี่ชุ่นนำกระเป๋าเดินทางของหลานชายทั้งสองคนใส่ท้ายรถ ซึ่งอาชินกับอาถิงเดินตามมาติดๆแต่ที่น่าแปลกใจคือหม่าญวน ผู้ที่เป็นทั้งภรรยาและย่าไม่ยอมออกมาจากบ้านเลย ตามปกติแล้วเธอจะออกมาส่งพวกเขากลับค่ายซึ่งอาชินเดาว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากการที่อาถิงเปลี่ยนไปในสายตาของหม่าญวน เนื่องจากว่าอาถิงดั่งเดิมนั้นค่อนข้างติดหม่าญวนมากและขี้อ้อนด้วยซ้ำ แต่เมื่ออาถิงไปอยู่ค่ายยุวชนทหารนั้นอาถิงกลายเป็นคนละคนจนเรียกได้ว่า หม่าญวนทำใจยอมรับไม่ได้หลายวันที่อาชินกับอาถิงอยู่บ้าน ย่าแทบไม่ยอมพูดคุยกับพวกเขาหรือแม้แต่กับสามีอย่างหวงฉี่ชุ่นเลย การกลับมาบ้านครั้งนี้จึงดูน่าอึดอัดกว่าที่คิดไว้ชะอีก
"นายคิดว่าย่ายังโกรธฉันอยู่ไหม" อาถิงถามด้วยความไม่สบายใจมาก
"ฉันไม่แน่ใจว่าย่าโกรธที่นายเปลี่ยนไป หรือที่ไปมีเรื่องกันที่ตลาดนะสิ" อาชินตอบ
หลังจากกลับจากตลาดอู๋มาก็มีทางตำรวจคอมมาโดมาแจ้งทางบ้านว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นซึ่งแน่นอนว่าเขากับอาถิงโดน หม่าญวนสวดยับไม่ยั้งที่พวกเขาเอาชีวิตไปเสี่ยง ในขณะเดียวกันนั้นชายหนุ่มที่มาช่วยพวกเขาไว้นั้นก็กล่าวชื่นชม ในความกล้าหาญต่อหน้าหวงฉี่ชุ่นเมื่อรู้ว่าอาชินกับอาถิงเป็นลูกหลานใคร โดยภายหลังอาชินพึ่งรู้ว่าชายคนนี้มีชื่อว่า "อู๋จิ่นฟาง" เป็นลูกชายของตระกูลอู๋ลำดับที่ 2 ที่คอยทำหน้าที่ดูแลกิจการในตลาดนั้นทั้งหมด ตลาดนั้นเคยเป็นของพลเรือนแต่มีช่วงหนึ่งที่เกิดพิษของเศรษฐกิจ ทำให้เจ้าของตลาดจะเซ็ง ผู้นำตระกูลอู๋ลำดับที่ 2 จึงซื้อต่อและตลาดนั้นก็กลายเป็นขุมทองนับแต่นั้น
"พวกหลานรออยู่นี้นะ เดียวปู่ไปเอาของก่อน" พูดจบหวงฉี่ชุ่นก็เดินพรวดพรากเข้าบ้านไป แต่อาชินกับอาถิงมองหน้ากันทันที
"นายคิดว่าปู่ลืมของจริงไหม" อาถิงพูด
"ลืม ! แต่ไม่ใช่ของแน่นอน" อาชินพูดอย่างมั่นใจ
หวงฉี่ชุ่นเดินเข้ามาในบ้านแล้วเดินตรงไปยังห้องหลังบ้าน ซึ่งอยู่ถัดจากห้องกินข้าวไปก็จะเป็นห้องสำหรับชักผ้า และรีดผ้าโดยเฉพาะและมีที่ตากผ้าให้โดยมีการทำให้ตรงนั้นรับแดดรับลมง่าย หม่าญวนกำลังทำงานบ้านตามปกติซึ่งสำหรับหวงฉี่ชุ่นเขารู้ดีว่ามันไม่ปกติ และรู้ด้วยว่าทำไมเธอไม่ยอมไปส่งหลานชายทั้งสองขึ้นรถ ส่วนหม่าญวนที่รู้ว่าสามีอยู่ข้างหลังก็ไม่พูดไม่จายังคงชักผ้าเหมือนเดิม
"คุณน่าจะไปส่งหลานหน่อยนะเพราะอีกนาน กว่าจะได้เจอกัน" หวงฉี่ชุ่นพูด
"ถ้าฉันไปส่งมันจะมีอะไรเปลี่ยนไหมละค่ะ มันทำให้พวกเขาไม่ไปได้ไหมละ" หม่าญวนพูดเสียงห้วน
"มันเป็นไปไม่ได้คุณก็รู้...คุณเรียกร้องทำไม" หวงฉี่ชุ่นพูดพร้อมกับถอนหายใจ ซึ่งเมื่อได้ยินดังนั้นทำให้เธอนั้นถึงกับฉุนขาดและหันหน้ามามองสามี ด้วยสายตาที่โกรธมากจนเขาเองก็ตกใจไม่ใช่น้อย
"เรียกร้องงั้นเหรอ ฉันเสียลูกไปสามคน ! สามคน ! ฉันไม่เหมือนคุณนะที่ไร้ความรู้สึก ตอนงานศพลูกไม่มีแม้แต่น้ำตาสักหยดด้วยซ้ำ มันยากมากนักเหรอที่จะแสดงความรู้สึกนะ... ตอนนี้หลานก็กำลังจะเป็นเหมือนพวกเขา ฉันทำใจรับไม่ได้หรอกนะ"
"แล้วต้องการให้ผมทำอะไรเหรอ.. ไม่พาพวกเขากลับค่ายรู้ไหมว่า โทษของการฝ่าฝืนกฎ..."
"กฎ กฎ กฎ อะไรก็อ้างว่ากฎหมาย มีสักครั้งที่คุณจะไม่อ้างข้อนี้นะ" หม่าญวนตัดบทขึ้นมา
"คุณอยากให้ผมโดนยิงเป่ามากเลยรึไง หา!" หวงฉี่ชุ่นพูดเสียงลั่น ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงทันที
เมื่อเห็นหม่าญวนสะดุ้งด้วยความตกใจอย่างมาก หวงฉีุ่่ชุ่นจึงหลับตาเพื่อสงบพลังในตัวของตนเอง แล้วจากดวงตาสีแดงก็กลับมาเป็นสีดำเช่นเดิม ชายหนุ่มกำมือทั้งสองข้างแน่นมากไม่ใช่ว่า เขาไม่เข้าใจความเจ็บปวดของภรรยาที่ต้องเสียลูกไปถึงสามคน เข้าใจสิเข้าใจดีมากกว่าที่ตัวเธอคิดด้วยซ้ำ แต่จะมาให้ฝ่าฝืนกฎหมายของกองทัพในการพาหลานหนีทหารมันไม่ถูกต้อง
"ผมขอโทษ... " พูดจบหวงฉี่ชุ่นก็รีบเดินจากไปทันที
หวงฉี่ชุ่นรีบเดินออกมาจากตรงนั้นโดยที่ไม่หันกลับไปมองภรรยาตนเอง เขาออกมาจากบ้านซึ่งอาชินกับอาถิงก็ทำหน้างงว่า ทำไมปู่ของพวกเขาทำหน้าแบบนั้น
"ขึ้นรถกันได้แล้ว ย่าเขาทำงานบ้านออกมาส่งไม่ได้" หวงฉี่ชุ่นพูดพร้อมขึ้นรถไป
เด็กชายทั้งสองมองหน้ากันเองและพร้อมใจกันหันหน้าไปมองบ้าน ก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นรถกันไปในใจเด็กทั้งสองนั้น เหมือนกันคือปู่กับย่าต้องมีอะไรกันแน่ๆ แถมบรรยากาศในรถยังชวนน่าอึดอัดอีกต่างหาก ทั้งสองไม่กล้าที่จะคุยเล่นกันเลยแต่อาชินเห็นหน้าของหวงฉี่ชุ่นตรงกระจกอันเล็กในรถ เขาเห็นน้ำใสๆคลอบตาของปู่เอาไว้
"ปู่ครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ" อาชินถามขึ้น
"เปล่า ฝุ่นมันเข้าตานะ" หวงฉี่ชุ่นพึ่งได้สติกล่าว
รถของหวงฉี่ชุ่นแล่นออกจากบ้านแล้วขับเข้าสู่ท้องถนนแล้ว อาชินกับอาถิงหันกลับมองบ้านอีกครั้งซึ่งคราวนี้ มันไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนตอนไปรายงานตัววันแรก แต่เป็นความกังวลเล็กของเด็กชายสองคนที่เริ่มจะรับรู้ รอยร้าวฉานที่กำลังค่อยๆ แตกมากขึ้นนิดๆ
++++++++++++++++++++++++++++
หวงฉี่ชุ่นนำกระเป๋าเดินทางของหลานชายทั้งสองคนใส่ท้ายรถ ซึ่งอาชินกับอาถิงเดินตามมาติดๆแต่ที่น่าแปลกใจคือหม่าญวน ผู้ที่เป็นทั้งภรรยาและย่าไม่ยอมออกมาจากบ้านเลย ตามปกติแล้วเธอจะออกมาส่งพวกเขากลับค่ายซึ่งอาชินเดาว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากการที่อาถิงเปลี่ยนไปในสายตาของหม่าญวน เนื่องจากว่าอาถิงดั่งเดิมนั้นค่อนข้างติดหม่าญวนมากและขี้อ้อนด้วยซ้ำ แต่เมื่ออาถิงไปอยู่ค่ายยุวชนทหารนั้นอาถิงกลายเป็นคนละคนจนเรียกได้ว่า หม่าญวนทำใจยอมรับไม่ได้หลายวันที่อาชินกับอาถิงอยู่บ้าน ย่าแทบไม่ยอมพูดคุยกับพวกเขาหรือแม้แต่กับสามีอย่างหวงฉี่ชุ่นเลย การกลับมาบ้านครั้งนี้จึงดูน่าอึดอัดกว่าที่คิดไว้ชะอีก
"นายคิดว่าย่ายังโกรธฉันอยู่ไหม" อาถิงถามด้วยความไม่สบายใจมาก
"ฉันไม่แน่ใจว่าย่าโกรธที่นายเปลี่ยนไป หรือที่ไปมีเรื่องกันที่ตลาดนะสิ" อาชินตอบ
หลังจากกลับจากตลาดอู๋มาก็มีทางตำรวจคอมมาโดมาแจ้งทางบ้านว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นซึ่งแน่นอนว่าเขากับอาถิงโดน หม่าญวนสวดยับไม่ยั้งที่พวกเขาเอาชีวิตไปเสี่ยง ในขณะเดียวกันนั้นชายหนุ่มที่มาช่วยพวกเขาไว้นั้นก็กล่าวชื่นชม ในความกล้าหาญต่อหน้าหวงฉี่ชุ่นเมื่อรู้ว่าอาชินกับอาถิงเป็นลูกหลานใคร โดยภายหลังอาชินพึ่งรู้ว่าชายคนนี้มีชื่อว่า "อู๋จิ่นฟาง" เป็นลูกชายของตระกูลอู๋ลำดับที่ 2 ที่คอยทำหน้าที่ดูแลกิจการในตลาดนั้นทั้งหมด ตลาดนั้นเคยเป็นของพลเรือนแต่มีช่วงหนึ่งที่เกิดพิษของเศรษฐกิจ ทำให้เจ้าของตลาดจะเซ็ง ผู้นำตระกูลอู๋ลำดับที่ 2 จึงซื้อต่อและตลาดนั้นก็กลายเป็นขุมทองนับแต่นั้น
"พวกหลานรออยู่นี้นะ เดียวปู่ไปเอาของก่อน" พูดจบหวงฉี่ชุ่นก็เดินพรวดพรากเข้าบ้านไป แต่อาชินกับอาถิงมองหน้ากันทันที
"นายคิดว่าปู่ลืมของจริงไหม" อาถิงพูด
"ลืม ! แต่ไม่ใช่ของแน่นอน" อาชินพูดอย่างมั่นใจ
หวงฉี่ชุ่นเดินเข้ามาในบ้านแล้วเดินตรงไปยังห้องหลังบ้าน ซึ่งอยู่ถัดจากห้องกินข้าวไปก็จะเป็นห้องสำหรับชักผ้า และรีดผ้าโดยเฉพาะและมีที่ตากผ้าให้โดยมีการทำให้ตรงนั้นรับแดดรับลมง่าย หม่าญวนกำลังทำงานบ้านตามปกติซึ่งสำหรับหวงฉี่ชุ่นเขารู้ดีว่ามันไม่ปกติ และรู้ด้วยว่าทำไมเธอไม่ยอมไปส่งหลานชายทั้งสองขึ้นรถ ส่วนหม่าญวนที่รู้ว่าสามีอยู่ข้างหลังก็ไม่พูดไม่จายังคงชักผ้าเหมือนเดิม
"คุณน่าจะไปส่งหลานหน่อยนะเพราะอีกนาน กว่าจะได้เจอกัน" หวงฉี่ชุ่นพูด
"ถ้าฉันไปส่งมันจะมีอะไรเปลี่ยนไหมละค่ะ มันทำให้พวกเขาไม่ไปได้ไหมละ" หม่าญวนพูดเสียงห้วน
"มันเป็นไปไม่ได้คุณก็รู้...คุณเรียกร้องทำไม" หวงฉี่ชุ่นพูดพร้อมกับถอนหายใจ ซึ่งเมื่อได้ยินดังนั้นทำให้เธอนั้นถึงกับฉุนขาดและหันหน้ามามองสามี ด้วยสายตาที่โกรธมากจนเขาเองก็ตกใจไม่ใช่น้อย
"เรียกร้องงั้นเหรอ ฉันเสียลูกไปสามคน ! สามคน ! ฉันไม่เหมือนคุณนะที่ไร้ความรู้สึก ตอนงานศพลูกไม่มีแม้แต่น้ำตาสักหยดด้วยซ้ำ มันยากมากนักเหรอที่จะแสดงความรู้สึกนะ... ตอนนี้หลานก็กำลังจะเป็นเหมือนพวกเขา ฉันทำใจรับไม่ได้หรอกนะ"
"แล้วต้องการให้ผมทำอะไรเหรอ.. ไม่พาพวกเขากลับค่ายรู้ไหมว่า โทษของการฝ่าฝืนกฎ..."
"กฎ กฎ กฎ อะไรก็อ้างว่ากฎหมาย มีสักครั้งที่คุณจะไม่อ้างข้อนี้นะ" หม่าญวนตัดบทขึ้นมา
"คุณอยากให้ผมโดนยิงเป่ามากเลยรึไง หา!" หวงฉี่ชุ่นพูดเสียงลั่น ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงทันที
เมื่อเห็นหม่าญวนสะดุ้งด้วยความตกใจอย่างมาก หวงฉีุ่่ชุ่นจึงหลับตาเพื่อสงบพลังในตัวของตนเอง แล้วจากดวงตาสีแดงก็กลับมาเป็นสีดำเช่นเดิม ชายหนุ่มกำมือทั้งสองข้างแน่นมากไม่ใช่ว่า เขาไม่เข้าใจความเจ็บปวดของภรรยาที่ต้องเสียลูกไปถึงสามคน เข้าใจสิเข้าใจดีมากกว่าที่ตัวเธอคิดด้วยซ้ำ แต่จะมาให้ฝ่าฝืนกฎหมายของกองทัพในการพาหลานหนีทหารมันไม่ถูกต้อง
"ผมขอโทษ... " พูดจบหวงฉี่ชุ่นก็รีบเดินจากไปทันที
หวงฉี่ชุ่นรีบเดินออกมาจากตรงนั้นโดยที่ไม่หันกลับไปมองภรรยาตนเอง เขาออกมาจากบ้านซึ่งอาชินกับอาถิงก็ทำหน้างงว่า ทำไมปู่ของพวกเขาทำหน้าแบบนั้น
"ขึ้นรถกันได้แล้ว ย่าเขาทำงานบ้านออกมาส่งไม่ได้" หวงฉี่ชุ่นพูดพร้อมขึ้นรถไป
เด็กชายทั้งสองมองหน้ากันเองและพร้อมใจกันหันหน้าไปมองบ้าน ก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นรถกันไปในใจเด็กทั้งสองนั้น เหมือนกันคือปู่กับย่าต้องมีอะไรกันแน่ๆ แถมบรรยากาศในรถยังชวนน่าอึดอัดอีกต่างหาก ทั้งสองไม่กล้าที่จะคุยเล่นกันเลยแต่อาชินเห็นหน้าของหวงฉี่ชุ่นตรงกระจกอันเล็กในรถ เขาเห็นน้ำใสๆคลอบตาของปู่เอาไว้
"ปู่ครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ" อาชินถามขึ้น
"เปล่า ฝุ่นมันเข้าตานะ" หวงฉี่ชุ่นพึ่งได้สติกล่าว
รถของหวงฉี่ชุ่นแล่นออกจากบ้านแล้วขับเข้าสู่ท้องถนนแล้ว อาชินกับอาถิงหันกลับมองบ้านอีกครั้งซึ่งคราวนี้ มันไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนตอนไปรายงานตัววันแรก แต่เป็นความกังวลเล็กของเด็กชายสองคนที่เริ่มจะรับรู้ รอยร้าวฉานที่กำลังค่อยๆ แตกมากขึ้นนิดๆ
++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ