นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1
8.0
เขียนโดย กนกพัชร
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.
53 ตอน
0 วิจารณ์
43.30K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
23) ตอนที่ 23 เที่ยวตลาด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมืองหลวง เวลา 09.14 น.
อาชิน อาถิง และเฟรมต่างพากันปั้นจักรยานกัน โดยทั้งสามมีเป้าหมายจะมาที่ตลาดในเมืองหลวง แต่เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกลมากทำให้อาชินกับอาถิงจำเป็นต้องมาค้างที่บ้านของเฟรม ซึ่งแน่นอนว่าอิลซ่ากับเบดเดอร์สนั้นต้อนรับพวกเขาอย่างเป็นมิตร ลูอิสก็มีท่าทีที่ค่อนข้างเป็นมิตรพอสมควร แต่กับพี่คนอื่นนั้นทำยังกับอาชินและอาถิงไม่มีตัวตน ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ได้แคร์มากเท่านั้น ในตอนแรกนั้นทั้งสามอยากนอนบ้านต้นไม้ แต่เนื้อที่ของเตียงไม่เพียงพอที่จะนอนกันสามคน พวกเขาจำใจต้องนอนห้องเฟรมกันซึ่งพอถึงเช้าพวกเขาก็พากันรีบปั้นจักรยานออกจากบ้านทันที
"วันนี้ลมเย็นเป็นบ้าเลย" อาถิงพูดแข่งกับสายลมที่พัดเข้ากับหน้าเขา
"ไม่เย็นได้ไงก็นายปั้นเร็วจะตาย" เฟรมที่ปั้นอยู่ข้างๆพูดเสริม
ทั้งสามปั้นจักรยานบนเส้นทางสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ ซึ่งมันจะคู่ขนานกับทางเดินเท้าของคน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางท้องถนน สำหรับกฏจราจรในฟรอนร์เทียร์ค่อนข้างเคร่งครัดมาก ถ้าพลเรือนทำผิดกฏจราจรจะโดนค่าปรับ 3,000 รูริก (90,000 บาท) จะมีการตักเตือนสองครั้งซึ่งหากยังทำอีก ใบขับขี่จะถูกยึดทันทีและหากจะเอาคืนต้องแลกด้วย การบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนร่วมเท่านั้นถึงจะได้ใบขับขี่ แต่ถ้าคนทำผิดคือชาวฟรอนร์เทียร์ชะเองมีโทษสถานเดียวคือ จำคุก 4 เดือน
นี้เป็นครั้งแรกของอาชินและอาถิงที่ได้มาตัวเมืองหลวง เนื่องจากบ้านของพวกเขาอยู่เกือบๆชานเมืองของเขตA-01 แต่บ้านของเฟรมนั้นอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองหลวงมากนัก สามารถนั่งรถโดยสารสายเดียวมาได้หรือจะทำแบบทั้งสามคือ ปั้นจักรยานมาเที่ยวตัวเมืองได้ บรรยากาศในตัวเมืองนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย มีร้านอาหารริมทางหรือแม้แต่ร้านอาหารใหญ่ๆ ร่วมไปถึงห้างสรรพสินค้าที่คนต่างพากันไปช็อปปิ้ง หรืออาจแค่เดินเสพบรรยากาศข้างในเฉยๆ
"เออ...เฟรมมันใหญ่โตไปนะ" อาชินพูดขึ้น เขารู้สึกลายตากว่าที่คิด
"ฉันเข้าใจเพื่อน นายอาจยังไม่ชินเท่าไหร่" เฟรมพูดพร้อมตบหลังเบาๆ
"ที่นี้ก็น่าเดินเล่นนะพวก เปลี่ยนใจไหม" อาถิงถามขึ้น
"ไม่ละ ไม่ชอบคนเยอะไปตลาดที่เฟรมบอกนะดีแล้ว" อาชินพูดขึ้น
เฟรมกับอาถิงก็เข้าใจจึงไม่ขัดและนำจักรยานของพวกเขา ไปจอดสำหรับจักรยานซึ่งมีระบบล็อคกันขโมย ซึ่งจะปลดล็อคได้ด้วยลายนิ้วมือของเจ้าของจักรยานเท่านั้น จากนั้นเฟรมก็เดินนำทางเพื่อนของเขาทันที อาชินก็สังเกตว่ามีเด็กรุ่นเดียวกันเดินเล่นรอบเมืองเหมือนกัน สาเหตุที่พวกเด็กๆอย่างเขากล้าออกมาเดินกัน เพราะมีตำรวจหลายนายเดินตรวจตราตลอดเวลา ทำให้ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเด็กหายเลยสักครั้ง
"ตลาดของนายไกลนะเนี่ย ทำไมไม่เอาจักรยานมาละ" อาชินถาม
"ไม่ไกลมากหรอกผ่านร้านอาหารนี้ไปก็เจอแล้ว อีกอย่างเอาจักรยานไปก็ไม่มีที่จอดหรอกนะพวก" เฟรมกล่าว
ทั้งสามผ่านร้านอาหารแล้วก็พบทางเช้าพอดีโดยมันมีป้ายเขียนว่า "ตลาดอู๋" อาชินสังเกตว่ามีคนเข้า-ออกตลาดตลอด มันให้ความรู้สึกครึกครื้นแต่ก็ไม่อึดอัด มีของขายด้านขวากับซ้ายซึ่งน่าจะเป็นพวกเนื้อสด ซึ่งพ่อค้าและแม่ค้าจะมีของสดอยู่ในตู้แช่เนื้อสด ถึงแม้จะอยู่ในตู้แช่เนื้อจะถูกห่อด้วย พลาสติกอย่างดีเพื่อกันสิ่งสกปรก และเพื่อความปลอดภัยต่อผู้มาซื้อเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจคุณภาพของอาหารค่อนข้างเคร่งมากกับพวกเนื้อสด
"คนเยอะจัง" อาถิงพูดอย่างตื่นเต้น
"นี้แค่ข้างนอกนะแต่ข้างในมีเยอะตามมาเลย" เฟรมพูดจบก็ลากเพื่อนรักของเขาเข้าตลาดทันที
อาชินเดินเข้ามาในตัวตลาดแล้วก็เริ่มมองซ้ายสลับขวา โซนแรกที่เลยจะเป็นเนื้อสดที่ห่อด้วยพลาสติกแช่ในตู้ มีทั้งเนื้อไก่ หมู และวัว ลูกค้าเมื่อซื้อเนื้อแล้วพ่อค้าหรือแม่ค้าจะทำการ ชั่งน้ำหนักแล้วค่อยทำการใส่ถุงแล้วปิดเทปเอาไว้ เนื้อไก่นั้นจะแบ่งเป็นโหลละ 80 รูริก (2,400 บาท) ส่วนเนื้อหมูนั้นจะแบ่งราคาตามแต่ไซร์ของเนื้อ สำหรับอาชินแล้วท่าทางคนในตัวเมืองหลวงนั้นคงลำบาก ในการซื้อกิน ตรงข้ามกับแถวบ้านของเขาซึ่งจะมีรถส่งเนื้อสดและผักมาขาย ทุกเช้าเสมอที่สำคัญได้ปริมาณมากกว่าที่เขาเห็นในตลาดสดนี้
เมื่อผ่านโซนขายเนื้อแล้วมานั้นเฟรมพาเดินไปทางลัด เนื่องจากฝูงชนเยอะมากกว่าปกติอาชินกับอาถิง จึงต้องเดินตามเฟรมเพราะอีกฝ่ายน่าจะชำนาญทางมากกว่า แม้ว่าพวกเขาจะเดินผ่านแบบไม่มีการแวะอะไรเลย แต่เด็กชายทั้งสองก็พอรู้เห็นรูปแบบการจัดของตลาดได้ว่ามันจะแบ่งเป็นโซน เป็นบล็อกใครบล็อกมันและแบ่งประเภทด้วย ซึ่งบล็อกที่เฟรมพามานั้นคือบล็อกของเล่นทุกชนิด บล็อกนี้มีของเล่นทุกอย่างที่วัยอย่างพวกเขาชอบทั้งนั้น
"พวกนายจะซื้ออันไหนแล้วแต่เลย ฉันจะไปซื้อรถถังจรวจ 8 กระบอก" เฟรมพูดจบก็วิ่งไปตรงที่ร้านที่เน้นขายรถถังเป็นหลัก
"นายอยากได้อะไรไหม" อาถิงหันมาถาม
อาชินเลือกที่จะไม่ตอบแต่หันไปสะดุดร้านที่อยู่ขวามือ ซึ่งมันเป็นร้านขายปืนบีบีกันและยังมีดาบ มีด ธนู หน้าไม้ ขวาน ค้อน หอก และยังมีหนังสติ๊กด้วย อาชินมองสำรวจของเล่นเหล่านั้นอยู่ในขณะที่อาถิงนั้น เขาดันเห็นเรือรบลำใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ในร้านข้างๆ อาถิงแสดงออกชัดเจนว่าเขาอยากได้มากแต่เมื่อเห็นราคาแล้ว เด็กชายทำหน้าผิดหวังเพราะเงินที่ได้มานั้นไม่พอ จึงได้แต่เลือกเรือลำอื่นที่เงินของเขาพอซื้อ ในขณะที่อาชินนั้นไปสะดุดกับปืนพกยี่ห้อ AMT Hardballer สีดำเข้า มีป้ายติดไว้ว่าลดราคาเหลือ 1,200 รูริก (36,000 บาท)
"สนใจไหมเหลือกระบอกสุดท้ายแล้ว" ลุงคนขายเอ๋ยกับเขาอย่างเป็นมิตร
"ดาบไม้เล่มนี้ละครับ" อาชินถามพร้อมกับยกดาบไม้ขึ้นมาถาม
"ดาบไม้จะถูกกว่าหน่อย 400 รูริกนะ"
"ผมเอาสองอันนี้ครับ" อาชินยื่นดาบไม้กับปืนให้ลุงคนขาย
"ทั้งหมด 1,600 รูริก"
เมื่อจ่ายเงินให้กับลุงคนขายแล้วได้หันไปมองเพื่อนอีกสองคน เฟรมกับอาถิงยังเลือกของเล่นกันอยู่ทำให้ เขาเลือกจะรอจนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังขึ้นดึงดูดความสนใจเขา บล็อกถัดจากของเล่นไปมันเป็นเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ของสัตว์ โดยโซนแรกจะเป็นหมากับแมว พวกมันส่งเสียงไปทั่วโซนนั้นกันราวกับพยายามเรียกร้องให้รับพวกมัน กลับไปอยู่ที่บ้านแน่นอนว่าในโซนนั้นก็มีผู้คนล้อมดูเพื่อเลือกซื้อหมาซึ่งจะมีทั้งทหารและพลเรือน อาชินตัดสินใจเดินเข้าไปในโซนนั้นเพื่อฆ่าเวลา
อาชินเดินเข้ามาดูร้านขายหมาขายน้องหมาต่างๆ แต่ละตัวนั้นเขายอมรับว่ามันน่ารักมากๆและยอมเอาไปเลี้ยง แค่หวังลมๆแล้งๆเพราะเขาไม่แน่ใจว่าหวงฉี่ชุ่นกับหม่าญวนจะอนุญาตไหม ที่สำคัญอีกไม่กี่สัปดาห์เขากับอาถิงจะไปค่ายแล้ว มันก็เป็นการเพิ่มภาระให้หม่าญวนอย่างไม่จำเป็น ระหว่างที่เดินอยู่นั้นก็มีเสียงดังทักขึ้นทำให้อาชินต้องหันไปมองตามเสียง เขาเจอสุนัขพันธุ์อัลเซเชี่ยนตัวเล็กน่าจะยังไม่โตมาก เป็นลูกสุนัขขนสีดำตั้งแต่หน้ายันลำตัวส่วนขาขนจะเป็นสีน้ำตาล ขนของมันจะดูฟู่ๆ หน่อยๆ น่ารักน่าหยิกมาก
"สนใจรับไปสักตัวไหมละ" เสียงทักจากข้างหลังดังขึ้น อาชินหันไปเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ เขาเดาว่าคงเป็นเจ้าของร้านแน่นอน
"เจ้าตัวนั้นมันเลือกนายนะ... ถ้าอยากได้ฉันลดราคาให้สนใจไหม" เจ้าของร้านถาม
"ไม่ดีกว่าครับผมพึ่งจ่ายค่าของเล่นไป คงไม่พอซื้อเจ้าตัวนี้หรอกครับอีกอย่างผมไม่มีเวลาดูแลมันหรอกครับ" อาชินพูดอย่างเป็นมิตรก่อนจะตัดสินใจเดินไป
เจ้าลูกสุนัขอัลเซเชี่ยนทำหน้าจ๋อยทันทีที่เด็กชายเดินหนีแบบนั้น แน่นอนว่าอาชินเลือกจะไม่สบตากับมันเพราะกลัวใจอ่อน แต่พอเขาก้าวเท้าไม่ไกล เขาได้ยินเสียงเหมือนมีกลุ่มคนหลายคนดังมาจากข้างหลัง เด็กชายหันกลับมาปรากฏว่าเจ้าของร้านขายหมาที่พึ่งจะสนทนากับเขานั้นถูกคุกคามอยู่ และที่น่าตกใจคืออาชินพบว่าเจ้าของร้านนั้นใส่ขาเทียม ซึ่งนักเลงในกลุ่มนั้นก็ทำร้ายเขาจนขาเทียมหลุดออกจากร่างกาย เหล่าสุนัขพากันร้องเสียงเห่าใส่พวกมันทำให้นักเลงคนหนึ่ง เอาฟาดลูกสุนัขจมกองเลือดไปสองตัวสร้างความตกใจและขวัญผวาให้กับทุกคนมาก โดยเฉพาะกับอาชินที่ภาพหลอนมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง
"ไอ้ด้วน! มึงติดหนี้ลูกพี่พวกกูไว้ยังไม่จ่ายนะเว้ย" นักเลงคนหนึ่งพูดขึ้น
"ฉันจ่ายไปแล้วเมื่อเช้า อย่ามาเล่นลิ้น" สิ้นคำนักเลงคนนั้นก็เตะปากของเจ้าของเลือกกลบทันที
"ปากดีนะมึงขอกระทืบทีเถอะ"
ก่อนที่นักเลงจะลงมือทำร้ายชายผู้ใส่ขาเทียมนั้นก็มีอะไรบางอย่างกระแทกเข้าหัว มันรุนแรงมากจนนักเลงคนนั้นลงไปนอนกองกับพื้นเเลยทีเดียว ทำให้นักเลงอีก 5 คนหันไปมองว่าใครทำ อาชินซึ่งถือปืนอยู่ในมือโดยแววตาของเขาบ่งบอกชัดเจนว่า ไม่ได้กลัวพวกมันสักนิด
+++++++++++++++++++++++++++++
อาชิน อาถิง และเฟรมต่างพากันปั้นจักรยานกัน โดยทั้งสามมีเป้าหมายจะมาที่ตลาดในเมืองหลวง แต่เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกลมากทำให้อาชินกับอาถิงจำเป็นต้องมาค้างที่บ้านของเฟรม ซึ่งแน่นอนว่าอิลซ่ากับเบดเดอร์สนั้นต้อนรับพวกเขาอย่างเป็นมิตร ลูอิสก็มีท่าทีที่ค่อนข้างเป็นมิตรพอสมควร แต่กับพี่คนอื่นนั้นทำยังกับอาชินและอาถิงไม่มีตัวตน ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ได้แคร์มากเท่านั้น ในตอนแรกนั้นทั้งสามอยากนอนบ้านต้นไม้ แต่เนื้อที่ของเตียงไม่เพียงพอที่จะนอนกันสามคน พวกเขาจำใจต้องนอนห้องเฟรมกันซึ่งพอถึงเช้าพวกเขาก็พากันรีบปั้นจักรยานออกจากบ้านทันที
"วันนี้ลมเย็นเป็นบ้าเลย" อาถิงพูดแข่งกับสายลมที่พัดเข้ากับหน้าเขา
"ไม่เย็นได้ไงก็นายปั้นเร็วจะตาย" เฟรมที่ปั้นอยู่ข้างๆพูดเสริม
ทั้งสามปั้นจักรยานบนเส้นทางสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ ซึ่งมันจะคู่ขนานกับทางเดินเท้าของคน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางท้องถนน สำหรับกฏจราจรในฟรอนร์เทียร์ค่อนข้างเคร่งครัดมาก ถ้าพลเรือนทำผิดกฏจราจรจะโดนค่าปรับ 3,000 รูริก (90,000 บาท) จะมีการตักเตือนสองครั้งซึ่งหากยังทำอีก ใบขับขี่จะถูกยึดทันทีและหากจะเอาคืนต้องแลกด้วย การบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนร่วมเท่านั้นถึงจะได้ใบขับขี่ แต่ถ้าคนทำผิดคือชาวฟรอนร์เทียร์ชะเองมีโทษสถานเดียวคือ จำคุก 4 เดือน
นี้เป็นครั้งแรกของอาชินและอาถิงที่ได้มาตัวเมืองหลวง เนื่องจากบ้านของพวกเขาอยู่เกือบๆชานเมืองของเขตA-01 แต่บ้านของเฟรมนั้นอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองหลวงมากนัก สามารถนั่งรถโดยสารสายเดียวมาได้หรือจะทำแบบทั้งสามคือ ปั้นจักรยานมาเที่ยวตัวเมืองได้ บรรยากาศในตัวเมืองนั้นเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย มีร้านอาหารริมทางหรือแม้แต่ร้านอาหารใหญ่ๆ ร่วมไปถึงห้างสรรพสินค้าที่คนต่างพากันไปช็อปปิ้ง หรืออาจแค่เดินเสพบรรยากาศข้างในเฉยๆ
"เออ...เฟรมมันใหญ่โตไปนะ" อาชินพูดขึ้น เขารู้สึกลายตากว่าที่คิด
"ฉันเข้าใจเพื่อน นายอาจยังไม่ชินเท่าไหร่" เฟรมพูดพร้อมตบหลังเบาๆ
"ที่นี้ก็น่าเดินเล่นนะพวก เปลี่ยนใจไหม" อาถิงถามขึ้น
"ไม่ละ ไม่ชอบคนเยอะไปตลาดที่เฟรมบอกนะดีแล้ว" อาชินพูดขึ้น
เฟรมกับอาถิงก็เข้าใจจึงไม่ขัดและนำจักรยานของพวกเขา ไปจอดสำหรับจักรยานซึ่งมีระบบล็อคกันขโมย ซึ่งจะปลดล็อคได้ด้วยลายนิ้วมือของเจ้าของจักรยานเท่านั้น จากนั้นเฟรมก็เดินนำทางเพื่อนของเขาทันที อาชินก็สังเกตว่ามีเด็กรุ่นเดียวกันเดินเล่นรอบเมืองเหมือนกัน สาเหตุที่พวกเด็กๆอย่างเขากล้าออกมาเดินกัน เพราะมีตำรวจหลายนายเดินตรวจตราตลอดเวลา ทำให้ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเด็กหายเลยสักครั้ง
"ตลาดของนายไกลนะเนี่ย ทำไมไม่เอาจักรยานมาละ" อาชินถาม
"ไม่ไกลมากหรอกผ่านร้านอาหารนี้ไปก็เจอแล้ว อีกอย่างเอาจักรยานไปก็ไม่มีที่จอดหรอกนะพวก" เฟรมกล่าว
ทั้งสามผ่านร้านอาหารแล้วก็พบทางเช้าพอดีโดยมันมีป้ายเขียนว่า "ตลาดอู๋" อาชินสังเกตว่ามีคนเข้า-ออกตลาดตลอด มันให้ความรู้สึกครึกครื้นแต่ก็ไม่อึดอัด มีของขายด้านขวากับซ้ายซึ่งน่าจะเป็นพวกเนื้อสด ซึ่งพ่อค้าและแม่ค้าจะมีของสดอยู่ในตู้แช่เนื้อสด ถึงแม้จะอยู่ในตู้แช่เนื้อจะถูกห่อด้วย พลาสติกอย่างดีเพื่อกันสิ่งสกปรก และเพื่อความปลอดภัยต่อผู้มาซื้อเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจคุณภาพของอาหารค่อนข้างเคร่งมากกับพวกเนื้อสด
"คนเยอะจัง" อาถิงพูดอย่างตื่นเต้น
"นี้แค่ข้างนอกนะแต่ข้างในมีเยอะตามมาเลย" เฟรมพูดจบก็ลากเพื่อนรักของเขาเข้าตลาดทันที
อาชินเดินเข้ามาในตัวตลาดแล้วก็เริ่มมองซ้ายสลับขวา โซนแรกที่เลยจะเป็นเนื้อสดที่ห่อด้วยพลาสติกแช่ในตู้ มีทั้งเนื้อไก่ หมู และวัว ลูกค้าเมื่อซื้อเนื้อแล้วพ่อค้าหรือแม่ค้าจะทำการ ชั่งน้ำหนักแล้วค่อยทำการใส่ถุงแล้วปิดเทปเอาไว้ เนื้อไก่นั้นจะแบ่งเป็นโหลละ 80 รูริก (2,400 บาท) ส่วนเนื้อหมูนั้นจะแบ่งราคาตามแต่ไซร์ของเนื้อ สำหรับอาชินแล้วท่าทางคนในตัวเมืองหลวงนั้นคงลำบาก ในการซื้อกิน ตรงข้ามกับแถวบ้านของเขาซึ่งจะมีรถส่งเนื้อสดและผักมาขาย ทุกเช้าเสมอที่สำคัญได้ปริมาณมากกว่าที่เขาเห็นในตลาดสดนี้
เมื่อผ่านโซนขายเนื้อแล้วมานั้นเฟรมพาเดินไปทางลัด เนื่องจากฝูงชนเยอะมากกว่าปกติอาชินกับอาถิง จึงต้องเดินตามเฟรมเพราะอีกฝ่ายน่าจะชำนาญทางมากกว่า แม้ว่าพวกเขาจะเดินผ่านแบบไม่มีการแวะอะไรเลย แต่เด็กชายทั้งสองก็พอรู้เห็นรูปแบบการจัดของตลาดได้ว่ามันจะแบ่งเป็นโซน เป็นบล็อกใครบล็อกมันและแบ่งประเภทด้วย ซึ่งบล็อกที่เฟรมพามานั้นคือบล็อกของเล่นทุกชนิด บล็อกนี้มีของเล่นทุกอย่างที่วัยอย่างพวกเขาชอบทั้งนั้น
"พวกนายจะซื้ออันไหนแล้วแต่เลย ฉันจะไปซื้อรถถังจรวจ 8 กระบอก" เฟรมพูดจบก็วิ่งไปตรงที่ร้านที่เน้นขายรถถังเป็นหลัก
"นายอยากได้อะไรไหม" อาถิงหันมาถาม
อาชินเลือกที่จะไม่ตอบแต่หันไปสะดุดร้านที่อยู่ขวามือ ซึ่งมันเป็นร้านขายปืนบีบีกันและยังมีดาบ มีด ธนู หน้าไม้ ขวาน ค้อน หอก และยังมีหนังสติ๊กด้วย อาชินมองสำรวจของเล่นเหล่านั้นอยู่ในขณะที่อาถิงนั้น เขาดันเห็นเรือรบลำใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ในร้านข้างๆ อาถิงแสดงออกชัดเจนว่าเขาอยากได้มากแต่เมื่อเห็นราคาแล้ว เด็กชายทำหน้าผิดหวังเพราะเงินที่ได้มานั้นไม่พอ จึงได้แต่เลือกเรือลำอื่นที่เงินของเขาพอซื้อ ในขณะที่อาชินนั้นไปสะดุดกับปืนพกยี่ห้อ AMT Hardballer สีดำเข้า มีป้ายติดไว้ว่าลดราคาเหลือ 1,200 รูริก (36,000 บาท)
"สนใจไหมเหลือกระบอกสุดท้ายแล้ว" ลุงคนขายเอ๋ยกับเขาอย่างเป็นมิตร
"ดาบไม้เล่มนี้ละครับ" อาชินถามพร้อมกับยกดาบไม้ขึ้นมาถาม
"ดาบไม้จะถูกกว่าหน่อย 400 รูริกนะ"
"ผมเอาสองอันนี้ครับ" อาชินยื่นดาบไม้กับปืนให้ลุงคนขาย
"ทั้งหมด 1,600 รูริก"
เมื่อจ่ายเงินให้กับลุงคนขายแล้วได้หันไปมองเพื่อนอีกสองคน เฟรมกับอาถิงยังเลือกของเล่นกันอยู่ทำให้ เขาเลือกจะรอจนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังขึ้นดึงดูดความสนใจเขา บล็อกถัดจากของเล่นไปมันเป็นเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ของสัตว์ โดยโซนแรกจะเป็นหมากับแมว พวกมันส่งเสียงไปทั่วโซนนั้นกันราวกับพยายามเรียกร้องให้รับพวกมัน กลับไปอยู่ที่บ้านแน่นอนว่าในโซนนั้นก็มีผู้คนล้อมดูเพื่อเลือกซื้อหมาซึ่งจะมีทั้งทหารและพลเรือน อาชินตัดสินใจเดินเข้าไปในโซนนั้นเพื่อฆ่าเวลา
อาชินเดินเข้ามาดูร้านขายหมาขายน้องหมาต่างๆ แต่ละตัวนั้นเขายอมรับว่ามันน่ารักมากๆและยอมเอาไปเลี้ยง แค่หวังลมๆแล้งๆเพราะเขาไม่แน่ใจว่าหวงฉี่ชุ่นกับหม่าญวนจะอนุญาตไหม ที่สำคัญอีกไม่กี่สัปดาห์เขากับอาถิงจะไปค่ายแล้ว มันก็เป็นการเพิ่มภาระให้หม่าญวนอย่างไม่จำเป็น ระหว่างที่เดินอยู่นั้นก็มีเสียงดังทักขึ้นทำให้อาชินต้องหันไปมองตามเสียง เขาเจอสุนัขพันธุ์อัลเซเชี่ยนตัวเล็กน่าจะยังไม่โตมาก เป็นลูกสุนัขขนสีดำตั้งแต่หน้ายันลำตัวส่วนขาขนจะเป็นสีน้ำตาล ขนของมันจะดูฟู่ๆ หน่อยๆ น่ารักน่าหยิกมาก
"สนใจรับไปสักตัวไหมละ" เสียงทักจากข้างหลังดังขึ้น อาชินหันไปเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ เขาเดาว่าคงเป็นเจ้าของร้านแน่นอน
"เจ้าตัวนั้นมันเลือกนายนะ... ถ้าอยากได้ฉันลดราคาให้สนใจไหม" เจ้าของร้านถาม
"ไม่ดีกว่าครับผมพึ่งจ่ายค่าของเล่นไป คงไม่พอซื้อเจ้าตัวนี้หรอกครับอีกอย่างผมไม่มีเวลาดูแลมันหรอกครับ" อาชินพูดอย่างเป็นมิตรก่อนจะตัดสินใจเดินไป
เจ้าลูกสุนัขอัลเซเชี่ยนทำหน้าจ๋อยทันทีที่เด็กชายเดินหนีแบบนั้น แน่นอนว่าอาชินเลือกจะไม่สบตากับมันเพราะกลัวใจอ่อน แต่พอเขาก้าวเท้าไม่ไกล เขาได้ยินเสียงเหมือนมีกลุ่มคนหลายคนดังมาจากข้างหลัง เด็กชายหันกลับมาปรากฏว่าเจ้าของร้านขายหมาที่พึ่งจะสนทนากับเขานั้นถูกคุกคามอยู่ และที่น่าตกใจคืออาชินพบว่าเจ้าของร้านนั้นใส่ขาเทียม ซึ่งนักเลงในกลุ่มนั้นก็ทำร้ายเขาจนขาเทียมหลุดออกจากร่างกาย เหล่าสุนัขพากันร้องเสียงเห่าใส่พวกมันทำให้นักเลงคนหนึ่ง เอาฟาดลูกสุนัขจมกองเลือดไปสองตัวสร้างความตกใจและขวัญผวาให้กับทุกคนมาก โดยเฉพาะกับอาชินที่ภาพหลอนมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง
"ไอ้ด้วน! มึงติดหนี้ลูกพี่พวกกูไว้ยังไม่จ่ายนะเว้ย" นักเลงคนหนึ่งพูดขึ้น
"ฉันจ่ายไปแล้วเมื่อเช้า อย่ามาเล่นลิ้น" สิ้นคำนักเลงคนนั้นก็เตะปากของเจ้าของเลือกกลบทันที
"ปากดีนะมึงขอกระทืบทีเถอะ"
ก่อนที่นักเลงจะลงมือทำร้ายชายผู้ใส่ขาเทียมนั้นก็มีอะไรบางอย่างกระแทกเข้าหัว มันรุนแรงมากจนนักเลงคนนั้นลงไปนอนกองกับพื้นเเลยทีเดียว ทำให้นักเลงอีก 5 คนหันไปมองว่าใครทำ อาชินซึ่งถือปืนอยู่ในมือโดยแววตาของเขาบ่งบอกชัดเจนว่า ไม่ได้กลัวพวกมันสักนิด
+++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ