ขอโอกาสรัก(ได้ไหม)ให้หวนกลับมา

8.7

วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 16.37 น.

  3 ตอน
  1 วิจารณ์
  4,143 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2562 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 1 (100%)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ต่อนะคะ
.
.
.
     บ้านสีขาวรูปทรงทันสมัยที่ดูหรูหราในหมู่บ้านจัดสรรแถบชานเมืองแห่งนี้ มันดูใหญ่โตเกินไปกับการที่จะต้องอยู่คนเดียวในความคิดของชายหนุ่ม   สายตาคมกวาดตามองทุกอย่างที่ดูเงียบสงัด ดูเหงาอ้างว้างเดียวดาย เขาเพียงแค่มาเก็บของเตรียมย้ายออกเพื่อก้าวเดินต่อไปในชีวิต เพื่อต้องเริ่มต้นใหม่ 
 
     ขณะที่นั่งลงบนโซฟาหนังหรูตัวนี้ที่เขาเคยไปเลือกซื้อกับเธอ  ความคิดแรกที่ผ่านมาในสมองคือความเสียใจที่บ้านหลังนี้คงจะร้างผู้คนในไม่ช้า  มันจะปราศจากความสุขที่เคยโอบล้อม  และต่อไปมันคงเป็นสถานที่  ที่เป็นบ้านของใครคนอื่นซึ่งไม่ใช่เขา  เขาไม่สามารถที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป  ความทรงจำระหว่างเขาและเธอในบ้านหลังนี้มันเยอะเกินไป  ทั่วมุมห้องมีแต่กลิ่นอายของเธออย่างชัดเจน  มันทำให้เขาเจ็บปวดจวนเจียนระเบิดเขาเคยคาดหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้เคยทำให้เธอ  เธอจะเปิดใจ  เปิดเผยตัวตนของเธอออกมาบ้าง  แต่มันก็ไม่เป็นอย่างที่เขาคิดไว้เลยสักนิด
 
     ดวงไฟเปิดสลัวไว้เพียงบางส่วน  จนมองเห็นรอบๆข้าง  การตกแต่งบ้านหลังนี้ที่บอกถึงรสนิยมอันเรียบง่ายของเธอ  มีเพียงสีขาว  ดำ  และสีของไม้น้ำตาลอ่อนตัดกันด้วยลูกเล่นที่ดูลงตัว  เธอไม่ชอบอะไรที่เยอะแยะ  ในเมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าชอบบ้านหลังนี้  ที่ทั้งเขาและเธอเห็นตรงว่าควรเป็นบ้านในการสร้างครอบครัว  ทุกอย่างมันดูเป็นระเบียบ  ตู้และชั้นต่างๆถูกซ่อนไว้ในการออกแบบที่เรียบง่าย  ดูเป็นตัวของเธอดี  แต่ตอนนี้เมื่อมองก็พบแต่ความแข็งกระด้าง  ไร้ชีวิตชีวา  เย็นชา  ซ่อนทุกสิ่งไว้ให้พ้นสายตา  และคงไร้หัวใจ
 
     ความเงียบที่โอบล้อมเขาในขณะนี้ย้ำเตือนว่าเธอคงไม่ได้อยู่กับเขาอีกต่อไปแล้ว  ถึงแม้เราจะไม่หย่ากันอย่างเป็นทางการ  แต่เมื่อก่อนตอนความรักยังสวยงาม  เธอก็แทบไม่ค่อยอยู่ที่นี่สักเท่าไหร่  ทั้งงานที่เธอบอกว่ายุ่ง  ทั้งต้องการอยู่กับตัวเอง  เธอเลือกเอาแต่เดินหนีปัญหาทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้า  ทำไมต้องเดินหนีเขาทุกครั้งกันนะ 
 
     รอยยิ้มบนหน้าใบนั้นที่เขาเคยมองว่าอ่อนโยน  หากตอนนี้ถึงได้รู้ว่าเธอซ่อนความรู้สึกมากมายภายใต้ยิ้มอ่อนหวาน  ทุกสิ่งสำหรับเธอ  ยังไงการเลือกที่จะปิดบังมัน  เลือกที่จะโกหกเป็นสิ่งที่เธอทำจนเคยชิน  แม้กระทั่งการยิ้ม  แววตา  ท่าทางทุกอย่าง  เขาเพิ่งรู้ว่ามันแสแสร้งราวกับคนแปลกหน้า  ยิ่งเขาใกล้ชิดเขาก็รู้สึกเหมือนไม่เคยรู้จักตัวตนของเธอ  เมื่อตอนเขาอ่อนแอต้องการเธอ  กลับคว้าได้แต่ความว่างเปล่าเท่านั้น  จนเป็นเขาเองที่ทนไม่ไหวต้องยอมแพ้ถอยออกมา
 
     นี่มันคงเป็นโชคชะตาที่เจ็บปวดของเขาหรือไงนะ  ไม่ว่าใครก็ไม่ได้ต้องการเขาเลย
 
     ในวันนี้เป็นวันที่จะต้องหย่าขาดจากเธอ  หัวใจเขาแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ  เขาไม่อยากมาถึงจุดนี้เลย  แต่เมื่อหลายๆครั้งที่เขาเคยถามเธอ  เธอเลือกที่จะพูดมันมันออกมาราวกับตัดความรู้สึกได้ง่ายดาย  เธอเลือกที่จะทำมัน  แต่หากสุดท้ายเธอก็วิ่งหนีเขาอีกครั้ง  ถ้าวันนี้เพียงแค่เธอกอดเขา  ปฏิเสธมันออกมาเขาก็คงจะยอมพังทลายทุกอย่าง  พังทลายกำแพงนั่นเพื่อได้ใช้ชีวิตกับเธออีกครั้ง
 
     แต่สิ่งที่ทำได้ในวันนี้  คือ  เขาได้แต่มองดวงหน้าที่เศร้าหมองของเธอมอง  ดวงตาอันบอบช้ำและแห้งผากทุกอย่างบนใบหน้าดูทุกข์ระทมอย่างแสนสาหัก  หากเธอกลับเลือกที่ไม่เอยที่สิ่งออกมา  เขายังอยากจะกอดเธอไว้อีกครั้ง  แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่ได้
 
     เพราะ..ตอนนี้เขาเหนื่อยแล้ว  เขาคงเหนื่อยจริงๆ  เหนื่อยในการวิ่งตามเธอตามคาดเดาความรู้สึกของเธอ  เขาได้แต่บอกกลับตัวเองว่า  เขาคงพอแล้วจริงๆ
 
     สุดท้ายให้โชคชะตามันกำหนดเองจะดีกว่า
 
     ดวงตาคู่คมที่หลับอยู่ลืมตาเพื่อเหม่อมองสายฝนในยามค่ำคืน  ร่างสูงเหยียดร่างกายพิงโซฟานุ่มอย่างเหนื่อยล้า  ฝนที่กระหน่ำลงมาคงทำให้เขาต้องติดอยู่ที่นี่  คงย้ายของและขับรถอย่างยากลำบาก  เขาขอเลือกที่อยู่บ้านหลังนี้เพื่อซับซึมความรู้สึกอ่อนหวานไว้เป็นครั้งสุดท้าย  หากเสียงฟ้าร้องน่ากลัวข้างนอกทำให้คิดถึงใครอีกคนที่ปานนี้ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง  หรือทำอะไรอยู่  ปานนี้เธอคงนอน...ไม่ก็ร้องไห้อยู่อย่างแน่นอน  หรือเธอจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้วนะ 
 
     มือหนาพยายามนวดคลึงที่เปลือกตาที่หน่วง  เพื่อเขาจะได้เลิกคิดฟุ้งซ่านเสียที  หากเสียงโทรศัพท์และเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยปรากฏและดังขึ้น  มือหนาเอื้อมเพื่อรับสายอย่างเหนื่อยล้า
 
 
 
 
 
     นี่มันก็เป็นเวลานานพอสมควรแล้วที่เธอต้องติดอยู่บนถนนสายนี้  ฝนที่ตกลงมาทำให้ตามจราจรติดขัดแล้วบ้านของเธอก็อยู่ไกลบริเวณแถบชานเมือง  ถ้าผ่านจราจรจุดนี้ไปได้  อย่างน้อยถ้าเธอรีบเร่งกลับไปเพื่อไปหาเขาน่าจะยังทันเวลา  เธออยากกลับไปบ้านหลังนั้น  เพราะเธอรู้ดีว่าเขาต้องอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน  นิ้วเรียวพยายามเคาะกับพวงมาลัยรถเพื่อฆ่าเวลาอย่างร้อนใจ  รถที่ติดขนาดนี้ขยับเขยื้อนแทบไม่ได้เลย  มันยิ่งทำให้ทุกเสี้ยววินาทีเชื่องช้าออกไป  ใจของเธอได้แต่ร้อนรน  คงมีแต่คำภาวนาเท่านั้นที่ช่วยเธอได้ในตอนนี้
 
    สุดท้ายหลังจากที่ติดแหง็กบริเวณนี้มานานคำภาวนา  ของเธอก็เป็นจริงเมื่อรถได้ขับเคลื่อนผ่านจุดที่ติดขัดมากที่สุด  แม้เธอต้องใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าเกือบสองชั่วโมง  วราลีรีบเหยียบคันเร่งขับไปยังถนนสายหนึ่งทางชานเมือง  อย่างน้อยตอนนี้เธอคงโชคดีอยู่บ้าง  เพราะถนนสายนี้โล่งจนขับรถได้เร็วขึ้น  ถึงแม้ว่าฝนจะตกหนักเพียงใดแต่หาใช่อุปสรรคที่เธอต้องยอมแพ้
 
     แม้ตาและสมาธิเธอจะต้องใช้ในการขับรถแต่หัวใจดวงน้อยตอนนี้กลับโบยบินไปไกลถึงที่หมายแล้วเธออยากจะกลับถึงบ้านโดยไวอย่างใจจะขาดแต่เพียงแวบหนึ่งเธอเลือกหันมองไดอารี่เล่มนั้นของเขารอยยิ้มแห่งความสุขเกิดขึ้นบนใบหน้าเท้ารีบเหยียบคันเร่งอย่างร้อนรนเธอรู้ตัวดีว่าฝนตกขนาดนี้ไม่ควรรีบฝนที่ตกลงมามันไม่ปราณีเธอเลยสักนิดมันยิ่งตกหนักจนทัศนียภาพที่มีแต่ความมืดมิดย่ำแย่ลงแต่เธอรอไม่ได้อีกต่อไปแล้วถ้าเธอไม่รีบมันคงจะสายเกินไป
 
     วราลีขับไปด้วยหัวใจที่จดจ่ออยู่ที่ปลายทาง  จดจ่อเพื่อได้เจอเขา  หากภาพเบื้องหน้าตอนนี้  มองเห็นไม่ชัดเจนเท่าใดนักจนเธอต้องเพ่งสายตาในความมืดมัวข้างหน้า  หากในชั่วขณะที่เธอพยายามจ้องมอง  แสงไฟจ้าสะท้อนสาดส่องเข้ามาจนหัวใจดิ่งวูบอย่างกะทันหัน  วราลีได้แต่กรีดร้องอย่างเสียขวัญ  เสียสติ  จนรีบหักพวงมาลัยอย่างแรงเพื่อหลบเข้าทางอย่างรวดเร็ว  ด้วยถนนอันเปียกลื่นเพราะสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน  ด้วยความเร็วของรถที่เธอไม่สามารถควบคุมได้  ทำให้เกิดแรงกระแทกจนรถหมุนคว้างพลิกคว่ำเข้าข้างทางอย่างรุนแรง  แม้ข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้รกชัฏ  แต่ไม่ได้ช่วยผ่อนแรงกระแทกของรถ  ทุกอย่างไถลไปข้างหน้าราวกับโดนมือที่มองเห็นจับโยน
 
    ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเธอไม่สามารถจะปะติดปะต่อได้  ดวงตาสลึมสะลือพยายามฝืนไม่ให้ปิดลง  ของเหลวไหลเข้าตาจนมองอะไรไม่ได้เลย ร่างกายถูกบีบอัดกระแทกเหมือนภายในจะแหลกเหลว  ทั่วร่างเจ็บปวดจนชาวูบชั่วขณะหนึ่งเธอเหมือนจะไร้ความรู้สึกราวกับไม่ใช่ร่างกายของเธอเองร่างทั้งร่างไร้เรี่ยวแรงที่จะขยับตัว แม้กระดิกนิ้วก็ทำได้ยากลำบาก  น้ำตาไหลออกออกมาเป็นสาย  เสียงที่ได้แต่ครางกระซิบอย่างเจ็บปวดไม่สามารถส่งออกลำคอได้  มีเพียงของเหลวรสสนิทที่เธอลิ้มรส  และมันที่อาบไปทั่วร่างกาย  เธอคิดถึงเขาเหลือเกิน
 
     “ภาส...ภาส..ลีอยู่นี่” มีเพียงเสียงกระซิบที่เบาบางออกมาจากปากที่ขยับไม่ได้  วราลีพยายามฝืนมองไดอารี่เป็นครั้งสุดท้ายด้วยความรักที่มีให้เขาก่อนทุกอย่างจะดับวูบลง 
 
     ทำไมนะ! โชคชะตาทำไมไม่เข้าข้างคนอย่างเธอบ้าง 
 
     มันคงจบแล้วจริงๆใช่ไหม? เสียงกรีดร้องร่ำไห้ดังภายในใจต่อสู้กับความมืดมิดอันแสนเย็นเยียบที่เข้ามาครอบงำเธอทีละน้อย  มัจจุราชกำลังรอเพื่อพรากลมหายใจของเธอ  พรากชีวิตเธอ  พรากเธอออกไปจากเขา
 
     ขอ..ขอโอกาสอีกครั้งให้คนอย่างฉันได้ไหม 
 
     เธอ..สัญญา..สัญญาว่าเธอจะทำทุกอย่างมันต้องดีขึ้น
 
     คำอธิษฐานไม่มีวันเป็นจริง  ภาพเลือนลางทุกอย่างตรงหน้าดับวูบลง  ดวงวิญญาณที่ปวดร้าวของเธอต้องติดอยู่ในโลกแห่งความฝันและความมืดมิดตลอดกาล
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา