ด้วยความคิดถึง...I'm missing you.
-
เขียนโดย Raksha
วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 13.30 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
5,340 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ตอนที่ 1 เริ่มต้น…ความคิดถึง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในช่วงวัยสามสิบกว่าอย่างฉัน คนส่วนใหญ่เขาคิดถึงเรื่องอะไร?
ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน?
การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งเมื่อไหร่?
หรือจะได้แต่งงานเมื่อไหร่ จะมีลูกเลยไหม?
เงินเก็บได้เท่าไหร่แล้วตอนนี้?
หลายคำถามจากหลายคำคนที่พูดกันให้ได้ยิน ว่าฉันต้องอย่างนั้นและฉันต้องอย่างนี้ แต่จริงแล้วตัวฉันเองต้องการอะไร บางทีฉันก็ยังไม่รู้ตัวเองเลย…
หากถามว่าการงานตอนนี้ดีไหมก็ตอบได้ว่าดี ฉันเป็นพนักงานฝ่ายขายอยู่บริษัทเอกชนที่หนึ่ง ยอดขายคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตฉันตอนนี้ วันๆ ในหัวมีแต่ตัวเลขและลูกค้า
ส่วนเรื่องครอบครัวนั้นยังไม่มี ฉันมองว่าการที่เราจะลงหลักปักฐานกับใครคนหนึ่งนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย หรือแม้จะถูกใจใครแต่ถ้าคุยกันไปแล้วมันไม่คลิกฉันก็ไม่เอา
เช่นวันนี้ฉันออกไปเที่ยวตามคำชวนของเพื่อนร่วมทำงาน ร้านอาหารกึ่งผับเต็มไปด้วยผู้คนที่น่าดึงดูด หลายคนอาจจะเกิดถูกใจใครแล้วไปต่อ ท้ายสุดก็จบลงที่คืนสุดหฤหรรษ์พอสุขใจก็แยกย้าย
อะไรแบบนั้น…ฉันไม่ทำ
ฉันเพียงแค่ชอบมองของสวยงาม แค่มองเท่านั้นก็ทำให้รู้สึกพึงใจ ถึงแม้ใครจะบอกว่าหน้าตาอย่างฉันถ้าจะเข้าไปจีบใครก็คงติด
แต่ฉันจะไม่เริ่มถ้าคนนั้นไม่ใช่ และคนที่ใช่สำหรับฉัน…
…ฉันเองก็ไม่เคยเริ่ม
ถ้ามานึกจะเสียดายตอนนี้ก็คงจะได้แต่ยิ้ม เพราะหากย้อนเวลากลับไปถามว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ไหม ตอบได้เลยว่าคงไม่ได้
เพราะในวันนั้นถ้ายังเป็นฉันคนนี้ ฉันเองก็คงจะไม่กล้า…เหมือนเดิม
“เฮ้ย! อะไรวะ? อย่ามานั่งทำหน้าตาดีแถวนี้ เบื่อเว้ยคนสวยแต่ไม่เอาผู้” หัวหน้าฝ่ายขายจอมเจ้าชู้ เดินถือแก้วเหล้าเข้ามาชนแก้วที่เหลือเพียงครึ่งของฉัน
“ก็คนมันสวยช่วยไม่ได้” ยอมรับว่าหลงตัวเอง แต่ก็เป็นอย่างนี้ใครจะทำไม พี่ต้อมหัวเราะอย่างชอบใจ กระดกแจ็คแดเนียลผสมโซดาเข้าปากจนหมดแล้ว
“เออสวย! ชงเหล้าให้พี่หน่อยซิจ๊ะ” กระแทกแก้วเหล้าที่ว่างเปล่าลงโต๊อย่างแรง ฉันต้องรีบรับเพราะกลัวแก้วจะแตกเหมือนคราวที่แล้ว เบื่อที่ต้องเสียงเงินให้ร้านเพราะข้าวของเสียหาย มากับแกงค์นี้ทีไรเสียเงินทุกที
พอพี่ต้องได้รับเหล้าเข้าปากอีกครั้งความเจ้าชู้ไก่แจ้ก็บังเกิด เดินเอียงๆ หรี่ตาคมเมื่อเห็นเป้าหมาย หันมากระซิบบอกเหมือนอย่างเคย
“ไอ้ขิมคืนนี้พี่ขอตัวนะ เจอของดีแล้วโว้ย” พูดยังไม่ทันจบดี หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบก็เดินแถเข้าหากลุ่มสาวสวยนุ่งสั้น
ผู้จัดการฝ่ายขายคนนี้เป็นพวกมือไวใจเร็ว ชอบแล้วจีบเลยไม่รอให้ถึงเช้า ได้แล้วก็จบกันไปแบบวินๆ พี่ต้อมถือเป็นผู้ชายหน้าตาดี หล่อแบบไทยๆ ผิวเข้มสูงใหญ่แบบที่สาวคนไหนได้เจอเป็นต้องชอบ ตอนฉันเข้างานแรกๆ แกก็เคยมาจีบ แต่พอรู้รสนิยมเข้าก็เปลี่ยนไปเป็นน้องรักของแกในทันที
และนี่ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ฉันชอบในตัวพี่ต้อม คือถ้าไม่ให้ก็จะไม่เอาไม่มีการบังคับหรือใช้หน้าที่การงานมาขู่เข็ญแต่อย่างใด และก็เป็นที่รู้กันว่าคืนนี้พี่ต้อมได้สละเรือเป็นคนแรกอีกคามเคย
“ไอ้ขิม พี่ต้อมได้สาวแล้วเหรอวะ” ตาลเพื่อนสาวมาดทอมบอยถามขึ้น เมื่อกลับมาจากเข้าห้องน้ำ ตาลก็เป็นอีกคนที่ชอบเล่นหูเล่นตาไปทั่ว ตามสไตล์ทอมมั่นหน้าว่าหน้าตาตัวเองดี แต่ก็ไม่เถียงเพราะตาลนั้นขาวใสตาเรียวแบบคนมีเชื้อจีน ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ถูกใจอยู่ไม่น้อย
“อือได้แล้ว” ตอบไปเพียงสั้นๆ เพราะอีกไม่นานคงจะเหลือแค่เพียงฉันอีกตามเคยที่จะต้องนั่งเหลือเพียงคนเดียวในคืนนี้
ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์มือถือของตาลก็ดังขึ้น ตาลร้อง ‘เชี้ย’ แล้วก็โบกมือลาหย่อยๆ รีบเดินออกไปจากร้านทันที
เป็นที่รู้กันว่า ‘เมียโทรตาม’ จากนั้นตาลต้องกลับบ้านในทันที แฟนตาลมีอาชีพเป็นนักร้องมีวงเป็นของตัวเอง ถ้ามิ้งเลิกร้องเพลงเมื่อไหร่นั่นหมายถึงว่าตาลก็ต้องเลิกเที่ยวเมื่อนั้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามตาลจะต้องกลับบ้านเดี๋ยวนี้!
ดุยิ่งกว่าร็อตไวเลอร์ ก็มิ้งเมียตาลนี่แหละ!
สุดท้ายแล้วฉันก็นั่งอยู่คนเดียวเหมือนเดิม มองเหล้าที่เหลืออีกค่อนขวดไม่กี่แก้วก็คงจะหมด ตัดสินใจนั่งต่ออีกหน่อย ปล่อยใจฟังเพลงจากวงที่สามของคืนนี้ที่กำลังเล่นเพลงเศร้า เพลงนี้ฟังกี่ทีก็เพราะซึ้งกินใจ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของน้ำเมาที่กินเข้าไป หรือเพราะคิดถึงใครที่เคยฟังเพลงนี้ด้วยกัน
ใจหนอใจ ผ่านไปตั้งสิบกว่าปีแล้ว แต่ทำไมยังคงเหมือนเดิม
รักอย่างไรก็อย่างนั้น คิดถึงอย่างไรก็คิดอยู่อย่างนั้น
หรือเจ็บอย่างไร ก็คงเจ็บอย่างนั้น
มันช่างบ้าบอ…
“ขิม!” หันไปตามเสียงเรียก พอได้เห็นเจ้าของเสียงหวานว่าเป็นใคร แจ็คแดเนียลแบบออนเดอะร็อคในมือก็แถบหล่น
“ขิมจริงๆ ด้วย ดีใจจังเลยไม่นึกว่าจะเจอขิมที่นี่ กี่ปีแล้วนะที่เราไม่ได้ เจอกัน โอ๊ยดีใจจังเลยอ่ะขิม ดีใจ ดีใจ”
เธอรวบมือฉันมากุมเอาไว้ พร้อมร้อยยิ้มกว้างแสดงถึงความดีใจ
เธอคนที่มีรอยยิ้มสวยอยู่เสมอ เธอคนที่กำลังนึกถึง และเธอคนที่ยัง…
“ขิม ขิมเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมนิ่งไปล่ะ หรือเมาแล้วเนี้ย”
ยังคงนิ่งเพราะตกใจปนอึ้ง สองมือเล็กประคองจับแก้มเราเหมือนอย่างเคย ฝันไปหรืออย่างไร หรือเมาจนเห็นภาพหลอน แต่พอมองชัดรอยยิ้มสวยยังไม่จางหายไปจากใบหน้าของคนตรงหน้าเลย
“เมาแล้วจริงๆ ด้วย” ได้ยินแบบหูอื้อมองร่างบางเดินหายไปโต๊ะทางด้านหลัง ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมกระเป๋าสะพายใบเล็ก
“ไปค่ะ เดี๋ยวเค้กพาไปส่งบ้านนะ” แขนเรียวโบกเรียกบริกรมาที่โต๊ะ ยื่นแบงค์ม่วงให้ไปหลายใบแล้วก็จับจูงมือเราให้เดินตามกันออกมา
“ทำไมปล่อยตัวเองให้เมาอย่างนี้นะขิม แต่ก่อนก็ไม่เห็นจะกินเหล้าเลย” เสียงบ่นปนความห่วงใยมีให้ได้ยิน แต่ไม่นึกโกรธเลยสักนิดเพราะยังคงมึนกับสถานการณ์พบกันโดยไม่คาดฝัน
เมื่อก่อนที่ไม่กินเพราะอะไรไม่รู้หรือ?
ใครล่ะ! ที่บอกว่ามันไม่ดีฉันเลยไม่แตะแม้เพียงนิด
พอมาถึงลานจอดรถเธอก็หันกลับมาสนใจเราอีกครั้ง
“ขิมยังอยู่ที่เดิมรึเปล่า เดี๋ยวเราไปส่ง” ถามมาแบบนั้นฉันก็ได้แต่ส่ายหน้า ไม่รู้ว่าเพราะหันหน้าเร็วไปหน่อยหรืออย่างไร ก็ทำให้เสียการทรงตัวเสียดื้อ จนเธอต้องรีบเข้ามาประคอง
“โอ๊ยตายแล้วขิม! นี่เมาจนไม่รู้เลยเลยรึไงเนี้ย งั้นไปนอนบ้านเค้กก่อนแล้วกันนะคะ” พูดจบก็จับเราลากขึ้นรถ
เอาวะไปก็ไป นี่มันคืนอะไรถึงได้เป็นใจให้คนที่แสนจะคิดถึงมาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้า ปากหนักจนพูดอะไรไม่ออก พอหันไปมองคนที่ตั้งใจขับรถแต่มือก็ยังกอบกุมกันเอาไว้
โอ้วสวรรค์…ถ้านี่คือความฝัน ก็ขอให้ฉันอย่าเพิ่งตื่นจากฝันดีแบบนี้เลย
..................................................................................................................
ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ
@Raksha30753384
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ