นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1

8.0

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.

  53 ตอน
  0 วิจารณ์
  36.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) ตอนที่ 19 กลับบ้าน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
หน้าค่ายยุวชนทหาร เวลา 06.00 น.
อากาศยามเช้าสดใสทำให้เหล่ายุวชนทหารนั้นรู้สึกกะปรี้กะเปร่าขึ้นมา สาเหตุเพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะได้กลับบ้านหลังจากต้องอยู่ค่ายมา 6 เดือนกว่าแล้วซึ่งการได้กลับบ้านจึงเป็นเรื่องน่ายินดี แต่กับอาชินที่นั่งหลับอยู่นั้นกลับไม่มีความรู้สึกกะปรี้กะเปร่าแบบนั้นเหงื่อท่วมร่างกายเขาเต็มไปหมด ภาพที่เขาเห็นในตอนที่นั่งสมาธิผุดขึ้นมาอีกครั้งแต่คราวนี้มาพร้อมกับเสียงด้วย เสียงพูดคุยหลายคนปนกันจนแทบแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นของใคร ภาพที่อยู่ในหัวเดินเรื่องเร็วจนอาชินตามไม่ทันและภาพสุดท้ายคือ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังคลอดลูกและ... ตายทั้งที่ยังกอดลูกตัวเอง
     "อาชินตื่น !"
     เสียงตะโกนของอาถิงที่นั่งข้างๆทำให้อาชินสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขามองซ้าย-ขวาพบว่าตัวเองนั่งอยู่ม้านั่งหน้าค่าย เด็กชายรับรู้ถึงเหงื่อที่ไหลอาบแก้มได้จึงใช้แขนเสื้อปาดมันออก อาถิงที่มองญาติตัวเองอยู่ก็อดสงสัยไม่ได้เพราะนับแต่วันนั้น  อาชินก็เก็บตัวเงียบไม่พูดคุยกับเขาหรือแม้แต่กับอาเจี๋ยและเฟรมเลย เขารู้ว่าอาชินมีอะไรอยู่ในใจแน่นอนเพียงแค่อีกฝ่ายเลือกที่จะเก็บไว้ ทั้งที่ใจจริงอาถิงอยากรบเร้าให้อาชินบอกว่าคิดอะไรอยู่ แต่อาถิงเลือกที่จะเคารพการตัดสินใจของอาชิน เขาจะรอให้อาชินพร้อมที่จะบอกเอง
     "เกิดอะไรขึ้นเหรอ" อาชินถาม
     "ฉันเห็นท่าทางนายเหมือนฝันร้าย เลย...."
     ไม่นานนักเฟรมก็เดินมาแต่ไกลท่าทางเหมือนดีใจ ซึ่งอาชินกับอาถิงเดาได้ว่าพ่อแม่ของเฟรมคงมารับแล้ว แต่ที่ทั้งสองให้ความสนใจคือ เด็กโตอายุประมาณ 7-8 ปี ใส่ชุดทหารสามนายเดินตามหลังมา หลังสุดไปอีกเป็นยุวชนทหารหญิงน่าจะอายุมากกว่า แต่ไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่ สิ่งที่ชัดเจนมากที่หนึ่งในเด็กโตสามคนนั้นมองอาชินกับอาถิงแบบไม่เป็นมิตร เปรียบเทียบได้เหมือนกับที่หวงฉางเฉินมองอาถิงที่เป็นน้องชายแท้ๆเลย
     "ว่าไงพวก ยังไม่มีใครมารับเลยเหรอ" เฟรมพูดอย่างร่าเริง
     "ยังเลย... นั้นพี่นายเหรอ" อาถิงถามขึ้น
     "ใช่.. สามคนนี้คือพี่ชายฉันเอง" เฟรมกล่าวแนะนำ
     พี่ชายของเฟรมหนึ่งในสามคนนั้นยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร ซึ่งตรงข้ามกับอีกสองคนที่แทบจะไม่สนใจอาชินกับอาถิงเลย ส่วนอีกคนที่คาดว่าน่าจะเป็นพี่สาวของเฟรม ก็เอาแต่นั่งรับลมไม่สนใจน้องๆตัวเองเลย วินาทีนั้นทำให้เด็กชายทั้งสองพอเข้าใจความรู้สีกของเฟรมแล้วว่า ทำไมถึงไม่อยากเจอกับพี่ๆของตนเพราะทั้งสี่คนทำเหมือนเฟรมไร้ตัวตน พี่ชายของเฟรมที่เป็นมิตรเดินเข้ามาหาอาชินกับอาถิงแบบไม่ทันตั้งตัว
     "สวัสดีฉันชื่อ ลูอิส แคเบล ยินที่ได้รู้จักนะ" เขากล่าวแนะนำตนเอง
     ลูอิสนั้นมีสีผิวขาวแบบออกไปทางสีเผือกมากกว่า มีผมสีทองและดวงตาสีฟ้าอ่อน เขาสูงกว่าเฟรมพอสมควรทำให้อาชินพอที่จะคาดเดาอายุอีกฝ่ายได้ว่าอายุเท่าไหร่แล้ว อาชินสังเกตมองเฟรมเล็กน้อยซึ่งอากัปกิริยาของเพื่อนเขานั้น เงียบสงบผิดปกติมันไม่เหมือนตอนที่เฟรมอยู่กับตนและอาถิงเลย เด็กชายเริ่มชั่งใจว่าควรเป็นมิตรกับบรรดาพี่ๆของเฟรมไหม
     "ยินดีที่ได้รู้จักกันฉันชื่อ หวงจือชิน ส่วนนี้ญาติลูกพี่ลูกน้องชื่อ หวงอี้ถิง” อาชินกล่าวแนะนำกลับ
     "เฮ้ คริสตอฟ ทริสทัน มิร่ามารู้จักกับเพื่อนของเฟเดอริกหน่อยสิ" ลูอิสหันไปพูดกับอีกสามคนที่อยู่ไม่ห่างมากนัก
     เด็กชายผิวขาวผมสีขาวบลอนด์ทอง ดวงตาสีเขียวมรกตสูงกว่าลูอิสนิดหน่อย หันมามองทางอาชินในเชิงไม่เป็นมิตรปนมีความเหยียดๆด้วย ที่ปกเสื้อของอีกฝ่ายปักชื่อไว้ว่า "คริสตอฟ แคเบล" ดูไปสำหรับอาชินเห็นหมอนี้มันอดนึกถึงหวงฉางเฉินไม่ได้เลย คงจะเป็นพวอีโก้สูง หลงตัวเองพอสมควรซึ่งมันน่าแปลกคือไปเอาความมั่นใจมาจากไหน       
     "ทำไมฉันต้องลดตัวไปแนะนำตัวเองกับพวกนี้ด้วยละ" คริสตอฟพูดอย่างหยิ่งผยอง อาชินยิ้มที่มุมปาก                       
     "ไม่ต้องห่วงหรอกฉันก็ไม่อยากปีนขึ้นที่สูง ไปแนะนำตัวกับนายหรอกบังเอิญว่ากลัวที่สูงนะ" อาชินตอกกลับทันที
     คริสตอฟทำท่าว่าจะหาเรื่องอาชินซึ่งเด็กชายพร้อมตั้งรับอยู่แล้ว แต่คริสตอฟถูกห้ามโดยเด็กชายอีกคนซึ่งคงเป็น ทริสทัน แคเบล เขาสูงกว่าคริสตอฟมาผิวแบบเดียวกับลูอิส สีผมทองเข้มดวงตาสีน้ำเงินเหมือนกลมท่า คริสตอฟหันมาเห็นทริสทันก็ถึงกับหน้าเจื่อนทันทีอาชินคิดว่าคริสตอฟน่าจะเกรงใจอีกฝ่ายพอสมควร ยุวชนทหารหญิงที่ชื่อ มิร่า แคเบล ก็หันมามองน้องๆของตนเหมือนเบื่อหน่าย
     "โอ๊ย เงียบๆได้ไหมจะโวยวายมีเรื่องทำไม รำคาญ" มิร่าพูดใส่อย่างอารมณ์เสีย
     "ถ้าไม่คิดทำหน้าที่ของพี่คนโตก็หุบปากไปเลยดีกว่ามิร่า" ทริสทันพูดใส่แล้วส่งสายตาดุดันใส่ ทำเอามิร่าเงียบทันที
     อาชินกับอาถิงส่งภาษาทางสายตาให้กันอย่างไม่มีนัดหมาย และเฟรมก็เดินห่างออกมานั่งใกล้ๆกับเพื่อนสองคน ดีกว่าไปอยู่ใกล้ๆพี่ร่วมสายเลือดของตน อาชินกับอาถิงจึงได้แต่ปลอบเพื่อนเท่านั้น สักพักก็มีรถMazda CX-5 สีขาวแล่นมาจอดไม่ห่างจาก จุดที่พวกอาชินอยู่เท่าไหร่ และชายในชุดทหารก็เดินออกมาจากรถพร้อมโบกมือทักทาย อาชินเดาว่านี้คงเป็นพ่อของเฟรมแน่นอน
     "เฟรมนั้นพ่อนายใช่ไหม" อาถิงถาม
     "ใช่ นั้นพ่อกับแม่ฉัน เบดเดอร์สกับอิลซ่า แคเบล" เฟรมกล่าว
     พวกพี่ๆของเฟรมพุ่งเข้าสวมกอดพ่อกับแม่ของตนอย่างดีใจ ไม่นานนักเมื่ออิลซ่าเห็นเฟรมไม่ยอมมาหาเธอจึงผงะออกมา เพื่อมาหาลูกชายคนเล็กของเธอ เมื่อเห็นอิลซ่าชัดเจนขึ้นก็เห็นว่าเธอค่อนข้างสวยพอ ผิวขาวเหลืองนิดๆผมสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน แววตาที่มองเฟรมนั้นช่างอ่อนโยนเหลือเกิน
     "เฟเดอริกแม่มารับกลับบ้านแล้วนะ" อิลซ่าพูดอย่างอ่อนโยน
     "แม่นี้เพื่อนผมชื่อ หวงจือชินกับหวงอี้ถิง" เฟรมกล่าวแนะนำเพื่อนให้แม่ตน
     "สวัสดีจ๊ะ ขอบคุณเธอทั้งสองมากที่เป็นเพื่อนเขา" อิลซ่ากล่าวขอบคุณและยิ้มให้
     "ไม่เป็นไรครับ” อาชินกับอาถิงพูดพร้อมกัน
     สักพักเบตเดอร์สก็เดินมาหาภรรยาและลูกชายในทำนองว่า ควรจะกลับได้แล้วซึ่งเขายกกระเป่าของเฟรมไปแต่ ตัวของเฟรม กลับมีท่าทีเหมือนไม่อยากไป อิลซ่าแปลกใจที่เฟรมมีท่าทีแบบนี้ อาชินกับอาถิงเข้าใจแต่คงทำอะไรไม่ได้มาก เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเฟรม ก้าวก่ายไม่ได้เฟรมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะหันมาโบกมือให้ อาชินกับอาถิงแล้วเดินจูงมือกับอิลซ่าเพื่อไปขึ้นรถ
     "เฟรม !" อาชินตะโกนขึ้น เฟรมหันมามอง
     "เจอกันเดือนหน้า" อาถิงตะโกนบ้าง 
     เฟรมไม่ตอบอะไรก็ขึ้นรถแล้วเมื่ออิลซ่าขึ้นข้างคนขับ เบตเดอร์สก็ขับรถแล่นออกไปทันทีแต่อาชินกับอาถิง ยังเห็นเฟรมที่นั่งหลังสุดนั้นหันกลับมามองเขาทั้งสองอยู่ ทั้งสองยอมรับว่าไม่เคยเห็นโมเม้นท์นี้จากเฟรมเท่านั้น เพราะคาแรคเตอร์ของเพื่อนคนนี้คือตลกเฮฮา และชอบสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนมากกว่า อาชินเลยหวนนึกถึงประโยคหนึ่งที่เฟรมเคยบอกว่าไม่อยากเจอพี่ๆ ตอนแรกเขายังไม่ค่อยเข้าใจจนได้พบคำตอบตอนนี้
     "นายคิดว่าเฟรมจะเป็นอะไรไหม" อาถิงถาม
     "ไม่หรอก" อาชินตอบ
     สักพักหนึ่งรถคลาสสิกสีเทาที่พวกเขาคุ้นเคยก็แล่นมาจอดใกล้ๆ หวงฉี่ชุ่นมาในชุดธรรมดาใส่เสื้อคอโปโลสีขาว สวมใส่กางเกงยีนสีน้ำเงินเอาตามจริงหายากมากที่จะเห็นปู่ใส่แบบนี้ อาถิงผิดหวังเล็กน้อยเพราะเขาไม่เห็นหม่าญวนผู้เป็นย่ามาด้วย อาชินจำเป็นต้องสะกิดให้อาถิงรีบแบกกระเป๋าไปที่รถ เมื่อทั้งสองเข้ามาในรถแล้วบรรยากาศในรถก็ดูไม่ค่อยน่าเล่นเท่าไหร่
     "ย่าไม่มาด้วยเหรอครับปู่" อาถิงถาม
     "ทำอาหารที่หลานชอบมากๆรออยู่ที่บ้าน เพื่อต้อนรับการกลับบ้านไง...ตอนนี้ก็กลับกันเถอะ" หวงฉี่ชุ่นกล่าว  
     และแล้วรถก็แล่นออกจากค่ายไปซึ่งอาชินกับอาถิงก็ทำแบบเดียวกัน เหมือนตอนวันไปรายงานตัวคือหันไปมองจากเบาะหลังรถ หน้าค่ายก็ค่อยๆไกลออกไปทุกที ทั้งสองจำได้ว่าวันแรกที่มาอยากกลับบ้านใจแทบขาด แต่พอได้กลับจริงๆทำไมพวกเขารู้สึกอยากอยู่ต่อก็ไม่รู้ แต่การได้อยู่บ้านหนึ่งเดือนก็ดีเหมือนกัน เพราะพวกเขาคิดถึงอาหารฝีมือของหม่าญวนมากเหลือเกิน
                                  
                                                               +++++++++++++++++++++                                                        

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา