ขอโอกาสรัก(ได้ไหม)ให้หวนกลับมา
8.7
เขียนโดย เงาในพระจันทร์
วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 16.37 น.
3 ตอน
1 วิจารณ์
4,144 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2562 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่ 1 (50%)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 1
คนเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้สิ่งที่ทำได้มากที่สุดคือเสียใจและเสียดายเวลาที่เคยมีค่าเธอต้องมาเสียใจกับชีวิตคู่ที่ต้องลงเอยจบลงอย่างนี้แม้จะนั่งเฝ้าถามตัวเองว่าควรทำเช่นนั้นไรใบหน้าของเขาก็ลอยมารบกวนจิตใจให้สั่นไหวอยู่เรื่อย
เมื่อกลับมาถึงคอนโดห้องเล็กของเธอที่เคยได้อยู่และตอนนี้เธอต้องอยู่ที่นี่อย่างถาวรแล้วเมื่อความเงียบเข้าครอบงำดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตากวาดตามองไปรอบๆห้องคอนโดแห่งนี้เธอมาพักอาศัยอย่างเป็นประจำในเวลาที่ต้องเลิกงานดึกจนไม่สามารถจะกลับบ้านของเราได้แล้วยังเป็นที่ที่หลบหนียามปัญหาวิ่งวนเข้ามาบางทีก็คอยหนีเขาคนนั้นอย่างขี้ขลาดเสมอมา
ที่แห่งนี้ถึงจะเป็นเพียงห้องเล็กๆหากเธอก็ได้พยายามเก็บหอมรอมริบจนคว้ามาไว้ได้แต่คงไม่สำเร็จถ้าขาดเขาคนนั้นช่วยเธอแบ่งเบาทุกๆตารางนิ้วในที่แห่งนี้จึงมีแต่ความทรงจำระหว่างเขากับเธอเมื่อตอนความรักยังหวานชื่นเธอยังจำสีหน้าอันตื่นตะลึงและยินดีของตัวเองได้อย่างดีตอนที่รู้ว่าเขาช่วยออกค่าใช้จ่าย
“มันมากเกินไปลีรับไว้ไม่ได้หรอก”
“ลีค่อยผ่อนคืนก็ได้ถ้าไม่สบายใจแต่ยังไงผมก็อยากให้มากกว่านะ”
“ยังไงเราก็ต้องแต่งงานอยู่ด้วยกันตลอดไปอยู่แล้วเงินผมก็คือเงินลีแหละ”
สีหน้าที่โอ้อวดภาคภูมิใจในฐานะอันร่ำรวยของเขานั้นเธอยังจำได้ดีเป็นสีหน้าที่เปล่งประกายความสุขรอยยิ้มที่วาดฝันอนาคตของเขาย้ำเตือนเธออีกครั้งเมื่อมองที่แห่งนี้
แต่ครั้งนี้ที่กวาดตามองความเรียบง่ายของห้องความรู้สึกมันต่างกันมากตอนนี้มันดูเหงาไร้ชีวิตชีวาเมื่อก่อนตอนหนีปัญหาเธอไม่เคยรู้สึกเจ็บและเดียวดายขนาดนี้เลยตอนนี้ความรู้สึกมันเริ่มชัดเจนมากขึ้น..มากขึ้นว่าเธอขาดเขาคนนั้นไม่ได้
จิตใจของร่างบางที่ยืนห่อไหล่กลางห้องทั้งฟุ้งซ่านมีคำถามทั้งโต้แย้งขัดแย้งตนเองจนเต็มพื้นที่สมองน้อยๆของเธอสองเท้าจึงต้องเดินอย่างเลื่อนลอยไปจัดการบรรดาสิ่งของและกล่องต่างๆที่เธอยังจัดไม่แล้วเสร็จเธอไม่อยากคิดอะไรไปมากกว่านี้เธอจึงรื้อข้าวของออกมาเพื่อจัดเก็บให้เข้าที่เข้าทางบนชั้นและตู้วางของข้าวของมีเพียงเสื้อผ้าไม่มากนักหนังสือเล่มโปรดที่นานๆทีจะมีโอกาสซื้อเครื่องประทินผิวเครื่องสำอางค์อีกเล็กน้อยรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆเธอไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเก็บจัดวางนานนักเพราะบางส่วนได้ถูกขนย้ายมาก่อนหน้านี้แล้วด้วยส่วนของแต่ละชิ้นเมื่อเทียบกับผู้หญิงส่วนใหญ่นั้นทั้งของมีค่าและไม่มีมูลค่าก็ยังน้อยเหลือเกินจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลานานนักในการเก็บกวาด
เมื่อวราลีจัดข้าวของเสร็จแล้วทุกอย่างเป็นไปเชื่องช้าไร้อารมณ์เหนื่อยอ่อนหากแต่เป็นระเบียบตามลักษณะนิสัยส่วนตนที่เรียบร้อยมีวินัยเคร่งครัดในชีวิตร่างกายอันเหนื่อยล้าหยุดอยู่ตรงหน้ากล่องสองใบสุดท้ายกล่องที่เคยถูกเก็บไว้อย่างดีกล่องที่เธอกลัวที่จะเปิดมันออกมาเพื่อเจอแต่สิ่งของที่เป็นความทรงจำที่สวยงามร่วมกันระหว่างเขาและเธอ
เธอไม่รู้ว่าได้นั่งหมดเรี่ยวแรงตรงหน้ากล่องทั้งสองเป็นเวลานานเท่าไหร่แล้วร่างบางห่อไหล่คุดคู้เข่าตั้งชันอยู่นานสองมือยกขึ้นกอดเข่าอย่างไร้วิญญาณหัวใจตอนนี้ทั้งหนักอึ้งเศร้าหมองไม่สามารถหาวิธีผ่อนคลายความเครียดภายในได้เลยสุดท้ายเธอรวบรวมความกล้าที่จะเปิดกล่องใบแรกออกมาข้าวของในนั้นถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยฝีมือเธอมานานมากแล้วมือค่อยๆเอื้อมคว้าของที่เห็นอยู่ในกล่องอย่างเบามือและทะนุถนอมด้วยกลัวว่าสิ่งเหล่าจะบอบช้ำเหมือนหัวใจของเธอนี่ไง
ดอกไม้ดอกแรกที่เธอยังเก็บเอาไว้จนมันแห้งเหี่ยวมันดูกรอบบางแทบจะเป็นผุยผงถ้าเพียงถ้าเธอขยี้มัน
“นี่ๆชอบดอกไม้ไหมผมว่ามันคงเหมาะกับลีนะ”
เสื้อยีนส์แจ็คเก็ตแขนยาวตัวใหญ่และหนักตัวนี้มันยังดูใหม่สะอาดแต่กลิ่นหอมของเขาดูเบาบางลงจนแทบจางหายเธอได้แต่กอดมันไว้แนบอกเพื่อซึมซับกลิ่นไอละมุนเหล่านี้
“ลีใส่เอาไว้เถอะจะได้ไม่หนาว”
สร้อยเงินเส้นยาวแวววาวดูสวยหากเย็นชืดอยู่ในมือที่ประคองลูบไล้อย่างอ่อนโยนราวกับต้องการถ่ายทอดส่งความอบอุ่นไปถึงเจ้าของของมัน
“สร้อยเงินนี้เป็นของผมเองแต่เวลาอยู่บนผิวลีดูสวยจัง”
ในกล่องยังมีของมากมายหลายชิ้นที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดที่จะเปิดดูและบางทีเมื่อได้รับของเหล่านี้มาแล้วก็แทบไม่เคยจะรู้ถึงคุณค่าของมันคงมีแต่นาฬิกาสีเงินบนข้อมือที่เธอไม่เคยคิดจะละทิ้งมันเพราะมันมีทั้งความเจ็บปวดความทรงจำบางอย่างจนเธอต้องพกติดตัวอย่างเคยชิน
วราลีรีบปิดกล่องใบแรกลงด้วยกลัวน้ำตาจะเอ่อล้นออกมาอีกครั้งเธอไม่เคยรู้สึกอ่อนแอแบบนี้มาก่อนเลยเสียงสูดหายใจลึกดังก้องแต่กล่องใบที่สองหันเหความสนใจจากเธออีกครั้งดูล่อตาล่อใจให้เปิดออกราวกับกล่องของแพนโดร่าบรรดาของที่บรรจุอัดแน่นในกล่องนี้ยังมีแต่ของของที่เขาเคยให้เธอหรือไม่ก็เป็นของของเธอที่เคยให้เขาเมื่อค้นดูเรื่อยๆเธอเจอสมุดบันทึกเล่มโตอยู่หนึ่งเล่มที่ปกหนังเริ่มจะดูซีดเก่าลงด้วยรูปลักษณ์ของสมุดบันทึกเล่มนี้มันไม่ใช่ของเธอเพราะเธอไม่เคยเขียนหรือจดสมุดบันทึกสักครั้งรูปเล่มปกสีน้ำตาลเข้มนี้เธอจำมันได้มันเป็นของเขาเมื่อเวลาก่อนนอนเขามักจะจดจ่ออยู่มันจนเธอต้องเก็บความสงสัยไม่กล้าถามสิ่งใดออกมาเขาอาจจะลืมไว้หรืออยากจะทิ้งมันไปเธอก็ไม่สามารถคาดเดาได้
เมื่อพลิกดูมันอยู่พักใหญ่วราลีก็ได้ทำสิ่งที่เธอไม่เคยคิดจะทำคือการเปิดดูของส่วนตัวของเขาเธอเปิดสมุดเล่มนี้กางออกมาสีกระดาษด้านในเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนตามกาลเวลาแต่ตัวสมุดทุกแผ่นทุกหน้ากระดาษยังดูดีไม่ยับย่นหรือเก่าพังเจ้าของของมันคงเก็บรักษาไว้อย่างดียิ่งดูยิ่งบังเกิดความสับสนว่ามาอยู่ที่เธอได้อย่างไรหลายๆคำถามเกิดขึ้นในใจขณะนี้หากตัวหนังสือเรียงสวยที่คุ้นเคยปรากฏในหน้าที่เธอเปิดดูทำให้นิ้วสั่นระริกค่อยๆลูบไล้หมึกเธอเลิกคิดเหตุผลต่างๆดวงตาค่อยๆกวาดตาอ่านอย่างไม่เร่งรีบเพื่อซึบซับเรื่องราวในนั้น
ในสมุดบันทึกหน้าแรกๆไม่ปรากฏสิ่งใดมากนักเป็นเพียงการเขียนระบายอารมณ์บ่นเรื่องราวต่างๆที่พบเจอในแต่ละวันวราลียิ้มน้อยๆออกมาขณะอ่านตัวอักษรเหล่านี้บ่งบอกถึงนิสัยเจ้าของไดอารี่เล่มนี้ได้อย่างดีนิสัยที่บางครั้งก็ร้อนรุ่มให้ชวนโมโหบางครั้งก็เยือกเย็นจนเข้าไม่ถึงแต่ไดอารี่เล่มนี้มีสิ่งพิเศษที่ซ่อนอยู่นั่นคือความรู้สึกเบื้องลึกของเขาทั้งความคิดเหตุผลการกระทำต่างๆที่เธอไม่เคยเปิดใจฟังแล้วยังมุมอ่อนแอของเขาที่เธอมองข้ามไม่สนใจปลอบโยนเสมอมา
เธออยากขอโอกาสเขาสักครั้งได้ไหมนะยิ่งเห็นสิ่งที่เขาเขียนยิ่งทำให้เธอแน่ใจว่าเรายังรักกันเธอยังต้องการเขาต้องการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปและเธอรู้...ตอนนี้เขาน่าจะยังต้องการเธออยู่
ในวันนี้ที่สำนักงานเขตเธอได้ทำเรื่องบ้าๆที่สุดในชีวิตลงไปแล้วเธอยกเลิกไม่ยอมเซ็นต์หย่าไปแล้วเธอยังไม่ได้เซ็นต์มันและนี่คือครั้งแรกที่เธอยอมรับว่ารู้สึกดีที่ได้ปฏิเสธเป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจออกมาด้วยตัวเองแม้มันจะดูงี่เง่าไร้สติบางทีถ้าเธอไปหาเขาในตอนนี้มันอาจจะยังไม่สายไปวันนี้เธอวิ่งหนีออกมาตอนจรดปากกาลงเอกสารนั่นหัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัวเธอวิ่งหนีเขาอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันกำลังจะต่างออกไปเธอหนีเพื่อกลับไปหาเขาหนีเพื่อได้พบความต้องการของตัวเองต่อไปนี้เธอจะไม่โกหกทั้งเขาและตัวเองอีกต่อไปเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่เขาจะกลับมารักเธออีกครั้ง
วราลีอดไม่ได้ที่จะกอดสมุดบันทึกของเขาเพื่อต้องการปลอบประโลมตนเองรอยยิ้มขมขื่นแย้มบนใบหน้าทั้งน้ำตาร่างที่เคยทิ้งตัวลงค่อยๆยืนขึ้นอย่างตัดสินใจได้อ้อมแขนกระชับสมุดบันทึกแน่นให้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวพึ่งพิงเธอค่อยๆปาดน้ำตาออกใบหน้าที่เคยเศร้าหมองปรากฏความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม
สุดท้ายการตัดสินใจของเธอทำให้ร่างที่เคยเชื่องช้าในก่อนหน้านี้ลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคงอีกครั้งเธอจะทำให้เขากลับมารักเธออีกครั้งให้ได้เธอจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้นขอเวลาอีกนิดเธอกำลังจะไปหาเขาอีกครั้งคราวนี้จะเป็นเธอที่วิ่งตามเขาบ้างเท้าเริ่มก้าวอย่างรวดเร็วจนวิ่งในที่สุดเธอรีบตรงดิ่งไปที่รถเพื่อกลับไปที่บ้านของเราบ้านที่เป็นทั้งเรือนหอเป็นที่ที่เขาต้องการสร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกันแต่คราวนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้นมาเองเพื่อเขาและเพื่อตัวเธอเองเพียงแค่คิดได้ใบหน้าก็มีรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากความสดใสเริ่มปรากฏความหวังอีกครั้ง
รถยนต์แล่นออกไปในความมืดมิดของค่ำคืนด้วยความมุ่นมั่นท่ามกลางสายฝนเริ่มจะกระหน่ำลงมา
คนเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้สิ่งที่ทำได้มากที่สุดคือเสียใจและเสียดายเวลาที่เคยมีค่าเธอต้องมาเสียใจกับชีวิตคู่ที่ต้องลงเอยจบลงอย่างนี้แม้จะนั่งเฝ้าถามตัวเองว่าควรทำเช่นนั้นไรใบหน้าของเขาก็ลอยมารบกวนจิตใจให้สั่นไหวอยู่เรื่อย
เมื่อกลับมาถึงคอนโดห้องเล็กของเธอที่เคยได้อยู่และตอนนี้เธอต้องอยู่ที่นี่อย่างถาวรแล้วเมื่อความเงียบเข้าครอบงำดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตากวาดตามองไปรอบๆห้องคอนโดแห่งนี้เธอมาพักอาศัยอย่างเป็นประจำในเวลาที่ต้องเลิกงานดึกจนไม่สามารถจะกลับบ้านของเราได้แล้วยังเป็นที่ที่หลบหนียามปัญหาวิ่งวนเข้ามาบางทีก็คอยหนีเขาคนนั้นอย่างขี้ขลาดเสมอมา
ที่แห่งนี้ถึงจะเป็นเพียงห้องเล็กๆหากเธอก็ได้พยายามเก็บหอมรอมริบจนคว้ามาไว้ได้แต่คงไม่สำเร็จถ้าขาดเขาคนนั้นช่วยเธอแบ่งเบาทุกๆตารางนิ้วในที่แห่งนี้จึงมีแต่ความทรงจำระหว่างเขากับเธอเมื่อตอนความรักยังหวานชื่นเธอยังจำสีหน้าอันตื่นตะลึงและยินดีของตัวเองได้อย่างดีตอนที่รู้ว่าเขาช่วยออกค่าใช้จ่าย
“มันมากเกินไปลีรับไว้ไม่ได้หรอก”
“ลีค่อยผ่อนคืนก็ได้ถ้าไม่สบายใจแต่ยังไงผมก็อยากให้มากกว่านะ”
“ยังไงเราก็ต้องแต่งงานอยู่ด้วยกันตลอดไปอยู่แล้วเงินผมก็คือเงินลีแหละ”
สีหน้าที่โอ้อวดภาคภูมิใจในฐานะอันร่ำรวยของเขานั้นเธอยังจำได้ดีเป็นสีหน้าที่เปล่งประกายความสุขรอยยิ้มที่วาดฝันอนาคตของเขาย้ำเตือนเธออีกครั้งเมื่อมองที่แห่งนี้
แต่ครั้งนี้ที่กวาดตามองความเรียบง่ายของห้องความรู้สึกมันต่างกันมากตอนนี้มันดูเหงาไร้ชีวิตชีวาเมื่อก่อนตอนหนีปัญหาเธอไม่เคยรู้สึกเจ็บและเดียวดายขนาดนี้เลยตอนนี้ความรู้สึกมันเริ่มชัดเจนมากขึ้น..มากขึ้นว่าเธอขาดเขาคนนั้นไม่ได้
จิตใจของร่างบางที่ยืนห่อไหล่กลางห้องทั้งฟุ้งซ่านมีคำถามทั้งโต้แย้งขัดแย้งตนเองจนเต็มพื้นที่สมองน้อยๆของเธอสองเท้าจึงต้องเดินอย่างเลื่อนลอยไปจัดการบรรดาสิ่งของและกล่องต่างๆที่เธอยังจัดไม่แล้วเสร็จเธอไม่อยากคิดอะไรไปมากกว่านี้เธอจึงรื้อข้าวของออกมาเพื่อจัดเก็บให้เข้าที่เข้าทางบนชั้นและตู้วางของข้าวของมีเพียงเสื้อผ้าไม่มากนักหนังสือเล่มโปรดที่นานๆทีจะมีโอกาสซื้อเครื่องประทินผิวเครื่องสำอางค์อีกเล็กน้อยรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆเธอไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเก็บจัดวางนานนักเพราะบางส่วนได้ถูกขนย้ายมาก่อนหน้านี้แล้วด้วยส่วนของแต่ละชิ้นเมื่อเทียบกับผู้หญิงส่วนใหญ่นั้นทั้งของมีค่าและไม่มีมูลค่าก็ยังน้อยเหลือเกินจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลานานนักในการเก็บกวาด
เมื่อวราลีจัดข้าวของเสร็จแล้วทุกอย่างเป็นไปเชื่องช้าไร้อารมณ์เหนื่อยอ่อนหากแต่เป็นระเบียบตามลักษณะนิสัยส่วนตนที่เรียบร้อยมีวินัยเคร่งครัดในชีวิตร่างกายอันเหนื่อยล้าหยุดอยู่ตรงหน้ากล่องสองใบสุดท้ายกล่องที่เคยถูกเก็บไว้อย่างดีกล่องที่เธอกลัวที่จะเปิดมันออกมาเพื่อเจอแต่สิ่งของที่เป็นความทรงจำที่สวยงามร่วมกันระหว่างเขาและเธอ
เธอไม่รู้ว่าได้นั่งหมดเรี่ยวแรงตรงหน้ากล่องทั้งสองเป็นเวลานานเท่าไหร่แล้วร่างบางห่อไหล่คุดคู้เข่าตั้งชันอยู่นานสองมือยกขึ้นกอดเข่าอย่างไร้วิญญาณหัวใจตอนนี้ทั้งหนักอึ้งเศร้าหมองไม่สามารถหาวิธีผ่อนคลายความเครียดภายในได้เลยสุดท้ายเธอรวบรวมความกล้าที่จะเปิดกล่องใบแรกออกมาข้าวของในนั้นถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยฝีมือเธอมานานมากแล้วมือค่อยๆเอื้อมคว้าของที่เห็นอยู่ในกล่องอย่างเบามือและทะนุถนอมด้วยกลัวว่าสิ่งเหล่าจะบอบช้ำเหมือนหัวใจของเธอนี่ไง
ดอกไม้ดอกแรกที่เธอยังเก็บเอาไว้จนมันแห้งเหี่ยวมันดูกรอบบางแทบจะเป็นผุยผงถ้าเพียงถ้าเธอขยี้มัน
“นี่ๆชอบดอกไม้ไหมผมว่ามันคงเหมาะกับลีนะ”
เสื้อยีนส์แจ็คเก็ตแขนยาวตัวใหญ่และหนักตัวนี้มันยังดูใหม่สะอาดแต่กลิ่นหอมของเขาดูเบาบางลงจนแทบจางหายเธอได้แต่กอดมันไว้แนบอกเพื่อซึมซับกลิ่นไอละมุนเหล่านี้
“ลีใส่เอาไว้เถอะจะได้ไม่หนาว”
สร้อยเงินเส้นยาวแวววาวดูสวยหากเย็นชืดอยู่ในมือที่ประคองลูบไล้อย่างอ่อนโยนราวกับต้องการถ่ายทอดส่งความอบอุ่นไปถึงเจ้าของของมัน
“สร้อยเงินนี้เป็นของผมเองแต่เวลาอยู่บนผิวลีดูสวยจัง”
ในกล่องยังมีของมากมายหลายชิ้นที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดที่จะเปิดดูและบางทีเมื่อได้รับของเหล่านี้มาแล้วก็แทบไม่เคยจะรู้ถึงคุณค่าของมันคงมีแต่นาฬิกาสีเงินบนข้อมือที่เธอไม่เคยคิดจะละทิ้งมันเพราะมันมีทั้งความเจ็บปวดความทรงจำบางอย่างจนเธอต้องพกติดตัวอย่างเคยชิน
วราลีรีบปิดกล่องใบแรกลงด้วยกลัวน้ำตาจะเอ่อล้นออกมาอีกครั้งเธอไม่เคยรู้สึกอ่อนแอแบบนี้มาก่อนเลยเสียงสูดหายใจลึกดังก้องแต่กล่องใบที่สองหันเหความสนใจจากเธออีกครั้งดูล่อตาล่อใจให้เปิดออกราวกับกล่องของแพนโดร่าบรรดาของที่บรรจุอัดแน่นในกล่องนี้ยังมีแต่ของของที่เขาเคยให้เธอหรือไม่ก็เป็นของของเธอที่เคยให้เขาเมื่อค้นดูเรื่อยๆเธอเจอสมุดบันทึกเล่มโตอยู่หนึ่งเล่มที่ปกหนังเริ่มจะดูซีดเก่าลงด้วยรูปลักษณ์ของสมุดบันทึกเล่มนี้มันไม่ใช่ของเธอเพราะเธอไม่เคยเขียนหรือจดสมุดบันทึกสักครั้งรูปเล่มปกสีน้ำตาลเข้มนี้เธอจำมันได้มันเป็นของเขาเมื่อเวลาก่อนนอนเขามักจะจดจ่ออยู่มันจนเธอต้องเก็บความสงสัยไม่กล้าถามสิ่งใดออกมาเขาอาจจะลืมไว้หรืออยากจะทิ้งมันไปเธอก็ไม่สามารถคาดเดาได้
เมื่อพลิกดูมันอยู่พักใหญ่วราลีก็ได้ทำสิ่งที่เธอไม่เคยคิดจะทำคือการเปิดดูของส่วนตัวของเขาเธอเปิดสมุดเล่มนี้กางออกมาสีกระดาษด้านในเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนตามกาลเวลาแต่ตัวสมุดทุกแผ่นทุกหน้ากระดาษยังดูดีไม่ยับย่นหรือเก่าพังเจ้าของของมันคงเก็บรักษาไว้อย่างดียิ่งดูยิ่งบังเกิดความสับสนว่ามาอยู่ที่เธอได้อย่างไรหลายๆคำถามเกิดขึ้นในใจขณะนี้หากตัวหนังสือเรียงสวยที่คุ้นเคยปรากฏในหน้าที่เธอเปิดดูทำให้นิ้วสั่นระริกค่อยๆลูบไล้หมึกเธอเลิกคิดเหตุผลต่างๆดวงตาค่อยๆกวาดตาอ่านอย่างไม่เร่งรีบเพื่อซึบซับเรื่องราวในนั้น
ในสมุดบันทึกหน้าแรกๆไม่ปรากฏสิ่งใดมากนักเป็นเพียงการเขียนระบายอารมณ์บ่นเรื่องราวต่างๆที่พบเจอในแต่ละวันวราลียิ้มน้อยๆออกมาขณะอ่านตัวอักษรเหล่านี้บ่งบอกถึงนิสัยเจ้าของไดอารี่เล่มนี้ได้อย่างดีนิสัยที่บางครั้งก็ร้อนรุ่มให้ชวนโมโหบางครั้งก็เยือกเย็นจนเข้าไม่ถึงแต่ไดอารี่เล่มนี้มีสิ่งพิเศษที่ซ่อนอยู่นั่นคือความรู้สึกเบื้องลึกของเขาทั้งความคิดเหตุผลการกระทำต่างๆที่เธอไม่เคยเปิดใจฟังแล้วยังมุมอ่อนแอของเขาที่เธอมองข้ามไม่สนใจปลอบโยนเสมอมา
เธออยากขอโอกาสเขาสักครั้งได้ไหมนะยิ่งเห็นสิ่งที่เขาเขียนยิ่งทำให้เธอแน่ใจว่าเรายังรักกันเธอยังต้องการเขาต้องการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปและเธอรู้...ตอนนี้เขาน่าจะยังต้องการเธออยู่
ในวันนี้ที่สำนักงานเขตเธอได้ทำเรื่องบ้าๆที่สุดในชีวิตลงไปแล้วเธอยกเลิกไม่ยอมเซ็นต์หย่าไปแล้วเธอยังไม่ได้เซ็นต์มันและนี่คือครั้งแรกที่เธอยอมรับว่ารู้สึกดีที่ได้ปฏิเสธเป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจออกมาด้วยตัวเองแม้มันจะดูงี่เง่าไร้สติบางทีถ้าเธอไปหาเขาในตอนนี้มันอาจจะยังไม่สายไปวันนี้เธอวิ่งหนีออกมาตอนจรดปากกาลงเอกสารนั่นหัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัวเธอวิ่งหนีเขาอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันกำลังจะต่างออกไปเธอหนีเพื่อกลับไปหาเขาหนีเพื่อได้พบความต้องการของตัวเองต่อไปนี้เธอจะไม่โกหกทั้งเขาและตัวเองอีกต่อไปเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่เขาจะกลับมารักเธออีกครั้ง
วราลีอดไม่ได้ที่จะกอดสมุดบันทึกของเขาเพื่อต้องการปลอบประโลมตนเองรอยยิ้มขมขื่นแย้มบนใบหน้าทั้งน้ำตาร่างที่เคยทิ้งตัวลงค่อยๆยืนขึ้นอย่างตัดสินใจได้อ้อมแขนกระชับสมุดบันทึกแน่นให้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวพึ่งพิงเธอค่อยๆปาดน้ำตาออกใบหน้าที่เคยเศร้าหมองปรากฏความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม
สุดท้ายการตัดสินใจของเธอทำให้ร่างที่เคยเชื่องช้าในก่อนหน้านี้ลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคงอีกครั้งเธอจะทำให้เขากลับมารักเธออีกครั้งให้ได้เธอจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้นขอเวลาอีกนิดเธอกำลังจะไปหาเขาอีกครั้งคราวนี้จะเป็นเธอที่วิ่งตามเขาบ้างเท้าเริ่มก้าวอย่างรวดเร็วจนวิ่งในที่สุดเธอรีบตรงดิ่งไปที่รถเพื่อกลับไปที่บ้านของเราบ้านที่เป็นทั้งเรือนหอเป็นที่ที่เขาต้องการสร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกันแต่คราวนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้นมาเองเพื่อเขาและเพื่อตัวเธอเองเพียงแค่คิดได้ใบหน้าก็มีรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากความสดใสเริ่มปรากฏความหวังอีกครั้ง
รถยนต์แล่นออกไปในความมืดมิดของค่ำคืนด้วยความมุ่นมั่นท่ามกลางสายฝนเริ่มจะกระหน่ำลงมา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ