ก๊วนเทพวัยใสป่วนหัวใจให้ตกหลุมรัก
-
เขียนโดย เจ้าหนอน
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.37 น.
19 ตอน
1 วิจารณ์
17.83K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) ตอนที่ 15
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “พี่เซนฯคะโนริขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ฉันหันไปบอกพี่เซนฯที่ตอนนี้กำลังเฮฮาจนลืมไปแล้วว่าฉันมาด้วย “ให้พี่ไปด้วยมั้ย?” พี่เซนฯถามกลับมาอย่างเป็นห่วง แค่ไปห้องน้ำเองไม่ต้องห่วงขนาดนั้นก็ได้ “ไม่เป็นไรค่ะ โนริจะรีบไปรีบกลับนะ” ฉันบอก ถ้าพี่เซนฯไปฉันก็ไม่ได้ทำอะไรสนุกๆสิ “ระวังตัวด้วย อย่าให้รู้นะว่าไปควงหนุ่มที่ไหน” พี่เซนฯชี้หน้าคาดโทษไว้ก่อน ฉันเลยเดินมาที่ห้องน้ำโดยจงใจเดินผ่านโต๊ะของห้าสาวที่มองฉันไม่วางตา อยากรู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรฉันได้ เมื่อมาถึงห้องน้ำฉันก็ฮัมเพลงสบายอารมณ์พลางล้างมือ แต่งตัวให้ดูสวยกว่าเดิม ถึงไม่แต่งฉันก็สวยอยู่แล้วล่ะน่า “นึกว่าจะทำตัวติดกับเซนอิจิคุงตลอดเวลาซะอีกนะ” เสียงกระแนะกระแหนดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ฉันหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่ก่อนจะหันมาไปมองห้าสาวที่มากันพร้อมหน้าหน้าตาก็จัดว่าใช้ได้แต่นิสัยฉันรับไม่ได้เลยอ่ะ(ไม่ดูตัวเองเลยฉัน) “ก็ฉันไม่ใช่ปลิงหนิถึงจะได้เกาะพี่เซนตลอดเวลา” ฉันตอกกลับ ผู้หญิงพวกนี้ต้องสั่งสอนซะบ้างจะได้สำนึก “ยัยเด็กนี่ดูท่าว่าอยากจะลองดีกับพวกเรานะ” หนึ่งในนั้นพูดขึ้น ถ้าไม่อยากฉันมาที่นี่หรอ? “พูดได้โดนใจมาเลยค่ะ” ฉันเอ่ยขึ้นก่อนจะกอดอกจ้องมองผู้หญิงผมทองที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาสมเพช พี่เซนฯคบไปได้ยังไงนะผู้หญิงแบบนี้ “โดนพี่เซนทิ้งงั้นหรอคะถึงได้ดูไม่ชอบใจเวลาที่ฉันหรือผู้หญิงคนอื่นเข้าใกล้พี่เซน” คนตรงหน้ากำหมัดแน่นเมื่อฉันพูดแทงใจดำ ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้แหละ เจ้าคิดเจ้าแค้นมันต้องสั่งสอน!! “วอนโดนตบซะแล้วยัยเด็กนี่!!” ผู้หญิงผมสีน้ำตาลยาวประบ่าพูดขึ้น ใครจะตบใครก่อนกันแน่ “จะลองดูมั้ยล่ะ พี่จูดี้” ผู้หญิงคนนั้นชะงักมือที่เตรียมจะตบฉันทันทีเมื่อฉันเอ่ยชื่อเธอออกไป ชื่อก็น่ารักดีนะแต่ดูปัญญาอ่อนมากกว่า “จะไม่ช่วยเพื่อนหรอค่ะพี่ลอร์เรน พี่คริส พี่เพอร์ฟูม แล้วก็พี่เอแคร์” ฉันมองแต่ละคนแบบเรียงตัว ทุกคนมีสีหน้าไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ตกใจงั้นหรอที่ฉันรู้ชื่อของพวกเธอ ความจริงฉันรู้มากกว่านั้นเยอะ “คิดว่ารู้ชื่อของพวกเราแล้วจะทำอะไรเราได้งั้นหรอ? จัดการเลยพวกเรา!!” ยัยเอแคร์ออกคำสั่งอย่างเหลืออด เท่านั้นแหละพวกนั้นก็กรูเข้ามาหมายจะตบสั่งสอนฉันทันทีเดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะตายก่อนกัน!! เพี๊ยะๆๆ!!!! ฉันกอดอกพลางมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสบายอารมณ์ คนอย่างฉันไม่จำเป็นต้องลงมือเองหรอก แต่ถ้าถามว่าฉันกำลังอะไร คำตอบคือ…… ใช้มือควบคุมทางไกลบังคับให้พวกนี้ตบกันเอง ชุลมุนแต่สนุกดี^^ “เหนื่อยแล้วหรอ?” ฉันถามพลางมองแต่ละคนที่สภาพใบหน้าเละเกินครึ่งอย่างนึกขำ นี่ขนาดฉันยังไม่ร่วมวงด้วยนะเนี่ย “เธอ…ทำอะไรกับพวกเราน่ะ!! ทำไมพวกเราถึงตบกันเองแบบนี้!!” ยัยคริสตวาดพลางมองหน้าฉันอย่างเดือดดาล ช่วยไม่ได้อยากมายุ่งวุ่นวายกับฉันก่อนทำไมล่ะ “ก็แค่…..” ฉันชี้ไปที่ยัยลอร์เรนก่อนจะ….. เพี๊ยะๆ!! ถึงแม้ฉันจะอยู่บนอ่างล้างมือแล้วสะบัดมือเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็บอกได้อย่างดีว่าฉันกำลังตบยัยนี่เพียงแต่ไม่ได้ใช้มือตัวเองก็เท่านั้น “เจ็บมั้ย?” ฉันถามในขณะที่กระโดดลงจากอ่าง เป็นจังหวะเดียวกับที่ยัยเอแคร์ตวัดมือลงมา เพี๊ยะ!! โดนเต็มๆ!! ยัยเอแคร์หน้าจืดตบฉันอ่ะ!!! “เอาคืนอีกสักทีสองทีคงไม่เป็นไรสินะ” ยัยเอแคร์แสะยิ้มอย่างเหนือกว่ามาให้เมื่อสามารถผลักฉันให้ล้มลงได้ ฉันกำลังจะโดนรุมค่ะทุกคน!! “หึ! คิดว่าตบฉันแล้วจะปิดปากฉันได้หรอสำหรับเรื่องที่เธอกำลังทำอยู่” ฉันแสะยิ้มกลับอย่างเหนือกว่า ฉันอยากจะรู้จริงๆว่ายัยนี่จะทำอะไรฉันได้ “เดี๋ยวก็รู้ว่าทำได้มั้ย!” ยัยเอแคร์ทำท่าจะตบฉันอีกครั้งแต่…… หมับ!! พลั่ก!! “เซนอิจิ!! O.O!!” ยัยพวกนั้นเบิกตากว้างเมื่อพี่เซนฯคว้ามือยัยเอแคร์เอาไว้ได้ก่อนจะเหวี่ยงยัยนั่นกระแทกกับประตูห้องน้ำ สะใจอ่ะ!!! (นิสัยนางเอกอย่าเอาอย่างนะคะ) “นายทำบ้าอะไรน่ะเซนอิจิ!!! นั่นแฟนนายนะ!!” ยัยเพอร์ฟูมกระวีกระวาดไปพยุงยัยเอแคร์ที่ทรุดตัวอยู่หน้าประตูห้องน้ำอย่างเจ็บปวด สำออยอ่ะดิ กระแทกนิดเดียวทำอย่างกับโดนแทง เชอะ! “หึ! แฟนนิสัยแย่ๆแบบนี้ฉันไม่ขอมีดีกว่า” พี่เซนฯพูดพลางอุ้มฉันขึ้นอย่างเบามือเหมือนกลัวว่าฉันจะเจ็บ ทั้งๆที่ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลยสักนิด แค่โดนตบไปที่เดียวเอง “แต่ยัยนั่นหาเรื่องเราก่อนนะ!!!” ยัยคริสชี้หน้าว่าฉัน อ้าว? ฉันหาเรื่องพวกเธอตอนไหนเนี่ย!! “ไม่ต้องมาแก้ตัว ฉันรู้ธาตุแท้ของพวกเธอหมดแล้ว” พี่เซนฯพูดเสียงเรียบ หึๆยังไงฉันก็ต้องชนะ!! “นายเอาอะไรมาพูด!! เอาอะไรมาตัดสินว่าเราเป็นอย่างที่นายเห็น!” ยัยเอแคร์ที่ลุกขึ้นมาได้เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เดี๋ยวสงเคราะห์ให้ละกันนะ “นึกว่าจะทำตัวติดกับเซนอิจิคุงตลอดเวลาซะอีกนะ” “ก็ฉันไม่ใช่ปลิงหนิถึงจะได้เกาะพี่เซนตลอดเวลา” “ยัยเด็กนี่ดูท่าว่าอยากจะลองดีกับพวกเรานะ” “พูดได้โดนใจมาเลยค่ะ” “โดนพี่เซนทิ้งงั้นหรอค่ะถึงได้ดูไม่ชอบใจเวลาที่ฉันหรือผู้หญิงคนอื่นเข้าใกล้พี่เซน” “วอนโดนตบซะแล้วยัยเด็กนี่!!” “จะลองดูมั้ยล่ะ พี่จูดี้ “จะไม่ช่วยเพื่อนหรอค่ะพี่ลอร์เรน พี่คริส พี่เพอร์ฟูม แล้วก็พี่เอแคร์” “คิดว่ารู้ชื่อของพวกเราแล้วจะทำอะไรเราได้งั้นหรอ? จัดการเลยพวกเรา!!” เสียงที่มาพร้อมภาพถูกเปิดขึ้นท่ามกลางความเงียบด้วยฝีมือฉันเอง ถ้าคิดว่าจะเห็นภาพที่ฉันนั่งสะบัดมืออยู่บนอ่างล้างมือล่ะก็…..ไม่มีหรอกค่ะ มีแต่ภาพที่ฉันโดนยัยพวกนี้รุมจนหน้าช้ำ ตัวเขียว ส่วนยัยพวกนั้นก็ปกดีทุกอย่าง ก็ฉันอยากให้มันเป็นแบบนี้หนิ ใครจะทำไม? “หลักฐานคาตาขนาดนี้ยังจะปฏิเสธอีกมั้ย?” พี่เซนฯเอ่ยเมื่อฉันปิดคลิปนั่นลง ยัยพวกนั้นมองฉันตาค้างคงไม่คิดว่าฉันจะทำอะไรเหนือความคาดหมายล่ะสินะ “พี่คะ กลับกันเถอะค่ะ” ฉันอ้อนพี่เซนฯให้พากลับบ้าน ก็ฉันง่วงนี่นาจะมาหลับแถวนี้ได้ไง “อืม” พี่เซนฯพยักหน้า แต่ก่อนไปพี่เขาก็หันไปบอกเรื่องชวนช็อคกับห้าสาว “อย่ามายุ่งกับน้องสาวฉันอีกนะ ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยพวกเธอไว้แน่” จบคำพี่เซนฯก็เดินออกมาทันทีก่อนจะเดินไปลาเพื่อนที่โต๊ะแล้วมาที่ลานจอดรถ “ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่หมดสนุก” ฉันก้มหน้าอย่างสำนึกผิด พี่เซนฯน่าจะได้เที่ยวสนุกอยู่กับเพื่อนแท้ๆ “ช่างมันเถอะ เรื่องเที่ยวเที่ยวกันวันไหนก็ได้” พี่เซนฯบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจก่อนที่เราจะเดินทางกลับบ้าน เมื่อมาถึงบ้านพี่เซนฯก็อุ้มฉันเข้าบ้านก่อนจะพาไปส่งที่ห้อง แล้วทำแผลที่ใบหน้าให้ ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววกังวลใจไม่น้อยเหมือนกลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อีก “อย่าเครียดสิคะพี่ เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไปเถอะค่ะ” ฉันกุมมือพี่ชายตัวเองเอาไว้เพื่อให้เขาหายห่วง พี่เซนฯก้มหน้าอย่างรู้สึกผิดเมื่อทำให้ฉันโดนทำร้าย “พี่กลัว พี่กลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก” มือหนาเริ่มสั่นเพราะอาการกลัว พี่เซนฯกุมมือฉันแน่น ฉันเลยดึงพี่เขามากอดเพื่อบอกว่าฉันไม่เป็นไร อย่างยัยพวกนั้นทำอะไรฉันไม่ได้หรอก “อย่าห่วงเลยค่ะ เรื่องแบบนี้มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแน่ โนริจะระวังตัวนะคะ ไม่ต้องกังวลอีกแล้วนะคะพี่” ฉันซุกหน้าอยู่กับอกแกร่งของพี่เซนฯโดยที่พี่เขาก็กอดฉันเอาไว้แน่น ฉันผละออกจากพี่เขาก่อนที่จะส่งยิ้มไปให้ พี่เซนฯดูสบายใจกว่าเดิมเยอะแล้วล่ะ “เฮ้อ~ขี้เกียจเดินกลับห้องจังเลย พี่นอนด้วยนะคืนนี้” ไม่ว่าเปล่าพี่เซนฯทิ้งตัวลงนอนพลางเอาผ้าห่มมาคลุมโป่งเฉย เฮ้ย! ได้ไงอ่ะ T^T “ได้ไงอ่ะพี่เซนฯ พี่กลับห้องไปเลยนะ” ฉันทั้งฉุดทั้งลากพี่เซนฯลงจากเตียง แต่พี่เขาไม่ได้ตัวเล็กนะเออ แม้จะทั้งดึงทั้งฉุดพี่เขาก็ไม่ขยับเลยอ่ะ “เลิกเรียกพี่แบบนั้นได้แล้ว เรียกพี่เซนเฉยๆก็ได้” พี่เซนฯโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มก่อนจะพูดขึ้นเพราะฉันมักจะเรียกพี่เขาว่าเซนอิจิตลอด “เอ๋? ได้หรอคะ??” ฉันถามอย่างดีใจ พี่เซนฯพยักหน้าก่อนจะดึงฉันให้นอนลงข้างๆเขา โดยใช้ท่อนแขนของพี่เขาต่างหมอน อุ่นจัง ^^ “ฝันดีน้องสาวที่รักของพี่” “ฝันดีเช่นกันคะ พี่ชายสุดที่รัก ^^”
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นฉันก็เจอพี่ชายสุดหล่อนอนกอดฉันอยู่ข้างๆ ใบหน้าหล่อเหลาหลับตาพริ้มอย่างไม่มีท่าทีว่าจะตื่น เมาค้างล่ะสิท่า “พี่เซนคะ ตื่นได้แล้วนะคะ วันนี้พี่มีเรียนเช้านะ” ฉันเขย่าตัวพี่เซนเบาๆ แต่พี่เขายังแน่นิ่งไม่ไหวติงแต่อย่างใด อ้าว?อะไรจะแฮงค์ขนาดนั้น “พี่เซนคะ ตื่นได้แล้วนะ ไม่งั้นโนริจะฟ้องคุณแม่ว่าเมื่อคืนพี่แอบไปนัวเนียกับผู้หญิงมา” พรึบ!! แทบจะทันทีที่พูดจบ ร่างสูงที่นอนอุตุอยู่ถึงกับกระวีกระวาดลุกขึ้น พลางหันมามองฉันตาขว้าง แต่ฉันกลับทำหน้าล้อเลียนพี่เขาที่กลัวท่านแม่ขึ้นสมอง “อย่าไปบอกแม่ใหญ่เป็นอันขาดนะ ไม่งั้นพี่ตายแน่” พี่เซนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อที่พูดถึงท่านแม่ ตลกชะมัด ^^ “รีบไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ วันนี้พี่มีเรียนเช้านะคะ เดี๋ยววันนี้โนริไปส่งนะ” ฉันอาสาไปส่งพี่เซนเพราะดูท่าว่าพี่เขายังไม่หายแฮงค์ ขืนขับรถไปเองมีหวังลำบากยมทูตแน่ๆ “พี่ไปเองได้น่า” พี่เซนพูดก่อนจะขยี้หัวฉันเล่นพลางลุกจากเตียง “สภาพแบบนี้เนี่ยนะ? โนริว่าไม่ไหวหรอกให้โนริไปส่งเถอะนะ” ฉันอ้อน ความจริงฉันอยากไปดูมหา’ลัยของพี่เซนน่ะ ได้ยินว่าใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นเลยนะ อยากไปเห็นอ่ะ “ตามใจ” พี่เซนบอกก่อนจะเดินกลับห้องฉันเลยวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ วันนี้แหละฉันจะไปหว่านเสน่ห์ใส่หนุ่มๆที่มหา’ลัยของพี่เซนเป็นการแก้เบื่อ เมื่ออาบน้ำเสร็จฉันก็มาแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีชมพู แขนพอง ยาวเลยเข่านิดหน่อย ส่วนผมก็ปล่อยสบายๆติดกิ๊บดอกกุหลาบ แต่งหน้าอ่อนๆ แต่นี้ฉันก็สวยเริ่ดแล้ว โฮะๆ ^O^! ก็อกๆ!! “คุณหนูคะ ได้เวลาอาหารเช้าแล้วคะ” เสียงแม่บ้านหลังขึ้นหลังเสียงเคาะประตู ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว ^^ “จะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ” ฉันบอกก่อนจะเปิดประตูลงไปที่ห้องทานอาหาร ส่วนพี่เซนก็ประจำที่แล้วเรียบร้อย “ยังชอบแต่งตัวเป็นชาติเหมือนเดิมเลยนะ” พี่เซนแขวะเข้าให้เมื่อฉันแต่งตัวนานเกินไป ทีตัวเองล่ะ “มันก็ต้องมีบ้างอะไรบ้าง ก็คนมันสวยนี่นา ก็ต้องแต่งให้สวยกว่าเดิมสิ” ฉันบอกก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้โดยมีพี่เซนเป็นคนเลื่อนให้ นั่นทำเอาทุกคนงงกันเลยว่าทีเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่เซนถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ “อ้าว? ไม่ทานกันหรอคะ? วันนี้พี่เซนมีเรียนเช้านะคะทุกคน” ฉันหันไปบอกทุกคนที่ยังคงงงเป็นไก่ตาแตก ก่อนที่ทุกคนจะหันไปสนใจจานข้าวของตัวเอง “ทานล่ะนะคะ~” ฉันเอ่ยขึ้นก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้า โดยมีพี่เซนคอยเช็ดปากให้ “ยัยบ๊อง กินดีๆหน่อยสิ หมดกันภาพพจน์ที่อุส่าสร้างมาตั้งนาน” พี่เซนส่ายหน้าอย่างเอือมๆเมื่อฉันกินเลอะ อะไรอ่ะคนเขาก็กินดีๆแล้วนะ “ว่าแต่คนอื่นดูตัวเองซะมั่ง” ฉันเอื้อมมือไปเช็ดมุมปากของพี่เซนที่มีคราบซอสติดอยู่ ว่าแต่คนอื่น ไม่ดูตัวเองเล๊ย!! “ขอบใจยัยน้องตัวยุ่ง” พี่เซนโยกหัวฉันอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนที่เราจะพูดขึ้นพร้อมกันว่า “ไปก่อนนะคะ/ไปก่อนนะครับ เจอกันตอนเย็น” จบคำเราสองคนก็เดินออกมาที่โรงจอดรถโดยวันนี้เราจะขับ CR-V สีน้ำเงินคันโปรดของพี่เซนไป ก็อยากเอาคันอื่นไปนะ แต่ไอ้พี่ตัวดีดันชอบคันนี้ -_-^^ “แน่ใจนะว่าจะไปกับพี่น่ะ คงไม่ใช่ว่ามีแผนอะไรอยู่นะ” พี่เซนพูดดักคอ อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยน่า “ป่าวซะหน่อย เค้าก็เป็นห่วงพี่นี่นา ไปด้วยไม่ได้หรอ?” ฉันพูดอย่างงอนๆ พี่เซนส่ายหน้าเบาๆก่อนจะขับรถออกจากบ้าน มุ่งสู่มหาวิทยาลัยกันเลย ^^!!! + + มหาวิทยาลัยของพี่ชายสุดหล่อ ^^ + + เมื่อมาถึงมหา’ลัยของพี่ชายสุดหล่อ ฉันก็ต้องร้องว้าวออกมาอย่างน่าตกใจ มันใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกก แถมการตกแต่งยังดูดีอีกด้วย คงมีแต่ลูกคุณหนูมีเงินเหลือกินเหลือใช้ล่ะมั้ง ถึงจะอยู่เรียนที่นี่ได้ -_-^^ พี่เซนขับรถมาจอดที่ลานจอดรถของคณะแพทย์(พี่เซนเรียนแพทย์คะ) ก่อนจะทำหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อเจอใครบางคนที่กำลังยืนรอเขาอยู่ ยัยเอแคร์หน้าจืดมองมาที่ฉันอย่างไม่เป็นมิตรก่อนที่จะหันไปมองพี่ชายสุดหล่อของฉันด้วยสายตาที่อ้อนวอนเหมือนต้องการให้พี่เซนลงไปคุยกับเธอ ยังกล้ามาคุยกับพี่ชายฉันอีกหรอ หน้าหนาไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย “ยัยนี่โบ๊ะหน้ามากี่ชั้นกันว่ะเนี่ย ทำไมหน้าหนาแบบนี้ว่ะ” พี่เซนพูดออกมาอย่างไม่คิดที่จะยั้งปากเลยสักนิด นั่นผู้หญิงนะพี่ ไปพูดแบบนั้นเดี๋ยวศพไม่สวยหรอก -_-^^ “แล้วพี่จะเอาไงอ่ะ ลงไปคุยกับเธอหน่อยมั้ย?” “ไม่ล่ะ พี่ไม่ชอบผู้หญิงแบบนั้น ผู้หญิงที่เอาแต่ใจ เห็นแก่ตัวแบบยัยนี่พี่ไม่เอาด้วยหรอก ไปจอดที่อื่นดีกว่า” จบคำพี่เซนก็ถอยรถออกจากตรงนั้นทันทีก่อนจะไปหาที่จอดใหม่ “พี่นี่น้า ไม่เห็นต้องว่าเธอขนาดนั้นเลย เกิดเธอมาได้ยินเธอจะเสียใจเอานะ” ฉันนี่เสแสร้งเก่งเนอะว่ามั้ย? “เรื่องของยัยนั่นสิ ไม่เกี่ยวกับพี่ซะหน่อย” ช่างโหดร้ายจริงๆ เมื่อหาที่จอดรถได้แล้วเราสองคนก็เดินขึ้นตึกเรียนของพี่เซน วันนี้พี่เซนมีเรียนแค่ช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายพี่เขาบอกว่าจะพาไปเที่ยว ^^ “จะรอพี่ได้หรอ? พี่ว่าโนริไปเที่ยวที่อื่นก่อนก็ได้นะ พอถึงตอนบ่ายก็ค่อยกลับมารับพี่” พี่เซนเสนอ ไม่เอาหรอก ขืนทำแบบนั้นฉันก็หมดสนุกน่ะสิ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ โนริจะเดินเล่นแถวๆนี้แหละ อีกอย่างที่นี่น่าสนใจมากเลย ไปเดินชมสักหน่อยเผื่อโนริจะมาสอบเข้าที่นี่จะได้รู้ทาง” ฉันบอกพลางยิ้มแฉ่ง พี่เซนยังคงไม่ยอมเข้าห้องเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องเหมือนเมื่อวาน “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ โนริดูแลตัวเองได้ พี่ไปเรียนได้แล้ว” ฉันดันหลังพี่เซนให้เข้าห้องไป ก่อนที่ตัวเองจะวิ่งแจ้นลงมาที่ชั้นล่าง ฉันเดินมาที่สวนอะไรสักอย่างที่มีการตกแต่งคล้ายสวนสำหรับพักผ่อน มีม้านั่ง มีศาลาริมน้ำ บรรยากาศร่มรื่น กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยอบอวลไปทั่วสวน ทางเดินปูด้วยหินอ่อนดูสวยงาม กลางสวนคือลานน้ำพุขนาดใหญ่ที่มีภูตน้ำกำลังเต้นระบำอยู่ น่ารักจัง ฉันมองภาพเหล่านั้นก่อนที่จะเดินไปที่ม้านั่งสีขาวตัวยาวที่ตั้งอยู่ใต้ร่มไม้ ก่อนจะนั่งลงชมวิวรอบตัวที่งดงามจนชักอยากจะเห็นหน้าคนออกแบบสวนซะแล้วสิ ฉันจะได้ให้เขาออกแบบสวนหลังบ้านให้ ^^ “มาทำอะไรที่นี่หรอ? ว่าที่คู่หมั้นของผม” ฉันแทบหงายหลังตกม้านั่งเมื่อเขาคนนั้นจู่ๆก็โผล่มาแบบนี้ เกิดฉันหัวใจวายตายทำไง!! “ไม่ตายหรอกน่า เชื่อสิ” เขาพูดก่อนจะนั่งลงข้างฉัน วางแผนไว้ซะดิบดีว่าจะมานั่งสบายอารมณ์ซะหน่อย เสียแผนหมด! “ยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะว่าเธอมาทำอะไรที่นี่” เขาย้อนกลับมาถามฉันที่หันหน้าเมินเขาไปอีกทาง จะมายุ่งวุ่นวายกับฉันทำไมก็ไม่รู้ “ไม่ใช่เรื่องของคุณ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะเดินหนีมาอีกทาง แต่ช้าไปก้าวเดียวเอง หมับ!! ร่างสูงคว้าข้อมือฉันเอาไว้ก่อนจะกระชากฉันให้หันกลับไปหาเขา แต่เพราะแรงกระชากมันเลยทำให้ฉันเสียการทรงตัวจนเซไปประทะกับแผงอกกว้างของเขา “ปล่อยฉันนะ!!” ฉันดิ้นพล่านไปมาในอ้อมกอดของเขาเพราะเขากอดฉันเอาไว้แน่น ใบหน้าหล่อเหลาคลอเคลียอยู่กับแก้มเนียนสวยของฉันไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงต้นคอ ลมหายใจร้อนๆของเขาเป่ารดต้นคอครั้งแล้วครั้งเล่ายิ่งทำให้ฉันอยู่ไม่เป็นสุข หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะและเต้นแรงเหมือนมันจะระเบิดออกมา ทรมานจัง “ไม่ว่ายัง ฉันก็ไม่ปล่อยหรอก ให้ตายฉันก็ไม่ปล่อยเธอเด็ดขาด” เขาซุกหน้าอยู่กับซอกคอฉันพูดเสียงอู้อี้ มันจั๊กจี้นะ!! “คุณเป็นอะไรไปน่ะ?” ฉันถามอยากแปลกใจ เขาดูเศร้ากว่าทุกครั้งที่เราเจอกัน เขาเป็นอะไรนะ? เขาส่ายหน้าไปมาแต่ยังไม่ผละออกจากฉัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันฉันถึงเอื้อมมือไปกอดเขาเอาไว้ “เล่าให้ฉันฟังก็ได้นะ” ฉันเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบพลางลูบหลังเขาเบาๆเพื่อปลอบประโลม ตอนนี้เขาต้องการกำลังใจอย่างมากเลย ร่างสูงยังคงเงียบเหมือนไม่อยากเล่า ฉันก็ไม่บังคับเขา แต่ว่านะอ้อมกอดแบบนี้มัน…. “ เป็นอะไรหรือเปล่าเทสึ?” “ สัญญากับฉันนะโนริ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอจะไม่ทิ้งฉันไปไหนเด็ดขาด” “ สัญญาสิ เราเป็นเพื่อนกันนี่นา ฉันไม่ทิ้งนายไปไหนหรอก ^^” ความทรงจำบางอย่างค่อยๆผุดขึ้นมาในหัว มันเหมือนภาพในอดีตที่ฉันเคยลืมไปนานแสนนาน ร่างสูงผละออกจากฉันเมื่อเขาเริ่มสบายใจ ก่อนที่เขาจะเชยคางฉันขึ้นเพื่อให้สบตากับเขา ใบหน้าหล่อเหล่าค่อยๆโน้มลงมาช้าๆจนสัมผัสได้ถึงลมหายของกันและกัน ฉันค่อยๆหลับตาลงทั้งๆที่รู้ว่าเขาจะทำอะไร จนกระทั่งสัมผัสได้ถึงริมฝีปากอ่อนนุ่มของร่างสูงที่ประกบลงมา จูบที่เขามอบให้เต็มไปด้วยความอ่อนหวาน อ่อนโยนแต่แฝงมาด้วยความโหยหา ก่อนมันจะเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงหากแต่ลึกซึ้ง เขาจะทำให้ฉันสลบไปเลยหรือไง ฉันไร้เรี่ยวแรงจนเกือบจะทรุดตัวลงกับพื้น แต่มือหนาของร่างสูงก็กอดฉันเอาไว้แน่น ความทรงจำที่ขาดหายไปค่อยๆย้อนกลับเข้ามาในหัว “ผม ไอระ เทคกะ ชื่อเล่นเทสึ มัธยมปลายปีสามห้องเอ……” “ นายคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ยเทสึ!! อย่างนายเป็นคิงไม่ได้หรอกย่ะ” “ใช่ว่าฉันอยากลงนักหนิ แต่ต้องเป็นตัวแทนห้อง เซ็งจะตายชัก อย่างเธอก็ไม่เห็นสวยเลย ไม่รู้เป็นควีนได้ไง” “อย่างกับตัวเองหล่อนักล่ะ ไม่รู้ว่าพวกผู้หญิงควงนายไปได้ไง หน้าตาอย่างกับปลาสวาย อี๋~” “เลิกถามมากได้แล้ว นอนลงไปเลย” “ไลค์ สตาร์OoO!!!!” “ใช่ ฉันเอง อุส่าไปช่วยยังไม่ขอบคุณอีก” “เออๆขอบใจนะ แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นั่น” “เปล่า แค่เผอิญผ่านไปเจอ” “ถ้ายัยนั่นรู้ว่าฉันไม่ใช่มนุษย์ ยัยนั่นจะทำยังไงนะ” “เลิกคบกับนายมั้ง” “วอลต์ สเทลลาส O.O!!” “ไม่คิดจะบอกความจริงกับผู้หญิงคนนั้นหรอ?” “ยัยนั่นจะหัวใจวายตายเอาเปล่าๆ เสียดายผู้หญิงสวย” “ถ้าเกิดเธอคนนั้นมารู้เอาเอง มันจะไม่แย่เอาหรอ” “มันเป็นไปไม่ได้หรอก” “มันจะใช่หร๊อ~ ถ้าเกิดเธอคนนั้นมาเห็นจริงๆ นายจะทำยังไง?” “ฉันอาจจะ…หายจากชีวิตของยัยนั่น…ตลอดกาล” “ถ้าเกิดว่าเธอคนนั้นไม่อยากให้นายไปล่ะ” “เราสองคนก็อยู่ด้วยกันไม่ได้อยู่ดี สักวันเธอก็ต้องตาย ต่างกับฉันที่มีชีวิตเป็นอมตะ” “อย่าเพิ่งท้อสิ วันนั้นมันยังมาไม่ถึงเลยนะ” “บอกฉันมาโนริ ว่าเธอรู้เรื่องนั้นได้ยังไง!!” “ฉันรู้ได้ไงมันไม่สำคัญหรอก มันอยู่ที่ว่านายไปคบเธอได้ยังไงต่างหาก” “เธอไม่สิทธิ์รู้เรื่องนี้!” “ถ้าฉันอยากรู้จะทำไม แต่ว่านะ เรื่องของคนทรยศมันก็ไม่มีอะไรให้น่าสนใจนักหรอก มีอย่างที่ไหนเป็นเทพสวรรค์ดีๆไม่ชอบ ดันไปยุ่งกับเทพนรก โอ๊ยยยย!!!” “เธอไม่มีสิทธิ่ต่อว่าพีโอน่าแบบนั้น!! อีกอย่างพีโอน่าไม่ใช่คนแบบนั้นด้วย!!” “มีคนเชื่อที่นายพูดด้วยหรอ? แต่อย่างว่า หลักฐานคาตาขนาดนั้น ต่อให้นายคุกเข่าอ้อนวอนก็ไม่มีใครเชื่อหรอก จะว่าไปผู้หญิงคนนี้ก็เลวใช้ได้เลยนะ คิดได้แม้กระทั่งวิธีทำลายสถานที่เกิดของตัวเอง เอ๊~จะว่าไปพวกนายสองคนก็เหมาะกันดีนะ หญิงก็ร้าย ชายก็เลว…..” “ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าเธอไม่มีสิทธิ์พูดแบบนั้นกับพีโอน่า!!” “ทำไมจะพูดไม่ได้ แค่ผู้หญิงเลวๆคนนึง ไม่ได้มีค่าอะไรเลยสักนิด นายจะหวงอะไรนักหนา อีกอย่างยัยนั่นก็ตายไปแล้ว ด้วย แต่ก็สมควรแล้วล่ะอยู่ดีไม่ว่าดีรนหาที่ตาย” “ดีแต่ว่าให้คนอื่น เธอเองก็ไม่ได้มีค่าอะไรมากมายนักหรอก อีกอย่าง…คนอย่างเธอเทียบพีโอน่าไม่ได้ด้วยซ้ำ” คำพูดหลากหลายคำไหลเข้ามาในหัวเหมือนวิดีโอที่ถูกเล่นย้อนกลับ ภาพวันที่เขาคนนั้นไปสมัครลงชิงตำแหน่งคู่ฉัน ภาพวันที่เขาคนนั้นช่วยฉันตอนที่สู้กับเทพนรก ภาพวันที่เขาต่อว่าฉันในวันที่เราสองคนไปภาพแต่งงาน เขาคนนั้น คนที่อยู่เคียงข้างฉันมาตลอด เขา...… ร่างสูงถอนปากออกจากฉันก่อนที่เราจะมองตากันเงียบๆ ดวงตาสีมรกตมองมาที่ฉันอย่างอ่อนโยน มือเรียวสวยของฉันเอื้อมไปสัมผัสใบหน้าเหลาที่ฉันเคยตกหลุมรักมานาน เขาเอื้อมมือมาวางทาบมือของฉันก่อนจะหลับตาลง น้ำตาไหลอาบแก้มของฉันช้าๆอย่างห้ามไม่อยู่ ฉัน…..ฉันจำได้หมดแล้ว จำได้ทุกอย่าง ความทรงจำที่ฉันอยากจะลืมมัน มันกลับมาแล้ว และฉันจะไม่มีวันให้มันหายไปอีก ไม่มีวัน!! “จำได้แล้วใช่มั้ย? ว่าเราสองคนเคยทำอะไรร่วมกันมาบ้าง เคยสู้ด้วยกัน เคยหัวเราะด้วยกัน เธอจำมันได้ใช่มั้ย เธอ….” คำพูดที่เขาอยากจะพูดออกมาถูกริมฝีปากอวบอิ่มของฉันกลืนมันให้หายไปในลำคอ ร่างสูงชะงักไปทันทีเมื่อโดนฉันจู่โจมก่อนที่เขาจะตอบสนองฉันกลับมาอย่างเร่าร้อนจนยากที่จะปฏิเสธ เขายังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน “ขอบคุณที่มอบความทรงจำเหล่านั้นกลับมาให้ฉัน เทสึ…ขอบคุณจริงๆ”
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นฉันก็เจอพี่ชายสุดหล่อนอนกอดฉันอยู่ข้างๆ ใบหน้าหล่อเหลาหลับตาพริ้มอย่างไม่มีท่าทีว่าจะตื่น เมาค้างล่ะสิท่า “พี่เซนคะ ตื่นได้แล้วนะคะ วันนี้พี่มีเรียนเช้านะ” ฉันเขย่าตัวพี่เซนเบาๆ แต่พี่เขายังแน่นิ่งไม่ไหวติงแต่อย่างใด อ้าว?อะไรจะแฮงค์ขนาดนั้น “พี่เซนคะ ตื่นได้แล้วนะ ไม่งั้นโนริจะฟ้องคุณแม่ว่าเมื่อคืนพี่แอบไปนัวเนียกับผู้หญิงมา” พรึบ!! แทบจะทันทีที่พูดจบ ร่างสูงที่นอนอุตุอยู่ถึงกับกระวีกระวาดลุกขึ้น พลางหันมามองฉันตาขว้าง แต่ฉันกลับทำหน้าล้อเลียนพี่เขาที่กลัวท่านแม่ขึ้นสมอง “อย่าไปบอกแม่ใหญ่เป็นอันขาดนะ ไม่งั้นพี่ตายแน่” พี่เซนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อที่พูดถึงท่านแม่ ตลกชะมัด ^^ “รีบไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ วันนี้พี่มีเรียนเช้านะคะ เดี๋ยววันนี้โนริไปส่งนะ” ฉันอาสาไปส่งพี่เซนเพราะดูท่าว่าพี่เขายังไม่หายแฮงค์ ขืนขับรถไปเองมีหวังลำบากยมทูตแน่ๆ “พี่ไปเองได้น่า” พี่เซนพูดก่อนจะขยี้หัวฉันเล่นพลางลุกจากเตียง “สภาพแบบนี้เนี่ยนะ? โนริว่าไม่ไหวหรอกให้โนริไปส่งเถอะนะ” ฉันอ้อน ความจริงฉันอยากไปดูมหา’ลัยของพี่เซนน่ะ ได้ยินว่าใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นเลยนะ อยากไปเห็นอ่ะ “ตามใจ” พี่เซนบอกก่อนจะเดินกลับห้องฉันเลยวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ วันนี้แหละฉันจะไปหว่านเสน่ห์ใส่หนุ่มๆที่มหา’ลัยของพี่เซนเป็นการแก้เบื่อ เมื่ออาบน้ำเสร็จฉันก็มาแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีชมพู แขนพอง ยาวเลยเข่านิดหน่อย ส่วนผมก็ปล่อยสบายๆติดกิ๊บดอกกุหลาบ แต่งหน้าอ่อนๆ แต่นี้ฉันก็สวยเริ่ดแล้ว โฮะๆ ^O^! ก็อกๆ!! “คุณหนูคะ ได้เวลาอาหารเช้าแล้วคะ” เสียงแม่บ้านหลังขึ้นหลังเสียงเคาะประตู ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว ^^ “จะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ” ฉันบอกก่อนจะเปิดประตูลงไปที่ห้องทานอาหาร ส่วนพี่เซนก็ประจำที่แล้วเรียบร้อย “ยังชอบแต่งตัวเป็นชาติเหมือนเดิมเลยนะ” พี่เซนแขวะเข้าให้เมื่อฉันแต่งตัวนานเกินไป ทีตัวเองล่ะ “มันก็ต้องมีบ้างอะไรบ้าง ก็คนมันสวยนี่นา ก็ต้องแต่งให้สวยกว่าเดิมสิ” ฉันบอกก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้โดยมีพี่เซนเป็นคนเลื่อนให้ นั่นทำเอาทุกคนงงกันเลยว่าทีเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่เซนถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ “อ้าว? ไม่ทานกันหรอคะ? วันนี้พี่เซนมีเรียนเช้านะคะทุกคน” ฉันหันไปบอกทุกคนที่ยังคงงงเป็นไก่ตาแตก ก่อนที่ทุกคนจะหันไปสนใจจานข้าวของตัวเอง “ทานล่ะนะคะ~” ฉันเอ่ยขึ้นก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้า โดยมีพี่เซนคอยเช็ดปากให้ “ยัยบ๊อง กินดีๆหน่อยสิ หมดกันภาพพจน์ที่อุส่าสร้างมาตั้งนาน” พี่เซนส่ายหน้าอย่างเอือมๆเมื่อฉันกินเลอะ อะไรอ่ะคนเขาก็กินดีๆแล้วนะ “ว่าแต่คนอื่นดูตัวเองซะมั่ง” ฉันเอื้อมมือไปเช็ดมุมปากของพี่เซนที่มีคราบซอสติดอยู่ ว่าแต่คนอื่น ไม่ดูตัวเองเล๊ย!! “ขอบใจยัยน้องตัวยุ่ง” พี่เซนโยกหัวฉันอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนที่เราจะพูดขึ้นพร้อมกันว่า “ไปก่อนนะคะ/ไปก่อนนะครับ เจอกันตอนเย็น” จบคำเราสองคนก็เดินออกมาที่โรงจอดรถโดยวันนี้เราจะขับ CR-V สีน้ำเงินคันโปรดของพี่เซนไป ก็อยากเอาคันอื่นไปนะ แต่ไอ้พี่ตัวดีดันชอบคันนี้ -_-^^ “แน่ใจนะว่าจะไปกับพี่น่ะ คงไม่ใช่ว่ามีแผนอะไรอยู่นะ” พี่เซนพูดดักคอ อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยน่า “ป่าวซะหน่อย เค้าก็เป็นห่วงพี่นี่นา ไปด้วยไม่ได้หรอ?” ฉันพูดอย่างงอนๆ พี่เซนส่ายหน้าเบาๆก่อนจะขับรถออกจากบ้าน มุ่งสู่มหาวิทยาลัยกันเลย ^^!!! + + มหาวิทยาลัยของพี่ชายสุดหล่อ ^^ + + เมื่อมาถึงมหา’ลัยของพี่ชายสุดหล่อ ฉันก็ต้องร้องว้าวออกมาอย่างน่าตกใจ มันใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกก แถมการตกแต่งยังดูดีอีกด้วย คงมีแต่ลูกคุณหนูมีเงินเหลือกินเหลือใช้ล่ะมั้ง ถึงจะอยู่เรียนที่นี่ได้ -_-^^ พี่เซนขับรถมาจอดที่ลานจอดรถของคณะแพทย์(พี่เซนเรียนแพทย์คะ) ก่อนจะทำหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อเจอใครบางคนที่กำลังยืนรอเขาอยู่ ยัยเอแคร์หน้าจืดมองมาที่ฉันอย่างไม่เป็นมิตรก่อนที่จะหันไปมองพี่ชายสุดหล่อของฉันด้วยสายตาที่อ้อนวอนเหมือนต้องการให้พี่เซนลงไปคุยกับเธอ ยังกล้ามาคุยกับพี่ชายฉันอีกหรอ หน้าหนาไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย “ยัยนี่โบ๊ะหน้ามากี่ชั้นกันว่ะเนี่ย ทำไมหน้าหนาแบบนี้ว่ะ” พี่เซนพูดออกมาอย่างไม่คิดที่จะยั้งปากเลยสักนิด นั่นผู้หญิงนะพี่ ไปพูดแบบนั้นเดี๋ยวศพไม่สวยหรอก -_-^^ “แล้วพี่จะเอาไงอ่ะ ลงไปคุยกับเธอหน่อยมั้ย?” “ไม่ล่ะ พี่ไม่ชอบผู้หญิงแบบนั้น ผู้หญิงที่เอาแต่ใจ เห็นแก่ตัวแบบยัยนี่พี่ไม่เอาด้วยหรอก ไปจอดที่อื่นดีกว่า” จบคำพี่เซนก็ถอยรถออกจากตรงนั้นทันทีก่อนจะไปหาที่จอดใหม่ “พี่นี่น้า ไม่เห็นต้องว่าเธอขนาดนั้นเลย เกิดเธอมาได้ยินเธอจะเสียใจเอานะ” ฉันนี่เสแสร้งเก่งเนอะว่ามั้ย? “เรื่องของยัยนั่นสิ ไม่เกี่ยวกับพี่ซะหน่อย” ช่างโหดร้ายจริงๆ เมื่อหาที่จอดรถได้แล้วเราสองคนก็เดินขึ้นตึกเรียนของพี่เซน วันนี้พี่เซนมีเรียนแค่ช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายพี่เขาบอกว่าจะพาไปเที่ยว ^^ “จะรอพี่ได้หรอ? พี่ว่าโนริไปเที่ยวที่อื่นก่อนก็ได้นะ พอถึงตอนบ่ายก็ค่อยกลับมารับพี่” พี่เซนเสนอ ไม่เอาหรอก ขืนทำแบบนั้นฉันก็หมดสนุกน่ะสิ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ โนริจะเดินเล่นแถวๆนี้แหละ อีกอย่างที่นี่น่าสนใจมากเลย ไปเดินชมสักหน่อยเผื่อโนริจะมาสอบเข้าที่นี่จะได้รู้ทาง” ฉันบอกพลางยิ้มแฉ่ง พี่เซนยังคงไม่ยอมเข้าห้องเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องเหมือนเมื่อวาน “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ โนริดูแลตัวเองได้ พี่ไปเรียนได้แล้ว” ฉันดันหลังพี่เซนให้เข้าห้องไป ก่อนที่ตัวเองจะวิ่งแจ้นลงมาที่ชั้นล่าง ฉันเดินมาที่สวนอะไรสักอย่างที่มีการตกแต่งคล้ายสวนสำหรับพักผ่อน มีม้านั่ง มีศาลาริมน้ำ บรรยากาศร่มรื่น กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยอบอวลไปทั่วสวน ทางเดินปูด้วยหินอ่อนดูสวยงาม กลางสวนคือลานน้ำพุขนาดใหญ่ที่มีภูตน้ำกำลังเต้นระบำอยู่ น่ารักจัง ฉันมองภาพเหล่านั้นก่อนที่จะเดินไปที่ม้านั่งสีขาวตัวยาวที่ตั้งอยู่ใต้ร่มไม้ ก่อนจะนั่งลงชมวิวรอบตัวที่งดงามจนชักอยากจะเห็นหน้าคนออกแบบสวนซะแล้วสิ ฉันจะได้ให้เขาออกแบบสวนหลังบ้านให้ ^^ “มาทำอะไรที่นี่หรอ? ว่าที่คู่หมั้นของผม” ฉันแทบหงายหลังตกม้านั่งเมื่อเขาคนนั้นจู่ๆก็โผล่มาแบบนี้ เกิดฉันหัวใจวายตายทำไง!! “ไม่ตายหรอกน่า เชื่อสิ” เขาพูดก่อนจะนั่งลงข้างฉัน วางแผนไว้ซะดิบดีว่าจะมานั่งสบายอารมณ์ซะหน่อย เสียแผนหมด! “ยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะว่าเธอมาทำอะไรที่นี่” เขาย้อนกลับมาถามฉันที่หันหน้าเมินเขาไปอีกทาง จะมายุ่งวุ่นวายกับฉันทำไมก็ไม่รู้ “ไม่ใช่เรื่องของคุณ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะเดินหนีมาอีกทาง แต่ช้าไปก้าวเดียวเอง หมับ!! ร่างสูงคว้าข้อมือฉันเอาไว้ก่อนจะกระชากฉันให้หันกลับไปหาเขา แต่เพราะแรงกระชากมันเลยทำให้ฉันเสียการทรงตัวจนเซไปประทะกับแผงอกกว้างของเขา “ปล่อยฉันนะ!!” ฉันดิ้นพล่านไปมาในอ้อมกอดของเขาเพราะเขากอดฉันเอาไว้แน่น ใบหน้าหล่อเหลาคลอเคลียอยู่กับแก้มเนียนสวยของฉันไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงต้นคอ ลมหายใจร้อนๆของเขาเป่ารดต้นคอครั้งแล้วครั้งเล่ายิ่งทำให้ฉันอยู่ไม่เป็นสุข หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะและเต้นแรงเหมือนมันจะระเบิดออกมา ทรมานจัง “ไม่ว่ายัง ฉันก็ไม่ปล่อยหรอก ให้ตายฉันก็ไม่ปล่อยเธอเด็ดขาด” เขาซุกหน้าอยู่กับซอกคอฉันพูดเสียงอู้อี้ มันจั๊กจี้นะ!! “คุณเป็นอะไรไปน่ะ?” ฉันถามอยากแปลกใจ เขาดูเศร้ากว่าทุกครั้งที่เราเจอกัน เขาเป็นอะไรนะ? เขาส่ายหน้าไปมาแต่ยังไม่ผละออกจากฉัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันฉันถึงเอื้อมมือไปกอดเขาเอาไว้ “เล่าให้ฉันฟังก็ได้นะ” ฉันเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบพลางลูบหลังเขาเบาๆเพื่อปลอบประโลม ตอนนี้เขาต้องการกำลังใจอย่างมากเลย ร่างสูงยังคงเงียบเหมือนไม่อยากเล่า ฉันก็ไม่บังคับเขา แต่ว่านะอ้อมกอดแบบนี้มัน…. “ เป็นอะไรหรือเปล่าเทสึ?” “ สัญญากับฉันนะโนริ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอจะไม่ทิ้งฉันไปไหนเด็ดขาด” “ สัญญาสิ เราเป็นเพื่อนกันนี่นา ฉันไม่ทิ้งนายไปไหนหรอก ^^” ความทรงจำบางอย่างค่อยๆผุดขึ้นมาในหัว มันเหมือนภาพในอดีตที่ฉันเคยลืมไปนานแสนนาน ร่างสูงผละออกจากฉันเมื่อเขาเริ่มสบายใจ ก่อนที่เขาจะเชยคางฉันขึ้นเพื่อให้สบตากับเขา ใบหน้าหล่อเหล่าค่อยๆโน้มลงมาช้าๆจนสัมผัสได้ถึงลมหายของกันและกัน ฉันค่อยๆหลับตาลงทั้งๆที่รู้ว่าเขาจะทำอะไร จนกระทั่งสัมผัสได้ถึงริมฝีปากอ่อนนุ่มของร่างสูงที่ประกบลงมา จูบที่เขามอบให้เต็มไปด้วยความอ่อนหวาน อ่อนโยนแต่แฝงมาด้วยความโหยหา ก่อนมันจะเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงหากแต่ลึกซึ้ง เขาจะทำให้ฉันสลบไปเลยหรือไง ฉันไร้เรี่ยวแรงจนเกือบจะทรุดตัวลงกับพื้น แต่มือหนาของร่างสูงก็กอดฉันเอาไว้แน่น ความทรงจำที่ขาดหายไปค่อยๆย้อนกลับเข้ามาในหัว “ผม ไอระ เทคกะ ชื่อเล่นเทสึ มัธยมปลายปีสามห้องเอ……” “ นายคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ยเทสึ!! อย่างนายเป็นคิงไม่ได้หรอกย่ะ” “ใช่ว่าฉันอยากลงนักหนิ แต่ต้องเป็นตัวแทนห้อง เซ็งจะตายชัก อย่างเธอก็ไม่เห็นสวยเลย ไม่รู้เป็นควีนได้ไง” “อย่างกับตัวเองหล่อนักล่ะ ไม่รู้ว่าพวกผู้หญิงควงนายไปได้ไง หน้าตาอย่างกับปลาสวาย อี๋~” “เลิกถามมากได้แล้ว นอนลงไปเลย” “ไลค์ สตาร์OoO!!!!” “ใช่ ฉันเอง อุส่าไปช่วยยังไม่ขอบคุณอีก” “เออๆขอบใจนะ แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นั่น” “เปล่า แค่เผอิญผ่านไปเจอ” “ถ้ายัยนั่นรู้ว่าฉันไม่ใช่มนุษย์ ยัยนั่นจะทำยังไงนะ” “เลิกคบกับนายมั้ง” “วอลต์ สเทลลาส O.O!!” “ไม่คิดจะบอกความจริงกับผู้หญิงคนนั้นหรอ?” “ยัยนั่นจะหัวใจวายตายเอาเปล่าๆ เสียดายผู้หญิงสวย” “ถ้าเกิดเธอคนนั้นมารู้เอาเอง มันจะไม่แย่เอาหรอ” “มันเป็นไปไม่ได้หรอก” “มันจะใช่หร๊อ~ ถ้าเกิดเธอคนนั้นมาเห็นจริงๆ นายจะทำยังไง?” “ฉันอาจจะ…หายจากชีวิตของยัยนั่น…ตลอดกาล” “ถ้าเกิดว่าเธอคนนั้นไม่อยากให้นายไปล่ะ” “เราสองคนก็อยู่ด้วยกันไม่ได้อยู่ดี สักวันเธอก็ต้องตาย ต่างกับฉันที่มีชีวิตเป็นอมตะ” “อย่าเพิ่งท้อสิ วันนั้นมันยังมาไม่ถึงเลยนะ” “บอกฉันมาโนริ ว่าเธอรู้เรื่องนั้นได้ยังไง!!” “ฉันรู้ได้ไงมันไม่สำคัญหรอก มันอยู่ที่ว่านายไปคบเธอได้ยังไงต่างหาก” “เธอไม่สิทธิ์รู้เรื่องนี้!” “ถ้าฉันอยากรู้จะทำไม แต่ว่านะ เรื่องของคนทรยศมันก็ไม่มีอะไรให้น่าสนใจนักหรอก มีอย่างที่ไหนเป็นเทพสวรรค์ดีๆไม่ชอบ ดันไปยุ่งกับเทพนรก โอ๊ยยยย!!!” “เธอไม่มีสิทธิ่ต่อว่าพีโอน่าแบบนั้น!! อีกอย่างพีโอน่าไม่ใช่คนแบบนั้นด้วย!!” “มีคนเชื่อที่นายพูดด้วยหรอ? แต่อย่างว่า หลักฐานคาตาขนาดนั้น ต่อให้นายคุกเข่าอ้อนวอนก็ไม่มีใครเชื่อหรอก จะว่าไปผู้หญิงคนนี้ก็เลวใช้ได้เลยนะ คิดได้แม้กระทั่งวิธีทำลายสถานที่เกิดของตัวเอง เอ๊~จะว่าไปพวกนายสองคนก็เหมาะกันดีนะ หญิงก็ร้าย ชายก็เลว…..” “ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าเธอไม่มีสิทธิ์พูดแบบนั้นกับพีโอน่า!!” “ทำไมจะพูดไม่ได้ แค่ผู้หญิงเลวๆคนนึง ไม่ได้มีค่าอะไรเลยสักนิด นายจะหวงอะไรนักหนา อีกอย่างยัยนั่นก็ตายไปแล้ว ด้วย แต่ก็สมควรแล้วล่ะอยู่ดีไม่ว่าดีรนหาที่ตาย” “ดีแต่ว่าให้คนอื่น เธอเองก็ไม่ได้มีค่าอะไรมากมายนักหรอก อีกอย่าง…คนอย่างเธอเทียบพีโอน่าไม่ได้ด้วยซ้ำ” คำพูดหลากหลายคำไหลเข้ามาในหัวเหมือนวิดีโอที่ถูกเล่นย้อนกลับ ภาพวันที่เขาคนนั้นไปสมัครลงชิงตำแหน่งคู่ฉัน ภาพวันที่เขาคนนั้นช่วยฉันตอนที่สู้กับเทพนรก ภาพวันที่เขาต่อว่าฉันในวันที่เราสองคนไปภาพแต่งงาน เขาคนนั้น คนที่อยู่เคียงข้างฉันมาตลอด เขา...… ร่างสูงถอนปากออกจากฉันก่อนที่เราจะมองตากันเงียบๆ ดวงตาสีมรกตมองมาที่ฉันอย่างอ่อนโยน มือเรียวสวยของฉันเอื้อมไปสัมผัสใบหน้าเหลาที่ฉันเคยตกหลุมรักมานาน เขาเอื้อมมือมาวางทาบมือของฉันก่อนจะหลับตาลง น้ำตาไหลอาบแก้มของฉันช้าๆอย่างห้ามไม่อยู่ ฉัน…..ฉันจำได้หมดแล้ว จำได้ทุกอย่าง ความทรงจำที่ฉันอยากจะลืมมัน มันกลับมาแล้ว และฉันจะไม่มีวันให้มันหายไปอีก ไม่มีวัน!! “จำได้แล้วใช่มั้ย? ว่าเราสองคนเคยทำอะไรร่วมกันมาบ้าง เคยสู้ด้วยกัน เคยหัวเราะด้วยกัน เธอจำมันได้ใช่มั้ย เธอ….” คำพูดที่เขาอยากจะพูดออกมาถูกริมฝีปากอวบอิ่มของฉันกลืนมันให้หายไปในลำคอ ร่างสูงชะงักไปทันทีเมื่อโดนฉันจู่โจมก่อนที่เขาจะตอบสนองฉันกลับมาอย่างเร่าร้อนจนยากที่จะปฏิเสธ เขายังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน “ขอบคุณที่มอบความทรงจำเหล่านั้นกลับมาให้ฉัน เทสึ…ขอบคุณจริงๆ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ