นักรบพันธุ์โหด ตอน หวงจือชิน Secson 1

8.0

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.12 น.

  53 ตอน
  0 วิจารณ์
  43.28K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 00.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ตอนที่ 15 การผูกมิตร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
โรงยิมฝึกวิชาต่อสู้วูซูที่ 06 เวลา 09.15 น.
บรรยากาศภายในโรงฝึกนั้นเต็มไปด้วยเหล่ายุวชนทหารที่ใส่เสื้อคอกลมสีดำและสวมใส่กางเกงขาสั้น พวกเขาต่างพากันวอร์มร่างกายให้พร้อมสำหรับการฝึกในวันนี้ซึ่งแน่นอนว่า ร้อยตรีโทมัสก็สังเกตการณ์และค่อยพิจารณาความเปลี่ยนแปลงซึ่งเขายอมรับว่าเด็กในสังกัดเขานั้นเริ่มมีการพัฒนาขึ้นหลังจากที่ฝึกกันมาได้ 4 อาทิตย์กว่าๆนับจากวันแรกที่พวกเขามารายงานตัวกันแต่คนที่ร้อยตรีโทมัสเล็งไว้พิเศษคือเจ้าเด็กขี้แยเรียกหาย่าอย่าง อาถิง ที่กำลังวอร์มร่างกายร่วมกับอาชินและอาเจี๋ยอยู่ดูเหมือนอาถิงก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไม่ปวกเปียกเหมือนครั้งก่อนๆ และไม่แสดงท่าทีอ่อนแออีกต่างหากนับเป็นการพัฒนาที่น่าพึ่งพอใจสำหรับครูฝึกอย่างเขา
     “วอร์มร่างกายกันพอแล้วมาเริ่มกันเลย” ร้อยตรีโทมัสกล่าว
     อาชิน อาเจี๋ย และอาถิงก็รีบวิ่งมาเป็นพวกแรกมาที่ตรงอุปกรณ์ที่วางตรงมุมโรงยิม อาชินเอาผ้าสีดำมาพันมือของเขาข้างๆเขาจะมีนวมชกมวยสีดำ และเกราะกันลำตัวสีดำเมื่อเขาพันผ้าเสร็จก็ใส่ถุงเท้ากับนวมชกมวยจนเรียบร้อย และมาเข้าแถวโดยมีอาถิงตามมาติดๆ ทั้งหมดตั้งแถวตรงแบบรวดเร็วไม่ชักช้าและมีท่าทางขึงขังพร้อมสำหรับการฝึกของวันนี้แล้ว ร้อยตรีโทมัสได้ส่งสัญญาณให้ทหารพี่เลี้ยงไปประจำจุดต่างๆเพื่อแยกเด็กในการฝึก เพราะเด็กในแต่ละกลุ่มที่มาฝึกวิชาต่อสู้นั้นนั้นอย่างต่ำจะมีประมาณ 70 กว่าคนอย่างกลุ่มของอาชินนั้นมีประมาณ 73 คน
     “ดีมากพวกนายพัฒนาตัวเองเร็วมากทั้งที่ผ่านมาเพียงแค่ 4 อาทิตย์เอง” ร้อยตรีโทมัสกล่าวชื่นชมแต่สายตามองมาที่อาถิงซึ่งเด็กชายก็ก้มหน้าไม่สบตาด้วย
     “เอาล่ะแยกแถวไปฝึกกันได้แถวแรกนับ 1 2 3 4 5 แบบนี้ไปจนถึงคนสุดท้าย”
     สิ้นคำสั่งของครูฝึกเหล่ายุวชนทหารก็เริ่มนับ 1 ถึง 5 ทันทีและนับเสียงดังมากเพื่อให้เพื่อนที่อยู่ข้างหลังได้ยินและเพื่อป้องกันการโดนสั่งหมอบจากร้อยตรีโทมัสอีกด้วย อาชินนั้นเขาได้หมายเลข 3 สุดท้ายแต่เขาไม่รู้ว่าอาถิงกับอาเจี๋ยนั้นได้เลขแบบเดียวกับเขารึเปล่า การนับหนึ่งถึงห้ายังคงดำเนินไปจนถึงคนสุดท้ายที่ได้เลข 2 เป็นการสิ้นสุดการนับ ร้อยตรีโทมัสเห็นว่าทหารพี่เลี้ยงเตรียมตัวพร้อมแล้ว
     “ใครนับได้หนึ่งไปร่วมกลุ่มทางฝั่งขวาตรงนั้น รายงานตัวกับครูฝึกชื่อ เดฟ ใครนับได้สองไปรายงานตัวกับครูฝึกชื่อ ซีโร่ ใครนับได้สามอยู่ตรงนี้ฝึกกับฉันนี่แหละ”
     อาถิงแสดงอาการกังวลมากกว่าคนอื่นซึ่งพอดีที่อาชินสังเกตจากข้างหลัง ตรงจังหวะที่คนที่ได้หนึ่งกับสองแยกคนละทางไปหาครูฝึกที่รอคอยพวกเขาอยู่ แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มหมายเลขสามจะดวงไม่ดีที่ได้ครูฝึกแสนโหดอย่างร้อยตรีโทมัสเป็นคนคุม และจากท่าทางของอาถิงนั้นเด็กชายพอเดาออกว่าอีกฝ่ายนับได้เลขอะไร วันนี้โชคไม่เข้าข้างญาติลูกพี่ลูกน้องเขาเท่าไหร่เพราะตัวอาถิงกลัวร้อยตรีโทมัสเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้อาถิงมีอาการสั่นๆพอสมควร
     “ส่วนคนที่นับได้สี่ไปรายงานตัวกับครูฝึกชื่อ เอียน ส่วนคนที่นับห้าไปหาครูฝึกชื่อ  อาร์เธอร์ ตามนี้นะแยกย้ายกันได้แล้ว”
     ยุวชนทหารนายอื่นๆพากันทยอยออกจากแถวไปรายงานตัวตามที่ได้รับคำสั่ง จังหวะที่มองตามนั้นเขาพึ่งสังเกตว่าอาเจี๋ยกำลังต่อแถวอยู่ไม่ห่างจากกลุ่มเขาเท่าไหร่ซึ่งตรงนั้นคือกลุ่มหนึ่ง ตอนนี้จำนวนคนลดลงเขาจึงขยับมาอยู่ใกล้ๆอาถิงซึ่งอีกฝ่ายก็ดูสบายใจพอสมควรแต่ก็ไม่นานเมื่อทั้งสองพบว่า โจทย์เก่านั้นเองแถมไม่มาเดี่ยวชะด้วยท่าทางจะผูกพันธมิตรไว้หลายคนสายตาที่มองมาก็ยังคงเหมือนเดิมคือไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก
     “ฉันจะแบ่งกลุ่มย่อยให้พวกนายไปฝึกกับทหารพี่เลี้ยง จากนั้นจะให้พวกนายไปสู้กันหลังจากร่วมพลเข้าใจตามนี้ ทุกคนทราบ”
     “ทราบ” ยุวชนทหารขานรับคำสั่งเสียงดัง
     ร้อยตรีโทมัสเป่านกหวีดเพื่อเป็นสัญญาณให้เหล่ายุวชนทหารแยกย้ายกันฝึก โดยทหารพี่เลี้ยงที่อยู่กับร้อยตรีโทมัสนั้นสั่งตะโกนให้ไปที่กระสอบทรายที่รออยู่โดยพวกเขาต้องจับคู่กัน แบ่งเป็นกระสอบทรายมีคนชกอันละ 2 คนผลัดกันชกกระสอบทรายและต้องชกให้แรงพอเพื่อส่งต่อให้เพื่อนชกตอบโต้งแบบนี้ไปเรื่อยๆ มีบางคู่โดนทหารพี่เลี้ยงจับให้ประลองกันโดยให้ใส่เฮดการ์ดเพื่อป้องกันศรีษะของยุวชนทหาร
     อาชินถูกจับให้ชกกับเป้าชกกับเตะซึ่งคนยกเป้าฝึกให้กับเขานั้นเป็นครูฝึกหญิงที่ท่าทางไม่เหมือนผู้หญิงเท่าไหร่ เขาสลับชกกับเตะอาจมีการแทงเข่าบ้าง นอกจากชกเป้าแล้วยังต้องหลบการโจมตีของครูฝึกด้วยเพื่อฝึกการหลบหลีกของฝ่ายคู่ต่อสู้ จากนั้นอาชินจะสลับไปชกหรือเตะกับกระสอบทรายแทน ระหว่างนั้นเขาได้ยินเสียงร้อยตรีโทมัสแบบกึ่งพูดกึ่งตะคอกจังหวะนั้นเด็กเลือกหันไปมองก็พบว่ายุวชนทหารที่อยู่กับร้อยตรีโทมัสคืออาถิงนั้นเอง ซึ่งร้อยตรีโทมัสเป็นคนยกเป้าให้อาถิงอยู่
     “เฮ้ย ! ยุวชนทหารนายนั้นนะยืนทำไรทำไมไม่ฝึกต่อ” ครูฝึกหญิงตะโกนขึ้น
     เสียงของครูฝึกดึงสติของเขากลับมาอีกครั้งทำให้อาชินตัดสินใจชกกระสอบทรายต่อ แรงชกของเขานั้นต้องยอมรับว่าแรงพอๆกับคนที่จับคู่กับเขาเลย เช่นเดียวกับลูกเตะของเขาที่เวลากระทบกระสอบทรายนั้นค่อนข้างเสียงดังพอสมควร สำหรับร้อยตรีโทมัสนั้นแม้ว่าเขาจะฝึกกับยุวชนทหารคนอื่นแต่เขาก็สังเกตเด็กในสังกัดของเขาแต่ละคน ว่ามีสไตร์การต่อสู้แบบไหนที่จะต่อยอดในอนาคตของพวกเขาต่อไป
     “หมวดครับมีคนมาขอพบครับ” ทหารนายหนึ่งเดินมารายงานกับร้อยตรีโทมัส
     “ใคร” ร้อยตรีโทมัสถามสั้นๆ
     ไม่ทันที่ทหารนายนั้นจะตอบทหารยศนายพันก็ปรากฏขึ้นจากข้างหลัง ทำเอาร้อยตรีโทมัสทำความเคารพแทบไม่ทันเพราะไม่คิดว่าทหารยศสูงจะเข้ามายิมซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน หวงฉี่ชุ่นนั้นเองการมาเยือนของผู้เป็นปู่ทำเอาอาถิงถึงกับไปไม่เป็นเขาจึงลองหันไปทางอาชินซึ่งก็มัวแต่ชกกระสอบทรายไม่ได้สังเกตอะไร ร้อยตรีโทมัสทำท่าจะให้ยุวชนทหารทำความเคารพแต่หวงฉี่ชุ่นยกมือห้ามไว้เพราะเขาอยากให้ทุกคนตั้งใจฝึกมากกว่าจะมาสนใจเขา
     “เด็กๆเป็นไงกันบ้าง” หวงฉี่ชุ่นถาม
     “พวกเขาพัฒนากันเร็วมากครับผู้พัน” ร้อยตรีโทมัสตอบ หวงฉี่ชุ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย
     “ไม่ต้องเรียกผู้พันก็ได้มั่งโทมัส ฉันคุ้นที่นายเรียกฉันว่าครูมากกว่า” หวงฉี่ชุ่นพูดและตบบ่าร้อยตรีโทมัสเบาๆ
     อาถิงไม่คาดคิดเลยว่าครูฝึกที่เขากลัวที่สุดจะเคยเป็นลูกศิษย์ของปู่เขา มิน่าละถึงค่อนข้างจะเข้มงวดเขากับอาชินเป็นพิเศษแต่ก็ไม่แน่ใจว่าบางทีร้อยตรีโทมัสอาจผูกใจเจ็บกับปู่เลยลงมาที่เขาก็ได้ อยู่ดีๆอาถิงก็ล้มลงกับหงายหลังกระแทกกับพื้นอย่างจังเขาเห็นยุวชนทหารที่ใส่เฮดการ์ดสีดำมองหน้าเขาแบบงงๆ ซึ่งนั้นทำให้เด็กชายพึ่งได้สติว่าตัวเองกำลังประลองอยู่นับว่าโชคยังดีที่ใส่เฮดการ์ดเอาไว้ทำให้เขาไม่เป็นอะไรมากอาถิงจึงรีบลุกขึ้นเพื่อสู้ต่อ หวงฉี่ชุ่นจับตาดูหลานชายคนนี้อยู่
     “ผู้พัน... ครูมาดูหลานเหรอครับ” ร้อยตรีโทมัสถามขึ้น
     “ก็ประมาณนั้นแหละ... ตั้งแต่เขาสองคนอยู่ที่นี้ฉันก็ไม่ค่อยมาหาเลย ถึงได้ใช้โอกาสนี้แหละ”
     หวงฉี่ชุ่นมองเลยไปที่อาชินกำลังชกกระสอบทรายโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างเท่าไหร่ ในช่วงที่ไม่ได้มาหาหลานชายทั้งสองไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในค่าย การที่ปล่อยให้ความลับรั่วไหลเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะซีเรียสอย่างมาก ชายหนุ่มได้แต่หวังว่ามันจะไม่ร้ายแรงไปกว่านี้สำหรับอาชินแล้วหวงฉี่ชุ่นไม่ได้ห่วงมากเพราะเขาเชื่อมั่นว่า ในอนาคตหลานชายคนนี้เอาตัวรอดได้แน่นอนแต่กับอาถิงที่ถูกภรรยาเลี้ยงเหมือนไข่ในหินนั้นอาจต้องมีติวเข้มเล็กน้อย
     “ครูคิดอะไรอยู่เหรอครับ” ร้อยตรีโทมัสถามเพราะเห็นอีกฝ่ายนิ่งไป
     “โทมัส นายช่วยอะไรฉันอย่างหนึ่งได้ไหม” หวงฉี่ชุ่นพูดขึ้น ก่อนจะหันไปกระซิบข้างหูอดีตลูกศิษย์ของเขา  
     เสียงนกหวีดดังขึ้นซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการร่วมพลทั้งหมด อาชินก็งงๆว่าทำไมถึงได้ร่วมพลกันเร็วแบบนี้เขาจึงรีบวิ่งมาเข้าแถวทันทีแน่นอนว่าพวกเขาเข้าแถวเรียบร้อยและรวดเร็วมาก เขาเห็นอาถิงไม่ห่างมากซึ่งเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองมาอาถิงก็ส่งสัญญาณบางอย่างมาให้กับอาชินซึ่งตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจ จนกระทั่งหันไปทางร้อยตรีโทมัสก็ถึงกับแปลกใจที่เห็นหวงฉี่ชุ่นปู่ของเขายืนอยู่ข้างๆร้อยตรีโทมัส นานมากที่แทบไม่เจอปู่เลยอดสงสัยไม่ได้ว่ามาทำอะไรที่นี้
     ยุวชนทหารทุกคนทำความเคารพหวงฉี่ชุ่นกันหมดเป็นภาพที่ตราตรึงสำหรับอาถิงกับอาชิน เพราะเป็นภาพที่ทั้งสองไม่เคยเห็นจากที่ไหนมันรับรู้ถึงความเกรียงไกรของผู้เป็นปู่ได้ชัดเจน เมื่อทำความเคารพกันแล้วเหล่ายุวชนทหารพาลงกับพื้นอย่างพร้อมเพรียงกันทันทีซึ่งสำหรับหวงฉี่ชุ่นแล้วมันช่างน่าประทับใจมากบางครั้งก็อดคิดถึงอดีตของตัวเองไม่ได้ เขาหันไปให้สัญญาณกับร้อยตรีโทมัส
     “ในฐานะที่พวกนายมาฝึกได้ 4 อาทิตย์กว่าๆแล้ว ผู้พันหวงฉี่ชุ่นต้องการที่ดูความเปลี่ยนแปลงของพวกนายว่าต่างอะไรกับวันแรกที่เข้ามาฝึกไหม” ร้อยตรีโทมัสกล่าวขึ้น
     เมื่อร้อยตรีโทมัสพูดแบบนี้ทำไมอาชินรู้สึกใจคอไม่ดีแทนอาถิงยังไงไม่รู้ ในขณะที่อาถิงเองก็คิดแบบเดียวกับอาชินเช่นกันจึงรีบก้มหน้าไม่มองครูฝึกเผื่อมันจะช่วยอะไรบ้าง แต่ดูเหมือนว่าหวงฉี่ชุ่นจะอ่านแผนของหลานชายคนนี้ออก เขาจึงยิ้มและส่ายหน้าท่าทางจะกลัวร้อยตรีโทมัสจริงๆตามที่ข่าวลือบอกมา
     “คนที่ฉันเรียกต่อไปนี้ต้องขึ้นไปประลองที่เวทีทันที หวงอี้ถิง และ แคลวิน ค็อกซ์แมน ไปที่เวทีชะ”
     อาถิงแทบทรุดที่โดนเอ๋ยชื่อซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลุกขึ้น แล้วเดินคอตกไปที่เวทีส่วนอาชินนั้นเริ่มสงสัยว่าใครคือแคลวิน ค็อกซ์แมนผู้ที่ต้องสู้กับอาถิงบนเวทีแต่คำตอบก็มาเร็วกว่าที่คิด เพราะเจ้าของชื่อแคลวินก็คือยุวชนทหารร่างใหญ่ที่มาหาเรื่องอาชินตอนอยู่โรงอาหาร อะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนั้นเด็กจึงหันไปมองหน้าหวงฉี่ชุ่น ซึ่งอีกฝ่ายทำสีหน้าเรียบเฉยมากอาชินชักเริ่มเป็นห่วงอาถิงชะแล้วสิ
     ส่วนอาถิงนั้นที่พึ่งมาถึงเวทีนั้นเมื่อหันมาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ ก็ถึงกับทำหน้าเหว๋อไปไม่เป็นที่แคลวินขึ้นมาบนเวทีแคลลินนั้นสูงมากอาถิงคนละเรื่องกับตอนฝึกวันแรกเหมือนกับการฝึกสร้างความเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของอีกฝ่าย ครูฝึกนายหนึ่งเดินมาหาอาถิงเพื่อให้เขาใส่ฟันยางและสวมใส่เฮดการ์ดให้กับอาถิง แคลวินเองก็ดูท่าทางจะเตรียมตัวจะสู้ฟัดกับอีกฝ่ายราวกับเก็บงำความแค้นมานาน ยุวชนทหารนายอื่นๆรีบเดินมานั่งล้อมเวทีเพื่อชมการต่อสู้ครั้งนี้ซึ่งอาชินมานั่งชิดเวที ส่วนหวงฉี่ชุ่นนั่งเก้าอี้เพื่อดูการต่อสู้ครั้งนี้
     “เริ่มประลองได้ !” ร้อยตรีโทมัสให้สัญญาณขึ้น
     แคลวินเดินเข้าหาอย่างต่อเนื่องซึ่งอาถิงแรกๆก็หวั่นๆไม่ใช่น้อยจนเมื่อเขาหันไปมองปู่ที่นั่งอยู่ แววตาของอาถิงก็แปรเปลี่ยนไปจนอาชินแปลกใจเหมือนกับไม่ใช่อาถิงที่เขารู้จักเลย แคลวินปล่อยหมัดขวาเข้ามาแต่อาถิงหลบได้พร้อมสวนกลับด้วยลูกเตะเข้าที่ขาของแคลวินซึ่งเขาแสดงเจ็บอย่างเห็นได้ชัด แต่อาถิงยังใส่หมัดเคาเตอร์ขวาอัดเข้าที่หน้าของแคลวินแต่อีกฝ่ายตั้งการ์ดกันไว้ทันและตอบโต้ด้วยการเหวี่ยงแข้งใส่ซึ่งแน่นอนว่าอาถิงหลบได้แบบเฉียด เขาจึงรั่วหมัดซ้าย-ขวาใส่ทั่วตัวของแคลวินไม่ยั้งเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตอบโต้เขาได้ แต่เสียจังหวะทำให้แคลวินจับอาถิงที่ตัวเล็กกว่าทุ่มลงกับเวที
     อาถิงรู้สึกจุกหลังอย่างมากมันชาไปทั้งตัวเพราะแรงทุ่มค่อนข้่างหนักพอตัว ครูฝึกสั่งให้แคลวินออกห่างจากตัวอาถิงพร้อมเดินมาดูอาการของเด็กชาย ซึ่งเขาพยายามจะลุกขึ้นมาแม้ว่าจะเจ็บก็ตาม หวงฉี่ชุ่นที่มองหลานชายคนนี้แบบไม่แสดงสีหน้าอะไรนอกจากอยากรู้ว่าอาถิงนั้นมีใจนักสู้มากแค่ไหน อาชินเองก็ทึ้งที่ตอนนี้เขากำลังเห็นความเปลี่ยนแปลงของอาถิง เขารับรู้แล้วว่านี้ไม่ใช่เด็กขี้แยอีกแล้วแต่นี้คือหวงอี้ถิงที่ควรจะเป็น
     “สู้เขาอาถิงอย่ายอมแพ้ แสดงให้หมอนี้เห็นว่านายเจ๋งแค่ไหน” อาชินตะโกนเชียร์เสียงดังแบบไม่สนใจคนรอบข้าง
     เมื่อได้ยินเสียงเชียร์ขึ้นมันทำให้อาถิงลุกขึ้นตั้งท่าสู้แทบจะลืมความเจ็บปวด เสียงที่ครูฝึกถามอะไรเขาบางอย่างแต่เด็กชายไม่ได้ยินนอกจากพยักหน้าเท่านั้น มันอาจจะมึนๆภาพไม่ค่อยชัดมากแต่อาถิงหลับตาเพื่อเรียกสติจึงลืมตาอีกครั้ง ภาพของแคลวินเดินรุกหน้าเข้ามาชัดเจนอาถิงพุ่งเข้าหาแคลวินทันที แคลวินเห็นอีกฝ่ายพุ่งเข้าหาจึงปล่อยหมัดขวาตรงหมายจะเล็งที่ใบหน้าของอาถิงแต่กลับโดนเพียงลมเพราะอาถิงเบี่ยงตัวหลบ แล้วใช้แขนทั้งสองข้างกอดรัดแคลวินจากข้างหลังพร้อมใช้แรงที่ดีจับทุ่มแคลวินกระแทกกับเวทีดังสนั่น เหล่ายุวชนทหารที่นั่งดูอยู่ลุ้นตามๆกัน
     “อย่างนั้นแหละอาถิงเอาให้มันนอนเลยไม่ต้องลุกขึ้นมาอีก” อาชินเชียร์แบบใส่อารมณ์อย่างมาก
     “เฮ้ย ! แคลวินอย่าแพ้ตัวกระเปี๊ยกนี้นะโว้ย แกตัวใหญ่กว่าจะแพ้ได้ไง” เสียงยุวชนทหารซึ่งนั่งไม่ห่างจากอาชินไม่มากนักตะโกนเชียร์เพื่อนของเขาบ้าง
     ทางบนเวทีนั้นทั้งแคลวินกับอาถิงนอนราบกับพื้นหมดแคลวินนั้นเจ็บไปทั้งตัว ส่วนอาถิงเองก็ทั้งเจ็บทั้งจุกเพราะรับน้ำหนักของแคลวินมาเต็มๆแต่เขาก็เป็นคนที่ลุกขึ้นมาได้ก่อนทำเอายุวชนทหารที่เชียร์เขาร้องเฮกันสนั่น ครูฝึกต้อนอาถิงไปที่มุมก่อนซึ่งแน่นอนว่าแคลวินที่เห็นอีกยืนขึ้นได้ก็เลือกที่จะลุกขึ้นตั้งท่าสู้เหมือนกัน ยุวชนทหารที่เชียร์ฝ่ายแคลวินก็ร้องตะโกนโห่ร้องให้กำลังใจเพื่อนซึ่งระหว่างนั้นมีทหารนายหนึ่งเดินมากระซิบข้างหูของร้อยตรีโทมัส ซึ่งเขาก็ก้มมองนาฬิกาข้อมือหวงฉี่ชุ่นที่หันมามองก็พยักหน้าให้เชิงอนุญาต
     "พอแค่นี้ก่อนทหารพี่เลี้ยงถอดอุปกรณ์ทั้งหมดให้คู่ชกด้วย"  ร้อยตรีโทมัสสั่งเสียงดัง
     อาถิงที่ได้ยินสัญญาณก็ปล่อยหอบออกมาซึ่งครูฝึกช่วยถอดเกราะกันลำตัว ดึงนวมชกมวยออกและเฮดการ์ดพร้อมกับเอาฟันยางออกซึ่งแคลวินก็โดนถอดอุปกรณ์ทุกอย่างออกเหมือนกัน สักพักเสียงปรบมือก็ดังขึ้นทุกคนหันไปตามเสียงซึ่งหวงฉี่ชุ่นนั้นลุกขึ้นจากที่นั่งปรบมือให้นั้นเองโดยส่งสายตาไปทางอาถิงบนเวที เด็กชายรับรู้อะไรบางอย่างได้จึงทำเป็นเอาแขนเช็ดหน้าเหมือนเช็ดเหงื่อแต่ความจริงแล้วเขาเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง อาชินที่นั่งอยู่ก็พอจะเข้าใจในสิ่งที่ปู่สื่อออกมาแม้ว่าคนอื่นจะไม่เข้าใจก็ตามปู่ไม่สนหรอกแค่ให้เขาสองคนรับรู้ก็พอ                                                                   
     สักพักแคลวินก็เดินตรงมาหาอาถิงทันทีซึ่งอาชินมีท่าทีว่าหากแคลวินจะทำอะไรอาถิง เขาพร้อมพุ่งไปช่วยแน่นอนซึ่งอาถิงไม่ได้มีท่าทีกลัวแต่ก็ทำท่าใจดีสู้เสือยืนเผชิญหน้ากับแคลวินซึ่งๆหน้า อีกฝ่ายเมื่อเดินมาประจันหน้ากับอาถิงแล้วมองหน้าพักหนึ่งก่อนที่จะยื่นมือขวาขึ้นมา อาถิงทำหน้าฉงนใจแต่เก็บอาการไว้
     "สู้ได้ไม่เลวนี่นึกว่านายจะขี้แยชะอีก ไม่ได้กระจอกนี้" แคลวินกล่าวขึ้น
     "นายก็ไม่เลวเหมือนกันนะสำหรับคนตัวใหญ่" อาถิงพูดพร้อมจับมือแคลวิน
     เสียงปรบมือดังรอบๆเวทีกับการแสดงความมีน้ำใจของทั้งสอง อาชินเองก็ปรบมือให้เช่นกันตอนนี้เขาเชื่อว่าในอนาคตอาถิงจะสามารถพึ่งพาตัวเองได้โดยไม่ต้องมีเขาอีกแล้ว ร้อยตรีโทมัสก็ปรบมือเช่นกันแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่รู้ผลแพ้-ชนะแต่สิ่งที่ครูฝึกอย่างเขาอยากจะเห็นคือมิตรภาพแบบนี้ซึ่งมันจะเป็นเกราะให้พวกเขาสามัคคีในอนาคต
     "แต่การต่อสู้ของนายกับฉันยังไม่จบนะ ฉันยังไม่แพ้นายสักหน่อย" แคลวินเสริม
     "ฉันรู้ ไว้วันหน้าประลองกันใหม่นะพวก" อาถิงพูดขึ้น และนี้เป็นครั้งแรกที่แคลวินยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
     เมื่อทั้งสองเดินลงจากเวทีทั้งสองได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเหล่าเพื่อนๆ ดูเหมือนทัศนคติที่หลายคนมองอาถิงในแง่ลบจะลดลงพอสมควรอาชินและอาเจี๋ยเดินไปกอดคออาถิงเพื่อแสดงความยินดีที่เพื่อนคนนี้ก้ามผ่านความกลัวมาได้แล้ว ร้อยตรีโทมัสก็ยิ้มที่มุมปากดูท่าจะไม่มีเด็กขี้แยในกลุ่มนี้อีกแล้ว
     "วันนี้ฝึกกันแค่นี้ก่อนเลิกแถวได้แล้ว" ร้อยตรีโทมัสออกคำสั่ง
     เหล่ายุวชนทหารพากันวิ่งไปถอดอุปกรณกันที่มุมวางอุปกรณ์การซ้อมเอาไว้ เมื่อเสร็จสิ้นการฝึกแล้วร้อยตรีโทมัสก็ตั้งใจจะหารือกับหวงฉี่ชุ่นแต่ปรากฏว่าตอนนี้อดีตทหารยศนายพันที่เคยเป็นครูของเขาไม่อยู่แล้ว ทหารหนุ่มได้แต่ยิ้มในใจแต่ไม่คิดอะไรนอกจากเดินไปที่ห้องแต่งตัว
     หวงฉี่ชุ่นที่เดินออกมาจากโรงฝึกนั้นได้ตรงไปยังรถที่มีคนรออยู่ ทหารที่เปิดประตูให้ทำความเคารพก่อนที่เขาจะขึ้นรถไปและจากนั้นทหารนายนั้นก็ขึ้นฝั่งคนขับ หวงฉี่ชุ่นหันไปมองทางยิมอีกครั้งได้เห็นหลานชายทั้งสองคนของเขาเดินออกโดยมีเพื่อนๆรายล้อมอยู่มากมาย ทันทีที่เห็นภาพนั้นเสร็จหวงฉี่ชุ่นก็ส่งสัญญาณให้ทหารคนขับแล่นรถออกไป จากนั้นเขาก็กดปุ่มปิดกระจกที่ใช้สนทนาระหว่างเขากับคนขับเพราะไม่ต้องการให้ใครเห็นว่าเขากำลังยิ้มอย่างมีความสุขแค่ไหน เพราะวันนี้ฝันของเขาบรรลุเป้าหมายไปหนึ่งขั้นแล้ว
 
                                                      ++++++++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา