เขาเรียกพวกผมว่าปาร์ตี้มอนสเตอร์สุดกาก...ผมก็ไม่ได้เถียงนี่!
เขียนโดย cQMan
วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 18.01 น.
แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2562 04.11 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ตอนที่ 9 ผมชอบเด็กผู้หญิงน่ารักๆในชุดสีขาวนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 9
ผมชอบเด็กผู้หญิงน่ารักๆในชุดสีขาวนะ
สถานการณ์ในตอนนี้คือ เหล่าเพลเยอร์ถูกฝูงแวร์วูฟกดดันอย่างหนัก แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังสามารถสังหารแวร์วูฟไปได้หลายตัว นี่คงเป็นเพราะพลังเหนือมนุษย์ของผู้คนที่ได้รับพรแห่งพระเจ้า แต่ต่อให้เทพซักแค่ไหนผมก็ไม่คิดว่าพวกมนุษย์จะชนะได้หรอก เพราะสมาชิกจากเก้าคนตอนนี้ลดลงเหลือห้าคนเท่านั้น นักรบ นักดาบ นักสู้และนักธนูตีวงล้อมนักบวชสาวระดับห้าเอาไว้ราวกับเธอเป็นสมบัติล้ำค่าที่ห้ามใครแตะต้อง
“คลื่นดาบพิฆาต!” ชายร่างโตในชุดเกราะหนักมีระดับ13 ตะโกนก้อง ดาบของเขาเรืองแสงสีแดงก่อนที่เขาจะฟาดฟันดาบในมือไปด้านหน้า เกิดลำแสงสีแดงรูปใบมีดพุ่งเข้าตัดกลางลำตัวแวร์วูฟตัวหนึ่งจนเลือดสาด ทว่าพวกแวร์วูฟก็อึดเกินกว่าที่จะตายในการโจมตีเดียว
“พรแห่งพระผู้เป็นเจ้า จงเยียวยาบรรดาสหายของข้า” แม้จะดูสติแตก แต่เด็กสาวในชุดนักบวชสีขาวก็ยังคงร่ายเวทย์ฟื้นฟูให้แก่เพื่อนๆในทีมได้ถูกจังหวะ ร่างของสมาชิกที่เหลือรอดเปล่งแสงสีทอง และบาดแผลก็ค่อยๆจางหายไป การที่เด็กสาวคนนั้นสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของทีมได้น่าจะเป็นเหตุผลที่เธอได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุด
“พวกหมูป่ามีเยอะเกินไป!” มือธนูระดับ13 แหกปากอย่างร้อนรน เขาขว้างธนูทิ้งเมื่อศัตรูเข้ามาอยู่ในระยะประชิด ก่อนจะควักเอามีดสั้นขึ้นมาควงในมือทั้งสองข้าง
“พวกมันเป็นหมาป่าไม่ใช่เหรอ!” ผมคิดว่าคนที่กำลังพูดอยู่คือหัวหน้ากลุ่มแน่ๆ เพราะผมแอบเห็นเขาสั่งการเพื่อนๆอยู่ในบางขณะ เขาเป็นชายรูปหล่อผมตั้งเด่อยู่ในชุดเกราะเบาสีแดง มีดาบคู่อยู่ในมือทั้งสองข้างและมีระดับ 14 ซึ่งมากที่สุดในกลุ่ม
“ก็ใช่” มือธนูคว้ามีดสั้นปักเข้าที่กลางหน้าอกของแวร์วูฟก่อนจะออกแรงถีบมันจนปลิว “แต่พ่อเคยบอกเอาไว้ว่า การเอ่ยชื่อบางสิ่งที่กำลังเป็นปัญหาให้ดูน่าตลก จะช่วยลดความตึงเครียดลงไปได้”
“พ่อนายนี่เจ๋งดีนะ” ชายร่างโตฟาดดาบเป็นวงกลม พวกแวร์วูฟกระโดดหลบแทบไม่ทัน ผมจำได้แล้ว! หมอนี่ไงที่อ้วกใส่ลูกแก้วฟราน “แล้วเขาได้บอกวิธีเอาตัวรอดจากฝูงหมูป่าบ้าพวกนี้ไหม”
“ระวัง!” นักบวชกลางวงล้อมร้องเตือน แต่ทว่าแวร์วูฟตัวหนึ่งก็เข้าถึงตัวของชายร่างใหญ่เสียแล้ว
“อย่ามาแตะต้องหนุ่มๆของเจ้นะยะ!” สิ้นเสียง ชายผิวสีหุ่นล่ำร่างโตไม่แพ้กันก็ดีดเท้า พุ่งเข้าหาแวร์วูฟตัวนั้น แล้วยิงหมัดที่สวมถุงมือเหล็กเข้าใส่สีข้างของมนุษย์หมาป่าพร้อมกับพูดว่า “หมัดระเบิด!”
บึม!
เมื่อหมัดปะทะเข้ากับเป้าหมาย ประกายแสงสีแดงก็เปล่งออกมาจากจุดนั้น พร้อมด้วยการระเบิดของเปลวเพลิง ควันลอยขโมง ด้วยระดับ12 ที่มากกว่าแวร์วูฟตัวนั้น1ระดับ ส่งผลให้มันปลิวตีลังกาไปนอนครางอยู่บนพื้น
“หนุ่มๆยิ่งเหลือน้อยๆอยู่” เจ้ใหญ่กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
“ขอบคุณครับเจ้สุดสวย” ชายร่างใหญ่ยิ้ม พร้อมกับตั้งหน้าตั้งตาฟันใส่พวกแวร์วูฟที่เข้ามาจู่โจมอย่างไม่หยุดยั้ง
“เปลี่ยนจากขอบคุณเป็นอย่างอื่นแทนได้ไหมอ่ะ” ชายผิวสีในชุดนักสู้ทำเสียงออดอ้อน ซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกหนาวยะเยือกอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ทนไว้นะทุกคน พวกแวร์วูฟเริ่มมีจำนวนลดลงแล้ว” ชายหัวหน้ากลุ่มกล่าวให้ความหวัง แต่ผมดูออกว่าเขาท้อแท้มากแค่ไหน
“ยังมีไอ้ตัวนั้นอยู่ด้วยนะ” นักธนูชี้ไปยังราชาหมาป่าที่ถลึงตามองอยู่วงนอก “ดูจากทรงแล้วมันเป็นบอสแน่ๆ”
ทันใดนั้นเอง ราชาหมาป่าก็คำรามอย่างหงุดหงิด เสียงของเขาสั่นสะเทือนสติของเด็กสาวในชุดนักบวชจนเธอทรุดลงไปนั่งตัวสั่น คนอื่นๆก็เสียจังหวะไปเช่นกัน ส่งผลให้พวกเขาโดนแวร์วูฟโจมตีชุดใหญ่ นักธนูล้มลงไปนอนกับพื้นในที่สุด แต่แทนที่ศพของเขาจะอยู่นิ่งๆเป็นร่างไร้วิญญาณ ร่างนั้นทั้งร่างกลับแตกสลายกลายเป็นละอองแสงไปต่อหน้าต่อตาของผม
นี่คงเป็นหนึ่งในกระบวนการการเกิดใหม่แน่ๆ
“โถ่ว้อย!” ชายร่างใหญ่ควงดาบก่อนจะจับยึดมั่นด้วยมือทั้งสองข้าง เงื้อขึ้น แล้ววิ่งเข้าใส่ราชาหมาป่าอย่างดุดัน “ก่อนตาย! ขอฝากแผลให้แกซักแผลนึงก็แล้วกัน!”
ราชาหมาป่าทำท่าหงุดหงิด “ไปตายซะ! ไอ้พวกชั่ว!!!” แล้วเขาก็พุ่งเข้าใส่เพลเยอร์คนนั้น เพลเยอร์ฟาดดาบยักษ์ออกมา ราชาหมาป่ารับไว้ด้วยกรงเล็บอย่างสบายๆ เสียงของแข็งปะทะกันดังสนั่นขึ้น ก่อนราชาหมาป่าจะเอากรงเล็บอีกข้างฟาดเข้าใส่เพลเยอร์จนเลือดกระฉูด
“อ๊ากกกก!” ชายร่างใหญ่กรีดร้อง เมื่อเขาเสียจังหวะ ราชาหมาป่าจึงกระชากดาบออกจากมือของเขา ขว้างมันลงไปบนพื้น ก่อนจะกระทืบทำลายทิ้งอย่างไม่ใยดี แล้วกระหน่ำฟาดกรงเล็บเข้าใส่ร่างของชายร่างยักษ์ด้วยความรวดเร็วที่ยากจะมองทัน จนในที่สุด ชายคนนั้นก็สลายร่างกลายเป็นละอองแสงไปทั้งแบบนั้น
ผมได้แต่อึ้งกับความแข็งแกร่งของเขา โหดขนาดนี้อย่ามาเป็นหมาป่าเลย…ไปเป็นนักมวยปล้ำแทนเถอะ!
เหลือเพลเยอร์อยู่อีกสามคน พวกเขาเดินเอาตัวเข้าบังร่างของเด็กสาวชุดขาวไว้ด้วยสีหน้าหวาดหวั่น แวร์วูฟที่เหลือรอดตีวงล้อมกดดันพวกเขาพร้อมขู่คำรามทำลายขวัญกำลังใจอย่างต่อเนื่อง
“ทำไมบอสอย่างแกถึงมาโจมตีพวกเราล่ะ!” ชายหัวหน้ากลุ่มตัดสินใจร้องถามออกมา
“เพราะแกฆ่าลูกชายของข้า! นี่คือการล้างแค้น!!!” ราชาหมาป่าเอากรงเล็บหวดต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆจนหักโค่นในคราวเดียว ผมไม่เข้าใจว่าหลังจากที่เขาสร้างผลงานการฆ่าเพลเยอร์ภายในห้าวินาทีอย่างโหดเหี้ยมไป ทำไมถึงต้องโชว์พลังอวดพวกมนุษย์อีก แค่นี้พวกนั้นก็กลัวจนจะกันช็อกอยู่แล้ว!
“มอนสเตอร์ที่เราจัดการไปเมื่อกลางวันเป็นลูกชายของแกนี่เอง” ชายหนุ่มคนนั้นอึ้งไปเล็กน้อย “แต่ฉันไม่เข้าใจ ทำไมแกถึงออกลูกเป็นงูเหลือมได้!”
ผมอ้าปากค้าง ขืนเป็นอย่างงี้ต่อไปความจริงได้ถูกเปิดเผยแน่ๆ!
“พวกโรคจิต จ้ำจี้ไม่เลือกสปีชีส์” ชายผิวสีร่างยักษ์พูดด้วยท่าทีขยะแขยง ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับกล่องเสียงของชายคนนี้ ทำไมมันถึงได้แหลมเล็กผิดธรรมชาตินัก
“ไม่ใช่โว้ย!!!” ราชาหมาป่าคำรามอย่างเหลืออด “ลูกหมาป่าที่พวกแกฆ่าตายอย่างทรมาณ ลูกของข้าคือลูกหมาป่าตัวนั้นยังไงล่ะ! อย่ามาทำเป็นลืมนะไอ้พวกชั่ว!!!”
“แต่เราไม่…”
“หยุดโกหกซักที!!!” ผมตะโกนแทรกขึ้นมาเพื่อยืดระยะเวลาที่ความจริงจะถูกเปิดเผยไปอีกซักระยะ พร้อมกับปรากฏตัวออกจากพุ่มไม้ กระโดดไปอยู่ต่อหน้าศัตรูอย่างกล้าหาญ มีเพื่อนๆกระโดดตามออกมาติดๆ ลูกแก้วฟรานเอ่ยทักทายว่า “ไง! อากาศดีเนอะว่าไหม!” ก่อนจะถูกไข่มังกรเดรคกระแทกจนกลิ้งหายไปในพุ่มไม้
สายตาของพวกเพลเยอร์ที่มองผมเหมือนกำลังมองวุ้นผีสิงก้อนหนึ่ง ผมเล่นละครต่อไปด้วยอารมณ์เคียดแค้นว่า “หรือที่พวกแกจำไม่ได้เพราะพวกแกฆ่ามอนสเตอร์อย่างสนุกสนานมากเสียจนลืมไปแล้วน่ะ!!!” ผมแสร้งทำเสียงเจ็บปวด ให้ตายเถอะ! ผมเกลียดความลวงโลกของตัวเองจัง!
“สไลม์พูดได้ กับลูกแก้วพูดได้เมื่อกี้ แล้วก็มอนสเตอร์แปลกๆพวกนี้อีก พวกแกเป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย!” ชายผิวสีร้องครางออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วเป็นปม “ว่าแต่เสียงพวกแกฟังดูคุ้นๆนะ”
“แน่นอน! ก็พวกเราคือมอนสเตอร์ที่พวกแกเล็งเอาไว้ไม่ใช่หรือยังไง” ผมสาดความมโนใส่พวกเพลเยอร์จนพวกมันงงไปตามๆกัน ใบหน้าของเขาแทบจะถูกเครื่องหมายคำถามยึดครองไปอยู่แล้ว
“อะไรของแกเนี่ย!” ชายหนุ่มในชุดนักรบโวยวาย “พวกเราไม่เคยเห็นและไม่เคยคิดว่าสไลม์พูดได้อย่างแกจะมีตัวตนอยู่เลยด้วยซ้ำ!”
ผมรู้สึกร้อนรนสุดๆ บอกตรงๆว่าตอนนี้ผมคิดวิธีที่จะทำให้พวกมนุษย์ตายเร็วๆไม่ออกเลย เพราะพวกแวร์วูฟหรือแม้แต่ราชาหมาป่าเองก็กำลังสนใจสิ่งที่เราพูดอยู่เหมือนกันจึงยังไม่ลงมือฆ่าพวกมนุษย์ และตอนนี้งานมโนของผมมันเริ่มจะตันแล้วด้วย ขืนแบบนี้ต่อไป พวกหมาป่าได้เปลี่ยนเป้าหมายมาที่พวกเราแน่ๆ!
ราชาหมาป่ามีสีหน้าเคลือบแคลงใจอย่างเห็นได้ชัด นี่เป็นสัญญาณที่เลวร้ายที่สุดสำหรับพวกผมเลยก็ว่าได้ งั้นเอาเป็นว่าผมขอไว้อาลัยให้ตัวเองกับเพื่อนๆล่วงหน้าเลยก็แล้วกัน
ชายคนนั้นอธิบายต่อไป ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ผมอับจนหนทางในการเอาตัวรอด “แล้ววันนี้พวกเราก็เพิ่งฆ่ามอนสเตอร์ไปตัวเดียว พวกเราแน่ใจว่าเราไม่เคยฆ่าลูก…”
“ระวัง! พวกมันกำลังแอบร่างมหาเวทย์ทำลายล้าง! รีบหยุดพวกมันเร็ว!!!” กะโหลกเซนตะโกนขึ้นด้วยเสียงที่ดังและแตกตื่นเมื่อ เขาแสร้งตกใจและสร้างเรื่องขึ้นเมื่อเห็นว่าผมไม่อาจจะคุมสถานการณ์ได้แล้ว พวกแวร์วูฟแตกตื่น ราชาหมาป่ากัดฟันกรอดก่อนจะกระโจนเข้าใส่ชายที่เป็นหัวหน้ากลุ่มเพลเยอร์โดยไม่เสียเวลาตรวจหาความจริงใดๆ
“พวกมนุษย์เจ้าเล่ห์! ตายซะเถอะ!!!” ราชาหมาป่ากระหน่ำจู่โจมชายหนุ่มคนนั้นอย่างหนักหน่วง เขาแทบไม่มีเวลาได้พักหายใจเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้น ลืมเรื่องพูดแก้ตัวไปได้เลย
ชายผิวสีพูดได้แค่ว่า “พวกเราไม่…” แล้วก็ถูกแวร์วูฟรุมทึ้งจนกลายเป็นละอองแสงสลายไปอย่างน่าสงสาร ชายหัวหน้ากลุ่มสิ้นลมหายใจลงในเวลาต่อมา ก่อนจะสลายร่างตามไปติดๆ
นี่เป็นอีกครั้งที่กะโหลกเซนช่วยชีวิตของพวกเราทุกคนเอาไว้ ผมมั่นใจว่าถ้ากลุ่มเราไม่มีเขา ป่านนี้พวกเราคงได้จับจ้องพื้นที่ในนรกสำหรับใช้เป็นสถานที่ในการรับใช้บาปไปนานแล้ว
กลุ่มเพลเยอร์เหลือเพียงเด็กสาวที่ตัวสั่นเทาไปด้วยความกลัวเท่านั้น เธอร้องไห้ สิ้นหวัง และ…น่ารักชะมัดเลย! ดูแก้มที่แดงระเรื่อกับดวงตากลมโตน่าเอ็นดูนั่นสิ แย่แฮะ! ผมชักจะทำใจฆ่าเธอไม่ลงแล้วสิเนี่ย…
คือผมแค่ล้อเล่นน่ะ อันที่จริงแล้วผมกำลังนึกอยู่ว่าผมจะทำการฆาตกรรมเธออย่างไรดีให้มันดูมีศิลปะมากที่สุด
“ลอฟ แววตานายมันดูโรคจิตเกินไปแล้วนะ” ก้อนหินจิลเตือนผม
“โทษที” ผมกล่าวขอโทษปัดๆไป ก่อนจะหันเข้าหาราชาหมาป่า เพื่อร้องขอบางอย่างที่เป็นเป้าหมายมาตั้งแต่ต้น
“ท่านราชาครับ”
“หืม!” ราชาหันมาหาผมด้วยสีหน้าเหมือนตาลุงซักคนที่โดนขัดจังหวะตอนกำลังนั่งก๊งเหล้าอยู่กับเพื่อนๆขี้เมาของเขา “มีอะไรงั้นรึ”
“ให้พวกข้าเป็นคนลงมือจบชีวิตมนุษย์คนนี้เองจะได้ไหมครับ เพราะพวกข้าเองก็อยากจะล้างแค้นให้กับสหายที่แสนดีของเราเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเราก็คงจะค้างคาใจไปจนวันตายแน่ๆ!” ผมทำเสียงจริงจัง ราชาหมาป่าเหมือนจะเข้าใจ มันพยักหน้า
“ก็เอาสิ! ถ้านั่นคือการทำเพื่อลูกชายของข้า ข้าก็ยินดี!”
เมื่อทางสะดวก ผมก็หัวเราะในลำคอออกมาอย่างเบิกบานใจ ก่อนจะเลื่อนสายตาจับจ้องไปยังใบหน้าขาวเนียนของเด็กสาวคนนั้น น้ำตาของเธอเจิ่งนองไปทั้งใบหน้า เธอกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ ผมแสยะยิ้มก่อนจะกระโดดเข้าใกล้เรื่อยๆด้วยท่าทีประหนึ่งฆาตกรโรคจิตที่เตรียมชำแหละร่างของเหยื่อ เธอจ้องตากับผมด้วยแววตาแค้นเคือง แล้วปากของเธอก็เผยอขึ้น เหมือนเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้เจ้าสไลม์จอมตอแห…”
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบดี ผมก็สปริงตัวด้วยกำลังทั้งหมด กระโดดขึ้นไปห่อหุ้มใบหน้าของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว ผมพยายามชอนใชส่วนหนึ่งของร่างกายเข้าไปในรูจมูกและปากของเธอ เด็กสาวไม่สามารถพูดและหายใจออกเมื่อโดนของเหลวมีชีวิตอุดปากและจมูกไว้ เด็กสาวดิ้นรนอย่างน่าสงสาร ผมกระซิบบอกเธอด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นว่า
“งดใช้คำหยาบในนิยายเรื่องนี้นะจ๊ะ” ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
แล้วร่างของเธอก็แตกสลายกลายเป็นละอองแสงไปพร้อมกับเสียงในหัวของผมที่ดังขึ้นมาว่า “ระดับเพิ่มขึ้นเป็นระดับสาม” ผมหัวเราะอย่างยินดี น่าแปลกที่ผมไม่ได้ยินดีเพราะระดับเพิ่มมากขึ้น ในขณะนั้นเพื่อนๆก็มองผมด้วยความรู้สึกสยองขวัญ
“นายมันไอ้ฆาตกรอมหิต!” ไข่มังกรเดรคร้องด่า
“ปีศาจในคราบวุ้น!” ลูกแก้วฟรานตำหนิ
“ใจร้าย!” ก้อนหินจิลร่วมวงด้วย ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะส่ายหน้าไปมา
ให้ตายเถอะ! ผมล่ะเหนื่อยใจจริงๆ แค่พยายามจะเซ็นเซอร์คำที่ไม่เหมาะสมเอง มันผิดมากขนาดนั้นเลยงั้นหรอ…
ที่ผิดมันวิธีการกับอารมณ์ร่วมของแกต่างหากล่ะ ไอ้เจ้าสไลม์ซาดิสม์!!! :ไข่มังกรเดรค ลูกแก้วฟราน และก้อนหินจิล
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ