Engineering ตกหลุมรักยัยรุ่นพี่ 18+

9.0

เขียนโดย Kanoomjj

วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 09.54 น.

  16 ตอน
  0 วิจารณ์
  14.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2562 10.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) เฟรชชี่ไนท์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Engineering ตกหลุมรักยัยรุ่นพี่ 8 : เฟรชชี่ไนท์

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

 

 

 

                    @ หอประชุมใหญ่         7.00 p.m.

 

          “สวัสดีชาว AU ทุกคนนะคะ พี่ชื่อพี่เฟย์ค่ะ” เฟย์ยัยประชาสัมพันธ์สุดกวนเอ่ยท่าทางแบ๊วของมันนี่เห็นแล้วจะอ้วก! ตัวจริงโคตรสกมกเลย! - -^

 

          “ส่วนพี่ชื่อพี่กอล์ฟครับ” อิ กอล์ฟ กระเทยแอ๊บแมนเพื่อนซี้ต่างคณะของฉันเองแหละ

 

          “พี่และพี่เฟย์เป็นตัวแทนจากสโมสรนักศึกษาของมหาวิทยาลัยของเรานะครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเชิญน้อง ๆ และเพื่อนๆทุกคนมารู้จักกับโฉมหน้าว่าที่เหล่าเดือนและดาวของมหาวิทยาลัยของเรากันเลยครับผม!” กอล์ฟพูดจบพวกน้อง ๆที่เป็นตัวแทนของคณะต่าง ๆทั้ง 12 คณะก็เดินออกมาโชว์ตัวกันทันที

 

 

          หื้มมมมม.. แต่ละคนแข่งกันเด่นเลยทีเดียวสวยจริง ๆนี่ถ้าฉันไปยืนใกล้ๆพวกนางคงไม่ต่างอะไรกับเด็กแคระ!

 

 

          “ค่ะ ต่อไปเรามารู้จักมาน้อง ๆทีละคนกันเลยดีกว่านะคะเริ่มจากคณะศิลปศาสตร์ก่อนเลยค่ะ” เฟย์เอ่ยขึ้นมา

 

          “สวัสดีค่ะดิฉันชื่อ...”

 

          “ไงเตี้ย!” เสียงเรียกฉันดังขึ้นมันมีไม่กี่คนหรอกนะที่เรียกฉันว่าเตี้ยได้แบบนี้ ฉันหันไปมองคนที่เรียกด้วยสายตาเหวี่ยงๆ

 

          “ไงค่ะไอ้เป๋?” ฉันถาม ไทเป เพื่อนต่างคณะขึ้น ไทเปกับฉันเราสนิทกันตอนที่เตรียมตัวไปแข่งประกวดดาวเดือนตอนปีหนึ่งแล้วก็สนิทกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

 

          “ได้ข่าวว่าเดือนคณะเป็นน้องชายมึง” ไทเปถาม

 

          “อืม กูไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่แต่น้องมันอยากทำก็ปล่อยมันไป” ฉันบอก

 

          “เออ เด็กคณะกูแจ่มไหม” ไทเปถาม

 

          “แจ่ม! แต่ว่าถ้าตัดสินแค่หน้าตาน่ะหญิงพยาบาลชนะขาดส่วนชาย...” ฉันนิ่งไปก่อนจะมองที่ใบหน้าหล่อคมที่พอแต่งตัวแบบนี้แล้วให้ความรู้สึกว่าพระเจ้าทรงลำเอียงจริง ๆ

          “ก็บริหาร” ฉันบอก

 

          “อืม งั้นเราก็ไปเตรียมตัวกันเถอะ”

 

          “เตรียมตัว?” ฉันถามมันด้วยความสงสัย

 

          “ก็เตรียมตัวขึ้นไปบนเวทีในฐานะอดีตดาวเดือนไงมึงลืม?” ไทเปถาม

 

          “เออ กูลืม” ฉันเอ่ยก่อนจะหันไปสะกิดศิวะที่ยืนดูน้องอยู่

 

          “มึงกูฝากด้วยนะ กูต้องไปเตรียมตัวขึ้นเวทีวะ” ฉันบอก

 

          “เออ ไม่ต้องห่วงไปเหอะเอาให้สวยนะมึง” ศิวะพูดพลางตบไหล่ฉันฉันพยักหน้ารับส่งๆก่อนจะเดินตามไทเปไปที่หลังเวทีทันที

 

 

 

 

 

 

          “พี่หนุน!! หนูนึกว่าจะโดนพี่เทซะแล้วอ่ะ แงงงงงงง” แป้งร่ำ สมาชิกของสโมสรนักศึกษาวิ่งเข้ามากอดฉันทันทีที่เห็นฉันเดินเข้ามากับไทเป

 

          “ไอ้แป้งกูอึดอัด” ฉันว่าพลางดันมันออก

 

          “มาพี่ ไปแต่งหน้าทำผมกัน หนูเลือกชุดให้พี่แบบโคตรพิถีพิถันเลย” แป้งร่ำว่าพลางดันหลังฉันเข้าไปในห้องแต่งตัว พอเข้ามาได้บรรดารุ่นน้องและเพื่อนๆที่มันเคยทำงานกับฉันก็หันมามองฉันตาเป็นประกายระยิบระยับ

 

          “กูไม่ใช่ตุ๊กตานะเว้ย!” ฉันตะโกนลั่นทันทีที่พวกมันเข้ามาตะลุมบอนฉัน T^T

 

 

 

          ใครมันช่างคิดตรรกะที่ว่าเกิดมาตัวเล็กแล้วน่ารัก  น่าหยิก กูนี่อยากกระทืบหน้ามึงจริง ๆ กรี๊ด!

 

 

 

          ฉันโดนรุ่นน้องล้อมหน้าล้อมหลังเพื่อจับฉันแต่งตัวคนหนึ่งแต่งหน้าอีกคนทำผมส่วนอีกคนก็นั่งมองฉันยิ้มๆไม่ทำเห้ไรเลยและอีกสองคนมันก็ถ่ายรูปฉันแชะๆ ๆไม่ยอมหยุด! ไม่นานฉันก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ชุดราตรีที่พวกนั้นเลือกให้เป็นชุดราตรีสีขาวขาวซะจนมันไม่เข้ากับนิสัยเลวๆของฉันอย่างแรงเลยอ่ะ นี่คิดจะหลอกด่ากันรึเปล่าวะ!

          “แป้งกูออกไปตอนไหนวะ แล้วต้องใส่ชุดบ้าๆนี่อีกนานแค่ไหน?” ฉันถาม ชุดอะไรก็ไม่รู้เห็นแล้วขัดหูขัดตาจนอยากจะฉีกออกเป็นชิ้นๆ คือพวกมันคิดว่าฉันใสสะอาด บริสุทธิ์มากนักหรอ?! เบะปากมองบนค่ะ!

 

          “โฮ... เจ๊ใจเย็นๆค่ะ เดี๋ยวพอน้อง ๆ เดินลงไปที่เวทีชั้นล่าง เจ๊ก็จะได้ออกไปโชว์ตัวแล้ว” แป้งร่ำว่า ฉันเหงยหน้ามองน้อง ๆปีหนึ่งที่ทยอยกันเดินโบกไม้โบกมือ ส่งยิ้มทักทายคนๆอื่นอยู่บนเวทีแล้วส่ายหัวไปมา มันคิดว่าประกวดนางงาม? เห้ออออออ เหนื่อยใจแทนกรรมการจริง ๆ! สายตาฉันมองไปเรื่อย ๆก่อนจะสะดุดเข้าที่มาส ไอ้เด็กบริหารที่โคตรหล่อและโคตรเหี้ยมันอยู่ในชุดสูทสีดำช่วยขับเน้นผิวขาวระรื่นอย่างกับผิวเด็กทารกของมันให้เด่นชัดขึ้นไปอีก ไหนจะดวงตาคมกริบคู่นั้นที่พอกรีดอายไลเนอร์ลงไปแล้วมันยิ่งดุคมจนพาให้ใจสั่นเลยทีเดียว ใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาของมันยิ่งทำให้มันดูลึกลับน่าสนค้นหาราวกับปีศาจผู้หลบซ่อนกายในความมืด มองเลยไปหน่อยก็เห็นหนุ่มหล่อใบหน้ายิ้มแย้มในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ใบหน้าคมสวย จมูกโด่งที่รั้นหน่อยๆตามแบบฉบับของมันทำให้ลูกไม้มันไม่ต่างอะไรกับเจ้าชายตัวน้อยที่น่ารักน่าหยิกเห็นแล้วอยากจะโผล่เข้ากอด คนหนึ่งตาฟ้าอีกคนตาเขียว คนหนึ่งสีดำคนหนึ่งสีขาว!

 

 

          เหอะๆ ไอ้สองคนนี้มันเกิดมาเพื่อฆ่ากันเองชัดๆ พวกสไตลิสก็ช่างคิดเนอะ -_-;

 

 

 

          “และแล้วก็ถึงเวลาที่หลายๆคนลอยคอ” กอล์ฟ

 

          “รอคอยค่ะพี่กลอร์ฟ รอคอย!” เฟย์

 

          “ครับๆ รอคอย” พออิกอล์ฟพูดจบเสียงกลองก็ระรัวออกมาเป็นจังหวะชวนในลุ้นละทึกและตื่นเต้นไปกับมัน

          “ขอเชิญเพื่อนๆและน้อง ๆทุกคนพบกับไทเป ทยุติธร ศิริโรจนา ผู้ครองตำแหน่งเดือนมหาลัยปี 59 และผู้ที่ชนะการประกวดเดือนมหาลัยในเครือซันซายครับ” อิกอล์ฟประกาศจบ ไทเปก็เดินออกไปทันที

 

 

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดด!!”

 

          เสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่วทั้งหอประชุมใหญ่พร้อมกับทำนองเพลงดาวเกี้ยวเดือนซึ่งเป็นเพลงที่ไทเปร้องแข่งในการประกวดร่วมกับฉันจะดังขึ้น

 

 

 

          “เดี๋ยวนะมีร้องเพลงด้วยหรอ?” ฉันถามแป้งร่ำที่ยืนกรี๊ดอยู่ข้างๆ

 

          “มีค่ะพี่ หนูรอฟังเสียงนุ่มๆหวานๆของพี่อยู่น่าาาาา”

 

          “ทำไมกูต้องร้องด้วยวะเนี่ย อิเฟย์นะอิเฟย์!” ฉันบ่นออกมาก่อนจะดูไทเปต่อไปด้วยความหงุดหงิดไม่นานเสียงดนตรีก็จบลงถึงตาฉันแล้วสินะ

 

          “ต่อไปขอเชิญทุกคนพบกับดาวมหาลัยปี 59 และผู้ชนะการประกวดดาวมหาลัยในเครือซันซายแถมพ่วงมาด้วยฉายาเจ้าหญิงแห่งมหาลัยออทัม ลูกขนุน รวิสรา อาทิตฏวงศ์ค่ะ” เฟย์พูดจบทำนองเพลงดาวเคียงเดือนก็ดังขึ้นมามันเป็นเพลงที่ฉันใช้ร้องตอนประกวดดาวเมื่อตอนปี 1 คู่กับไทเป ฉันก้าวเท้าเดินออกไปยังเวทีโดนมีแป้งร่ำช่วยยกชายกระโปรงให้

 

 

 

          “เมื่อยามแสงเดือนมาเยือนนภา...”

 

          “กรี๊ดดดดดดดดด!!”

          “กรี๊ดดดดดดดดด!!”

          “ฮิ้ววววววววว!!”

 

 

 

 

 

 

 

          ผมมองไปที่ทางเดินขึ้นเวทีด้วยใจที่เต้นระรัวราวกับกลองสามช่า เสียงหวานนุ่มหูดังขึ้นมาพร้อมกับยัยตัวเล็กที่อยู่ในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์ราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ใบหน้าสวยหวานตามแบบฉบับลูกครึ่ง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจนเกือบทองเช่นเดียวกับสีผมส่งประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า ผิวขาวเนียนละเอียดที่โผล่พ้นออกมาจากเนื้อผ้าช่วยขับให้เรือนร่างสมส่วนนั้นยิ่งหน้ามองเข้าไป ผู้หญิงคนนี้... กำลังกระชากหัวใจของผมออกจากอกอีกครั้ง!

          “...เธอทำให้ฟ้าน่ามองสดใส” เสียงหวานยังคงดังขึ้นต่อไปเรื่อย ๆพร้อมกับเสียงตะโกนร้องตอบรับจากคนรอบข้างโดยเฉพาะจากรุ่นพี่ ‘เจ้าหญิง’ คำนี้ผมว่ามันเหมาะกับผู้หญิงคนนี้มากจริง ๆ

 

          “ใครใครก็เหลียวมองแต่เธอ

          แต่เธอนั้นเหลียวมองผู้ใด

          รู้ไหมว่าดาวยังเฝ้ามอง..” ยัยตัวเล็กเดินมากลางเวทีก่อนที่ทั้งผมและเธอจะหันมาสบตากันพอดีราวกับว่าผมต้องมนตร์ที่เธอไม่ได้ตั้งใจร่ายสะกดให้ไม่อาจละสายตาไปจากดวงหน้าหวานนั่นได้เลย

 

          “เมื่อยามแสงเดือนมาเยือนแสงดาว...

          ใกล้เธอทุกคราวต้องข่มใจปอง

          หนึ่งดาวไฉนจะคู่ควร หนึ่งใจไม่หวังไปครอบครอง

          แค่เธอเหลียวมองก็เป็นสุขใจ..”

 

 

 

          อึก!

          ผมสะอึกทันทีที่ยัยตัวเล็กนั้นส่งยิ้มละมุนมาให้ลูกขนุนก้าวเท้าเข้ามาก่อนที่มือเล็กจะยื่นมาจับที่ใบหน้าของผมอย่างแผ่วเบา

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดด!!”

 

          “ในคืนนี้ดวงใจฉันพร่างพราว ยามดาวเคียงข้างเดือน

          ยามเธอมาเยือนยิ่งคอยหวั่นไหว..

          แค่มีเธอเคียงข้างกายพร่างพรายในหัวใจ

          ในคืนที่เหน็บหนาว.. ในคราวที่อ่อนไหว..

          อย่างน้อยฉันยังอุ่นใจ เมื่อได้เคียงข้างเธอ...”ลูกขนุนยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะผละออกไปช่างเป็นผู้หญิงที่.. น่าจับมาตีก้นจริง ๆ หึ!

 

          “เมื่อยามแสงเดือนมาเยือนแสงดาว...

          ต่อเติมเรื่องราวให้ดาวมีฝัน

          มีเดือนที่อุ้มคอยโอบดาว.. ดาวจึงวับวาวเคียงข้างกัน

          อยากเป็นเช่นนั้นทุกค่ำคืน..” ยัยตัวเล็กร้องพร้อมกับเดินเข้าไปหารุ่นพี่ที่ชื่อไทเป หมอนั่นเองก็เดินเข้ามาหาเช่นกันก่อนจะโอบเอวเล็กเอาไว้

 

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดด!!”

 

          “กรี๊ดดดดดดดด!!”

 

          “อยากรู้... ที่ดาวเข้ามาใกล้เดือน

          ที่ดาวเข้ามาเกี้ยวเดือน

          จะไม่ลาเลือนไปใช่ไหม...” ไทเปร้องพร้อมกับโน้มตัวลงไปหายัยตัวเล็กถึงจะรู้ว่าเป็นการแสดงแต่ผมก็อดกำหมัดแน่นไม่ได้และก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ายามนี้ทั้งคู่ช่างดูเหมาะสมกันเหลือเกิน...

 

          “ในคืนนี้ดวงใจฉันพร่างพราว...

          ยามดาวเคียงข้างเดือน

          ยามเธอมาเยือนยิ่งคอยหวั่นไหว

          แค่มีเธอเคียงข้างกายพร่างพรายในหัวใจ..” ทั้งคู่ร้องออกมาพร้อมกันเป็นจังหวะเดียวกับที่หน้าผากของทั้งคู่ชนกัน

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดด!!”

 

 

          “ในคืนที่เหน็บหนาว ในคราวที่อ่อนไหว” ไทเปมันร้องจบก็ผละออก

 

          “อย่างน้อยฉันยังอุ่นใจ...” ยัยตัวเล็กถอยหลังออกมา

 

          “ฉันยังอุ่นใจ” ไทเปคว้ามือเล็กนั้นมากุมไว้

 

          “เมื่อได้เคียงข้างเธอ...” ทั้งคู่ร้องพร้อมกันก่อนจะผละออกจากกันเดินไปคนละทางในระหว่างดนตรีดำเนินไป ไทเปเดินตรงไปยังฝั่งของดาวส่วนยัยตัวเล็กก็เดินตรงมาที่ผม

          “มาด้วยกันสิ” มือเล็กยื่นมาตรงหน้าของผมพร้อมด้วยรอยยิ้มผมยื่นมือไปหาอย่างงงๆ ลูกขนุนก็พาผมเดินไปกลางเวที

 

 

 

          “กรี๊ดดดดดดด!!”

          ผมมองไทเปที่พาดาวคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมมาด้วยนิ่งๆ พวกนี้คิดจะทำอะไร? รึว่ากำลังเลือกดาวเดือน?

 

 

          “ในคืนนี้ดวงใจฉันพร่างพราว...

          ยามดาวเคียงข้างเดือน

          ยามเธอมาเยือนยิ่งคอยหวั่นไหว” ทั้งคู่ร้องพร้อมกัน

 

          “โปรดรู้ว่าฉันกำลังรักเธอทั้งหัวใจ...” ไทเปร้องพร้อมกับเอามือที่กุมกับดาวคณะคนนั้นมาไว้ที่หน้าอกตนเอง

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดด!!”

 

 

          “ในคืนที่เหน็บหนาว ในคราวที่อ่อนไหว

          ได้รักเธอจึงอุ่นใจ...”ฉันหันมายิ้มให้ผมผมจึงยิ้มตอบพร้อมกับจิ้มแก้มนิ่มนั้นไปที

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดด!!”

 

 

          “เมื่อเราเคียงข้างกัน...” ทั้งคู่ร้องจบลงพร้อมกับเสียงดนตรีที่ค่อยๆเงียบลงตามด้วยเสียงปรบมือดังลั่นหอประชุม ถ้าหากนี้เป็นการเลือกดาวและเดือนจริง ๆ ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเลือกผมแทนที่จะเลือกน้องชายตัวเอง...

 

 

 

 

 

 

 

          “แหม่ๆ กุมมือกันแน่นเชียวนะคะ” เฟย์เป็นเอ่ยแซวพร้อมกับอิกอล์ฟที่เดินคู่กันมา

 

          “จะจับมั้งไหมละค่ะ” ฉันสวนกลับพร้อมกับยื่นมืออีกข้างของมาสไปให้ยัยเฟย์

 

          “เอาสิค่ะ!” เฟย์กระโดดเข้ามาหาทันทีแต่มาสมันชักมือกลับไปซะก่อน

 

          “ผมอยากจับมือแค่คนนี้ครับ” มาสมันบอก

 

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดดด!!”

 

          เสียงกรี๊ดดังลั่นเลยค่ะมันจงใจเรียกคะแนนใช่ไหมไอ้เด็กนี่

 

 

          “แหม่ๆ งั้นไม่จับก็ได้ค่ะ” ยัยเฟย์สะบัดหน้าหนีไปทันที

 

          “ไม่สนใจสาวสวยคนนี้บ้างหรอ” ไทเปถาม

 

          “จะยกให้กลอร์ฟหรอครับคุณพี่ไทเป” อิกอล์ฟแซว

 

          “อ้าว... คุณพี่กอล์ฟชอบผู้หญิงหรอครับ?” ไทเปสวนกลับเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี

 

          “จบข่าวครับขอเชิญคู่ต่อไปเลยแล้วกัน!” อิกอล์ฟว่าก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอย่างงอนๆ

 

          “ไปนั่งรอที่ชั้นบนนั้นก่อนเลยนะ” เฟย์บอกฉันพยักหน้ารับก่อนจะพยักหน้าให้มาสเดินตามขึ้นไปยังบันไดทรงกลมที่มีทั้งหมดสามขั้นในแต่ละขั้นนั้นมีเก้าอี้อยู่สี่ตัวซึ่งเป็นที่สำหรับให้พวกเรานั่ง

 

 

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดด!!”

 

          “กรี๊ดดดดดดดดด!!”

 

          “ฮิ้ววววววววว!!”

 

          เสียงกรี๊ดเสียงโฮแซวดังลั่นขึ้นมาทำให้ฉันต้องหันไปมองก็เห็นว่ามาสมันกำลังก้มลงไปรวบชายกระโปรงที่โคตรยาวของฉันขึ้นมาอยู่ไอ้นี่มันขยันเรียกคะแนนเสียงซะจริง

 

          คะแนนเสียงไปถึงไหนค่ะ” ฉันแซวมันทันทีที่มันเดินมาข้างๆ

 

          “กูไม่ทำเพราะเหตุผลไร้สาระแบบนั้นหรอก” มันว่าก่อนจะยื่นมือมา ฉันก็ยักไหล่ไม่ใส่ใจก่อนจะจับมือมันแล้วเดินไปที่บันไดด้วยกัน

          “ทำไมถึงไม่เลือกน้องตัวเอง” มาสมันถามหลังจากที่นั่งลงเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้น้องที่เป็นเดือนมหาลัยปี 60 กำลังทำการแสดงอยู่

 

          “มองดูภาพรวมของกูกับมึงสิ” ฉันบอกมาสมันก็นิ่งไปก่อนจะพยักหน้ารับ

          “อีกอย่างกูมั่นใจว่าชุดที่กูเลือกมาจะต้องเข้ากับอีกสองคนที่เหลือไม่คนใดก็คนหนึ่งถ้ากูคู่กับน้องตัวเองมันก็ดูบริสุทธิ์เกินไปคู่กับมึงดีกว่าอรรถรสดี”

 

          “หึ! คัดตัวได้สุดจริง ๆ ไม่บอกกล่าวกันเลยสักนิด” มาสมันบ่น

 

          “กูก็เพิ่งรู้เหมือนกัน” ฉันบอกมันเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ฉันก็หวั่นไหล่กลับไปเล็กน้อย ถ้าเกิดฉันไม่เอ๊ะใจตอนอยู่บนเวทีทั้งฉันและไทเปก็คงไม่เลือกใครมาด้วยหรอก พอฉันกับไทเปเลือกน้องคนอื่น ๆที่เหลือก็ต้องเลือกตามจะเลือกส่งๆก็ไม่ได้ ดูที่หน้าตาก็ไม่ได้อีกเพราะมันจะส่งผลต่อไปในระยะยาว การที่เลือกมาสเพราะฉันเชื่อในสายตาตัวเองที่มันบอกว่าเด็กคนนี้มีอะไรดีมากกว่าหน้าหล่อๆของมันแน่นอน...

 

 

 

 

 

 

 

          “ไงเจ๊” ไอ้ลูกไม้ทักขึ้นพร้อมกับ กอหญ้า ดาวมหาลัยปี 60 ที่พามันมาด้วย คิดไม่ถึงว่าคนที่เลือกน้องชายของฉันจะเป็นกอหญ้าเพราะยัยนี่เป็นคนที่เลือกเยอะมากกกกกกกกก! ฉันกำหมัดแล้วยื่นไปข้างหน้า ลูกไม้มันก็กำหมัดมาชนกับฉันตามประสาพี่น้อง

 

          “เหมือนจะมั่นหน้ามากนะคะคุณลูกขนุน” ไทเปที่อยู่ข้างๆกัดฉันขึ้น

 

          “เสือก!” ฉันด่ามันกลับนิ่งๆก่อนจะมองน้อง ๆ 61 ทำการแสดงต่อไปถ้าฉันและสองคนนั้นใจตรงกันก็คงจะเลือกดาวคณะวิศวะกับเดือนคณะคหกรรม เพราะระหว่างที่รอจนถึงตอนนี้สองคนนี้เรียบร้อยสุดแล้ว รู้จักวาเลนไทน์มาสองวัน ฉันถูกใจมันมาก สอนมันทำโน้นทำนี่เด็กนี่นับว่ามีความอดทนสูงเลยทีเดียว ทุกอย่างโดยรวมของเด็กคนนี้ผ่านหมดแต่ว่าเรื่องความสามารถ... ก็ต้องมาดูมาจะสู้ดาวสองคนนั้นได้หรือเปล่า! และก็เป็นไปตามคาดวาเลนไทน์และเดือนคณะคหกรรมถูกเลือกขึ้นมาด้วยกัน มันมองหน้าฉันด้วยสายตาตื่นเต้นฉันก็พยักหน้าให้มันอย่างชื่นชม ปีนี้วิศวะติดทั้งดาวและเดือนนับว่าครั้งแรกเลย

 

 

          เหอะ! ไม่เสียแรงที่ลากพวกมันไปติวถึงห้อง!!

 

 

          “ตอนนี้การประกวดก็มาถึงโค้งสุดท้ายแล้วนะคะ” เฟย์ ก่อนจะตามมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงตกตะลึงของดาวและเดือนคณะต่าง ๆรวมถึงนักศึกษาทุกคนด้วยเช่นกัน...

          “ทุกคนคงจะสงสัยสินะคะ เอาเป็นว่าเชิญน้อง ๆดาวและเดือนของคณะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ทางทีมงานจัดให้ก่อนนะคะ” เฟย์

 

          “และขอเชิญอดีตดาวและเดือนทั้งหกคนลงมาที่ด้านล่างของเวทีด้วยครับ” กอล์ฟพวกเราทั้งหกคนจึงเดินไปที่กลางเวที ฉันหันไปยิ้มขอบคุณส่งให้มาสและลูกไม้ที่ช่วยฉันจับกระโปรงคือมันยาวและน่ารำคาญมากค่ะ! -_-;

 

          “ตอนนี้น้อง ๆสงสัยเรื่องการตัดสิน พี่ๆช่วยชี้แจ้งหน่อยได้ไหมคะ?” เฟย์เอ่ย

 

          “ด้วยความยินดีครับ!” ไทเปตอบรับพร้อมรอยยิ้ม

 

          “ได้ยินว่าในช่วงเวลาเพียงแค่สองชั่วโมงที่ผ่านมามีการตัดสินกันถึงหกครั้งจริงหรือเปล่าค่ะ” เฟย์ถาม

 

          “จริงครับ” ไทเป สิ้นคำตอบเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเพราะครั้งนี้ทางอาจารย์และมหาวิทยาลัยต้องการจำลองการประกวดดาวเดือนของเครือซันซาย พวกเราทั้งหกคนและสมาชิกสโมสรนักศึกษาจึงรวบรวมความคิดและจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาแต่ก็น่ะมันก็มีบางเรื่องที่ทางสโมสรไม่บอกอย่างการเลือกน้องกับการตอบคำถามในครั้งนี้... ตอนนี้ฉันหงุดหงิดจนอยากจะฉีกชุดนี้ทิ้งอยู่แล้วเว้ย!!

 

          “ในการตัดสินแรกคือการแนะนำตัวไม่ทราบว่าใครสายตาของพี่ๆผ่านกี่คนค่ะ” เฟย์ถามขึ้นมาอีก

 

          “ไม่ถึงครึ่งค่ะ” ยี่หว่า ดาวมหาลัยปี 61 ตอบทันทีที่จบคำถาม ให้ฉันเดามันคงหงุดหงิดไม่ต่างจากฉันนักหรอก ยี่หว่าเป็นคนหุ่นดี สวยและสูง! ชุดของนางจึงค่อนข้างที่จะรัดไปเสียหน่อยเพื่อให้โชว์สัดส่วนได้อย่างชัดเจน

 

          “น้องยี่หว่าช่วยทำให้ดูเป็นตัวอย่างได้ไหมครับ” กอล์ฟเอ่ย

 

          “ได้ค่ะ” ยี่หว่าตอบรับก่อนจะส่งไมค์ให้กับ ดีโด้ เดือนมหาลัยปี 61 ที่ยืนอยู่ข้างๆ ยี่หว่ายกมือไหว้พร้อมกับย่อตัวลงไปเล็กน้อยเท่านั้นไม่ได้ย่อเยอะมากมายอย่างที่ทำกันเพราะที่นี่คือเวทีของดาวเดือนไม่ได้เวทีประกวดนางงาม!

          “สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อนางสาวหวันยี่หว่า เจริญธิวัฒน์ ศึกษาอยู่คณะ สาขา มหาวิทยาลัยออทัมค่ะ” ยี่หว่าเอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับเว้นช่วงคณะและสาขาไว้เป็นความลับเพราะจะมีการตอบคำถามในช่วงท้ายการแข่งขันให้น้อง ๆปีหนึ่งคนอื่น ๆมาร่วมสนุกด้วย

 

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดด!!”

 

          เสียงเชียร์จากคณะของนางดังขึ้น โอ้โฮ... เฉลยแล้วแฮะ 5555

 

 

          “งดงามมากค่ะ” เฟย์เอ่ย

          “แล้วการตัดสินที่สองคือการตอบคำถามค่ะ ไม่ทราบว่าใครเป็นคนคิดคำถามนี้ขึ้นมาค่ะสุดโต่งจริง ๆ” เฟย์ว่าเรียกเสียงหัวเราะจากรอบข้างได้เป็นอย่างดี

 

          “กอหญ้ากับพี่ลูกขนุนเองค่ะ” กอหญ้าตอบ

 

          “งั้นพี่ก็ไม่แปลกใจเลยค่ะ ฮ่า ๆ” เฟย์ว่า ยังจะตบลูกเล่นอีกนะหล่อน

 

          “ค่ะ สำหรับการตอบคำถามในส่วนของดาวมหาลัยที่กอหญ้าเป็นคนคิด กอหญ้าอยากจะบอกว่าผิดหวังมากค่ะ!” กอหญ้าพูดจบเสียงรอบข้างก็เงียบกริบเลยทันที

          “กอหญ้าต้องการเห็นอุปนิสัยและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของน้อง ๆที่ลงประกวดดาวมหาลัย กอหญ้าพอใจกับคำตอบของน้องที่มาจากคณะวิศวะและคณะพยาบาลเท่านั้นค่ะ!” กอหญ้า

 

 

 

 

          “โฮฮฮฮฮฮฮ!!”

 

          “โฮฮฮฮฮฮฮ!!”

 

          “กรี๊ดดดดด!!”

          เสียงโฮร้องที่มากกว่าเสียงตอบรับคำพูดของกอหญ้าดังขึ้นมา แต่มันก็จริงนะ ถ้าวาเลนไทน์ไม่ได้ไปติวเข้มกับฉันบางทีวันนี้อาจจะมีแค่ดาวคณะพยาบาลก็เป็นได้

 

          เห้อ~ เป็นวันที่น่าเบื่อจริง ๆ

 

 

 

          “ขอบคุณสำหรับคำติชมนะคะน้องกอหญ้า” เฟย์

 

          “ค่ะ ตอนกอหญ้าประกวดมีประโยคหนึ่งที่กอหญ้าจำมาจนทุกวันนี้คือ ‘ไม่ว่าจะเป็นดาวหรือเดือนเราต้องมีอะไรดีที่มากกว่าหน้าตาดีไปวันๆ’ ประโยคที่พี่สาวคนเก่งบอกกอหญ้าไว้ค่ะ กอหญ้าหวังว่าประโยคนี้จะซึมซับเข้าไปในตัวของน้อง ๆรุ่นหลังทุกคนนะคะ ขอบคุณค่ะ!” กอหญ้าเสียงปรบมือดังขึ้นมาทันทีที่นางพูดจบ ฉันหันไปมองกอหญ้าด้วยรอยยิ้มไม่เสียแรงจริง ๆที่รักเด็กคนนี้!

 

          “ต่อไปขอถามฝั่งเดือนต่อเลยแล้วกันนะครับพี่ลูกขนุน” กอล์ฟเอ่ยขึ้น

 

          “ได้ค่ะ” ฉันรับคำ

 

          “จากคำถามเหล่านี้พี่ลูกขนุนต้องการอะไรจากน้อง ๆ ครับ” อิกลอ์ฟถาม

 

          “ต้องการไหวพริบและการตัดสินใจค่ะ!” ฉันบอก

          “พี่ขออนุญาตพูดตรง ๆนะคะ ในการแข่งขันนี้ถ้าเทียบกับที่พี่ไปมามันเหมือนการแข่งขันของเด็กอนุบาลกับเด็กมหาลัยเลยค่ะ! พี่ไปยืนอยู่ในจุดที่ที่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองอะไรที่รุ่นพี่ของพี่สอนมามันไม่มีประโยชน์เลยสักนิดสำหรับการแข่งขันนี้พี่พอใจกับการตอบคำถามของน้อง ๆทุกคนค่ะ แต่ที่พี่ชอบมากที่สุดก็คือการตอบคำถามของน้อง ๆทั้งสามคนที่นั่งอยู่บนจุดสูงสุดในวันนี้ การที่คนที่พี่ถูกใจทั้งสามคนสามารถมายืนตรงนี้ได้นั้น พี่ก็ไม่รู้มาก่อนหรอกค่ะแต่เพราะพวกเขามีสิ่งพี่และทุกคนเห็นเหมือนกันเขาจึงได้มาอยู่ ณ จุดนี้... สุดท้ายนี้ดาวและเดือนทั้งหลายพวกเธอจงเป็นดวงดาวและดวงเดือนที่ส่องประกายในยามค่ำคืน จงเป็นให้มากกว่าที่ตนเองเคยเป็น พี่ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ”

 

 

 

          “กรี๊ดดดดดดด!!”

 

          “ฮิ้ววววววววว!!”

          ฉันยิ้มน้อย ๆกับเสียงตอบรับที่ได้รับก่อนจะขยับเข้าไปยืนที่เดิม

 

 

          “เป็นคำตอบที่ดีมากเลยครับสมกับเป็นเจ้าหญิงของเราจริง ๆ” อิกอล์ฟอวยฉันทันที ไอ้ฉายาเจ้าหญิงบ้าบออะไรนั้นก็ได้อินี่นี่แหละที่เป็นคนจุดประเด็น! เป็นฉายาที่ตัวฉันเองได้ยินแล้วยังรู้สึกจะอ้วกเลย- -^

 

          “ค่ะ ต่อไปที่การตัดสินที่สามกันเลยดีกว่าค่ะ” เฟย์เอ่ยขึ้น

          “การตัดสินที่สามคือการเดินในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ใช่ไหมคะ?” เฟย์ถาม

 

          “ใช่ครับ” ดีโด้เป็นคนตอบเพราะมันเป็นคนเสนอแนวคิดนี้

          “เสื้อยืดกางเกงยีนส์เป็นชุดที่จะบ่งบอกถึงกริยาท่าทางของผู้สวมใส่ได้ดีครับและที่ผมต้องการคือความมั่นใจและความกล้าจากการตัดสินนี้เท่าที่ผมดูน้อง ๆฝั่งดาวน้อยคนที่ผมจะรู้สึกว่าเขาผ่านการทดสอบนี้สำหรับคนที่จะไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเป็นเพราะอะไรครับ?” ดีโด้ถามพร้อมกับเงียบไปแต่ก็ไม่มีใครตอบรับอะไร

 

          “เพราะมัวแต่มองรูปร่างของคนอื่น! จนทำให้ความมั่นใจของตนเองหายไป แบบนี้ก็เท่ากับว่าคุณได้แพ้ไปเกินกว่าครึ่งแล้ว!” ฉันตอบขึ้นมา ดีโด้มันหันมายิ้มให้เป็นการขอบคุณ

 

          “ถูกครับ! น้อง ๆฝั่งเดือนก็.. ที่นี่มันเวทีดาวเดือนนะไม่ใช่เวทีเดินแบบ!!!” ดีโด้ตะโกนผ่านไมค์เสียงดังลั่นจนฉันต้องยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเองเหมือนอย่างคนอื่น ๆ

          “ก็ประมาณนี้ครับ! อ้อ เดือนที่ผมชอบก็มีน้องตาฟ้ากับน้องตาเขียวสองคนนั้นน่ะครับ!” ดีโด้พูดพร้อมกับชี้ไปที่มาสและลูกไม้ที่อยู่ด้านบนเวที ฉันอยากจะหลุดขำถ้ามันเห็นไอ้ไม้ตอนซ้อมกับฉันมีหวังโดนเละ แต่จะว่าไปอะไรที่ฉันคิดไว้ก็เอามาหมดเลยแฮะจะมีก็แต่ชุดราตรีนี่แหละที่ฉันนึกไม่ถึงว่าไทเปมันจะเสนอ...

 

          “แหม่ สมกับเป็นน้องดีโด้จริง ๆเลยนะครับ ต่อไปก็เป็นการตัดสินที่สี่” อิกอล์ฟเอ่ย

 

          “การตัดสินที่สี่คือการเดินในชุดราตรีครับการเดินที่ไม่ใช่เดินแบบในชุดราตรีสวยๆแต่เป็นการเดินตามหลักสากลซึ่งคู่ที่ผ่านมีทั้งหมดหกคู่นับว่าเป็นเรื่องดีครับ” ไทเป

 

          “มีน้อง ๆสงสัยว่าทำไมพี่ไทเปถึงเลือกตัดสินด้วยวิธีนี้ครับ” อิกอล์ฟถาม อินี่จงใจจี้จุดเลยนี่หว่า! ฉันเดินเข้าไปจับแขนไทเปอย่างเป็นห่วงเพราะเรื่องที่ไทเปเกือบพลาดในการแข่งขันเพราะการเดินในชุดราตรี คนที่รู้ดีที่สุดก็คือฉันคนนี้! ไทเปมันยิ้มให้ฉันก่อนจะตอบ

 

          “เพราะน้อง ๆต้องไปเจอในการแข่งขันของซันซายแน่นอนครับ มีทุกปีและทุกปีก็โดนคัดออกเยอะพอสมควรยิ่งปีนี้ให้ส่งได้มากกว่าหนึ่งคู่แสดงว่าต้องมีแน่นอนครับ” ไทเปตอบ

 

          “แล้ว...”

 

          “มาเริ่มที่การตัดสินที่ห้ากันเถอะค่ะ” ฉันแทรกขึ้นทันทีที่อิกอล์ฟทำท่าจะถามต่อก่อนจะมองมันด้วยสายตานิ่งๆ มันก็เงียบไปค่ะซึ่งก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน

 

          “งั้นมาเริ่มกันเลยก็แล้วกันนะครับ” อิกลอ์ฟกล่าว

 

          “เดี๋ยวค่ะ!” เฟย์ท้วงขึ้น

          “ทางคณะกรรมการให้เลื่อนไปที่การตัดสินที่หกก่อนค่ะเพราะว่าจะมีเซอร์ไพรส์ที่การตัดสินที่ห้า!” เฟย์เอ่ย ฉันหันไปมองมันทันขวับ มันรีบหลบตาทันที

 

 

 

          อย่าบอกนะว่าพวกมึงให้กูเต้น!! เวรเอ่ย! ในชุดบ้าๆนี่เนี่ยนะ!

          F*ck you!!! 

 

 

          ไอ้พวกอดีตดาวเดือนทั้งหลายก็หันมามองฉันนัยน์ตาเป็นประกายระยิบระยับเลยทีเดียว! เดี๋ยวแม่ก็ควักลูกตาออกมากระทืบเล่นซะหรอก กรี๊ด!!

          “การตัดสินที่หกคือฝึกความอดทนครับ พวกผมทั้งหกคนเคยไปยืนดูการแสดงร่วมสองชั่วโมงกันมาแล้วเพราะฉะนั้นการที่น้อง ๆเจอแค่ครึ่งชั่วโมงนับมาเล็กน้อยมากครับและน้อง ๆทั้งหกคนที่อยู่ด้านหลังก็คือคนที่ผ่านการทดสอบทั้งหกครั้งครับ จบแล้วครับเริ่มการตัดสินใจที่ห้าได้เลย!” ซีเนียร์ เดือนมหาลัยปี 60 เอ่ยจบ ฉันก็อ้าปากค้างทันทีมันเล่นรวบรัดตัดตอนเร็วมาก!

 

 

          อีซี!! มึงเจอกูแน่!!

 

 

          “งั้นมาเริ่มกันเลยค่ะ!” อิเฟย์ช่วยเสริมทันทีพวกมันไม่มีใครมองหน้าฉันสักคนแม้แต่อิไทเปตอนนี้ฉันยิ้ม... ยิ้มจนแทบจะฉีกถึงรูหูแล้วค่ะ!

 

          “การตัดสินที่ห้าคือการเต้นค่ะ! การเต้นที่ทำขึ้นมาเพื่อคัดน้อง ๆที่ไม่มีไหวพริบทิ้งล้วน ๆค่ะ!” กอหญ้าตอบ

 

          “ใช่ค่ะ และเพลงที่เปิดนี้ก็เป็นเพลงที่คณะกรรมการของซันซายใช้ในปี 59 ด้วยค่ะ” ยี่หว่าเสริมต่อ

 

 

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

          เสียงกรี๊ดจากรอบข้างซึ่งมาจากนักศึกษาปีสองจนถึงปีสี่ดังต่อเนื่องไม่ยอมหยุดพร้อมกับเส้นเอ็นของฉันที่มันกระตุกตุบๆอยู่ในหัว!

 

 

          “อยากเห็นแล้วใช่ไหมคะ?” อิเฟย์ถามเสียงร่า แน่จริงมึงหันมามองหน้ากูเซ่!! หันมามอง!!!!

 

          “อยากกกกกกกกกก!!”

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

          ขยันกรี๊ดจริง! ชาติที่แล้วเกิดเป็นนกหวีดกันหรอฮ่ะ! โอ๊ย!! ลูกขนุนหงุดหงิดโว๊ยยยยยยย!

 

          “ถ้าอย่างงั้นขอเชิญพบกับพี่ลูกขนุนดาวมหาลัยปี59 เลยค่ะ” เฟย์ประกาศลั่น

 

 

 

          กรี๊ดดดดดดดดด!! ฝากไว้ก่อนเถอะพวกมึง!

 

 

 

 

 

 

 

          !!!

          ผมนิ่งไปทันทีที่พิธีกรประกาศชื่อคนที่คนจะออกมาเต้นโชว์ทุกคน

          “ชิบหายแล้ว! เจ๊อาละวาดแน่เลย” ผมมองลูกไม้น้องชายของยัยตัวเล็กตรงหน้าที่นั่งสบถกับตัวเองไม่หยุดหย่อนผมมองแผ่นหลังเล็กที่สั่นระริกของยัยตัวเล็กก็พอเข้าใจในความรู้สึกของมันล่ะนะ

 

 

 

          เสียงเพลงบีตหนักๆดังขึ้นมาแค่เห็นชุดของยัยตัวเล็กแล้วก็ไม่มีทางที่จะเต้นได้เข้ากับจังหวะเพลงแน่นอน

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          เสียงกรี๊ดยังคงดังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อนพร้อมกับร่างเล็กในชุดราตรีแสนสวยที่ค่อยๆขยับร่างกายไปตามเสียงเพลงและก็เป็นอีกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้กำลังร่ายเวทมนตร์...

 

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          ร่างเล็กขยับร่างกายไปเสียงเพลงได้อย่างลงตัวทุกท่วงท่าล้วนสะกดใจคนดูให้หยุดหายใจแม้จะอยู่ในชุดราตรีที่แสนจะรุงรังแต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งคนตรงหน้าได้เลยแม้แต่น้อย

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          “Come on Baby!” เสียงหวานทรงเสน่ห์ดังขึ้นพร้อมกับมือเล็กที่เชิญชวนให้ผู้คนลุกขึ้นมาร่ายรำ

 

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          “กรี๊ดดดดดดดดดด!!”

 

          เสียงกรี๊ดดังคับบริเวณพร้อมกับคนดูที่ลุกขึ้นมาเต้นกันอย่างห้ามใจไม่อยู่แม้แต่คนบนเวทีเองก็เช่นกัน...

 

 

 

          “อย่าลุก!” ลูกไม้ร้องห้ามพวกที่นั่งอยู่ด้านบนด้วยกันบางคนที่ทำท่าจะลุกขึ้นมาเต้น พวกมันมองลูกไม้ด้วยความสงสัย

 

          “เขากำลังทดสอบเราอยู่” พอผมพูดจบ พวกมันก็กลับมานั่งนิ่งทันที บทเพลงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆพร้อมกับร่างเล็กที่ร่ายรำไม่หยุดหย่อนไม่นานเสียงเพลงก็จบลงพร้อมกับคนตัวเล็กที่หยุดเต้น

 

          “วริประภา รสรินทร์ มุขพลและรณพีร์... พวกเธอได้ไปต่อ!” เสียงหวานดังขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้พวกผม หึ! กำลังทดสอบกันอยู่จริง ๆสินะ!

          “ขอต้อนรับเข้าสู่การตัดสินของจริงและขอให้โชคดี!” ยัยตัวเล็กพูดจบก็ส่งยิ้มมาให้ก่อนที่อดีตดาวและเดือนจะเดินลงไปจากเวทีทันทีทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทุกคนตกอยู่ในอาการมึนงงอีกครั้ง

 

          “ก็ตามนั้นแล้วนะครับต่อไปก็ขอเชิญน้อง ๆทุกคนลงจากเวทียกเว้นสี่คนที่พี่ลูกขนุนเอ่ยชื่อครับ” พี่กอล์ฟเอ่ยบอกก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่การแข่งขันต่อไป... ราวกับว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยคนพวกนี้... น่าปวดหัวจริง ๆ!

 

 

          การประกวดดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากขึ้นถึงแม้จะเหลืออยู่แค่ฝั่งละสองเท่านั้น!

 

          ไม่นานการประกวดดาวและเดือนของมหาลัยก็จบลงและผมก็เป็นผู้ชนะส่วนดาวมหาลัยก็คือวาเลนไทน์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ส่วนลูกไม้ได้คะแนนป็อปปูล่าไม่ครอบเพราะผมได้ครองตำแหน่งเดือนมหาลัยแล้วจึงไม่มีสิทธิ์ได้ครอบตำแหน่งป็อปปูล่า!!

 

 

 

          “มาสจบนี่แล้วไปฉลองกันนะ” พี่ฟ้า รุ่นพี่ที่คณะวิ่งเข้ามาหาผมที่เดินออกมาจากหลังเวทีพอดี

 

          “มีเหล้าไหม?” ผมถาม

 

          “แหม่ มีสิจ้ะ มาให้ได้น่ะ” พี่ฟ้าบอกก่อนจะเดินไปจัดการเพื่อนๆปีหนึ่งคนอื่น ๆ เพื่อนสนิทของผมตั้งแต่สมัยม. ปลายเดินตรงเข้ามาหา

 

          “เอาจนได้นะมึง” ไอ้ ดรีมพูดขึ้นมาพร้อมกับรับกระเป๋าสะพานผมไปถือ

 

          “พี่คนที่ชื่อลูกขนุนมือนิ่มเปล่าวะ ทั้งสวยทั้งเด็ดกูโคตรชอบเลย!” ไอ้ ต้นน้ำ พูดพร้อมทำหน้าเพ้อฝันเสียเต็มประดาจนผมแทบอยากจะถีบมันให้ตกบ่อหน้าข้างหน้านี่จริง ๆ ถ้าไม่เสียดายกล้องที่มันคล้องคออยู่

 

          “พี่เขามีเจ้าของแล้วมึงไม่เห็นรอยที่คอวันนั้นรึไง” ไอ้ทอมหรือโทมัสเพื่อนสนิทของผมตั้งแต่เด็กพูดขึ้น ผมกับมันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาลนิสัยใจคอจึงรู้กันดีและเพราะเลวๆพอกันถึงคบกันได้มาจนทุกวันนี้

 

          “ยัยนั่นน่ะของกูอย่ายุ่ง!” พูดจบผมก็เดินนำไปทันที สงสัยต้องทำอะไรสักหน่อยแล้วล่ะไม่อย่างงั้นพวกแมงหวี่แมงวันได้ตอมไม่เลิกลาเป็นแน่!

 

 

 

 

 

 

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

จบไปอีกตอนแล้ววววววว แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้นะคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

ชอบนิยายของขนมไหมคะ ฝากติดตามด้วยนะคะ

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา